DigiTimes เปิดเผยว่ามีผู้สนใจนำระบบปฎิบัติการ Tizen ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ของตน ดังนี้
หาก Tizen สามารถรันแอพพลิเคชันสำหรับ Android โดยใช้โซลูชัน Application Compatibility Layer (ACL) ของบริษัท Open Mobile ได้สมบูรณ์ ก็อาจทำให้ระบบปฎิบัติการน้องใหม่นี้น่าสนใจไม่ใช่น้อย
จากข่าว Galaxy S III วางขายในไทย 7 มิถุนายนนี้ ซึ่งเว็บไซต์ MXPhone ระบุราคาว่าอยู่ "ประมาณ" 23,000 บาท
ล่าสุด MXPhone ให้ข้อมูลใหม่ว่าแหล่งข่าวของซัมซุงประเทศไทย แจ้งราคาใหม่เป็น 21,900 บาท โดยจะยังขายวันที่ 7 มิถุนายนเหมือนเดิม (เท่าที่ผมเช็คจากช่องทางการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของซัมซุงประเทศไทย ยังไม่มีประกาศตัวเลขนี้อย่างเป็นทางการนะครับ)
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับทางเว็บไซต์ DroidSans ชุมชนผู้ใช้แอนดรอยด์ของประเทศไทย ที่ระบุว่าตั้งราคา 21,900 บาทเช่นกัน
JK Shin รองประธานที่ดูแลธุรกิจสายโทรศัพท์มือถือให้สัมภาษณ์ขณะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อเจรจาต่อรองในคดีความด้านสิทธิบัตรกับแอปเปิลว่า ยังมีช่องว่างในสงครามสิทธิบัตรระหว่างบริษัทกับแอปเปิลอยู่อีกมาก แต่ซัมซุงยังมีทางเลือกในการเจรจา รวมถึงการใช้สิทธิบัตรร่วมกัน (cross-licensing)
การให้สัมภาษณ์นี้ดูจะมีความประณีประนอมมากกว่าเมื่อครั้งที่เขาให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นเขากล่าวว่าไม่มีการต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น
หนึ่งในฟีเจอร์เด็ดของ Samsung Galaxy S III นั่นก็คือ S Voice ที่ทำงานคล้ายกับ Siri บน iPhone 4S ล่าสุด Ascarface23 ผู้ใช้คนหนึ่งใน XDA-Developers ได้ปล่อยไฟล์ .apk ของแอพฯ S Voice ตัวนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เท่าที่ผู้อัพโหลดไฟล์นี้ทดสอบมาสามารถใช้ได้กับ Android 4.0 Ice Cream Sandwich และก็ต้อง Root เครื่องเรียบร้อยแล้วด้วย โดยที่ทีมงาน Engadget ก็ได้ทดสอบมาแล้วว่ามันใช้งานได้จริง (สามารถดาวน์โหลดและดูวิธีการใช้จากลิงค์ XDA-Developers ครับ)
เว็บไซต์พันธมิตรของเรา MXPhone เผยแพร่โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ Galaxy S III ในประเทศไทย ซึ่งเขียนชัดเจนว่าเริ่มวางขายพร้อมกันทั่วประเทศ 7 มิถุนายนนี้
MXPhone ยังให้ข้อมูลว่า Galaxy S III จะแบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยตามคลื่น 3G ในบ้านเรา คือ 900MHz (GT-I9300) และ 850MHz (GT-I9300T) ส่วนเรื่องสีก็มีครบทั้ง 2 สีตามต้นฉบับคือขาวและน้ำเงิน
ราคาอยู่ที่ "ประมาณ" 23,000 บาท นอกจากนี้ยังมีโปรโมชันเสริมของโอเปอเรเตอร์ใหญ่ทั้ง 3 รายอีกด้วย
ที่มา - MXPhone
