Bloomberg รายงานข่าวแวดวงว่า ไมโครซอฟท์จับมือกับ AMD พัฒนาชิป AI เฉพาะทางร่วมกัน เหตุผลหนึ่งคือเพื่อสร้างทางเลือกนอกเหนือจากชิปของ NVIDIA ที่เป็นเจ้าตลาดชิปด้าน AI อยู่ตอนนี้
Bloomberg ให้ข้อมูลว่า ทีมพัฒนาชิปของไมโครซอฟท์ตอนนี้มีพนักงานราว 1,000 คนแล้ว นำทีมโดย Rani Borkar อดีตผู้บริหารของอินเทล ก่อนหน้านี้ไม่นาน เพิ่งมีข่าวลือของ Athena ชิป AI ที่ไมโครซอฟท์กำลังทำอยู่ โครงการนี้กำลังเป็นโฟกัสหลักของ Borkar โดยมีพนักงานหลายร้อยคน และไมโครซอฟท์ทุ่มเงินไปแล้วกว่า 2 พันล้านดอลลาร์ คาดว่าน่าจะเปิดตัวหรือใช้งานในวงกว้างช่วงปีหน้า 2024
Slack เปิดตัว Slack GPT เครื่องมือ AI สร้างเนื้อหาบนแพลตฟอร์มของ Slack ที่ร่วมมือพัฒนากับ OpenAI ซึ่งผู้บริหาร Slack บอกว่า รูปแบบการทำงานบน Slack เหมาะสมที่จะนำ AI มาเป็นช่วยในการเขียนหรือสร้างเนื้อหาได้อย่างดี
Slack GPT เน้นการทำงานที่ 3 ส่วนสำคัญคือ รองรับการทำงานร่วมกับเครื่อง AI สร้างเนื้อหาที่มีอยู่ในท้องตลาด, ระบบ AI ภายใน Slack เอง เช่น ช่วยสรุปแชต ช่วยเขียนบทความเนื้อหา และ Einstein GPT ของ Salesforce ที่ปรับปรุงใหม่เพื่อรองรับการทำงานใน Slack ส่วนที่ติดต่อกับลูกค้า
อย่างไรก็ตาม Slack ยังไม่ได้ประกาศว่า Slack GPT จะเปิดให้ใช้งานเมื่อใด
กูเกิลเปิดตัว Checks บริการช่วยตรวจสอบ Privacy Compliance ว่าแอพมือถือของเราผ่านตามกฎหมายและกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวหรือไม่
Checks ใช้โมเดล LLM ของกูเกิลเอง อ่านกฎหมายและกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวของประเทศต่างๆ เช่น GDPR (ตอนนี้รองรับยุโรป สหรัฐอเมริกา บราซิล) แล้วจะอ่านเงื่อนไขความเป็นส่วนตัวและตรวจสอบพฤติกรรมของแอพเราว่าสอดคล้องกันหรือไม่ จากนั้นจะออกตารางแดชบอร์ดรายงานสิ่งที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ช่วยให้งานด้านการตรวจสอบ Privacy Compliance สะดวกรวดเร็ว ไม่เผลอเปิดช่องโหว่ที่อาจทำให้โดนปรับได้
บริษัท Inflection AI ที่ก่อตั้งโดย Reid Hoffman ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn และ Mustafa Suleyman ผู้ร่วมก่อตั้ง DeepMind ช่วงต้นปี 2022 ตอนนี้มีผลงานออกมาแล้ว เป็นแชทบ็อทชื่อว่า Pi
Pi ย่อมาจาก “personal intelligence” จุดเด่นของมันที่ต่างจากแชทบ็อทตัวอื่นๆ อย่าง ChatGPT, Bing, Bard คือการตั้งใจให้เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ "ใจดี" และพยายามช่วยเหลือเราในเรื่องต่างๆ (kind and supportive) ตัวบทสนทนามีความเป็นมนุษย์มากขึ้น พยายามชวนเราคุยด้วย ไม่ใช่ตอบคำถามอย่างเดียว
