แม้ว่า Bing จะยังมีส่วนแบ่งตลาดตามหลังกูเกิลอยู่ไกล แต่ไมโครซอฟท์ก็ไม่ยอมแพ้ เก็บเล็กผสมน้อยเพิ่มฟีเจอร์มาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง จนตอนนี้ Bing (และ Yahoo! ที่ใช้เอนจินของ Bing) มีส่วนแบ่งตลาดสหรัฐรวมกันแตะหลัก 30% แล้ว (สถิติจาก Hitwise)

ในเดือนกุมภาพันธ์ Bing มี 13.49% ส่วน Yahoo! มี 14.99% รวมกันได้ 28.48% แต่พอมาถึงเดือนมีนาคม Bing เพิ่มเป็น 14.32% และ Yahoo! เป็น 15.69% เพิ่มเป็น 30.01%

ส่วนกูเกิลเดิมมี 66.69% ลดลงมาเป็น 64.42%

นี่สินะที่เรียกว่า "ความพยายาม"

หลังจากปล่อยให้คู่แข่งอย่างกูเกิลก้าวล้ำหน้าไปด้วย Google Instant วันนี้ยาฮูเองก็เปิดตัว Search Direct บริการค้นหาแบบเรียลไทม์ลักษณะเดียวกัน (แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว) มาแล้ว

Search Direct สามารถลองเล่นได้ที่ http://search.yahoo.com/ ครับ วิธีการใช้งานดูได้จากวิดีโอท้ายข่าว

ผู้ที่สนใจเบื้องหลังทางเทคนิค สามารถอ่านสถาปัตยกรรมข้างใต้ Search Direct ได้ที่ Yahoo! Developer Network ส่วนการเปรียบเทียบผลการค้นหากับ Google Instant ลองดูที่ Search Engine Land

ชะตากรรมของ Delicious ก่อนหน้านี้สรุปว่าจะไม่ปิดแต่ขายออกไป วันนี้รายละเอียดเริ่มชัดเจนขึ้น โดยเว็บไซต์ Business Insider รายงานข้อมูลวงในว่า ยาฮูจะขาย Delicious ด้วยราคา 1-2 ล้านดอลลาร์

ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดของผู้ซื้อ แต่คาดว่าจะเป็น StumbleUpon ผู้ให้บริการ bookmark/แนะนำเว็บที่เกี่ยวข้องอีกราย

ยาฮูซื้อ Delicious เมื่อปี 2005 ราคาประมาณ 15-20 ล้านดอลลาร์

ที่มา - Business Insider

Yahoo! Japan เป็นกิจการที่มีความพิเศษอยู่บ้าง เพราะไม่ใช่ "สาขา" ของยาฮูจากสหรัฐอเมริกา แต่เป็นการร่วมทุนกันระหว่างยาฮูกับบริษัทท้องถิ่นในญี่ปุ่น เริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1996 เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นหลายครั้ง ตอนนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ SoftBank บริษัทซอฟต์แวร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นที่สัดส่วน 42% ส่วนยาฮูถือ 35%

ช่วงหลังแม้ยาฮูบริษัทแม่จะประสบปัญหาอยู่เยอะ แต่ Yahoo! Japan กิจการยังดีอยู่ และตอนนี้มีข่าววงในว่ายาฮูกำลังจะขายหุ้นทั้งหมดใน Yahoo! Japan ให้แก่ SoftBank เพื่อหันไปเน้นตลาดจีนเพียงอย่างเดียว โดยยาฮูมีหุ้นส่วนหนึ่งใน Alibaba.com เว็บไซต์ใหญ่ของจีนเช่นกัน

ส่วนแบ่งตลาด search engine รอบโลกมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่ออันดับสองและอันดับสาม (แม้จะร่วมมือกันแล้ว) สลับตำแหน่งกันเอง

สถิติจาก StatCounter ระบุว่า Bing อาวุธที่ไมโครซอฟท์หมายมั่นปั้นมือมาหลายปี มีส่วนแบ่งตลาด 4.37% แซงหน้า Yahoo! ที่ตกลงมาเหลือ 3.93% เป็นครั้งแรก (สำหรับตลาดสหรัฐ Bing แซงเมื่อเดือนกันยายน 2010)

แม้ทั้งสองร่วมมือกันก็ยังมีส่วนแบ่งตลาดรวมน้อยกว่ากูเกิลที่กิน 89.94% ของตลาดโลกอีกไกล อย่างไรก็ตาม เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกในรอบสองปีที่กูเกิลมีส่วนแบ่งตลาดน้อยกว่า 90%

