9to5Mac พบโค้ดใน iOS 18.2 เบต้า 2 ที่เพิ่งออกมาให้นักพัฒนาทดสอบ มีเฟรมเวิร์กใหม่ที่ระบุชื่อว่า BatteryIntelligence สามารถคำนวณระยะเวลาที่แบตเตอรีจะถูกชาร์จจนเต็มได้ ซึ่งหากเปิดการทำงานส่วนนี้ ผู้ใช้งานอาจได้การแจ้งเตือนเมื่อชาร์จอุปกรณ์ว่าอีกนานเท่าใดแบตเตอรีจะชาร์จเต็ม หรือชาร์จถึงระดับ 80%

ฟีเจอร์นี้ยังถูกปิดการทำงานใน iOS 18.2 เบต้า 2 จึงยังไม่สามารถใช้งานได้ในตอนนี้ แต่บอกได้ว่าแอปเปิลน่าจะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ดังกล่าวเร็ว ๆ นี้

iOS 18 ได้ปรับปรุงฟีเจอร์ใหม่หลายอย่างเกี่ยวกับแบตเตอรี เช่น ตั้งค่าลิมิตการชาร์จแบตเตอรีได้หลายระดับตั้งแต่ 80-85-90-95 เปอร์เซ็นต์ และเตือนเมื่อใช้สายชาร์จที่ชาร์จไฟได้ช้ากว่าปกติ

หุ้นของ NVIDIA ดีดตัวสูงขึ้น 4.07% เมื่อคืนนี้ ทำให้มีมูลค่าบริษัท 3.57 ล้านล้านดอลลาร์ แซงหน้าแอปเปิลขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอีกครั้ง หลังเคยทำได้ในเดือนมิถุนายน 2024 เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนถูกแอปเปิลแซงกลับคืน ต้องรอดูกันว่ารอบนี้ NVIDIA จะยืนระยะได้ยาวๆ หรือโดนแอปเปิลแซงกลับอีกรอบ

ในทางกลับกัน หุ้นแอปเปิลมีมูลค่าลดลง 0.33% เมื่อคืนนี้ทำให้มูลค่าบริษัทเหลือ 3.36 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนบริษัทที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับสามคือไมโครซอฟท์ 3.124 ล้านล้านดอลลาร์ อันดับสี่ Amazon ตามมาห่างๆ ที่ 2.177 ล้านล้านดอลลาร์ อันดับห้า Alphabet 2.17 ล้านล้านดอลลาร์

บริษัทวิจัยตลาด IDC รายงานตัวเลขเบื้องต้นการส่งมอบแท็บเล็ตในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ภาพรวมมีการเติบโตถึง 20.4% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 39.6 ล้านเครื่อง

แอปเปิลมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ที่ 12.6 ล้านเครื่อง (31.7%) ปัจจัยหลักคือ iPad Air ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มลูกค้าตลาดการศึกษา ขณะที่ iPad Pro มียอดขายน้อยกว่าประเมินเพราะราคาที่สูง คิดเป็น 31.7% อันดับ 2 คือซัมซุงที่ 7.1 ล้านเครื่อง (17.9%) จากฟีเจอร์ AI ใน Galaxy Tab S10 Ultra และ Galaxy Tab S10+ ที่กระตุ้นยอดขาย และ Galaxy A9 ที่เจาะตลาดได้มาก

อันดับ 3-5 คือ Amazon, Huawei และ Lenovo ตามลำดับ

Bloomberg รายงานว่าคณะกรรมาธิการยุโรป เตรียมออกคำสั่งปรับเงินแอปเปิล เนื่องจากทำผิดกฎหมายดิจิทัล DMA เรื่องการออกระเบียบทำให้นักพัฒนาแอปไม่มีอิสระ ในการนำเสนอทางเลือกจ่ายเงินที่ราคาถูกกว่านอก App Store ซึ่งทางคณะกรรมาธิการเคยออกคำเตือนไปก่อนหน้านี้

