Valve มีอินเทอร์เฟซ SteamVR สำหรับควบคุมแอพ Steam ผ่านแว่น VR มาตั้งแต่ปี 2014 ในยุค Oculus Rift จากนั้นมันก็อยู่เคียงข้างแว่น VR มาหลายยุคสมัย เช่น HTC Vive, Windows Mixed Reality และ Valve Index

แม้ช่วงหลัง Valve เงียบๆ ไปไม่ค่อยสนใจ VR แล้ว (โดยเฉพาะหลังออก Half-Life: Alyx) แต่ SteamVR ยังไม่ถูกทิ้ง โดยล่าสุดได้อัพเกรดเป็นเวอร์ชันใหญ่ SteamVR 2.0 ถือเป็นการอัพเกรดใหญ่ครั้งแรกนับตั้งแต่ออกเวอร์ชันแรก

Valve เปิดสถิติยอดผ้ใช้งานที่มีอุปกรณ์ VR บน Steam เพิ่มขึ้น 0.62% ในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายนปีนี้ สาเหตุหลักมาจากผู้เล่นเกม Half-Life: Alyx แม้ตัวเลขอาจจะดูน้อย แต่จำนวนผู้เล่นที่ถูกเปิดเผยล่าสุดโดย Valve เมื่อเดือนมกราคมปี 2019 คือ 90 ล้านคน ซึ่งหลังเวลาผ่านมาหนึ่งปีกับอีกสามเดือน น่าจะมีผู้เล่นเพิ่มขึ้นมากพอสมควร

เว็บไซต์ Road to VR ประมาณการด้วยการคำนวณสถิติว่าในเดือนเมษายน อาจมีผู้ใช้งาน VR บน Steam เพิ่มเป็น 141 ล้านคน การที่ผู้ใช้เพิ่มขึ้น 0.62% ในเดือนมีนา-เมษา อาจหมายถึงผู้ใช้งานที่มีอุปกรณ์ VR ที่มากถึง 870,000 คน ภายในระยะเวลาเดือนเดียวเท่านั้น

Valve ประกาศว่า SteamVR หยุดสนับสนุนการใช้งานบน macOS เพื่อให้ทีมพัฒนาโฟกัสไปที่ Windows และ Linux โดยแนะนำผู้ใช้ macOS ที่ยังต้องการใช้งาน SteamVR ให้เลือกตัว Beta แทน

Steam เปิดตัว SteamVR ที่รองรับการทำงานกับ macOS ในงาน WWDC เมื่อปี 2017 ซึ่งมาพร้อมกับ macOS High Sierra

ผลสำรวจก่อนหน้านี้ของ Valve พบว่ามีผู้ใช้งาน Steam เพียง 4% เท่านั้นที่ใช้งานบน macOS เมื่อรวมกับจำนวนการมีอุปกรณ์เฮดเซต VR ที่อยู่ราว 1% จึงทำให้ตลาดนี้เล็กมาก ส่วน Linux แม้จะมีผู้ใช้งานน้อย แต่ก็ได้รับความนิยมสูงในฝั่งนักพัฒนา

ที่มา: UploadVR

Valve ประกาศข่าวหยุดสนับสนุน SteamVR บนระบบปฏิบัติการ macOS และจะไปโฟกัสที่ Windows/Linux เพียง 2 อย่าง

Valve ไม่ได้ระบุเหตุผลมาตรงๆ แต่ข้อมูลจากสถิติฮาร์ดแวร์ของ Steam เองก็ระบุว่ามีผู้ใช้ Steam เพียง 4% เท่านั้นที่ใช้แมค ส่วนลินุกซ์ถึงแม้มีผู้ใช้น้อยกว่าแมค แต่ก็ยังจำเป็นในแง่ของนักพัฒนา รวมถึงระบบปฏิบัติการ SteamOS ของ Valve เองด้วย

