แมกกาซีนออนไลน์ชื่อดัง Slate.com ได้วิจารณ์การแถลงข่าวของสตีฟ จ็อบส์เรื่อง iPhone 4 ดังนี้
โนเกียอาจออกแบบเสาสัญญาณได้ดีกว่า ... ก็จริง แต่บทบาทในตลาดกลับมีปัญหา รวมไปถึงประเด็นสำคัญคือราคาหุ้น (อ่านข่าวเก่า ผู้ถือหุ้นโนเกียบอก "เราชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ" ประกอบ)
นับตั้งแต่แอปเปิลเริ่มขาย iPhone ในปี 2007 ปรากฎว่าหุ้นของโนเกียมีมูลค่าลดลงไปแล้ว 67% หรือคิดเป็นมูลค่าเงินก็ 60 พันล้านยูโร (2.5 ล้านล้านบาท) ถ้านับเฉพาะปีนี้ปีเดียวก็หุ้นตกลง 25%
Vlad Cara นักการเงินจากยุโรปคนหนึ่งระบุว่าโนเกียต้องเปลี่ยนแปลงทั้งองค์กร และต้องเริ่มทำในทันที
อันนี้เป็นข่าวภาคต่อจากข่าวที่แล้ว ที่ HTC ออกมาข่มขวัญ Apple ด้วยยอดผู้ร้องเรียนที่ต่ำกว่า Apple ได้ประกาศยอดผู้ร้องเรียนปัญหาของ iPhone 4 ออกมา ซึ่งหลังจากงานแถลงข่าว iPhone 4 ที่ Apple ได้เอามือถือ 3 รุ่น 3 ค่าย 3 OS 2 เครือข่าย อันได้แก่ BlackBerry Bold 9700/HTC Droid Eris/Samsung Omnia 2 ออกมาทดสอบเรื่องของการรับสัญญาณ และเปิดหน้าเพจอธิบายถึงผลการทดสอบไปแล้วนั้น หลังจากนั้นไม่นานทั้ง Nokia, RIM ก็ออกมาโต้ข่าวเรื่องการออกแบบเสารับสัญญาณอย่างทัน
Symbian เผยซอร์สโค้ดของหน้าจอหลัก Symbian^4 ใหม่ ซึ่งหน้าจอหลักมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้
Symbian^4 น่าจะมาหลังจากการเปิดตัว Symbian^3 ไม่นาน ซึ่งก็น่าจะเป็นภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า
Facebook ซึ่งมียอดผู้ใช้เกือบแตะหลัก 500 ล้านรายเต็มที จึงเตรียมแถลงความสำเร็จด้วยแคมเปญชื่อ "Facebook Stories"
Randi Zuckerberg พี่สาวของ Mark Zuckerberg ซึ่งดูการตลาดให้ Facebook ได้อธิบายแนวคิดของแคมเปญรอบนี้ว่า เดิมที Facebook แถลงความสำเร็จด้วยตัวเลขล้วนๆ ในโอกาสที่ครบ 500 ล้านคนอย่างยิ่งใหญ่ บริษัทจึงอยากลองวิธีการฉลองแบบใหม่ๆ โดยจะถ่ายทอด "เรื่องราวประทับใจ" ของผู้ใช้ Facebook แทน
สำหรับคนที่อยากส่งเรื่องราวประทับใจไปยัง Facebook (เผื่อได้ลงแคมเปญ) ก็เข้าไปที่ User Stories
หนึ่งในมือถือที่ถูกแอปเปิลนำไปเปรียบเทียบเรื่องปัญหาสายหลุดบนเวทีแถลงข่าวคือ HTC Droid Eris ซึ่งทางบริษัท HTC ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ตอบโต้เหมือน RIM หรือ โนเกีย แต่ทางเว็บไซต์ Pocket-lint ได้สอบถามไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ HTC และได้คำตอบว่า มีลูกค้าบ่นร้องเรียนปัญหา (ทุกเรื่อง) ของ Droid Eris มาแค่ 0.016% เท่านั้น และลูกค้าที่บ่นเรื่องสัญญาณย่อมน้อยกว่านั้นมาก
