หลังจากที่ ไมโครซอฟท์รายงานแฮกเกอร์ไล่โจมตีบริษัทวิจัยยา COVID-19 ไปไม่กี่วัน ได้มีการเปิดเผยกับผู้เกี่ยวข้องจากบริษัท AstraZeneca หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนโรค COVID-19 ว่ามีความพยายามจากแฮกเกอร์กลุ่มหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นความพยายามโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ในเกาหลีเหนือ
เมื่อปี 2012 Pebble Technology เริ่มโครงการ Pebble Watch บน Kickstarter และสร้างปรากฏการโครงการที่มีผู้สนับสนุนมากที่สุดในเว็บ (ปัจจุบันโดนแซงโดยโครงการ Pebble Time โดย Pebble Technology เช่นกัน)
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา Pebble Technology ประกาศขอสนับสนุนโครงการใหม่คือโครงการ Pebble2, Time2 ซึ่งเป็นการอัพเกรดอุปกรณ์เดิมให้ดีขึ้นและเพิ่มคุณลักษณะ การตรวจวัดการเต้นหัวใจ และ ระบบปฏิบัติการ Pebble OS รุ่น 4.0 ที่เน้นความสามารถไปทางด้านสุขภาพและกีฬา เพื่อให้ใช้ความสามารถของ Pebble Watch ได้มากขึ้น
คำเตือน ภาพเยอะมาก
บริษัท Kaspersky ออกมาแถลงข่าวการถูกแฮกเกอร์เข้าโจมตีระบบ โดยบริษัทได้ตรวจจับการบุกรุกได้ตั้งแต่ต้นปี
ข้อมูลจากทีมสอบสวนเปิดเผยว่าแฮกเกอร์ใช้เทคนิคที่ซับซ้อนในการล้วงข้อมูลเทคโนโลยีบางอย่างของบริษัท อีกทั้งแฮกเกอร์ยังออกแบบให้มัลแวร์ทำงานโดยไม่ต้องเขียนไฟล์บนฮาร์ดดิสก์ แต่ทำงานบนหน่วยความจำแทน เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับชุดคำสั่งมัลแวร์ ซึ่งมีความเข้ากันได้กับโทรจันชื่อ Duqu ที่เคยถูกใช้โจมตี อิหร่าน อินเดีย ฝรั่งเศส และยูเครน ที่ถูกค้นพบเมื่อปี 2011
การประท้วงในเมือง Ferguson มลรัฐ Missouri ได้มีต่อเนื่องมายาวนาน ภายหลังหลังจากที่ตำรวจได้ยิงชายวัยรุ่นผิวสีวัย 18 ปี จนเสียชีวิตแม้เขาไม่มีอาวุธในมือและยกมือไว้เหนือหัวค้านสายตาผู้ประท้วงรอบข้างนับพัน จนสถานการณ์เริ่มบานปลายเข้ามาสู่สงครามไซเบอร์ ภายหลังจากหัวหน้ากลุ่มเหยียดสีผิวในสหรัฐอเมริกา หรือ KKK (Ku Klux Klan) ออกมาประนามกลุ่มผู้ประท้วงในเมือง Ferguson ว่าเป็นผู้ก่อการร้าย อีกทั้งปล่อยใบปลิวและทวีตข้อความข่มขู่ผู้ประท้วงว่าจะให้กองกำลังติดอาวุธในการเข้าสลายการประท้วง ทางกลุ่ม Anonymous เองนั้นไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว และตอบโต้โดยเจาะบัญชีทวิตเตอร์ของกลุ่ม KKK ถึงสองบัญชี และประกาศสงครามไซเบอร์กับกลุ่ม KKK ในอีกวันถัดมา
ทาง NIST (National Institute of Standards and Technology) ได้ออกมาเตือนผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ซัมซุงที่มีบริการ Find My Mobile ถึงช่องโหว่ระดับร้ายแรง ผ่านการ Cross-Site Request Forgery (CSRF) เพื่อหลอกเครื่องโทรศัพท์เป้าหมายว่าผู้ใช้ตัวจริงได้คำสั่งล็อกเครื่องมาจากเว็บไซต์ Find My Mobile และส่งชุดคำสั่งไปทำงานยังเครื่องเป้าหมายโดยปลอมการยืนยันตัวตน