ที่มา - Steam, UploadVR

Half-Life: Alyx เป็นเกม VR ในซีรีส์ Half-Life ที่มีเนื้อเรื่องเป็นช่วงก่อน Half-Life 2 แต่เพราะแว่น VR ยังมีราคาแพง และคุณภาพที่แตกต่างกันในแต่ละรุ่น ทำให้มีข้อจำกัดในการเล่นค่อนข้างมาก

วันนี้มี mod หรือตัวปรับแต่งเกมโดยยูสเซอร์ r57zone บน GitHub ทำออกมาให้เล่นได้โดยไม่ต้องมีแว่น VR แล้ว

เสียงตอบรับของเกมเมอร์กับเกม Half-Life: Alyx นั้นทำให้ Valve Index อุปกรณ์ VR จาก Valve ขายหมดเกลี้ยงและมียอดจองเยอะมาก ทำให้ผู้สั่งซื้อ Valve Index ในสหรัฐอเมริกาจะได้รับสินค้าหลังเทศกาลคริสต์มาสเป็นต้นไป

ก่อนหน้านี้ Valve เคยทำแบบสำรวจการใช้แว่น VR ในการเล่นเกมบน Steam ก่อนจะพบว่ามีไม่ถึง 5% เท่านั้น ขณะที่ยอดขายถล่มทลายของ Valve Index ที่เป็นผลมาจาก Half-Life: Alyx ก็อาจสะท้อนว่าที่ตลาด VR ค่อนข้างซบเซาเป็นเพราะไม่มีคอนเทนท์หรือเกมดี ๆ ให้เล่นบนแพลตฟอร์ม

Tetris Effect เกมตระกูล Tetris เวอร์ชันอัพเกรดกราฟิก-เสียงแบบอลังการ (ถึงขั้นชนะรางวัลเกมแห่งปี 2018 ของ Eurogamer) ที่เดิมมีเฉพาะบน PS4 ประกาศออกเวอร์ชันพีซีแล้ว

ประเด็นที่น่าสนใจคือ Tetris Effect เป็นเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบน Epic Games Store (ซึ่งคงไม่น่าแปลกใจนักสำหรับยุคสมัยนี้) แต่ถ้าต้องการเล่นแบบ VR กับแว่น Oculus Rift หรือ HTC Vive ก็จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ SteamVR ของคู่แข่งอย่าง Valve ด้วย เพราะเกมเขียนมาบนแพลตฟอร์มนี้

เรื่องนี้ไม่ได้แปลว่าการเล่น Tetris Effect จำเป็นต้องติดตั้งตัว Steam client เพราะเราสามารถดาวน์โหลด SteamVR เพียงอย่างเดียว และถ้าจะเล่นผ่านหน้าจอมอนิเตอร์เพียงอย่างเดียว ก็ไม่จำเป็นต้องมี SteamVR แต่อย่างใด

หลังจากปล่อยภาพทีเซอร์ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ในที่สุด Valve เปิดตัวแว่น VR ของตัวเองอย่างเป็นทางการในชื่อ Valve Index

Valve Index เป็นแว่น VR ที่ใช้กับแพลตฟอร์ม SteamVR แบบเดียวกับที่เคยพาร์ทเนอร์กับ HTC ทำแว่นตระกูล Vive (แต่เคสนี้คือ Valve ทำเองทั้งหมดโดยไม่พึ่งพา HTC อีกแล้ว)

ในชุดของ Valve Index ประกอบด้วยอุปกรณ์ทั้งหมด 3 ชิ้นคือ แว่น, คอนโทรลเลอร์ และตัวดักจับความเคลื่อนไหวภายนอก (Base Station)

Valve เผยภาพแรกของแว่น VR ของบริษัทเอง (ก่อนหน้านี้พาร์ทเนอร์กับ HTC) โดยใช้ชื่อว่า Valve Index

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลอื่นใด นอกจากภาพของตัวเครื่อง Valve Index ที่มีกล้องด้านหน้า 2 ตัว ปุ่มบนตัวเครื่อง กับแถบสไลด์ที่น่าจะเป็นตัวปรับระดับสายตา พร้อมข้อความว่า May 2019