ตัวเลขจากการแถลงข่าวของแอปเปิล ลูกค้าที่บ่นเรื่องสัญญาณ (เฉพาะเรื่องสัญญาณ) ของ iPhone 4 คือ 0.55%
Sony Ericsson แถลงผลประกอบการไตรมาสสองของปี 2010 สรุปว่ายอดขายเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีเล็กน้อยที่ 11 ล้านเครื่อง ส่วนเรื่องเงินหักลบกลบหนี้กันแล้วเหลือกำไร 12 ล้านยูโร แม้จะดูไม่เยอะแต่ก็ดีกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนไป 213 ล้านยูโร
Bert Nordberg ประธานของ Sony Ericsson แถลงชัดเจนว่าไตรมาสนี้เอาตัวรอดมาได้เพราะความสำเร็จของ Xperia X10 และ Vivaz ที่เริ่มวางขายในช่วงไตรมาสแรก และมองโลกในแง่ดีว่า X10 mini กับ X10 mini pro จะช่วยให้บริษัทเติบโตในระยะยาว
นอกจากโนเกียที่ออกมาแถลงหลังจากแอปเปิลจัดงานแถลงข่าวไปเมื่อวานนี้ RIM ที่โดดพาดพิงจากแอปเปิลไปเต็มๆ ก็ได้ออกมาแถลงเช่นกัน ว่า
แม้ว่า Apple จะออกแถลงการณ์ไปเมื่อคืนนี้ และยินยอมที่จะแจก Bumper ให้ฟรีไปแล้วนั้น Consumer Reports หรือสมาคมผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่เคยออกมาบอกว่าไม่แนะนำให้ซื้อ iPhone 4 นั้น ก็ยังคงออกมาบอกอยู่ดีว่า ยังไงก็ไม่แนะนำให้ซื้อ iPhone 4 ถึงแม้ว่า Apple จะยอมแจก Bumper ให้ฟรีนั้น แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น เพราะว่าข้อเสนอที่จะแจก Bumper นั้นมีกำหนดสิ้นสุดข้อเสนอในวันที่ 30 กันยายนนี้ อีกทั้งยังไม่รองรับกลุ่มลูกค้าที่ใช้ Case อื่นของ iPhone 4 ที่ไม่ใช่ของ Apple อีกด้วย (ในวันแถลงข่าว Apple จะมีข้อเสนอในการแจก Bumper ที่
หลังจากงานแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แอปเปิลให้นักข่าวเยี่ยมชมห้องทดสอบเสาสัญญาณเพื่อให้ได้ชมกันว่าอุปกรณ์ไร้สายมีกระบวนการออกแบบอย่างไร โดยผู้นำชมก็คือ Ruben Caballero (ที่บลูมเบิร์กนำชื่อไปอ้าง และจ็อบส์ตอบคำถามว่าคุยกับ Ruben แล้ว Ruben บอกไร้สาระ) พานักข่าวและบล็อกเกอร์ราว 10 คนชมห้องที่สร้างขึ้นเพื่อการทดสอบอุปกรณ์ไร้สายโดยเฉพาะ ห้องได้ออกแบบให้ลดการสะท้อนของสัญญาณมากที่สุดเพื่อวัดระดับสัญญาณของอุปกรณ์แบบต่างๆ
ประกาศออกมาแล้วสำหรับผลประกอบการไตรมาสสองปีนี้ของกูเกิล (เมษายน - มิถุนายน) กูเกิลมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว (Y/Y) แต่รายได้เทียบกับไตรมาสหนึ่งปีนี้ (Q/Q) เพิ่มขึ้นเพียงแค่ร้อยละ 1 ซึ่งไม่แปลกอะไร เพราะการเพิ่มขึ้นของรายได้เพียงเล็กน้อยจากไตรมาสหนึ่ง เคยเกิดมาแล้วกับกูเกิลในปีที่ผ่านๆ มา
บางส่วนที่ Patrick Pichette CFO กล่าวไว้มีดังนี้
คนที่เคยใช้ Palm OS รุ่นต้นฉบับ คงประทับใจความรวดเร็วในการเขียนอักษร Graffiti ด้วยปากกาเป็นแน่แท้
