หลังจาก Larry Ellison ซีอีโอของออราเคิลประกาศว่า เขาอยากซื้อบริษัทเพิ่ม โดยเฉพาะบริษัทที่ทำด้านไมโครชิป ก็เกิดกระแสขึ้นทันทีว่าบริษัทนั้นคือ AMD

Dirk Meyer ซีอีโอของ AMD ออกมาแก้ข่าวทันทีว่า "บริษัทเราไม่ได้มีไว้ขาย" (ประโยคคลาสสิก) แต่ก็ไม่วายทิ้งทวนว่ายินดีรับทุกข้อเสนอ ถ้าหากมันเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น

ในงานเดียวกันเขายังให้ความเห็นว่า "ARM ไม่ใช่คู่แข่ง" หลังโดนถามเรื่อง x86 vs ARM

ที่มา - Reuters

เกือบหนึ่งเดือนหลัง ออราเคิลฟ้องกูเกิลฐานละเมิดสิทธิบัตรจาวาจำนวน 7 ชิ้น กูเกิลก็ได้ยื่นเอกสารตอบโต้ข้อกล่าวหาของออราเคิลแล้ว

ในส่วนของสิทธิบัตรนั้นกูเกิลโต้ตามมาตรฐาน คือ Android ไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรใดๆ ของจาวา เรื่องก็จบแค่นี้ ไปว่ากันในกระบวนการพิจารณาคดีต่อไป

แต่ที่เพิ่มจากสิทธิบัตรคือกูเกิลได้ตอบโต้ออราเคิลเรื่องความเป็นโอเพนซอร์ส กับความ "เปิด" ของจาวาอีกยาว ซึ่งจะกลายเป็นสงครามระหว่างทั้งสองบริษัท และรอยแยกในวงการจาวาแน่นอน

ทาง Engadget สรุปไว้ค่อนข้างดีครับ ผมสรุปจาก Engadget อีกที

หลังจาก Leo Apotheker อดีตซีอีโอ SAP มาเป็นซีอีโอคนใหม่ของ HP ปรากฎว่าหุ้นของ HP ตกลงทันที 4% เพราะนักลงทุนคาดหวังซีอีโอที่ชื่อดังกว่า Apotheker ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งซีอีโอของ SAP เพียงแค่ 7 เดือน และไม่ประสบความสำเร็จจนต้องลาออกจากบริษัทเมื่อปีก่อน

ส่วน Larry Ellison ซีอีโอของ Oracle ให้ความเห็นกับนักข่าวว่า "พูดไม่ออก" (speechless) และบอกว่า HP มีคนในเก่งๆ มากมาย แต่กลับเลือกคนที่โดน SAP ให้ออกมาเป็นซีอีโอ ส่วนโฆษกของ HP ตอบโต้ Ellison ว่าให้สัมภาษณ์แบบนี้ไม่ให้เกียรติกัน

Apotheker ยังมีงานอีกมากเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า เหมาะสำหรับซีอีโอของบริษัทไอทีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

และแล้วก็มีวันนี้จนได้

หลังจากที่โครงการพี่น้องอย่าง OpenSolaris ประกาศแยกตัวออกจากออราเคิล และไปตั้งโครงการใหม่ (fork) ในชื่อ Illuminos ก็ถึงคราว OpenOffice.org ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอีกตัวของซัน

ชุมชนนักพัฒนา OpenOffice ได้ประกาศตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไร Document Foundation ขึ้นมาแทนการกำกับดูแลโดยซัน/ออราเคิล และนำซอร์สโค้ดของ OpenOffice เดิมมาออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อ LibreOffice

ที่งาน Java One ครั้งแรกของออราเคิล ทางคุณ Thomas Kurian รองประธานอาวุโสของบริษัทได้ขึ้นเวทีประกาศทิศทางของจาวาดังนี้

James Gosling บิดาแห่งจาวา ผู้ซึ่งลาออกจาก Oracle เมื่อเดือนเมษายน ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวในงาน JavaOne ครั้งแรกของ Oracle ถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจลาออกว่ามีหลายประการรวมกัน

