Uber รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2/2018 มีรายได้เพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 2.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนตัวเลขยอดจองรถรวม (Gross Booking) อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 41% สุทธิแล้วขาดทุนอีก 659 ล้านดอลลาร์
ถึงแม้ Uber จะยังไม่อยู่ในตลาดหุ้น แต่ก็เลือกรายงานตัวเลขออกมาทุกไตรมาส เพื่ออัพเดตข้อมูลให้นักลงทุนปัจจุบัน และถือเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดเผยข้อมูลก่อนเตรียมไอพีโอนั่นเอง
ซีอีโอ Dara Khosrowshahi เปิดเผยว่า Uber Eats บริการสั่งอาหารเดลิเวอรี่มีการเติบโตที่สูงมาก รายได้โตถึง 200% และ Uber ก็จะเพิ่มการลงทุนส่วนนี้ให้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เริ่มขยายมาลงทุนธุรกิจแชร์จักรยานไฟฟ้าและสกูตเตอร์ด้วย
Uber ประกาศว่าฝ่าย Uber Advanced Technologies Group จะยุติการพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับ และจะย้ายไปโฟกัสที่การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับให้มากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากจากที่ก่อนหน้านี้ Uber ประกาศยกเลิกการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ หลังเกิดอุบัติเหตุ แต่ตอนนี้ Uber พร้อมกลับมาเริ่มการทดสอบอีกครั้ง ซึ่งมีการปรับโครงสร้างทีมงานในการพัฒนาด้วย โดยแทนที่จะแยกกันพัฒนาระบบ ก็เปลี่ยนมาทำงานร่วมกันแทน
ทั้งนี้การยกเลิกแผนพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับ ไม่มีผลกระทบกับ Uber Freight บริการจับคู่คนขับรถบรรทุกและบริษัทที่ต้องการส่งสินค้า ซึ่งมีให้บริการตั้งแต่ปีที่แล้ว
ถึงแม้ Uber จะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านองค์กร มีการถอนตัวจากในหลายประเทศรวมทั้งไทย และเจอข่าวรุมเร้าอยู่มาก แต่การเติบโตของ Uber ก็ยังสูงมาก โดยล่าสุด Uber ประกาศว่ามีจำนวนการใช้บริการทะลุ 1 หมื่นล้านเที่ยวแล้ว
Uber เริ่มให้บริการในปี 2010 และมีจำนวนเที่ยวแตะ 5 พันล้าน เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว เท่ากับว่าการเติบโตอีก 5 พันล้านเที่ยวถัดมา ใช้เวลาเพียงแค่ปีกว่า ๆ เท่านั้น
เป็นอีกแนวทางเพิ่มรายได้ให้คนขับ Uber เมื่อทางบริษัทร่วมมือกับสตาร์ทอัพ Cargo ที่ทำแพลตฟอร์มกลางให้คนขับรถสามารถขายของ ขนม ให้ผู้โดยสารในรถได้
โดย Cargo จะให้กล่องบรรจุขนม หมากฝรั่ง ที่ชาร์จโทรศัพท์ แก่คนขับฟรี โดยมีข้อแม้ว่าคนขับต้องได้เรตติ้งไม่ต่ำกว่า 4.7 ในการซื้อของแต่ละครั้งคนขับจะได้ส่วนแบ่งต่อการซื้อ 1 ดอลลาร์ และเมื่อ Uber มาร่วมมือด้วยนี้ก็ทำให้คนขับในซานฟรานซิสโก ลอสแองเจลิส ได้กล่อง Cargo ไปขายให้ผู้โดยสารได้
Uber ได้ว่าจ้าง Ruby Zefo มาทำหน้าที่ Chief Privacy Officer หรือหัวหน้าด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นคนแรกของบริษัท เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทได้ทำตามกฎคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล GDPR
