ซัมซุงออกมาประเมินผลประกอบการประจำไตรมาส (preliminary report = คาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการก่อนแถลงตัวเลขจริงๆ) ว่าจะมีกำไรสูงเป็นประวัติการณ์คือประมาณ 5.7-6.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนประมาณ 79%

ปัจจัยหนุนสำคัญมาจากมือถือตระกูล Galaxy ที่มียอดขายร้อนแรงทั่วโลก ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 65% ของกำไรทั้งหมดของบริษัท

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขกำไรที่ว่ามายังน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดกันไว้ ทำให้ราคาหุ้นของซัมซุงตกลงเล็กน้อย นอกจากนี้ซัมซุงยังมีปัญหาว่าธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่มือถือเริ่มประสบปัญหาต้นทุนเพิ่ม และค่าเงินยูโร (ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของซัมซุง) ตกลง ทำให้ตัวเลขกำไรเวลาคิดเป็นเงินวอนไม่เยอะอย่างที่เคยอีกด้วย

หลังจากไมโครซอฟท์หันมาทำแท็บเล็ต Surface ก็ส่งผลสะเทือนต่อวงการฮาร์ดแวร์ไม่น้อย รายที่มีท่าทีไม่พอใจคือ HP ซึ่งมีข่าวลือว่ายกเลิกแผนการทำแท็บเล็ต Windows RT (ARM) และจะเน้นแค่แท็บเล็ตที่ใช้ซีพียู x86 เพียงอย่างเดียว

ล่าสุดมีข่าวลืออกมาอีกชิ้นแต่ในทิศทางกลับกันคือ ซัมซุงกำลังพัฒนาแท็บเล็ต Windows RT อยู่หนึ่งรุ่น ใช้ซีพียู Qualcomm Snapdragon และจะเปิดตัวพร้อม Windows 8 รุ่นจริงในเดือนตุลาคมนี้ (ตามที่แหล่งข่าวระบุ)

ที่มา - Bloomberg

จากคดีฟ้องร้องกันในสหรัฐฯ เป็นผลให้ Galaxy Nexus ถูกศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามขายจนกว่าคดีจะรู้ผล หลังจากนั้นไม่นานกูเกิลก็ให้สัมภาษณ์ว่าจะกลับมาขายในสัปดาห์หน้า และตอนนี้ Galaxy Nexus ก็กลับมาประจำการใน Play Store แล้ว

เพียงแต่ว่าระยะเวลาส่งของจากเดิมที่ส่งได้ภายในสองวัน ถูกปรับเพิ่มเป็น 2-3 สัปดาห์ และแน่นอนว่ามาพร้อมกับ จะมีอัพเดต Jelly Bean (ที่แก้ปัญหาสิทธิบัตรไปแล้ว) ตามมาเร็วๆ นี้ ส่วนราคาก็ลดลงเหลือ 349 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตามที่ประกาศก่อนงาน Google I/O นั่นเอง

ที่มา - Engadget

ข่าวการระเบิดของ Galaxy S III ในไอร์แลนด์ ทำให้ซัมซุงต้องรีบเข้าไปสืบสวนกรณีนี้อย่างเร่งด่วน และตอนนี้ผลสืบสวนก็ออกมาแล้วว่าเครื่อง S III ทื่ระเบิดเป็นเพราะสาเหตุภายนอก

ผู้ใช้ที่ชื่อว่า dillo2k10 ผู้รายงานปัญหานี้ครั้งแรกได้ออกมาระบุว่าโทรศัพท์ของเขาถูกผู้อื่นเอาไปทำให้แห้ง ส่วนทางซัมซุงได้ติดต่อหน่วยงานสอบสวนเพลิงไหม้ และรายงานผลการสอบสวนพบว่าสาเหตุเดียวที่จะทำให้เกิดการระเบิดแบบในข่าวที่ผ่านมาได้คือการใส่โทรศัพท์ไปในเตาไมโครเวฟ

