หลังรถยนต์ไร้คนขับของ Uber ขับรถชนคนจนเสียชีวิต ในรัฐแอริโซนาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด Uber ส่งจดหมายเปิดผนึกภายในให้กับพนักงานแจ้งว่า บริษัทจะยกเลิกการทดสอบรถไร้คนขับในแอริโซนาเป็นการถาวร
Eric Meyhofer ผู้บริหารของ Uber ที่เขียนจดหมายฉบับนี้ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ยกเลิกโปรแกรมรถไร้คนขับ พร้อมระบุว่าจำกัดรูปแบบการทดสอบรถบนถนนมากยิ่งขึ้น โดยการยกเลิกการทดสอบในแอริโซนาทำให้ Uber เหลือสนามทดสอบที่ Pittsburgh แห่งนี้ และตอนนี้ Uber ก็กำลังพูดคุยกับกรมการขนส่งของซานฟรานซิสโก (ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่) และเมืองซาคราเมนโตในรัฐแคลิฟอร์เนียเพื่อทดสอบรถไร้คนขับอยู่ด้วย
Uber รายงานตัวเลขผลการดำเนินงานของไตรมาสที่ 1 ปี 2018 ให้กับนักลงทุนของบริษัท มีประเด็นสำคัญคือ Uber มีผลสุทธิเป็นกำไรแล้วครั้งแรก จากที่ผ่านมาบริษัทขาดทุนมาตลอด โดยมีกำไร 2.5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามตัวเลขกำไรนี้เป็นกำไรจากรายการพิเศษที่มีครั้งเดียว นั่นคือการขายธุรกิจในรัสเซียให้ Yandex และธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ Grab หากตัดสองรายการนี้ออกไป Uber จะขาดทุน 480 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุนที่ลดลงจากไตรมาสก่อน ๆ
Uber เปลี่ยนนโยบาย หากมีเหยื่อถูกคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นผู้โดยสารหรือพนักงานในบริษัท Uber จะใช้ อนุญาโตตุลาการในการอ้างสิทธิ์ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งวิธีนี้เป็นที่วิจารณ์มานานว่าเป็นช่องทางทำให้เหยื่อปิดปากเงียบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
อนุญาโตตุลาการ คือ การระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม โดยคู่กรณีอาจเลือกบุคคลที่สามเป็นอนุญาโตตุลาการจำนวนหนึ่งคนหรือหลายคนเป็นคณะอนุญาโตตุลาการก็ได้ โดยอนุญาโตตุลาการจะทำหน้าที่วินิจฉัยการชี้ขาดข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่เพียง Uber ที่ใช้ช่องทางนี้แต่หลายบริษัทเวลามีกรณีฟ้องร้องแรงงานก็ใช้วิธีนี้เช่นกัน
ถึงแม้ Uber จะไม่ได้มีให้บริการในไทยแล้ว แต่การติดตามแนวคิดใหม่ๆ ในแอพก็ยังน่าสนใจ โดยล่าสุด Uber ประกาศว่าทั้งผู้โดยสารและผู้ขับรถ สามารถเขียนแสดงความคิดเห็นให้กันในระหว่างการเดินทางแล้ว จากเดิมที่ต้องสิ้นสุดการเดินทางก่อนจึงสามารถเขียนรีวิวได้
โดยสิ่งที่ผู้โดยสารสามารถทำได้ในระหว่างเดินทางคือการให้เรทติ้ง, ให้ความคิดเห็น ตลอดจนให้ทิป และสามารถแจ้งปัญหาที่เจอได้ อาทิ ปัญหาการจอดรับ, ปัญหาของแอพเอง ซึ่ง Uber หวังว่าจะทำให้ได้ข้อมูลที่มากขึ้น และนำไปปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานนั่นเอง
ที่มา: Uber
จากกรณี รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ชนคนเสียชีวิต และมีการเปิดเผยคลิปจากกล้องวิดีโอของรถขณะที่ชน ก่อให้เกิดคำถามตามมามากมายว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ตอนนี้ยังไม่มีผลสอบสวนอย่างเป็นทางการออกมา แต่เว็บไซต์ The Information ซึ่งเป็นแหล่งรวมข่าวลือในวงการเทคโนโลยี อ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ 2 รายว่ากรณีนี้ ระบบเซ็นเซอร์ของ Uber ตรวจจับคนเดินข้ามถนนได้ แต่ไม่ได้สั่งให้รถเบรก
