Steve Ballmer เปิดเผยกับสำนักข่าว The Seattle Times เกี่ยวกับประเด็นที่ไมโครซอฟท์ซื้อกิจการโนเกียว่า ตอนนี้ Stephen Elop ได้กลายเป็นหนึ่งในรายชื่อว่าที่ซีอีโอคนใหม่ที่อยู่ภายในบริษัทของไมโครซอฟท์อย่างเป็นทางการแล้ว จากที่ก่อนหน้านี้ Elop ถูกบรรจุในรายชื่อว่าที่ซีอีโอของไมโครซอฟท์ แต่ต่างกันตรงที่ระบุว่าเป็นบุคคลภายนอกบริษัท

ตอนนี้เราก็ทราบรายชื่อว่าที่ซีอีโอคนถัดไปของไมโครซอฟท์คนหนึ่งแล้ว ต้องติดตามต่อไปว่าใครจะเป็นซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์

Yang Yuanqing ซีอีโอแห่งเลอโนโวได้ประกาศมอบเงินโบนัสมูลค่า 3.25 ล้านดอลลาร์ให้กับพนักงานทั่วโลกในกลุ่ม Junior Level ซึ่งมีอยู่กว่า 10,000 คนทั่วโลกเป็นปีที่สองติดต่อกัน เพื่อตอบแทนความสำเร็จทั้งยอดส่งมอบพีซีและยอดขายบริษัทที่ทำสถิติใหม่ โดยโบนัสที่ Yang ได้รับในปีนี้ สูงกว่าของปีก่อน 250,000 ดอลลาร์

พนักงานที่ได้รับส่วนแบ่งโบนัสของซีอีโอนี้อยู่ใน 20 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน คิดเป็นเงินเฉลี่ยคนละ 325 ดอลลาร์ ซึ่งสำหรับประเทศจีนนั้นค่าแรงเฉลี่ยเมื่อเดือนพฤษภาคมอยู่ที่ 392 ดอลลาร์ต่อเดือน เงินจำนวนนี้จึงใกล้เคียงโบนัสพิเศษอีก 1 เดือนเลย

ซีอีโอ Yang ได้รับเงินค่าจ้างในปีที่แล้วรวม 14.6 ล้านดอลลาร์

Ladbroke บริษัทพนันชื่อดังของอังกฤษ เปิดรับแทงว่าใครจะได้เป็นซีอีโอของไมโครซอฟท์คนต่อไป โดยคนที่อัตราจ่ายต่ำที่สุด (มีโอกาสสูงสุด) ในตอนนี้คือ Stephen Elop ซีอีโอของโนเกีย (แทง 1 จ่าย 5) ตามด้วย Kevin Turner ซีโอโอของไมโครซอฟท์ (แทง 1 จ่าย 6) และ Steven Sinofsky อดีตหัวหน้าทีมวินโดวส์กับ Julie Larson-Green หัวหน้าทีมวินโดวส์ ที่อัตราจ่ายเท่ากัน (แทง 1 จ่าย 8)

ตัวอย่างผู้บริหารภายนอกบริษัทคนอื่นๆ ที่ติดโผได้แก่ Paul Maritz (VMware), Reed Hastings (Netflix), Vic Gundotra (Google), Scott Forstall (อดีต Apple), Marissa Mayer (Yahoo), Sheryl Sandberg (Facebook) เป็นต้น

ในรายชื่อยังมีบิล เกตส์ อยู่อันดับท้ายๆ (แทง 1 จ่าย 50) และทิม คุก (แทง 1 จ่าย 100) อีกด้วย

สำนักข่าว The Sunday Times ของอังกฤษอ้างอิงจากแหล่งข่าวว่า Stephen Elop ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายธุรกิจของไมโครซอฟท์ และเป็นซีอีโอของโนเกียในปัจจุบัน อยู่ในรายชื่อของผู้ที่สืบทอดตำแหน่งซีอีโอของไมโครซอฟท์คนถัดไป (ไม่ใช่ข่าวเก็งนะครับ) หลังจากที่ Steve Ballmer ปลดเกษียณตัวเองภายใน 12 เดือน

ข่าวนี้ขัดแย้งกับข่าวก่อนหน้านี้ สตีฟ บัลเมอร์ เตรียมหาผู้สืบทอดมาตั้งแต่ปี 2010? ในบางประเด็นนะครับ

