เป็นที่รู้กันว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาและทีมงานนั้นไฮเทคมาก ใช้เทคโนโลยีสารพัดชนิดเข้ามาช่วยในการหาเสียงและประสบชัยชนะ แต่โอบามาและทีมกำลังพบกับความท้าทายครั้งใหม่ที่อาจจะยากกว่าเดิม เพราะว่าหลังย้ายทีมเข้าไปในทำเนียบขาวแล้ว ปรากฏว่ามันโลว์เทคกว่าที่คิดกันไว้มาก
MSNBC อ้างคำพูดของโฆษกส่วนตัวของโอบามาว่าการย้ายเข้าครั้งนี้เหมือนกับ "เปลี่ยนจาก Xbox กลับไปเล่น Atari"
คอมพิวเตอร์ในทำเนียบขาวนั้นค่อนข้างเก่า สายโทรศัพท์จำนวนมากใช้การไม่ได้ และมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้นห้ามใช้อีเมลภายนอก รวมถึง IM, YouTube และ Facebook ที่โดนบล็อค อย่างไรก็ตามตอนนี้ทำเนียบขาวได้อนุญาตให้ทีมงานใช้ Gmail กับมือถือส่วนตัวได้แล้ว
จากประกาศเดิมที่ทางไมโครซอฟท์จะยุติการให้ดาวน์โหลด Windows 7 ในวันนี้ ล่าสุดได้มีการประกาศขยายเวลาให้ดาวน์โหลดออกไปอีกจนถึงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ โดยผู้ที่เริ่มดาวน์โหลดในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ จะมีสิทธิ์ดาวน์โหลดต่อจนถึงวันที่ 12 กุมภาพันธ์
ส่วน Product keys นั้นสามารถขอและนำไปใช้ได้ตลอดจนจบช่วงทดสอบ (1 สิงหาคม 2009) ในขณะที่สมาชิกของ MSDN และ TechNet ยังสามารถดาวน์โหลด Windows 7 ได้จนจบช่วงทดสอบตามเดิม
ภายใต้ข่าวร้ายที่ออกมาเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นการปลดพนักงานหรือยอดขายที่ตกต่ำ แต่งานในสายไอทีก็ยังคงเป็นงานที่มีรายได้ดีและมีความน่าสนใจสูง นิตยสาร Business Week ร่วมกับ Payscale ได้จัดอันดับ 10 เมืองที่น่าทำงานที่สุดในสายไอทีขึ้นมา
การจัดอันดับนั้น ดูจากรายได้ในแต่ละสายงานโดยเฉลี่ย อัตราการเติบโต ค่าครองชีพและจำนวนของบริษัทไอทีรายใหญ่ที่เปิดอยู่ในเมืองนั้นๆ โดยรายงานดังกล่าวได้เปิดเผยว่ารายได้ของพนักงานในระดับปฎิบัติการอย่างเช่นโปรแกรมเมอร์ จะมีรายได้สูงในเมืองที่มีบริษัทยักษ์ใหญ่เปิดอยู่อย่างเช่นไมโครซอฟท์หรือกูเกิล แต่ในเมืองที่เป็นหัวเมืองหลักทางธุรกิจ อย่างเช่น ที่นิวยอร์ก รายได้ของพนักงานในระดับบริหารจะสูงกว่าเมืองอื่นๆ
เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้สนใจ gadget โดยเฉพาะจากฝั่งสหรัฐว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา นั้นเป็นแฟนประจำของ BlackBerry (ผมหาไม่เจอว่าใช้รุ่นไหนนะครับ) แต่สิ่งที่สำนักข่าวจำนวนมากตั้งคำถามมาโดยตลอดก็คือ โอบามาจะยังได้รับอนุญาตจากฝ่ายสืบราชการลับให้ใช้ BlackBerry ต่อไปหรือไม่
เหตุผลสำคัญอันหนึ่งในเรื่องนี้ นอกจากเรื่องความลับทางราชการตามปกติแล้ว คือ BlackBerry ผลิตโดยบริษัท RIM ซึ่งอยู่นอกสหรัฐอเมริกา และข้อความที่ส่งผ่าน BlackBerry จะต้องวิ่งไปเข้าเซิร์ฟเวอร์เฉพาะของ RIM (ไม่มีข้อมูลว่า BlackBerry ของโอบามาส่งข้อมูลเข้าไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ไหน)
