ความกังวลว่าจะมีโค้ดของไมโครซอฟท์หลุดเข้ามาในโครงการโอเพนซอร์สอย่าง ReactOS ทำให้ทีมงานตัดสินใจหยุดการพัฒนาเป็นเวลาสามเดือนเพื่อจะรีวิวโค้ดทั้งหมดอีกครั้ง

โดย ReactOS เป็นระบบปฎิบัติการโอเพนซอร์สที่มุ่งจะให้ไดรว์เวอร์และแอพพลิเคชันทั้งหมดทำงานได้บนตัวมัน โดยอาศัยโครงการอย่าง Wine เป็นส่วนสำคัญ
ความกังวลนี้เกิดขึ้นจากการที่มีโค้ดของวินโดว์กระจายอยู่ในอินเทอร์เน็ด อย่างไรก็ตามทีมงานระบุว่าการรีวิวโค้ดครั้งนี้ เป็นการรีวิวเพื่อตรวจสอบคุณภาพโค้ดทั้งหมดไปพร้อมๆ กันด้วย

ยังไม่มีความเห็นจากไมโครซอฟท์ในเรื่องนี้

ได้ชื่อว่าเป็นผู้ชายที่รวยที่สุดในโลก ย่อมต้องจ่ายภาษีมากที่สุดในโลกเป็นธรรมดา (47 พันล้านเหรียญ)

แต่สำนักงานภาษีอากรของสหรัฐไม่ได้สนุกเท่าไรกับงานนี้ เพราะคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ไม่สามารถประมวลผลภาษีของบิลเกตส์ได้ จึงต้องซื้อคอมพิวเตอร์พิเศษมาทำงานนี้โดยเฉพาะ และบิลเองเล่าว่าเค้ามักจะได้จดหมายเตือนให้จ่ายภาษีอยู่เป็นประจำ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มักลืมว่าต้องไปดูในเครื่องพิเศษนี้ทุกที

ในข่าวไม่ได้บอกว่าใช้ระบบปฏิบัติการอะไร แต่ถ้าบิลอยากบริจาค Vista ให้ใช้คิดภาษี คงต้องรอปลายปี!

ที่มา - The Inquirer

เห็นในนี้มีแฟนจาวาเยอะเลยเอามาฝาก

ซันจัดแข่งหาบั๊กใน Java 6 Mustang โดยต้องเป็นบั๊กแบบ regression (บั๊กที่ทำให้ของใหม่แย่กว่าของเดิม) เทียบจาก Java 5.0 โดยผู้ชนะ 5 คนที่บั๊กร้ายแรงที่สุดจะได้รับ Sun Fire Workstation ส่วนผู้สมัครคนอื่นๆ ที่บั๊กได้รับการยืนยันจะได้เสื้อยืดจากซัน

หมดเขตวันที่ 31 มีนาคมนี้ ผมอ่านในกฎแล้วคนไทยมีสิทธิ์เล่นกับเค้าด้วยน่อ

ที่มา - Project Mustang Regressions Challenge

ข่าวเก่า: Google + Ubuntu = Goobuntu โฆษกของกูเกิลได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้แล้ว ยกคำพูดมาละกันครับ

"[w]e use Ubuntu internally but have no plans to distribute it outside of the company."

ข่าวจริงๆ มีแค่นี้แหละ แต่อ่านข่าวนี้เลยนึกถึงประโยคนึงว่าอินเทอร์เน็ตอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีข่าวลือของกูเกิล อีก 2 เดือนหน้าเราก็คงเจอข่าวลือ Google Browser รอบใหม่กันล่ะครับ ข่าวแบบนี้ก็สนุกดีนี่เนาะ

ที่มา - Ars Technica

มีของเล่นใหม่มาให้ลองอีกแล้วครับ

จากที่เคยเขียนไว้ใน Forum ตอนนี้ผมมีเวลาทำ web interface ของตัวปฏิทินแล้ว โดยใช้โมดูล event ของ Drupa l เองพร้อมกับตกแต่งอีกนิดหน่อย สามารถใช้ได้ทั้งแบบเว็บ และเป็น .ics สำหรับโปรแกรมพวก calendar ทั้งหลาย (คลิกที่ไอคอนตรงมุมขวาล่าง) เข้าไปลองเล่นได้ที่ http://www.blognone.com/event

