ข่าวเก่าไปนิดนึงนะครับ หลังจากที่ Elon Musk ทวิตข้อมูลเบื้องต้นของ Tesla Model X รถยนต์ไฟฟ้าแบบ crossover ที่มาพร้อมประตูแบบ falcon doors อันเป็นเอกลักษณ์ ล่าสุด Tesla ได้ร่อนบัตรเชิญผู้สื่อข่าวเข้าร่วมงานเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะจัดงานที่โรงงานของ Tesla ณ เมือง Fremont ในค่ำวันอังคารที่ 29 กันยายนนี้
มีการคาดการณ์ไว้ว่า Tesla จะเปิดเผยราคาและรายละเอียดออปชันต่างๆ ในงาน และก่อนหน้านี้ได้มีการเชิญผู้ถือหุ้นเข้ามาดู Model X รุ่น Signature อย่างลับๆ แล้วด้วย โดยเป็นรุ่นย่อยไฮเอนด์ที่ใส่ออปชันมาเต็มและราคาแพงมาก
Tesla Model X รถยนต์ crossover ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจาก Tesla Motors ที่โดนเลื่อนการผลิตมาหลายครั้ง ได้ฤกษ์ส่งมอบรถแล้ว โดย Elon Musk ซีอีโอของบริษัทได้ทวิตว่า รถยนต์รุ่นดังกล่าวจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าวันที่ 29 กันยายนนี้ ณ โรงงานของ Tesla ที่เมือง Fremont และเนื่องจาก Model X มีขนาดใหญ่และซับซ้อนกว่า Model S ที่เป็นรถเก๋ง จึงทำให้มันมีราคาแพงกว่า Model S อยู่ 5,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ยังมีรุ่น “Sig” ให้เลือกด้วย โดย Sig ย่อมาจาก Signature ซึ่งจะเป็นรุ่นไฮเอนด์ แน่นอนว่าราคาจะแพงขึ้นไปอีก เริ่มต้นที่ 132,000 ดอลลาร์ (ราว 4.7 ล้านบาท)
เรียกได้ว่าแรงทะลุชาร์ทสำหรับ Tesla Model S รุ่นใหม่ที่เพิ่งถูกรีวิวโดย Consumer Reports และทำคะแนนได้เกิน 100 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์รถยนต์ของโลกใบนี้
Tesla Model S (P85D) เป็นรถซีดานมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อนได้ทุกล้อ เปิดตัวมาเมื่อปลายปี 2014 ที่นอกจากจะทำความเร็วจาก 0 ไป 60 ไมล์ได้ภายใน 3.2 วินาทีแล้ว ยังมาพร้อมกับระบบช่วยขับอัตโนมัติ (Autopilot) ที่ทางนิตยสาร Consumer Reports ได้ลองขับแล้วก็สัมผัสได้ถึงการผสมผสานของเทคโนโลยีที่ไม่เคยพบมาก่อน ออกมาเป็นคะแนนเกินมาตรฐานที่ 103 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน จนทำให้ทาง Consumer Reports มีแผนปรับระบบการให้คะแนนในอนาคตอีกด้วย
ศึกชิงตัวพนักงานระดับสูงระหว่าง Tesla และแอปเปิลยังคงดำเนินต่อไปนะครับ ล่าสุดวิศวกรอาวุโสคนหนึ่งของฝั่ง Tesla ได้ย้ายไปทำงานกับแอปเปิลแล้ว โดยเรื่องการย้ายบริษัทดังกล่าวไม่ได้มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด แต่มีคนไปพบว่าโปรไฟล์ LinkedIn ของ Jamie Carlson ได้มีการอัพเดตว่าปัจจุบันทำงานให้กับแอปเปิล เกี่ยวข้องกับ "โปรเจ็คพิเศษ" หรือ "Special Projects" ซึ่งก็คงหนีไม่พ้นงานเกี่ยวกับรถยนต์อัจฉริยะที่มีข่าวลือว่าแอปเปิลกำลังซุ่มพัฒนาอยู่ แหล่งข่าวยังเสริมว่ามีวิศวกรอีกอย่างน้อย 6 คนก็ย้ายไปทำงานกับแอปเปิลเช่นกัน