ที่มา - Samsung Tomorrow

เป็นที่รู้กันว่า Galaxy S III รุ่นขายผ่านโอเปอเรเตอร์สหรัฐฯ ที่รองรับ LTE จะไม่ได้ใช้ชิปที่ซัมซุงทำเองอย่าง Exynos Quad แต่ใช้ Qualcomm Snapdragon S4 แทน ด้วยเหตุผลที่สามารถรองรับ LTE ได้

แต่หลังการเปิดตัว Galaxy S III LTE ในเกาหลี เคยมีรายละเอียดจากสื่อเกาหลีใต้บางเจ้าที่ไปงานเปิดตัวแล้วว่ารุ่นที่ขายในเกาหลีใต้จะใช้ Exynos Quad รุ่นที่รองรับ LTE ซึ่งวันนี้เว็บไซต์ทางการของซัมซุงได้ยืนยันเรื่องนี้แล้ว

นอกจากนี้สเปคของรุ่นที่ขายในเกาหลีใต้ยังเพิ่มแรมเป็น 2GB เหมือนกับบางประเทศที่ใกล้จะวางขาย และเพิ่มระบบ DVB TV สำหรับดูทีวีไปด้วย โดยจะเริ่มวางขายกับสามเครือข่ายอย่าง SK Telecom, KT และ LG U+ วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ครับ

Qulcomm ที่กำลังประสบปัญหาผลิตชิป Snapdragon S4 ไม่ทันความต้องการของตลาด (ด้วยเหตุผลในแง่ประสิทธิภาพ และรองรับ LTE) หาวิธีแก้ไขปัญหาได้แล้ว ด้วยการเซ็นสัญญากับผู้ผลิตเพิ่ม จากเดิมที่มีเพียง TSMC เป็นผู้ผลิตแต่เพียงผู้เดียว

ผู้ผลิตที่ Qualcomm เซ็นสัญญาเพิ่มในครั้งนี้คือ United Microelectronics Corp. (UMC) ซึ่งระบุว่าจะสามารถผลิตเวเฟอร์สำหรับชิปขนาด 28 นาโนเมตรได้ราว 3,000-5,000 เวเฟอร์ต่อเดือน ประมาณ 1/3 ของที่ TSMC ทำให้ได้ โดยจะเริ่มผลิตในช่วงไตรมาสสี่

อีกรายที่ Qualcomm เซ็นสัญญาด้วยคือ Samsung แต่ไม่มีรายละเอียดออกมาว่าผลิตเท่าไหร่ต่อเดือน และเริ่มเมื่อไหร่

ปลายปีนี้คงได้เห็นชิป S4 เต็มตลาดแน่

ตั้งแต่เปิดตัว Galaxy S III ไป ซัมซุงก็เงียบกับการออกมือถือใหม่ไปพักหนึ่ง และวันนี้ก็เปิดตัวรุ่นใหม่ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วในชื่อรุ่น Galaxy Chat สมาร์ทโฟนทรงแคนดี้บาร์พร้อมคีย์บอร์ด QWERTY ที่รัน ICS ครอบด้วยอินเทอร์เฟซ Nature UX ตัวที่สองต่อจาก S III

สเปคของ Galaxy Chat ไม่ได้หวือหวานัก ด้วยหน้าจอขนาด 3" ความละเอียด 320x240 พิกเซล กล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 1,200 mAh ตัวเครื่องหนา 11.7 มม. ความจุตัวเครื่อง 4GB

ที่น่าสนใจนอกจากคีย์บอร์ด QWERTY สไตล์ BlackBerry ที่ช่วงหลังไม่ค่อยเห็นแล้ว ยังมีปุ่มสำหรับเข้าแอพ ChatOn ของซัมซุงอีกด้วย

Galaxy Chat จะเริ่มขายที่สเปนก่อนในเดือนกรกฎาคม และจะทยอยขายในทวีปอื่นๆ ตามมาทีหลังครับ

ถัดจาก Galaxy Tab 10.1 แอปเปิลก็ประสบความสำเร็จอีกครั้ง โดยศาลสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามขาย Galaxy Nexus ในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากคดีสิทธิบัตรกับแอปเปิล และปฏิเสธคำอุทธรณ์ของซัมซุงด้วย