ประสบการณ์การทำงานของ Zefo คือ เคยเป็นผู้นำทีมกฎหมายด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยทั่วโลกของ Intel และยังเคยทำหน้าที่ในคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวนานาชาติ หรือ International Association of Privacy Professionals
นอกจากนี้ Uber ได้ว่าจ้าง Simon Hania ให้เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลของตนตามที่กำหนดไว้ในระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลทั่วไปของสหภาพยุโรป
ถึงแม้ Uber จะไม่ได้ให้บริการในไทยแล้ว แต่ประกาศคุณสมบัติใหม่ในแอปล่าสุดนี้ ก็น่าจะเป็นไอเดียที่น่าสนใจไปต่อยอดได้ โดย Uber ประกาศได้เพิ่มฟีเจอร์ Spotlight เพื่อแก้ปัญหาคนขับรถมองหาผู้โดยสารไม่เจอ แม้ว่าจะมาถึงจุดรับตามที่นัดหมายแล้ว
Uber บอกว่าสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะเวลาเราอยู่ในพื้นที่ซึ่งมีคนอยู่เยอะ หรือเป็นเวลากลางคืน โดยแอปจะสร้างหน้าจอเป็นสีตามกำหนดขึ้นมา ให้เราโบกส่งสัญญาณกับคนขับรถ ซึ่งคนขับก็จะได้ข้อมูลว่าหน้าจอโทรศัพท์เราเป็นสีอะไร ทำให้มองหาเจอได้ง่ายขึ้น
ฟีเจอร์อื่นที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ ระบบรับประกันว่ารถจะมารับตรงตามเวลานัดหมาย ซึ่งหากมาไม่ตรงก็จะให้เครดิตคืน และฟีเจอร์ตัวเลือกข้อความสำหรับผู้ขับรถให้ตอบกลับได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องพิมพ์
Liane Hornsey ตำแหน่ง Chief People Officer หรือหัวหน้าฝ่าย HR ของ Uber ประกาศลาออกโดยไม่ได้ให้เหตุผลผ่านทางอีเมลภายในที่แจ้งต่อพนักงานของ Uber หลังรับตำแหน่งนี้มาได้ราว 18 เดือน
Reuters ตั้งข้อสังเกตว่าการลาออกครั้งนี้ของเธอ เกิดขึ้นหลังมีการสืบสวนที่ Hornsey ถูกกล่าวหาว่าเพิกเฉยต่อคำร้องเรียนของพนักงานเกี่ยวกับประเด็นการถูกเลือกปฏิบัติจากเชื้อชาติ (racial discrimination) นอกจากนี้กลุ่มพนักงานผิวสีของ Uber เปิดเผยกับ Reuters ด้วยว่า Hornsey มักใช้คำพูดในเชิงดูถูกและเลือกปฏิบัติ
Uber ได้แจ้งปลดพนักงานประมาณ 100 คน ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถยนต์ไร้คนขับ โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานส่วนที่ควบคุมรถยนต์และตรวจสอบการเดินทาง อย่างไรก็ตาม Uber ได้เสนอตำแหน่งงานใหม่เรียกว่า Mission Specialist ให้กับพนักงานกลุ่มนี้ แต่รับเพียง 55 คน
การปรับโครงสร้างฝ่ายรถยนต์ไร้คนขับนี้ ยังคงเป็นแผนต่อเนื่องหลัง Uber ประกาศยกเลิกการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับในแอริโซนาแบบถาวร จากอุบัติเหตุรถชนคนจนเสียชีวิต แต่โฆษกของ Uber ก็ยืนยันว่า Uber ยังไม่ล้มเลิกโครงการรถยนต์ไร้คนขับไปเลย
ซีอีโอ Dara Khosrowshahi เองก็เคยบอกก่อนหน้านี้ว่า Uber จะกลับมาทดสอบรถยนต์ไร้คนขับอีกครั้งแน่นอนในปีนี้
มีรายงานว่า Uber ได้เริ่มเจรจากับ Careem แอพแชร์รถแท็กซี่ท้องถิ่น ซึ่งให้บริการอยู่ในพื้นที่ประเทศแถบตะวันออกกลาง เพื่อควบรวมกิจการกัน แต่ดีลนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