นับเป็นวิธีการที่น่าสนใจเลยทีเดียวสำหรับ Tesla ในการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จไฟให้กับรถพลังไฟฟ้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการติดตั้งที่ชาร์จ ไว้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งโรงแรมและรีสอร์ทไปแล้วรวมๆถึง 1,200 สถานีทั่วโลกเลยทีเดียว โดยคราวนี้หันมาจับมือกับ Airbnb เพื่อเพิ่มสถานีชาร์จให้มากขึ้น และ อำนวยความสะดวกในการขับรถเที่ยวของผู้ใช้ Tesla มากขึ้นอีกด้วย
แม้จะกระแสเริ่มดีจากการเปิดตัว Model S แต่ดูเหมือนสถานะทางการเงินของฝั่ง Tesla ในตอนนี้จะยังไม่ค่อยสู้ดีนัก หลังจากเอกสารที่ส่งให้กับผู้ถือหุ้นรอบล่าสุดระบุว่า Tesla ใช้จ่ายเงินไปมากพอตัว รวมถึงขาดทุนจากการดำเนินการกว่า 47 ล้านเหรียญ
จากเอกสารล่าสุด ระบุว่าเงินสดของ Tesla ตกลงจากปีก่อนที่ 2.67 พันล้าน ลงมาอยู่ที่ 1.15 พันล้าน ในขณะเดียวกันก็ขาดทุนราว 47 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับยอดขายที่ทำได้ราว 11,500 คันในไตรมาสล่าสุด จะตีคร่าวๆ ได้ว่า Tesla ขาดทุนประมาณ 4,000 เหรียญต่อรถยนต์หนึ่งคันที่ขายก็ว่าได้ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการผลิตที่ยังซับซ้อน และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ยังมีราคาแพงอยู่
Chris Evans ผู้ดูแลนักวิจัย (Researcher Herder) ของ Project Zero ในกูเกิล ประกาศว่าเขากำลังย้ายไปรับตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย (lead security) ของ Tesla Motors หลังจากทำงานกับกูเกิลมาครบสิบปี ก่อนหน้านี้เขาเคยทำงานออราเคิลและเขียนโปรแกรม vsftpd มาจนทุกวันนี้
Elon Musk ซีอีโอ Tesla Motors ตอบคำถามนักวิเคราะห์หลังจากรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ผ่านมา ในประเด็นที่แอปเปิลอาจมาทำรถยนต์อัจฉริยะ ซึ่งน่าจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla ซึ่ง Musk ตอบดังนี้
ผมหวังอย่างยิ่งว่าแอปเปิลจะเข้าสู่ธุรกิจรถยนต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี แต่ตอนนี้เรายังไม่เห็นสัญญาณการดึงตัววิศวกรสายรถยนต์จากทางแอปเปิล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็หาได้จากใน LinkedIn ถ้าคุณดูข้อมูลย้อนไป 12 เดือนที่ผ่านมา Tesla มีการจ้างพนักงานจากแอปเปิลมากกว่าที่แอปเปิลจ้างจาก Tesla ถึง 5 เท่าตัว
Tesla รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของปี 2015 ขายรถยนต์ไปได้ 10,045 คัน
Tesla Motors ผู้ผลิตรถยนต์อัจฉริยะที่กำลังเนื้อหอม มีข่าวว่าบริษัทใหญ่จะเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องในรอบปีที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานว่า Elon Musk ซีอีโอของบริษัท เกือบจะขายบริษัทให้กับเจ้าพ่อวงการไอทีรายใหญ่ไปตั้งแต่เมื่อปี 2013 แล้ว
