Twitter เป็นหนึ่งในบริการ Social Network ที่สามารถเจาะตลาดญี่ปุ่นได้สำเร็จ โดยหลังจากที่ได้เริ่มเปิดบริการ Twitter ในภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบันมีผู้ใช้ Twitter ในญี่ปุ่นกว่า 10 ล้านคน คิดเป็น 16.3 เปอร์เซนต์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งประเทศ (อเมริกา 9.8 เปอร์เซ็นต์) แซงหน้า Social Network อันดับหนึ่งของญี่ปุ่นอย่าง Mixi ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ทุกวันนี้จะมีข้อความจากชาวญี่ปุ่นโดยเฉลี่ย 8 ล้านทวีตต่อวัน คิดเป็น 13 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนทั้งหมดทั่วโลก สาเหตุหนึ่งที่น่าสนใจคือเรื่องของภาษา อย่างเช่นคำว่า "information" นั้นสามารถเขียนในภาษาญี่ปุ่นได้เพียงแค่ 2 ตัวอักษรเท่านั้น
ชาว iPhone 4 อาจได้ใช้ FaceTime กับงานลักษณะนี้ในไม่ช้า เพราะเริ่มมีคนประกาศรับสมัครสาวสวยมาคุยผ่าน FaceTime แล้ว
ประกาศนี้มีใน Craiglist โดยรับสมัครผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในเขตนครนิวยอร์กมาคุย sex chat ผ่าน FaceTime แบบพาร์ทไทม์ รายได้แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ตามชั่วโมงการทำงาน และยังได้ iPhone 4 ฟรีๆ หนึ่งเครื่อง (ใช้นอกเวลางานได้ด้วย)
บริการนี้จะเริ่มเปิดวันที่ 1 กันยายน อ่านประกาศรับสมัครฉบับเต็มได้จากลิงก์ครับ
ที่มา - Business Insider
กูเกิลพยายามรุกเข้ามาในตลาด social network หลายครั้งแล้ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จเสียที ทั้งกับ Orkut (ที่ดังเฉพาะในบราซิล) และ Google Buzz
Kevin Rose ผู้ก่อตั้ง Digg ซึ่งมีประวัติ "ลือแม่น" หลายครั้ง ได้ทวีตว่ากูเกิลกำลังจะออก "Google Me" บริการที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของ Facebook
Ok, umm, huge rumor: Google to launch facebook competitor very soon "Google Me", very credible source
จริงแท้แค่ไหน อันนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไป
ที่มา - Gizmodo
มือถือ Kin จากไมโครซอฟท์ อาจขายไม่ออกจริงๆ ตามข่าว Microsoft Kin ขายได้เพียง 500 เครื่อง ล่าสุดทางเครือข่าย Verizon เตรียมตัดราคาลงครึ่งหนึ่งแล้ว
ในโอกาสเดียวกัน Verizon ยังจะลดราคามือถือรุ่นเก่าๆ อีกหลายตัว เช่น BlackBerry Storm2, Nokia Twist, LG enV Touch ด้วย
เป็นเรื่องที่คาดกันได้ว่ามันมาแน่ ขึ้นกับว่าเมื่อไรเท่านั้นเอง และคราวนี้ก็มีคน jailbreak ได้ภายในไม่กี่วันเท่านั้น
ที่ทำได้เร็วเพราะรูโหว่ในซอฟต์แวร์ของ iPhone รุ่นก่อนๆ ซึ่งเคยถูกใช้โดยโปรแกรม Spirit Jailbreak ไม่ถูกแพตช์โดยแอปเปิล ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้โค้ดเดิมรันเพื่อเข้าถึง root ของ iPhone 4 และติดตั้ง Cydia ลงไปได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม iOS 4.0.1 ที่จะออกมาเร็วๆ นี้อาจแพตช์ช่องโหว่นี้ ซึ่งทางทีมแฮกเกอร์ก็คงต้องหาช่องโหว่อื่นต่อไป