Uber ประกาศอัพเดตนโยบายการจ่ายรางวัลจากการรายงานช่องโหว่ใหม่ โดยระบุว่าจะมีแนวทางชัดเจนขึ้นว่าการรายงานอย่างตั้งใจดีนั้นเป็นอย่างไร พร้อมกับเพิ่มข้อความระบุชัดว่าจะไม่ดำเนินการทางกฎหมาย หรือแนะนำให้คนอื่นดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้รายงาน หากมีหน่วยงานอื่นดำเนินคดีกับผู้รายงานก็จะแจ้งด้วย ว่าผู้รายงานได้ปฎิบัติตามแนวทางที่ดีแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า Uber ใช้ช่องทางการจ่ายรางวัลสำหรับการรายงานช่องโหว่ไปสำหรับการจ่ายเงินค่าไถ่เมื่อแฮกเกอร์ได้ข้อมูลไป
ประกาศอัพเดตนี้ยังระบุด้วยว่าตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Uber แก้ไขช่องโหว่ไปแล้วกว่า 200 จุด รวมเงินรางวัล 290,000 ดอลลาร์ และตลอดอายุโครงการจ่ายไปแล้วถึง 1.4 ล้านดอลลาร์
Don Burnette หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Otto และมาเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคภายใต้ Uber ประกาศลาออกจากบริษัท ทำให้ผู้ร่วมก่อตั้ง Otto ทั้งหมด 4 คนได้แก่ Don Burnetter, Lior Ron, Claire Delauney และ Anthony Levandowski ออกจาก Uber แล้วทั้งหมด
Uber ประสบปัญหาฟ้องร้องกับ Waymo ในประเด็นที่ Levandowski ซึ่งเป็นอดีตพนักงาน Waymo ขโมยความลับทางการค้าเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับมา ก่อนที่ Uber จะไล่ Levandowski ออกและยอมความกับ Waymo พร้อมจ่ายค่าเสียหาย
Uber เข้าซื้อ JUMP Bikes สตาร์ทอัพแชร์จักรยานอย่างเป็นทางการ โดย JUMP นี้เป็นผู้ให้บริการแชร์จักรยานเบื้องหลัง Uber Bike ที่ทางบริษัทเพิ่งเปิดให้ทดสอบเป็นเวลาประมาณ 2 เดือน
JUMP หรือชื่อเดิมคือ Social Bicycles มีธุรกิจคือการให้บริการแชร์จักรยานแบบ dockless ลักษณะคล้ายกับ Mobike, Ofo คือผู้ใช้สามารถใช้ค้นหาและจองใช้จักรยานผ่านแอพ เมื่อต้องการใช้จักรยานก็ใช้แอพปลดล็อกและนำไปใช้ได้ทันที เมื่อใช้เสร็จแล้วจะล็อกไว้ในที่ล็อกจักรยานหรือสิ่งที่อยู่บนทางเท้าอย่างเช่นเสาไฟหรือม้านั่งก็ได้ โดยตัวจักรยานของ JUMP จะมีมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับช่วยในการปั่นจักรยานให้ง่ายยิ่งขึ้น
วันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมาเป็นเส้นตายที่ Uber จะเปิดให้บริการในไทยวันสุดท้าย และถูกควบรวมเข้ากับ Grab ทว่า Uber ถูกสั่งให้บริการในสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ต่อไปก่อน เนื่องจากหน่วยงานที่ดูแลด้านการแข่งขันและผูกขาดยังไม่รับรองการควบรวมครั้งนี้
หน่วยงานสิงคโปร์สั่งให้ Uber ชะลอการสิ้นสุดการให้บริการในสิงคโปร์ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ขณะที่ในฟิลิปปินส์ที่จะให้บริการวันสุดท้ายในวันที่ 8 เมษายนเหมือนไทย ก็ถูกหน่วยงานตรวจสอบของฟิลิปปินส์สั่งให้บริการต่อไปก่อน หลังเพิ่งเริ่มพิจารณาการควบรวมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมระบุว่าการผูกขาดของ Grab จะส่งผลกระทบต่อการคมนาคมสาธารณะ
Uber ประกาศปิดให้บริการ UberRUSH บริการรับส่งพัสดุสินค้าจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 30 ปอนด์ ซึ่งเริ่มทดลองให้บริการตั้งแต่ปี 2015 จำกัดในบางเมือง
Uber กล่าวว่าบริการทั้งหมดของ RUSH จะหยุดให้บริการในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ถึงแม้จะเป็นเรื่องเศร้าที่ต้องปิดบริการ แต่ Uber ก็ได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับบริการส่งอาหาร UberEats ได้อีกด้วย