ผลคือตอนนี้กูเกิลต้องถอด Galaxy Nexus ออกจากหน้าเว็บ Play Store ก่อนชั่วคราว แต่ก็มีรายงานว่ากูเกิลจะออกแพตช์แก้ให้กับ Galaxy Nexus โดยตัดฟีเจอร์เรื่อง local search ที่เป็นประเด็นปัญหาเรื่องสิทธิบัตรออกไปก่อน

จากเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ทาง Samsung ได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า จะเริ่มทำการปล่อย Update Android 4.0 สำหรับ Galaxy Tab ในเดือนกรกฎาคมนี้ ในวันนี้ Samsung เริ่มต้นปล่อยอัพเดท ICS ชุดแรกให้กับ Galaxy Tab 7.7 ใน ออสเตรเลีย และ เยอรมนี ผ่าน Kies แล้ว

โดยมีการวางแผนไว้ว่าจะทำให้เสร็จสิ้นภายในเดือน กรกฎาคม และ สิงหาคม ซึ่งลำดับการปล่อยอัพเดทจะเป็นไปตามด้านล่าง

เว็บไซต์ข่าวมือถือ GSMArena อ้างแหล่งข่าววงในถึง Samsung Galaxy Note II ว่ามีข้อมูลดังนี้

• ใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.5" (รุ่นแรก 5.3")
• ถึงแม้หน้าจอจะขนาดใหญ่ขึ้นถ้าวัดเป็นนิ้ว แต่รูปทรงของจอจะต่างไปจากเดิม โดยความกว้างจะลดลง แต่ความยาวจะเพิ่มขึ้น
• ใช้ดีไซน์ใกล้เคียงกับ Galaxy S III
• วางจำหน่ายเดือนกันยายน คาดว่าเป็นเพราะซัมซุงต้องการตัดหน้า iPhone รุ่นถัดไปที่จะออกเดือนตุลาคม

ข่าวลือก่อนหน้านี้บอกว่ากล้อง 8MP, แรม 2GB, ซีพียู Exynos 5250 ซึ่งทาง GSMArena บอกว่าแหล่งข่าวไม่ได้ยืนยันข้อมูลพวกนี้

หลังจากที่ศาลได้สั่งแบนการนำเข้าและจำหน่าย Galaxy Tab 10.1 ของซัมซุงในสหรัฐอเมริกา ซัมซุงก็ได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งแบนดังกล่าว ล่าสุดศาลได้ปฏิเสธคำร้องขอนี้ของซัมซุงแล้ว

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ซัมซุงไม่น่าจะได้รับผลกระทบอะไรมากมายจากการแบน Galaxy Tab 10.1 เนื่องจากแท็บเล็ตดังกล่าวเป็นหนึ่งในอุปกรณ์พกพาหลายรุ่นที่ซัมซุงได้วางจำหน่าย นอกจากนี้แล้วซัมซุงก็ได้วางขาย Galaxy Tab รุ่นใหม่ตามมาแล้วด้วย

ในการฟ้องแบน Galaxy Tab 10.1 แอปเปิลต้องวางเงินประกัน 2.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐกับศาล หากคดีสิ้นสุดลงแล้วซัมซุงชนะ แอปเปิลจะต้องยกเงินจำนวนนี้ให้กับซัมซุงเป็นค่าเสียหาย

ตาม HTC มาติดๆ เลยทีเดียว สำหรับค่ายยักษ์แดนเกาหลีอย่างซัมซุง ที่ล่าสุดได้เปิดเผยต่อผู้ที่รอคำตอบของคำถามที่ว่า "เมื่อไหร่จะได้อัพเดต" ว่า ขณะนี้ซัมซุงเองก็กำลังศึกษา Jelly Bean อยู่เหมือนกัน เพราะซัมซุงเองก็เป็นผู้ผลิตแอนดรอยด์รายใหญ่อยู่ ทั้ง Galaxy SIII ที่สามารถเข้าใจเราได้ง่ายขึ้น และการเปิดโลกใหม่ให้กับวงการสมาร์ทโฟนอย่าง Galaxy Note อีกทั้ง Google ยังวางใจให้ซัมซุงทำ Galaxy Nexus และ Nexus S อีกด้วย เพราะอย่างนี้ ซัมซุงถึงต้องพยายามอัพเกรดอุปกรณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะได้สร้างความไว้วางใจกับทุกฝ่าย