ที่มา - ReadWriteWeb

อดีตบริษัทดาวรุ่งของโลกไอทีเมื่อ 3-4 ปีก่อน ไม่ว่าจะเป็น Flickr, Delicious, Upcoming หรือ MyBlogLog ต่างเผชิญกับชะตากรรมใกล้เคียงกัน คือ โดนยาฮูซื้อกิจการเป็นที่ฮือฮา, มีไอเดียมากมายที่จะทำร่วมกับยาฮู, แต่พอมาเจอกระบวนการยุ่งยากภายในบริษัทก็ทำไม่ได้, บริการไม่มีอะไรใหม่, ผู้ก่อตั้งลาออกเมื่อครบสัญญา และจบลงด้วยบริการถูกปิดหรือขายออกไป

ยาฮูร่วมกระแสแมกกาซีนดิจิทัลบนแท็บเล็ต โชว์โปรแกรม "Livestand from Yahoo!" สำหรับอ่านเนื้อหาจากสำนักพิมพ์หลายเจ้า รวมถึงเนื้อหาจากยาฮูเอง (ตามข่าวบอกว่า Yahoo! Sports, Yahoo! News, Yahoo! Finance, Flickr, omg!)

ยาฮูบอกว่า Livestand จะเลือกเนื้อหาให้เหมาะสมกับความสนใจของผู้อ่าน รวมถึงเวลาและสถานที่อ่าน มีอินเทอร์เฟซที่สวยงามเหมาะกับจอสัมผัส ตอนนี้ Livestand ยังมีแต่ภาพและคำโฆษณา (เข้าไปดูได้ที่ Livestand from Yahoo!) เท่าที่ดูจากภาพที่ออกมาก็คล้ายๆ แมกกาซีนบนแท็บเล็ตจากค่ายอื่น แต่มีหมวดหมู่ของเนื้อหาให้เลือกจำนวนหนึ่ง

Livestand จะออกบน iPad และ Android ภายในครึ่งแรกของปีนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมจะแถลงใน Mobile World Congress ครับ

ไม่นานมานี้มีรายงานว่า Windows Phone 7 เจอปัญหา "data leak" หรือใช้ data transfer เยอะผิดปกติจนผู้ใช้หลายคนบ่น สืบไปสืบมาพบว่าปัญหาเกิดจากแอพภายนอกบางตัว ซึ่งวันนี้ไมโครซอฟท์ชี้ชัดแล้วว่าเกิดจากแอพ Yahoo! Mail รุ่นบน WP7

ไมโครซอฟท์ระบุว่าปัญหาเกิดจากการซิงค์ข้อมูลอีเมลของ Windows Phone Mail และ Yahoo! Mail ที่ไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ใช้บางคนเจอปัญหามือถือใช้ข้อมูลเยอะผิดปกติ

ไมโครซอฟท์กับยาฮูกำลังร่วมมือกันแก้ปัญหานี้ และจะมีซอฟต์แวร์รุ่นแก้ไขตามมาในไม่ช้า ระหว่างนี้ถ้าใครเจอปัญหาก็มีวิธีแก้แบบชั่วคราวโดยตั้งค่า Yahoo! Mail ไม่ให้ดาวน์โหลดอีเมลอัตโนมัติ (อ่านรายละเอียดในลิงก์ที่มา)

ต่อจากข่าวใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้วว่า ยาฮูจะปิดบริการ Delicious ซึ่งภายหลังแก้ข่าวว่า จะขาย Delicious แทน

Kevin Rose ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ Digg ได้กล่าวในรายการทีวีออนไลน์ Diggnation ของเขาเองว่า ยาฮูเคยมาเสนอขาย Delicous ให้กับ Digg ก่อนที่จะมีข่าวปิดบริการ Delicious รั่วออกมาเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน

จากที่ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ Flickr ได้เปิดให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินด้วยบัญชีของ Google และสัญญาว่าจะมีการเพิ่มพันธมิตรอีก ล่าสุดในบล็อกของ Flickr ประกาศว่าได้เพิ่มพันธมิตรรายใหม่นั่นคือ Facebook

ผู้ใช้ Flickr เดิมสามารถปรับค่าการล็อกอินด้วย Google หรือ Facebook ร่วมกับบัญชีของ Yahoo!