ตัวเลขจะต่างกันไปตามบริษัทที่สำรวจนะครับ ของ Internet World Stats นั้นมี 1.5 พันล้านคนตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ส่วนของ comScore เพิ่งแตะหลัก 1 พันล้าน
คิดแยกตามภูมิภาค
คิดแยกตามประเทศ (เฉพาะ 5 อันดับแรก ในต้นฉบับมีถึง 15 อันดับแรก ไทยไม่ติด)
หลังจากที่ไมโครซอฟท์เผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจจนทำให้ต้องปลดพนักงานพันกว่าคนในทันที (ข่าวเก่าโดยคุณ lawender: ไมโครซอฟท์เลิกจ้างพนักงาน 5,000 คน) แผนกที่โดนจับตามองว่าจะโดนปลดก่อนคือแผนกเกี่ยวกับเกมและเพลงที่ไปได้ไม่ค่อยดีนัก และแล้วเว็บไซต์ Gamasutra ก็เปิดเผยว่าทีมผลิตเกม ACES Studio นั้นต้องออกไปตามนโยบายครับ
ถึงแม้ว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่รุ่น 5800 Xpress Music ของโนเกียเพิ่งเปิดตัวมาได้เพียงสามเดือน (ข่าวเก่าโดยคุณ Composure) และเพิ่งส่งมอบไปได้เพียงเดือนกว่าๆ (ข่าวเก่าโดยคุณ mk) โดยในหลายๆ ประเทศก็ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เช่นในบ้านเราก็เพิ่งเปิดจอง และมีกำหนดเปิดตัวในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ แต่โนเกียก็เผยออกมาว่า โดยรวมแล้วตอนนี้โนเกียส่งมอบ 5800 ไปได้ทั่วโลกแล้วกว่าล้านเครื่อง โดยประเทศที่เปิดขายไปแล้วในตอนนี้ได้แก่ในสเปน, รัสเซีย, ฮ่องกง, และอังกฤษที่เปิดตัวในวันนี้เป็นวันแรก
จากคำให้สัมภาษณ์ของ Tim Cook ผู้บริหารของแอปเปิลที่ขู่คู่แข่งว่าจะดำเนินการทางกฎหมายหากถูกละเมิดลิขสิทธิ์ (จริงๆ ก็ไม่ได้ระบุชื่อแต่ฟังแล้วก็รู้แน่ว่าคือปาล์ม) ที่ผ่านมา (ข่าวเก่าโดยคุณ infernohellion: แอปเปิลขู่ Palm Pre จะไม่ยืนเฉย หากโดนละเมิดสิทธิ) วันนี้ปาล์มก็ออกมาให้สัมภาษณ์โต้กลับแล้วครับ
คุณ Lynn Fox ซึ่งเป็นผู้แทนจากบริษัทปาล์ม ได้ให้สัมภาษณ์กับ All Things Digital ว่า
มีรายงานเกี่ยวกับความปลอดภัยจากบริษัท Intego เกี่ยวกับโทรจันที่ถูกพบแฝงตัวมากับไฟล์ torrent ของ iWork '09 โดยโทรจันตัวดังกล่าวมีชื่อว่า OSX.Trojan.iServices.A ซึ่งเมื่อติดเข้าไปแล้วโทรจันตัวดังกล่าวจะพยายามติดต่อกับอินเทอร์เน็ตเองและมีอำนาจในการอ่าน, เขียน, รันโปรแกรมเทียบเท่ากับ root และนอกจากนี้โทรจันดังกล่าวยังพยายามดาวน์โหลดไฟล์บางไฟล์มาเพิ่มเติมอีกด้วย
ผลประกอบการไตรมาสที่สี่ของปี 2008 จาก AMD ขาดทุนรวม 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแย่กว่าที่นักวิเคราะห์ทางการเงินของวอลล์สตรีทคาดเอาไว้
AMD ขาดทุนติดต่อกันมา 9 ไตรมาสแล้ว โดยยอดขาดทุนสูงสุดอยู่ที่ 1.77 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว (Q4 2007) สำหรับไตรมาส Q4 2008 รายรับลด 35% เทียบกับ Q3 2008
ถ้ารวมทั้งปีงบประมาณ AMD มีรายรับทั้งสิ้น 5.8 พันล้านดอลลาร์ ขาดทุนรวม 3 พันล้านดอลลาร์
