IDC ได้เผยข้อมูลยอดขายแท็บเล็ตรอบโลกสำหรับไตรมาสแรกของปี 2012 แม้ว่ายอดขาย iPad จะตกลงกว่า 20% จากไตรมาสก่อนหน้าก็ตาม แต่ส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตของแอปเปิลนั้นสูงขึ้นจากไตรมาสที่แล้วมาอยู่ที่ 68% จากเดิม 54.7% โดยทั้งหมดนี้เกิดจากยอดขายแท็บเล็ต Android ที่ลดลงมานั่นเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Kindle Fire จากไตรมาสก่อนหน้าที่ทำยอดขายได้อย่างถล่มทลายที่ 4.8 ล้านเครื่อง กลับทำยอดขายในไตรมาสแรกของปีนี้ได้น้อยกว่า 750,000 เครื่อง
เช่นกัน ส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตของ Amazon ในไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 16.8% แต่ในไตรมาสแรกของปีนี้กลับตกลงมาอยู่มากกว่า 4% เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในขณะเดียวกันซัมซุงกลับขโมยซีน Amazon ในตลาดนี้ไปได้ และครองอันดับที่สองในส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตไป
มาตามนัดหมายกับ Galaxy S III ที่จัดงานเปิดตัวอลังการ ณ Earls Court กรุงลอนดอน
หน้าตาของตัวเครื่องต้องบอกว่าใกล้เคียงกับ Galaxy Nexus แต่ว่ายังมีปุ่มจริงๆ อยู่ (โดยรวมแล้วเหมือนกับเครื่องที่หลุดมาครั้งท้ายๆ)
ในส่วนของสเปคเรียกได้ว่าอัพเกรดขึ้นทุกส่วนดังนี้
หลังจากที่อินเทลเปิดตัวชิปตระกูลใหม่ Ivy Bridge ไปแล้ว หลายเจ้าก็เริ่มทยอยปล่อยพีซี โน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปรุ่นใหม่นี้กันบ้างแล้ว
คราวนี้เป็นคิวของซัมซุงที่ขึ้นข้อมูลของ ultrabook รุ่นเรือธงอย่าง Series 9 ที่เปลี่ยนไปใช้ซีพียู Core i5-3317U (ที่ยังไม่ได้เปิดตัว) สัญญาณนาฬิกา 1.7GHz ส่วนฮาร์ดแวร์อื่นๆ ยังคงไม่ต่างจากเดิมคือใช้ SSD 128GB หน้าจอ 15 นิ้วความละเอียด 1600x900 พิกเซล และแรม 8GB โดยตัวเครื่องหนาขึ้นเล็กน้อยเป็น 14.9 มม. หนัก 1.65 กิโลกรัม
สำหรับราคา และวันวางจำหน่ายยังไม่มีข้อมูลออกมา คงต้องรอให้ทางอินเทลเปิดตัวซีพียูตัวที่ว่าก่อน (ครั้งนี้ซัมซุงน่าจะเผลอเอาขึ้นไปเอง)
ปี 2011 ที่ผ่านมานั้นนับเป็นปีแรกที่วงการสมาร์ทโฟนได้ใช้ชิปแบบดูอัลคอร์กันอย่างกว้างขวาง ล่าสุดผลบริษัทวิเคราะห์ข้อมูลอย่าง Strategy Analytics ได้ออกมาเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขของชิปดูอัลคอร์ว่าปีที่ผ่านมามีการใช้ชิปดูอัลคอร์เป็นสัดส่วนเทียบกับทั้งหมดแล้วอยู่ที่ 20% โดยมีซัมซุงเป็นแชมป์ผู้ผลิตชิปดูอัลคอร์ที่กวาดไปถึง 60% จากจำนวนชิปดูอัลคอร์ทั้งหมด
Strategy Analytics เผยว่าผู้ผลิตรายอื่นอย่าง NVIDIA, Qualcomm และ Texus Instruments ต่างก็พยายามแข่งขันกับซัมซุง โดยมีเจ้าที่ทำได้ดีที่สุดคือ Qualcomm ที่กินไปได้ 16% จากความได้เปรียบที่มีชิปบางตัวรองรับ LTE แล้ว แม้แต่สมาร์ทโฟนซัมซุงบางรุ่นที่ใช้ LTE ยังต้องเปลี่ยนมาใช้ชิปจาก Qualcomm เลย