และสำหรับผู้ใช้ Facebook หรือ Google ก็สามารถล็อกอิน Flickr เพื่อแบ่งปันรูปภาพไปยัง Facebook โดยเข้าไปปรับค่าได้จากหัวข้อ account setting

ที่มา: Flickr Blog

ข่าวยาฮูเตรียมปิดหรือขาย Delicious ทำให้ผู้ใช้ Flickr ซึ่งเป็นกิจการที่ยาฮูซื้อมาไล่เลี่ยกับ Delicious เกิดความกังวลไม่น้อย

เว็บไซต์ ReadWriteWeb ได้แถลงการณ์จาก Blake Irving ผู้บริหารของยาฮู (มีชื่อตำแหน่งเป็น Chief Product Officer) ว่ายาฮูยังสนับสนุน Flickr อย่างเต็มที่ โดยบอร์ดและผู้บริหารของยาฮูมองว่า Flickr มีทิศทางสอดคล้องกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของบริษัท, มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก, มีแบรนด์ที่โด่งดัง และเป็นกิจการที่ทำกำไร

นอกจากแถลงการณ์แล้ว Irving ยังทวีตข้อความว่า "เรารัก Flickr ทั้งในแง่ยุทธศาสตร์และกำไร"

ปีนี้ถือเป็นปีทองของ Facebook อย่างแท้จริง ทั้งยอดสมาชิกแตะ 500 ล้านราย และผู้ก่อตั้งได้รางวัลบุคคลแห่งปี ล่าสุดทราฟฟิกของ Facebook แซง Yahoo! ขึ้นมาเป็นเว็บอันดับสามของโลกแล้ว

เว็บไซต์ 4 อันดับแรกจากสถิติของ comScore ได้แก่ Google (970 ล้าน UIP ต่อเดือน), Microsoft (869 ล้าน), Facebook (648 ล้าน) และ Yahoo! (630 ล้าน)

กรณีของ Yahoo! มีตัวเลขลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 633 ล้าน อย่างไรก็ตามถ้าคิดเฉพาะในสหรัฐ Yahoo! ยังเป็นเว็บอันดับหนึ่ง ส่วน Facebook อยู่อันดับสี่

ที่มา - TechCrunch

จากข่าววันก่อน ยาฮูจะปิดบริการ Delicious, MyBlogLog, Alta Vista ตกลงว่าส่วนของ Delicious ไม่ปิดบริการแล้ว แต่จะหาคนมารับช่วงต่อแทน

บล็อกล่าสุดของ Delicious ยืนยันว่าจะไม่ปิดบริการอย่างแน่นอน แต่ยอมรับว่า Delicious ไม่เหมาะกับยุทธศาสตร์ของยาฮู และกำลังหา "บ้านใหม่" ให้ ตอนนี้ยาฮูกำลังคุยกับบริษัทหลายแห่งเพื่อเจรจาขาย Delicious ออกไป

ส่วนคนที่กังวลใจก็สามารถ export ข้อมูลออกจาก Delicious ได้ (ต้องล็อกอินก่อนใช้งาน)

ที่มา - Delicious Blog

Raj Vemulapalli เป็นวิศวกรอาวุโสของ Yahoo! ที่มีอายุงานถึง 11 ปี ตำแหน่งสุดท้ายของเขาคือหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมการสื่อสารแบบเรียลไทม์ โดยฝ่ายนี้ทำหน้าที่ดูแลสินค้าหลายตัวเช่น Yahoo! Messenger, Yahoo! Chat, Yahoo! Mobile Messaging

ผมลองค้นหาผลงานของเขาดูพบว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้สร้างสรรค์ในสิทธิบัตรของ Yahoo! เช่น Multiple points of presence in real time communications ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถออนไลน์จากอุปกรณ์หลายๆ ตัวได้พร้อมกัน

ยังไม่มีความแน่ชัดว่า Vemulapalli จะเข้าไปทำงานที่ไหนต่อไป

ที่มา - TechCrunch

ยาฮูเพิ่งปลดพนักงาน 5% ไปไม่กี่วันก่อน และจากการประชุมภายในบริษัทเพื่อคุยเรื่องทิศทางหลังปลดพนักงาน ผู้บริหารของยาฮูก็ประกาศว่าจะหยุดให้บริการผลิตภัณฑ์ที่ผลงานไม่ดีจำนวนหนึ่ง และรวมผลิตภัณฑ์ผลงานไม่ดีอีกจำนวนนหนึ่งเข้ากับผลิตภัณฑ์อื่นๆ

ผลิตภัณฑ์ที่จะปิดบริการ ได้แก่ Yahoo! Buzz, Delicious, Alta Vista, MyBlogLog, Yahoo! Bookmarks, Yahoo! Picks

