ASUS กำลังจะหันไปเน้นที่การพัฒนาหุ่นยนต์, VR และ AR ในฐานะธุรกิจใหม่ของบริษัท เพื่อนำมาแทนที่แท็บเล็ตที่เดิมเคยสร้างรายได้ให้บริษัทถึงราว 20% แต่ทว่าธุรกิจแท็บเล็ตของ ASUS หดตัวเร็วกว่าที่บริษัทคาด
John Shen ซีอีโอของ ASUS เผยว่าได้ดึงเอาทรัพยากร วิศวกรและนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากธุรกิจแท็บเล็ตมาพัฒนาหุ่นยนต์, VR และ AR แทน โดยหุ่นยนต์ บริษัทมี Zenbo อยู่แล้ว การพัฒนาก็จะเน้นไปที่การเพิ่มฟีเจอร์และความสามารถให้ Zenbo
Baidu ประกาศโชว์ DuSee ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Augmented Reality ของตัวเองเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทาง Baidu เผยว่ามีแผนจะนำเทคโนโลยี AR นี้ไปใส่ไว้ในแอพเรือธงของตัวเอง อย่างแอพเสิร์ช Baidu
Yuanqing Lin หัวหน้าฝ่าย IDL (Interactive Data Language) ของ Baidu เปิดเผยว่าเทคโนโลยี AR ในปัจจุบันอย่างที่ใช้เล่นกันใน Pokemon Go เป็นการเอาตัวการ์ตูนมาแปะบนหน้ากล้อง ขณะที่ AR ในอนาคตซึ่งรวมถึงของ Baidu เป็นการสร้างวัตถุเสมือนจริงขึ้นมาจากการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมจริงของ AI
ที่มา - TechCrunch
ไมโครซอฟท์ประกาศวางจำหน่าย HoloLens Developer Edition ให้กับบุคคลทั่วไปแล้ว หลังก่อนหน้านี้ต้องยื่นความจำนงและรอการคัดเลือกเท่านั้น
ราคาวางจำหน่ายครั้งนี้อยู่ที่ 3,000 เหรียญสหรัฐ บน Microsoft Store และจำกัดเฉพาะผู้ที่มีไมโครซอฟท์แอคเคาท์ในสหรัฐและแคนาดาเท่านั้น
ที่มา - ไมโครซอฟท์ via Engadget
กระแส Pokemon Go ระบาดไปทุกหย่อมหญ้า ถึงขนาด Satya Nadella ซีอีโอของไมโครซอฟท์ยังออกมาพูดว่ารูปแบบการเล่นของ Pokemon Go นั้นเหมาะมากสำหรับแว่น HoloLens ของไมโครซอฟท์
เขาบอกว่าความนิยมของ Pokemon Go จะส่งผลให้คนสนใจ HoloLens มากขึ้นด้วย ถึงแม้การเล่นเกมแนวนี้บนมือถือจะมีจุดเด่นตรงมีคนใช้มือถือจำนวนมาก แต่การเล่นด้วยแว่น HoloLens ก็จะได้ประสบการณ์ augmented reality ที่ดีกว่า
Satya ยังชมเกมแนวนี้ว่าถือเป็นตัวอย่างของแอพพลิเคชันใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มใหม่ๆ ด้วย
ไมโครซอฟท์ได้ปล่อยแอพ Outlook Mail and Calendar เวอร์ชันสำหรับ HoloLens แล้ว ที่แน่นอนว่าต้องเป็นแอพแบบ Universal Windows Platform (UWP) ผู้ที่มี HoloLens และสนใจสามารถไปดาวน์โหลดกันได้ที่ Windows Store
หากใครมีข้อเสนอแนะรวมไปถึงความคิดเห็นสามารถไปพูดคุยกันได้ที่ Developer Forum
ที่มา - Office Blogs
ไมโครซอฟท์ออกอัพเดต HoloLens โดยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง การทำงานหลายแอพพร้อมกันในเวลาเดียว (Multi-tasking), เพิ่มการนำเข้าข้อมูลด้วยเมาส์ไร้สายแบบบลูทูธ, เพิ่มคำสั่งด้วยเสียงอย่าง “Face me!”, เพิ่มคำสั่งใน Microsoft Edge ที่คนเรียกร้องกันเข้ามา เช่น แท็บ, ปรับปรุงแอพรูปภาพ ให้สามารถปักหมุดรูปภาพได้โดยไม่มีขอบ (without any borders or chrome)
สามารถดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดได้ที่ Windows Dev Center
ที่มา - Microsoft Device Blog
ไมโครซอฟท์พัฒนาแว่น HoloLens ของตัวเองมาได้ระยะหนึ่ง มาถึงวันนี้ก็ได้เวลาเปิดแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ Windows Holographic ให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นๆ ใช้งานได้ด้วย
ไมโครซอฟท์บอกว่าวางตัว HoloLens ไว้ลักษณะเดียวกับ Surface นั่นคือเป็นตัวผลักดันขีดจำกัดของฮาร์ดแวร์ แต่ก็ยินดีเปิดกว้างให้พาร์ทเนอร์รายอื่นๆ สร้างฮาร์ดแวร์ลักษณะเดียวกัน โดยอิงอยู่บนแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์
รายชื่อบริษัทฮาร์ดแวร์ที่เข้าร่วมพัฒนา Windows Holographic ได้แก่ Intel, AMD, Qualcomm, HTC, Acer, ASUS, CyberPowerPC, Dell, Falcon Northwest, HP, iBuyPower, Lenovo, MSI อีกสักพักเราคงได้เห็นฮาร์ดแวร์จากบริษัทเหล่านี้ออกสู่ตลาดครับ
หลังจากที่เราได้เห็น Chris Capossela ผู้บริหารของไมโครซอฟท์ ออกมาระบุว่าในตอนแรกบริษัทประเมินความสำคัญของ HoloLens ฝั่งธุรกิจต่ำเกินไป Thom Gruhler รองประธานบริหารฝ่ายแอพและการบริการ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะเดียวกันกับเว็บไซต์ GamesBeat เว็บไซต์ในเครือของ VentureBeat (ตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของเว็บหลักไปแล้ว) โดยระบุว่า เทคโนโลยีอย่าง AR (Augmented Reality) ของ HoloLens นั้นจะมีโอกาสที่มากกว่า VR (Virtual Reality)
ไมโครซอฟท์ประกาศในงาน Build 2016 เมื่อคืนนี้ว่าเริ่มส่งมอบแว่น HoloLens Development Edition รุ่นสำหรับนักพัฒนา แล้ว
ในงานไมโครซอฟท์ยังเผยรายชื่อพาร์ทเนอร์ที่ร่วมพัฒนาเนื้อหาบน HoloLens ซึ่งหลายรายเป็นบริษัทด้านการก่อสร้าง อุตสาหกรรม การแพทย์ ที่นำแว่น HoloLens ไปช่วยในธุรกิจของตัวเอง
ใครอยากได้ก็ต้องเตรียมเงินไว้ 3,000 ดอลลาร์ หรือเกือบหนึ่งแสนบาท แต่ตอนนี้ยังสั่งได้เฉพาะในสหรัฐหรือแคนาดาเท่านั้น กระบวนการสั่งจำเป็นต้องยื่นสมัครให้ไมโครซอฟท์คัดเลือกด้วย (หน้าเว็บสั่งซื้อ)
ไมโครซอฟท์รีเสิร์ชเผยงานวิจัย holoportation ที่ใช้เทคโนโลยีการจับภาพมนุษย์ในสามมิติไปแสดงผลในอีกสถานที่หนึ่งได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้อุปกรณ์ที่แสดงผลโลกเสมือนจริงอย่าง HoloLens ในการมองเห็น สนทนา และโต้ตอบกับคนที่ teleport แบบเสมือนในสามมิติ ราวกับว่าทั้งสองอยู่สถานที่เดียวกัน
ใครนึกภาพไม่ออกก็ลองดูคลิปนำเสนอได้ที่ท้ายข่าว
ที่มา: ไมโครซอฟท์รีเสิร์ช
นอกจากจะโชว์หูฟัง Concept N ที่ล้ำโลกด้วยการให้เสียงโดยไม่ต้องสวมหู (ไปสวมคอแทน) ในงานเดียวกัน Sony ยังมีสินค้าต้นแบบอีกชิ้นมาโชว์อย่างโปรเจคเตอร์ที่แปลงร่างโต๊ะให้กลายเป็นหน้าจอสัมผัสได้ในชื่อ Interactive Tabletop
Interactive Tabletop เป็นร่างผสมระหว่างโปรเจคเตอร์ เซ็นเซอร์จับความลึก และเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวไว้ในตัวเดียว การใช้งานทำได้ด้วยการฉายไปที่โต๊ะ (หรือพื้นที่เรียบๆ) ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้นิ้วในการ input ข้อมูลบนโต๊ะที่ได้กลายเป็นหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ได้ทันที
