จากข่าว ออราเคิลกลับลำ เตรียมยก OpenOffice.org ให้เป็นของชุมชน วันนี้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว
โค้ดทั้งหมดของ OpenOffice.org ไม่ว่าจะเป็นส่วนที่เป็นโอเพนซอร์สเดิม (ใช้ GPL) และส่วนที่เป็นโค้ดปิดของออราเคิล จะถูกปรับให้เป็นสัญญาอนุญาตแบบ Apache License และโค้ดทั้งหมดจะถูกยกให้ Apache Software Foundation เป็นคนดูแล
ตามธรรมเนียมของ Apache Software Foundation โครงการใหม่จะต้องเข้าไปอยู่ในสถานะ incubating ก่อน ถ้าสามารถสร้างชุมชนได้มากพอ ก็จะพัฒนาไปสู่โครงการหลักของ Apache ต่อไปในอนาคต
หลังจากที่ Oracle ประกาศ JavaFX Roadmap ในงาน JavaOne ไปเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด JavaFX 2.0 ได้เข้าสู่ Beta version แล้ว
โดยการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจ ประกอบไปด้วย
นับเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของ JavaFX บนความดูแลของ Oracle
ที่น่าสนใจต่อไปคือ จะสามารถสู้กับคู่แข่ง RIA ที่มีอยู่ในตลาดแล้วได้อย่างไร
ออราเคิลเปิดให้บริการฐานข้อมูลบนกลุ่มเมฆของอเมซอนแล้วโดยมีให้เลือกใช้งานสองแบบคือเช่าชั่วโมงใช้งานพร้อมไลเซนส์ หรือซื้อไลเซนส์แล้วเช่าชั่วโมงใช้งานกับทางอเมซอน ในชื่อว่า Amazon RDS for Oracle Database
ค่าบริการแบบพร้อมไลเซนส์นั้นอยู่ที่ 0.16 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือชั่วโมงละ 5 บาทโดยประมาณ แต่ไลเซนส์ที่ได้รับนั้นจะเป็น Standard Edition ซึ่งมีราคาปรกติอยู่ที่ 17,500 ดอลลาร์หรือ 500,000 บาทต่อไลเซนส์
ความคืบหน้าล่าสุดของคดีออราเคิลฟ้องกูเกิลข้อหา Android ละเมิดสิทธิบัตร Java
เดิมทีนั้น ออราเคิลได้ยื่นฟ้องกูเกิลว่าละเมิดสิทธิบัตรจำนวน 132 ชิ้น แต่เนื่องจากศาลประเมินว่าการพิสูจน์สิทธิบัตรว่าละเมิดหรือไม่นั้นกินเวลามาก จึงสั่งให้ออราเคิลลดจำนวนสิทธิบัตรที่จะฟ้องลงเหลือ 3 ชิ้น เพื่อที่ปริมาณงานของศาลจะลดลง
ข่าวนี้ฟังดูดีต่อฝ่ายกูเกิลมาก แต่เอาจริงก็ไม่ใช่แบบนั้น เพราะออราเคิลถูกบังคับให้ฟ้องเฉพาะสิทธิบัตรที่มั่นใจว่าผิดเน้นๆ จำนวน 3 ชิ้นเท่านั้น ถ้าศาลตัดสินว่าผิดจริงกูเกิลก็ผิดอยู่ดี แต่ในอีกมุม กูเกิลก็สู้คดีง่ายขึ้นด้วย เพราะมีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องป้องกันตัวและหาหลักฐานมาหักล้างสิทธิบัตรชิ้นใดบ้าง
ความวุ่นวายในประเด็นสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับ Java ยังไม่จบลงง่ายๆ โดยระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาลนี้ทางออราเคิลก็ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ Apache Foundation เปิดเผยการสื่อสารกับกูเกิลและ Open Handset Alliance ตลอดจนพนักงานอื่นๆ ของกูเกิล โดยเฉพาะในประเด็นสัญญาอนุญาตของ Java SE และ Apache Harmony