ตอนนี้ Graffiti กลับมาแล้ว โดยบริษัท ACCESS ซึ่งเป็นเจ้าของสิทธิ์ Palm OS (ปัจจุบันเรียก Garnet OS) ในปัจจุบัน ได้ออกโปรแกรม Graffiti for Android ให้ดาวน์โหลดกันบน Android Market แล้ว
Graffiti for Android มีการใช้งานเหมือนกับ Graffiti ต้นฉบับทุกประการ เช่น แบ่งจอครึ่งล่างเป็นพื้นที่สำหรับวาดตัวอักษร รูปแบบอักษรที่ใช้จะเป็น Graffiti 1 ซึ่ง ACCESS ได้สิทธิ์นี้มาจาก Xerox แล้ว
เว็บไซต์ Palm Info Center ได้ทดสอบโปรแกรมนี้และบอกว่าน่าประทับใจสำหรับเวอร์ชันแรก ถึงแม้จะใช้นิ้วลากแต่จอ 854x400 ของ Droid ก็ใหญ่และละเอียดพอที่จะวาดตัวอักษรได้ง่าย
สำหรับคนที่ชอบส่ง SMS ขณะเดินไปเดินมา อาจประสบอุบัติเหตุทางท้องถนนได้ (ตั้งแต่เหยียบขี้หมา ตกท่อ ชนเสาไฟฟ้า ฯลฯ) เพราะสายตาจดจ่ออยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์แทนทางเดินเบื้องหน้า
ซัมซุงได้เล็งเห็นปัญหานี้ และออกโปรแกรม Road SMS สำหรับการนี้มาโดยเฉพาะ มันคือโปรแกรมส่ง SMS ที่แสดงคีย์บอร์ดบนหน้าจอ แต่พื้นหลังของโปรแกรมเป็นภาพที่ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์ในขณะนั้น (เป็น augmented reality แบบง่ายๆ) ช่วยให้เราเห็นถนนหนทางขณะกำลังพิมพ์ SMS ได้
มีให้โหลดบน Samsung Apps แปลว่าตอนนี้มีสำหรับผู้ใช้ Galaxy S เท่านั้น วิดีโอด้านใน
ที่มา - Android Community
คล้อยหลังงานแถลงข่าวของแอปเปิลไม่ทันไร โนเกียก็ออกมาแถลงการณ์สั้นๆ บ้าง ผมแปลแบบสรุปๆ ละกัน
การออกแบบเสาอากาศเป็นเรื่องซับซ้อน แต่ก็เป็นจุดขายของโนเกียมานับสิบปีแล้ว โนเกียเป็นรายแรกที่ออกแบบเสาอากาศไว้ในตัวเครื่องมือถือ มือถือเครื่องแรกที่ใช้เสาฝังในคือ Nokia 8810 ในปี 1998
โนเกียลงทุนทรัพยากรเป็นจำนวนมากในการศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้ว่า "ถือ" โทรศัพท์อย่างไร ในการโทรออก, ฟังเพลง, ท่องเว็บ ฯลฯ ดังนั้นถ้าต้องเลือกระหว่างการออกแบบภายนอกกับประสิทธิภาพของสัญญาณ เราจะเลือกอย่างหลัง
ในรายงานผลประกอบการไตรมาสสอง ของกูเกิลปีนี้ Patrick Pichette CFO ของกูเกิลได้เปิดเผยว่ามีการใช้จ่ายเงินถึงหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ในการสู้คดีที่ Viacom เรียกค่าเสียหายหนึ่งพันล้านดอลลาร์ในกรณีที่กูเกิลเพิกเฉยต่อการละเมิดลิขสิทธิ์บน YouTube
แม้กูเกิลจะชนะคดีนี้ไปแล้ว แต่ทาง Viacom ก็กำลังจะยื่นอุทธรณ์ ดังนั้นค่าใช่จ่ายของกูเกิลในคดีนี้อาจจะไม่จบที่หนึ่งร้อยล้านดอลลาร์
น่าสนใจว่าถ้ากูเกิลจ่ายค่าทนายไปหนึ่งร้อยล้านดอลลาร์ แล้วทาง Viacom จ่ายไปเท่าไหร่ ?
