Tesla เผยว่าทางบริษัทต้องการเปิดร้านค้าในลักษณะร้านสะดวกซื้อในสถานีชาร์จไฟรถยนต์ Supercharger เพื่อขายสินค้าอย่างเครื่องดื่มเย็นหรือขนม ให้ผู้ใช้มีอะไรทำในระหว่างรอการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ซึ่งกินเวลานาน 20-30 นาที
จากรายงานของ GrubStreet เผยว่า J.B. Straubel หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของ Tesla ได้ขึ้นพรีเซ้นท์ในงาน FSTEC ซึ่งเป็นงานสัมมนาเทคโนโลยีอาหารที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับแผนการของบริษัทในการนำร้านสะดวกซื้อเปิดในสถานี Supercharger ทั่วสหรัฐฯ
Straubel กล่าวว่า ผู้คนจะต้องมาและใช้เวลา 20-30 นาทีที่ร้านค้าเหล่านี้ (เพราะชาร์จไฟรถยนต์ใช้เวลานาน) พวกเขาอยากทานอาหาร, หากาแฟดื่ม และต้องการเข้าห้องน้ำ
หลังจากที่ Tesla Motors เคยมีความร่วมมือกับ NVIDIA ในการนำชิปและฮาร์ดแวร์ประมวลผลของ NVIDIA มาใช้งาน ล่าสุด CNBC รายงานข่าวลือจากแหล่งข่าววงในว่า Tesla Motors กำลังหันไปพึ่งคู่แข่งของ NVIDIA อย่าง AMD ในด้านนี้มากขึ้น
CNBC ระบุว่า Tesla กำลังร่วมมือกับ AMD ในการพัฒนาชิปปัญญาประดิษฐ์สำหรับการใช้งานบนรถไร้คนขับ ซึ่งชิปนี้จะเป็นชิปตัวแรกที่ Tesla ผลิตขึ้นมาด้วยตัวเอง ลดการพึ่งพาบริษัทอื่น โดยอาศัยสิทธิบัตรและ know-how จาก AMD โดยหนึ่งในนั้นได้ Jim Keller วิศวกรออกแบบชิปแนวหน้าที่ AMD คว้าตัวมาจากแอปเปิลมาช่วยด้วย ขณะที่ตอนนี้ Tesla กำลังทดสอบชิปตัวแรกอยู่
ทั้ง AMD และ Tesla ปฏิเสธที่จะพูดถึงประเด็นนี้ทั้งคู่
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีโครงการแท็กซี่ไร้คนขับและได้เซ็นสัญญาซื้อรถยนต์ Tesla จำนวน 200 คันเพื่อใช้ในโครงการนี้
ล่าสุดดูไบได้รับมอบรถยนต์ Tesla ล็อตแรกจำนวน 50 คันแล้ว โดยจะนำมาประจำที่สนามบินดูไบก่อน ซึ่ง HH Sheikh Ahmed bin Saeed Al Maktoum ประธานสำนักงานการบินพลเรือนและสนามบินดูไบ กล่าวว่ากรมการขนส่งทางบกดูไบได้รับมอบรถยนต์ Tesla จำนวน 50 คัน และจะรับมอบอีก 75 คันในปี 2018 และอีก 75 คันในปี 2019 ซึ่งบริษัทแท็กซี่ดูไบได้ช่วยจัดหาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการใช้งานรถแท็กซี่ไร้คนขับนี้ และตั้งสถานีชาร์จอีก 13 สถานี
หากยังจำกันได้ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla เคยเขียน "แผนการขั้นสุดยอด" ของบริษัทไว้ โดยในตอนหนึ่งของแผนดังกล่าวเขาระบุไว้ว่า Tesla จะทำ "รถบรรทุกไฟฟ้า" ในนาม Tesla Semi ด้วย โดยตอนนั้นยังอยู่ในช่วงการวิจัยและพัฒนาอยู่
ล่าสุดเขาทวีตผ่านบัญชีทวิตเตอร์ส่วนตัวว่าจะจัดงานเปิดตัวรถบรรทุกดังกล่าวในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ (ใช้คำว่า tentative คือยังไม่ยืนยันวันที่แน่ชัด) ที่เมือง Hawthorne รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยในงานจะเปิดให้ทดลองขับด้วย ก่อนปิดท้ายทวีตว่าควรจะมาเห็นด้วยตาตนเอง และมัน "เหลือเชื่อ" (it's unreal)