เนื่องจาก Android นั้นใช้ไลบรารีจำนวนมากจาก Apache Harmony ซึ่งไม่เคยได้รับการรับรองว่าผ่าน Java TCK เนื่องจากติดข้อสัญญาอนุญาตของตัว TCK เอง การที่ออราเคิลดึง Apache เข้ามาเกี่ยวข้องในกรณีนี้เป็นไปได้ว่าออราเคิลกำลังพยายามชี้ให้ศาลเห็นว่า Apache Harmony เองก็ละเมิดสิทธิบัตรของออราเคิล ซึ่งทำให้ Android ละเมิดไปด้วย (ดูข่าวเก่า)
NetBeans เครื่องมือพัฒนาซอฟต์แวร์แบบ IDE จากออราเคิล/ซัน เดินทางมาถึงเวอร์ชัน 7.0 แล้ว โดยของใหม่รุ่นนี้ได้แก่
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและดาวน์โหลดได้จาก NetBeans IDE 7.0 Release Information
หลังจากออราเคิลซื้อซัน และเปลี่ยนนโยบายต่อโครงการโอเพนซอร์สหลายๆ ตัวของซัน จนมีปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นสงครามจาวากับ Apache Harmony, ขึ้นราคา MySQL, ทิ้งโครงการ OpenSolaris และความขัดแย้งกับนักพัฒนาของ OpenOffice.org จนแยกออกไปทำ LibreOffice
ออราเคิลเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ตามปีงบการเงินของบริษัทโดยมีรายได้สุทธิ 8.8 พันล้านดอลลาร์ เป็นกำไรสุทธิ 2.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กัน
Safra Catz หนึ่งในสองของประธานออราเคิลกล่าวว่าผลประกอบการที่ออกมา ไม่ใช่ผลจากการใช้จ่ายด้านไอทีขององค์กรที่เพิ่มขึ้นแต่มาจากความสำเร็จของซอฟท์แวร์ใหม่ๆที่ออกมา รวมถึงการผนวกสินค้าเดิมเข้าผลิตภัณฑ์ของซันที่ซื้อกิจการมาเมื่อปีก่อน โดยยอดขายไลเซนส์แอพพลิเคชั่นคิดเป็น 639 ล้านดอลลาร์ เติบโต 31% โดยออราเคิลกล่าวว่าตัวเลขกลุ่มแอพพลิเคชั่นนี้ดีกว่าคู่แข่ง SAP ถึงสิบเท่าตัว ขณะที่ธุรกิจฐานข้อมูลเติบโต 26% มียอดขาย 1.58 พันล้านดอลลาร์
หลังจากออราเคิลเข้าซื้อซัน สิ่งที่ได้มาด้วยคือชิป RISC สำหรับเซิร์ฟเวอร์ราคาแพงอย่าง SPARC และ UNIX ก็ถึงเวลาลาจากชิป RISC จากอินเทลคือ Itanium กันไป โดยออราเคิลได้ประกาศว่าจะซัพพอร์ตเฉพาะรุ่นปัจจุบันต่อเนื่องไปจนจบนโยบายการซัพพอร์ตของออราเคิล โดยออราเคิลแนะนำให้ลูกค้าย้ายไปใช้ซีพียู X86-64 หรือ SPARC
การซัพพอร์ตแบ่งเป็นสามระดับ
จากข่าวก่อนหน้านี้ sun.com เลิกให้บริการวันที่ 1 มิถุนายนนี้ ก็มีคำถามตามมาว่าออราเคิลจะทำอย่างไรกับโดเมน sun.com
แม้จะมีโอกาสน้อยที่ออราเคิลจะขายโดเมนนี้ออกไป แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการขายโดเมนจากบริษัท Oversee.net ได้ประเมินว่า sun.com จะมีมูลค่าประมาณ 1-2 ล้านดอลลาร์ถ้าหากออราเคิลเลือกเส้นทางนี้ เหตุเพราะปัจจุบันโดเมน .com ความยาว 3 ตัวอักษรเหลือไม่เยอะ แถมคำว่า "sun" ก็มีความหมายมากมาย
ตัวแทนจาก GoDaddy ประเมินว่าถ้าประมูลโดเมน sun.com ราคาน่าจะอยู่ที่ 8-9 แสนดอลลาร์
sun.com ถือเป็นโดเมนเนม .com เก่าแก่อันดับ 11 ของโลกที่ตัวเว็บยังเปิดให้บริการอยู่ โดเมนจดทะเบียนมาตั้งแต่ปี 1986
James Gosling บิดาแห่งจาวา ขึ้นเวทีงานสัมมนา TheServerSide Java Symposium โดยกล่าวสนับสนุนทิศทางการพัฒนาจาวาของออราเคิล แม้ตัวเขาเองจะมีปัญหากับการทำงานที่ออราเคิลจนต้องลาออกก็ตาม