ผมพยายามคิดหาคำนิยามของ Exalogic อยู่นานมาก มาสรุปแบบสั้นๆ ได้ว่า Exalogic คือ "ทุกสิ่งทุกอย่างที่ Oracle ซื้อมาในรอบหลายปีหลัง ยัดลงในตู้เหล็กหนึ่งตู้"

จากที่ Mark Hurd อดีตซีอีโอของ HP ย้ายไปอยู่กับ Oracle จน HP ยื่นฟ้องข้อหาอาจทำความลับรั่ว ทำให้ Oracle ออกมาโต้กลับว่าถ้าฟ้องแบบนี้คงทำงานร่วมกันไม่ได้

ล่าสุดสองบริษัทเจรจากันเรียบร้อยแล้ว โดย Mark Hurd จะยอมเสียสิทธิ์ในหุ้น HP บางส่วน และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการรักษาความลับของ HP อย่างเคร่งครัด แลกกับการที่จะได้ทำงานกับ Oracle ตามต้องการ

นักวิเคราะห์มองว่าการยุติคดีครั้งนี้ไม่มีผลกระทบต่อ HP เพราะปัจจัยสำคัญคือซีอีโอคนใหม่จะเป็นใครต่างหาก

สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก Mark Hurd เข้าทำงานกับ Oracle และ HP ยื่นฟ้อง Mark Hurd เพื่อห้ามไม่ให้เข้าทำงาน Oracle ทาง Oracle ได้ออกแถลงการณ์โต้ HP แล้ว

แถลงการณ์ของ Oracle ชิ้นนี้อ้างคำพูดสั้นๆ ของ Larry Ellison แต่ยิงเข้าประเด็น

Oracle มองว่า HP เป็นคู่ค้าที่สำคัญมานาน แต่การยื่นฟ้อง Oracle และ Mark Hurd เพื่อ "แก้แค้น" (vindictive) แบบนี้ ทางบอร์ดของ HP กำลังแสดงอาการไม่เคารพความเป็นคู่ค้าของทั้งสองฝ่าย และบอร์ดของ HP กำลังทำให้บริษัทไม่สามารถร่วมงานกับ Oracle ได้อีกต่อไป

เพียงแค่วันเดียวหลัง Mark Hurd มีข่าวว่าจะเข้าทำงานออราเคิล เอชพีก็รีบออกมาหยุดการเข้าทำงานนี้ทันที โดยระบุว่าหน้าที่ที่ Hurd กำลังเข้าทำงานนั้นไม่มีทางหลีกเลี่ยงการเปิดเผยความลับทางการค้าของเอชพีได้

ข้อมูลสำคัญคือแผนการดำเนินธุรกิจประจำปีของเอชพีที่ Hurd ได้รับไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และมีการลงนามในสัญญาห้ามเปิดเผยความลับทางการค้ากันทุกปีตั้งแต่ปี 2008 ถึง 2010 โดยสัญญาระบุให้ Hurd ต้องรายงานเอชพีว่าจะไปทำงานที่ใดหากสถานที่เข้าทำงานนั้นเป็นคู่แข่งของเอชพี และต้องรายงานด้วยว่างานที่ทำนั้นมีแนวโน้มจะต้องเปิดเผยความลับของเอชพีหรือไม่

ในมุมเทคโนโลยีนั้น หลายคนบอกว่าจาวาได้ตายไปแล้ว โดยถ้าหากเราลองมาดูในโลกของเว็บ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Wikipedia, Twitter ล้วนไม่ได้สร้างมาจากจาวา การที่ Oracle เข้ามาซื้อกิจการของ Sun กลับยิ่งทำให้แสงสว่างในโลกจาวาดับวูบลงไปอีก

แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีใหม่ๆ หลายโครงการในปัจจุบัน ยังคงใช้จาวาเป็นหลักอยู่

ช็อควงการอีกครั้ง เมื่อ Mark Hurd อดีตซีอีโอของ HP ที่เพิ่งออกจากตำแหน่งสดๆ ร้อนๆ (ข่าวเก่า) ได้เข้าร่วมงานกับ Oracle ในตำแหน่งประธานบริษัทร่วม (co-president)