สำนักข่าว Reuters อ้างข้อมูลจาก Korea Economic Daily ระบุว่าตัวเลขจองซื้อสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ของซัมซุง Galaxy S III ซึ่งจำหน่ายผ่านตัวแทนผู้ให้บริการเครือข่ายกว่า 100 ร้านทั่วโลกตอนนี้ทะลุ 9 ล้านเครื่องไปแล้ว ทั้งนี้ Galaxy S III ชุดแรกจะส่งมอบให้กับลูกค้าในเยอรมันวันที่ 29 พฤษภาคมนี้ จากนั้นจึงทยอยส่งมอบทั่วโลกต่อไป
รายงานข่าวยังระบุว่าสายการผลิตสมาร์ทโฟนในโรงงานที่ประเทศเกาหลีใต้ของซัมซุงนั้น ตอนนี้มีกำลังการผลิตอยู่ในระดับเต็มอัตราที่ทำได้ 5 ล้านเครื่องต่อเดือน
ที่มา: Reuters
สำนักข่าว DigiTimes รายงานว่าแอปเปิลเพิ่งทำคำสั่งซื้อชิป DRAM เป็นจำนวนมหาศาลสำหรับใช้ใน iPhone และ iPad จากบริษัท Elpida ประเทศญี่ปุ่น โดยปริมาณสั่งซื้อนั้นคิดเป็นครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตในโรงงาน Elpida เลยทีเดียว
ข่าวดังกล่าวส่งผลต่อบริษัทผู้ผลิต DRAM ที่มีส่วนแบ่งยอดขายสูงของโลก ได้แก่ ซัมซุง (53.8%) และ SK Hynix (20.8%) ทำให้ราคาหุ้นสองบริษัทนี้ปรับตัวลงอย่างมาก โดยนักวิเคราะห์มองว่าแอปเปิลอาจไม่ต้องการให้ซัมซุงและ Hynix มีอำนาจในตลาดนี้มากเกินไปจึงตัดสินใจสั่งซื้อ DRAM จากผู้ผลิตรายอื่นแทนเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในอนาคต
บริษัท Elpida เพิ่งยื่นขอล้มละลายและพิทักษ์สินทรัพย์ การได้คำสั่งซื้อใหญ่จากแอปเปิลนี้จึงอาจช่วยต่อลมหายใจของบริษัทไปได้อีกระยะหนึ่ง
Samsung Galaxy S III รุ่นที่เปิดตัวขายทั่วโลกให้แรม 1GB ซึ่งอาจดูน้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับศักดิ์ศรีของมือถือรุ่นท็อป อย่างไรก็ตามอาจมีคำอธิบายในมุมกลับเช่นกันว่าแรม 1GB เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
ถ้ามือถือรุ่นท็อปทุกรุ่นใช้แรม 1GB ก็คงไม่มีปัญหา แต่ในวันเดียวกันกับที่เปิดตัว S III ทาง LG เปิดตัว Optimus LTE2 พร้อม RAM 2GB มาข่ม และเมื่อมือถือสองรุ่นนี้ต้องวางขายชนกันในตลาดญี่ปุ่นกับ NTT DOCOMO เลยเป็นเหตุให้ซัมซุงต้องอัพเกรดสเปกตาม
Gartner เผยส่วนแบ่งตลาดมือถือโลกประจำไตรมาสแรกของปี 2012 พบว่ายอดขายมือถือลดลงจากไตรมาสแรกของปี 2011 อยู่ 2% ซึ่งถือว่าผิดปกติพอสมควร เนื่องจากตรงกับเทศกาลตรุษจีนที่ยอดขายมือถือในเอเชียแปซิฟิกมักพุ่งสูงเป็นพิเศษ
Gartner ให้ความเห็นว่าปัจจัยอาจเป็นเพราะไม่มีมือถือใหม่ที่น่าสนใจวางขายเยอะพอ และผู้ใช้รอมือถือรุ่นดีๆ ที่จะวางขายในช่วงอื่นของปีแทน อย่างไรก็ตาม Gartner ยังมองในแง่ดีว่า Android/Windows Phone รุ่นใหม่ รวมไปถึง iPhone 5 น่าจะช่วยกระตุ้นตลาดประเทศพัฒนาแล้วได้เพิ่มในครึ่งหลังของปีนี้