ข้อเสนอของ Uber นั้นมีทั้ง จัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาร่วมกัน หรือ Uber อาจซื้อกิจการ Careem ทั้งหมดเลย โดยเบื้องต้น Uber ต้องการให้ Careem เป็นผู้ดำเนินงานในพื้นที่ต่อไป ส่วน Uber เป็นผู้ถือหุ้น
หากดีลนี้เกิดขึ้นจึง จะเป็นการขายกิจการครั้งล่าสุด ต่อเนื่องจาก จีน, รัสเซีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อลดการแข่งขันกับผู้ให้บริการท้องถิ่น
ในเดือนกันยายนปี 2017 ขนส่งลอนดอนประกาศไม่ต่อใบอนุญาต Uber ด้วยเหตุผลว่า Uber แสดงความไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์หลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยสาธารณะ ล่าสุดในการตัดสินขั้นอุทธรณ์วันนี้ ศาลสั่ง บริษัทจะได้รับใบอนุญาต 15 เดือนเพื่อที่จะสามารถทำงานต่อไปได้ในลอนดอน
ผู้พิพากษา Emma Arbuthnot กล่าวว่า การตัดสินมาจากการได้เห็นหลักฐานที่เป็นสาระสำคัญว่า Uber ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติของตนและดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะพยายามปฏิบัติตามนี้
ในระยะเวลาที่สามารถให้บริการต่อได้ 15 เดือนนี้ถือเป็นช่วงเวลาในการพิสูจน์ และจะถูกควบคุมการบริการอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ Uber ได้ตกลงที่จะจ่ายเงินทั้งหมดของ TfL (ขนส่งลอนดอน) สำหรับกระบวนการอุทธรณ์ มีมูลค่ารวม 425,000 ปอนด์
ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกรถในเวลาเร่งด่วน Uber จึงทดลองทำฟีเจอร์ให้ผู้ใช้เลือกได้ว่าจะรอรถนานขึ้น แต่จ่ายค่าโดยสารถูกกว่า โดยเว็บไซต์ Quartz เผยภาพหน้าจอแอพ Uber จากพนักงานใน Uber ที่เสนอเวลาเรียกรถแต่ราคาถูกกว่า นักข่าวสอบถามไปยังโฆษก Uber ก็ได้รับการยืนยันว่ากำลังทดลองทำฟีเจอร์นี้อยู่จริงๆ
จากภาพหน้าจอด้านล่าง จะเห็นราคาที่ Uber เสนอให้รอนานกว่านั้นถูกกว่าราคาเรียกด่วนประมาณ 25% อย่างไรก็ตาม ไม่มีข้อมูลว่าอัตราส่วนลดจะคงที่ 25% ตลอดหรือไม่ และยังมีแต่พนักงาน Uber ที่ซานฟรานซิสโก และลอสแองเจลิสเท่านั้น ที่ใช้ฟีเจอร์นี้ได้
ย้อนกลับไปต้นปี 2017 กูเกิลจับมือกับ Uber เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ให้แอพ Google Maps ให้สามารถเรียกรถ Uber ได้โดยตรงในแอพเดียวเลย โดยผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งแอพ Uber ด้วยซ้ำ ผ่านมา 18 เดือน มีรายงานว่าฟีเจอร์ดังกล่าวถูกถอดออกเรียบร้อยแล้ว
เว็บไซต์ Android Police พบว่าในหน้าซัพพอร์ตของ Google Maps ระบุว่าขณะนี้ผู้ใช้ไม่สามารถเรียกรถ Uber จากแอพ Google Maps ได้อีกต่อไป โดยผู้ใช้ยังเห็น Uber ในหน้าเรียกรถอยู่ แต่จะแสดงแค่การประเมินเวลาเดินทาง และหากกดเรียกรถก็จะเด้งไปเข้าแอพ Uber แทน เหมือนกับบริการเรียกรถเจ้าอื่นที่ Google Maps รองรับ เช่นในประเทศไทยก็รองรับ Grab
Uber เปิดตัว Uber Lite เจาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ที่อินเทอร์เน็ตยังไม่แรง และคนอาจยังใช้มือถือที่ไม่สามารถรองรับการใช้งานแอพ Uber ได้เต็มที่ โดย Uber Lite เปิดตัวในอินเดียเป็นที่แรก