ก่อนหน้านี้ ยุทธศาสตร์ VR ของ Valve คือเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มเทคโนโลยี SteamVR แล้วใช้วิธีพาร์ทเนอร์กับ HTC Vive ช่วยผลิตฮาร์ดแวร์ให้ แต่การมาถึงของ Valve Index ก็แสดงให้เห็นว่า Valve เริ่มเอาจริงกับตลาดนี้ และต้องการสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเอง

เมื่อต้นเดือนนี้ ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยรุ่นจริงของ Windows Mixed Reality for SteamVR ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่จะช่วยให้แว่น Windows Mixed Reality (WMR) สามารถใช้งานกับแพลตฟอร์ม SteamVR ได้ หลังจากเปิดให้ทดสอบแบบ early access มาได้ระยะหนึ่ง

ทำให้ผู้ที่มีแว่น WMR อยู่ในตอนนี้ สามารถติดตั้งซอฟต์แวร์ดังกล่าวเพื่อเล่นเกม VR ที่อยู่บน Steam ได้ จากเดิมที่ต้องดาวน์โหลดเกมจาก Microsoft Store มาเล่นเท่านั้น โดยจำนวนเกมบน Steam ที่รองรับแว่น WMR อย่างเป็นทางการในตอนนี้มีมากถึง 422 เกมเลยทีเดียว

ไมโครซอฟท์เคยประกาศไว้ไม่นานนี้ว่า แว่น Mixed Reality จะรองรับการเล่นเกมบนแพลตฟอร์ม SteamVR ล่าสุดนักพัฒนาสามารถใช้งาน Windows Mixed Reality SteamVR รุ่นพรีวิวเพื่อทดสอบเกมของตัวเองได้แล้ว ส่วนผู้ใช้ทั่วไปจะเริ่มใช้งานได้ช่วงปลายปีนี้

สำหรับเกมที่ไม่อยู่บน SteamVR จะยังมีให้บริการบน Microsoft Store (ชื่อใหม่ของ Windows Store) อีกช่องทางหนึ่ง โดยจะเปิดบริการพร้อม Windows 10 Fall Creators Update ในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ พร้อมกับแว่น Mixed Reality ของแบรนด์ต่างๆ ที่จะเริ่มส่งสินค้าในวันเดียวกัน

ไมโครซอฟท์ประกาศข้อมูลเพิ่มเติมของแว่น Windows Mixed Reality ที่จะนำมาโชว์ในงาน IFA สัปดาห์นี้ และวางขายจริงช่วงปลายปี

Steam ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาแพลตฟอร์ม SteamVR ซึ่งมีชุด SDK สำหรับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ที่ต้องการนำไปทำเอง โดยตอนนี้มี HTC Vive และ LG ที่ล่าสุดได้เผยโฉมแว่นโปรโตไทป์ที่งาน Game Developers Conference แล้ว

LG SteamVR มีลักษณะพิเศษคือมีที่คาดหัวให้ต่างหาก ไม่ใช่ที่ตัวแว่น ทำให้ผู้ใช้สามารถเลื่อนแว่นขึ้นไปพักไว้บนหัวได้สะดวกขึ้น ขณะที่หน้าจอของรุ่นโปรโตไทป์นี้ใช้หน้าจอ OLED ความละเอียด 1440x1280 พิกเซล องศาของมุมมองอยู่ที่ 110 องศา ส่วนคอนโทรลเลอร์มีความเบากว่าของ HTC Vive แต่ปุ่มและฟังก์ชันเหมือนๆ กัน เพียงแต่ไม่มีเฮ้ดโฟนบิ้ลท์อินมาให้เท่านั้น

Gabe Newell ผู้ก่อตั้งค่าย Valve เปิดเผยข้อมูลในงานเสวนากับสื่อ ว่าบริษัทกำลังพัฒนาเกม VR อย่างจริงจัง เป็นเกมตัวเต็มไม่ใช่เดโม และที่ไม่ธรรมดาคือทำถึง 3 เกมด้วยกัน

