หลังจากที่แอปเปิลเปิดตัว iPhone ไปไม่ถึงอาทิตย์ ก็มีคนลอกเลียน UI ของ iPhone โดยทำเป็นสกินมาใช้กับ PocketPC มาโพสแจกที่เว็บบอร์ด xda-developers แล้วสมาชิกคนหนึ่งที่เอาตัวสกินนั้น ไปเขียนบล็อกพร้อมทั้งใส่สกรีนช็อต และลิ้งค์กลับมายังหน้าดาวโหลด พอแอปเปิลรู้ จึงสั่งให้ทนาย ส่งจดหมายไปบอกสมาชิกคนนั้น ให้หยุดการเผยแพร่สกินนี้ ซึ่งกรณีแบบนี้เคยเกิดมาแล้ว กับเว็บที่เอาข้อมูลของสินค้าที่จะออกใหม่ ของแอปเปิลมาเปิดเผยก่อน ของ Palm ก็มีแล้วเหมือนกัน แต่ยังไม่โดนอะไร
ที่มา - TechCrunch
หลังๆ เรามีคนเขียนข่าวกันเยอะขึ้น พอดีมีประเด็นเรื่องการใช้รูปในข่าวเข้ามา ตรงนี้โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นด้วยกับหลายๆ คนที่ว่า Blognone จะมีสีสันเยอะขึ้นมากถ้ามีการใส่รูปในข่าวบ้างพอประมาณ แต่ประเด็นที่สำคัญมากๆ คือเรื่องของลิขสิทธิ์ที่เว็บเราซีเรียสมาก ดังนั้นจึงมีกติกาในการใช้รูปในข่าวกันเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างถูกต้อง
ตัวเลขเป็นทางการของทางกระทรวงไอซีทีเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมามีรายงานถึงการบล็อคเว็บจำนวน 13,435 เว็บเทียบกับเมื่อวันที่ 13 ตุลาคมปีที่แล้วที่ตัวเลขอยู่ที่ 2,475 เว็บ นอกจากการบล็อกจากกระทรวงไอซีทีแล้ว อินเทอร์เน็ตไทยยังมีการบล็อคจากหน่วยงานอื่นๆ เช่น ด้านตำรวจที่ระบุตัวเลขจำนวนเว็บที่ถูกบล็อคอย่างเป็นทางการจำนวน 32,500 เว็บ และยังมีเว็บไม่ระบุจำนวนถูกบล็อคโดยการสื่อสารแห่งประเทศไทย
โดยทั่วไปแล้วการบล็อกเว็บเหล่านี้เกิดจากการ "ขอร้อง" อย่าง "ไม่เป็นทางการ" จากเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้ทางผู้ให้บริการบล็อคเว็บตามคำขอร้องเหล่านั้น โดยมากแล้วผู้ให้บริการทั้งหมดก็มักจะทำตามคำขอร้องเหล่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะตามมา
หลังจากมีเสียงเรียกร้องกันเข้ามามากเหลือเกินให้ทางแอปเปิลเปิดดาวน์โหลด Keynote ประวัติศาสตร์ในงาน Macworld 2007 นี้ ในที่สุดแอปเปิลก็เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลดไปดูที่บ้านได้ฟรีๆผ่านทางไอจูนส์ โดยขนาดของวีดีโอจะอยู่ที่ 1.2 GB ยาว 1 ชั่วโมง 45 นาที
ก่อนหน้าที่จะมีการเปิดให้ดาวน์โหลดในครั้งนี้ ทางแอปเปิลเคยเปิดให้ดู Keynote มาแล้วแต่เป็นในแบบ Stream ซึ่งพบว่ามีจำนวนผู้เข้ามาใช้เป็นจำนวนมาก แล้วส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถนั่งรอความอืดจนเกินทนได้ จนมีหลายต่อหลายคนเริ่มหาช่องทางอื่นไม่ว่าจะเป็น BitTorrent และถึงกับมีการซื้อขายไฟล์วีดีโอนี้เป็นซีดีกันเลยทีเดียว
รวบสองข่าวเลย
Ubuntu 7.04 หรือชื่อรหัส Feisty Fawn ออกรุ่น Alpha 2 หรือเรียกเท่ๆ ว่า Herd 2 มาแล้ว สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอ่านได้จาก Release Announcement ตัวอย่างก็เช่น GNOME 2.17.5 (อ่านรายละเอียดได้ที่บล็อกของคุณเทพพิทักษ์), ZeroConf (แบบเดียวกับ Rendezvous ของ Mac OS X), รวมเอาโครงการ Telepathy เข้ามา, เคอร์เนลตัวใหม่มี KVM แล้ว, WINE ตัวใหม่ เป็นต้น
ถึงแม้ว่า Blognone จะมีนโยบายชัดเจนในการสนับสนุนการใช้งาน Firefox แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข่าวของ IE7 คู่แข่งสำคัญ
