ตอนนี้มีข่าวลือว่า BEA Systems เจ้าของผลิตภัณฑ์ WebLogic อาจจะถูกซื้อกิจการโดยออราเคิลไม่ก็ HP

ผลประกอบการในช่วงหลังของ BEA ไม่ดีนัก คือไม่ขยายตัวมาก แต่บริษัทก็ยังมีพื้นฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีการจัดการภายในที่ดี และตัว WebLogic เองก็มีส่วนแบ่งตลาดที่มีนัยยะสำคัญ จึงกลายเป็นที่หมายปองของคู่แข่งในตลาดที่ใกล้เคียงกันอย่างออราเคิลมานาน

ส่วนข่าวอีกสายบอกว่า HP ต่างหากจะเป็นคนซื้อ เหตุผลก็เพราะลูกค้า 70% ของ BEA นั้นรันอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของ HP ถ้า HP ซื้อ BEA ไปก็จะเป็นการเสริมอาวุธของตัวเองให้ครบวงจรมากขึ้น โดยนักวิเคราะห์คาดกันว่าราคาของ BEA น่าจะอยู่ที่ประมาณ 15 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ยักษ์ใหญ่ด้านเอ็นเตอร์ไพรส์ แอพพลิเคชั่นอย่างออราเคิล (Oracle) ถึงคราวต้องเล่นหมัดหนักกับบริษัทคู่แข่งสัญชาติเยอรมันอย่างเอสเอพี (SAP) จริงๆ เสียที เมื่อบริษัทลูกข่ายของตนชื่อทูมอร์โรวนาว (TomorrowNow) ขโมยดาวน์โหลดโปรแกรมในออราเคิลเกินกว่าสิทธิ์ที่ได้รับเมื่อหลายปีที่ผ่านมา โดยดคีนี้เกี่ยวพันธ์กับการละเมิดสิทธิทรัพย์สินทางปัญญา (intellectual property rights) และสิทธิ์ในทรัพย์สินเชิงสัญญา (contractual property rights) ระหว่างออราเคิลและเอสเอพี

Oracle ฟ้องคู่แข่งตัวเอ้อย่าง SAP ด้วยข้อหาขโมยข้อมูลครั้งใหญ่ (corporate theft on a grand scale) โดยอ้างว่า SAP ได้ขโมยเอกสารสำคัญไปเป็นพันชิ้น รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีลิขสิทธิ์อยู่จากเว็บของ Oracle โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เข้าไปในเซอร์เวอร์ของ SAP เอง โดยที่ส่วนที่เก็บข้อมูลมานี้ สามารถทำให้ลดการบริการหลังการขายของลูกค้า Oracle ลง และชักนำลูกค้าไปใช้ SAP แทนได้

ซึ่งจุดประสงค์ในการฟ้องครั้งนี้ คือการให้ SAP หยุดขโมย และป้องกัน SAP ใช้ข้อมูลที่ขโมยมาแข่งกับ Oracle และเรียกร้องค่าเสียหายในการฟื้นฟูความเสียหายและค่าใช้จ่ายด้านทนายด้วย ซึ่งค่าความเสียหายนี้ ยังไม่เป็นที่เปิดเผยแก่สื่อมวลชน

ข่าวดีจากงาน EclipseCon อีกแล้ว คราวนี้ออราเคิลประกาศโอเพนซอร์ส TopLink ORM ให้ Eclipse เป็นผู้ดูแลแบบยกกระบิแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น EclipseLink ส่วน TopLink จะเหลือเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ออราเคิลไว้อินทริเกรตใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ในเครือของตัวเอง

ซึ่งเป็น CEO ของ MySQL AB. ออกมาให้ข่าวว่า บริษัทออราเคิล มีแผนที่จะขายการสนับสนุนระบบฐานข้อมูล MySQL เหมือนกับที่ทำกับ Redhat Linux (ข่าวเก่า) ซึ่ง Marten เองก็ให้ความเห็นว่า "ผมหวังว่าเขาจะทำจริงๆ" ถึงแม้ว่าถ้าออราเคิลออก "Unbreakable MySQL" ออกมาจริง ๆ ก็จะกลายเป็นคู่แข่งของ MySQL AB ซึ่งเน้นรายได้หลักจากการขายการสนับสนุนเหมือนกัน

ข่าวจาก /.