ไม่กี่วันก่อนทาง สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ประกาศรองรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ตระกูลกาแลคซี่ของซัมซุงหลายรุ่น เข้าไปยังรายการอุปกรณ์ที่สามารถใช้ส่งข้อความระดับความลับได้ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง โบอิ้ง แบลค เท่านั้น โดยทางซัมซุงได้พัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยบนอุปกรณ์ภายใต้ชื่อ KNOX technology ซึ่งจะทำการเก็บข้อมูลในพื้นที่เฉพาะภายใต้สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ถูกเข้ารหัสไว้
Apple ได้ออกอัพเดท iOS เวอร์ชัน 8.0.1 เพื่อแก้ปัญหา Wi-Fi สัญญาณวูบและแบตเตอรี่หมดเร็ว และปรับปรุงความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์คีย์บอร์ดจากผู้ผลิตรายอื่น ให้กับอุปกรณ์ทุกตัวที่รองรับ iOS 8
แต่แล้วไม่นานทางเว็บไซต์ข่าวไอทีหลายเจ้า ได้ออกมาเตือนผู้ใช้ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เรื่องปัญหาใหม่ที่ตามมาจากการอัพเดท iOS 8.0.1 นั่นคือภายหลังจากการอัพเดท iOS 8.0.1 แล้ว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ไม่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับเสาสัญญาณโทรศัพท์ได้ และปัญหาเรื่องของ TouchID ไม่ทำงาน
FBI ได้เปิดเผยว่าทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาชายวัย 20 ปี ในมลรัฐ Tennessee ของสหรัฐอเมริกา ในข้อหาโจมตีและจารกรรมข้อมูลในโลกออนไลน์ โดยมีเจ้าทุกข์ถึง 5 เว็บไซต์ด้วยกัน คือ WHO, PBS, ASUS, Sony, Cambridge University ซึ่งแต่ละเว็บไซต์ถูกเจาะระบบแล้วนำชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านหลายร้อยบัญชีเผยแพร่บนหน้า Pastebin ในปี 2012
สืบทราบภายหลังผู้ต้องหามีชื่อว่า Timothy Justin French เป็นสมาชิกกลุ่ม NullCrew ในนามว่า “Orbit” (NullCrew เป็นกลุ่มย่อยของ LulzSec อีกทีหนึ่ง) ซึ่งแฮคเกอร์รายนี้ได้เริ่มแผลงฤทธิ์ร่วมกับกลุ่ม Anonymous ตั้งแต่ปี 2012 ก่อน LulzSec จะแยกวงไปเพราะสมาชิกโดน FBI จับกุม
ในหน้ากระทู้ของ Evernote ได้ประกาศเตือนเกี่ยวกับระบบกระทู้ของ Evernote ถูกเจาะโดยแฮคเกอร์ที่ไม่ทราบกลุ่ม โดยส่งผลให้แฮคเกอร์สามารถเข้ามาดูข้อมูลในบัญชีผู้ใช้ได้บางส่วน แต่ทาง Evernote ให้การยืนยันว่าไม่มีข้อความส่วนตัวรั่วไหลอย่างแน่นอน รวมไปถึงเซิร์ฟเวอร์ของบริการแอพพลิเคชัน Evernote ที่ตั้งอยู่คนละส่วนกันก็ไม่ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่นี้ด้วย
Fight For The Future ได้เชิญชวนพลเมืองเน็ตทั่วโลก เข้าร่วมแคมเปญ Reset The Net เพื่อร่วมประท้วงการดักฟังข้อมูลโดยหน่วยข่าวกรองสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. 57 โดยการให้ผู้ใช้งานเข้ารหัสข้อมูลทุกอย่างที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต
ภายหลัง Edward Snowden อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐได้เปิดเผยโครงการดักฟังที่มีชื่อว่า Prism ก็ได้มีกระแสต่อต้านโครงการนี้จากชาวอเมริกันและบรรดานานาชาติ โดย Edward Snowden ได้เปิดเผยว่าหน่วยข่าวกรองได้ทำการเจาะ และรวบรวมข้อมูลแทบทุกอย่าง ไม่ว่าโซเชียลเน็ตเวิร์ก อีเมล แชต เว็บไซต์ และช่องทางอื่นๆ ที่จะสามารถแอบฟังได้
เมื่อกลางปี 2013 รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ แถลงการณ์จับกุมแฮกเกอร์ที่ขโมยรหัสบัตรเครดิตจากหน่วยงานและภาคเอกชนในสหรัฐอเมริกา โดยการจับกุมในครั้งนี้เป็นการให้ความร่วมมือจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการประสานเบาะแสที่เกี่ยวข้อง
ตำรวจเนเธอร์แลนด์จับกุมแฮกเกอร์ทั้ง 5 ราย (เป็นชาวรัสเซีย 4 ราย และยูเครน 1 ราย) และตั้งข้อหาคนละ 2 กระทงคือดักฟังข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการเข้าถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยศาลรอตเตอร์ดามสั่งจำขังผู้ต้องหาเพื่อรอการไต่สวนพยานหลักฐานต่อไป
ท่ามกลางกระแสการตื่นตัวของช่องโหว่ความปลอดภัย Heartbleed ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน และได้มีบทความอธิบายการทำงานของ Heartbleed มากมาย (ชื่อจำเพาะของช่องโหว่ Heartbleed คือ CVE2014_0160) ก็ได้มีวัยรุ่นชาวแคนาดาที่เพิ่งอายุได้ 19 ปี ได้ศึกษาช่องโหว่ Heartbleed อย่างทะลุปรุโปร่งแล้วนำไปเจาะระบบภาษีของกรมสรรพากรแคนาดาซึ่งยังไม่ได้อัพเดตความปลอดภัยของการเข้ารหัส
FARS news agency ของประเทศอิหร่านได้ตีพิมพ์ข่าวสะเทือนขวัญชาวโซเชียลเน็ตเวิร์ค เมื่อวานนี้ โดยในเนื้อหาข่าวมีภาพของหญิงสาวชาวซีเรีย กำลังถูกกองกำลังทหารของอิสลามนิกายซุนหนี่ปาก้อนหินจนเธอเสียชีวิต ภายหลังเธอถูกจับกุมและตัดสินลงโทษประหารชีวิต โทษฐานมีไว้และใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ค (ในซีเรียการมีเฟซบุ๊คถือเป็นการสมรู้ร่วมคิดกับอเมริกัน : ผู้เขียน) โดยเบื้องหลังการกระทำดังกล่าวแหล่งข่าวได้อ้างถึงกลุ่ม Al-Qaeda ในอิรัก หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Islamic State of Iraq and Syria (ISIS) ว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว
ที่ตลกร้ายไปกว่านั้น กลุ่ม Al-Nusra เองก็มีหน้าเฟซบุ๊คของตัวเองเช่นกัน
เว็บไซต์ thehackernews.com ได้ประกาศข่าวว่าพวกเขาได้รับ E-mail จากแฮคเกอร์ชาวอียิปต์ที่ใช้นางแฝงว่า Dr.FarFar ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นคนแฮคหน้าโปรไฟล์ และลบรูป Cover ของ Mark Zuckerberg เจ้าของและผู้ก่อตั้งเว็บไซต์เฟสบุ๊ค
เหล่าแฮกเกอร์ซีเรียยังคงซ่าไม่หยุด ซึ่งเหยื่อรายล่าสุดคือ Forbes นิตยสารด้านเศรษฐกิจชื่อดังของสหรัฐ โดย Forbes เปิดเผยว่าเว็บไซต์ของตัวเองและทวิตเตอร์ในเครือของ Forbes อีก 3 บัญชี ได้แก่ @TheAlexKnapp , @Samsharf และ @ForbesTech เป็นเหยื่อการถูกโจมตีโดยกลุ่ม Syrian Electronic Army (SEA) โดยมีรหัสผ่านผู้ใช้หลุดออกไปนับล้านบัญชี