ที่มา - TechCrunch
คุณ arjin เป็นสมาชิกของเรามาตั้งแต่เกือบสามปีที่แล้ว และเขียนข่าวลง Blognone โดยเน้นประเด็นการลงทุน, และข่าวสารทางการเงินของบริษัทไอทีต่างๆ แม้จะเขียนไม่บ่อยนัก แต่คุณ arjin ก็มีผลงานอยู่เรื่อยๆ มาตั้งแต่ปี 2008 โดยสามารถอ่านผลงานเก่าๆ ได้ทาง arjin's blog
ในวันนี้ผมจึงขอเสนอต่อชุมชน Blognone ให้รับรองคุณ arjin เข้าเป็น Blognone's Writer คนที่ 48 ใน Blognone ต่อไป
กติกาเดิมคือการรับรองจะมีผลต่อเมื่อ Writer 5 ท่านมาแสดงความเห็นชอบภายใน 24 ชั่วโมงนับจากเริ่มโพสข่าวนี้ โดยหากได้รับการรับรองครบ คุณ atjin จะสามารถเขียนข่าวขึ้นหน้าแรก และกระจายผ่าน feed และทวิตเตอร์ โดยไม่ต้องรอการตรวจสอบจากนักเขียนท่านอื่นอีกต่อไป
แม้เราจะได้ยินข่าวการที่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ จะสามารถเปลี่ยนเครือข่ายผู้ให้บริการได้โดยใช้หมายเลขเดิมมาพอสมควร แต่ดูเหมือนว่าโรคเลื่อนก็ยังถามหามาโดยตลอด ล่าสุดมีความคืบหน้าไปอีกหนึ่งขั้นเมื่อ 3 ผู้ให้บริการรายใหญ่ในประเทศคือ AIS DTAC และ True Move ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่าได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อการนี้แล้ว
บริษัท ศูนย์ให้บริการคงสิทธิเลขหมายโทรศัพท์ จำกัด (Clearing House for Number Portability Co., Ltd.) เป็นการร่วมทุนของผู้ประกอบการ 5 รายได้แก่ 3 รายใหญ่ที่กล่าวข้างต้นและบริษัท กสท. โทรคมนาคมกับบริษัท ทีโอที โดยถือหุ้นร้อยละ 20 เท่ากันหมด และมีทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท
ในระหว่างที่แอปเปิลจัดแถลงข่าวไปเมื่อประมาณ 11 โมงตามเวลาสหรัฐฯ ซึ่งก็มีผลสรุปว่าจะแจกขอบยาง (bumper) ให้ลูกค้าทั้งในและนอกสหรัฐฯ ฟรีจนถึง 30 ก.ย. นี้ รวมถึงลูกค้าสามารถคืนสินค้าภายใน 30 วันนับจากวันซื้อโดยไม่คิด Restocking Fee และเลื่อนการวางจำหน่ายเครื่องสีขาวออกไป (ดูข่าวเก่า) แอปเปิลก็ได้อ้างผลการทดสอบสัญญาณตกของ BlackBerry Bold 9700, HTC Droid Eris และ Samsung Omnia II ด้วย ซึ่งก็คงทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้และลองหยิบโทรศัพท์มือถือของตนมาลองจับดูสัญญาณตกกันเลยทีเดียว
วันนี้เป็นวันชี้ชะตาของ Apple จริงๆ ครับ และก็ผ่านไปแล้วด้วยสำหรับ iPhone 4 Press Conference เฉพาะกิจ ที่จัดขึ้นเพื่อแถลงข่าวว่ามีปัญหาอะไรยังไง กับตัว iPhone 4 ที่ถูกร้องเรียนมาอยู่เรื่อยๆ นั่นเองครับ การแถลงการณ์ก็สั้นนิดเดียวครับ ซึ่งก็ทำให้ทราบด้วยว่า ตามที่ Wall Street Journal ฟันธงมา ก็เป็นจริงครับ และแล้วผมก็จะขอสรุปให้ฟังสั้นๆ ละกันครับ
สืบเนื่องจากปัญหาสัญญาณหายของ iPhone 4 เมื่อผู้ใช้จับตัวเครื่องที่บริเวณขอบซ้ายล่าง ล่าสุด สตีฟ จ็อบส์ ได้ประกาศออกมาแล้วว่าจะแจก Bumper ฟรีให้กับผู้ที่ซื้อ iPhone 4 ทุกคน (สามารถเลือกรับได้ทั้ง Bumper ยางของทางแอปเปิลเองหรือ Case จากผู้ผลิตรายอื่นที่ร่วมรายการ) สำหรับคนที่ซื้อ Bumper Case ไปแล้วทางแอปเปิลยินดีคืนเงินให้ และสำหรับผู้ที่ต้องการคืนสินค้าสามารถนำไปคืนได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียค่าคืนครับ
