เดือนที่แล้วมีรายงานว่า ARM ประกาศแผนโอนย้าย 2 ธุรกิจ IoT ให้ SoftBank เพื่อโฟกัสที่ธุรกิจออกแบบชิปมากขึ้น ล่าสุด ARM ยืนยันว่ายกเลิกแผนการณ์ดังกล่าวแล้ว
โฆษกระบุว่าการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังการพิจารณาตัวเลือกต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วนแล้วและพบว่าประโยชน์ที่จะเกิดกับบริษัทไม่แตกต่างจากการโอนย้ายให้ SoftBank เลยเลือกที่จะเก็บเอาไว้ แต่บริษัทก็จะแยก 2 ธุรกิจ IoT ให้อยู่คนละส่วนกับธุรกิจออกแบบชิป ทั้งส่วนดำเนินธุรกิจและงานด้านบัญชี อย่างไรก็ตามโฆษกปฏิเสธว่าการตัดสินใจนี้เกี่ยวข้องกับการขาย ARM ของ SoftBank หรือไม่
ต่อเนื่องจากข่าวลือที่ NVIDIA สนใจซื้อ Arm จาก SoftBank ล่าสุด Bloomberg รายงานเพิ่มเติมโดยอ้างอิงคนที่เกี่ยวข้องกับดีลนี้ว่า NVIDIA เป็นผู้สนใจรายเดียวที่มีการเจรจาจริงจังกับ SoftBank และการเจรจานี้มีความก้าวหน้า โดยทั้งสองฝ่ายคาดหวังว่าจะสามารถปิดดีลนี้ได้ในอีกไม่สัปดาห์ข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม Bloomberg ระบุว่ายังไม่มีการตกลงใด ๆ กันทั้งสิ้นและดีลนี้ยังคงสามารถล่มได้อยู่ทุกเมื่อ แต่หากสำเร็จจริง NVIDIA อาจถูกเพ่งเล่งและตรวจสอบจากหน่วยงานภาครัฐอย่างหนัก เพราะจะมี conflict of interest กับลูกค้าหลายรายของ Arm ที่เป็นคู่แข่งกับ NVIDIA
ที่มา - Bloomberg
พนักงาน Arm China จำนวนกว่า 200 คนคนลงชื่อในจดหมายเปิดเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาดูแลปัญหาในบริษัทหลังจากเกิดเหตุขัดแย้งกันกับบริษัทแม่ในอังกฤษ
Arm China เป็นบริษัทแยกที่ทาง Arm ถือหุ้นอยู่ 49% และอีก 51% ถือหุ้นโดยบรรษัทร่วมระหว่างนักลงทุนท้องถิ่นและกองทุนข้ามชาติ โดย Arm China จะได้รับสิทธิ์ขาดในการขายไลเซนส์ชิปในจีน เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Arm ประกาศไล่ Allen Wu ออกจากการมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทพร้อมกับตั้ง Phil Tang และ Ken Phua มาเป็นซีอีโอร่วมชั่วคราว แต่ Arm China กลับออกแถลงไม่ยอมรับการไล่ออก พร้อมประกาศไล่ Phil Tang ออกจากบริษัท
นอกจาก NVIDIA ที่สนใจจะซื้อ Arm มีอีกบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีรายงานจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่ามีการพูดคุยกันเรื่องนี้คือ Apple เพียงแต่ว่าไม่ใช่ Apple ที่แสดงความสนใจแต่เป็น SoftBank เข้าหา Apple เพื่อเสนอขายแทน
Bloomberg อ้างอิงคนใกล้ชิดกับการเจรจานี้ ระบุว่ามีการพูดคุยกันแต่ Apple ไม่สนใจเพราะมองว่าธุรกิจไลเซนส์ของ Arm ไปด้วยกันไม่ได้กับโมเดลธุรกิจที่เน้นฮาร์ดแวร์ของ Apple ไม่รวมประเด็นที่อาจถูกภาครัฐเพ่งเล็งหาก Apple ครอบครองไลเซนส์ที่ซัพพลายให้คู่แข่ง
ที่มา - Bloomberg