Oracle นั้นใช้โครงสร้างบริหารแบบสามเส้า คือ Larry Ellison ผู้ก่อตั้งบริษัทอยู่ในตำแหน่งซีอีโอ แต่เอาเข้าจริงแทบไม่ได้ทำงานประจำแล้ว ส่วนผู้บริหารตัวจริงคือประธานร่วม Charles E. Phillips Jr. และ Safra A. Catz ที่อยู่ภายใต้ Ellison

สำหรับงานนี้ Charles E. Phillips ได้ขอลาออกเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยตำแหน่งของเขาจะถูกแทนด้วย Mark Hurd นั่นเอง คาดว่า Mark Hurd อาจได้ใช้ประสบการณ์การบริหารบริษัทฮาร์ดแวร์อย่าง HP นำมาฟื้นฟูฝ่ายฮาร์ดแวร์ของ Sun ให้กลับมาได้

ต่อจากข่าว OpenSolaris ถึงทางแพร่ง, ถ้า Oracle ไม่เข้ามาร่วมวงก็ต้องเลิกโครงการ และ ลาก่อน OpenSolaris

หลังจาก Oracle ตัดสินใจเลิกพัฒนา OpenSolaris ทางคณะกรรมการของโครงการ OpenSolaris (OpenSolaris Governing Board) ได้ประชุมกันและลงมติเอกฉันท์ในการลาออกยกคณะ (อ่านคำประกาศได้ในบล็อกของ Simon Phipps อดีตหัวหน้าฝ่ายโอเพนซอร์สของซัน)

Joshua Bloch พนักงานของกูเกิลประกาศลงในบล็อก Google Code ว่ากูเกิลจะไม่เข้าร่วมงานสัมมนาใหญ่ประจำปี JavaOne 2010 เหตุเพราะ ออราเคิลฟ้องกูเกิลฐานละเมิดสิทธิบัตร Java

กูเกิลนั้นเข้าร่วม JavaOne มาตั้งแต่ปี 2004 ส่วน Joshua บอกว่าเขาขึ้นพูดบนเวที JavaOne ทุกปีนับตั้งแต่ปี 1997 ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่ากูเกิลจะยกเลิกกำหนดการพูดในงานทั้งหมดด้วยหรือไม่

ที่มา - Google Code, DZone

หลังจากข่าว ออราเคิลฟ้องกูเกิลฐานละเมิดสิทธิบัตร Java แล้ว เผยแพร่ออกมา ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอีกมากมาย รวมถึงข้อมูลวงในของผู้ที่เกี่ยวข้อง

ที่ชัดเจนที่สุดไม่ใช่ใครอื่น เพราะ James Gosling บิดาแห่ง Java (ปัจจุบันลาออกจากออราเคิลแล้ว และยังไม่ได้ทำงานที่ไหน) เขียนเล่าลงในบล็อกว่า ระหว่างการพบปะของผู้บริหารช่วงที่เจรจาซื้อบริษัทกันนั้น เมื่อหัวข้อพูดถึงการฟ้องกูเกิล เขาเห็นแววตาเป็นประกายจากฝ่ายกฎหมายของออราเคิล...

Gosling บอกด้วยว่าการฟ้องสิทธิบัตรไม่เคยอยู่ในสายเลือดของซัน และเขารู้สึกดีอยู่บ้างที่อย่างน้อยมีสิทธิบัตรของเขาเพียงฉบับเดียว ที่อยู่ในคดีนี้

การโอเพนซอร์สครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในหลายปีที่ผ่านมาคือการโอเพนซอร์ส Solaris จนเกิดโครงการ OpenSolaris ที่เป็นส่วนโอเพนซอร์สของ Solaris ที่มีซอฟต์แวร์อื่นๆ ร่วมไปด้วย แต่อีเมลภายในของออราเคิลก็แสดงถึงท่าทีที่จะหยุดโครงการ OpenSolaris ไว้แต่เพียงเท่านี้ โดยมีรุ่นฟรีคือ Solaris Express มาแทนที่