ในรุ่นต้นแบบที่ Sony นำมาโชว์ในงาน SXSW มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ตอบสนองกับหนังสือ Alice in Wonderland โดยสามารถลากตัวละครในเรื่องออกมาจากหนังสือได้ด้วยนิ้ว และนำไปตอบสนองกับสิ่งอื่นๆ ภายนอก เช่นถ้วยชาได้
จากที่ดู Sony โชว์ของในครั้งนี้ Interactive Tabletop น่าจะนำไปใช้ในงานเพื่อการศึกษาได้ไม่ยาก ส่วนจะออกมาเป็นรูปร่างเมื่อไหร่ หรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไป
ที่มา - The Verge
บิล เกตส์ตอบคำถามผ่าน Reddit เป็นครั้งที่สี่ มีประเด็นด้านไอทีที่น่าสนใจ ดังนี้
เมื่อย้อนกลับไปในวัยเด็ก หลายคนน่าจะเคยได้สัมผัส หรือเป็นเจ้าของหนังสือป๊อปอัพ หรือหนังสือนิทานที่จะเด้งออกมาเป็นรูปทรงเมื่อพลิกหน้า มาวันนี้หนังสือป๊อปอัพในอดีตกำลังจะสมจริงไปอีกขั้นด้วยฝีมือของกูเกิลแล้ว
เรื่องราวของอนาคตหนังสือป๊อปอัพยุคดิจิทัลออกมาจากสิทธิบัตรสองฉบับใหม่ที่กูเกิลเพิ่งยื่นจดไปยังสำนักงานสิทธิบัตรของสหรัฐ (USPTO) โดยชิ้นแรก "Interactive Book" จะเป็นการผนวกเซ็นเซอร์เข้าไปในหน้าหนังสือ เพื่อให้แสดงผลเป็นรูปภาพผ่าน AR เมื่อผู้ใช้พลิกหน้าถัดไป โดยตัวหนังสือสามารถแสดงผลภาพได้โดยผู้ใช้ไม่ต้องใส่แว่นตา AR และจะมีลำโพงเพื่อเพิ่มอรรถรสมาด้วย
หลังจากปล่อยอุปกรณ์ไอทีสวมใส่มาหลากหลายประเภท ตอนนี้มีรายงานว่าอินเทลเริ่มสนใจทำอุปกรณ์ AR/VR แบบสวมศีรษะบ้างแล้ว
รายงานชิ้นนี้ออกมาจาก The Wall Street Journal ที่ระบุว่าอินเทลกำลังซุ่มพัฒนาอุปกรณ์สวมศีรษะสำหรับใช้งาน AR/VR โดยจะผนวกเทคโนโลยีของตัวเองอย่าง RealSense 3D เข้าไปด้วย
หลังรายงานนี้ออกมา Achin Bhowmik หัวหน้าฝ่าย RealSense ของอินเทลบอกว่าแนวทางของอินเทลในมักจะมีนิสัยในการสร้างอุปกรณ์ใหม่ๆ เพื่อโชว์เทคโนโลยีก่อนจะให้บริษัทอื่นมารับช่วงต่อไป โดยโครงการทำอุปกรณ์ AR นี้ก็เป็นอีกหนึ่งในแผนของการก้าวข้ามยุคพีซีนั่นอง
หลังจากที่ไมโครซอฟท์เปิดให้สั่งจอง HoloLens รุ่นสำหรับนักพัฒนาในราคา 3,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เชื่อว่านักพัฒนาหลายๆ ท่าน อาจจะไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะซื้อมาใช้เพื่อทดสอบแอพได้
ล่าสุดไมโครซอฟท์ออกโปรแกรมอีมูเลเตอร์สำหรับ HoloLens มาแล้ว
โปรแกรมนี้เปิดให้นักพัฒนาสามารถทดสอบแอพแบบโฮโลกราฟิกได้ด้วยพีซีของคุณ โดยใช้เทคโนโลยีการจำลองด้วย Hyper-V ด้านการรับคำสั่งสามารถทำได้ด้วย เมาส์, คีย์บอร์ดและคอนโทรลเลอร์ Xbox ตัวแอพสามารถนำไปใช้งานต่อกับ HoloLens ได้เลย ไม่ต้องปรับแต่งเพิ่ม
ผู้ที่สนใจสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่ Windows Dev Center
หลังจากประกาศราคาของชุดพัฒนา HoloLens ในราคาแพงระยับถึง 3,000 เหรียญไปเมื่อปีก่อน วันนี้ไมโครซอฟท์ประกาศวันเปิดตัว HoloLens สำหรับนักพัฒนาอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มีนาคมนี้แล้ว