ในงาน BTD2.0 คุณดอนแห่ง Bangkok Post ที่เพิ่งกลับมาจากงาน Oracle World เช้าวันนั้นได้เล่าให้เราฟังว่าหุ้นของ Red Hat ตกไป 10% ทันทีตอน Larry Ellison (ประธาน Oracle) พูดเรื่องการซัพพอร์ต RHEL โดย Oracle เอง (ข่าวเก่า)

แต่จริงๆ แล้วหุ้นตกเลยไปถึง 24%

ตอนนี้ Red Hat ก็ได้แต่แถลงการณ์แก้เกี้ยวไปก่อน Matthew Szulik ซีอีโอให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าจะไม่ลดราคาสู้ Oracle ที่ถูกกว่าครึ่งหนึ่งอย่างแน่นอน และบริษัทยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Oracle และยังต้องการให้ RHEL ทำงานกับ Oracle ได้ดีเหมือนที่เป็นมา

Szulik ยังบอกว่าพนักงานกว่า 2,000 คนของ Red Hat ได้เตรียมตัวกับการเข้ามาของคู่แข่งใหม่ๆ อย่างนี้อยู่แล้ว

อาจจะเป็นการประกาศสงครามกันอีกครั้ง เมื่อออราเคิลเปิดตัวโครงการ Unbreakable Linux โดยเตรียมการให้การซัพพอร์ตกับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) แทนเรดแฮท หรืออาจจะพูดอีกอย่างว่า ออราเคิลเอา RHEL มาขายเอง

ออราเคิลระบุว่าโครงการนี้มีผลดีต่อลูกค้า เนื่องจากทางเรดแฮทนั้นให้การซัพพอร์ตเพียงเวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น ทำให้กลายเป็นการบีบลูกค้าให้ต้องอัพเกรดโดยไม่จำเป็น ทางออราเคิลจึงให้การซัพพอร์ตโดยรับประกันว่าการซัพพอร์ตนั้นจะต่อเนื่องกว่าทางเรดแฮท โดยทั้งนั้นผู้ใช้ Unbreakable Linux นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของเรดแฮทแต่อย่างใด

ออราเคิลระบุว่าซอร์สที่ทางออราเคิลใช้นั้นจะได้รับอัพเดตตามซอร์สของเรดแฮทเป็นระยะ พร้อมกับการเพิ่มโค้ดของทางออราเคิลเอง

จากการจุดประเด็นของ Oracle เมื่อคราวก่อนเลยทำให้ SAP ต้องออกมาตอบโต้บ้าง แต่ก็นับว่าเป็นการตอบโต้ที่ค่อนข้างเชือดนิ่มเอามากๆ จากข่าวเก่าจะเห็นว่า Oracle เน้นโจมตีด้าน proprietary อย่างชัดเจนเพราะดันมีภาษา ABAP ใช้เองส่วนตัว ในขณะที่ Oracle เน้น PL/SQL กับ Java ที่ดูจะดีเพราะหนังสือเยอะ เพื่อเป็นการยืนยันว่า SAP ยุคใหม่ไม่ proprietary อีกแล้ว SAP เลยทำ J2EE ของตัวเองขึ้นมา และที่น่าทึ่งก็คือมันผ่านการทดสอบจาก Sun เรียบร้อยแล้ว สรุปว่าตรงตาม Java EE 5 ทุกประการ ส่วนที่เชือดนิ่มก็เพราะ Oracle ยังไม่ได้รับการรับรองที่ว่านี้ ซึ่งมองในแง่ดี Oracle า

ออราเคิลได้ปล่อยเครื่องมือพัฒนาสำหรับชาว .NET ออกมาใหม่ 2 ตัวครับ ประกอบด้วย

1. Oracle Developer Tools for Visual Studio .NET ซึ่งก็คือปลั๊กอินที่ให้เขียนและดีบัก PL/SQL , ฟังชั่นต่างๆ ของ Oracle 10g และ deploy ได้บน Visual Studio .NET 2005 เลย
2. Oracle Data Provider for .NET ซึ่งก็คือ Driver สำหรับเชื่อมต่อ Oracle 10g กับ ADO.NET 2.0 นี่เอง