ไว้เปิดตัวแล้ว Blognone จะนำเสนอให้อ่านกันครับ
ถึงแม้ Tesla Motors จะติดตั้ง Supercharger ในหลายพื้นที่ของสหรัฐสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานรถไฟฟ้าของ Tesla แต่ด้วยขนาดของสถานีและแท่นชาร์จ ทำให้การติดตั้งมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และสถานีชาร์จส่วนใหญ่จะอยู่ไม่นอกเมือง ก็ตามโรงแรมขนาดใหญ่หรือทางหลวงเท่านั้น
ล่าสุด Tesla Motors เปิดตัวสถานี Supercharger ใหม่ที่มีขนาดเล็กลงสำหรับการติดตั้งในตัวเมืองที่มีพื้นที่จำกัดและแออัด ซึ่งจะเริ่มติดตั้งตามซูเปอร์มาร์เก็ต, ศูนย์การค้าหรือย่านดาวน์ทาวน์ของเมืองชิคาโกและบอสตันก่อน และด้วยขนาดนี้ที่เล็กลงก็ต้องแลกมาด้วยกำลังไฟที่ลดลงและเวลาชาร์จที่นานขึ้น โดย Supercharger เวอร์ชันย่อส่วนนี้จะปล่อยไฟที่ 72kW ที่น้อยกว่าปัจจุบันที่อยู่ที่ 150 kW
เราคงเห็นข่าวกันแล้วว่าขณะนี้พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา (Hurricane Irma) กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ทางใต้ของรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยความเร็วลมสูงถึง 190 กม./ชม. ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 181,000 ตารางกิโลเมตร (ใหญ่กว่าฟอริดาทั้งรัฐอีก) รัฐต้องสั่งอพยพประชาชนราว 6.3 ล้านคนออกจากพื้นที่
ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าของรถ Tesla จำนวนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐฟลอริดารายงานกันว่ารถยนต์ของพวกเขาแสดงระยะทางที่วิ่งได้มากกว่าปกติ โดยเจ้าของรถ Tesla Model S 60 คนหนึ่งติดต่อเข้ามายังเว็บไซต์ Electrek ว่ารถเขาบอกว่าวิ่งได้ไกลขึ้นราว 60 กิโลเมตร และบนหน้าจอแสดงตรา "75" (Model S 60 ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง เป็นรุ่นเล็กสุดที่ Tesla เคยมีขาย ปัจจุบันเลิกขายไปแล้ว)
มีอีเมลภายในของ Tesla จาก Elon Musk ที่ส่งถึงพนักงานทุกคนในบริษัทถูกเปิดเผยออกมาโดยเว็บไซต์ Inc. กล่าวถึงการสื่อสารภายในองค์กร ที่ส่วนใหญ่ต้องสื่อสารผ่านผู้จัดการก่อน เป็นการระบุกลายๆ ว่าไม่ต้องการให้พนักงาน Tesla ทำเช่นนี้
เขาเล่าว่าวิธีการสื่อสารในองค์กรที่นิยมมากคือการที่พนักงานคุยกับหัวหน้า/ผู้จัดการของตนก่อน แล้วผู้จัดการก็ไปคุยกับหัวหน้าของเขาอีกที แล้วหัวหน้าก็ไปคุยกับหัวหน้าของอีกแผนก และหัวหน้าของแผนกนั้นก็ค่อยคุยกับลูกน้องของตน จากนั้นกระบวนการนี้ก็ย้อนกลับ ซึ่ง Elon เห็นว่าเป็นวิธีที่ "โง่อย่างไม่น่าเชื่อ" และถึงแม้จะทำให้เห็นอำนาจของเหล่าผู้จัดการ แต่มันไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับบริษัทเลย
เมื่อวานนี้ Tesla ปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าลง 3,500 ถึง 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1.1 ถึง 1.6 แสนบาท) หลังบริษัทฯ สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ขนาด 100 กิโลวัตต์ได้ ซึ่งรถยนต์รุ่นที่ถูกปรับลดราคาคือ Model S และ X ในรุ่นความจุแบตเตอรี่ 100 กิโลวัตต์เท่านั้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีราคาแพงสุด
ลูกค้าที่จองรถไปก่อนประกาศนี้ออกมาแต่ยังไม่ได้ชำระเงินก็จะได้รับราคาใหม่เลย ดังนี้
เมื่อต้นปี Chris Lattner อดีตหัวหน้าทีมพัฒนาภาษา Swift และ IDE Xcode ได้ประกาศลาออกจาก Apple และย้ายไปทำงานอยู่ทีม Autopilot ของ Tesla ล่าสุดเค้าได้ประกาศผ่าน Twitter ส่วนตัวว่าตอนนี้ย้ายไปทำกับทีม Google Brain แล้ว
Lattner อธิบายลงในเว็บไซต์ส่วนตัวเพิ่มเติมว่า เมื่อตอนทำงานอยู่ Tesla ได้สร้างสิ่งดีๆ ร่วมกับทีมขึ้นมามากมาย แต่เค้าคิดว่าบริษัทไม่เหมาะกับตัวเอง สุดท้ายก็ตัดสินใจลาออกและย้ายไปทำงานอยู่กับทีม Google Brain โดยเริ่มทำงานในอาทิตย์หน้า
ในรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ที่เพิ่งส่งมอบไปเมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว มีคนพบว่าบริเวณก้านกระจกมองหลังมีกล้องเล็กๆ ฝังอยู่ โดยที่ในงานเปิดตัวไม่มีการพูดถึงกล้องนี้แม้แต่นิดเดียว จึงทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของผู้โดยสาร
ล่าสุด Tesla ยืนยันแล้วว่านั่นคือกล้องจริงๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดใช้งาน นอกจากนี้ยังระบุว่ากล้องนี้สามารถมองเห็นผู้โดยสารได้ทั้งคันอีกด้วย ซึ่งเว็บไซต์ Electrek คาดว่ากล้องนี้จะเปิดใช้งานในอนาคต เมื่อซอฟต์แวร์ของรถพร้อมสำหรับการขับอัตโนมัติเต็มรูปแบบ คือคนในรถไม่ต้องสนใจการขับเลย และการมีกล้องนี้ก็จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเหตุการณ์ภายในรถได้หากเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตาม Tesla ระบุว่าไม่มีกล้องดังกล่าวใน Model S และ X
ถึงแม้ Tesla Model 3 รถยนต์รุ่นราคาถูกที่สุดของ Tesla จะได้รับการตอบรับถล่มทลาย และยังมียอดจองเพิ่มเฉลี่ยวันละ 1,800 คัน แต่ปัญหาคือด้วยกำลังการผลิตปัจจุบัน Tesla ไม่น่าผลิตทันถ้าไม่เพิ่มกำลังการผลิต ซึ่งก็เป็นปัญหาอีกเพราะเงินสดในหน้าตักของ Tesla เหลือไม่เยอะมาก
ปัจจุบัน Tesla มีรถยนต์ขายอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น คือ Model S, 3 และ X ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีอีก 1 รุ่นที่เรายังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับมันมากนัก คือ Model Y ล่าสุด Elon Musk ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับรถรุ่นนี้เพิ่มเติมแล้ว
สิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับ Model Y คือมันจะเป็นรถ SUV ที่เล็กกว่าและราคาถูกกว่า Model X และจะถูกเปิดตัวในปลายปี 2019 ถึง 2020 โดยก่อนหน้านี้ Elon เคยเผลอทวีตว่า Model Y จะมาพร้อมประตูปีกนก falcon wing แต่ลบไปทันที
หลังเปิดตัว Tesla Model 3 เมื่อปีที่แล้วและมียอดจองถล่มทลาย อย่างน้อยๆ ก็ขึ้นไปสูงถึง 518,000 คัน ก่อนจะถูกยกเลิกไปราว 63,000 คันเหลืออยู่ที่ราว 455,00 คัน จากการเปิดเผยของ Elon Musk