IDC เผยตัวเลขจำนวนยอดขายสมาร์ทโฟนในไตรมาสแรกของปี 2012 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว (QoQ) ถึง 42.5% นับเป็นตัวเลขอยู่ที่ 144.9 ล้านเครื่อง
ในส่วนของแต่ละผู้ผลิต Samsung ขึ้นแท่นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเบอร์หนึ่งของโลก และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดที่ 29.1% ตามมาด้วยแอปเปิลที่โตขึ้นเล็กน้อยที่ 24.2% ส่วนเจ้าอื่นๆ อย่าง Nokia, BlackBerry และ HTC ต่างกอดคอกันส่วนแบ่งตกกันถ้วนหน้า
ที่มา - IDC
แม้ไม่อยากเจอก็อาจจะต้องมาเจอกัน เพราะศาลเขตแคลิฟอร์เนียเหนือได้สั่งให้ผู้บริหารระดับ "ซีอีโอ" และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของทั้งแอปเปิลและซัมซุง มาเจอกันเพื่อไกล่เกลี่ยคดีที่ฟ้องร้องกันวุ่นวายของทั้งคู่
งานนี้ศาลนัดวันแล้วเป็นวันที่ 21-22 พฤษภาคมนี้
ฝังแอปเปิลคาดว่า Tim Cook จะเดินทางมาด้วยตัวเอง ซึ่งเขาก็ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่ชอบกระบวนการฟ้องร้อง และต้องการสร้างนวัตกรรม จึงเป็นไปได้ว่าถ้าซัมซุงยอมตามข้อตกลงบางอย่างของแอปเปิล (ในเรื่องการไม่ทำอะไรซ้ำหรือคล้ายกัน) ทางแอปเปิลอาจจะยอมไกล่เกลี่ยคดีก็เป็นได้
จากข่าว ซัมซุงไตรมาสแรกกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ - ขึ้นแท่นผู้ผลิตมือถือเบอร์ 1 แทนโนเกีย เป็นการอ้างอิงตัวเลขส่วนแบ่งตลาดจากบริษัท Strategy Analytics เพียงบริษัทเดียว
สำหรับสถิติของบริษัท IHS iSuppli ถึงแม้ตัวเลขประเมินจะไม่ตรงกัน แต่ก็ยกให้ซัมซุงเป็นหมายเลขหนึ่งในตลาดมือถือรวมแล้ว โดยไตรมาสแรกของปี 2012 ซัมซุงมียอดส่ง (shipment) มือถือที่ 92 ล้านเครื่อง นำหน้าโนเกียที่ขายได้ 83 ล้านเครื่อง ที่เหลือคือแอปเปิลตามมาห่างๆ ที่ 35 ล้านเครื่อง, LG 14 ล้านเครื่อง, RIM 11 ล้านเครื่อง การตกบัลลังก์ของโนเกียครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 เลยทีเดียว
หลังจากที่ได้มีข่าวว่าทาง Samsung ออสเตรเลียส่งคนไปหน้า Apple Store วันนี้ทาง Samsung ออสเตรเลียได้ออกมาบอกกับทาง SlashGear ว่า Samsung ออสเตรเลีย ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแคมเปญ "Wake Up" นี้ใด ๆ ทั้งสิ้น
ฉะนั้นตอนนี้เป้าสายตาก็ตกไปที่ธนาคาร National Australia Bank หรือ NAB ที่คาดการณ์กันว่าจะเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่ใช้พลังงานโซลาร์เซลล์ และแน่นอนว่าถ้า Samsung ยืนยันแบบนี้ Samsung ก็คงไม่ผิดแล้วครับ
ซัมซุงรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2012 มีรายได้ 45.27 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิสูงสุดในประวัติศาสตร์บริษัท 5.05 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้นถึง 81% เมื่อเทียบกับปีก่อน