แม้ว่าออราเคิลจะหากินกับ Java มายาวนาน แต่ด้วยจำนวนนักพัฒนา .NET ที่มากขึ้น ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรดีกว่าเปิดรับทั้ง 2 ฝ่าย ให้ใช้ Oracle 10g กันเยอะๆ ครับ

ออราเคิลประกาศเปลี่ยนชื่อ JSF Component ของตนจาก "ADF" เป็น "Trinidad" โดยให้เหตุผลในการเปลี่ยนคือ

จากข่าวเก่าที่ Larry Ellison ออกมาพูดว่า Oracle ต้องการจะมีลินุกซ์เป็นของตัวเอง และเป้าหมายคือ Novell/SuSE นั้น

นักวิเคราะห์จาก SearchOpenSource.com ออกมาแสดงความเห็นว่าถ้าซื้อเฉพาะ SuSE ก็ดูสมเหตุสมผล แต่อย่างอื่นนอกจาก SuSE อย่างเช่น NetWare ล่ะ จะเอามาทำไม? ถ้า Oracle ต้องการเฉพาะระบบปฏิบัติการ ซื้อ Ubuntu น่าจะคุ้มกว่าเยอะ

ปัญหาคือ Shuttleworth จะยอมขายงั้นหรือ?

ส่วนนักวิเคราะห์คนอื่นๆ ยังมองว่าซื้อ Novell น่าจะคุ้มกว่า ดีไม่ดีอาจจะซื้อ Red Hat ไปเลย

ผลสืบเนื่องจากการเข้าซื้อ JBoss ของทางเรดแฮตอาจจะทำให้ สงครามระหว่างโลกโอเพนซอร์สกับออราเคิลบานปลายจนกลายเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อทางออราเคิลประกาศออกมาแน่ชัดว่า บริษัทมีแผนที่จะสร้างระบบปฏิบัติการของตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ซื้อจากบริษัทที่มีอยู่ในท้องตลาด แถมไม่แค่นั้น Larry Ellison ยังระบุด้วยว่าตัวเขามอง Novell ซึ่งเป็นหมายเลขสองของตลาดเอาไว้แล้ว

Oracle ซื้ออีกแล้วครับ คราวนี้เป็นบริษัท Portal Software เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านทำระบบการเงิน, การชำระหนี้ สำหรับธุรกิจด้านการสื่อสารและด้านการบันเทิง

เหมือน Oracle จะรุก SAP เข้าไปทุกที...

ที่มา - Oracle

ช่วงหลังจะเห็นว่า Oracle หนุนลินุกซ์เยอะมาก ทั้งสนับสนุนให้ลินุกซ์เป็นแพลทฟอร์มหลัก และลงทุนในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเคอร์เนลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตอนนี้เริ่มออกผลแล้ว

ผลการสำรวจฐานข้อมูลขนาดใหญ่ติดอันดับโลกของบริษัท WinterCorp ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านฐานข้อมูล ผลปรากฎว่า Oracle เป็นแชมป์ และการสำรวจของการ์ตเนอร์ ผู้ถูกสำรวจกว่า 60% มีแผนจะย้ายไปใช้ลินุกซ์

ผู้จัดการฝ่ายสารสนเทศคนหนึ่งบอกว่าปัจจัยหลักคือเรื่องค่าใช้จ่าย 4 ปีก่อน เค้าเคยใช้เครื่องของซันราคา 218,000 เหรียญ แต่ตอนนี้สามารถใช้เครื่อง HP ที่เป็นลินุกซ์ในราคาแค่ 55,000 เหรียญ

ออราเคิลเริ่มเข้่าสู่ตลาดเสิร์ชด้วยการส่ง Oracle Secure Enterprise Search 10g เข้าสู่ตลาด โดยโปรแกรมนี้จะมีความสามารถในการค้นหาเอกสารหลายรูปแบบตั้งแต่อีเมล เอกสาร ไปจนถึงข้อมูลในฐานข้อมูลซึ่งเป็นจุดแข็งของออราเคิลอยู่แล้ว