Engadget มีภาพหลุดของ Motorola Charm มือถือตัวใหม่อีกตัวจาก Motorola ซึ่งเป็นมือถือตระกูลเดียวกับ Motorola CLIQ/DEXT
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือ Charm เปลี่ยนจากมือถือสไลด์แนวนอน มาเป็นมือถือทรงแท่งแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส (ที่รวมคีย์บอร์ด QWERTY มาให้แล้ว) มาพร้อมกับ Android 2.1 ที่มี MOTOBLUR รุ่นใหม่ ซึ่งรอบรับฟีเจอร์ Like ของ Facebook และ RT ของ Twitter แล้ว
วางขายกับ T-Mobile ในสหรัฐครับ
ที่มา - Engadget
เมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมาทางกทช. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเรื่องร่างหลักเกณฑ์การอนุญาตประกอบกิจการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ไปแล้ว ในตอนนั้นผมได้ร่างความเห็นและประเด็นที่ผมกังวลให้ mk และคนในกลุ่มบางคนไป แต่เนื่องจากงานในวันนั้นคนเยอะมาก mk ซึ่งไปร่วมงานจึงไม่ได้ขึ้นพูด แต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะทางกทช. เปิดให้เราส่งอีเมลเข้าไปได้
บทความนี้จึงเป็นประเด็นต่างๆ ที่ผมกังวลถึงหลักเกณฑ์ในประเด็นต่างๆ ที่อาจจะมีปัญหาในอนาคตได้ โดยมี 2 ประเด็นคือการใช้งาน Femtocell และเกณฑ์การควบคุมคุณภาพบริการ
ขณะที่ร่างฉบับนี้สนับสนุนการแข่งขันค่อนข้างดีในหลักการ เช่นการสนับสนุนการแบ่งปันเครือข่าย และการทำ MVNO อย่างไรก็ตามมีประเด็นเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้วนั่นคือ Femtocell
เว็บไซต์ Mobile-review มีรีวิวระบบปฏิบัติการ Symbian^3 ขนาดยาว (มาก) บน Nokia N8
เรารู้กันดีว่า Symbian เป็นระบบปฏิบัติการที่มียอดขายอันดับหนึ่งของโลกสมาร์ทโฟน แต่ด้วยความล้าสมัยในหลายๆ ส่วน ทำให้ตกเป็นรองคู่แข่งหน้าใหม่ๆ อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม Symbian รุ่นสุดท้ายก่อนหน้านี้คือ S60 5th Edition (เทียบเท่า Symbian^1) ซึ่งออกในปี 2008
ตอนนี้มาดูกันว่าเวลาผ่านมาสองปี Symbian^3 (เทียบเท่า S60 7.0) มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง
จากข่าวก่อนหน้านี้ว่า Windows 7 ขายได้วินาทีละ 7 ชุด (หรือยอดรวม 150 ล้านชุด) ทาง Frank X. Shaw รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรของไมโครซอฟท์ ก็ได้ออกมาโชว์ตัวเลขอีกชุดใหญ่ แม้จะไม่บ่งบอกอะไรชัดเจนแต่ใครๆ ก็ดูออกว่าข่มคู่แข่งแน่นอน
เนื่องจากตัวเลขมีเยอะมาก ผมคัดมาลงเพียงบางส่วนนะครับ เว็บไซต์ TechCrunch ยังได้แปลตัวเลขออกมาเป็นเจตนาที่ไมโครซอฟท์ต้องการจะสื่อให้ด้วย
ตัวเลขบางส่วน
วาณิชธนกิจ Piper Jaffray ออกรายงานเกี่ยวกับการขาย iPhone 4 ของแอปเปิล โดยประเมินว่าจะมียอดขาย 1-1.5 ล้านเครื่องใน 3 วันแรก
แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ Piper Jaffray ได้สำรวจข้อมูลของผู้ซื้อ iPhone 4 ในสหรัฐจำนวน 608 คน ได้ข้อมูลมาดังนี้
มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าแอปเปิลเตรียมอัพเดท iOS 4.01 ในสัปดาห์หน้า (คาดว่าเป็นวันจันทร์) เพื่อแก้ปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4 เมื่อเอามือไปจับบริเวณขอบตัวเครื่อง