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการแพร่ระบาดของไวรัสบนโปรแกรมแชตบนระบบ Android ชื่อดังอย่าง WhatsApp ซึ่งผลกระทบคือชื่อของคุณจะถูกเปลี่ยนเป็น Priyanka และ เปลี่ยนชื่อกลุ่มในเครื่องของคุณทั้งหมดเป็น Priyanka เช่นกัน
ในปัจจุบันยังไม่มีการพบอันตรายจากไวรัสดังกล่าวแต่อย่างได มีแต่เพียงสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้ที่ติดไวรัส และบรรดาเพื่อนของผู้ติดไวรัสตัวนี้ ซึ่งการทำงานของไวรัสนี้คือการส่ง contact file ที่ชื่อว่า Priyanka ไปยังทุกๆรายชื่อบนสมุดรายชื่อของ WhatsApp และผู้ใช้ที่กดรับ contact file ก็จะติดไวรัสและส่งต่อไปยังคนอื่นๆ ต่อไป
เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา [Apple เปิดตัว iOS 7](http://www.blognone.com/node/45215) ในงาน WWDC และได้เปิดให้โหลดรุ่น Beta สำหรับนักพัฒนา เมื่อจบงาน WWDC ก็มีมือดีสามารถค้นหาช่องโหว่ที่สามารถเข้าถึงรูปภาพในเครื่องโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน
ทาง Forbe ได้เปิดเผย[วิดีโอช่องโหว่ของ Lock Screen](http://www.forbes.com/sites/andygreenberg/2013/06/12/bug-in-ios-7-beta-lets-anyone-bypass-iphone-lockscreen-to-access-photos/) เพื่อที่จะเข้าถึงภาพในอัลบัมภาพของเครื่องโดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน ซึ่งสามารถเข้าดูภาพได้ทั้งเครื่อง สั่งลบ หรือแชร์ออกโซเชียลมีเดียก็ได้
ในวันอาทิตย์ ที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา ตำรวจไทยได้จับกุมตัว นาย Hamza Bendelladj อายุ 24 ปี แฮคเกอร์ชาวอัลจีเรียน ตามหมายจับจาก FBI ข้อหาจารกรรมข้อมูล และยักยอกเงิน ระหว่างที่ผู้ต้องหาลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ตำรวจได้ยึดของกลางเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์วางตัก จำนวน 2 เครื่อง คอมพิวเตอร์แท็บเล็ต จำนวน 1 เครื่อง โทรศัพท์ดาวเทียม 1 เครื่อง และ ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกอีกจำนวนหนึ่ง โดยผู้ต้องหาได้ให้การว่าเขาใช้คอมพิวเตอร์วางตัก และ โทรศัพท์ผ่านดาวเทียมเป็นอุปกรณ์ในการจารกรรมข้อมูล
ทวิตเตอร์ของรายการ The Stream ในช่อง Al Jazeera ถูกเจาะโดยกลุ่มนักรบไซเบอร์ ผู้สนับสนุน นายบัชชาร อัลอะซัด ประธานาธิบดีของประเทศซีเรีย ในเช้าวันพฤหัสบดี ที่ 5 ที่ผ่านมา
ภายหลังจากที่แฮกเกอร์ เจาะทวิตเตอร์ @AJstream สำเร็จได้ทำการทวิตข้อความจำนวน 3 ข้อความ ซึ่งมีลักษณะต่อต้านการปฏิวัติในซีเรีย
หนังสือพิมพ์ China Daily ฉบับวันนี้ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของนาย Terry Gou ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Foxconn ผู้ผลิตสินค้าให้กับ Apple Inc., (ซึ่งต่อไปจะเรียกว่า Apple)โดยนาย Terry Gou ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง Foxconn ได้เตรียมสายการผลิตใหม่ สำหรับผลิตโทรทัศน์สำหรับ Apple ภายใต้ชื่อว่า iTV โดยคร่าวๆ มันจะมีโครงสร้างทำจากอลูมิเนียม และมีระบบสั่งการด้วยเสียง (รู้จักกันในนาม