ในช่วงที่ผ่านมาแอปเปิลได้ปรับปรุงเงื่อนไขหลายอย่าง สำหรับแอปในภูมิภาคยุโรปเพื่อให้เป็นไปตาม DMA อย่างไรก็ตามการจำกัดการเผยแพร่ข้อมูลในแอปเป็นหนึ่งในประเด็นที่แอปเปิลถูกทักท้วงมา ซึ่งรายงานบอกว่าคณะกรรมาธิการยุโรปอาจออกคำสั่งปรับเงินภายในเดือนนี้

ตามกฎหมาย DMA แอปเปิลอาจถูกปรับสูงสุด 5% ของรายได้เฉลี่ยแอปเปิลทั่วโลกในช่วงที่ทำผิด ซึ่งอาจสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์

ใน iOS 18.2 ที่เพิ่งออกเวอร์ชันเบต้า 2 สำหรับนักพัฒนาทดสอบ แอปเปิลได้เพิ่มเติมฟังก์ชันในบริการระบุตำแหน่งสิ่งของ Find My โดยสามารถแชร์ข้อมูลพิกัดสิ่งของที่ติด AirTag หรืออุปกรณ์แทร็กเกอร์อื่น ให้กับคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อนในรายชื่อติดต่อหรือคนในครอบครัวได้แล้ว จากก่อนหน้านี้สามารถแชร์พิกัดได้เฉพาะกลุ่มคนสนิทดังกล่าวใน iOS 17

แอปเปิลบอกว่ากรณีที่แนะนำให้ใช้การแชร์พิกัดสิ่งของแบบนี้คือทำของหายและติดต่อให้สายการบินช่วยค้นหา หรือใครก็ตามที่ไว้วางใจได้ให้ช่วยตามหาของ

ข้อมูลนี้มาจาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม รายงานว่าแอปเปิลได้เริ่มทำการสำรวจและทดสอบความเห็นภายในบริษัท ถึงการพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses) เพื่อเป็นอีกช่องทางสำหรับการเผยแพร่คอนเทนต์ AR/VR ให้ผู้ใช้งาน หลังจากบริษัทเปิดตัวเฮดเซต XR Vision Pro ไปแล้ว

โครงการดังกล่าวมีชื่อเรียกภายในว่า Atlas โดยเป็นการสอบถามความเห็นพนักงานจำนวนหนึ่ง ถึงความเห็นและมุมมองต่อแว่นตาอัจฉริยะที่มีในตลาดปัจจุบัน

เมื่อเดือนที่แล้ว Gurman ก็รายงานว่าแอปเปิลมีแผนออกแว่นตาอัจฉริยะ ข้อมูลใหม่นี้อาจช่วยยืนยันว่าแอปเปิลมีความสนใจพัฒนาสินค้านี้จริง แต่ขึ้นอยู่กับข้อมูลความเห็นจากพนักงานในแอปเปิลเองด้วย

แอปเปิลออกอัปเดต iOS 18.2 เบต้าที่ 2 ให้นักพัฒนาได้ทดสอบในวันนี้ ซึ่งใน iOS 18.2 มีของใหม่สำคัญคือการเชื่อมต่อกับ ChatGPT ผ่าน Siri อย่างไรก็ตามมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าการเรียกใช้งาน ChatGPT ผ่านช่องทางนี้จะมีจำนวนจำกัดต่อวัน

ใน Settings ของ iOS ระบุว่าความสามารถขั้นสูงในการใช้งาน ChatGPT ผ่าน Siri มีจำนวนจำกัดต่อวัน (Daily Limit) โดยไม่ได้บอกเป็นตัวเลข แต่บอกเพียงครบจำนวนหรือไม่ พร้อมแถบสมัครใช้งาน ChatGPT Plus เพื่อให้ไม่มีข้อจำกัดใช้งาน หรือไม่ก็ได้ใช้ ChatGPT แบบฟังก์ชันพื้นฐานแทน