ที่มา: Engadget
เบื้องหลัง Palm ขายกิจการให้ HP นั้นมีกระบวนการยื่นเสนอราคาที่สูงที่สุดจากผู้สนใจหลายราย ซึ่งเป็นความลับทางธุรกิจและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ (จะรู้แค่ใครเป็นผู้ชนะ) แต่เว็บไซต์ Business Insider ได้อ้าง "ข้อมูลวงใน" บอกว่าในรายชื่อผู้ยื่นซื้อ Palm นั้นมีทั้งแอปเปิล กูเกิล และ RIM
จากแหล่งข่าวบอกว่าแอปเปิลอยากซื้อ Palm เพราะทรัพย์สินทางปัญญาและสิทธิบัตร และแอปเปิลมีแผนว่าถ้าซื้อ Palm ได้จะเลี้ยงเอาไว้เป็นคู่แข่งกับ RIM แต่สุดท้ายแอปเปิลไม่ได้ยื่นราคาเสนอสูงเท่ากับ HP (เดากันว่าแอปเปิลยื่นไป 600 ล้านดอลลาร์ ส่วน HP ซื้อได้ในราคา 1.2 พันล้านดอลลาร์)
จุดอ่อนอย่างหนึ่งของ Android คือมีผู้ใช้แค่ไม่กี่ประเทศเท่านั้นที่สามารถซื้อแอพพลิเคชั่นที่ขายบน Android Market ได้ (รายชื่อประเทศ) ทำให้ประเทศที่ไม่อยู่ในรายชื่อดังกล่าวต้องรูทเครื่องเพื่อปลอมประเทศก่อนถึงจะสามารถซื้อได้
วันนี้ถึงคิวของเกาหลีใต้ เมื่อ Google ได้ประกาศให้ผู้ใช้ในประเทศเกาหลีใต้สามารถซื้อแอพพลิเคชั่นจาก Android Market ได้แล้ว คาดว่าเป็นเพราะยอดขาย Samsung Galaxy S ในประเทศเกาหลีใต้นั้นสูงจนน่าตกใจ
แฟนๆ Android รุ่นคุ้มราคาบ้านเราคงใช้ WellcoM A88 กันอยู่ไม่น้อย แต่ล่าสุดที่งานแสดงสินค้าที่เวียดนามก็มีการเปิดตัว WellcoM A800 แท็บเล็ตจอ 7 นิ้วพร้อม Android 2.1 กันแล้ว สเปคที่แสดงในงาน
ราคาประมาณ 8 ล้านดอง หรือ 13,500 บาทไทย
ที่มา - ChoPC (Vietnam)
Firefox Home ไคลเอนต์บน iPhone ของ Firefox Sync (ดูข่าวเก่าประกอบ) ผ่านการอนุมัติของแอปเปิล และสามารถดาวน์โหลดได้โดยตรงจาก iPhone App Store แล้ว
Firefox Home สามารถ sync ข้อมูลกับ Firefox เวอร์ชันเดสก์ท็อปที่ติดตั้ง Firefox Sync ได้ โดยข้อมูลที่รองรับได้แก่ bookmark, history และแท็บที่เปิดอยู่บนเวอร์ชันเดสก์ท็อป เหตุที่ต้องสร้าง Firefox Home เป็นเพราะเงื่อนไขของแอปเปิลไม่อนุญาตให้ Mozilla ทำเอนจินจาวาสคริปต์ของตัวเองใส่ไว้ในโปรแกรมบน iPhone ได้ เลยต้องใช้วิธี sync ข้อมูลแล้วไปเปิดใน Mobile Safari แทน
กลับไปอ่านข่าว AMD รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก 2010 ยังกำไรอยู่ ประกอบด้วยนะครับ
AMD บริษัทที่หลายคนแถวนี้เอาใจช่วย ได้แถลงผลประกอบการไตรมาสที่สองของปี 2010 ผลคือขาดทุน 43 ล้านดอลลาร์ แต่ที่น่าสนใจกว่าคือรายรับทั้งหมด (revenue) สูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทคือ 1.65 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้ปัจจัยหนุนจากตลาดพีซีที่เริ่มฟื้นตัวในปีนี้ (ปัจจัยเดียวกับ รายได้อินเทล ไตรมาสล่าสุดสูงสุดในประวัติศาสตร์) ถ้าเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วคือเพิ่มขึ้นมาอีก 40%