Gosling บอกว่าออราเคิลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดูแลจาวาให้ดี เพราะซอฟต์แวร์ระดับมิดเดิลแวร์ทั้งหมดของออราเคิลต้องพึ่งพาจาวา เขายังพูดถึงประเด็นเรื่องการควบคุม JCP ของออราเคิลว่าเป็นหลักฐานยืนยันว่าทิศทางการควบคุม JCP ของซันในอดีต (ซึ่งออราเคิลเคยคัดค้าน) เป็นสิ่งถูกต้อง
ออราเคิลเปิดตัวเฟรมเวิร์คสำหรับการพัฒนาแอพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือในชื่อ Oracle ADF Mobile โดยภายในมันคือเฟรมเวิร์คสำหรับพัฒนาแอพลิเคชั่นที่แยกเป็นสองส่วน คือ
ท่าทีของออราเคิลในการซื้อบริษัทซัน ไมโครซิสเต็มส์นั้นชัดเจนมาตั้งแต่แรกว่า "จะไม่คงแบรนด์ซันเอาไว้" ตัวบริษัทซันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Oracle America Inc. และแบรนด์ของซันในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ก็ถูกเปลี่ยนเป็นออราเคิลเกือบหมดแล้ว
ตอนนี้สมบัติอย่างท้ายๆ ที่ยังเหลืออยู่คือโดเมน sun.com (ซึ่งตอนนี้จะส่งต่อไปที่ http://www.oracle.com/us/sun/index.html) แต่ล่าสุด Rick Ramsey อดีตพนักงานของซันได้แจ้งลงบล็อกแล้วว่า sun.com จะหยุดให้บริการในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
อีกหนึ่ง "ความเปลี่ยนแปลง" หลังจากออราเคิลเข้าซื้อซัน
ทางออราเคิลได้ประกาศบนเว็บไซต์ของตัวเองว่าตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2011 เป็นต้นไป ผู้ที่จะสอบใบรับรองด้าน Java Architect, Java Developer, Solaris System Administrator และ Solaris Security Administrator จะต้องลงเรียนคอร์สสอนเนื้อหาและปฏิบัติจริง (Hands-on Course) เพิ่มด้วย
คอร์สเหล่านี้มีระยะเวลา 3-5 วัน ราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มอยู่ที่ 2,000-4,000 ดอลลาร์ สมัครเรียนได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของออราเคิล เช่น Oracle University Training Center และ Oracle Authorized Education Center
ออราเคิลเผยแผนการพัฒนา Java Enterprise Edition (หรือที่เราเรียกกันว่า Java EE) ทั้งรุ่น 7 ในปี 2012 และรุ่น 8 ในปี 2013/2014
Java EE 7 จะปรับปรุงเรื่อง Contexts and Dependency Injection (CDI) ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ใช้เชื่อมข้อมูลองค์กรเข้ากับกลุ่มเมฆ และจะเปลี่ยนระบบแคชใหม่จากเดิมที่มี JCache ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เสนอโดยออราเคิลมานานแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก กำหนดออกคือไตรมาสที่สามของปี 2012
Java EE 8 จะออกตามหลัง Java EE 7 ประมาณหนึ่งปี จะพัฒนาเพื่อรองรับ cloud มากขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ NoSQL เข้ามาสำหรับการประมวลผลขนาดใหญ่ แนวทางการพัฒนา Java EE 8 จะผูกกับ Java SE 8 ที่จะออกก่อนหน้านั้น (ประมาณเดือนตุลาคม 2012) ซึ่งปรับปรุงโครงสร้างให้แยกส่วน (modularization) มากขึ้น