กลุ่มธุรกิจที่สร้างกำไรอย่างงดงามให้ซัมซุงไตรมาสนี้ก็ไม่พ้นแผนกสินค้าไอทีและอุปกรณ์สื่อสารพกพา โดยมีสองสินค้าขายดี กำไรสูง Galaxy Note และ Galaxy S II เป็นหัวหอกหลัก เช่นเดียวกับธุรกิจชิ้นส่วนจอภาพที่มีกำไรเพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามธุรกิจโทรทัศน์และพีซีนั้นมียอดขายและกำไรลดลงซึ่งซัมซุงกล่าวว่าเป็นเพราะความต้องการสินค้าลดลงตามฤดูกาล
ใกล้วันเปิดตัว Galaxy S3 เข้าไปทุกที ก็มีภาพหลุดออกมาทุกวัน ต่อจากภาพสเก็ตก็มีภาพล่าสุดเป็นจอขนาด 4.7 นิ้ว หน้าตาโค้งมนเหมือน Galaxy Nexus แต่มีปุ่ม Home ถ้าหลุดกันขนาดนี้ไม่ต้องมีการเปิดตัวก็น่าจะได้
ส่วนชื่อที่จะใช้เป็นทางการ คาดว่าเป็น Galaxy S3 ตามที่พบในซอฟต์แวร์ KIES ของซัมซุงเอง ซึ่งมี 2 รุ่นคือ GT-I9300 และ GT-I9300T
ดูภาพได้จากที่มาครับ
ซัมซุงออสเตรเลียออกแคมเปญโฆษณาต้อนรับ Galaxy S III ชื่อว่า "WAKE UP" โดยส่ง "คนชุดดำ" ไปยืนประท้วงหน้าร้าน Apple Store ในซิดนีย์ พร้อมป้ายเขียนข้อความว่า "WAKE UP" หรือ "ตื่นได้แล้ว" (ดูคลิปประกอบ)
นอกจากนี้ แคมเปญยังขึ้นป้ายบิลบอร์ดข้อความ WAKE UP ตามสถานที่ต่างๆ ในออสเตรเลียด้วย ส่วนเว็บไซต์ของแคมเปญ ถ้ากดเข้าไปแล้วจะเป็นนาฬิกานับถอยหลัง (ถึงวันเปิดตัวของ S III?) เจ้าของโดเมนเป็นเอเยนซีโฆษณาชื่อ Tongue ครับ
ยังคงมีรายละเอียดของ Galaxy S III ออกมาก่อนงานเปิดตัวเรื่อยๆ (มาดูกันว่าจะหลุดจนถึงวันที่ 3 เลยรึเปล่า) คราวนี้มาในรูปแบบของภาพสเก็ตตัวเครื่องที่อาจหลุดมาจากคู่มือการใช้งาน พร้อมทั้งสเปคเครื่องบางส่วน
หน้าตาของตัวเครื่องจากภาพที่ออกมายังใกล้เคียงกับการออกแบบของซัมซุงในช่วงหลังๆ มากขึ้น คือขอบตัวเครื่องมนกว่ารุ่นก่อนหน้า และปุ่มโฮมแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า (หน้าตาเหมือนในข่าวก่อนหน้า) แต่ขัดกับข่าวก่อนหน้าตรงที่ยังมีปุ่ม menu และ back ที่ยังเป็นปุ่มจริงๆ อยู่
ทางด้านสเปคนอกจากซีพียูที่ใช้ Exynos 4 Quad อย่างแน่นอนแล้ว ก็มีเพิ่มเติมมาอีกดังนี้
เว็บไซต์ Android and Me อ้างแหล่งข่าวจาก Digitimes ว่าซัมซุงได้ร่วมมือกับกูเกิลเพื่อทำสมาร์ทโฟนซีรีส์ Nexus รุ่นที่สี่แล้ว และนับเป็นสามรุ่นติดต่อกันของซีรีส์ Nexus ที่กูเกิลทำร่วมกับซัมซุง
แหล่งข่าวให้เหตุผลว่ากูเกิลยังคงเล็งเห็นว่าซัมซุงเป็นผู้ผลิตแอนดรอยด์เบอร์หนึ่งของตลาด ซึ่งประสิทธิภาพของซัมซุงในแง่ของนวัตกรรม และซัพพลายเชนเป็นผลดีต่อแอนดรอยด์ ซึ่งเป็นเหตุผลให้กูเกิลยังคงจับมือกับซัมซุงต่อไป
อย่างไรก็ตามกว่าซีรีส์ Nexus จะเปิดตัวรุ่นใหม่ก็กินเวลาถึงช่วงปลายปี ข่าวอาจเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อครับ
ในงาน International Solid-State Circuits Conference ซัมซุงเคยโชว์ซีพียูตระกูล Exynos รุ่นควอดคอร์อย่าง Exynos 4412 ไปแล้ว ซึ่งชิปตัวนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นตัวที่ใช้ใน Galaxy S III