และบริษัทที่ถูกกล่าวถึงนี้คือกูเกิลนั่นเอง โดยในดีลดังกล่าว Musk จะต้องทำงานต่อไปในบริษัทอย่างน้อย 8 ปี หรือจนกว่าจะทำให้รถรุ่นราคาย่อมเยาอย่าง Model III ขายจริงให้ได้ก่อน โดยรถรุ่นที่ว่านี้้เปิดตัวไปแล้ว และมีแผนจะขายในปี 2017
แต่ดีลดังกล่าวก็จบลงเนื่องจาก Tesla Motors นั้นดันประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวเอง จุดเปลี่ยนคือการที่บริษัทสามารถปิดการขายของ Model S รถรุ่นแรกที่วางตลาดได้นั่นเอง
รายงานจาก Bloomberg Busines เผยว่าขณะนี้มีสงครามเย็นระหว่างแอปเปิลกับ Tesla บริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยทั้งสองบริษัทกำลังพยายามแย่งตัวพนักงานระดับสูงของกันและกันอยู่ และตอนนี้ Tesla ก็ได้จ้างอดีตพนักงานแอปเปิลไปแล้วกว่า 150 คน
ที่น่าสนใจคือ Tesla ไม่เคยซื้อตัวพนักงานจากบริษัทอื่นใดมากกว่าแอปเปิลเลย ทั้งที่แอปเปิลไม่ใช่บริษัทผลิตรถยนต์แต่อย่างไร โดยพนักงานที่ถูกดึงตัวไปอยู่กับ Tesla มีตั้งแต่พนักงานแอปเปิลที่อยู่ฝั่งวิศวกรรม จนไปถึงพนักงานฝ่ายกฎหมาย
รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Motors เริ่มทดสอบระบบปฏิบัติการรถยนต์เวอร์ชัน 6.0 เพิ่มความสามารถใหม่หลายอย่าง เช่น โหมดประหยัดพลังงาน, เพิ่มแอพปฏิทินโดยดึงข้อมูลจากปฏิทินบนโทรศัพท์, ปรับปรุงการแสดงผลแผนที่และการนำทาง
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือรองรับการปลดล็อครถและติดเครื่องด้วยแอพ Tesla บน iPhone แล้ว (ฟีเจอร์นี้จะตามมาบนแอพ Android ในอีกไม่ช้า)
ตอนนี้ยังไม่มีใครได้ทดสอบระบบปฏิบัติการเวอร์ชัน 6.0 เลยไม่มีรายละเอียดว่าฟีเจอร์ล็อครถ-ติดเครื่องผ่านแอพมือถือนั้นทำงานอย่างไร และมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนครับ (ไว้มีความคืบหน้าจะมารายงาน)
Elon Musk นักคิดค้นและซีอีโอบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla Motors ได้ประกาศลงบนบล็อกของเว็บไซต์ Tesla ว่าตัวเขาและบริษัทมีความยินดี หากบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ จะเอาเทคโนโลยีของเขาไปใช้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เพื่อความก้าวหน้าของเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานสะอาด
Musk กล่าวว่า Tesla Motors ก่อตั้งขึ้นเพื่อทำให้วงการการพัฒนารถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเติบโต แต่การถือสิทธิบัตรด้านเทคโนโลยีดังกล่าวไว้ฝ่ายเดียว เท่ากับว่า Tesla กำลังทำในสิ่งที่ขัดกับหลักการแรกเริ่มอยู่ เพราะเขาเห็นว่าการผลิตรถยนต์ที่ไม่ได้ใช้น้ำมันออกสู่ตลาดในปัจจุบัน ยังมีส่วนน้อยถึงน้อยมาก มีไม่ถึง 1% ของจำนวนรถยนต์ที่ขายออกสู่ตลาดทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ
เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา Tesla Motors ได้ยื่นคำร้องขอยกเลิกการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "Model E" ไปยังสำนักสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว หลังจากที่ได้มีการยื่นคำร้องขอจดทะเบียนในวันที่ 3 ธันวาคมปีที่ผ่านมา