สถานการณ์ด้านธุรกิจของบริษัทฮาร์ดแวร์ดูจะแย่กว่าซอฟต์แวร์มาก ก่อนหน้านี้อินเทลได้ประกาศผลประกอบการที่ย่ำแย่เช่นกัน (ข่าวเก่า) เพียงแต่อินเทลพื้นฐานเดิมดีอยู่เลยยังไม่ถึงกับขาดทุนเท่านั้น
กูเกิลแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ของปี 2008
เว็บไซต์ Digg ประกาศปรับตัวสู้วิกฤตเศรษฐกิจ โดยการลดคนในแผนกที่ไม่จำเป็นต่องานหลักของบริษัท ในบล็อกของ Digg นั้นไม่ได้เปิดเผยจำนวน แต่ทาง CNET ได้ตัวเลขมาว่าเป็น 10% อย่างไรก็ตาม Digg มีพนักงานแค่ 75 คนเท่านั้น
ผมเขียนเรื่องนี้ไว้ใน รีวิว Windows 7 Beta ตอนที่ 1 บ้างแล้ว แต่วันสองวันที่ผ่านมานี้ สำนักข่าวต่างประเทศ 2 แห่งมีบทความเปรียบเทียบ Taskbar อันใหม่ของ Windows 7 กับ Dock ของ Mac OS X โดยมิได้นัดหมาย
Gizmodo
ที่แรกคือ Gizmodo มาแรงเต็มเหนี่ยว พาดหัวว่า Giz Explains: Why the Windows 7 Taskbar Beats Mac OS X's Dock ซึ่งผลก็ไม่น่าแปลกใจว่ามีผู้ใช้แมคเข้ามาคอมเมนต์เป็นจำนวนมาก (ขณะที่เขียนมี 135 หน้า กับอีก 1693 diggs)
เว็บ Social Networking อย่าง iMeem เคยเป็นเว็บที่ผู้ใช้สามารถอัพโหลดข้อมูลต่าง ๆ ฟรี จากการที่มีโฆษณาในเว็บมาคอยสนับสนุน แต่ตอนนี้ iMeem จะเริ่มคิดเงินผู้ใช้ที่อัพโหลดเพลงและวีดีโอแล้ว ด้วยราคาต่อไปนี้ต่อปี:
สำหรับการอัพโหลดรูป iMeem จะยังไม่มีการคิดค่าบริการแต่อย่างใด
จากข้อมูลการจดสิทธิบัตรที่ถูกเปิดเผยออกมาในวันนี้ จะเห็นว่าแอปเปิลกำลังค้นคว้าเซ็นเซอร์ตรวจจับเสียงรอบข้างอยู่ (ambient sound sensor) ในลักษณะเดียวกับเซ็นเซอร์ตรวจจับระดับแสงรอบข้าง ที่ได้ถูกนำมาใช้บนเครื่องแมค ไอพ็อดทัช และไอโฟนอยู่ทุกวันนี้
โดยเซ็นเซอร์ตัวนี้ จะถูกนำมาใช้เพื่อปรับระดับเสียงให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และความดังของเสียงรอบข้าง เนื่องจากหากผู้ใช้งานอยู่ในที่เงียบ ริงโทนเสียงดังอาจจะน่ารำคาญมาก แต่หากอยู่ที่ดังอาจจะทำให้ไม่ได้ยินเสียง หากมีเซ็นเซอร์นี้อยู่ จะทำให้สามารถปรับความดังเสียงออกจากลำโพงให้เหมาะสมกับเสียงรบกวนรอบข้างได้
เมื่อปี 1998 รัฐสภาของสหรัฐฯ ได้ผ่านกฏหมาย COPA หรือ Child Online Protection Act ที่มีเนื้อหาระบุให้เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมกับเด็กทั้งหมดต้องทำการป้องกันไม่ให้เด็กเข้าชมได้ ด้วยการใส่รหัสยืนยันอายุ
หลังการผ่านกฏมาย ก็เริ่มมีการต่อสู้เพื่อคว่ำกฏหมายฉบับนี้มาโดยตลอด เนื่องจากเชื่อกันว่าผิดต่อรัฐธรรมนูญข้อแรกของสหรัฐฯ ที่รักษาเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพียงแค่ปี 1999 ศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งหยุดบังคับใช้กฏหมายฉบับนี้ จากนั้นกฏหมายฉบับนี้ก็อยู่ในศาลมาโดยตลอดโดยไม่เคยถูกบังคับใช้อีกเลย จนกระทั่งเมื่อวานนี้เองที่ศาลฎีกาได้ออกมาพิพากษาให้กฏหมายฉบับนี้เป็นโมฆะอย่างเป็นทางการ