ผู้ใช้งาน ChatGPT Plus อยู่แล้ว สามารถล็อกอินเพื่อเชื่อมต่อบริการได้เลยใน Settings แต่หากยังไม่มีก็กดสมัครโดยตรงจาก Settings ได้เช่นกัน ในราคา 19.99 ดอลลาร์ต่อเดือน

Mark Gurman แห่ง Bloomberg รายงานข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลในจดหมายข่าวประจำสัปดาห์ Power On คราวนี้มาหลากหลายสินค้า รายละเอียดดังนี้

• iOS 18.2 ที่มี Genmoji และการเชื่อมต่อ ChatGPT จะออกมาในต้นเดือนธันวาคม ช่วงสัปดาห์ 2 ธันวาคม
• MacBook Pro ดีไซน์ใหม่ จะออกมาในปี 2026 เลื่อนจากกำหนดเดิมปีหน้า
• ชิป M6 (ซึ่งถ้าออกมาก็ปี 2026) จะเป็นชิปตระกูล M ตัวแรกที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 2 นาโนเมตร

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิล ที่ใช้แหล่งข่าวสายซัพพลายเชน โพสต์ข้อความใน X บอกว่าจากข้อมูลที่เขามีตอนนี้ แอปเปิลจะเลื่อนเปิดตัวเฮดเซต Apple Vision Pro ออกไปอย่างน้อยในปี 2027 ทำให้สินค้าใหม่ในตระกูล Mixed Reality ตามแผน จะมีเฉพาะ Vision Pro รุ่นใหม่ชิป M5 ออกมาปีหน้า 2025 ซึ่ง Kuo เคยรายงานก่อนหน้านี้

มีข้อมูลผลทดสอบของ Geekbench 6 ที่เริ่มรายงานออกมาของชิป M4 สองรุ่นใหม่เพิ่มเติมที่เปิดตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมกับ Mac รุ่นใหม่ได้แก่ M4 Pro และ M4 Max รายละเอียดดังนี้

• M4 Max (Mac16,5) คอร์เดี่ยวสูงสุด 4060 คะแนน รวมทุกคอร์ 26675 คะแนน (ที่มา)
• M4 Pro (Mac16,7) คอร์เดี่ยวสูงสุด 3925 คะแนน รวมทุกคอร์ 22889 คะแนน (ที่มา: [1], [2])

Berkshire Hathaway บริษัทการลงทุนของ Warren Buffett รายงานข้อมูลการลงทุนของบริษัทประจำไตรมาสที่ 3 ปี 2024 พบว่ามีการจำนวนหุ้นของแอปเปิลที่ถือครอง ลดลงต่อเนื่องอีกไตรมาส หลังจากรายงานในไตรมาสที่ 2 ขายออกมาเกือบครึ่งหนึ่ง

จำนวนหุ้นแอปเปิลที่ Berkshire ถืออยู่ล่าสุดมีประมาณ 300 ล้านหุ้น ลดลงจากตัวเลขไตรมาสก่อนหน้านี้ที่ 400 ล้านหุ้น และลดลงจากเมื่อต้นปีที่ 915 ล้านหุ้น โดยมูลค่าหุ้นแอปเปิลที่บริษัทมีตอนนี้ประมาณ 7 หมื่นล้านดอลลาร์

แอปเปิลประกาศโครงการซ่อม iPhone 14 Plus ซึ่งระบุว่ามีปัญหาเป็นจำนวนน้อยมาก โดยพบภาพที่ถ่ายด้วยกล้องหลัง ไม่แสดงรูปในพรีวิว (รูปภาพเล็ก ๆ ตรงมุม)

iPhone 14 Plus กลุ่มที่ได้รับผลกระทบนั้น แอปเปิลบอกว่าผลิตในช่วง 10 กันยายน ถึง 28 กันยายน 2024 โดยสามารถตรวจสอบว่า iPhone 14 Plus เครื่องที่ใช้งานเป็นกลุ่มมีปัญหาหรือไม่ด้วยการกรอกหมายเลขซีเรียลที่เว็บไซต์ของโครงการ