กูเกิลยืนยันว่ากำลังพัฒนาลินุกซ์ดิสโทรสำหรับเดสก์ทอปอยู่ภายใต้ชื่อว่า Goobuntu
แต่ยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะนำไปใช้ทำอะไรบ้าง ซึ่งอาจจะเป็นแค่การใช้งานในองค์กร หรือแจกจ่ายให้ผู้ใช้ทั่วไปก็ได้

ดูเหมือนว่าชื่อโดเมน goobuntu.com จะถูกคนอื่นจดไปก่อนแล้ว ถ้าลองเข้าเวบ goobuntu.com ตอนนี้จะถูก redirect ไปที่เวบ mundocubano.com

แต่จากแหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่าใครในกูเกิลเป็นคนยืนยันเรื่องนี้

ข่าวจาก The register

ช่วงนี้รีวิว Intel iMac เริ่มออกมากันเยอะ เนื่องจากบรรดาคอลัมนิสต์เริ่มได้เครื่อง และมีเวลาทดสอบกันพอสมควร ที่เคยเขียนไปแล้วมีของ Ars Technica และ Macworld วันนี้เป็นคิวของ AnandTech เว็บไซต์ฮาร์ดแวร์ชื่อดังอีกที่ซึ่งเขียนรีวิวได้ค่อนข้างดี

ข่าวเก่าที่เกี่ยวข้อง ไลนัส ทอร์วัลด์ไม่อยากใช้ GPL 3 กับเคอร์เนล

นักพัฒนาเคอร์เนลคนสำคัญอีกคนคือ Alan Cox (ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ Red Hat) กลับออกมาสวนทางไลนัสโดยบอกว่าเห็นด้วยกับ GPL 3 เนื่องจากข้อดีหลายเรื่อง GPL 3 มีหลายจุดที่เปลี่ยนเงื่อนไขจากทำหรือไม่ทำก็ได้ใน GPL 2 มาเป็นบังคับใช้แทน ในเรื่อง DRM ที่ไลนัสเป็นห่วงนั้น Alan Cox มองว่าไม่มีปัญหากับเคอร์เนลลินุกซ์แต่อย่างใด เพราะ DRM จะไปเกี่ยวกับแอพพลิเคชันมากกว่า

PCMagazine รีวิว Internet Explorer 7.0 for Windows XP SP2 Beta 2 Preview ซึ่งเป็น Beta สำหรับนักพัฒนา ตัวสำหรับบุคคลทั่วไปจะตามมาในอีกไม่ช้า

สรุปรวมๆ คือ IE7 ในขณะนี้ยังเป็นเหมือนการไล่ตามเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ (Firefox, Safari, Opera) ในเรื่อง Tabbed Browsing, RSS และการเรนเดอร์เว็บเพจ เนื่องจาก IE หยุดปรับปรุงไปนานจนคนอื่่นเค้าไปกันไกลแล้ว หน้าตาของโปรแกรมเปลี่ยนแปลงจาก IE6 เป็นอย่างมาก (ดูรูปได้ในลิงก์) และ IE7 เองก็เจอปัญหาเดียวกับ Firefox ในการเรนเดอร์เว็บเพจที่เขียนมาแย่ๆ ซึ่งมันเคยใช้ได้ใน IE6

Seamonkey คือ Mozilla Suite เดิมที่มีทั้ง browser, email, chat และ composer หลังจากทาง Mozilla Foundation ตัดสินใจเลิกทำ Suite และหันมาทำ Firefox/Thunderbird แทน ก็ยังมีแฟนๆ บางกลุ่มอยากให้ทำต่อ และเป็นที่มาของ Seamonkey Project

ตอนนี้ Seamonkey 1.0 ออกตัวจริงแล้ว อ่านรายละเอียดว่ามีอะไรใหม่จาก Release Notes และดาวน์โหลดได้จากหน้าของ Seamonkey

ถึงแม้จุดขายสำคัญของ Vista จะอยู่ที่ความปลอดภัย แต่ Jim Allchin รองประธานฝ่ายวินโดวส์ได้ออกมายืนยันแล้วว่า จะไม่มีแอนตี้ไวรัสของไมโครซอฟท์แน่นอน โดยตัวแอนตี้ไวรัสจะแยกขายในบริการ OneCare ซึ่งเป็นบริการออนไลน์ ส่วน Windows Defender ซึ่งเป็นตัวต่อต้านสปายแวร์จะยังอยู่ใน Vista