HoloLens รุ่นสำหรับนักพัฒนาที่เผยโฉมมาในบล็อกของไมโครซอฟท์ครั้งนี้หน้าตาต่างจากที่เคยเห็นพอสมควร ตัวแว่นใช้งานได้แบบไร้สาย ใช้ชิปประมวลผลจากอินเทล, หน่วยความจำ 64GB, แรม 2GB, รองรับ Wi-Fi ac, Bluetooth 4.1, USB 2.0 ใช้งานต่อเนื่องได้ 3 ชั่วโมง
ทวิตเตอร์ WalkingCat (@h0x0d) เจ้าเก่า เผยแอพใหม่สำหรับ HoloLens ชื่อ Actiongram แอพสร้างคลิป mixed-reality ความยาว 30 วินาที ที่ผสมผสานคอนเทนต์จากแกลเลอรี่ของแอพเข้ากับมุมมอง (field of view) ของผู้ใช้ขณะสวม HoloLens และแบ่งปันคลิปกับผู้อื่นได้ หากนึกไม่ออกลองดูคลิปแนะนำจากไมโครซอฟท์ได้ที่ท้ายข่าว
นอกจากนั้น ดูเหมือน Actiongram จะสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ช่วยคลิกเชื่อมต่อ HoloLens ด้วยบลูทูธ ซึ่งเป็นข่าวลือไปเมื่อหลายวันก่อนได้ (ดูภาพอุปกรณ์ได้ที่ท้ายข่าว)
ที่มา: @h0x0d และ Thurrott.com ผ่าน Windows Central
แม้จะมีปัญหาขลุกขลักไปบ้าง แต่เมื่อไม่นานมานี้ไมโครซอฟท์ก็ประสบความสำเร็จในการนำ Surface เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันอเมริกันฟุตบอล NFL ได้แล้ว และดูเหมือนว่าไมโครซอฟท์จะยังไม่หยุดแค่แท็บเล็ต ล่าสุดเพิ่งโชว์วิดีโอขายฝันที่ว่าด้วยการนำ HoloLens แว่น AR ของตัวเองไปใช้กับการรับชม NFL บ้างแล้ว
ในวิดีโอที่ไมโครซอฟท์ปล่อยมา แสดงให้เห็นถึงการนำ HoloLens ไปใช้เพื่อขยายประสบการณ์รับชม NFL ได้จากที่บ้าน ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่การแสดงข้อมูลจากในสนาม ไปจนถึงการแสดงโมเดลสามมิติพร้อมข้อมูลสดๆ จากในสนามกันเลยทีเดียว
แม้จะดูน่าสนใจมาก แต่วิดีโอตัวนี้ก็ยังเป็นแค่แนวคิดเท่านั้น ส่วนจะออกมาสู่โลกความจริงได้เมื่อไรคงต้องติดตามกันต่อไปครับ
ไมโครซอฟท์จัดงาน HoloLens ที่อิสราเอล โดยเผยข้อมูลเพิ่มเติมของ HoloLens ที่น่าสนใจดังนี้
สำหรับคนที่คิดว่าโลกผ่านสายตาของตัวเองมันช่างดูเรียบง่ายเกินทน ล่าสุดเพิ่งมีนักพัฒนาออกมาเปิดตัวแอพใหม่ ที่ทำให้สามารถใช้กล้องของอุปกรณ์พกพามาส่องดูในสิ่งที่ตาเปล่ามองไม่เห็นกันดูบ้าง
แอพตัวนี้คือ Architecture of Radio ผลงานพัฒนาจาก Richard Vijgen นักออกแบบชาวเยอรมันที่สร้างแอพตัวนี้ขึ้นมาเพื่อพลิกด้านความเป็นจริง ปกปิดในสิ่งที่เคยชิน และเผยโฉมสิ่งที่ไม่เคยเห็น ออกมาเป็นแอพแนว AR ที่จับคลื่นความถี่ต่างๆ มาทำเป็นกราฟิกแสดงผลบนหน้าจออุปกรณ์พกพา ตั้งแต่สัญญาณ Wi-Fi จากเราเตอร์ สัญญาณมือถือจากสถานีฐาน หรือแม้แต่สัญญาณจากดาวเทียมก็สามารถจับได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวแอพมาในเชิงของงานศิลป์ ไม่ได้ระบุว่าข้อมูลเที่ยงตรงแต่อย่างใด
ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ Volvo นำแว่น HoloLens มาช่วยให้ลูกค้า Volvo ปรับแต่งรถยนต์รุ่นที่ตัวเองต้องการซื้อ