หาก iPhone 14 ที่ใช้เข้าเงื่อนไขกล้องมีปัญหาดังกล่าว สามารถนำเครื่องมารับการแก้ไขปัญหาฟรีที่ศูนย์ซ่อม AASP หรือที่ Apple Store

Globalstar ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียม เปิดเผยว่าบริษัทได้ทำข้อตกลงกับแอปเปิล โดยแอปเปิลจะจ่ายเงินล่วงหน้า เป็นการร่วมลงทุนขยายโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับบริการ เป็นเงินสูงสุด 1,100 ล้านดอลลาร์ โดย Globalstar จะนำเงินลงทุนนี้ไปขยายและเพิ่มเติมดาวเทียม

บริษัทบอกว่าเครือข่ายที่เกิดจากส่วนการลงทุนดาวเทียมเพิ่มเติมนี้ จะถูกจัดสรรไว้ 85% ให้กับแอปเปิล ที่เหลือจะให้สำหรับลูกค้าของบริษัทรายอื่น

นอกจากนี้แอปเปิลยังทำข้อตกลงซื้อหุ้นของ Globalstar เป็นจำนวน 20% ที่มูลค่า 400 ล้านดอลลาร์อีกด้วย

แอปเปิลได้เข้าซื้อกิจการ Pixelmator แอปแต่งรูปบน Mac, iOS และ iPad โดยทาง Pixelmator เปิดเผยว่าทีมงานทั้งหมดจะเข้าร่วมทีมกับแอปเปิล หลังจากดีลซื้อขายกิจการนี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

ดีลนี้ไม่มีการเปิดเผยมูลค่าที่แอปเปิลจ่าย

Pixelmator บอกว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในการใช้งานแอปทั้งหมดได้แก่ Pixelmator Pro, Photomator และ Pixelmator for iOS ในตอนนี้

ที่มา: Pixelmator

Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าใหม่แอปเปิลสายซัพพลายเชน รายงานข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านชิป Wi-Fi ในอุปกรณ์ต่าง ๆ จากปัจจุบันที่ใช้ชิปจาก Broadcom มาเป็นชิปที่แอปเปิลพัฒนาออกแบบขึ้นเอง คาดว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในครึ่งหลังของปี 2025

iPhone 17 คือสินค้าที่ Kuo บอกว่าแอปเปิลจะใช้ชิป Wi-Fi และบลูทูธของแอปเปิลเองเป็นตัวแรก ชิปจะผลิตโดย TSMC ด้วยกระบวนการ 7 นาโนเมตร รองรับมาตรฐาน Wi-Fi 7

แอปเปิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนกันยายน 2024 มีรายได้ 94,930 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ซึ่งในไตรมาสนี้มีรายได้จากการขาย iPhone 16 ด้วย ส่วนกำไรสุทธิลดลง 36% เป็น 14,736 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษครั้งเดียว เป็นการจ่ายภาษีย้อนหลังในยุโรปประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามคำตัดสินที่ออกมาในเดือนกันยายน

รายได้ของ iPhone เพิ่มขึ้น 6% เป็น 46,222 ล้านดอลลาร์ โดยซีอีโอ Tim Cook ให้สัมภาษณ์กับ CNBC บอกว่าแนวโน้มของธุรกิจ iPhone ยังคงเติบโตดี ยอดขาย iPhone 15 ก็สูงกว่า iPhone 14 เช่นเดียวกับ iPhone 16 ที่ขายดีกว่า iPhone 15 ส่วนการตอบรับของปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence ก็สูง มีผู้ใช้งานอัปเดต iOS 18.1 เพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วง 3 วันแรก เมื่อเทียบกับ iOS 17.1 ในปีที่แล้ว