เศรษฐกิจชะลอตัวรวมกับการผันผวนของค่าเงิน ส่งผลให้คนใช้จ่ายน้อยลงมาก และโนเกียยักษ์ใหญ่มือถือก็ประสบปัญหาความต้องการมือถือลงเช่นกัน
ส่วนแบ่งการตลาดของโนเกียในไตรมาสที่ 4 ปี 2007 มีอยู่ 40%
ตกมาเหลือ 37% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2008
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2008 ผลกำไรจากการดำเนินงานของโนเกีย ลดลง 80% เหลือ 492 ล้านยูโร จาก 2500 ล้านยูโรในไตรมาสเดียวกันของปี 2007
โนเกียจะแก้ไขปัญหา โดยการเน้นไปที่ลดต้นทุนโดยรวมเพื่อรักษาโครงสร้างการเงินให้แข็งแรงอยู่ และเน้นไปยังตลาด internet services เพราะเห็นว่ามีโอกาสเติบโตสูง
ที่มา - Symbian Freak
แล้ววิกฤติเศรษฐกิจก็ลุกลามไปถึงยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ เมื่อบริษัทประกาศวันนี้ว่ามีแผนปรับลดพนักงานลง 5,000 คนภายในเวลา 18 เดือนนับจากนี้ โดยพนักงาน 1,400 คนจะถูกเลิกจ้างทันที และค่อยๆทยอยเลิกจ้างไปเรื่อยๆจนครบ 5,000 คนภายในเดือนมิถุนายนปีหน้า
โดยนาย Chris Liddell ซึ่งเป็น CFO ของไมโครซอฟท์ออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจในไตรมาสที่ผ่านมาได้ชะลอตัวลงมากกว่าที่ไมโครซอฟท์คาดการณ์เอาไว้มาก และทางบริษัทจำเป็นต้องรีบปรับลดโครงสร้างค่าใช้จ่ายต่างของบริษัททันที่เพื่อลดผลกระทบให้น้อยที่สุด
การปรับลดพนักงานของไมโครซอฟท์ครั้งนี้ทางบริษัทคาดว่าจะสามารถลดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการได้ราวๆ 1.5 พันล้านดอลลาร์
ผู้ใช้ระบบปฏิบัติการวิสต้าหลายท่านคงเคยประสบกับปัญหาที่ว่า ไม่สามารถติดตั้งหรือรันโปรแกรมบางตัวได้บนวิสต้า แต่โปรแกรมเหล่านั้นกลับทำงานได้บนวินโดว์รุ่นเก่าๆ ซึ่งปัญหานี้อาจเป็นหนึ่งในหลายสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้กลุ่มหนึ่งถอดใจจากวิสต้าแล้วกลับไปใช้ Windows XP
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ไมโครซอฟท์ได้ส่ง Microsoft Enterprise Desktop Virtualization (หรือ MED-V) เวอร์ชัน 1 รุ่นเบต้าให้ดาวน์โหลดกันแล้ว โดย MED-V ใช้ความสามารถของ Microsoft Virtual PC ในการสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน และผู้ใช้สามารถเลือกระบบปฏิบัติการวินโดว์เวอร์ชันเก่าสำหรับการทำงานของคอมพิวเตอร์เสมือนนี้ได้ (เช่น Windows XP หรือ Windows 2000) ทำให้คอมพิวเตอร์ของผู้ใช้สามารถรันวิสต้าและวินโดว์เวอร์ชันเก่าได้พร้อมๆกัน
มีข่าวลือออกมามากมายเกี่ยวกับการที่แอปเปิลอาจออกโทรศัพท์ขนาดเล็กและเน็ตบุ๊ค ในการรายงานผลประกอบการของแอปเปิลที่ผ่านมา แอปเปิลได้ออกมาสยบข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้แล้วครับ
Tim Cook ซึ่งเป็น CEO ชั่วคราวของแอปเปิลได้ให้สัมภาษณ์ว่า แอปเปิลไม่สนใจตลาดโทรศัพท์ระดับล่าง และตลาดระดับนั้นไม่ใช่สิ่งที่แอปเปิลจะยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะแอปเปิลไม่ได้ต้องการยอดขายปริมาณมาก แต่ต้องการผลิตโทรศัพท์ที่ดีที่สุดในโลกต่างหาก