Tony Chor, Group Program Manager เขียนลง IEBlog ว่าเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2550 ที่ผ่านมา IE7 ได้ถูกติดตั้งไปถึง 100 ล้านครั้งแล้ว ซึ่งถ้าดูตามสถิติของ Firefox แล้วถือว่า IE7 ใช้เวลาน้อยกว่า Firefox อยู่โข (ความเห็นผมเอง)
แต่เหนืออื่นใด Tony ได้บอกอีกว่า จากการตรวจสอบจำนวนการใช้งาน เว็บเบราเซอร์ของ WebSideStory พบว่า IE7 มีส่วนแบ่งตลาดในอเมริกาถึง 25% เป็นรองจาก IE6 ซึ่งหลังจากวินโดวส์ วิสต้า ออกวางจำหน่ายก็จะทำให้ส่วนแบ่งของ IE7 เพิ่มขึ้นไปอีก (แหงสิ)
The UK Free Software Network (UKFSN) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายหนึ่งในเมือง Hertfordshire ของอังกฤษ ได้ประกาศว่าจะให้เงิน กับนักศึกษาที่พัฒนาโปรแกรมที่ผู้อื่นสามารถเอาไปดัดแปลงได้ หรือโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ นั่นเอง โดยนักศึกษาคนแรกที่ได้เงินนี้ไปคือ นาย Andrew Price นักศึกษาวิทย์คอมชั้นปีที่ 2 ของ Swansea University โดยได้เงินไป 4,680 ปอนด์ จากการเขียนโปรแกรมสำรองข้อมูลที่มีชื่อว่า pyBackPack
ที่มา - PingWales
เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า Prototype นั้นเริ่มเป็นที่นิยมในบรรดา JavaScript Library ทั้งหลาย แต่สำหรับ Java programmer แล้ว การใช้ Prototype เป็นเรื่องน่าปวดหัวอยู่ไม่น้อยครับ พอดีไปเจองานของ Jason Bell ออก alpha release ของ JSP Tag library ใหม่ใน sourceforge.net ตั้งชื่อว่า "prototaglib" เห็นชื่อก็คงเดาออกว่าเป็น JSP tag library สำหรับเรียกใช้ prototype
การทำงานเจ้าตัวคุยว่าเหมือน Ruby On Rails แถมมี screencast แสดงตัวอย่างคล้ายๆกับตัวอย่างยอดนิยมของ Ruby on Rails ออกมาบนเว็ปไซต์ด้วย เป็นการสร้าง web application ทั้งตัวโดยใช้ Flickr API โดยทำงานทั้งหมดบน NetBeans IDE ใช้เวลาสร้าง web application ตัวอย่างนี้แค่ 6 นาที
DNVW.com (Domain Name Values Weekly site) ได้จัดการโหวดว่าการซื้อขาย Domain Name ในปี 2006 รายการไหนที่ยอดเยี่ยมที่สุด 20 อันดับ การลงคะแนนไม่ได้ถือเอามูลค่าการซื้อขายสูงสุดเป็นเกณฑ์นะครับ แต่ใช้เกณฑ์ว่ารายการซื้อขายใดที่ให้ผลตอบแทนระยะยาวแก่ผู้ซื้อ (4 ปีขึ้นไป) มากที่สุดครับ ผลก็คือ
ขณะที่ฝั่งพีซีเรามีซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่อุปกรณ์ที่เราใช้ๆ กันอยู่ทุกวันอย่างมือถือนั้นกลับไม่ค่อยมีการพัฒนาแบบเปิดสักเท่าใหร่ แต่เมื่อมูลค่าตลาดสูงขึ้นอย่างไม่น่าไม่หยุดยั้ง บริษัทไต้หวันอย่าง First International Computer (FIC) จึงมองเห็นช่องทางแจ้งเกิดด้วยการสร้างแพลตฟอร์ม OpenMoko ซึ่งก็คือลินุกซ์ดัดแปลงเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ขนาดเล็กโดยเฉพาะ
ตอนแรกถ่ายรูปมาประมาณ 40 รูป (แอบไปเดินตอนพักเที่ยง) แต่คิดไปคิดมารูปอื่นๆ คงไม่มีใครสนใจเท่าใหร่ งานนี้มีไม่กี่รูปเพราะใช้กล้องในมือถือ ก็เอาว่าเอาไปดูเล่นเผื่อใครตัดสินใจว่าจะไปไม่ไปแล้วกัน
งาน CES 2007 มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ค่อนข้างมาก ล่าสุดโตชิบาเปิดตัว HD DVD แบบ 3 เลเยอร์ และ Ritek โชว์เทคโนโลยีการอัดข้อมูลลงไปในแผ่นดิสก์แบบออพติคอลได้ถึง 10 เลเยอร์!!