ข่าวหลุดประจำวันของ Galaxy S III มาอีกแล้ว คราวนี้เป็นภาพตัวเครื่องซึ่งอยู่ในกรอบหลอก (dummy box) จากฟอรัมของประเทศจีน mobile01
ภาพหลุดคราวนี้เผยให้เห็นปุ่มกดบนหน้าจอของ Galaxy S III ที่เปลี่ยนไปใช้ไอคอนของ TouchWiz แล้ว หมายความว่าเครื่องนี้น่าจะใหม่กว่าตัวก่อนหน้าที่หลุดมา
จุดน่าสังเกตอีกอย่างคือ Samsung เลือกเรียงปุ่มบนหน้าจอต่างกับมาตรฐาน โดยเรียงเป็น menu, recent apps, home และ back ส่วนแบบมาตรฐานจะเป็น back, home และ recent apps (ส่วน menu จะโผล่มาท้ายสุด เฉพาะบางแอพ)
สามารถดูภาพหลุดได้ท้ายข่าวครับ
แม้ว่า Galaxy S III (หรืออาจจะชื่อ S3 ?) จะพร้อมเปิดตัวในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ แต่ในความเป็นจริงต้องมีเครื่องต้นแบบออกมาแล้ว และเพิ่งมีคนไปเห็นผลทดสอบของเจ้าเครื่องรุ่นที่ว่าเข้า ซึ่งในผลทดสอบยังเป็นรหัส "GT-i9300" อยู่ด้วยซ้ำ
ก่อนจะพูดถึงผลทดสอบ ข้อมูลดังกล่าวยังรวมถึงสเปคของเจ้ารุ่นใหม่นี้ด้วย เป็นชิปรุ่น Exynos 4412 ที่ใช้ซีพียูควอดคอร์ Cortex-A9 และจีพียู Mali-400 รุ่นเดียวกับ Galaxy S II (แต่แหล่งข่าวระบุว่าเพิ่มความถี่จากเดิม 260MHz เป็น 440MHz)
ตามธรรมเนียมของซัมซุงก่อนจะจัดงาน UNPACKED (ที่มีสินค้ารุ่นใหม่มาเปิดตัว) จะมาพร้อมกับแอพ UNPACKED บนแอนดรอยด์ด้วย เช่นเดียวกับครั้งนี้ที่ซัมซุงได้ปล่อยแอพ "SAMSUNG mobile UNPACKED 2012" เพื่อเตรียมพร้อมก่อนงาน UNPACKED London วันที่ 3 พฤษภาคมนี้
แต่ครั้งนี้พิเศษกว่าปกตินิดหน่อย เพราะนอกจากข้อมูลการจัดงาน และรายละเอียดอื่นๆ (ซึ่งในส่วนของรายละเอียดตัวเครื่องจะไม่เผยจนกว่าจะเปิดตัว) กลับมีชื่อของ Galaxy S3 หลุดออกมาในรายละเอียดของแอพด้วย ซึ่งไม่ตรงกับก่อนหน้าที่ซัมซุงใช้ชื่อรุ่นเก่าว่า Galaxy S II (และทำให้คนคาดว่ารุ่นใหม่จะชื่อ Galaxy S III)
ต่อเนื่องจากข่าว Samsung เปิดเว็บลึกลับ นับถอยหลังเผยปม Galaxy S III ตอนนี้เว็บไซต์ http://www.tgeltaayehxnx.com/ ได้นับถอยหลังเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ที่เข้าไปตอนนี้จะพบกับปริศนาเรียงคำ (ซึ่งเราเฉลยไปแล้ว!) พอแก้สำเร็จจะมีปุ่มสำหรับรีไดเร็คไปที่เว็บไซต์ http://www.thenextgalaxy.com/ ที่เลิกล็อกรหัสเรียบร้อยแล้ว
เมื่อคืนนี้ถ้าใครตาม Twitter ของ Samsung Mobile จะเห็นว่าบัญชีดังกล่าวทวีตตัวหนังสือแปลกๆ ออกมา นั่นคือประโยคนี้ "Destination: tgeltaayehxnx" ซึ่งท้ายที่สุดแล้วมีคนแกะออกมาเป็นประโยคสมบูรณ์ได้ว่า "The Next Galaxy" นั่นหมายถึง Galaxy S III อย่างแน่นอน
Samsung เปิดให้จอง Galaxy S III ผ่าน Amazon Germany ในราคา 599 ยูโร (ประมาณ 25,000 บาท) ทั้งๆ ที่ยังไม่เปิดตัว พร้อมเผยสเปกคร่าวๆ ของมือถือเรือธงตัวนี้ด้วย