หากแอปเปิลแก้ปัญหานี้ด้วยการอัพเดทซอฟต์แวร์ได้สำเร็จก็คงจะรอดตัวไป แต่หากทำไม่ได้และกลับเป็นปัญหาทางด้านฮาร์ดแวร์ แอปเปิลคง "งานเข้า" แน่นอน
ที่มา: AppleInsider ผ่าน Boy Genius Report
มีการรายงานว่า แอปเปิลในสหราชอาณาจักรได้แจกขอบยางครอบบริเวณขอบอลูมิเนียมรอบตัวเครื่อง (Bumper) มูลค่า 25 ปอนด์ (ราว 1,300 บาท) ให้แก่ลูกค้าที่กลับมาบ่นกับทางร้านเกี่ยวกับปัญหาสัญญาณตกของ iPhone 4
จนถึงขณะนี้ แอปเปิลก็ยังไม่ได้ออกมากล่าวอะไรเพิ่มเติม นอกจากอีเมลอย่างเป็นทางการของคุณสตีฟ จ็อปส์ที่กล่าวว่า "พยายามหลีกเลี่ยงการจับที่บริเวณมุมล่างซ้ายลักษณะที่ครอบคลุมทั้งสองด้านของแถบสีดำตรงขอบอลูมิเนียม หรือให้ง่ายกว่านั้นก็ใช้เคสที่หาซื้อได้ทั่วไป" (ดูข่าวเก่า)
eMachines เปิดตัวคอมพิวเตอร์สุดเล็ก Mini-e ER1402 ซึ่งมีความกว้างเพียง 18 เซนติเมตร น้ำหนัก 4 กิโลกรัม ด้านสเปกนั้นใช้ AMD Athlon II Neo เป็นหน่วยประมวลผลหลัก พร้อมกับกราฟิก NVIDIA GeForce 9200 แรม 2GB ฮาร์ดดิสก์ 160GB รองรับ Wi-Fi ในตัว และมีช่องต่อ HDMI ในราคาเพียง 299.99 ดอลลาร์ (9500 บาท) เท่านั้น
ที่มา: Engadget
ปล.อยากรู้ว่า Athlon II Neo จะแรงขึ้นแค่ไหนแฮะ
มีรายงานข่าวจาก HTC ผู้ผลิต Nexus One ให้กับกูเกิลว่าในขณะนี้จอ AMOLED ของ Samsung นั้นกำลังขาดตลาด เนื่องจากบริษัท Samsung Mobile ที่เป็นผู้ผลิตจอนั้นจำเป็นต้องเร่งผลิตให้สำหรับเครื่อง Samsung Galaxy S ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็วๆ นี้จนไม่สามารถจัดส่งจอให้กับผู้ผลิตโทรศัพท์รายอื่นได้ทัน
เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เครื่องยี่ห้ออื่นที่ใช้จอดังกล่าวอย่าง Nexus One ต้องกลับไปใช้จอแบบ TFT แทนโดยเครื่อง Nexus One ที่ผลิตหลังจากเดือนกรกฎาคมนั้นจะเปลี่ยนไปใช้จอ Super TFT จาก Sony แทน (แหล่งข่าวบอกว่าคุณภาพใกล้เคียงกันแต่ Contrast Ratio ด้อยกว่า) นอกจากนี้เครื่องที่ใช้ AMOLED จาก HTC เองอย่างเช่น HTC Desire และ Incredible นั้นก็มีแนวโน้มว่าอาจจะต้องเปลี่ยนจอในลักษณะเดียวกันด้วย
โปรแกรมอีเมลโอเพนซอร์ส Thunderbird ออกรุ่นย่อย 3.1 แล้ว
ฟีเจอร์ที่สำคัญมี 2 ประการ
ที่เหลือเป็นการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพ และแก้บั๊กทั่วไป ดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บของ Thunderbird
อันที่จริงก็แว่วมานานแล้วเหมือนกันครับ แต่ครั้งนี้ทางกูเกิลได้ยืนยันไปยัง Forbes แล้วว่า กูเกิลบอท หรือโปรแกรมดูดข้อมูลเว็บไซต์ของกูเกิลนั้นสามารถประมวลผล JavaScript บางส่วนได้ด้วย
นอกจากนี้ กูเกิลบอทยังสามารถอ่านเข้าไปถึงไฟล์มีเดียประเภทต่างๆ ได้ค่อนข้างมาก ประกอบกับการเปิดใช้งานระบบดัชนีเว็บตัวใหม่ จะยิ่งทำให้กูเกิลบอทสามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เร็วขึ้น และทันสมัยขึ้นอีกด้วย
เผลอๆ ไม่แน่อีกหน่อยอาจเห็นกูเกิลบอทเก็บผักได้ด้วย !