เว็บไซต์ AllThingsD อ้างแหล่งข่าววงในของไมโครซอฟท์หลายราย ระบุว่าการประกาศเกษียณอายุของบัลเมอร์เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดขึ้นแบบปุบปับกว่าที่คิด (และที่บริษัทพยายามนำเสนอว่าเตรียมตัวมานานแล้ว)

แหล่งข่าวบอกว่าบัลเมอร์ไม่ตั้งใจจะเกษียณในเร็วๆ นี้ แต่บอร์ดของไมโครซอฟท์ (ซึ่งมีบิล เกตส์ เป็นประธาน) ตัดสินใจเลื่อนแผนการให้เร็วกว่าเดิม ซึ่งบัลเมอร์เองก็เห็นด้วยกับแผนการนี้

The New York Times มีบทความชุดใหญ่เกี่ยวกับแผนการเกษียณอายุของสตีฟ บัลเมอร์ ซึ่งบทความหนึ่งก็อ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า แผนการเกษียณของบัลเมอร์ไม่ใช่เพิ่งถูกคิดขึ้น แต่ถูกพูดกันมาเกือบสิบปีแล้ว และเริ่มมาจริงจังกันตั้งแต่ปี 2010

แหล่งข่าวยังบอกว่าเมื่อหลายเดือนก่อน บัลเมอร์แจ้งกับบอร์ดของไมโครซอฟท์ว่าควรเริ่มสรรหาผู้สืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ และบัลเมอร์ก็แจ้งบอร์ดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าจะประกาศเรื่องการเกษียณอายุ

นอกจากนี้แหล่งข่าวยังบอกในรอบ 18-24 เดือนที่ผ่านมา บัลเมอร์ยังเดินทางไปพบกับผู้บริหารภายนอกบริษัทเป็นการส่วนตัวด้วย โดยผู้บริหารเหล่านี้มีประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านในองค์กรขนาดใหญ่มาแล้ว

เว็บไซต์ ZDNet มีโอกาสสัมภาษณ์ สตีฟ บัลเมอร์ เนื่องในการประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอของไมโครซอฟท์ และ จอห์น ธอมป์สัน หนึ่งในคณะกรรมการบริษัทไมโครซอฟท์ มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้

จากข่าว Steve Ballmer ประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอของไมโครซอฟท์ภายใน 12 เดือน สื่อต่างประเทศก็เริ่มเก็งกันว่าใครจะเป็นซีอีโอของไมโครซอฟท์คนต่อไป

ZDNet มองว่ากลุ่ม "คนใน" ได้แก่

ข่าวใหญ่ประจำวันนี้ครับ

ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Steve Ballmer ซีอีโอของไมโครซอฟท์จะลงจากตำแหน่งภายใน 12 เดือนต่อจากนี้ โดยในระหว่างที่ทางคณะกรรมการคัดเลือกซีอีโอคนใหม่ Steve Ballmer จะยังคงดำรงตำแหน่งซีอีโอชั่วคราวไปก่อน

ทั้งนี้ คณะกรรมการคัดเลือกซีอีโอคนใหม่ของไมโครซอฟท์นั้นประกอบด้วย Bill Gates ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์, John Thompson, Chuck Noski และ Steve Luczo พร้อมทั้งประกาศเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านจากบริษัทด้านซอฟต์แวร์ไปสู่บริษัทด้านอุปกรณ์ และบริการ

ผมหวังว่าซีอีโอคนใหม่จะทำให้ไมโครซอฟท์มีความ "active" มากขึ้นนะครับ

ที่มา: Engadget

Reuters มีบทความแฉเบื้องหลังความตกต่ำของ HTC ว่าเกิดจากสไตล์การบริหารของซีอีโอ Peter Chou ที่เคยประสบความสำเร็จในอดีต แต่เมื่อตลาดมือถือเปลี่ยนไป สูตรการทำงานแบบเดิมกลับไม่เวิร์คแล้ว?

Reuters อ้างว่าสัมภาษณ์ข้อมูลจากผู้บริหารของ HTC ทั้งในอดีตและปัจจุบันหลายคน (ไม่มีใครเปิดเผยชื่อ) ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าความสำเร็จของ HTC ช่วงก่อนหน้านี้เกิดจากตัว Peter Chou ที่เริ่มทำงานกับบริษัทตั้งแต่ปี 1997 (และเป็นซีอีโอมาสิบปีแล้ว)

คาแรกเตอร์ของ Peter Chou คือเป็นคนใส่ใจในรายละเอียด ชอบความสมบูรณ์แบบ สนใจเรื่องวัสดุและการออกแบบ มือถือต้นแบบของบริษัททุกตัวต้องให้เขาลองสัมผัสก่อนเสมอ จนบางครั้งถึงขนาดมือถือวางบนโต๊ะทำงานไม่พอ ต้องวางกองไว้บนพื้นเลยทีเดียว