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีสตาร์ทอัพที่ให้บริการคล้ายกับ UberRUSH ชื่อ Shyp ประกาศปิดกิจการด้วย
ที่มา: TechCrunch
จากเหตุการณ์ รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ชนคนเดินเท้าเสียชีวิตรายแรก ส่งผลให้คู่แข่งร่วมวงการหลายรายต่างระงับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับชั่วคราว
แต่อินเทลที่เพิ่งซื้อกิจการ Mobileye บริษัทพัฒนาชิพสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติกลับสวนกระแส ด้วยการนำฟุตเตจวิดีโอจากกล้องของรถ Uber มาวิเคราะห์ และบอกว่าระบบของ Mobileye สามารถป้องกันการชนเคสนี้ได้ แม้ใช้เฉพาะภาพจากกล้องวิดีโอเท่านั้น
อุบัติเหตุจากรถไร้คนขับ Uberดูจะส่งผลเป็นลูกโซ่ไม่น้อย โดย Uber ถูกสั่งให้ระงับการทดสอบในรัฐแอริโซนาไปแล้วและบริษัทก็ตัดสินใจหยุดการทดสอบในเมือง Pittsburgh, Toronto และ San Francisco ชั่วคราวไปแล้ว ก่อนที่ล่าสุด Uber ตัดสินใจจะไม่ต่อใบอนุญาตทดสอบรถไร้คนขับในรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังใบอนุญาตจะหมดอายุในวันพรุ่งนี้ (31 มีนาคม)
จากการที่ Uber ตัดสินใจขายกิจการเพื่อถอนตัวออกจากหลายพื้นที่ตั้งแต่ จีน รัสเซีย และล่าสุดคือภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยขายให้ Grab ก็เกิดคำถามว่า Uber จะถอนตัวจากที่ไหนอีกหรือไม่ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าตลาดที่มีโอกาสสูงก็คือ อินเดีย ซึ่งที่นั่นมีแอพอย่าง Ola เป็นคู่แข่งหลัก
ในอินเดีย Uber ให้บริการแล้วใน 30 เมือง มีส่วนแบ่งการตลาดราว 35% ขณะที่ Ola แอพคู่แข่ง ให้บริการใน 110 เมือง และมีส่วนแบ่ง 45% นอกจากนี้ Ola ยังมีบริการเงินดิจิทัลชื่อ Ola Money ซึ่งทำให้มีจุดแข็งเหนือว่า Uber (อันนี้ฟังดูคุ้นๆ)
หลังรถไร้คนขับของ Uber ชนคนเดินเท้าเสียชีวิตเป็นครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่ง Uber เองก็ได้ระงับการทดสอบรถไร้คนขับบนถนนทั้งหมดในทุกเมืองไปแล้วนั้น
ล่าสุดผู้ว่าการรัฐแอริโซนากได้ส่งจดหมายเปิดผนึกไปยัง Dara Khosrowshahi ซีอีโอของ Uber ระบุว่าจากอุบัติเหตุดังกล่าว Uber ไม่สามารถทำตามที่รัฐแอริโซนาคาดหวังไว้ได้ ซึ่งก็คือความปลอดภัยสูงสุด พร้อมกันนี้ผู้ว่าการรัฐยังได้แจ้งเรื่องไปยังกรมขนส่งของแอริโซนาให้สั่งระงับการทดสอบรถไร้คนขับของ Uber แล้วด้วย
ผู้ว่าการรัฐแอริโซนาพูดถึงคลิปวิดีโออุบัติเหตุครั้งนี้ด้วยว่าน่ากลัวและน่าขุ่นเคือง (disturbing and alarming)
จากข่าวดังประจำวัน Grab ประกาศเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของ Uber ใน Southeast Asia ในอีเมลประกาศข่าวของ Uber/Grab ระบุว่าแอพ Uber จะให้บริการต่อไปอีก 2 สัปดาห์ จนถึงแค่วันที่ 8 เมษายน 2561
คนขับในระบบของ Uber จำเป็นต้องลงทะเบียนกับ Grab ใหม่อีกครั้ง โดยข้อมูลในบัญชีของ Uber ของทั้งคนขับและผู้โดยสารจะถูกย้ายมายัง Grab โดยอัตโนมัติ
ส่วนแอพ UberEats จะให้บริการจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 จากนั้นข้อมูลรายชื่อผู้จัดส่งและร้านอาหาร จะถูกโอนไปยังแอพของ Grab (GrabFood) เช่นกัน
Grab ยังประกาศว่าจะขยายบริการ GrabFood ไปยังทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ Grab มีธุรกิจอยู่ ภายในช่วงกลางปีนี้