แทนที่จะเป็นโครงการแยกและมีกระบวนการที่เปิดเผยเช่นทุกวันนี้ Solaris จะถูกพัฒนาโดยออราเคิลเป็นหลัก แต่ซอร์สโค้ดนั้นจะยังคงถูกแนบไปกับตัวซอฟต์แวร์ในรูปแบบไลเซนส์ CDDL ของซันแต่เดิม

เมื่อครั้งที่กูเกิลออก Android ใหม่ๆ นั้นคำถามสำคัญคือ Dalvik VM นั้นจะไปทับกับสิทธิบัตรของซันมากน้อยแค่ไหน เพราะซันเองก็ทำเงินจากสิทธิบัตรเหล่านี้ผ่านทาง J2ME อยู่ บทวิเคราะห์หลายบทความก็แสดงถึงความกังวลและทางรอดที่เป็นไปได้ของกูเกิล แต่แล้ววันนี้ออราเคิลที่ได้รับสิทธิบัตรต่อมาจากซันก็เดินหน้าฟ้องกูเกิลทั้งประเด็นสิทธิบัตรและลิขสิทธิ์

สิทธิบัตรที่ถูกฟ้องนั้นมี 7 ฉบับดังนี้

Larry Ellison ผู้ชายที่รวยเป็นอันดับหกของโลก และซีอีโอของ Oracle ให้ความเห็นต่อกรณี CEO ของ HP ประกาศลาออก เนื่องจากการสอบสวนคดีล่วงละเมิดทางเพศ ว่าบอร์ดของ HP ตัดสินใจผิดพลาดที่บีบให้ Mark Hurd ต้องลาออกในคราวนี้ เพราะทำให้ HP เสียผู้บริหารที่เก่งที่สุดไป แถมบอร์ดของ HP เองก็สอบสวนจนได้ข้อสรุปแล้วว่า Mark Hurd ไม่มีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศ

เขายกกรณีของแอปเปิลไล่สตีฟ จ็อบส์มาเทียบ โดยบอกว่าการตัดสินใจครั้งนั้นแทบจะทำให้แอปเปิลต้องล่มสลาย ถ้าจ็อบส์ไม่กลับมากู้แอปเปิลได้สำเร็จ

ตามการสำรวจของบริษัทผู้ผลิตโซลูชันด้านความปลอดภัย Secunia แอปเปิลได้ก้าวขึ้นมาแทนที่ออราเคิลเป็นเบอร์หนึ่งซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ในช่วงครึ่งปีแรกนั้นแอปเปิลได้รับรายงานข้อผิดพลาดมากกว่าบริษัทอื่นๆ ส่วนไมโครซอฟท์นั้นยังรั้งอันดับสามเช่นเคย

ซันเคยทำให้คนจำนวนมากได้ตื่นเต้นกับการประกาศโอเพนซอร์ส OpenSolaris ไปเมื่อห้าปีที่แล้ว แต่วันนี้ภายใต้การเข้าครอบครองทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดของ OpenSolaris โดยออราเคิล ทาง OpenSolaris Governing Board (OGB) กลับไม่สามารถติดต่อออราเคิลเพื่อให้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ OpenSolaris ได้ จนมีการผ่านมติยื่นคำขาดสุดท้ายว่าให้ออราเคิลส่งตัวแทนเข้ามาทำงานร่วมกับ OpenSolaris ไม่เช่นนั้น OGB จะยุบตัวเองแล้วส่งทุกอย่างกลับสู่ออราเคิล

NetBeans โปรแกรม IDE แบบโอเพนซอร์ส ออกรุ่นใหม่ล่าสุด 6.9 แล้ว ของใหม่มีดังนี้

• รองรับ OSGi ระบบโมดูลขยายความสามารถของ Java Platform ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่คู่แข่งอย่าง Eclipse และ IntelliJ นำหน้าไปก่อนแล้ว
• รองรับ Spring Framework 3.0, Ruby on Rails 3.0, Zend Framework
• รองรับ JavaFX 1.3 และมี JavaFX Composer ตัวช่วยวาด UI ของ JavaFX