เมื่อไมโครซอฟท์เตรียมเข้าสู่ตลาดแอนตี้ไวรัส เจ้าตลาดอย่าง Norton บอกว่าจะพิสูจน์ฝีมือกันในตลาดเอง โดยจะไม่ฟ้องร้องหรือออกมาบ่นว่าถูกแย่งตลาดแต่อย่างใด ส่วน McAfee ไม่มีความเห็นในเรื่องนี้

ที่มา - The Register

นักข่าวของรอยเตอร์ไปสัมภาษณ์ไมเคิล เดลล์ที่งาน World Economic Forum คำถามคือ Dell จะขายเครื่องที่ใช้ซีพียูของเอเอ็มดีหรือไม่ และคำตอบคือ "Sure"

และคำขยายความต่อมาคือ "We do not have an exclusive relationship with Intel." หมายความว่า Dell ไม่ได้มีข้อตกลงกับอินเทลว่าต้องขายเฉพาะชิปอินเทลเท่านั้น

ซีพียูของเอเอ็มดีมาแรงมากในตลาดเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักอย่างหนึ่งของ Dell การขายแต่อินเทลอย่างเดียวทำให้ Dell เสียเปรียบคู่แข่ง (Sun, HP, IBM) ที่มีชิปเอเอ็มดีขายมาตั้งนานแล้ว

นาย Jonathan Schwartz ซีอีโอของซันแสดงความเห็นไว้ในบล็อกของเขาว่าซันกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะแจกจ่าย Solaris ทั้ง CDDL และ GPLv3 ซึ่งนาย Schwartz ระบุว่านี่จะเป็นโอกาสให้โลกโอเพนซอร์สทำงานร่วมกับโค้ดของซันได้ดีขึ้น

เรื่องนี้อาจทำให้เกิดการแตกขั้วกันเนื่องจาก Linus ออกมาระบุแล้วว่าตัวเขาเองยืนยันจะใช้ GPLv2 ต่อไป โดยในตอนนี้ยังมีการถกเถียงถึงความเข้ากันได้ระหว่างสองเวอร์ชั่นกันอยู่

หลังจากปล่อยให้ MySQL กินตลาดไปเพียบ บริษัทใหญ่ๆอย่างออราเคิลกับไมโครซอฟท์ ก็ทยอยกันปล่อยเวอร์ชันฟรีมาแบ่งตลาดบ้าง ล่าสุดไอบีเอ็มก็เอากะเค้ามั่งปล่ิอย DB2 Express-C ซึ่งจะมีความสามารถเหมือนกับเวอร์ชันปกติยกเว้นเรื่องฮาร์ดแวร์ที่ต้องรันบนซีพียูไม่เกิน 2 ตัวและใช้แรมไม่เกิน 4 GB แต่จะไม่มีการจำกัดขนาดของฐานข้อมูล ขณะที่ของออราเคิล และของไมโครซอฟท์ จะขี้เหนียวกว่าเล็กน้อย

คงจะเห็น block ใหม่ด้านข้างกันแล้ว (ข้างไหนนี่แล้วแต่ธีมครับ ตอนนี้ธีมใหม่มีให้ลองเล่นแล้วนะ) แคมเปญ Spread Blognone ก็ไม่มีอะไรมาก ช่วยกันลิงก์กลับมาเพื่อโปรโมท Blognone เท่านั้นเอง ผมรวมไอคอนที่สมาชิกทั้งหลายช่วยกันทำมาให้เป็นเรื่องเป็นราวซะหน่อย ที่หน้า Spread Blognone

นอกจากนี้เรายังรับสมัครคนเขียนข่าวตลอด ไม่จำเป็นต้องเขียนเก่ง เขียนบ่อย ขอให้มีใจรักก็พอ มาร่วมกันสร้างสังคมข่าวไอทีกันที่นี่ เพื่อสังคมการเรียนรู้ในอนาคต ประเทศชาติเจริญนานเทอญ

เมื่อสองปีก่อนมีข่าวดังเมื่อซอร์สโค้ดของวินโดว์บางรุ่นถูกเจาะมาจากพันธมิตรของไมโครซอฟท์ และถูกนำไปแจกจ่้ายในอินเทอร์เน็ต สองปีมานี้ไมโครซอฟท์พยายามเต็มที่ที่จะกลบซอร์สเหล่านั้นไว้ในอินเทอร์เน็ตโดยไม่ให้มีการแจกจ่าย อย่างไรก็ตามการห้ามเหล่านั้นก็คงไม่สามารถซ่อนโค้ดที่หลุดออกมาได้หมด