GitLab ประกาศฟีเจอร์ทดลองโดยอาศัยปัญญาประดิษฐ์มาช่วยในกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์หลายด้าน ได้แก่
ไมโครซอฟท์ยังเดินหน้าเพิ่มฟีเจอร์ AI Copilot ใช้โมเดลภาษา LLM ช่วยสร้างเอกสารให้กับแอพในเครือต่อไป (ข่าวเก่า Edge, Dynamics 365, Microsoft 365, OneNote, Security Copilot, Power Platform, Loop อีกไม่นานน่าจะไปถึง Notepad กับ Paint) ล่าสุดเป็นคิวของ SharePoint แพลตฟอร์มจัดการเอกสารภายในองค์กร
กระแสแชตบอท AI อย่าง ChatGPT ที่มาแรงตอนนี้ อาจมีประเด็นเรื่องการแทนที่บางลักษณะงาน แต่ผลกระทบในระดับธุรกิจอาจยังไม่ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม Chegg แพลตฟอร์มด้านการศึกษาติวออนไลน์ เป็นบริษัทที่รายงานต่อผู้ถือหุ้น โดยบอกว่าบริการแนว ChatGPT ส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของบริษัท ทำให้ราคาหุ้นลดลงมากกว่า 40% หลังรายงานข้อมูลนี้
Dan Rosensweig ซีอีโอของ Chegg บอกว่าตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา พบว่านักเรียนที่เป็นกลุ่มลูกค้าของแพลตฟอร์ม หันไปใช้งาน ChatGPT เพื่อถามการบ้านหรือหาข้อมูลมากขึ้น จึงมองว่าเป็นความเสี่ยงของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทได้ปรับตัวโดยเตรียมเปิดบริการแชตบอท CheggMate ที่ใช้ระบบของ ChatGPT แต่ปรับแต่งเพื่อการศึกษาสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะเร็ว ๆ นี้
NVIDIA โชว์ปัญญาประดิษฐ์สร้างภาพ Perfusion ที่ความสามารถเฉพาะตัวคือการนำภาพตัวอย่างมาดัดแปลงตามคำสั่งได้ โดยใช้ภาพตัวอย่างเพียงไม่กี่ภาพเท่านั้น ทำให้สามารถสร้างภาพเรื่องราวจากตัวละครตัวอย่าง เช่น ตุ๊กตาของเราเอง สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือสั่งเปลี่ยนท่าทางได้ตามคำสั่ง
นอกจากการสั่งวัตถุตามตัวอย่างแล้ว Perfusion ยังสามารถผสมวัตถุตัวอย่างหลายชิ้นเข้าในภาพเดียวกันได้ เช่น การใส่ภาพตัวอย่างแว่นตาแล้วกำหนดให้ตุ๊กตาใส่แว่นที่เราต้องการ ตัวโมเดลยังสามารถปรับให้เชื่อฟังคำสั่งเป็นหลัก เช่น เมื่อใส่ภาพแมวแต่คำสั่งให้เป็นพ่อครัว ก็จะปรับภาพแมวให้ทำท่าเหมือนคน หรือให้เชื่อภาพต้นแบบเป็นหลัก ซึ่งผลที่ได้ก็จะทำให้แมวในภาพท่าทางคล้ายแมวในภาพต้นฉบับ
มีรายงานจาก The Information อ้างข้อมูลภายใน ระบุว่าไมโครซอฟท์มีแผนเปิดตัวบริการรูปแบบเดียวกับ ChatGPT แต่เน้นความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะ
ที่ผ่านมาบริการแชตบอท AI แนว ChatGPT แม้มีกระแสความนิยมสูง แต่หลายธุรกิจที่ต้องบริหารจัดการข้อมูลอ่อนไหวเช่น โรงพยาบาล การเงิน ธนาคาร ก็มีความกังวลหากพนักงานจะนำข้อมูลสำคัญไปใช้งานกับบริการประเภทนี้ ล่าสุดซัมซุงก็เพิ่งประกาศห้ามพนักงานใช้ ChatGPT จึงเกิดแนวทางระบบแชตบอทแยกออกมา
Geoffrey Hinton หนึ่งในผู้บุกเบิกวงการ AI สาย neural networks และเป็นผู้คิดเทคนิค backpropagation ประกาศลาออกจากกูเกิล หลังทำงานครึ่งตัวในทีม Google Brain มาตั้งแต่ปี 2013 (อีกครึ่งตัวทำงานอยู่ที่ University of Toronto)
Hinton ที่ตอนนี้อายุ 75 ปีแล้ว ให้สัมภาษณ์กับ The New York Times ว่าเขาตัดสินใจลาออกจากกูเกิล เพราะต้องการเป็นอิสระในการวิจารณ์ผลกระทบทางลบของ AI ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเขาวิจารณ์กระบวนการพัฒนา AI ว่าควรชะลอลงจนกว่าวงการนักวิจัยจะเข้าใจมันดีพอ
มุมมองของ Hinton คือ AI ส่งผลกระทบต่อสังคมมนุษย์หลายอย่าง ทั้งการเข้ามาแทนที่คน ทำให้คนตกงาน ไปจนถึงการที่ AI เรียนรู้พฤติกรรมไม่ดีจากข้อมูลจำนวนมาก แล้วคนกลับเชื่อ AI เพราะมองว่า AI ฉลาดกว่าเก่งกว่า
Microsoft Designer เครื่องมือสร้างภาพตามคำสั่งด้วย AI ที่เปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2022 เปิดให้ทุกคนใช้งานโดยไม่ต้องรอคิว waitlist แล้ว เข้าไปลองเล่นกันได้ที่ designer.microsoft.com
Microsoft Designer เป็นการใช้โมเดล Dall-E 2 ของ OpenAI ที่ไมโครซอฟท์เข้าไปลงทุนไว้ เป้าหมายของ Microsoft Designer คือการสร้างโพสต์โซเชียล โปสเตอร์ สไลด์นำเสนอด้วย AI ซึ่งมักมีข้อความประกอบ และสามารถปรับแต่งภาพหรือข้อความได้เองแบบลากแล้ววางด้วย หน้าตาและวิธีใช้งานอาจต่างไปจากบริการสร้างภาพเพียวๆ แบบ Midjourney ที่คุ้นเคยกัน
ซัมซุงส่งเอกสารแจ้งเตือนพนักงานทั้งเครือไม่ให้ใช้งาน ChatGPT และบริการแบบเดียวกัน เช่น Google Bard หรือ Bing Chat โดยจะบังคับใช้กฎนี้กับเน็ตเวิร์คในบริษัท และบังคับถึงอุปกรณ์ทุกตัวของบริษัทด้วย เนื่องจากมีความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล สำหรับอุปกรณ์ส่วนตัวไม่ได้ห้ามใช้งานแต่ก็เตือนพนักงานว่าห้ามใส่ข้อมูลภายในของบริษัทลงไป หากฝ่าฝืนมีโทษสูงสุดถึงไล่ออก
เอกสารยอมรับว่าปัญญาประดิษฐ์อย่าง ChatGPT มีประโยชน์จริง และทางบริษัทกำลังวางมาตรการความปลอดภัยว่าควรใช้ปัญญาประดิษฐ์ในกลุ่ม ChatGPT อย่างไรเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพพร้อมๆ กับมีความปลอดภัย แต่ระหว่างนี้ที่ยังวางกระบวนการไม่เสร็จก็ต้องห้ามใช้ไปก่อน