รถยนต์ไฟฟ้า Tesla กำลังได้รับความนิยมในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดมีผู้ใช้สำรวจพอร์ตวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับการซ่อมบำรุงและพบว่าที่จริงแล้วมันเป็นอีเธอร์เน็ตพอร์ตที่ใช้พอร์ตรุ่นพิเศษ โดยมีชื่อว่าเป็นพอร์ต RosenbergerHSD
หลังจากนั้นผู้ใช้อีกกลุ่มหนึ่งก็ช่วยกันสแกนหาข้อมูลภายในพบว่ามีหมายเลขไอพีที่ทำงานอยู่สามหมายเลข รันเซอร์วิสอยู่หลายอย่างตั้งแต่ SSH, DNS, HTTP, X Server, NFS
จากข้อความเริ่มต้นของ SSH แสดงว่าลินุกซ์ที่ใช้งานบนรถ Tesla เป็น Ubuntu บางไอพีบนเครือข่ายยังให้บริการ DNS
เจ้าของรถ Tesla ที่สนใจประเด็นนี้เริ่มเข้ามาร่วมกันสำรวจว่ามีแอพพลิเคชั่นอะไรรันอยู่ในรถตัวเองบ้าง ตอนนี้ส่วนมากพบแต่ระบบติดต่อกับคนขับผ่าน X11 โดยมักเป็นระบบควบคุมวิทยุหรือระบบนำทาง
Elon Musk ซีอีโอของ Tesla บริษัทผลิตรถยนต์อัจฉริยะได้ออกมาตอบโต้ กรณีข่าวลือก่อนหน้านี้รายงานว่าแอปเปิลได้เข้าเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการของบริษัท โดย Musk กล่าวว่า ถ้าได้มีบริษัทไหนเข้ามาเจรจาเรื่องการเข้าซื้อกิจการของ Tesla เขาคงไม่สามารถออกความเห็นได้ แต่ ณ เวลานี้การเข้าซื้อ Tesla “ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้”
ในขณะเดียวกัน เขาได้มายืนยันว่าแอปเปิลได้มาคุยกับเขาจริง แต่เขาก็ไม่สามารถออกความเห็นถึงเนื้อหาที่คุยกันไว้ได้ แต่แหล่งข่าวของ Los Angeles Times เชื่อว่าเนื้อหาที่คุยกันน่าจะเกี่ยวข้องกับการตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ lithium-ion ขนาดใหญ่มากร่วมกัน
มีรายงานว่า Tim Cook และ Adrian Perica หัวหน้าฝ่ายจัดซื้อบริษัทของแอปเปิลได้เข้าพบกับ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla Motors และ SpaceX เมื่อช่วงต้นปี 2013 จนนำไปสู่การคาดการณ์ว่าแอปเปิลอาจมีแผนเข้าซื้อ Tesla Motors ก็เป็นได้
ตามช่วงเวลาดังกล่าวดูเผินๆ อาจเป็นแค่หนึ่งในดีลของแอปเปิลที่กำลังจะเปิดตัว iOS in the Car ในงาน WWDC ช่วงกลางปี แต่การมีส่วนร่วมของ Perica นั้นทำให้พอจะเดาได้ว่าการพบกันครั้งนี้อาจมากกว่าแค่มาสานสัมพันธ์กัน และในช่วงเวลาไล่กันก็มีนักวิเคราะห์ออกมาแนะนำว่าแอปเปิลควรเข้าซื้อ Tesla Motors อีกด้วย
Apple กำลังวางแผนรุกเข้าไปทำตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์และอุปกรณ์สำหรับยานพาหนะ ในส่วนของอุปกรณ์ทางการแพทย์นั้น บริษัทกำลังทำงานร่วมกับ Tomlinson Holman วิศวกรเสียง (audio engineer) เพื่อพัฒนาอุปกรณ์ที่สามารถทำนายอาการหัวใจวายได้โดยการฟัง "เสียง" ของเลือดขณะไหลอยู่ในเส้นเลือดแดง
Holman มีผลงานเทคโนโลยีด้านเสียงที่เป็นที่รู้จักอย่างระบบ THX ของ Lucasfilm และระบบเสียง 10.2 เป็นรายแรกของโลก