อย่างอื่นๆ อ่านได้จาก NetBeans IDE 6.9 Release Notes และ NetBeans Wiki

Josh Bloch อดีตพนักงานของซันผู้เขียน Java Collections Framework, หนังสือ Effective Java Programming ไบเบิลของคนเขียนจาวา และคลาสสำคัญๆ หลายตัว (ปัจจุบันทำงานที่กูเกิล) ให้ความเห็นเกี่ยวกับอนาคตของจาวาว่า ความแข็งแกร่งของจาวากำลังสั่นคลอน จากปัญหาความสับสนในทิศทางของบริษัทนับตั้งแต่การเข้าซื้อของออราเคิล

Bloch ยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่เคยเป็นที่สนใจอย่างมากในอดีตอย่าง J2ME ทั้งที่เป็นระบบเปิด แต่ในปัจจุบันแทบจะไม่มีใครพูดถึงและล้าหลังระบบปิดอย่างไอโฟน โดยประเด็นอื่นๆ ที่ Bloch ยกขึ้นมาพูดถึงจาวา เช่น

หลังจากที่ถูกออราเคิลซื้อโดยสมบูรณ์ก็เป็นเรื่องปรกติที่จะมีการปรับโครงสร้างตามมา และข่าวลือล่าสุดก็ออกมาว่าทางออราเคิลอาจจะสั่งปิดสำนักงานของซันในประเทศไทยลง โดยพนักงานเดิมจะได้ค่าชดเชยตามกฏหมาย หรือหากต้องการทำงานต่อกับออราเคิลจะต้องส่งใบสมัครเข้าใหม่

ข่าวนี้มาจากทวีตของคุณเอกรัตน์ สาธุธรรม นักข่าวไอทีของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (Twitter, Facebook) และยังไม่มีการแถลงข่าวเป็นทางการแต่อย่างใด

ที่มา - ทวีตหมายเลข 12204184885

ซอฟต์แวร์ที่อยู่ในความสนใจของดีล Oracle/Sun หนีไม่พ้น MySQL (ดังจนซอฟต์แวร์ตัวอื่นๆ อย่าง OpenOffice.org ถึงกับน้อยใจ) ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะ MySQL นั้นทับไลน์กับ Oracle Database เต็มๆ จนหลายคนมองว่า Oracle ซื้อ MySQL มาดอง ทำให้อนาคตของ MySQL น่าหวั่นไหวพอสมควร

แต่ล่าสุด Edward Screven ผู้บริหารระดับสูงของ Oracle ออกมาให้คำมั่นว่าไม่ทิ้ง MySQL แน่ และล่าสุดเพิ่งลงทุนใน MySQL เพิ่มไปอีก แม้ว่าเขาจะไม่บอกจำนวนเงินและฟีเจอร์ที่ผลักดันให้ MySQL ก็ตาม

Screven หลุดมาคำนึงว่า Oracle เตรียมวาง MySQL ไว้ชนกับ MS SQL Server ของไมโครซอฟท์ แล้วปล่อย Oracle Database ไปจับตลาดบนๆ ตามถนัด

ที่มา - รอยเตอร์

James Gosling ผู้ให้กำเนิด Java ประกาศผ่านบล็อกส่วนตัวว่าได้ลาออกจาก Oracle เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เขาขอโทษผู้ที่ร่วมงาน TechDays ที่ St Petersburg เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาที่ไม่ได้เห็นเค้าขึ้นพูด

ภายในบล็อกของเค้ายังกล่าวถึงเหตุผลและความยากลำบากที่ต้องทิ้งผู้ร่วมงานที่เคยทำงานด้วยกัน James บอกว่าขอพักผ่อนสักพักก่อนกลับมาหางานทำอีกครั้ง และยังได้พูดถึงการเขียนบล็อกขณะทำงานอยู่ที่ Sun Microsystems รวมถึงได้ย้ายเอ็นทรีทั้งหมดมายังบล็อกแห่งใหม่

ที่มา James Gosling's blog