Arvind Krishna ซีอีโอไอบีเอ็มให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg News เผยว่าบริษัทคาดว่าจะสั่งระงับการจ้างงานพนักงานใหม่ เป็นจำนวนประมาณ 7,800 ตำแหน่ง ซึ่งงานเหล่านี้สามารถแทนที่ได้ด้วย AI จะมีผลในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้
เขายังยกตัวอย่างฝ่ายงานหลังบ้าน (Back-office) เช่น งานบุคคล ที่ตอนนี้เริ่มหยุดการรับพนักงานใหม่ หรือชะลอการรับแล้ว นอกจากนี้ยังให้ความเห็นว่าประมาณ 30% ของตำแหน่งงานที่ไม่ต้องพบปะกับลูกค้า (Non-customer-facing) สามารถแทนที่ด้วย AI หรือระบบอัตโนมัติภายใน 5 ปีข้างหน้า
เว็บไซต์ The Information รายงานข่าวแวดวงแอปเปิล อธิบายเหตุผลที่เราไม่เห็นความเคลื่อนไหวด้าน AI จากฝั่งแอปเปิล ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่งยักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ทั้งกูเกิล ไมโครซอฟท์ Meta
สาเหตุหลักที่แอปเปิลไม่แสดงท่าทีชัดเจนเรื่อง AI เป็นเพราะมุมมองของแอปเปิลที่พยายามใช้ AI เพิ่มความสามารถในจุดต่างๆ ระดับเล็กๆ เช่น ตรวจจับการสัมผัสของฝ่ามือบน iPad, แต่งภาพบน iPhone, แนะนำแอพที่น่าสนใจบน App Store ซึ่งใช้ประโยชน์ได้จริง แต่ไม่ใช่อะไรที่ยิ่งใหญ่เปลี่ยนโลกแบบที่ OpenAI ทำ
วันนี้ทาง PyThaiNLP กับสถาบันวิจัยปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย AIReserach.in.th ได้เปิดตัวโมเดล WangChanGLM (วังช้างแอลเอ็ม) โมเดลแชทแบบ ChatGPT รองรับทั้งภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาเวียดนาม, และภาษาอื่น ๆ ออกสู่สาธารณะ โดยเปิดซอร์สโค้ดทั้งหมด ชุดข้อมูล และโมเดล ให้สามารถนำไปใช้งานต่อได้แบบฟรี ๆ รวมถึงเทรนต่อได้ โดยโค้ดเป็น Apache License 2.0 ส่วนโมเดลใช้ CC BY-SA 4.0
ปัญญาประดิษฐ์สำหรับแปลงภาพเป็นข้อความเริ่มได้รับความนิยมและมีการใช้งานแพร่หลายทั้ง DALL·E, MidJourney, และ Stable Diffusion แต่ข้อจำกัดหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์กลุ่มนี้คือมันไม่สามารถวาดข้อความลงในภาพได้ เมื่อผู้ใช้พยายามสั่งให้เขียนข้อความลงในส่วนของภาพก็มักจะเป็นคำมั่วๆ หรือบางทีก็ไม่เป็นตัวอักษรเลย ทาง Stability.AI ผู้สร้าง Stable Diffusion ก็เปิดตัว DeepFloyd IF ที่สามารถสร้างภาพพร้อมวาดข้อความที่กำหนดลงในภาพได้เลยในตัว
นอกจากความสามารถในการวางตัวอักษรแล้ว DeepFloyd IF ยังเหนือว่าโมเดลสร้างภาพอื่นๆ ได้แก่
มีรายงานว่าสหภาพยุโรปหรือ EU ได้ผ่านร่างกฎหมายส่วนหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นขั้นแรกของการออกกฎหมายเพื่อกำกับดูแล AI มีรายละเอียดสำคัญคือ บริษัทที่พัฒนาเครื่องมือสร้างเนื้อหาด้วย AI หรือ Generative AI โดยยกตัวอย่าง ChatGPT จะต้องเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลที่ใช้เทรนเพื่อสร้างเนื้อหา ถ้าข้อมูลนั้นเป็นข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์