อย่างไรก็ตาม Musk มองว่าตัวเลขที่ถูกยกเลิกเป็นจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น คงไม่ใช่เรื่องยากที่จะกระตุ้นให้เกิดการจองเพิ่มขึ้น แต่ทว่าคงไม่ตอบโจทย์บริษัทเท่าไหร่นัก เปรียบเหมือนคุณทำร้านอาหารและใช้เวลาทำอาหารชุดเดียวถึงชั่วโมงครึ่ง คุณควรจะเชิญชวนคนมากินร้านคุณหรือ ขณะเดียวกันบริษัทได้รับยอดจองเพิ่มเฉลี่ย 1,800 คันต่อวัน นับตั้งแต่เริ่มส่งมอบให้ลูกค้าชุดแรกด้วย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในงานส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ล็อตแรกที่โรงงานของ Tesla ณ เมือง Fremont ซีอีโอของบริษัท Elon Musk ได้ขึ้นเวทีพูดเกี่ยวกับรายละเอียดเพิ่มเติมของรถยนต์รุ่นใหม่นี้ โดยระหว่างการนำเสนอ Elon ได้เปิดคลิปวิดีโอเปรียบเทียบการทดสอบชนด้านข้าง ระหว่าง Tesla Model 3 และ Volvo S60 ปี 2016
จากคลิปแสดงให้เห็นว่ารถยนต์ Tesla เสียหายจากการชนน้อยกว่า Volvo มาก ซึ่ง National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) เคยให้คะแนนความปลอดภัยของรถยนต์รุ่นนี้ไว้ที่ 5 ดาวในทุกการทดสอบ
จากที่ Elon Musk โชว์ภาพ Tesla Model 3 คันแรกที่ผลิตเสร็จ วันนี้บริษัท Tesla ก็จัดพิธีส่งมอบรถชุดแรก 30 คันให้ลูกค้าที่โรงงานในเมือง Fremont ซึ่งก็แน่นอนว่าซีอีโอ Elon Musk มาเป็นคนมอบด้วยตัวเอง
เว็บไซต์เทคโนโลยีและรถยนต์หลายรายก็ได้โอกาสเผยแพร่รีวิว Tesla Model 3 จากการทดลองขับกัน สิ่งที่น่าสนใจคือภายในรถ Model 3 เรียบมากๆ โดยแผงคอนโซลด้านหน้า มีเพียงแค่พวงมาลัย และหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ (รุ่นนี้เปลี่ยนมาใช้หน้าจอแนวนอนแทน) เท่านั้น
Tesla Model 3 ถือเป็นรถยนต์รุ่นที่สามของบริษัท Tesla ถัดจาก Model S และ Model X
Tesla เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า Model 3 รุ่นราคาถูกที่สุดของบริษัทไปตั้งแต่ปี 2016 และกวาดยอดจองถล่มทลาย ทั้งที่ยังไม่เริ่มสายการผลิตด้วยซ้ำ
เวลาผ่านไปปีกว่า รถยนต์ Tesla Model 3 ล็อตแรกผลิตเสร็จแล้ว และซีอีโอ Elon Musk ก็ไม่รอช้า โพสต์ภาพของ Model 3 คันแรกทางทวิตเตอร์ทันที
ลูกค้า 30 คนแรกจะได้รับมอบรถในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ และปริมาณการผลิตต่อเดือนจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นเป็น 100 คันในเดือนสิงหาคม, 1,500 คันในเดือนกันยายน และ 20,000 คันในเดือนธันวาคม
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีประเด็นว่า Elon Musk ทวีตจะติดตั้งฟาร์มแบตเตอรี่ในรัฐ South Australia ให้ได้ภายใน 100 วัน ไม่งั้นก็จะไม่คิดเงิน เพื่อแก้ปัญหาไฟดับที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนเกิดการพูดคุยเจรจาไม่ว่าจะด้านกฎหมาย เงินทุนหรือพาร์ทเนอร์ของภาคส่วนต่างๆ ขึ้น