Gary Kovac อดีตซีอีโอของ Mozilla (รับตำแหน่งปี 2010) ตัดสินใจรับตำแหน่งซีอีโอของบริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัย AVG Technologies เจ้าของแอนตี้ไวรัส AVG ที่หลายๆ คนรู้จักกันดี

Jolla บริษัทผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่สืบสานต่อจาก Meego ปรับทัพภายในองค์กรด้วยการเปลี่ยนซีอีโอ เตรียมพร้อมก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่รันระบบปฏิบัติการใหม่ Sailfish ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ผู้ที่ก้าวเข้ามารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของ Jolla คือ Tomi Pienimäki ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมลงทุนกับ Jolla มาแต่ต้น ทั้งยังเป็นพี่ชายของ Sami Pienimäki หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Jolla อีกด้วย โดยปูมหลังของซีอีโอคนใหม่ผู้นี้เคยดูแลงานด้านธุรกิจการขนส่งมาก่อน

ส่วนอดีตผู้นำองค์กรอย่าง Marc Dillon หลังจากที่ลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Jolla แล้ว เขาจะรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทีมพัฒนาซอฟต์แวร์คนใหม่ให้แก่บริษัทแทน

เมื่อปลายปีที่แล้ว อินเทลประกาศว่าซีอีโอ Paul Otellini ที่อยู่ในตำแหน่งมาแปดปี (ตั้งแต่ปี 2005) จะลงจากตำแหน่ง และจะคัดเลือกบุคคลมาเป็นซีอีโอคนใหม่ต่อไป

วันนี้อินเทลประกาศชื่อซีอีโอคนใหม่แล้ว เขาคือ Brian Krzanich ซึ่งดำรงตำแหน่งซีโอโอ (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ) นั่นเอง เขาทำงานกับอินเทลมาตั้งแต่ปี 1982 ปัจจุบันอายุ 52 ปี

Otellini จะลงจากทุกตำแหน่งของอินเทลในวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ และ Krzanich จะขึ้นเป็นซีอีโอคนที่หกของอินเทลต่อไป เขาให้สัมภาษณ์ว่าจะนำพาอินเทลเข้าสู่ยุคใหม่ โดยจะคงไว้ทั้งธุรกิจชิปแบบเดิมที่บริษัทดำเนินกิจการได้ดี และธุรกิจชิปสำหรับอุปกรณ์จำพวก ultra-mobility ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

Mark Zuckerberg กลายเป็นซีอีโอของบริษัทไอทีคนล่าสุดที่เลือกรับค่าจ้างเพียง 1 ดอลลาร์ต่อปี และปฏิเสธไม่รับโบนัสใดๆ

ธรรมเนียมการรับค่าจ้างเพียง 1 ดอลลาร์ต่อปีเริ่มโดยสตีฟ จ็อบส์ ช่วงกลับเข้ามาแอปเปิลในปี 1998 ส่วนซีอีโอคนอื่นๆ ที่ใช้แนวทางนี้ก็มีทั้งผู้บริหารทั้ง 3 คนของกูเกิล, Larry Ellison แห่งออราเคิล, Meg Whitman แห่ง HP รวมถึงซีอีโอนอกสายไอทีอีกจำนวนหนึ่ง

ผู้บริหารส่วนใหญ่ที่รับค่าจ้าง 1 ดอลลาร์ (ต้องรับค่าจ้างเพราะเหตุผลทางบัญชี) มักมีรายได้จากหุ้นของบริษัทอยู่แล้ว และหลายคนเลือกลดค่าจ้างตัวเองเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท (ที่อาจย่ำแย่ในช่วงนั้น) หรือแสดงเป็นสัญลักษณ์ของความทุ่มเทต่อบริษัท

Marissa Mayer ซีอีโอหญิงของยาฮู เขียนเล่าเบื้องหลังของเหตุการณ์ที่ทำให้เธอกลายเป็นซีอีโอของยาฮู

เรื่องมีอยู่ว่าเธอได้รับโทรศัพท์จากตัวแทนหาตัวผู้บริหาร โดยตัวแทนบอกว่าบอร์ดของบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งระบุชื่อเธอโดยตรง และบริษัทนี้อยู่ในซิลิคอนวัลเลย์ทำให้เธอไม่ต้องย้ายบ้าน ก่อนจะเฉลยตอนสุดท้ายว่าเป็นยาฮู