แต่ความเดือดร้อนก็มาสู่นาย William Genovese เมื่อเขาถูกล่อซื้อจากตัวแทนของไมโครซอฟท์ในการซื้อซอร์สดังกล่าว โดยนาย Genovese ได้เสนอขายซอร์สนั้นในราคา 20 ดอลลาร์ไว้ในเว็บของเขา โดยเขาดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ตเมื่อครั้งยังมีการแจกจ่ายตามเว็บไฟล์แชร์ริ่งทั้งหลาย

คิดว่าในนี้คนมีคนเขียน Java และไช้ Eclipse กันบ้าง(เดา)ไปเจอวิธีการปรับแต่ง Eclipseเลยนำมาแนะนำกันครับ

1.ปรับแต่ง vm permSpace เพื่อจัดการ OutOfMemoryExceptions เจ้าตัวนี้เป็น memory สำหรับเก็บพวกโครงสร้างข้อมูล และข้อมูลของ classที่ใช้ในโปรเจค วิธีแก้ก็ง่ายๆครับ ปรับเจ้าตัว permSpace ให้มีขนาดมากขึ้นซะ โดยเพิ่ม XX:MaxPermSize=64m ต่อท้ายตอนเรียก eclipse.exe หรือก็เพิ่มใน eclipse.ini ครับ

โปรโตคอล SSH หรือ Secure Shell ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมานาน เพิ่งจะเข้าสู่กระบวนการออกมาตรฐานของ IETF (Internet Engineering Task Force) โดยตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเสนอมาตรฐาน และต้องผ่านกระบวนการอีกหลายชั้นกว่าจะออกเป็นมาตรฐานจริง

ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่อิมพลีเมนต์ตามสเปก SSH อยู่ 2 ค่ายใหญ่ๆ คือ SSH Communications Security (SSH.com) และ OpenSSH ที่ใช้กันในระบบปฏิบัติการโอเพนซอร์สแทบทุกตัว รวมถึง Mac OS X ด้วย ทั้งสองค่ายนี้ทำงานเข้ากันได้ไม่ 100% การออกมาตรฐานครั้งนี้ทางตัวแทนฝ่าย OpenSSH บอกว่ายินดีจะปรับเปลี่ยนให้เข้ากับมาตรฐาน

ผมดันมือบอนไปทำ 5.10 Breezy Badger เจ๊ง ไหนๆ ต้องลงใหม่แล้วทดลอง 6.04 Dapper Drake ที่จะออกเดือนเมษากันเลยดีกว่า ตัว Dapper Drake ออกเวอร์ชันทดสอบมาให้ลองเป็นระยะๆ โดยเรียกว่า Flight (ไม่รู้ที่มาเหมือนกันว่าทำไมเรียกอย่างงี้) ตัวที่ลงเป็น Flight 3 เลยมาเขียนไว้ด้วยเผื่อใครสนใจ

การติดตั้งก็โหลดซีดีอิมเมจมาตามปกติ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนคือตัว installer หน้าแรกเป็นกราฟิกแล้ว (แต่ข้างในยังเหมือนเดิม) และมีการสลับเอาหน้าตอบคำถามหลายๆ อันมาไว้ช่วงก่อนก็อปปี้ไฟล์ด้วย เพื่อให้ลงรวดเดียวไม่ต้องแวะมาตอบคำถามบ่อยๆ (ดูภาพเอาตามลิงก์)

หลังจากที่กลุ่มอุตสาหกรรมหาข้อยุติในการตกลงมาตรฐานร่วมกันในระดับหนึ่งจนได้เป็น 802.11n ตัวดราฟท์ออกมา ผลิตภัณฑ์จำนวนหนึ่งก็เริ่มประกาศตัวเองว่าเข้ากันได้กับมาตรฐานตัวนี้ อย่างไรก็ตามวันนี้การ์ตเนอร์ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษารายใหญ่ก็ออกมาให้ความเห็นว่า ยังไม่ควรเลือกใช้สินค้าเหล่านั้นเพราะอาจจะมีปัญหาในอนาคต