จากข่าวลือว่า SoftBank อยากขายกิจการ Arm เพื่อเพิ่มเงินสดในมือ ล่าสุดสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่ามีผู้สนใจซื้อแล้วคือ NVIDIA
Bloomberg อ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า NVIDIA เริ่มเข้าไปเจรจากับ SoftBank แล้ว แต่อาจมีผู้สนใจรายอื่นด้วย และ SoftBank เองก็อาจเลือกเส้นทางพา Arm ขายหุ้น IPO กลับเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้เช่นกัน
ต้นเดือนมีรายงานว่า SoftBank บริษัทแม่ ARM ดึงเอาธุรกิจฝั่ง IoT 2 ธุรกิจจาก ARM คือ IoT Platform และ Trasure Data มาอยู่ใต้บริษัทตั้งใหม่
ล่าสุด Bloomberg รายงานอ้างอิงคนวงในว่า SoftBank ได้ว่าจ้าง Golman Sachs มาช่วยดูแลการขายธุรกิจ Trasure Data พร้อมปักป้ายราคาที่ราว 1 พันล้านเหรียญ ซึ่งสูงกว่าที่ ARM ซื้อมาที่ 600 ล้านเหรียญเมื่อปี 2018 อย่างไรก็ตามแผนการนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
วิศวกรไมโครซอฟท์กำลังพอร์ต Java Development Kit (OpenJDK) ไปรันบน Windows 10 on ARM โดยเริ่มจาก Java 15 ที่จะออกในเดือนมิถุนายนนี้
ตอนนี้โค้ดที่พอร์ตอยู่ระหว่างการเสนอไปยังโครงการ OpenJDK ต้นน้ำ (JEP 388) โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง ไมโครซอฟท์กับ Red Hat ซึ่งปัจจุบัน Red Hat เป็นผู้ดูแลโครงการ OpenJDK ร่วมกับ Oracle
The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง เผยว่า SoftBank กำลังพูดคุยกับที่ปรึกษาทางการเงิน พิจารณาแผนการลงทุนในอนาคตกับ Arm Holdings โดยอาจขายหุ้นทั้งหมด หรือขายหุ้นบางส่วน หรืออาจทำไอพีโอนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม SoftBank อาจเลือกไม่ทำอะไรในตอนนี้ก็ได้
SoftBank ซื้อกิจการ Arm เมื่อปี 2016 ด้วยมูลค่าราว 32,000 ล้านดอลลาร์ และนำบริษัทออกจากตลาดหุ้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Arm ก็เตรียมโอนย้ายธุรกิจ IoT ให้ SoftBank อีกด้วย
เมื่อเดือนพฤษภาคม VS Code ออกเวอร์ชัน Windows 10 ARM เพื่อใช้บนอุปกรณ์แบบ Surface Pro X โดยยังเปิดทดสอบเฉพาะกลุ่ม Insiders ก่อน
ล่าสุดใน VS Code เวอร์ชัน 1.47 รอบอัพเดตเดือนมิถุนายน 2020 รองรับ Windows ARM อย่างเป็นทางการ เข้าสถานะเสถียรเรียบร้อยแล้ว สามารถดาวน์โหลดได้จากลิงก์ https://aka.ms/win32-arm64-user
หลังการประกาศเปลี่ยนจากชิป Intel มาเป็น Apple Silicon ที่ออกแบบเอง ใน MacBook รุ่นหน้า หนึ่งในคำถามที่หลายคนอาจสงสัยคือ MacBook จะยังคงรองรับมาตรฐาน Thunderbolt ที่ตัวเองมีส่วนช่วยออกแบบและพัฒนาร่วมกับ Intel อยู่หรือไม่ ซึ่งล่าสุดแอปเปิลออกมายืนยันแล้วว่ายังรองรับอยู่เช่นเดิม