ปัจจุบันความจุของ HD DVD แบบดูอัลเลเยอร์คือ 30GB เมื่อเทียบกับ Blu-ray แบบดูอัลเลเยอร์ซึ่งมีความจุ 50GB แล้วน้อยกว่าอย่างชัดเจน โตชิบาจึงปรับให้ร่องข้อมูลบนแผ่นมีขนาดเล็กลง ซึ่งเพิ่มความจุได้เป็นเลเยอร์ละ 17GB และอัดไปเป็น 3 เลเยอร์ จึงทำให้ HD DVD มีความจุ 51GB พอฟัดเหวี่ยงกับ Blu-ray
New York Times สัมภาษณ์สตีฟ จ็อบส์ ได้ใจความว่าเราไม่สามารถเอาโปรแกรมของค่ายอื่นๆ (3rd party) ไปรันบน iPhone ได้ง่ายๆ
จ็อบส์บอกว่าไม่อยากให้คนคิดว่ามันเป็นพีซีย่อส่วน แต่เป็นอุปกรณ์แบบเดียวกับ iPod มากกว่า เขาไม่ต้องการเห็น iPhone ที่ลงโปรแกรมเพิ่มเติมเข้าอีกไป 3 โปรแกรม แล้วทำให้ตัวเครื่องมีปัญหา ใช้งานไม่ได้ อย่างไรก็ตามจ็อบส์อธิบายเพิ่มว่ายังมีโอกาสที่ผู้ใช้จะซื้อซอฟต์แวร์แล้วโหลดลงเครื่องเองอยู่ เพียงแต่ซอฟต์แวร์นั้นจะต้องผ่านการตรวจสอบจากแอปเปิลอย่างเข้มงวดเท่านั้น (ต้นฉบับใช้คำว่า "it has to be more of a controlled environment")
ผู้บริหารสตูดิโอหนังสำหรับผู้ใหญ่ได้ให้สัมภาษณ์ในงาน CES 2007 และ AVN 2007 ว่าเลือก HD DVD เป็นฟอร์แมตสำหรับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ผู้ใหญ่ยุค HD แทนที่จะเป็น Blu-ray
หลายสตูดิโอยอมรับว่า Blu-ray มีคุณภาพที่เหนือกว่า แต่ด้วยนโยบายของโซนี่ที่ไม่ต้องการให้ Blu-ray มีหนังทำนองนี้ และ HD DVD เองมีราคาถูกกว่าแถมผลิตได้ง่ายกว่า จึงเลือก HD DVD ในท้ายที่สุด
จับตาข่าวนี้ไว้ดีๆ ถ้าอีก 2-3 ปีข้างหน้า HD DVD เป็นฝ่ายชนะล่ะก็ย้อนกลับมาอ่านใหม่ได้เลย เพราะว่ามันอาจปัจจัยชี้เป็นชี้ตายได้ ในข่าวได้อ้างสงครามรอบก่อนระหว่าง VHS กับ Betamax ซึ่งโซนี่มีนโยบายแบบเดียวกัน ทำให้ Betamax ตายไปอย่างรวดเร็ว
มหกรรมเกมส์ที่ใหญ่ที่สุดในไทย (ใช้ชื่อย่อว่า tgs ซะด้วย แหมนึกว่าไปงาน Tokyo Game Show ซะอีก) ซึ่งโดยปกติแล้วจะจัดในวันเด็กอยู่ข้างๆงาน Thailand Animation & Multimedia (TAM) แต่ปีนี้ต้องจัดเดี่ยวเพราะอีกงานโดนพิษจากรถถังเลื่อนไปจัดปลายปีซะแล้ว