ึคนอย่างเราๆ ท่านๆ คงจะรู้กันดีว่าการใช้อุปกรณ์ที่มาตรฐานยังไม่ลงตัว อาจจะทำให้เกิดปัญหาความเข้ากันได้ในอนาคต แต่การที่กลุ่มการ์ตเนอร์ออกมาให้ความเห็นเช่นนี้ก็คงทำให้กลุ่มธุรกิจรายใหญ่ๆ ชะลอการติดตั้งอุปกรณ์ใหม่ๆ เหล่านี้ไปอย่างชัดเจนทีเดียว

Paul Thurrott แห่งเว็บ WinSuperSite มีโอกาสสัมภาษณ์ Jim Allchin หัวหน้าทีมวินโดวส์เกี่ยวกับ Vista

Allchin พูดรายละเอียดว่าฟีเจอร์ต่างๆ มีอะไรบ้าง (อันนั้นไปอ่านกันเอง) และเหตุผลที่ควรเปลี่ยนไปใช้ Vista ในความคิดของเค้าคือ 1. Security 2. Visualization 3. Operational cost

ที่มา - WinSuperSite

หลังจากออก Vista Beta แรกเมื่อปีที่แล้ว และ Vista CTP (Community Technology Preview) ของเดือนธันวาคมเป็นตัวล่าสุด แผนเดิมของไมโครซอฟท์คือ Vista Beta 2 ในช่วงต้นปีนี้

แต่ Jim Allchin ประธานฝ่ายแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ออกมายกเลิกกำหนดการนี้แล้ว โดยไมโครซอฟท์จะใช้วิธีออก CTP ซึ่งเป็น snapshot ที่เสถียรน้อยกว่าตัว Beta มาให้บ่อยขึ้นแทน ซึ่ง CTP ต่อไปมีกำหนดออกภายในไตรมาสแรกนี้

เดิมทีไมโครซอฟท์อยากออก CTP ให้ได้ทุกเดือน แต่ตอนนี้คงเป็นทุกไตรมาสไปเรื่อยๆ จนกว่าจะออกตัวจริงในช่วงสิ้นปี

ที่มา - eWeek

บั๊กซ่อนเร้นที่มีการพบมานานแล้วของ ACPI ไดร์วเวอร์ในวินโดว์ทำให้วินโดวในทุกวันนี้ เมื่อใช้กับ Intel Core Duo พร้อมๆ กับอุปกรณ์ใดๆ ที่ใช้ USB 2.0 จะทำให้เกิดการกินพลังงานเกินปรกติจนทำให้เวลาการใช้งานลดลงอย่างมาก ที่สำคัญคือบั๊กนี้มีการพบมากว่าครึ่งปีแล้ว แต่ยังไม่มีการแก้ไขใดๆ และยืนยันแล้วว่าจะพบอาการของบั๊กนี้ต่อเมื่อใช้กับ Intel Core Duo เท่านั้น

รอ iBook Duo.....

ที่มา - TGDaily

บิล เกตส์ทำนายอนาคตในงาน World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ว่า การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในเอเชีย โดยเฉพาะจีนกับอินเดียจะลดลงจนมีระดับเท่ากับประเทศฝั่งตะวันตก ภายในเวลาสิบปี

สาเหตุที่เกตส์ทำนายอย่างงี้ ก็เพราะอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในจีนกับอินเดียโตเร็วมาก ถ้ายังปล่อยให้ปัญหาลิขสิทธิ์คงอยู่ต่อไป จะทำให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ในประเทศเสียหายเป็นอย่างมาก บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์จะกดดันรัฐบาลอย่างหนักให้เข้มงวดในเรื่องนี้

ถึงแม้้ในประวัติที่ผ่านมา เกตส์ถือว่าเป็นคนที่ทำนายได้ถูกน้อยมาก แต่ดังขนาดนี้ ทำนายอะไรก็ตามมันก็น่าสนใจอยู่ดี

ด้วยความดังของไอพ็อดทำให้ค่ายรถหันมาเพิ่มออพชันสำหรับฟังไอพ็อดในรถกันยกใหญ่ บีเอ็มดับบลิวเป็นเจ้าแรก ส่วนที่เพิ่งโชว์ใน MacWorld ก็เป็นรถในเครือจีเอ็ม แต่ถ้าคุณเป็นเด็กแนว ขี่เวสป้า แล้วดันอยากฟังไอพ็อดด้วยจะทำยังไงดีล่ะ

ดูนี่เลยครับ 299 เหรียญเพื่อเวสป้าของคุณ (ผมว่าทำเองน่าจะง่ายกว่านะ)

ที่มา - Scooter Works