ผลิตภัณฑ์ที่จะรวมกับตัวอื่น ได้แก่ Upcoming, FoxyTunes, Sideline, FireEagle, Yahoo Events, Yahoo People Search

ข่าวนี้ยังประกาศเป็นการภายใน แต่มีคนนำสไลด์ข้อมูลชุดนี้หลุดออกมา ซึ่งโฆษกของยาฮูก็ยอมรับกลายๆ กับเว็บไซต์ AllThingsD ว่าเป็นความจริง

ภาวะถดถอยของ Yahoo! ผลักให้ Yahoo! ต้องลดขนาดตัวเองไปโฟกัสกับบริการที่ทำเงินได้มากขึ้น หลังจากปลดพนักงานไปแล้วก็ได้เวลาของการปิดบริการ Yahoo! Video ลง

Yahoo! Video จะปิดรับการอัพโหลดทั้งหมดนับแต่วันนี้ไป และข้อมูลทั้งตัววีดีโอ, รายการคะแนนโหวต, รายการเล่นวีดีโอ ทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงได้อีกหลังวันที่ 15 มีนาคม 2554 ที่จะถึงนี้

Yahoo! จะเปิดให้ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์สำหรับดึงวีดีโอทั้งหมดกลับลงเครื่องได้ และแนะนำให้ผู้ใช้อัพโหลดวีดีโอกลับขึ้นไปยัง Flickr ที่ Yahoo! เป็นเจ้าของอยู่เช่นกัน

ที่มา - TechCrunch

ใกล้สิ้นปีก็จะมีอันดับพวกนี้ออกมาเรื่อยๆ นะครับ ชุดแรกสุดเป็นของยาฮู ซึ่งเปิดเผย 10 คีย์เวิร์ดยอดนิยมประจำปีนี้

1. BP oil spill
2. World Cup
3. Miley Cyrus
4. Kim Kardashian
5. Lady Gaga
6. iPhone
7. Megan Fox
8. Justin Bieber
9. American Idol
10. Britney Spears

    กราฟิกประกอบจากทางยาฮู

รายละเอียดอื่นๆ อ่านกันเองตามลิงก์ครับ

ที่มา - Yahoo! Blog

ตอนแรกผมอ่านข่าวนี้เองก็ไม่อยากจะเชื่อเท่าไร แต่พอเห็นตัวเลขแล้ว "น่าตกใจ" จริงๆ

บริษัท Compete ผู้ให้บริการวิเคราะห์เว็บทราฟฟิก ได้โชว์ตัวเลขจำนวนผู้ใช้อีเมลของแต่ละค่ายในสหรัฐฯ (US Internet Traffic to Web-based Email Clients) ประจำเดือนกันยายนที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ใช้งาน Gmail อยู่ร้อยละ 15 ซึ่งน้อยกว่า Hotmail อยู่ถึงเกือบครึ่ง (ผู้ใช้งาน Hotmail ราวร้อยละ 30) ส่วนผู้ใช้งาน Yahoo! Mail ยังคงนำต่อไปที่ร้อยละ 44 ของจำนวนผู้ใช้อีเมลทั้งหมด

หลังจากมีข่าวลือออกมาสักระยะว่ายาฮูสนใจซื้อบริษัท Groupon บริษัทขายสินค้าแบบกลุ่มเพื่อราคาที่ถูกกว่า (เมืองไทยมีแบบคล้ายๆ กันชื่อ Ensogo) ซึ่งเป็นบริการที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ล่าสุดมีข่าวลือ (อีกแล้ว) ว่ายาฮูได้ยื่นข้อเสนอแบบไม่เป็นทางการไปยัง Groupon แล้ว โดยเพดานที่ยาฮูสามารถจ่ายได้จะอยู่ระหว่าง 3-4 พันล้านดอลลาร์

ปัจจุบัน Groupon มีพนักงาน 3,000 คน ให้บริการใน 29 ประเทศ และยังมีโอกาสระดมทุนด้วยวิธีอื่นๆ เช่น เข้าตลาดหลักทรัพย์ หรือระดมทุนจากนักลงทุนนอกตลาด อาจจะไม่จำเป็นต้องขายให้ยาฮูถ้าได้ราคาไม่ดีพอ

เว็บไซต์แชร์รูปภาพอย่าง Flickr ประกาศรองรับ OpenID โดยมีพันธมิตรรายแรกคือ "กูเกิล"