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลสหรัฐฯเพิ่งออกคำสั่งคุ้มครอง (preliminary injunction) ห้ามขาย Galaxy Tab 10.1 ล่าสุดศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามขาย Galaxy Nexus ด้วยแล้ว

ภายหลังงานเปิดตัว Jelly Bean ไปได้ไม่ถึงวันดี เว็บไซต์ The Verge ก็อ้างแหล่งข่าววงในว่า ซัมซุงเตรียมปรับสเปค Galaxy S III ที่เตรียมวางขายในบางประเทศเพื่อการันตีการอัพเดตในอนาคต

แหล่งข่าวอ้างว่าวิศวกรของซัมซุงไม่มั่นใจว่าด้วยสเปคของ Galaxy S III จะสามารถอัพเกรดเป็น Jelly Bean ได้ชัวร์หรือไม่ เลยตัดสินใจเพิ่มแรมเข้าไปอีกเป็น 2GB โดยคาดว่ารุ่นที่ได้รับอานิสงส์น่าจะเป็นรุ่นที่ขายในสหรัฐฯ

ยังไม่มีการยืนยันจากซัมซุงว่าข่าวที่ออกมานี้เป็นจริงหรือไม่ แต่ถ้ามองจากสเปคแล้ว Galaxy S III ควรจะอัพเกรดไป Jelly Bean ได้สบายๆ เพราะว่าแม้แต่ Nexus S ยังสามารถอัพเกรดได้ด้วยซ้ำ

ความพยายามของแอปเปิลในการสั่งห้ามขายสินค้าของซัมซุงในสหรัฐ ประสบความสำเร็จเข้าจนได้ เมื่อศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว (preliminary injunction) ห้ามขาย Galaxy Tab 10.1 จนกว่าจะมีคำสั่งยกเลิก (ส่วนคดียังเดินหน้าต่อไป)

ผู้พิพากษา Lucy Koh ให้เหตุผลว่าถึงแม้ซัมซุงมีสิทธิในการแข่งขัน แต่ก็ไม่มีสิทธิแข่งขันโดยผลิตภัณฑ์ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น และคดีนี้หลักฐานสนับสนุนของแอปเปิลชัดเจนจนเธอเห็นด้วยกับการสั่งคุ้มครองชั่วคราว

ซัมซุงสามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งนี้ได้ และคำสั่งนี้ไม่มีผลต่อแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ อย่าง Galaxy Tab 2

ที่มา - AllThingsD

วงการนักวิเคราะห์อุตสาหกรรมมือถือประเมินว่าซัมซุงมีปัญหาเรื่องการผลิต Galaxy S III ให้ทันต่อความต้องการของตลาด (ที่คาดว่าจะขายได้ 10 ล้านเครื่องภายในสองเดือนหลังวางขาย) ทำให้ซัมซุงอาจเสียโอกาสการขาย Galaxy S III มากถึง 2 ล้านเครื่องในไตรมาสที่สองของปีนี้

ด้านซัมซุงเองบอกว่าแก้ปัญหาเรื่องการผลิตได้แล้ว และกำลังเร่งผลิตอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการ

Gartner ประเมินว่าซัมซุงประเมินความต้องการของตลาดพลาด เพราะมองว่าคู่แข่งเก่งเกินไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว ในท้องตลาดตอนนี้มีเพียง iPhone 4S และ HTC One X ที่พอต่อสู้กับ S III ได้เท่านั้น ทำให้ช่วงนี้เรียกว่าคู่แข่งของซัมซุงมีน้อยมาก

JK Shin หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการสื่อสารของ Samsung ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว Reuters ว่าบริษัทตั้งเป้ายอดขายของ Galaxy S III จะจำหน่ายได้ 10 ล้านเครื่องภายในเดือนหน้าอย่างแน่นอน เนื่องจากยอดจองของ Galaxy S III พุ่งสูงถึง 9 ล้านเครื่องภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายราย

ยอดขายจะสูงตามที่พูดหรือไม่ต้องติดตามต่อไป แต่ผมว่าไม่ต้องเดือนหน้าก็ได้นะครับ เพราะแค่ยอดจองของ Galaxy S III ก็พุ่งไปเยอะแล้ว

ที่มา : The Verge

หลังจากที่ Samsung ได้ปล่อย ChatON ไปยังระบบปฏิบัติการเกือบล้ำอย่าง Windows Phone ล่าสุดทาง Samsung ประกาศส่ง ChatON ลง Windows Mobile 6.5 (อ่านไม่ผิดครับ) แต่ว่ามีข้อแม้เดียวว่าต้องเป็นเครื่องรุ่น Samsung Omnia II เท่านั้น (กะจะขายเครื่องเก่าละสิ)

ข่าวร้ายคือ บริการนี้ (เฉพาะบน Windows Mobile 6.5) ยังจำกัดอยู่แค่ประเทศเกาหลีเท่านั้น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคนจะใช้เท่าไรกันเชียว (ผู้เขียน : ผมลองดาวน์โหลดมาดู พบว่าสามารถดาวน์โหลดได้ แต่ยังไม่ได้ลองครับ)

ใครที่ครอง Windows Mobile 6.5 Samsung Omnia II อยู่ละก็ โหลดได้แล้วที่เว็บของ Samsung ได้เลยครับ

เพื่อให้ผู้ใช้ iPhone สามารถย้ายมาใช้มือถือแอนดรอยด์ของซัมซุงได้ง่ายขึ้น ซัมซุงจึงจับมือกับเว็บไซต์ Easy Phone เปิดบริการ Easy Phone Sync สำหรับย้ายข้อมูลจากใน iTunes ทั้งภาพ เพลง หนัง บัญชีรายชื่อ ฯลฯ มาอยู่ในมือถือ Galaxy ของซัมซุงได้

การทำงานของบริการนี้จำเป็นต้องลงแอพจากทั้งฝั่งพีซี และฝั่งมือถือ ลักษณะการทำงานคล้ายๆ กับบริการเดิมของ Easy Phone ที่ชื่อว่า Easy Phone Tunes แค่เปลี่ยนจากเดิมที่ทำได้เพียงซิงก์กับ iTunes เป็นการย้ายข้อมูลแทน

อีกแล้วกับปัญหาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาระเบิด ล่าสุดเจ้าของ Galaxy S III จากประเทศไอร์แลนด์ผู้โชคดีได้ยินเสียง "ตูม" ขณะขับรถอยู่ พร้อมกับเห็นไฟลุกขึ้นจากบริเวณด้านล่างของตัวเครื่อง (กดอ่านต่อเพื่อเข้ามาดูรูป)

ขณะเดียวกัน ซัมซุงได้รีบตอบสนองต่อเหตุการณ์นี้อย่างรวดเร็ว ด้วยการโพสต์ลงบนบล็อกของตัวเองว่ารับทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว และพร้อมที่จะดำเนินการสืบสวนต่อไปทันทีที่ได้รับมือถือตัวที่ระเบิดกลับมา

ที่มา - The Verge

ดูเหมือนว่าซีอีโอของ Foxconn นาย Terry Gou ระยะหลังๆ นี้ได้ออกมาปั่นกระแสให้กับแอปเปิลมากพอสมควร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ออกมาอ้างว่า Foxconn กำลังเตรียมพร้อมสำหรับ iTV หรือโทรทัศน์ยี่ห้อแอปเปิล ซึ่งเป็นที่จับตามองโดยสื่อหลายๆ สำนักมาโดยตลอด และล่าสุด Gou ได้ออกมาบอกที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทว่าคนที่คิดจะเปลี่ยนมือถือ อย่าเพิ่งรีบซื้อ Galaxy S III เพราะว่ามือถือใหม่ของแอปเปิลจะทำให้ Galaxy S III ต้องขายหน้า