ล่าสุดการเจรจาลุล่วงแล้ว โดยทาง Tesla ร่วมกับพาร์ทเนอร์ Neoen บริษัทด้านพลังงานจากฝรั่งเศส เซ็นสัญญากับรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อติดตั้ง Powerpack หรือฟาร์มแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 129 เมกะวัตต์ชั่วโมง ใกล้กับเมือง Jamestown รัฐ South Australia ร่วมกับฟาร์มพลังงานลมของ Neoen ภายใต้เงื่อนไขติดตั้งฟาร์มแบตเตอรี่ให้เสร็จภายใน 100 วันตามที่ Musk เคยลั่นวาจาเอาไว้ด้วย
ก่อนหน้านี้เราไม่เห็นข่าวคราวของ Tesla เกี่ยวกับการตั้งโรงงานผลิตรถยนต์นอกสหรัฐอเมริกามากนัก จะมีก็แต่อินเดียที่เคยยื่นข้อเสนอให้ Tesla ไปเปิดโรงงานที่ประเทศตัวเอง ล่าสุดโฆษกของ Tesla เปิดเผยแล้วว่าบริษัทฯ กำลังเจรจากับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Municipal Government) เพื่อตั้งโรงงานในจีน
โฆษกของ Tesla ระบุว่าบริษัทฯ กำลังเจรจากับเมืองเซี่ยงไฮ้และศึกษาความเป็นไปได้ที่จะตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ในจีน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดจีน รวมถึงดูความเป็นไปได้ที่จะตั้งโรงงานในส่วนอื่นของโลกเช่นกัน ซึ่งในปีที่แล้วรายได้ถึง 15% ของ Tesla มาจากตลาดจีน
Waymo บริษัทพัฒนารถไร้คนขับภายใต้ Alphabet ประกาศดึงตัว Satish Jeyachandran อดีตผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ มานำทีมฮาร์ดแวร์ของ Waymo
Satish จะเข้ามาดูแลการพัฒนาฮาร์ดแวร์ด้านการมองเห็นของรถไร้คนขับอย่างกล้อง, เรดาร์ และ เซ็นเซอร์ LiDAR รวมถึงประสานงานกับฝ่ายซอฟต์แวร์ ทั้งนี้ Satish ทำงานกับ Tesla ถึง 7 ปีก่อนจะลาออกช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ที่มา - Bloomberg
Recode รายงานว่า ตอนนี้ Tesla ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่เริ่มต้นการคุยกับอุตสาหกรรมเพลง คาดว่าน่าจะเริ่มทำบริการสตรีมมิ่งเพลงให้บริการผู้ใช้รถยนต์ในอนาคต
แหล่งข่าวของ Recode ในอุตสาหกรรมเพลงเผยว่า Tesla กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับค่ายเพลงรายใหญ่เกี่ยวกับไลเซนส์ที่จะใช้กับบริการสตรีมมิ่ง โดย Tesla น่าจะรวมบริการนี้เข้ากับรถยนต์ตัวเอง ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ Tesla ก็มีแผงคอนโซลอันไฮเทคและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว การอัพเดตซอฟต์แวร์เพื่อเพิ่มฟีเจอร์สตรีมมิ่งให้ผู้ใช้รถยนต์จึงไม่ใช่เรื่องที่ลำบากแต่อย่างใด
ปกติแล้วรถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model S P100D สามารถวิ่งได้ระยะทางราว 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ล่าสุดมีชายสองคนจากประเทศเบลเยี่ยมได้ทดลองขับรถแบบตั้งใจประหยัดสุดๆ หรือที่เรียกว่า Hypermiling ผลออกมาว่าขับได้ไกลถึง 900 กิโลเมตร
สถิติการขับ Tesla แบบประหยัดเดิมเป็นของ Casey Spencer ที่ขับรถรุ่น Model S 85D ได้ระยะทาง 885.62 กิโลเมตร จากการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งขณะนี้ Steven Peeters และ Joeri Cools จากประเทศเบลเยี่ยมก็ทำลายสถิตินี้ได้สำเร็จ พวกเขาเลือกขับในเส้นทางที่เป็นรอบ แทนที่จะขับทางไกลไปเรื่อยๆ โดยให้เหตุผลว่าการขับวนซ้ำๆ อยู่ที่เดิมจะทำให้พวกเขาเข้าใจทุกๆ โค้ง และขับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งระยะทาง 1 รอบคือ 26 กิโลเมตร