ผู้ใช้ Flickr รายใหม่ (เฉพาะรายใหม่ รายเก่ายังทำไม่ได้) สามารถใช้ Google Account ลงทะเบียนเพื่อใช้ Flickr ได้เลย ทาง Flickr สัญญาว่าในอนาคตจะเพิ่มพันธมิตรรายอื่นๆ ให้มากขึ้น

ที่มา - Flickr Blog

จากที่มีข่าวและภาพหน้าจอมาก่อนหน้านี้ ตอนนี้ Yahoo! Mail โฉมใหม่มาแล้ว

ผู้ใช้ Yahoo! Mail สามารถทดลองใช้ของใหม่โดยเข้าไปยัง features.mail.yahoo.com และกด Try It Now

ฟีเจอร์ใหม่ได้แก่ความสามารถในการอัพเดต Twitter/Facebook ในตัว, การกรองสแปมที่ดีขึ้น, และความเร็วที่ยาฮูบอกว่าเร็วขึ้น 2 เท่า (ผมลองแล้วก็เร็วจริงๆ ด้วย)

ที่มา - Yahoo! Blog

Facebook Connect นั้นประสบความสำเร็จมาก จนคู่แข่งอื่นๆ ต้องเปิดบริการล็อกอินเข้าเว็บอื่นด้วย ID ของตัวเองตาม เช่น Twitter @anywhere, Google Account และที่เพิ่งเปิดตัวไป Windows Live Messenger Connect

ล่าสุดหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่า ยาฮูกำลังจะเปิดกับเขาบ้าง โดยใช้ชื่อว่า Y Connect

กระบวนการทำงานก็คงคล้ายๆ กับ Facebook Connect คือล็อกอินด้วย Yahoo ID ได้, แชร์เนื้อหาไปยังเพื่อนๆ ใน contact ของยาฮู หรือแชร์ลงใน Yahoo Pulse ซึ่งเป็น social network ของบริษัท

ตามข่าวบอกว่า Y Connect จะเปิดตัวในช่วงสิ้นปีนี้ครับ

comScore เผยส่วนแบ่งตลาด search engine ประจำเดือนกันยายน เดือนนี้มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญสองอย่าง คือกูเกิลเปลี่ยนมาใช้ Google Instant แทนวิธีการค้นหาแบบเดิม และยาฮูเปลี่ยนมาใช้ผลการค้นหาจาก Bing

ผลคือส่วนแบ่งตลาดของกูเกิล (เฉพาะในสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 0.7% ในขณะที่ยาฮูลดลง -0.7% ส่วนแบ่งตลาดในเดือนกันยายนเรียงตามลำดับคือ กูเกิล 66.1% ยาฮู 16.7% ไมโครซอฟท์ 11.2%

Wall Street Journal รายงานข่าวลือวงในว่า AOL กำลังจับมือกับบริษัทนักลงทุน (private-equity) หลายแห่ง เช่น Silver Lake Partners และ Blackstone Group เพื่อยื่นข้อเสนอซื้อยาฮู

แผนการนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นมากๆ และมีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าอาจเป็นบริษัทนักลงทุนรวมกันซื้อยาฮูเพียงฝ่ายเดียว โดย AOL ไม่ได้ยุ่งด้วย และในทางกลับกันก็มีโอกาสที่ยาฮูจะซื้อ AOL แทน

AOL มีขนาดเล็กกว่ายาฮูมากถ้าวัดตามมูลค่าหุ้น (market cap) ส่วนหุ้นของยาฮูขึ้นทันทีรับข่าวนี้

ที่มา - Wall Street Journal

รวบสองข่าวเลยนะครับ

ข่าวแรกคือยาฮูเริ่มปรับหน้าผลการค้นหาใหม่ตามที่ประกาศไว้ โดยเพิ่ม "กรอบ" แสดงข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับคำค้นยอดนิยมบางคำ เช่น คำค้นเกี่ยวกับศิลปิน เพลง ภาพยนตร์ จะมี "กรอบ" ที่บอกผลคะแนนรีวิว, คำวิจารณ์, ข้อมูล, รอบหนัง, กระแสในทวิตเตอร์ ฯลฯ แสดงอยู่ในแท็บแนวตั้ง ดูภาพประกอบจะเข้าใจง่ายกว่า

เท่าที่ผมลองต้องใช้ยาฮูเวอร์ชันสหรัฐเท่านั้น และยังใช้ได้กับคำค้นบางคำที่ดังจริงๆ อย่าง lady gaga ครับ

ที่มา - Yahoo! Blog, Search Engine Land