นอกจากนี้ Gou ยังบอกว่าซัมซุงเป็นบริษัทที่เก่งเรื่องขโมยของของคู่แข่งมาโดยตลอด และยังบอกอีกว่าเขานับถือคนญี่ปุ่นในเรื่องสไตล์การทำงานและการสื่อสาร ซึ่งต่างกับคนเกาหลีอย่างสิ้นเชิงที่เก่งแต่เรื่องแทงคนจากข้างหลัง

หนึ่งในสารพัดคดีที่ซัมซุง-แอปเปิลฟ้องกันไปมาทั่วโลกครับ ในส่วนของคดีสิทธิบัตรเรื่อง 3G ศาลนครหลวงเฮกตัดสินแล้วว่าแอปเปิลผิดจริง และละเมิดสิทธิบัตรของซัมซุง

ซัมซุงออกมาแสดงความยินดีกับผลตัดสินคดีครั้งนี้ และบอกว่าจะเรียกค่าเสียหายจากแอปเปิลต่อไป ก่อนหน้านี้ซัมซุงเคยใช้คดีสิทธิบัตรขอให้ศาลสั่งห้ามนำเข้า iPhone ในเนเธอร์แลนด์ แต่ศาลปฏิเสธคำขอนี้

ที่มา - CNET

สำนักข่าวเกาหลีใต้ MK Business News ได้ข่าวมาว่าซัมซุงกำลังพัฒนาสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Galaxy Note รุ่นต่อไปอยู่ (ตอนนี้ก็เรียกว่า Galaxy Note II ไปก่อน) โดยคาดว่าจะเปิดตัวช่วงปลายปีนี้ ซึ่งน่าจะราวๆ เดือนตุลาคม (ไม่ก็อาจเป็นต้นเดือนกันยายนในงาน IFA 2012 เบอลิน งานเดียวกับที่เปิดตัวเมื่อปีก่อน)

สเปคที่ลือกันมาอย่างแรกคือรุ่นต่อไปจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่กว่าเดิม (รุ่นเดิมใช้จอขนาด 5.3") และใช้จอที่เรียกว่า unbreakable plane display (UBP) ที่บางลง และมีความยืดหยุ่นสูง

ซัมซุงประกาศเปลี่ยนตัวซีอีโอคนใหม่ โดยดัน Kwon Oh-hyun ผู้บริหารฝ่ายผลิตชิปและชิ้นส่วนจอภาพขึ้นมาเป็นซีอีโอของ Samsung Electronics คนล่าสุด

ในงานแถลงข่าวรับตำแหน่ง Kwon เน้นว่าซัมซุงต้องโฟกัสไปที่ฝั่งซอฟต์แวร์ การออกแบบ ประสบการณ์ของผู้ใช้ และโซลูชันให้มากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า นอกจากนี้เขายังบอกทีมบริหารของเขาว่า ซัมซุงต้องสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักๆ ของตัวเองมากกว่านี้ เพื่อสร้างภาวะการนำที่สมบูรณ์แบบ (absolute lead) ไม่ให้คู่แข่งตามทัน

Samsung Safe เป็นแบรนด์ของซัมซุงระบุว่าเครื่องบางรุ่นเพิ่ม API พิเศษสำหรับผู้ผลิตซอฟต์แวร์ทำให้ซอฟต์แวร์จัดการจากศูนย์กลางสามารถจัดการได้มากกว่าปกติ จากเดิมที่โครงการนี้รองรับ Galaxy Note, Galaxy S II, และ Galaxy Nexus เท่านั้น ตอนนี้ก็เพิ่ม Galaxy S III เข้ามาแล้ว

เครื่องในโครงการ SAFE จะสามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์จัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ (Mobile Device Management - MDM) เช่นจาก Juniper หรือ Sybase ทำให้มีความสามารถที่เครื่องรุ่นอื่นๆ ไม่มีเช่น ควบคุมการเข้าถึง Play Store, สั่งติดตั้งโปรแกรมจากระยะไกล, เปิดปิด กล้อง/บลูทูธ/ไวไฟ, จัดการค่าเน็ตเวิร์ค, ควบคุมการตั้งรหัสผ่าน, สั่งติดตั้งใบรับรองการเข้ารหัส, ล็อคเครื่องหรือล้างเครื่อง, ตลอดจนสั่งเข้ารหัสเครื่อง