Seagate นั้นเริ่มประสพปัญหาด้านเศรษฐกิจมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว และมีแผนที่จะเลิกจ้างพนักงานทั่วโลกกว่าสามพันคน (ข่าวเก่าโดยคุณ mk: Seagate ปลดพนักงาน 2,950 คน) บัดนี้ผลกระทบดังกล่าวก็มาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้วครับ
ระหว่างการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี นาย Tim Cook ตำแหน่ง COO ของแอปเปิลนั้นได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับ Palm Pre อ้อม ๆ ว่า "เราจะไม่ยืนเฉยแน่ ในเมื่อมีคนมาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของเรา"
จากคำพูดที่ว่านี้ ค่อนข้างชัดเจนว่านาย Cook ได้กล่าวถึง Palm และนาย Jon Rubinstein ผู้ใหญ่ของ Palm ที่เคยทำงานกับแอปเปิลมาก่อน แม้ว่าเขาจะไม่ได้กล่าวถึง Palm ตรง ๆ ก็ตาม ... "ผมไม่ได้พูดเจาะจงถึงบริษัทไหน"
แม้ว่า Palm และผู้พัฒนากลุ่มใหญ่ที่เคยทำงานกับแอปเปิล ที่ถูกชักชวนโดย Jon Rubinstein ยังไม่ประกาศวันเปิดตัวของ Palm Pre แต่ดูเหมือนว่าแอปเปิลคงไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน
DigiTimes ซึ่งเป็นสื่อในวงการอิเล็กทรอนิกส์ของไต้หวัน รายงานข่าวจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ไมโครซอฟท์จะเปิดตัว Windows Mobile 6.5 ในงาน Mobile World Congress ที่เมืองบาร์เซโลนา ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ และส่งมอบรุ่นจริงให้กับผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ได้ในช่วงกลางปีนี้
ส่วนตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Windows Mobile 6.5 จะเริ่มออกขายในไตรมาสที่สาม แต่ผู้ผลิตส่วนใหญ่น่าจะวางขายในไตรมาสที่รับคริสต์มาสมากกว่า
แอปเปิลแถลงผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2009 ซึ่งเป็นไตรมาสที่หลายคนจับตามอง เนื่องจากมีช่วงคริสต์มาสของฝรั่งและเป็นปีที่เศรษฐกิจเริ่มถดถอยพอดี
แบบรวบรัดคือทั้งรายรับและกำไรของแอปเปิลยังเติบโต (สวนกระแสชาวบ้าน) เพียงแต่อัตราการเติบโตก็ไม่ร้อนแรงอย่างเดิม ด้วยปัจจัยด้านสภาพตลาด
วันนี้ข่าว Netbook เยอะเป็นพิเศษเลยขอรวบเป็นข่าวเดียวกัน
ข่าวแรกคือ HP Mini 2140 ที่จะมาแทน 2133 และใช้ Atom แทน VIA นั้นวางตลาดอย่างเป็นทางการแล้ว โดยคนที่อยู่ในสหรัฐฯ สามารถสั่งได้แล้วในวันนี้ ราคานั้นอยู่ในช่วง 499 ถึง 779 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ที่น่าสนใจคือผมหารุ่นที่เป็นจอ HD ไม่เจอ ทั้งที่ทาง HP เคยประกาศไว้ว่าจะมีให้เลือกทั้ง SD (1024x600) และ HD (1280x720)
แต่ถ้าให้เดาอย่างมีความหวังคือทางเว็บของ HP นั้นพิมพ์ผิด เพราะบางรุ่นนั้นไม่มีอะไรต่างกันเลย แต่ราคาห่างกัน 30 ดอลลาร์
ที่มา - HP