โปรแกรมของออราเคิลจะมีฟีเจอร์ในการตรวจสอบสิทธิการเข้าถึงในทุกๆ ข้อมูลที่รวบรวมไว้ในโปรแกรม ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิในการเข้าถึงไม่สามารถเสิร์ชไปยังข้อมูลนั้นได้

กูเกิลเพิ่งร่วมมือกับบริษัท BearingPoint เพื่อเตรียมให้บริการที่คล้ายๆ กันในเดืิอนที่แล้ว ในตอนนี้จึงเหมือนว่าทั้งสองบริษัทกำลังจะเป็นคู่แข่งกันเต็มตัวไปแล้ว

ช่วงนี้ออราเคิลช็อปแหลก ถัดจาก SleepyCat บริษัทล่าสุดที่เป็นข่าวด้วยก็คือ JBoss Inc. ที่น่าสนใจที่สุดคือมูลค่าการดีลครั้งนี้อาจพุ่งไปถึง 400 ล้านเหรียญ (หมื่นหกพันล้านบาท)

การซื้อกิจการบริษัทโอเพนซอร์สที่แพงที่สุดในปัจจุบัน คือ Novell ซื้อ SuSE ราคา 210 ล้านเหรียญ ดังนั้นถ้าตัวเลข 400 ล้านเหรียญเป็นจริง ก็ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับ JBoss ที่เป็นบริษัทจับเฉพาะกลุ่ม Enterprise และไม่ค่อยมีชื่อเสียงในกลุ่มคนทั่วไปมากนัก

หลังจากรวมตัวกับ PeopleSoft และ Siebel ไปออราเคิลก็เดินหน้านโยบาย "ฆ่าไม่ตายก็ซื้อมาเป็นของเรา" เต็มรูปแบบ โดยการซื้อ InnoBase ผู้สร้าง InnoDB ไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดก็ประกาศซื้อ SleepyCat ผู้สร้างตัวจัดเก็บฐานข้อมูลอีกตัวในชื่อ BerkleyDB ด้วยมูลค่าที่คาดกันว่ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ซึ่งเดากันได้ไม่ยากว่านี่เป็นการบีบ MySQL ให้ยอมขายเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของออราเคิล ซ้ำ Marten Mickos ประธานกรรมการของ MySQL ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการซื้อนี้ไม่มีผลกระทบต่อ MySQL แต่อย่างใด

ประเด็นปัญหาสำคัญของซีพียูดูอัลคอร์คือราคาซอฟต์แวร์ที่มักคิดราคาตามซีพียู โดยแม้จะมีการเรียกร้องให้คิดราคาตามจำนวนซีพียูจริงมากกว่าจำนวนคอร์ข้างใน แต่การทำจริงก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะจำนวนคอร์ในซีพียูนั้นดูจะวิ่งสวนทางกับจำนวนซีพียูในเครื่องอย่างรวดเร็ว

JSF เป็นเว็บเฟรมเวิรก์สเปก สำหรับออกแบบเว็บยูเซอร์อินเตอร์เฟซสำหรับ J2EE ที่มีลักษณะจุดเด่นคือเป็น component-based เฟรมเวิร์ก คล้ายกับที่ ASP.Net เป็น ส่วนค่ายต่างๆ ที่เอาสเปกนี้ไปสร้างก็มีของ Sun เอง Oracle และค่ายโอเพ่นซอร์ส Apache MyFaces

ข่าว 64 บิตยังไม่จบครับ

แถลงการณ์ระหว่างซันกับออราเคิลได้ประกาศว่า ออราเคิลเลือก Solaris 10 เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ทุกอย่างของออราเคิลบนฮาร์ดแวร์แบบ 64 บิต (นี่หมายถึง x86-64 และ UltraSPARC แบบ 64 บิต) และต่อจากนี้ไปทุกโปรแกรมของออราเคิลจะออกเวอร์ชัน Solaris พร้อมกันกับที่ออกบนแพลตฟอร์มอื่นๆ (เช่น วินโดวส์และลนุกซ์)

นี่ไม่ได้แปลว่าออราเคิลจะทิ้งลินุกซ์ไปซบ Solaris แต่คิดว่าผลประโยชน์ต่างตอบแทนจากการเจรจา ทำให้ออราเคิลแนะนำ Solaris ให้ลูกค้ามากกว่าลินุกซ์ ช่วงหลังมานี้ซันเริ่มทำอะไรเข้าตาบ้างแล้ว