ที่งาน RSA Conference ปีนี้ออราเคิลเปิดตัวสินค้าใหม่คือ Oracle Database Firewall ที่ช่วยป้องกันการเข้าใช้ฐานข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ SQL ที่น่าจะถูกดัดแปลงผ่าน SQL injection มาตลอดจนการโจมตีฐานข้อมูลแบบอื่นๆ
ระบบการป้องกันจะอาศัยข้อมูลของการใช้งานตามปรกติ ผู้ดูแลระบบสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมได้เช่นการรันคำสั่ง SQL บางอย่างอาจจะรันได้ในบางช่วงเวลา หรือจากบางไอพีเท่านั้น โดยสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบ in-band ที่ช่วยสกัดคำสั่งที่น่าสงสัย หรืออาจจะติดตั้งแบบ out-of-band เพื่อการตรวจสอบและแจ้งเตือนเท่านั้น
บริษัทวิจัย Forrester Research ออกรายงานพยากรณ์อนาคตของจาวา หลังอยู่ภายใต้การกำกับทิศทางจากออราเคิล รายงานชิ้นนี้ Forrester หาข้อมูลจากการสัมภาษณ์บริษัทใหญ่ๆ ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับจาวา รวมถึงสัมภาษณ์นักพัฒนาทั้งผ่านเว็บไซต์และในงานสัมมนาอย่าง JavaOne
ตัวรายงานฉบับเต็มขายราคา 499 ดอลลาร์ แต่เราก็พออ่านเนื้อหาบางส่วนของรายงานได้จากบล็อกของ Forrester และเว็บไซต์บางแห่งที่ได้อ่านรายงานฉบับนี้
เนื้อหาแบบสรุปก็คือ นโยบายใหม่ของออราเคิลจะทำเงินจากจาวาได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่คนใช้จาวาน้อยลง และจาวาจะมีสถานะคล้ายกับ COBOL คือใช้เฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น
คุณ Florian Mueller นักวิเคราะห์ผู้เคยให้ความเห็นว่ากูเกิลอาจร่วมมือกับ Apache และ Myriad แยกกันโจมตีออราเคิลก็เป็นได้ ได้เปิดเผยผลการวิเคราะห์ที่อาจกลายเป็นตัวอย่างหลักฐานให้ออราเคิลในการฟ้องศาลได้ โดยเขาระบุว่ามีโค้ดอย่างน้อย 43 ไฟล์ที่ Android ก็อปปี้จาก Java ตรงๆ โดย 37 ไฟล์นั้นซันได้ระบุว่าเป็น "PROPRIETARY/CONFIDENTIAL" และ "DO NOT DISTRIBUTE!" และนอกจากนั้นอีกอย่างน้อย 6 ไฟล์ใน Android 2.2 (Froyo) กับ Android 2.3 (Gingerbread) ที่ดูเหมือนจะถูก decompile จาก Java 2 SE และถูกแจกจ่ายต่อภายใต้ไลเซนส์ Apache โอเพ่นซอร์สโดยไม่ได้รับอนุญาต
SAP กำลังต่อสู้เรื่องที่ Oracle ยื่นบังคับให้ชำระดอกเบี้ยเพิ่มอีก 212 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อยอดที่ศาลชั้นต้นในเมืองโอ๊กแลนด์ มลรัฐแคลิฟอร์เนียได้ตัดสินให้ SAP ชำระค่าปรับเป็นเงิน 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
คดีนี้เกิดขึ้นสืบเนื่องจาก Oracle จับได้ว่าอดีตบริษัทลูกของ SAP ที่ชื่อ TomorrowNow แอบเข้าไปล้วงข้อมูลลับบนระบบเครือข่ายของตน ซึ่งทำให้ TomorrowNow สามารถให้บริการดูแลรักษาซอฟต์แวร์ SAP ของลูกค้าได้ถูกกว่าที่บริษัท SAP ทำเอง