แว่น HoloLens จะแสดงภาพโฮโลแกรมให้ลูกค้าของ Volvo มองเห็นกราฟิกของตัวรถในเลเยอร์ต่างๆ ทุกแง่มุมที่ตัวเองต้องการ ปรับเปลี่ยนสีของรถ และดูภาพกราฟิกรถยนต์ขณะกำลังวิ่ง เพื่อดูฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยต่างๆ ของรถยนต์
การได้ Volvo มาเป็นลูกค้าของ HoloLens ทำให้ไมโครซอฟท์เดินหน้าเพิ่มพันธมิตรสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่นี้มากขึ้น ตัวแว่นรุ่นสำหรับนักพัฒนาจะวางขายในไตรมาสแรกของปี 2016 ในราคาชุดละ 3,000 ดอลลาร์ หรือเกือบหนึ่งแสนบาท
Jerry Shen ซีอีโอของ ASUS ประกาศว่าปีหน้าบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นแว่น AR (augmented reality)
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดของแว่นตัวนี้ออกมา และยังไม่ชัดเจนว่า ASUS จะใช้เทคโนโลยีจากแว่น HoloLens ของไมโครซอฟท์หรือไม่ แม้จะเคยมีข่าวว่า ASUS เจรจากับไมโครซอฟท์เผื่อผลิตแว่น HoloLens รุ่นราคาถูกให้
Shen บอกว่าภายในบริษัทเองมองว่าการผนวกโลกความเป็นจริงกับข้อมูลบนระบบ AR ด้วยกันเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนไปอีกมาก
บริษัทยังบอกว่าเตรียมจะทำตลาดหุ่นยนต์เพื่อการบริการ (service robot) ในปีหน้าด้วย
ที่มา - CNET
Magic Leap บริษัทแนว AR+VR ที่กูเกิลร่วมลงทุนเป็นเงินมากกว่า 500 ล้านเหรียญ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดเป็นรูปธรรมว่าตัว Magic Leap จะทำอะไรได้ขนาดไหน ล่าสุดก็มีวิดีโอเดโมสั้นๆ มาให้ดูกันแล้ว
วิดีโอเดโมที่ทำมาโชว์รอบนี้ต่างจากที่เคยเอามาให้ดูเมื่อเดือนมีนาคมตรงที่เก็บภาพมาจากอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีของ Magic Leap โดยตรง และไม่มีการทำเอฟเฟกเพิ่มเติมเข้าไป อธิบายคร่าวๆ ก็เหมือนกับการนำวัตถุเสมือนขึ้นไปซ้อนบนสถานที่จริง แต่ไม่มีการทดสอบ input ด้วยมืออย่างที่เคยเห็นในวิดีโอตัวก่อนหน้าแต่อย่างใด
ไมโครซอฟท์เปิดตัวแว่นสามมิติ HoloLens ไปเมื่อต้นปี วันนี้ที่งาน Build 2015 บริษัทนำผลิตภัณฑ์ของจริงมาเดโมให้ดูบนเวทีแล้ว
ข้อมูลของ HoloLens ที่ประกาศเพิ่มเติมคือมันเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานได้เองอย่างอิสระ ไม่ต้องต่อเชื่อมกับสมาร์ทโฟนหรือพีซี ไม่ต้องมีสาย มีแบตเตอรี่ในตัว และไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ตรวจความเคลื่อนไหวของศีรษะ (head tracking) แบบเดียวกับแว่น VR หลายตัวในท้องตลาด
Niantic Labs ผู้สร้างเกม Ingress เผยรายละเอียดของเกมใหม่ Endgame: Ancient Truth ที่เคยประกาศข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้
เนื้อเรื่องของ Endgame จะผูกกับนิยายชื่อเดียวกันของ James Frey และ Nils Johnson-Shelton โดยผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นผู้สืบเชื้อสายชนเผ่าโบราณ 12 เผ่า (เช่น ทวีปมู หรือ เผ่าสุเมเรียน และเผ่าอื่นที่แต่งเรื่องขึ้นมาใหม่) ต่อสู้กันเพื่อช่วงชิง "Key Sites" ที่กระจายอยู่ทั่วโลก รายละเอียดของตัวเกมยังมีไม่มากนัก บอกแค่ว่ามีระบบ PvP ให้ต่อสู้กันตรงๆ ได้ด้วย