โดยสเปกที่หลุดออกมาระบุว่า Galaxy S III จะมาพร้อมกับจอ 4.7 นิ้วแบบ AMOLED, กล้อง 12 ล้านพิกเซล, หน่วยความจำภายใน 16GB (ใส่ Micro SD Card เพิ่มได้) และมาพร้อมกับ Android 4.0
ข้อมูลหลุดครั้งนี้ไม่มีข้อมูลของ Processor และรูปภาพตัวเครื่อง ใครกล้าจองก็สามารถไปจองได้ที่นี่
บริษัท Startapp ซึ่งทำธุรกิจด้านการเก็บสถิติและโฆษณาบนมือถือ เผยผลสำรวจข้อมูลจากนักพัฒนา Android จำนวนหนึ่ง (Startapp ไม่ได้ระบุจำนวนกลุ่มสำรวจ) มีประเด็นน่าสนใจดังนี้
เว็บไซต์ Maeil Business ของเกาหลีใต้ให้ข่าววงในว่า ซัมซุงเตรียมเปิดตัวบริการกลุ่มเมฆ S-Cloud ในงานแถลงข่าววันที่ 3 พฤษภาคมนี้ที่กรุงลอนดอน
แหล่งข่าวบอกว่า S-Cloud จะทำงานคล้ายกับ iCloud ของแอปเปิล แต่ไม่จำกัดชนิดของไฟล์ที่สามารถอัพโหลดขึ้นไปได้ นอกจากนี้มันยังจะใช้กับผลิตภัณฑ์ของซัมซุงได้เกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือมือถือ
S-Cloud ยังสามารถซื้อคอนเทนต์ออนไลน์อย่างภาพยนตร์ ทีวี เพลง ได้ด้วย เนื้อที่เริ่มต้นคาดว่า 5GB และข่าวยังบอกว่างานนี้จับมือกับไมโครซอฟท์เพื่อให้บริการได้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก
ใกล้ถึงวันเปิดตัวของ Galaxy S III สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงที่หลายคนรอคอย และก็มีข่าวหลุดออกมามากมาย (อ่านย้อนได้จากแทก Galaxy S III)
ล่าสุดมีข้อมูลของ Galaxy S III หลุดออกมาอีกครั้งจากเว็บไซต์เวียดนามชื่อว่า Tinhte ซึ่งไม่ได้มาแค่รูปเหมือนก่อนหน้า แต่มาเป็นวิดีโอเลยทีเดียว โดยตัวเครื่องยังเป็นพลาสติกทั้งตัวอยู่ และไม่มีปุ่มจริงๆ อีกต่อไปแล้ว (ดูได้ท้ายข่าว)
หลังจากทาง Samsung ได้ปล่อย Ice Cream Sandwich ของ Galaxy S II ให้ประเทศอื่น ได้ลิ้มชิมรสหวาน ๆ สักพักใหญ่ ๆ แล้ว วันนี้ถึงตาของดินแดนลุงแซม หรือสหรัฐอเมริกานี่เอง แต่ใช่ว่าผู้ใช้ Galaxy S II ในสหรัฐฯ จะได้ทุกคนนะครับ เพราะรอบนี้ออกมาสำหรับรุ่นปลดล็อกเท่านั้น
ไฟล์ของตัวอัพเดต Ice Cream Sandwich ของ Galaxy S II มีขนาด 216.55 MB ซึ่งขอแนะนำว่าให้อัพเดตทาง Wi-Fi จะดีกว่า และที่สำคัญคือ ต้องสำรองข้อมูลก่อนอัพเดตด้วย มิเช่นนั้นข้อมูลของคุณจะหายไปในทันที่ที่อัพเดต เดี๋ยวหาว่าไม่เตือน
ใครที่ถือเครื่องหิ้วมาก็สามารถอัพเดตได้ทาง Over-the-Air ได้แล้ววันนี้
Gizmodo Brazil เปิดเผยภาพล่าสุดของ Samsung Galaxy S III โดยระบุว่าตัวเครื่องนั้นบางขึ้นแต่หนักกว่าเดิม
ลักษณะของ S III ตัวนี้ตัวเครื่องเป็นสี่เหลี่ยม มีกระจกแก้วรูปวงรีครอบอยู่ด้านบน มีปุ่ม home จริงๆ กับปุ่มแบบ capacitive (ไม่ใช่ปุ่มเสมือนที่อยู่บนจอทั้งหมดแบบ Galaxy Nexus)
จากการทดสอบบอกว่า S III เครื่องนี้มาพร้อมกับกล้อง 12 Megapixels แต่ที่น่าสนใจคือไม่มีวัสดุลายเหล็กขัด (brushed metal) อยู่บนเครื่องตามข่าวเก่า
รายงานยังบอกว่าเลขรหัสเครื่องของรุ่นนี้เป็น GT-I9300 ตามข่าวเก่า ผู้ที่อยากดูรูปกดเข้ามาได้หลัง Break ครับ