คนรักเกมส์พลาดไม่ได้กับการเปิดตัวเกมส์ใหม่ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น World of War Craft ที่เข้ามาเปิดในไทย(ซะที) , "ก้านกล้วย ดิ แอดเวนเจอร์" พร้อมทั้งเครื่องเกมส์รุ่นเก๋า เก๋า อย่าง นินเทนโด แฟมิคอม ไปจนถึง Wii , PS3 และ Xbox 360
CNET ประกาศรางวัล CNET editors' the Best of CES 2007 ออกมาแล้ว ไปดูกันเองครับ เพราะผมว่างั้นๆ (Link) แต่มีเทคโนโลยีหนึ่งที่ผมว่าน่าสนใจมากครับ ได้รางวัล Emerging tech คือเทคโนโลยีที่เรียกว่า Powercast เป็นโฉมใหม่ของเครื่องใช้อิเล็คโทรนิกส์ขนาดพกพาเลยครับ (ว่าเข้านั่น) คือเป็นแหล่งกำเนิดพลังงานที่ส่งไปยังเครื่องโดยใช้ RF signal (สัญญาณวิทยุ) ครับ ดังนั้นอุปกรณ์ต่างๆ เช่น PC peripheral, หูฟัง ก็จะชาร์จไฟอัตโนมัติผ่านทางอากาศครับ ผมว่ามันน่าใช้มากเลยเพราะเบื่อเวลาเม้าส์ไร้สายถ่านหมดครับ ต้องเดินไปเซเว่นทุกที
บ้านเรายังหาอะไรมาใช้กับ HDTV ไม่ค่อยจะได้ แต่ในงาน CES ปีนี้ได้โชว์ HDTV ตัวต้นแบบที่มีความละเอียดถึง 2160p (3840 x 2160 แบบ progressive scan นับเป็นพิกเซลก็ 8.3 ล้านพิกเซล) เท่ากับ 1080p เอามาต่อกัน 4 จอ เจ้านี่เลยมีชื่อเล่นว่า Quad HDTV
HDTV เครื่องนี้เป็นของบริษัท Westinghouse มีขนาด 52 นิ้ว และมุ่งเน้นตลาดเฉพาะทาง เช่น การแพทย์ หรือการประชุมทางไกลเป็นหลักมากกว่าให้เอามาดูหนังเหมือน 1080p ทั่วไป ดูรูปได้ที่ Engadget
สำหรับคนที่ยังงงเรื่องการเรียกชื่อความละเอียดหน้าจอของ HDTV ลองอ่าน Wikipedia (เลื่อนลงไปดูรูปด้านล่างสุด)
ช่วงนี้ข่าว iPhone เยอะมาก คัดเฉพาะข่าวที่น่าสนใจมาลงละกัน
โฆษกของทั้งแอปเปิลและอินเทลออกมาให้ข่าวว่า iPhone ไม่ได้ใช้ซีพียูอินเทลแต่อย่างใด มีเพียง Apple TV เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่ใช้
ข่าวนี้เป็นการหักปากกาเซียนที่ระบุว่าเป็น XScale แน่นอน ในขณะที่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเป็นอะไรกันแน่ ทาง Ars Technica ได้วิเคราะห์ว่าเป็น Samsung!