สำหรับส่วนแบ่งตลาดผู้ผลิตมือถือ แชมป์โดยรวมยังเป็นของซัมซุงที่ 20.7%, อันดับสองโนเกีย 19.8%, แอปเปิล 7.9%, ZTE 4.2%, แอลจี 3.5%
ข่าวนี้ไม่ลือครับ เพราะมีคนไปแกะข้อมูลจากโค้ดเคอร์เนลของ Android ที่กูเกิลกำลังพัฒนาอยู่ (AOSP) และพบการเขียนโค้ดให้รองรับ "อุปกรณ์ลึกลับ" รุ่นหนึ่งที่มีสเปกดังนี้
หลังจากมีภาพตัวเครื่องต้นแบบ Tizen ก็มีข่าวลือจาก SamMobile ว่าเครื่อง Tizen ต้นแบบรหัส i9500 โค้ดเนม Fraser จะใช้จอ Super AMOLED HD Plus คล้ายกับตัว Samsung Galaxy Note หรือ Galaxy S III แต่สิ่งที่แตกต่างคือกลับใช้จอที่เป็นแบบ RGB แทนที่จะใช้จอ Pentile ที่เสื่อมสภาพช้ากว่า
ถ้าข่าวลือเป็นจริง คนที่เกลียดจอ Pentile คงจะน้ำลายหกเป็นแน่ (ยกเว้นเสียแต่ว่า เครื่องที่หนาเอาเรื่อง)
ประเด็นเรื่องการเรียงพิกเซลแบบ PenTile (RGBG) ในจอภาพ AMOLED อาจเป็นที่ขัดใจของใครหลายคน เนื่องจากให้ความคมชัดน้อยกว่าการเรียงแบบ RGB ปกติ
ที่หลายคนสงสัยอาจเป็นคำถามว่าทำไม Galaxy S II ใช้การเรียงแบบ RGB แล้วจึงเปลี่ยนกลับมาเป็น PenTile ใน Galaxy S III
เรื่องนี้ Philip Berne ตัวแทนของซัมซุงออกมาอธิบายกับเว็บไซต์ MobileBurn แล้วว่าเหตุผลเป็นเพราะเม็ดสีของจอแบบ AMOLED จะเสื่อมสภาพเร็วช้าไม่เท่ากัน โดยสีน้ำเงินจะเสื่อมเร็วที่สุด ดังนั้นการเรียงพิกเซลแบบ RGBG (สีเขียวมากกว่าปกติสองเท่า) จะทำให้สัดส่วนของพิกเซลสีน้ำเงินมีน้อยกว่าในจอแบบ RGB ส่งผลให้จอ PenTile เสื่อมสภาพช้าลง
นอกจากซัมซุงได้เปิดตัว Focus 2 สำหรับตลาดประเทศสหรัฐฯ แล้ว วันนี้บริษัทก็ได้เปิดตัว Windows Phone อีกรุ่นสำหรับตลาดนอกสหรัฐฯ ชื่อ Omnia M โดยมีสเปคเป็นดังนี้
จากที่ซัมซุงประกาศมาสักระยะแล้วว่า Galaxy Note จะได้อัพเกรด ICS ช่วงไตรมาสที่สองของปี ล่าสุดเว็บไซต์ SammyHub รายงานข่าวว่ามีผู้ใช้ Note บางกลุ่มเริ่มได้อัพเกรดกันแล้ว
ตามข่าวบอกว่า Note จะได้อัพเป็น Android 4.0.3 พร้อม TouchWiz และแอพใหม่กลุ่ม Premium Suite คือ S Note และ S Memo ครับ
ที่มา - SammyHub
สองยักษ์ใหญ่แห่งวงการอุปกรณ์พกพาซัมซุง และ Qualcomm ประกาศสร้างพันธมิตร Alliance for Wireless Power (A4WP) สำหรับพัฒนาเทคโนโลยีชาร์จไร้สาย โดยมีบริษัทร่วมด้วยอีกจำนวนหนึ่งได้แก่ Powermat, SK Telecom, Ever Win Industries, Gill Industries และ Peiker Acustic
เป้าหมายของกลุ่ม A4WP คือการผลักดันมาตรฐานการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย และสร้างกระบวนการรับรองสำหรับเทคโนโลยีดังกล่าว ในส่วนของทางเทคนิคจะเน้นไปที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น (น่าจะหมายถึงดีกว่า Qi ที่ใช้ได้ราว 1.6 นิ้ว) และชาร์จได้พร้อมกันคราวละหลายเครื่อง