ตามที่มีข่าวออกมาเมื่อวานนี้ เช้าวันนี้ Uber ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะขายธุรกิจทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ให้กับคู่แข่งรายสำคัญในพื้นที่ Grab ซึ่ง Grab ระบุว่าเป็นดีลบริษัทสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคที่เคยมีมา
รายละเอียดของดีลนั้น Uber จะได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น 27.5% ใน Grab และ Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber จะเข้ามานั่งเป็นบอร์ดบริหารใน Grab ด้วย โดยการควบรวมนี้ Grab จะได้ทุกธุรกิจของ Uber ในภูมิภาคคือบริการแชร์รถ และบริการส่งอาหาร Uber Eats ด้วย
John Krafcik ซีอีโอของ Waymo บริษัทพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติภายใต้ Alphabet ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน National Automobile Dealers Association ซึ่งเป็นงานสัมมนาที่จัดขึ้นใน Las Vegas โดยเขากล่าวไปถึงกรณีที่รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Uber เกิดอุบัติเหตุว่าเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติของบริษัทนั้นสามารถจัดการสถานการณ์แบบเดียวกับที่รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Uber พบได้ปลอดภัยกว่า
ซีอีโอกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ Arizona (ซึ่งรถยนต์ Uber ชนคนเดินเท้า) ว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรง แต่ Waymo มั่นใจในเทคโนโลยีของตัวเองว่าสามารถจัดการสถานการณ์ในลักษณะที่รถยนต์ไร้คนขับ โดยระบบของ Waymo นั้นถูกออกแบบมาเพื่อจัดการสถานการณ์ในลักษณะนั้นอยู่แล้ว
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Uber ได้บรรลุข้อตกลง เพื่อเตรียมขายธุรกิจทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย ให้กับคู่แข่งสำคัญในพื้นที่อย่าง Grab โดยจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเช้าวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 26 มีนาคม 2018)
มีรายงานมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Uber มีแผนจะขายกิจการเพื่อออกจากภูมิภาคนี้ และไปโฟกัสเฉพาะพื้นที่ซึ่งทำกำไรได้อย่างในอเมริกา คล้ายกับตอนขายธุรกิจในจีนและรัสเซีย
จากข่าวเมื่อวันก่อน รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ชนคนเดินเท้าเสียชีวิตรายแรก ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตในการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับอย่างเต็มตัว
วันนี้ทางตำรวจของเมือง Tempe ในรัฐแอซิโซนาซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ ได้เผยแพร่วิดีโอจากกล้องที่ติดอยู่หน้ารถและในรถต่อสาธาณะ
คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นจังหวะที่รถชนกับคนข้ามถนน และปฏิกิริยาของคนขับที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่ได้มองไปยังด้านหน้ารถ แต่ตำรวจยังไม่เผยรายละเอียดอื่นๆ ของคดีนี้ รวมถึงเหตุผลว่าทำไมระบบความปลอดภัยของรถยนต์จึงไม่สามารถตรวจจับผู้ข้ามถนนได้
รถยนต์ไร้คนขับของ Uber ได้ชนคนเดินเท้ารายหนึ่งเสียชีวิตในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ Uber ระงับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนทางสาธารณะทั้งหมดแล้ว
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองเทมพี รัฐแอริโซนา ช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยรายงานของตำรวจระบุว่า ขณะเกิดเหตุ รถยนต์ของ Uber กำลังทำงานในระบบไร้คนขับ แต่ยังมีคนนั่งอยู่หลังพวงมาลัยด้วย ในขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังเดินข้ามถนนนอกทางข้าม