ในวิดีโอนำเสนอ MacBook Pro ชิป M4 ของแอปเปิลเมื่อคืนนี้ ซึ่งน่าจะเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ตัวสุดท้ายของสัปดาห์นี้ตามที่แอปเปิลบอก เพราะในช่วงท้ายแอปเปิลสรุปไลน์สินค้าชิป M4 ทั้งหมดที่เปิดตัวทั้ง iMac, Mac mini และ MacBook Pro ซึ่งมาพร้อมชิป 3 รุ่นย่อยคือ M4, M4 Pro และ M4 Max

แอปเปิลเปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นบนสุดในตระกูล M4 เทคโนโลยี 3 นาโนเมตรรุ่นที่สอง นั่นคือ M4 Max หลังจากเปิดตัว M4 Pro ไปเมื่อวานนี้พร้อมกับ Mac mini

แอปเปิลบอกว่าชิป M4 Max เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล, ศิลปิน 3D และนักแต่งเพลงที่ต้องการเวิร์กโฟลว์ระดับสูง จำนวนคอร์ซีพียูสูงสุด 16 คอร์ (การประมวลผล 12 ประสิทธิภาพ 4) จำนวนจีพียูสูงสุด 40 คอร์ รองรับแรมสูงสุด 128GB ที่แบนด์วิดท์ 546GB/s ซึ่งเร็วกว่าชิปของ AI PC รุ่นล่าสุด นอกจากนี้ยังมีเอ็นจิน Media สำหรับเข้ารหัสวิดีโอ 2 เอ็นจิน และตัวเร่ง ProRes สองเอ็นจิน เพื่อรองรับงานวิดีโอระดับมืออาชีพ

ในประกาศเปิดตัว MacBook Pro ชิป M4 แอปเปิลได้ประกาศอัปเกรดสเป็กของ MacBook Air ด้วย โดยเพิ่มแรมขั้นต่ำเป็น 16GB จากเดิม 8GB เพื่อให้รองรับความต้องการขั้นต่ำของปัญญาประดิษฐ์ Apple Intelligence ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้

การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลทั้ง MacBook Air ชิป M2 (จอ 13 นิ้ว) และ M3 (จอ 13 และ 15 นิ้ว) ซึ่งแอปเปิลบอกว่าราคาขายยังคงเท่าเดิม เริ่มต้นที่ 34,900 บาท สินค้าสามารถสั่งได้ตั้งแต่วันนี้ผ่านทางช่องทางออนไลน์

แอปเปิลยังเพิ่มจำนวนแรมเริ่มต้นให้ MacBook Air รุ่นบนสุดด้วย โดยได้แรม 24GB

เข้าสู่วันที่สามของสัปดาห์เปิดตัวสินค้าใหม่แอปเปิล วันนี้เป็น MacBook Pro ชิป Apple M4

สเป็กฮาร์ดแวร์มีตั้งแต่รุ่นที่เป็นชิป M4, M4 Pro และรุ่นท็อป M4 Max ดีไซน์เดิม หน้าจอ 14 นิ้ว และ 16 นิ้ว Liquid Retina XDR สามารถเลือกเคลือบผิวนาโนได้เป็นครั้งแรกใน MacBook Pro มีกล้องหน้า Center Stage 12MP และได้พอร์ต Thunderbolt 5

รายละเอียดทุกคอนฟิกของ MacBook Pro เป็นดังนี้

Mac mini ใหม่ชิป M4 ในรุ่นบนที่เป็นชิป M4 Pro นั้น รองรับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 5 ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้ความเร็วสูงสุดถึง 120 Gb/s แอปเปิลเลยมีขายสายเชื่อมต่อเพิ่มเติม

Mac mini ใหม่ ชิป M4 ที่เพิ่งเปิดตัว มาพร้อมกับขนาดที่เล็กลงมากเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และผลจากขนาดที่เล็กลงนี้เลยทำให้ปุ่มเปิดปิด (Power) ต้องหาที่อยู่ใหม่ด้วย และคำตอบก็คือด้านล่างใต้เครื่อง