Uber Lite มีขนาด 5 เมกะไบต์ (แอพ Uber ปกติมีขนาด 181 เมกะไบต์) เป็นแอพแอนดรอยด์ ไม่รองรับการจ่ายเงินค่าโดยสารผ่านบัตรเครดิต ต้องจ่ายด้วยเงินสดเท่านั้น แต่ทางบริษัทก็มีการวางแผนจะร่วมมือกับ Paytm ผู้ทำเปย์เมนต์ในอินเดีย และเพื่อประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล Uber Lite จะแนะนำสถานที่ใกล้เคียงกับพิกัดของผู้ใช้แทนที่จะทำเป็นแผนที่หรือช่องค้นหาสถานที่ ซึ่งตัวแอพก็มีแผนที่ให้กดดูว่ารถมาถึงหรือยัง แต่จะไม่แสดงแผนที่มาตั้งแต่แรก ผู้ใช้ต้องกดเข้าไปดูเอง
Uber มีการลงทุนในเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องการขนส่ง-เดินทาง อยู่ตลอด แต่บางเรื่องพอกลับสู่พื้นฐานก็น่าสนใจดี โดยมีรายงานว่า Uber ได้ยื่นขอสิทธิบัตร สำหรับระบบที่ใช้ Machine Learning เพื่อตรวจดูว่าผู้โดยสารคนนั้นน่าจะกำลัง เมา อยู่หรือไม่
เอกสารระบุว่าระบบนี้จะสามารถระบุสถานะผู้ใช้งาน Uber ว่าดูผิดปกติไปจากเวลาทั่วไปหรือไม่ ซึ่งข้อมูลบ่งชี้มีทั้ง วิธีใช้โทรศัพท์, ตำแหน่งที่อยู่, ความแม่นยำในการป้อนข้อความ, ความเร็วในการป้อนข้อความ, ลักษณะการใช้แอป, ความเร็วในการเดิน ตลอดจนองศาที่ผู้ใช้ถือโทรศัพท์อยู่
Recep Tayyip Erdogan ประะธานาธิบดีตุรกีกล่าวในงานเลี้ยงอาหารค่ำรอมฎอนที่กรุงอีสตันบูล ว่า ธุรกิจ Uber ต้องสิ้นสุดลง เราไม่จำเป็นต้องมี Uber เพราะมีระบบแท็กซี่ของเราเองอยู่แล้ว และยังบอกด้วยว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าดำเนินการกับบริษัท Uber ต่อไป
เป็นการต่อสู้ที่ยาวนานระหว่าง Uber กับคนขับแท็กซี่ท้องถิ่นในกรุงอีสตันบูล Uber เริ่มให้บริการในอีสตันบูลในปี 2014 และต้องเจอการประท้วงจากคนขับแท็กซี่อยู่เรื่อยๆ Uber ดำเนินธุรกิจภายใต้สัญญาอนุญาต D-2 ซึ่งจ่ายค่าธรรมเนียมถูกกว่าที่แท็กซี่ท้องถิ่นต้องจ่ายมาก ผู้ขับขี่ Uber จ่าย 3,550 ลีรา ต่อปีในขณะที่ใบอนุญาตรถแท็กซี่มีราคาประมาณ 1.68 ล้านลีราต่อปี และเมื่อประธานาธิบดี Erdogan ออกมาประกาศอยู่ข้างแท็กซี่ท้องถิ่น ก็ทำให้เหล่าแท็กซี่ยินดีมาก
อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ Uber ยังสามารถใช้บริการได้ปกติในอีสตันบูล
ข่าวฉาวกลับมาเยือน Uber อีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่าคนขับ Uber รายหนึ่งยิงปืนใส่ผู้โดยสายเสียชีวิต บนไฮเวย์ในเมืองเดนเวอร์ สหรัฐอเมริกา
สถานีทีวีท้องถิ่น รายงานข่าวว่าคนขับกับผู้โดยสารทะเลาะกันในรถ ก่อนที่คนขับจะหยิบปืนมายิงผู้โดยสารบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลังจากไปถึงโรงพยาบาล
ตามข่าวบอกว่าคนขับรายนี้ขับ Uber มานานหลายปีแล้ว โฆษกของ Uber บอกว่าเสียใจกับเหตุการณ์นี้ และถอดบัญชีของคนขับรายนี้ออกจากระบบแล้ว บริษัทจะให้ความร่วมมือกับตำรวจในการสืบสวนต่อไป
ที่มา - Business Insider, ภาพจาก Uber
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดัง Warren Buffett เคยยื่นข้อเสนอเป็นเงินทุนให้ Uber คิดเป็นเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยข้อเสนอนั้นประกอบด้วยการซื้อหุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ์ ตลอดจนให้เงินกู้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วดีลนี้ก็ไม่เกิดขึ้น