แม้โฆษกแอปเปิลจะออกมายืนยันข้อมูลดังกล่าว ทว่าอุปกรณ์ Developt Transition Kit ที่ใช้ชิป Apple Silicon ที่แอปเปิลให้นักพัฒนายืมก่อนหน้านี้ กลับไม่มีพอร์ท Thunderbolt มีแค่ USB-C ธรรมดาเท่านั้น
ที่มา - The Verge
ARM ประกาศแผนกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างธุรกิจ โดยจะโอนย้าย 2 ธุรกิจด้าน IoT ได้แก่ IoT Platform และ Treasure Data ไปอยู่ใต้บริษัทจัดตั้งใหม่ที่มี SoftBank เป็นเจ้าของ ทั้งนี้ปัจจุบัน ARM ก็มี SoftBank เป็นเจ้าของอยู่แล้ว
Simon Segars ซีอีโอ ARM กล่าวว่าการแยกธุรกิจ IoT ออกไป จะทำให้ ARM มาโฟกัสในธุรกิจหลักคือการออกแบบชิปร่วมกับพาร์เนอร์ และสร้างการเติบโตในส่วนนี้ได้ดีขึ้น
ทั้งนี้หลังการโอนย้ายธุรกิจ IoT ออกไป ARM ระบุว่าจะยังคงเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับบริษัทจัดตั้งใหม่นี้ ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจ IoT ของ ARM มีผลการดำเนินงานที่ดี ส่งมอบชิปในอุปกรณ์ไปแล้วกว่า 1.65 แสนล้านชิ้น
ต่อเนื่องจากข่าว Linus Torvalds ซื้อคอมใหม่ เลือกใช้ AMD Threadripper 3970X แทนซีพียูอินเทล (สเปกคอมของ Linus อย่างละเอียด)
Linus ไปขึ้นเวทีงาน Open Source Summit 2020 และมีคนถามถึงประเด็นนี้ว่า เขาเป็นคนชอบความเงียบในออฟฟิศ มีปัญหาอะไรกับเสียงพัดลมของ Threadripper หรือเปล่า
คำตอบของ Linus คืองานของเขาต้องจัดการแพตช์เคอร์เนลจำนวน 20-30 แพตช์ต่อวัน การคอมไพล์เคอร์เนลบนเครื่องเดิมใช้เวลานานกว่า 15 นาทีต่อครั้ง ซึ่งเขาพบว่าพัดลมบนเครื่องใหม่เสียงดังจริง แต่เขาพบว่าทนได้เพราะระยะเวลาการคอมไพล์สั้นลงกว่าเดิม กลายเป็นว่าตอนนี้เขากลับรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงพัดลมทำงานด้วยซ้ำ
ภายหลังงาน WWDC 2020 เริ่มมีนักพัฒนาได้รับชุด Developer Transition Kit (DTK) ซึ่งประกอบด้วยเครื่อง Mac Mini รุ่นพิเศษที่ใช้ชิป A12Z และสิทธิ์ในการเข้าถึงเครื่องมือในการพัฒนาแอปบน Apple Silicon และแม้ว่าข้อตกลงการยืมชุดพัฒนาจะไม่อนุญาตให้ทำการ benchmark ตัวเครื่องแต่ก็ได้มีนักพัฒนานำเครื่องไปรันโปรแกรม Geekbench ในเวอร์ชัน x86_64 ผลลัพธ์ที่ได้เป็นดังนี้
ข่าวใหญ่ของวงการไอทีสัปดาห์นี้ย่อมเป็นเรื่อง แอปเปิลย้าย Mac จากสถาปัตยกรรม x86 มาเป็น ARM โดยเปลี่ยนมาใช้ซีพียูออกแบบเองที่มีชื่อเรียกรวมๆ ว่า Apple Silicon (ยังไม่มีข้อมูลของซีพียูตัวที่จะใช้จริงๆ)
ประกาศของแอปเปิลทำให้เกิดคำถามตามมามากมาย ซึ่งแอปเปิลเองก็ตอบคำถาม (บางส่วน) ไว้ในเซสซันย่อยของงาน WWDC 2020 เราจึงรวบรวมรายละเอียดมาให้อ่านกันครับ