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ของทั้งสามเกมนี้ เขาบอกข้อมูลแค่ว่าพัฒนาด้วยเอนจิน Source 2 ของบริษัทเอง และ Unity ส่วนเหตุผลในการทำเกม VR ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน เมื่อครั้งที่ Valve กระโดดลงมาทำ VR สิ่งแรกที่บริษัททำคือพอร์ต Half-Life 2 และ Team Fortress มาลงใน VR ผลออกมาดี ถือเป็นความสำเร็จของนักพัฒนา แต่มันไม่มีอะไรใหม่เลย

Valve ประกาศเปิดเทคโนโลยี SteamVR Tracking (โค้ดเนม Lighthouse) ที่ใช้ติดตามวัตถุต่างๆ เช่น คอนโทรลเลอร์ หรือ อุปกรณ์อื่น ให้ใช้งานโดยไม่ต้องเสียเงินค่าไลเซนส์ใดๆ

เทคโนโลยี SteamVR Tracking เป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในแว่น HTC Vive ที่ Valve ร่วมพัฒนาด้วย โดย Valve อธิบายว่าต้องการเปิดกว้างเพื่อให้บริษัทอื่นๆ ร่วมสร้างโซลูชันฮาร์ดแวร์-ซอฟต์แวร์บนเทคโนโลยีนี้ เพื่อกระตุ้นให้ตลาด VR เติบโตเร็วขึ้นนั่นเอง

SteamVR Tracking รองรับเซ็นเซอร์สูงสุด 32 ตัวต่อวัตถุ 1 ชิ้น โดยใช้เลเซอร์กวาดจับความเคลื่อนไหวของวัตถุ ระยะทำการ 5 เมตร ตัวสถานีหลัก (base station) หนึ่งตัวจับภาพได้กว้าง 120 องศา และใช้สถานี 2 ตัวเพื่อเก็บภาพให้ได้ครบ 360 องศา ระดับความแม่นยำละเอียดระดับมิลลิเมตร

IKEA บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้านจากสวีเดน ประกาศเปิดตัวโครงการ IKEA VR โครงการทดลองนำเอาประสบการณ์ขายสินค้าของบริษัท ขึ้นไปแสดงแบบ Virtual Reality ผ่านแว่น HTC Vive บนแพลตฟอร์ม Steam อย่างเป็นทางการ

โครงการดังกล่าวนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง IKEA, HTC และ Allegorithmic บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์จากฝรั่งเศส โดยใช้เอนจิน Unreal Engine 4 เป็นตัวแกนหลักในการพัฒนา ลูกค้าของ IKEA จะเห็นภาพสินค้าต่างๆ ของ IKEA และทดลองจัดวางสินค้าได้ (ดูภาพประกอบท้ายข่าว) นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการดูได้หลายมุมมอง ซึ่งผู้จัดการฝ่ายไอทีของบริษัทระบุว่าจะรับฟังเสียงผู้ใช้แล้วนำมาปรับปรุงระบบให้ดียิ่งขึ้น

ระยะแรกจะใช้กับแผนกครัวก่อน ซึ่งจะมีการปรับปรุงไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงสิงหาคมของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงสิ้นสุดโครงการครับ

ที่มา - IKEA

โหมดชมการแข่งขันถือเป็นเรื่องปกติของเกมสมัยนี้ โดย Dota2 นับเป็นหนึ่งในเกมที่มีระบบชมการแข่งขันดีที่สุด และในวันนี้กำลังจะก้าวขึ้นไปอีกขั้นโดยนำมันมารวมกับ VR