โฆษกของ Uber ได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และยืนยันว่าบริษัทกำลังร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบสวนเหตุการณ์นี้
ผู้ขับแท็กซี่ในเมืองอิสตันบูลประเทศตุรกีเตรียมฟ้อง Uber ในข้อหาคุกคามวิถีชีวิตเนื่องจากการขัดขวางธุรกิจ ถือเป็นความขัดแย้งครั้งล่าสุดของเหล่าผู้ขับแท็กซี่เดิมกับ Uber โดยคนขับแท็กซี่ได้ร้องต่อศาลว่า Uber นั้นให้บริการแท็กซี่แบบไม่มีใบอนุญาตในตุรกี และต้องการให้แบนการใช้งานแอพด้วย
โมเดลธุรกิจจากรถยนต์ไร้คนขับเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นเรื่อยๆ อย่าง Waymo ที่พัฒนาขึ้นมาใช้งานเองผ่านแพลตฟอร์ม Ride-Hailing ส่วนบริษัท Ride-Hailing อย่าง Lyft ก็พัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับขึ้นมาไม่เพียงแค่ใช้เองแต่ยังขายให้บริษัทรถยนต์ที่สนใจด้วย
ล่าสุด Uber ดูเหมือนจะกำลังใช้ยุทธศาสตร์เดียวกับ Lyft คือขายเทคโนโลยีไร้คนขับให้บริษัทรถยนต์ ซึ่ง Nikkei รายงานว่าเจ้าที่กำลังเจรจากันอยู่คือ Toyota จากญี่ปุ่น ด้วยการนำฮาร์ดแวร์ไปติดตั้งในรถมินิแแวน ซึ่งสามารถนำไปติดตั้งได้แม้กระทั่งหลังรถยนต์ถูกขายไปแล้วก็ตาม
ทั้งนี้ Toyota เองก็กำลังพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับของตัวเองอยู่ด้วย
ในขณะที่ Uber อยู่ระหว่างปฏิรูปองค์กรหลายด้าน และแก้ปัญหาคั่งค้างทางกฎหมายกับท้องถิ่นต่างๆ บริการอีกตัวคือ UberEATS ดูเหมือนว่าจะขยายตัวได้เรื่อยๆ
ล่าสุดบริษัทตั้งใจจะขยายบริการเพิ่มอีก 100 เมืองใหม่ ครอบคลุมยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกาในปีนี้ รวมทั้งการเปิดตัวในไอร์แลนด์,อียิปต์,เคนยา,สาธารณรัฐเช็ก,ยูเครน และโรมาเนีย โดยตอนนี้ UberEATS ให้บริการใน 200 เมืองแล้ว บางเมืองยังไม่มีบริการ Uber ไปเปิดตัวด้วยซ้ำ
การผลักดัน ขยายบริการ UberEATS อาจเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของบริษัทที่จะสร้างความรับผิดชอบทางการเงินไอพีโอ Uber เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าในตลาดทั้งหมด 200 แห่งของ UberEATS มี 45 เมืองที่ทำกำไร นอกจากนี้ Dara Khosrowshahi ซีอีโอ Uber ระบุว่า UberEats ทำเงินคิดเป็น 10% ของรายได้รวม Uber แล้ว
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า Grab ใกล้ปิดดีลเพื่อซื้อกิจการทั้งหมดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Uber แล้ว หลังจากที่มีข่าวก่อนหน้านี้ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
ในเงื่อนไขการควบรวมนั้น Grab จะได้ตัวธุรกิจทั้งหมดของ Uber ในภูมิภาค ซึ่งสิ่งตอบแทนก็คือ Uber จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใน Grab ซึ่งตัวเลขจะอยู่ราว 20% ทำให้ Grab ต้องเจรจากับนักลงทุนปัจจุบันด้วยเนื่องจากต้องมีการออกหุ้นเพิ่มทุน ซึ่งหนึ่งในนักลงทุนที่เจรจาก็คือ SoftBank ที่เป็นผู้ลงทุนหลักทั้ง Grab และ Uber
Uber ประกาศว่าได้นำรถบรรทุกไร้คนขับไปให้บริการขนส่งสินค้าในรัฐแอริโซนาแล้วตั้งแต่ต้นปี โดยไม่ได้เปิดเผยจำนวนรถบรรทุกไร้คนขับ, พาร์ทเนอร์หรือจำนวนรอบขนส่งว่าสำเร็จไปแล้วกี่รอบ
Uber ระบุแต่เพียงว่ามีการวิ่งขนส่งสินค้า (คาดว่าน่าจะผ่าน Uber Freight) ไปแล้วหลายพันครั้งตั้งแต่ต้นปี และ"ส่วนใหญ่" เป็นรถบรรทุกไร้คนขับ