หนึ่งในข่าวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในวงการนักพัฒนาคือการย้ายสถาปัตยกรรมครั้งใหญ่ของแอปเปิลจาก x86 ไป ARM ซึ่งก็มีการคาดการณ์กันไปว่า เพราะแอปเปิลต้องการรวมแพลตฟอร์มและสถาปัตยกรรมของทั้ง iPhone/iPad และ MacBook ให้ไปในทางเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม François Piednoël อดีตวิศวกรของ Intel ให้สัมภาษณ์กับ PCGamer เผยว่าหนึ่งในสาเหตุที่แอปเปิลเปลี่ยนไปใช้ ARM เพราะปัญหาเรื่องคุณภาพที่เกิดขึ้นกับซีพียูสถาปัตยกรรม Skylake ของ Intel (Comet Lake เป็น Skylake รุ่นที่ 4) ที่แอปเปิลต้องคอยแก้ เลยเป็นเหมือนฟางที่ค่อย ๆ ขาดในมุมของแอปเปิล โดย Piednoël ใช้คำว่า Skylake นั้นแย่แบบผิดปกติ (abnormally bad) ขณะที่แอปเปิลก็เป็น OEM ที่ยื่นเรื่องว่าเจอปัญหาเยอะที่สุดด้วย
ที่มา - PCGamer
จากประเด็น แอปเปิลย้าย Mac ไปสู่สถาปัตยกรรม ARM คำถามที่หลายคนสงสัยคือ Mac รุ่นใหม่จะยังลงวินโดวส์ได้หรือไม่
เว็บไซต์ The Verge สอบถามไมโครซอฟท์ในเรื่องนี้ และได้คำตอบว่าไมโครซอฟท์จะขายไลเซนส์ Windows 10 on ARM ให้กับผู้ผลิตพีซีแบบ OEM เท่านั้น (นั่นแปลว่าถ้าแอปเปิลจะขาย Mac แบบมี Windows 10 มาให้ก็สามารถทำได้ แต่ไมโครซอฟท์จะไม่ขาย Windows on ARM ให้คนทั่วไปมาติดตั้งเอง)
The Verge ยังถามว่าไมโครซอฟท์จะรองรับ Boot Camp บน Mac สถาปัตยกรรม ARM หรือไม่ ซึ่งไมโครซอฟท์ตอบว่ายังไม่มีอะไรจะแถลงในตอนนี้
แอปเปิลออก Xcode 12 ตามรอบการอัพเดตปีละครั้งในงาน WWDC ของใหม่ที่สำคัญคือ ปรับหน้าตาและ UI เป็นสไตล์แบบใหม่ตามอย่าง macOS Big Sur เปลี่ยนไอคอนในทูลบาร์, ปรับหน้าตาและพฤติกรรมของแท็บ (เปิดแท็บใหม่ด้วยการดับเบิลคลิก), ปรับขนาดฟอนต์ในแถบ Navigator ด้านข้าง (อิงตามค่าของระบบปฏิบัติการ ซึ่งใช้กับโปรแกรมอื่นๆ อย่าง Finder ด้วย), ปรับหน้าตาของ code completion และหน้าตาของ Organizers ใหม่
จากประเด็น แอปเปิลย้าย macOS ไปสู่สถาปัตยกรรม ARM หลายคนคงสงสัยว่าอินเทลจะว่ายังไงบ้าง
อินเทลออกแถลงการณ์ผ่าน AppleInsider ระบุว่าแอปเปิลยังเป็นลูกค้าของอินเทลอยู่ และอินเทลจะสนับสนุนแอปเปิลต่อไปตามปกติ โดยยกภารกิจของอินเทลในการผลักดันวงการพีซี และกล่าวถึงชิป Tiger Lake ที่จะออกในปีนี้ว่าจะช่วยให้พีซีก้าวหน้าต่อไป
Tim Cook เองก็ระบุว่าการเปลี่ยนผ่านสู่ ARM จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ซึ่งระหว่างนี้จะขายเครื่องแมคที่เป็นซีพียูอินเทล
แอปเปิลประกาศรองรับ macOS บนชิป ARM นับเป็นการย้ายสถาปัตยกรรมซีพียูครั้งใหญ่รอบที่ 3 หลังจากเคยย้ายจาก Motorolla 68000 ไป PowerPC และมายัง x86 ทุกวันนี้ โดยระบุว่าเป็นการย้ายมาใช้ชิปที่พัฒนาโดยแอปเปิลเองเพื่อให้ควบคุมได้ทุกส่วน ฟีเจอร์สำคัญคือ macOS ที่รันบนชิป ARM นี้จะสามารถรันแอปพลิเคชั่นจาก iOS ได้ในตัว