Kevin Rose - CEO ของ Instagram ได้เปิดเผยในบล็อกของ Instagram ว่าเวลานี้เขาได้ตกลงกับ Facebook เรื่องของการขาย Instagram ให้ทาง Facebook ด้วย โดยเขาและทีมงานจะยังคงทำ Instagram ต่อไป
ทั้งนี้ Kevin Rose ยังคงให้สัญญาว่า Instagram จะยังคงสามารถแชร์รูปไปยัง Social Network ต่างๆได้เช่นเดิม และ เขาจะยังคงกุมบังเหียนการพัฒนา Instagram เช่นเดิม เขาหวังว่าจะสามารถพัฒนาลูกเล่นใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ Instagram แน่นอน
ที่มา - Instagram Blog
หลังจากที่แฮกเกอร์กลุ่ม Anonymous ประสบความสำเร็จกับภารกิจ Occupy ทั้งในและนอกสหรัฐ เวลานี้ได้มีกลุ่มแฮกเกอร์ในประเทศจีนเข้าร่วมกลุ่ม Anonymous แล้วโดยใช้ชื่อว่า "Anonymous China"
สมาชิกกลุ่ม f0ws3r ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของ Anonymous เผยกับรอยเตอร์ว่า
"First we want to alert the Chinese government that we aren't afraid, and we are going to show the truth and fight for justice,"
สิ้นสุดการรอคอยอันแสนนานสำหรับสาวกหุ่นกระป๋องครับ จาก ข่าวเก่า ทาง Instagram เผยว่ากำลังอยู่ระหว่างพัฒนา แอพฯ บน Android อยู่ วันนี้ทาง Instagram ได้ปล่อย Instagram for Android บน Google Play Store แล้ว
โปรแกรมต้องรันบน Android 2.2 ขึ้นไป และโปรแกรมขนาด 13 MB ครับ
ที่มา - The Verge
หลังจากที่กูเกิลเปิดหน้าสำหรับลงทะเบียนเข้างาน Google I/O ไปเมื่อสามทุ่มของวันที่ 27 มีนาคม (หรือราวเจ็ดโมงเช้าตามเวลา Pacific Time) (ข่าวเก่า) ก็มีข่าวให้ชาวไอทีตะลึงนั่นคือตั๋วเข้างาน Google I/O นั้นถูกขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 28 นาทีเท่านั้น
ปีนี้กูเกิลได้เพิ่มค่าลงทะเบียนเข้างานจาก 450 ดอลล่าร์ เป็น 900 ดอลล่าร์ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ที่ลงทะเบียนจะเป็นคนที่อยากไปงานจริงๆ (หรือมูลค่าของแจกเพิ่มขึ้นกันแน่) คีย์โน้ตทั้งหมดจะถูกอัพโหลดไปยัง YouTube โดยทีมงานของกูเกิลเอง
วันที่ 13 มี.ค. 55 ที่ผ่านมา กลุ่ม Anonymous ได้เปิดเผยถึงการเจาะเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ของเว็บ Digital Playground (เป็นเว็บภาพยนตร์ผู้ใหญ่) แฮกเกอร์ได้ขโมยรหัสผ่านจำนวน 72,000 ชุด และรหัสบัตรเครดิตจำนวน 40,000 ใบ ปฏิบัติการแฮกในครั้งนี้สำเร็จโดยแฮกเกอร์กลุ่มที่ชื่อ Th3 Consortium ผู้ซึ่งมีความใกล้ชิดกับ Anonymous และ LulzSec และในสัปดาห์นี้ บรรดาเว็บภาพยนตร์ผู้ใหญ่ในเครือบริษัท Luxembourg-based adult entertainment ต่างก็ตกเป็นเป้าหมายโจมตีโดยแฮกเกอร์ และถูกแฮกสำเร็จถึงสามเว็บเพจด้วยกัน