หลังจากปล่อยตลาดล่างให้กับไมโครซอฟท์และ MySQL มานาน ออราเคิลก็ขอขยายฐานผู้ใช้กับเค้าบ้างด้วยการออก Oracle 10g Express Edition ที่เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้ักันฟรีๆ

ออราเคิลระบุว่ากลุ่มเป้าหมายของฐานข้อมูลฟรีนี้จะอยู่ในกลุ่มของนักเรียนนักศึกษา กลุ่มผู้พัฒนาซอฟท์แวร์โอเพนต์ซอร์สเป็นหลัก หลังจากลองหาทั่วๆ เว็บแล้วยังไม่เจอว่าสามารถนำไปใช้เพื่อการค้าได้หรือไม่ แต่ฐานข้อมูลตัวนี้ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น

กระแส OpenSource ยังแรงไม่เลิก เมื่อออราเคิลประกาศให้การสนับสนุนในการพัฒนาซอฟท์แวร์ เพื่อเชื่อมต่อระหว่าง ออราเคิลและ PHP งานนี้ประกาศออกมาเป็นทางการแล้วว่าไลบราลีที่พัฒนาขึ้นนี้จะแจกฟรี แต่แน่นอนว่าตัวดาต้าเบสของออราเคิลนั้น ไม่ฟรี!!!

บริษัทต่างๆ เริ่มมีการดึงนักพัฒนาโอเพ่นซอร์สเข้ามาเป็นแนวร่วมมากขึ้นเช่น ไอบีเอ็ม อินเทล หรือ SAP ที่มีการพัฒนาเพื่อให้ระบบของตนเข้ากันได้กับ PHP หรือแม้กระทั่งไมโครซอฟท์ก็มีแผนจะรองรับภาษา Python

แต่ตอนนี้ภาษาอย่าง C# หรือ Java ก็ยังคงความนิยมอยู่... น้องๆ ที่เรียนอยู่อ่านๆ ไว้บ้างนะครับ

รายงานสัมภาษย์ครั้งล่าสุดจากออราเคิลโดย AME Info มีการถามถึงการซัพพอร์ตลินุกซ์ของออราเคิล งานนี้ออราเคิลยืนยันครับ ว่าจะซัพพอร์ตลินุกซ์แน่นอน

ที่จริงแล้วบทความนี้เป็นเหมือนบทความโฆษณาออราเคิลไปในตัว เพราะตัวบทความเองก็ได้รับการสนับสนุนจากออราเคิล แต่ที่น่าสนใจคือคำถามสุดท้ายครับ เพราะคำถามนั้นคือ ออราเคิลใช้ลินุกซ์ในธุรกิจของออราเคิลเองหรือไม่

ออราเคิลตอบคำถามนี้โดยระบุว่าจากการวิเคราะห์แล้ว ลินุกซ์มีราคาถูกกว่าและให้ประสิทธิภาพต่อราคาดีกว่า

คำตอบนี้เป็นเหมือนหมัดสวนเล็กๆ ที่ออกมาต้านโฆษณาชุด Get the fact ของไมโครซอฟท์ ที่บ่นเช้าเย็นครับว่าลินุกซ์นั้นแพงกว่า

หลังจากพยายามซื้อกิจการ Peoplesoft มานานจนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล สิ่งแรกที่ Oracle ทำคือปลดพนักงานบางส่วนของ Peoplesoft ทิ้ง!

ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติครับ เพราะว่าการควบกิจการทำให้มีพนักงานที่ทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันอยู่แล้ว Oracle ปลดไปประมาณ 5 พันคน ซึ่งคิดเป็น 9% ของบริษัทใหม่ที่รวมกันแล้ว Larry Ellision ซีอีโอของ Oracle ได้บอกว่าจะไม่มีปัญหาต่อการสนับสนุนลูกค้าของ Peoplesoft แต่อย่างใด เป้าหมายของ Oracle คือโปรแกรมด้าน ERP ของ Peoplesoft ที่จะแข่งกับผู้นำตลาดอย่าง SAP นั่นเอง