TOP500 ประกาศผลคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงสุดรอบเดือนมิถุนายน 2020 โดยเครื่อง Supercomputer Fugaku ขึ้นอันดับหนึ่งด้วยประสิทธิภาพสูงสุด 415.5 เพตาฟลอบสูงกว่าเครื่อง Summit แชมป์เก่าถึง 2.8 เท่าตัว จุดสำคัญคือมันใช้ซีพียู Fujitsu A64FX ที่เป็นสถาปัตยกรรม ARM เครื่องแรกที่ได้ที่หนึ่งในรายการ TOP500 โดยเครื่องติดตั้งที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์การประมวลผล RIKEN
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สายแอปเปิลขาประจำที่มีผลงานความแม่นยำมาแล้วนับไม่ถ้วน ออกรายงานว่า Mac รุ่นแรกที่ใช้ซีพียู ARM ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน WWDC สัปดาห์นี้ จะเป็น MacBook Pro 13.3 และ iMac 24 นิ้ว
Kuo ระบุว่าดีไซน์ของ MacBook Pro 13.3 เวอร์ชัน ARM จะยังคล้ายกับ MacBook Pro ในปัจจุบัน ส่วน iMac เวอร์ชัน ARM จะใช้ดีไซน์ใหม่หมด กำหนดการวางขายจะอยู่ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2020 หรือไตรมาส 1 ปี 2021
Kuo ยังบอกว่าแอปเปิลจะอัพเกรด iMac รุ่นอินเทลในไตรมาส 3/2020 ก่อนออก iMac ARM ส่วนกระบวนการเปลี่ยนผ่านเครื่อง Mac ทั้งหมดไปสู่ซีพียู ARM จะใช้เวลา 12-18 เดือน
ไมโครซอฟท์ออก Visual Studio Code สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows on ARM แล้ว ทำให้อุปกรณ์อย่าง Surface Pro X เริ่มน่าสนใจมากขึ้นสำหรับคนที่อยากซื้อมาเขียนโค้ดนอกสถานที่
เว็บไซต์ The Register วิเคราะห์ว่า VS Code เวอร์ชัน ARM มาช้า เพราะตัวมันพัฒนาขึ้นบน Electron (ที่พัฒนาต่อจาก Chromium อีกที) ซึ่งว่า Electron จะรองรับ ARM64 ก็ต้องรอถึงปี 2019 และต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าไมโครซอฟท์จะพัฒนา VS Code ARM ตามมา
ก่อนหน้านี้ ไมโครซอฟท์เพิ่งออก Edge Chromium เวอร์ชัน ARM64 หลังการวางขาย Surface Pro X เช่นกัน ทำให้ Surface Pro X โดนวิจารณ์ว่าไม่ค่อยพร้อมในเรื่องแอพที่รองรับ แม้แต่แอพของไมโครซอฟท์เองก็ตาม
ARM เพิ่งเปิดตัว Cortex-A78 ตามรอบปกติที่จะอัพเดตซีพียูปีละครั้ง โดยมีพลังประมวลผลดีขึ้น 20% จาก Cortex-A77 รุ่นของปีที่แล้ว
แต่ปีนี้ ARM มีของพิเศษเพิ่มมาอีกอย่างคือโครงการ Cortex-X Custom (CXC) สำหรับลูกค้า (ระดับใหญ่ๆ อย่าง Qualcomm หรือ Samsung) ที่อยากได้ซีพียูแบบคัสตอมไปใช้งาน ให้แตกต่างจากแปลนซีพียู Cortex-A รุ่นปกติทั่วไปที่ทุกเจ้าใช้เหมือนกัน
Arm เปิดตัวชิปรุ่นต่อไป ทั้งชุด ประกอบด้วยซีพียู, จีพียู, และชิปปัญญาประดิษฐ์เป็นต้นแบบสำหรับการสร้างชิปสำหรับโทรศัพท์รุ่นท็อปในตลาด
AWS เปิดตัวซีพียู Graviton2 มาตั้งแต่งาน re:Invent ปีที่แล้ว ตอนนี้เครื่อง M6g ก็เปิดให้ใช้งานได้จริงแล้ว
ตัวเครื่องเริ่มต้นที่ m6g.medium ซีพียู 1 คอร์และแรม 4GB ราคาในสหรัฐฯ ชั่วโมงละ 0.0385 ดอลลาร์หรือเดือนละ 27.72 ดอลลาร์ ไล่ขึ้นไปถึง m6g.16xlarge ซีพียู 64 คอร์ แรม 256GB ชั่วโมงละ 2.464 ดอลลาร์ หรือเดือนละ 1774.08 ดอลาร์