แหล่งข่าวบอกว่าปัญหาของดีลดังกล่าว เกิดจาก Buffett ต้องการหุ้นแปลงสภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งคล้ายกับดีลตอนซื้อหุ้นธนาคาร Goldman Sachs ช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 ทำให้ซีอีโอ Dara Khosrowshahi พยายามต่อรองขอลดขนาดเงินทุนรวมลงเหลือ 2 พันล้านดอลลาร์ สองฝ่ายเจรจากันไม่ลงตัว ดีลจึงล้มไปในที่สุด
Buffett ยืนยันข่าวดังกล่าว โดยบอกว่ามีการเจรจาขอซื้อหุ้น Uber จริง แต่บอกว่าตัวเลขที่รายงานออกมานั้นไม่ถูกต้องบางส่วน
จากกรณี รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ชนคนเดินเท้าเสียชีวิต ในที่สุด คณะกรรมการความปลอดภัยคมนาคม (National Transportation Safety Board - NTSB) ของสหรัฐก็ออกผลสอบสวนเบื้องต้น (preliminary report) ต่อสาธารณะแล้ว
รถยนต์คันที่เกิดเหตุเป็น Volvo ที่ติดตั้งระบบไร้คนขับของ Uber เข้ามา (มีกล้องทั้งหมด 10 ตัว) รถคันนี้มีการทำงาน 2 โหมดคืออัตโนมัติ และขับด้วยคน ซึ่งการทำงานในโหมดอัตโนมัติ ระบบรักษาความปลอดภัยของ Volvo จะถูกปิดเอาไว้ และจะกลับมาทำงานถ้าเปลี่ยนมาเป็นโหมดขับด้วยคน ซึ่งการเปลี่ยนโหมดจะมีขึ้นเมื่อคนขับหมุนพวงมาลัย/เหยียบคันเร่ง/เบรก/กดปุ่มปิดโหมด
หลังรถยนต์ไร้คนขับของ Uber ขับรถชนคนจนเสียชีวิต ในรัฐแอริโซนาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด Uber ส่งจดหมายเปิดผนึกภายในให้กับพนักงานแจ้งว่า บริษัทจะยกเลิกการทดสอบรถไร้คนขับในแอริโซนาเป็นการถาวร
Eric Meyhofer ผู้บริหารของ Uber ที่เขียนจดหมายฉบับนี้ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ยกเลิกโปรแกรมรถไร้คนขับ พร้อมระบุว่าจำกัดรูปแบบการทดสอบรถบนถนนมากยิ่งขึ้น โดยการยกเลิกการทดสอบในแอริโซนาทำให้ Uber เหลือสนามทดสอบที่ Pittsburgh แห่งนี้ และตอนนี้ Uber ก็กำลังพูดคุยกับกรมการขนส่งของซานฟรานซิสโก (ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่) และเมืองซาคราเมนโตในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อทดสอบรถไร้คนขับอยู่ด้วย
Uber รายงานตัวเลขผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 1 ปี 2018 ให้กับนักลงทุนของบริษัท มีประเด็นสำคัญคือ Uber มีผลสุทธิเป็นกำไรแล้วครั้งแรก จากที่ผ่านมาบริษัทขาดทุนมาตลอด โดยมีกำไร 2.5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามตัวเลขกำไรนี้เป็นกำไรจากรายการพิเศษที่มีครั้งเดียว นั่นคือการขายธุรกิจในรัสเซียให้ Yandex และธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ Grab หากตัดสองรายการนี้ออกไป Uber จะขาดทุน 480 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนที่ลดลงจากไตรมาสก่อน ๆ