เป้าหมายหลักอย่างหนึ่งของ Tesla คือการให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ Tesla Model S รถยนต์ซีดานก็ได้รับการจัดอันดับความปลอดภัย 5 ดาวโดย National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) มาก่อนแล้ว ล่าสุด Tesla Model X รถยนต์ SUV ก็ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวเช่นกัน
Tesla ระบุว่า Model X ได้คะแนน 5 ดาวในทุกการทดสอบ ทั้งในหมวดหมู่หลัก และหมวดหมู่ย่อย ส่งผลให้ Model X เป็นรถยนต์ SUV รุ่นแรกที่ได้คะแนนระดับนี้เท่าที่เคยมีการทดสอบมา และมีความน่าจะเป็นที่จะพลิกคว่ำต่ำที่สุดในประเภทรถ SUV ด้วยกัน ซึ่งเป็นผลมาจากการวางแบตเตอรี่ที่พื้นรถ ทำให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำนั่นเอง
ความพิเศษอย่างหนึ่งของรถยนต์ Tesla คือมีเครือข่ายสถานีชาร์จด่วน หรือ Supercharger กระจายอยู่จำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่เดินทางไกลและไม่สามารถรอชาร์จปลายทางได้ แต่ล่าสุดมีคนตั้งข้อสังเกตไปถึง Elon Musk ทางทวิตเตอร์ว่าที่มาของไฟฟ้าที่สถานี Supercharger เหล่านี้ก็มาจากถ่านหินอยู่ดี
เรื่องนี้เริ่มต้นมาจากที่ Elon Musk ได้ทวีตเล่าว่าจุดกำเนิดของบริษัท Tesla นั้นมาจากการที่ General Motors เคยเรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น EV1 เนื่องจากขาดทุนและมีปัญหาเกี่ยวกับหัวชาร์จ ซึ่ง GM ประกาศยกเลิกโครงการรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2003 และจัดการทำลายรถยนต์ EV1 ทิ้งเรียบ
Elon Musk เคยเปรยเรื่องรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าในแผนการขั้นสุดยอด พาร์ท 2 - Master Plan, Part Deux ไปแล้วว่าตอนนั้นอยู่ในขั้นวิจัย ล่าสุดโครงการนี้ดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น เมื่อ Musk ได้เผยในงานประชุมผู้ถือหุ้น Tesla ประจำปีว่ากำลังร่วมงานกับบริษัทผลิตรถบรรทุกในการออกแบบรถบรรทุกขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้านี้อยู่
โตโยต้าประกาศขายหุ้นใน Tesla ที่เคยถืออยู่กว่า 2.3 ล้านหุ้น เป็นมูลค่าราว 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐหมดแล้ว ถือเป็นการยุติความสัมพันธ์กับ Tesla อย่างเป็นทางการ
โตโยต้าร่วมลงทุนใน Tesla ตั้งแต่ปี 2010 มูลค่าที่ซื้อตอนนั้นราว 50 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Tesla จะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนของรถ RAV4 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้าให้โตโยต้า ก่อนที่ปี 2014 โตโยต้าจะระงับการผลิตและขาย RAV4 และยุติบทบาทซัพพลายเออร์ของ Tesla และเทขายหุ้น Tesla เป็นจำนวนมาก