ทั้งนี้รายละเอียดเพิ่มเติมยังไม่มีออกมา และร่างกฎหมายดังกล่าวยังอยู่ในช่วงต้นจึงสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไขได้อีก อย่างไรก็ตามหากแนวทางกฎหมายออกมาแบบนี้จริง ผู้พัฒนา AI จะมีความเสี่ยงมากขึ้นในการถูกฟ้องร้องเนื่องจากต้องแสดงรายละเอียดสิ่งที่นำมาเทรน AI และมีโอกาสพบปัญหาลิขสิทธิ์ได้
Hugging Face บริษัทด้าน AI เปิดตัวบริการ HuggingChat ซึ่งเป็นแช็ทบ็อทที่ใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ลักษณะเดียวกับ ChatGPT มีขนาด 3 หมื่นล้านพารามิเตอร์ ที่สำคัญคือเป็นโมเดลโอเพนซอร์ส
โมเดลที่ HuggingChat ใช้งานคือ OpenAssistant LLaMA ที่ต่อยอดมาจาก LLaMA ของ Meta AI และมีหน่วยงานหลายแห่งนำไปต่อยอด พัฒนาโมเดล LLaMA ให้ดีขึ้นในวิธีของตัวเอง
Tencent Cloud เปิดบริการสร้างตัวตนสามมิติเสมือนจริง โดยผู้ใช้สามารถใส่วิดีโอของตัวเองความยาวสามนาที เสียงพูดอีก 100 ประโยค จากนั้นระบบจะสามารถสร้างวิดีโอแทนตัวจริงออกมาให้ภายใน 24 ชั่วโมง
บริการนี้มุ่งเป้าไปที่บริการอีคอมเมิร์ชในจีนที่ผู้ใช้มักชินกับการพูดคุยกับคนในไลฟ์สตรีม โดยตัวแทนของเซเลบริตี้จะสามารถตอบคำถามผ่านข้อความแต่ลูกค้าสามารถพูดคุยเหมือนคุยกับตัวจริง โมเดลที่ได้สามารถสร้างตัวแทน ได้ 5 รูปแบบ ได้แก่ แบบสามมิติเหมือนจริง, สามมิติกึ่งเสมือนจริง, สามมิติแบบการ์ตูน, สองมิติเหมือนจริง, หรือสองมิติแบบการ์ตูน ค่าสร้างโมเดลแทนตัวจริงประมาณ 145 ดอลลาร์ หรือ 5,000 บาท
Generative AI ถูกนำมาสร้างสรรค์ผลงานทั้งในวงการศิลปะ, ภาพยนตร์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมเพลง แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอัลบั้มเพลงที่ถูกสร้างจาก AI ให้เลียนแบบเสียงของศิลปินชื่อดัง ที่มีชื่ออัลบั้มว่า UTOP-AI มีเพลงอยู่ในอัลบั้ม 16 เพลง ซึ่งรวมเสียงของศิลปินอย่าง Travis Scott, Drake, Baby Keem, และ Playboi Carti เป็นต้น ได้ถูกอัปโหลดขึ้น Youtube และ SoundCloud
คณะกรรมการพรรครีพับลิกันหรือ RNC (Republican National Committee) ปล่อยวิดีโอโฆษณา Beat Biden เพื่อโจมตีประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่ประกอบด้วยรูปภาพที่สร้างจาก AI หลังจากที่เจ้าตัวประกาศว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่งในปี 2024