ใน Mac mini รุ่นก่อนหน้านี้ ซึ่งมีพื้นที่รอบเครื่องมากพอ ปุ่มเปิดปิดจะอยู่ที่ด้านหลังของเครื่อง ติดกับพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ

อย่างไรก็ตามแม้ปุ่มจะอยู่ใต้เครื่อง แต่การเปิดปิด Mac mini M4 ก็ไม่ถึงกับต้องหงายเครื่องขึ้นมาแบบอุปกรณ์เสริมบางอัน เพราะด้วยการออกแบบที่ไม่ได้ติดพื้นทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสอดนิ้วเข้าไปกดปุ่มได้ (ดูคลิปได้ช่วงวินาทีที่ 28)

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ Mac mini ชิป M4 ที่เพิ่งเปิดตัว ซึ่งมีขนาดเล็กลงมาก และด้วยความเล็กนี้เองทำให้แอปเปิลประกาศว่าเป็นสินค้า Mac รุ่นแรกที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) รองรับเป้าหมาย Apple 2030 ที่แอปเปิลต้องการให้ทุกกิจกรรมและสินค้าเป็นกลางทางคาร์บอน

แอปเปิลบอกว่า Mac mini รุ่นใหม่ ผลิตด้วยวัสดุรีไซเคิลมากกว่า 50% โดยตัวเครื่องเป็น อะลูมิเนียมรีไซเคิล 100%, แผงวงจรเคลือบทองคำรีไซเคิล 100%, Rare earth รีไซเคิล 100% ใช้การขนส่งทางทะเลเพื่อลดคาร์บอน แพ็คเกจเยื่อไม้ทั้งหมดไม่มีพลาสติก ทำให้คาร์บอนฟุตพริ้นต์ลดลงมากกว่า 80% โดยส่วนที่เหลือใช้การซื้อคาร์บอนเครดิตชดเชย

แอปเปิลเปิดตัวชิปประมวลผลรุ่นใหม่ M4 Pro พร้อมกับการเปิดตัว Mac mini รุ่นใหม่ โดยมีรายละเอียดสเป็ก ซีพียูสูงสุด 14 คอร์ (ประสิทธิภาพ 10 ประหยัดพลังงาน 4), จีพียูสูงสุด 20 คอร์ และ Neural Engine 16 คอร์

ชิป M4 Pro รองรับแรมขนาดสูงสุดที่ 64GB มากกว่า M4 ที่ได้สูงสุด 32GB รวมทั้งเพิ่มความสามารถการรันเวิร์กโหลด AI โดยมีแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่ 273GB/s ซึ่งแอปเปิลบอกว่ามากกว่าแบนด์วิดท์ชิป AI PC ทุกตัวสองเท่า และรองรับ Thunderbolt 5 ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 120 Gb/s เร็วกว่า Thunderbolt 4 สองเท่า

แอปเปิลเปิดตัว Mac mini M4 ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โดยเปลี่ยนหน้าตาเป็นเหมือน Mac Studio ย่อส่วนมากขึ้น

สเป็กฮาร์ดแวร์ ได้ชิป Apple M4 โดยอัปเกรดสูงสุดได้เป็น Apple M4 Pro มี Neural Engine 16 คอร์, รองรับการต่อจอภาพได้สูงสุด 3 จอ ที่ 6K 60Hz (ความละเอียด-จำนวนจอ ขึ้นอยู่กับรุ่นชิป M4), พอร์ต USB-C จำนวน 5 พอร์ต แบ่งเป็น USB 3 ด้านหน้า 2 พอร์ต ส่วนด้านหลังมี 3 พอร์ต ถ้ารุ่น M4 เป็น Thunderbolt 4 ส่วน M4 Pro เป็น Thunderbolt 5