เมื่อวานนี้ทาง Valve ได้เปิดหน้าเว็บโปรโมท SteamVR ขึ้นโดยวิดีโอส่วนหนึ่งมีการแสดงถึงโหมดชมการแข่งขันของ Dota2 ซึ่งจากวิดีโอจะเห็นว่ามีจอแสดงการแข่งขันอยู่ข้างหน้าตามปกติ ที่เพิ่มเติมคือมีแสดงมินิแมพแบบ 3 มิติและ Avatar แบบเต็มตัวของฮีโร่ทั้ง 10 ในเกมนั้นพร้อมระบบโฮโลแกรมแสดงสถิติต่างๆ

สำหรับคนที่รับได้กับราคา HTC Vive ก็ถึงเวลาเตรียมเครื่องพีซีให้พร้อมใช้งาน VR และในวันนี้ Valve ก็ปล่อยเครื่องมือตัวใหม่ ให้ได้ทดสอบกันว่าพีซีที่ใช้อยู่จะพร้อมใช้งานหรือไม่

ชุดเครื่องมือที่ว่านี้คือ SteamVR Performance Test ซึ่งก็คือโปรแกรมสำหรับรันแบบทดสอบยาว 2 นาทีโดย Aperture Robot Repair VR ของ Valve หลังจากโปรแกรมรันเสร็จแล้ว จะแสดงผลว่าพีซีที่ใช้สามารถรันคอนเทนต์ VR ที่เฟรมเรตสูงกว่า 90 เฟรมต่อวินาทีได้หรือไม่ พร้อมกับคำแนะนำในการอัพเกรดเพื่อให้ได้สเปคที่ต้องการ

Steam ออกโปรแกรมตัวใหม่ที่ชื่อว่า SteamVR Performance Test ที่จะทดสอบการใช้งาน virtual reality บนเครื่องเรา โดยจะมาในรูปแบบของฉากการซ่อมแซมหุ่นยนต์ในโรงงานของ Aperture (จากเกม Portal) เป็นเวลา 2 นาที ที่ 90 เฟรมต่อวินาที และจะแสดงคะแนนออกมาเป็นสีแบบเข้าใจง่าย และบอกว่าฮาร์ดแวร์ส่วนไหนของเราที่ควรอัพเกรด

สามารถไปใช้งานกันได้ผ่าน Steam ที่นี่

ในงานสัมมนา Vision Summit โดย Unity Technologies ผู้พัฒนาเอนจินชื่อดัง Unity ประกาศบุกโลก VR อีกระลอกด้วยการจับมือกับ Valve ให้เครื่องมือบนแพลตฟอร์ม Unity รองรับการใช้งานบนแพลตฟอร์ม SteamVR ได้ในระดับเนทีฟ

การจับมือกันครั้งนี้ของสองยักษ์ใหญ่โลกเกมเรียกได้ว่ามหึมา ด้วยตัวของ Unity เองที่มีนักพัฒนาลงทะเบียนใช้งานอยู่มากกว่า 4.5 ล้านคน รวมกับเอนจินเกมที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี ทางฝั่ง Valve ที่ร่วมพัฒนาแว่น VR อย่าง Vive ร่วมกับ HTC ซึ่งได้เสียงตอบรับค่อนข้างดีด้านคุณภาพ ก็ถือโอกาสเปิดตัวปลั๊กอินสำหรับเรนเดอร์ VR ที่สมจริงขึ้นสำหรับใช้งานกับ Unity เช่นกัน

บริษัท Epic Games เจ้าของเอนจิน Unreal Engine ประกาศในแผน roadmap การพัฒนาเอนจินของตัวเองว่าจะเพิ่มการรองรับแว่น HTC Vive และแพลตฟอร์ม Valve SteamVR ด้วยอีกอย่างหนึ่ง

ที่ผ่านมา Unreal Engine รองรับแว่น VR หลายค่ายแล้ว ทั้ง Oculus Rift, Gear VR, Sony Project Morpheus ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ของ Epic Games ที่ต้องการสร้างจุดดึงดูดนักพัฒนาให้มาใช้เอนจินของตัวเองนั่นเอง