ทางโครงการ OLPC กำลังมองหาความเป็นไปได้ในการขายเครื่องให้กับผู้สนใจทั่วไป นอกเหนือไปจากการสั่งยกล็อตของรัฐบาลแต่ละประเทศ
Nicholas Negroponte ประธานโครงการบอกกับบีบีซีว่า วิธีหนึ่งที่เป็นไปได้คือขายผ่าน eBay โดยจะอยู่ในรูปซื้อ 2 เครื่อง ได้มาใช้เอง 1 เครื่อง ส่วนอีกเครื่องจะถูกส่งไปให้เด็กในประเทศกำลังพัฒนาใช้ ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับ eBay และหาวิธีจัดการกับ supply chain ที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดอยู่
อย่างไรก็ตาม Negroponte บอกว่างานสำคัญกว่าคือส่งเครื่องล็อตแรกให้กับประเทศต่างๆ เรื่องขายเครื่องนี้คงดำเนินการได้อย่างเร็วที่สุดก็ปี 2008
ที่มา - BBC
หลังจากที่ Jobs ได้ออกมายืนยันและประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าจะใช้ชื่อ iPhone อย่างแน่นอน ล่าสุด Cisco เตรียมยื่นฟ้องร้องข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้าต่อ federal court ในสหรัฐฯ
Cisco อ้างว่า ได้ถือเครื่องหมายการค้านี้มาตั้งแต่ปี 2000 หลังจากซื้อบริษัท Infogear Technology ซึ่งเป็นผู้ลงทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ ก่อนหน้านี้ Cisco ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ เมื่อปลายปีที่แล้ว ในชื่อเดียวกัน เพื่อยืนยันการถือครองเครื่องหมายการค้านี้เป็นนัย ๆ
ได้เวลาสนุกแล้วสิ ๆ
[ที่มา: BBC]
หลังจากก่อนหน้านี้ มีพยายามบังคับให้ blogger ทุกคนต้องลงทะเบียนกับทางการในหลายประเทศ ล่าสุดรัฐบาลเกาหลี ผ่านร่างกฏหมายที่บังคับให้ ผู้ใช้ต้องลงทะเบียนด้วยชื่อจริง สำหรับเว็บไซต์ที่มีคนเข้าชมมากกว่าวันละ 100,000 คน นอกจากบรรดา web portal ทั้งหลายแล้ว ยังรวมไปถึงเว็บไซต์ของหน่วยงานของรัฐด้วยเช่นกัน
ถ้าไม่ปฏิบัติตาม กระทรวงสารสนเทศสามารถบังคับให้เจ้าของเว็บไซต์แก้ปัญหา และมีค่าปรับสูงถึง 30 ล้านวอน (ประมาณ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่แน่ใจว่าทำไมมันถึงสูงจัง 32,000 เหรียญสหรัฐ)
ร่างฉบับนี้เคยแก้มาครั้งนึงแล้ว โดยครั้งแรกได้กำหนดไว้สำหรับ portal ที่มีคนเข้ามากกว่า 300,000 คนต่อวัน และ 200,000 คนต่อวันสำหรับเว็บไซต์ของสื่อ
หลังจากที่ปีที่แล้วมหากาพย์แห่งการรบในโลกไซเบอร์ระหว่าง Microsoft และ Google ได้เริ่มดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ นัยว่าปีนี้ Microsoft คงต้องเปิดแนวรบขนาดใหญ่อีกด้านกับ Adobe เพราะการออกมาของ Flex นี่เริ่มจะทับเส้นทางหากินของ Microsoft มากขึ้นทุกที FlexLive.net ได้ทำตารางเปรียบเทคโนโลยีของสองค่ายไว้อย่างน่าสนใจครับ
เทรนด์การพัฒนาตลาดโน้ตบุ๊กในตอนนี้เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก Sandisk เพิิ่งประกาศวางตลาดฮาร์ดดิสก์แฟลชไปเมื่อวันก่อน วันนี้ Ritek บริษัทสัญชาติไต้หวันเจ้าของแบรนด์ RiDATA ก็ออกมาเปิดตัวสินค้าในกลุ่มเดียวกัน ด้วย Solid State Disk (SSD) ขนาด 16 และ 32 กิกะไบต์ โดยเตรียมวางจำหน่ายในไตรมาสที่สองของปีนี้
ตัว SSD จะวางจำหน่ายในแพกเกจสองแบบคือ 1.8" และ 2.5" ที่น่าสนใจมากๆ คือแหล่งข่าวระบุว่า แบบ 1.8" ที่ความจุ 16 กิกะไบต์นั้นจะวางขายในราคาเพียง 169 ดอลลาร์หรือประมาณหกพันบาทเท่านั้น
พร้อมกับการเปิดตัว SSD ทั้งสองรุ่นทาง Ritek ยังระบุว่าภายในปีนี้ รุ่นความจุ 64 กิกะไบต์กำลังจะตามมา
หลังจากที่มีการเปิดตัว Apple TV และ iPhone เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมานี้ แอปเปิลได้เปิดรับ preorder ของ Apple TV แล้วที่ Apple Online Store