Uber เปลี่ยนนโยบาย หากมีเหยื่อถูกคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารหรือพนักงานในบริษัท Uber จะใช้ อนุญาโตตุลาการในการอ้างสิทธิ์ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งวิธีนี้เป็นที่วิจารณ์มานานว่าเป็นช่องทางทำให้เหยื่อปิดปากเงียบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อนุญาโตตุลาการ คือ การระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยคู่กรณีอาจเลือกบุคคลที่สามเป็นอนุญาโตตุลาการจำนวนหนึ่งคนหรือหลายคนเป็นคณะอนุญาโตตุลาการก็ได้ โดยอนุญาโตตุลาการจะทำหน้าที่วินิจฉัยการชี้ขาดข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่เพียง Uber ที่ใช้ช่องทางนี้แต่หลายบริษัทเวลามีกรณีฟ้องร้องแรงงานก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน
ถึงแม้ Uber จะไม่ได้มีให้บริการในไทยแล้ว แต่การติดตามแนวคิดใหม่ๆ ในแอพก็ยังน่าสนใจ โดยล่าสุด Uber ประกาศว่าทั้งผู้โดยสารและผู้ขับรถ สามารถเขียนแสดงความคิดเห็นให้กันในระหว่างการเดินทางแล้ว จากเดิมที่ต้องสิ้นสุดการเดินทางก่อนจึงสามารถเขียนรีวิวได้
โดยสิ่งที่ผู้โดยสารสามารถทำได้ในระหว่างเดินทางคือการให้เรทติ้ง, ให้ความคิดเห็น ตลอดจนให้ทิป และสามารถแจ้งปัญหาที่เจอได้ อาทิ ปัญหาการจอดรับ, ปัญหาของแอพเอง ซึ่ง Uber หวังว่าจะทำให้ได้ข้อมูลที่มากขึ้น และนำไปปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานนั่นเอง
ที่มา: Uber
จากกรณี รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ชนคนเสียชีวิต และมีการเปิดเผยคลิปจากกล้องวิดีโอของรถขณะที่ชน ก่อให้เกิดคำถามตามมามากมายว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตอนนี้ยังไม่มีผลสอบสวนอย่างเป็นทางการออกมา แต่เว็บไซต์ The Information ซึ่งเป็นแหล่งรวมข่าวลือในวงการเทคโนโลยี อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ 2 รายว่ากรณีนี้ ระบบเซ็นเซอร์ของ Uber ตรวจจับคนเดินข้ามถนนได้ แต่ไม่ได้สั่งให้รถเบรก
Uber ประกาศอัพเดตนโยบายการจ่ายรางวัลจากการรายงานช่องโหว่ใหม่ โดยระบุว่าจะมีแนวทางชัดเจนขึ้นว่าการรายงานอย่างตั้งใจดีนั้นเป็นอย่างไร พร้อมกับเพิ่มข้อความระบุชัดว่าจะไม่ดำเนินการทางกฎหมาย หรือแนะนำให้คนอื่นดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้รายงาน หากมีหน่วยงานอื่นดำเนินคดีกับผู้รายงานก็จะแจ้งด้วย ว่าผู้รายงานได้ปฎิบัติตามแนวทางที่ดีแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า Uber ใช้ช่องทางการจ่ายรางวัลสำหรับการรายงานช่องโหว่ไปสำหรับการจ่ายเงินค่าไถ่เมื่อแฮกเกอร์ได้ข้อมูลไป
ประกาศอัพเดตนี้ยังระบุด้วยว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Uber แก้ไขช่องโหว่ไปแล้วกว่า 200 จุด รวมเงินรางวัล 290,000 ดอลลาร์ และตลอดอายุโครงการจ่ายไปแล้วถึง 1.4 ล้านดอลลาร์
Don Burnette หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Otto และมาเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคภายใต้ Uber ประกาศลาออกจากบริษัท ทำให้ผู้ร่วมก่อตั้ง Otto ทั้งหมด 4 คนได้แก่ Don Burnetter, Lior Ron, Claire Delauney และ Anthony Levandowski ออกจาก Uber แล้วทั้งหมด
Uber ประสบปัญหาฟ้องร้องกับ Waymo ในประเด็นที่ Levandowski ซึ่งเป็นอดีตพนักงาน Waymo ขโมยความลับทางการค้าเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับมา ก่อนที่ Uber จะไล่ Levandowski ออกและยอมความกับ Waymo พร้อมจ่ายค่าเสียหาย