ที่มา - Road to VR

ต่อจากข่าว Valve เตรียมแจกแว่นเสมือนจริง HTC Vive รุ่น Developer Edition ดึงนักพัฒนาเกมเข้าร่วม วันนี้ Valve เปิดให้นักพัฒนาเกมที่สนใจสามารถลงทะเบียนขอรับแว่น HTC Vive บนหน้าเว็บ Steam VR แล้ว

เงื่อนไขของ Valve คือแจกแว่นฟรี (Oculus ต้องเสียเงินซื้อ) แต่กระบวนการคัดเลือกก็เข้มงวดพอสมควร ต้องกรอกรายละเอียดของบริษัท ผลงานในอดีต และแผนการพัฒนาเกม VR ในอนาคต ตัวแทนของ Valve ระบุว่ารับบริษัทเกมทุกขนาดไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก สามารถสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ได้หมด

บริษัทเกมเมืองไทยที่สนใจก็ไม่ควรพลาดครับ

Oculus เริ่มต้นสร้างฐานนักพัฒนาด้วยการขาย Oculus Rift รุ่นต้นแบบไปให้ลองใช้ก่อน ส่วนผู้มาทีหลังอย่าง Valve และ HTC ที่จับมือกันทำแว่น HTC Vive บนแพลตฟอร์ม SteamVR เลือกใช้วิธีที่ต่างออกไปคือแจกแว่นให้นักพัฒนาไปลองใช้กันฟรีๆ

โครงการแจกแว่น HTC Vive รุ่น Developer Edition ยังจำกัดเฉพาะนักพัฒนาเกมบางรายที่ได้รับเชิญเท่านั้น ซึ่งโฆษกของ Valve ระบุว่าจะเปิดให้นักพัฒนารายอื่นๆ ที่สนใจเข้ามาลงทะเบียนขอแว่นในอีกไม่ช้า (กระบวนการคัดเลือกว่าใครจะได้แว่นนั้นยังไม่แน่ชัด)

ที่มา - Ars Technica

HTC ประกาศความร่วมมือกับค่าย Valve ทำแว่นเสมือนจริง HTC Vive

รายละเอียดของแว่น HTC Vive ยังมีไม่เยอะนัก บอกแค่ว่าอยู่บนแพลตฟอร์ม SteamVR ของ Valve, รองรับการตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือ (hand tracking), มีประสิทธิภาพสูงทั้งภาพและเสียง, สวมใส่สบาย

รายชื่อพันธมิตรด้านเนื้อหาที่เข้าร่วมคือ HBO, Google, Lionsgate และค่ายเกมอีกจำนวนหนึ่ง เช่น Fireproof, Vertigo Games เป็นต้น

แว่น HTC Vive จะรุ่นนักพัฒนาออกฤดูใบไม้ผลิ ส่วนรุ่นจริงวางขายภายในปีนี้

ในงาน Game Developers Conference 2015 (GDC 2015) ช่วงต้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ Valve มีแผนจะเข้าสู่โลกของ VR อย่างเป็นทางการด้วยการเตรียมเปิดตัวฮาร์ดแวร์ของตัวเองอย่าง SteamVR เร็วๆ นี้

Valve บอกว่า SteamVR จะต่างจากที่ Oculus ทำได้ รวมถึงสเปคที่เหนือกว่าทั้งหน้าจอความละเอียดสูงกว่า อัตราการกะพริบที่สูงกว่า ซึ่งนำไปสู่การคาดการณ์ว่าเจ้า SteamVR อาจนำไปใช้ร่วมกับ Steam Controller สำหรับเครื่อง Steam Machine ที่เตรียมมาอัพเดตข้อมูลเพิ่มเติมในงานด้วย

พร้อมกับการประกาศในครั้งนี้ บัญชีทวิตเตอร์ Steam Database ก็ได้ปล่อยภาพที่พบในฐานข้อมูลของ Steam ซึ่งคาดว่าจะเป็น SteamVR ออกมาอีกด้วย