ซัมซุงเพิ่งเปิดตัวบริการฟังเพลงของตัวเองชื่อว่า Music Hub ไปพร้อมๆ กับ Galaxy S III ซึ่งคิดค่าบริการผู้ใช้งานตั้งแต่ 9.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับใช้เครื่องเดียว และ 12.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับใช้งานสี่เครื่อง
ล่าสุดสำนักข่าวท้องถิ่นของเกาหลีใต้ Mael Business รายงานว่าซัมซุงได้เข้าซื้อบริษัทชื่อว่า mSpot ผู้ให้บริการฟังเพลงผ่านระบบกลุ่มเมฆ ด้วยราคาประมาณ 10,000 ล้านวอน (ประมาณ 270 ล้านบาท) ซึ่งคาดว่าระบบของ mSpot จะถูกโยกไปใช้สำหรับให้บริการ Music Hub ของซัมซุงแน่นอน และอาจจะเพิ่มการให้บริการในส่วนของภาพยนตร์ด้วย หลังจากที่ mSpot เองเพิ่งเปิดบริการสตรีมภาพยนตร์ไปเมื่อไม่นานมานี้
การเปิดตัว Galaxy S III ก็เป็นไปตามคาดหมายของหลายๆ คนทั้งชื่อรุ่นและสเปคที่ไม่ได้หลุดโผไปไกลนัก ถึงตอนนี้ที่ทุกคนรอคอยคงเป็นราคาในประเทศไทย จากการพูดคุยกับคนในซัมซุงบ้างคาดกันว่าราคา "คงจะ" แพงกว่าตอนเปิดตัว S II ดังนั้นเราคงต้องมองกันกว่าราคาไปหยุดอยู่ที่เท่าใด
แต่ประเด็นที่ผมอยากจะเขียนถึงโทรศัพท์ตัวนี้อีกครั้งไม่ได้เกี่ยวกับ S III เสียทีเดียว แต่เป็นเรื่องของงานเปิดตัวที่ผ่านมา
AT&T ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของสหรัฐฯ ได้เปิดตัว Samsung Focus 2 หรือโค้ดเนม Mandel อย่างที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ โดย Samsung Focus 2 จะรองรับ LTE ด้วย
สเปคเต็ม ๆ ของรุ่นนี้คือ จอ 4 นิ้ว Super AMOLED, กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช บันทึกวีดีโอความคมชัด 720p, กล้องหน้าระดับ VGA พร้อมรองรับ LTE และมีความบาง 0.43 นิ้ว หรือ 1.05 เซนติเมตร หนัก 4.3 ออนซ์
ทั้งนี้ Samsung Focus 2 จะวางจำหน่ายวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ในราคา 49.99 ดอลลาร์สหรัฐ ติดสัญญา 2 ปี แต่ถ้าไม่ติดสัญญา จะขายอยู่ที่ 399.99 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 12,400 บาท
เว็บไซต์ข่าวสารด้านไลฟ์สไตล์และเทคโนโลยีแห่งหนึ่งรายงานโดยอ้างการสัมภาษณ์กับผู้บริหารระดับสูงของซัมซุงว่า ในตลาดแพลตฟอร์มตระกูล Windows นั้นซัมซุงมีเป้าหมายจะต่อกรกับโนเกียเป็นหลัก โดยบริษัทจะปล่อยแท็บเล็ตที่รัน Windows 8 สองรุ่น และวินโดวส์โฟนตระกูล Focus สองรุ่น รุ่นหนึ่งจะมีชื่อว่า Focus II และจะมีรูปลักษณ์เครื่องและสเปคฮาร์ดแวร์บนพื้นฐานของ Galaxy S III ส่วนอีกรุ่นจะอยู่บนพื้นฐานของ Galaxy Note
หากซัมซุงจะทำวินโดวส์โฟนที่มีหน้าจอ 5.3 นิ้วและรองรับปากกาสไตลัสในลักษณะ Galaxy Note จริง ก็ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าไมโครซอฟท์หรือซัมซุงเองเป็นผู้พัฒนาให้ Windows Phone รองรับสเปคลักษณะนี้