โฆษณา Beat Biden ประกอบด้วยภาพและข้อความที่ตั้งคำถามถึงสถานการณ์ต่าง ๆ หากไบเดนได้เป็นประธานาธิบดีอีกรอบหนึ่งโดยให้ภาพสถานการณ์ที่เลวร้ายอย่างภาพไต้หวันที่ถูกระเบิดหลังจากจีนบุกรวมทั้งภาพกองทหารในสหรัฐอเมริกา
NVIDIA เปิดตัวโครงการ NeMo Guardrails ตัวควบคุมปัญญาประดิษฐ์ในกลุ่มโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) โดยทำงานร่วมกับโมเดลปัญญาประดิษฐ์ตัวอื่นๆ รวมถึง GPT ของ OpenAI โครงการนี้ควบคุม 3 ด้าน ได้แก่
การคอนฟิก NeMo Guardrails ใช้ภาษาคอนฟิกของโครงการเองที่เขียนได้ง่ายกว่าการเขียน prompt เพื่อควบคุม LLM
เมื่อสัปดาห์ก่อนทาง Snapchat ได้ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ในชื่อ My AI ให้ผู้ใช้งานทั่วไปหลังจากเดิมที่จำกันให้เฉพาะสมาชิกแบบจ่ายรายเดือนอย่าง Snapchat+ ได้ใช้ไปก่อนหน้านี้ โดยระบบ AI ใหม่ของ Snapchat นั้นใช้เทคโนโลยีของ Open AI GPT นั่นเอง
ผู้ใช้งานแอปฯ สามารถ ถาม หรือพูดคุยกับ My AI ได้โดยได้รับคำตอบในทันที ตัว My AI ถูกปักหมุดไว้บนสุดของหน้า Chat ไม่สามารถย้ายหรือลบออกได้ ซึ่งเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานนั้นไม่ดีอย่างที่ Snapchat คาดหวังไว้เท่าไหร่ และในสัปดาห์ที่ผ่านมาคะแนนเฉลี่ยใน App Store ของ U.S. อยู่ที่ 1.67 ดาว โดยคิดเป็น 75% ของผู้ใช้งาน ให้รีวิวที่ 1 ดาว
VirusTotal เปิดบริการ VirusTotal Code Insight บริการวิเคราะห์มัลแวร์ที่ต่อยอดมาจาก Google Cloud Security AI Workbench อีกต่อหนึ่ง โดยจุดแข็งของ Code Insight คือการอธิบายอันตรายของมัลแวร์แต่ละตัวออกมาเป็นภาษาพูดที่เข้าใจได้ง่าย ทำให้ผู้เกี่ยวข้องประเมินความร้ายแรงของมัลแวร์แต่ละตัวได้ดีขึ้น
ข้อดีอีกอย่างคือ Code Insight วิเคราะห์โค้ดโดยไม่ได้ดูผลการตรวจสอบมัลแวร์ที่ตัวตรวจจับอื่นๆ ตรวจสอบมาก่อน ทำให้มันพบมัลแวร์ได้หากวิเคราะห์แล้วว่ามีอันตราย หรือช่วยแก้ต่างแทนเจ้าของโปรแกรม ในกรณีที่ตัวตรวจจับระบุว่าเป็นมัลแวร์แต่ตรวจสอบการทำงานแล้วไม่มีอันตรายอะไร
Samsung ปล่อยแอปฯ Samsung Galaxy Enhance-X เวอร์ชั่นใหม่ สำหรับผู้ใช้งานมือถือ Samsung Galaxy S23 Series โดยจุดเด่นของแอปพลิเคชั่นนี้คือการปรับแต่งรูปโดยใช้ AI ฟีเจอร์หลักของ Samsung Galaxy Enhance-X มีจุดเด่นอยู่ที่เป็นแอปพลิเคชันที่มีจุดเด่นคือการใช้ AI ในการแต่งรูปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การปรับ HDR, ความสว่าง, การปรับผิวให้สวยเป็นธรรมชาติ, แก้ไขความเบลอของวัตถุ, การลบเงาที่ไม่พึงประสงค์ หรือแม้แต่การอัพสเกลภาพให้มีความละเอียดเยอะกว่าต้นฉบับ