GMail เพิ่มฟีเจอร์เล็กๆ แต่น่าจะมีประโยชน์สูงเพราะเรามักเจอสถานการณ์แบบนี้กันบ่อยๆ
หลังจาก GMail สามารถเปิดไฟล์ PDF ได้โดยตรง ผ่าน Quick View ตั้งแต่ปี 2008 วันนี้กูเกิลได้เพิ่มไฟล์ .doc และ .docx แล้ว โดยจะมีลิงก์ "View" เพิ่มเข้ามาตรงไฟล์แนบ
ก่อนหน้านี้ถ้าได้รับไฟล์ .doc เรามีทางเลือกแค่เปิดใน Google Docs หรือดาวน์โหลดไฟล์เท่านั้น ส่วนฟีเจอร์ Quick View เดิมรองรับแค่ไฟล์ .pdf .ppt และ .tiff
ที่มา - GMail Blog
คงไม่มีใครนึกถึงบริการ social network ยอดนิยมอย่าง Facebook ในฐานะ search engine มากนัก แต่ถ้ามองข้ามล่ะก็ ยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลอาจโดนโค่นได้เช่นกัน
เมื่อเดือนเมษายน Facebook ได้ประกาศแผนสำคัญ Open Graph ซึ่งจะทำให้หน้าเว็บเพจต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต กลายเป็นวัตถุและสิ่งของในจักรวาลของ Facebook ได้ผ่านการกดปุ่ม Like ของผู้ใช้ ตอนนี้เวลาผ่านไปสองเดือน มีเว็บจำนวนไม่น้อยที่รองรับ Open Graph (ของ Blognone รอหน่อยนะครับ ทำแน่) และ Facebook ก็มีข้อมูลของวัตถุเหล่านี้เป็นจำนวนมหาศาล
คงไม่มีใครอธิบายเรื่องปัญหาเสาอากาศรอบตัวของ iPhone 4 ได้เท่ากับผู้เชี่ยวชาญด้านเสาอากาศตัวจริง
Spencer Webb จากบริษัท AntennaSys ผู้ผลิตเสาอากาศได้เขียนอธิบายลงบล็อกของบริษัทว่า ปัจจุบันนี้ มือถือเกือบทุกเครื่องมีเสาอากาศรับสัญญาณอยู่ด้านใต้ของเครื่องกันเกือบหมด แม้มันจะเป็นจุดที่เราใช้มือจับตัวเครื่องโทรศัพท์ก็ตาม แต่เหตุผลก็เพราะ FCC (กทช. สหรัฐ) มีกฎเรื่องความแรงของสัญญาณที่ร่างกายได้รับ (Specific Absorbtion Rate หรือ SAR) ซึ่งการเอาเสาอากาศไปไว้ด้านบนจะอยู่ใกล้กับศีรษะ และอาจมีผลทำให้ไม่ผ่านมาตรฐานของ FCC
ข่าวนี้ยกตัวอย่างของ Google Docs แต่ผมคิดว่ามันแทนแนวคิดของ cloud computing หรือ "บริการกลุ่มเมฆ" ที่ขึ้นมาเป็นคู่แข่งของระบบไอทีในองค์กรแบบเดิมๆ ได้เช่นกัน
เรื่องนี้ถูกเปิดเผยโดย Jim Whitehurst ซีอีโอของ Red Hat โดยเขาเล่าว่ามี CIO ของบริษัทลอจิสติกส์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่งเล่าให้ฟัง
CIO คนนี้บอกว่า เขาได้รับมอบหมายงานจาก CMO (หัวหน้าฝ่ายการตลาด) ว่าต้องการระบบแชร์เอกสารระหว่างพนักงานของบริษัทที่อยู่ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก เขากลับไปปรึกษากับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ภายใน ซึ่งได้คำตอบว่าสามารถทำได้ แต่ใช้ระยะเวลาพัฒนาโปรแกรม 9 เดือน และงบประมาณ 14 ล้านดอลลาร์