ออราเคิลแถลงผลประกอบการไตรมาสที่สอง (รอบของบริษัท) สูงกว่าประมาณการ โดยรายได้สูงถึง 8.6 พันล้านดอลลาร์ไม่นับรายได้แบบครั้งเดียว ส่วนกำไรสุทธินั้นสูงถึง 1.87 พันล้านดอลลาร์ ขึ้นจาก 1.46 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ตัวเลขกำไรที่น่าประทับใจเช่นนี้ดันให้หุ้นของออราเคิลขึ้นไปทันที 6% และออราเคิลยังคาดว่าไตรมาสหน้ารายได้ในส่วนของซอฟต์แวร์น่าจะเพิ่มขึ้นอีกระหว่าง 10 ถึง 20%
ออราเคิลเปิดตัว Cloud Office ชุดออฟฟิศบนเว็บ ซึ่งจะมาแข่งกับ Google Docs และ Office 365 ของไมโครซอฟท์
รายละเอียดของ Cloud Office ตอนนี้ยังมีน้อยมาก ภาพหน้าจอยังหาแทบไม่มี (พอดูหน้าตาได้จากวิดีโอโปรโมทของออราเคิลเอง) ออราเคิลบอกเพียงว่าจะแยกเป็น 2 เวอร์ชันคือ
ในเดโมของออราเคิลแสดงการทำงานของ Cloud Office ทั้งบน iPhone และ iPad ให้เห็น แต่ยังไม่มีรายละเอียดเรื่องนี้เช่นกัน
บริษัท Myriad Group (Wikipedia) จากฝรั่งเศส-สวิตเซอร์แลนด์ ผู้พัฒนา Myriad Browser บนมือถือ และโปรแกรมที่เขียนด้วย J2ME อีกหลายตัว ยื่นฟ้องออราเคิลเรื่องสิทธิ์การใช้งานจาวา
Myriad กล่าวหาซัน (ปัจจุบันคือออราเคิล) มีเงื่อนไขการใช้งานจาวาตาม TCK (Java Test Compatibility Kit) ที่ไม่ยุติธรรมตามข้อตกลง Java Specification Participation Agreement ที่ออกโดย JCP และเรียกค่าเสียหาย 120 ล้านดอลลาร์ รวมถึงขอให้ศาลสั่งออราเคิลให้แก้เงื่อนไขของ TCK
ภาคต่อของมหากาพย์จาวา ตอนล่าสุดคือ Apache ลาออกจากกรรมการบริหารของ JCP (ส่วนความเดิมก่อนหน้านั้นย้อนอ่านกันเองนะครับ)
หลังจาก Apache ประกาศลาออกจาก Java Community Process ท่าทีของ Oracle ก็คือออกแถลงการณ์ให้ Apache ทบทวนการตัดสินใจ เพื่อจะ "ร่วมกันพาจาวาเดินหน้าต่อไป" แถมยังหยอดว่าโครงการต่างๆ ใน Apache Software Foundation ถือเป็นส่วนสำคัญของวงการจาวา
แม้คดี SAP ละเมิดลิขสิทธิ์ออราเคิลจะจบคดีไปแล้วโดยศาลได้สั่งให้ SAP จ่ายเงินให้ออราเคิล 1,300 ล้านดอลลาร์ แต่ทางออราเคิลก็ได้ยื่นคำร้องต่อศาลของพิจารณาให้ SAP จ่ายดอกเบี้ยค่าปรับ 1,300 ดอลลาร์นั้นเพิ่มเติมเป็นเงิน 211.7 ล้านดอลลาร์
ออราเคิลนั้นฟ้อง SAP มาตั้งแต่ปี 2007 ไม่ชัดเจนว่าตัวเลข 211.7 ล้านดอลลาร์คำนวณมาอย่างไร แต่น่าจะเป็นดอกเบี้ยทบต้นโดยนับจากปีที่เริ่มฟ้องร้อง
งานนี้ SAP ออกมาให้ข่าวทันทีว่าออราเคิลไม่ควรได้รับเงินเพิ่มเติมจากที่ได้ค่าปรับไปอีกแล้ว
ที่มา - PhysOrg
ต่อจากข่าว Apache แพ้โหวต Java 7, อนาคตแขวนอยู่บนเส้นด้าย และแล้ว Apache Software Foundation ก็ลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารของ Java Community Process (JCP) ตามที่เคยประกาศไว้
ในแถลงการณ์ของ Apache ก็ระบุชัดเจนว่าเหตุผลในการลาออกเป็นเรื่อง Apache Harmony ที่ไม่ได้รับการตอบสนองจากออราเคิลและสมาชิกรายอื่นๆ ในคณะกรรมการบริหารของ JCP ดังนั้น Apache จึงมองว่า JCP ไม่ใช่กระบวนการแบบเปิดกว้างอีกต่อไป แต่เป็นองค์กรที่ตอบสนองทิศทางของออราเคิลเท่านั้น