เว็บไซต์ WPXAP ของประเทศจีนได้เผยภาพหลุดด้านหลังตัว Windows Phone ของ Samsung ตัวใหม่ ในรหัสว่า SGH-i667 โค้ดเนม Mandel (คนละเรื่องกับผู้ค้นพบความแตกต่างของยีนส์นะครับ) ซึ่งมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับตัว Samsung Galaxy S III ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยรุ่นนี้จะรองรับ LTE อีกด้วย
นอกจากนี้เว็บไซต์เดียวกันนี้ก็ได้เผยภาพตอนขณะที่เชื่อมต่อเข้าโปรแกรม Zune Desktop ซึ่งก็เผยว่ามีหน่วยความจำภายใน 8 GB แถมยังมีเอกสารของ FCC ได้อนุมัติรุ่นนี้ให้จัดจำหน่ายแล้ว และยังได้รับการยืนยันรุ่นจาก BT Certification อีกต่างหาก
ก่อนหน้านี้เรามีข่าวลือว่า Samsung หยุดผลิต Galaxy Tab 2 รุ่นจอ 10.1 นิ้วเพื่อเพิ่มสเปคเป็นควอดคอร์ สุดท้ายข่าวลือไม่เป็นจริง เพราะซัมซุงเดินหน้าขาย Galaxy Tab 2 10.1 ด้วยสเปกเดิม (ดูอัลคอร์) แต่ราคาลดลง
Galaxy Tab 2 10.1 รุ่น 16GB จะตั้งราคาที่ 399 ดอลลาร์ (ประมาณ 12,000 บาท ซึ่งจะถูกกว่าข่าวก่อนหน้านี้ว่ารุ่น 8GB ราคา 399 ดอลลาร์) เปิดให้สั่งซื้อออนไลน์แล้ว ของจะได้วันที่ 13 พฤษภาคมนี้
Galaxy S III สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงจากซัมซุงที่เปิดตัวไป มาวันนี้มีผลการทดสอบเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปจากค่ายอื่นแล้ว รวมถึงเทียบกับคู่แข่งอย่าง iPhone 4S และรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S II ด้วย
ก่อนดูผลการทดสอบจะพูดถึงชิปตัวใหม่ที่ใช้ใน Galaxy S III ก่อนนั่นคือ Exynos 4 Quad (Exynos 4412) ที่ใช้ซีพียู ARM Cortex-A9 ความถี่ 1.4GHz แบบควอดคอร์ และจีพียู ARM Mali-400MP4 ที่คาดว่าเพิ่มสัญญาณนาฬิกาขึ้นไปจากชิปรุ่นแรก (หมายถึง Exynos 4210)
โอเปอเรเตอร์และร้านค้าในอังกฤษเริ่มเผยราคาของ Galaxy S III กันแล้ว
การเปิดตัว Galaxy S III เมื่อคืนนี้ มีประเด็นที่น่าสนใจและน่าพูดถึงหลายอย่าง แต่ผมคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ "ทิศทาง" การพัฒนาของสมาร์ทโฟนระดับ flagship ในรอบปีล่าสุด
จากข้อมูลล่าสุดของ Asymco พบว่า 99% ของกำไรจากอุตสาหกรรมมือถือจากบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของโลก 8 รายตกตกอยู่กับแอปเปิลและซัมซุงเท่านั้นในไตรมาแรกของปีนี้ โดย 73% ของกำไรทั้งหมดในอุตสาหกรรมตกอยู่ที่แอปเปิล (จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 75%) ในขณะที่ซัมซุงเอาไปอีก 26% (จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 16%)
สำหรับอันดับที่สาม HTC มีส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 1% ในขณะที่ผู้ผลิตรายใหญ่รายอื่น ๆ อย่าง RIM, LG, Sony Ericsson, Motorola และ Nokia ต่างก็ขาดทุนจากธุรกิจผลิตโทรศัพท์มือถือทั้งสิ้น