ในงานนำเสนอเกี่ยวกับแพลตฟอร์มธุรกิจการโฆษณาบน Windows Phone 7 รองประธานบริษัทไมโครซอฟท์ได้พูดออกมากลางเวทีว่าไมโครซอฟท์จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้
ฟีเจอร์เด่นๆ ของแพลตฟอร์มธุรกิจการโฆษณาที่มีการนำเสนอ อาทิ แอพพลิเคชั่นที่เป็นป้ายโฆษณาที่สามารถแสดงผลบริเวณขอบบนของจอภาพบนหน้าเริ่มต้น (start screen) ได้
กำหนดการณ์เปิดตัวในเดือนตุลาคมดูจะเร็วกว่าตามความคาดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งก็เป็นข่าวดีว่าเราจะได้เห็นการเปิดตัวโทรศัพท์มือถือติดตั้ง Windows Phone 7 ในเร็ววันเช่นกัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทาง Twitter Blog ได้ประกาศสถิติการทวีตสูงสุดต่อวินาที (Tweets-per-second : TPS) ออกมาที่ 3,085 TPS ในนัดชิงชนะเลิศบาสเก็ตบอล NBA ระหว่างทีม LA Lakers กับทีม Boston Celtics
แต่แล้วเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) สถิติดังกล่าวก็ได้ถูกทำลายลงไปอย่างรวดเร็วในทันทีที่ทีมชาติญี่ปุ่นได้รับชัยชนะในการแข่งขันฟุตบอลโลกกับเดนมาร์กไปที่ 3,283 TPS ทันทีที่กรรมการเป่าสัญญาณหมดเวลาการแข่งขัน
นอกจากนี้ทางทวิตเตอร์ยังได้บอกอีกว่า ทุกครั้งที่เกิดการทำประตูขึ้น ปริมาณทวีตก็จะพุ่งพรวดขึ้นมาแตะระดับใกล้เคียงกันเช่นกัน และคาดว่าสถิติดังกล่าวจะถูกทำลายอีกในไม่ช้านี้ครับ
ข่าวสำคัญอีกข่าวของวันนี้ กูเกิลเขียนลงบล็อกของ Android ว่าได้สั่งลบโปรแกรมจากระยะไกล (remotely remove) 2 ตัวจากมือถือ Android ของเราๆ ท่านๆ
โปรแกรมสองตัวนี้เป็นโปรแกรมเก็บข้อมูลเพื่อการวิจัย ซึ่งไม่มีประโยชน์ในการใช้งานจริง แต่ข้อความโฆษณาบางส่วนของโปรแกรมได้เชิญชวนให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไปลองติดตั้ง หลังจากกูเกิลทราบเรื่องนี้ได้คุยกับนักพัฒนาเพื่อเอาโปรแกรมออกจาก Market ส่วนโปรแกรมที่ติดตั้งไปในเครื่องแล้ว กูเกิลใช้วิธี remotely remove นั่นเอง (ผู้ที่โดนจะได้รับข้อความเตือนว่าโปรแกรมโดนลบ)
เป็นเรื่องที่หลายคนอยากรู้และเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน ทั้งฝ่ายชื่นชอบ iPhone, ฝ่ายชื่นชอบ Android และฝ่ายชื่นชอบ Samsung ว่า Retina Display ที่ Jobs อ้างว่าคุณภาพดีกว่า OLED นั้นคุณภาพเป็นอย่างไร จน Samsung เองออกมาบอก Retina Display สู้ AMOLED ไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้เว็บไซต์ Engadget ได้นำเครื่อง iPhone 4 และ Samsung Galaxy S มาเทียบเรื่องหน้าจอกันชัดๆ ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว โดยปรับความสว่างสูงสุด ประเด็นที่หลายคนอยากรู้ มีดังนี้