Mayer บอกว่าเธอได้รับโทรศัพท์แบบนี้มาก่อนแล้ว แต่ไม่เคยสนใจเพราะภูมิใจกับหน้าที่การงานที่กูเกิล แต่กรณีนี้ต่างไปเพราะยาฮูเป็นหนึ่งในผู้สร้างอินเทอร์เน็ต (Yahoo defined internet) และมีรูปแบบธุรกิจที่ตรงกับประสบการณ์ทำงานของเธอที่กูเกิลอย่างมาก

ARM Holdings ประกาศว่าซีอีโอ Warren East จะเกษียณอายุในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ หลังจากดำรงตำแหน่งนี้มา 12 ปีและทำงานกับบริษัทมา 19 ปี

ซีอีโอคนใหม่เป็นคนในคือ Simon Segars ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัท (president) อยู่แล้ว เขาทำงานกับ ARM มาตั้งแต่ปี 1991 ผ่านงานสำคัญๆ ด้านวิศวกรรม เซลส์ และพัฒนาธุรกิจมาครบแล้ว แถมยังอายุแค่ 45 ปี ดำรงตำแหน่งซีอีโอต่อไปได้อีกนาน

Simon Segars ให้สัมภาษณ์ยกย่องผลงานของ Warren East ที่นำพา ARM ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ในยุคแห่งอุปกรณ์พกพา เขายืนยันว่า ARM จะทำหน้าที่ออกแบบชิปเพื่อขายสิทธิการใช้งานต่อไปดังเดิม ไม่ลงมาลุยตลาดผลิตฮาร์ดแวร์เองหรือร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นพิเศษ เพราะจุดแข็งของบริษัทอยู่ที่ความเป็นอิสระนั่นเอง

Scott Thompson ซีอีโอคนก่อนนี้ของยาฮูที่มีปัญหาเรื่องวุฒิการศึกษาจนต้องลาออกหลังทำงานไปไม่กี่เดือน

หลังออกจากยาฮูไปได้ไม่นาน เขาก็ได้รับงานใหม่เรียบร้อย โดยเป็นซีอีโอของ ShopRunner เว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์แห่งหนึ่งที่ชูจุดขายเรื่อง "สั่งซื้อออนไลน์ ส่งของโดยร้านค้าปลีกออฟไลน์"

Yang Yuanqing ซีอีโอคนปัจจุบันของเลอโนโว ได้รับโบนัสประจำปีเพิ่มจากปกติอีก 3 ล้านดอลลาร์หลังบริษัทมีผลประกอบการดีเยี่ยมเมื่อเดือนมีนาคม

แต่เขากลับยกเงินโบนัสส่วนนี้ให้กับพนักงานระดับล่าง (junior-level) กว่า 10,000 คนของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในสายการผลิต พนักงานต้อนรับ หรือพนักงานระดับผู้ช่วย โดยหารเฉลี่ยออกมาได้เท่าๆ กันที่คนละ 314 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,000 หยวน ซึ่งสำหรับพนักงานบางคนแล้ว เงินจำนวนนี้เท่ากับเงินเดือนหนึ่งเดือนเลยทีเดียว

Yang Yuanqing ได้รับโบนัสก่อนหน้านี้แล้ว 5.2 ล้านดอลลาร์ และรายรับในปีล่าสุดของเขารวมทั้งหมดแล้ว 14 ล้านดอลลาร์

ซัมซุงประกาศเปลี่ยนตัวซีอีโอคนใหม่ โดยดัน Kwon Oh-hyun ผู้บริหารฝ่ายผลิตชิปและชิ้นส่วนจอภาพขึ้นมาเป็นซีอีโอของ Samsung Electronics คนล่าสุด

ในงานแถลงข่าวรับตำแหน่ง Kwon เน้นว่าซัมซุงต้องโฟกัสไปที่ฝั่งซอฟต์แวร์ การออกแบบ ประสบการณ์ของผู้ใช้ และโซลูชันให้มากขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า นอกจากนี้เขายังบอกทีมบริหารของเขาว่า ซัมซุงต้องสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจหลักๆ ของตัวเองมากกว่านี้ เพื่อสร้างภาวะการนำที่สมบูรณ์แบบ (absolute lead) ไม่ให้คู่แข่งตามทัน

George Colony ซีอีโอของบริษัทวิจัยชื่อดัง Forrester เขียนบทวิเคราะห์ลงบล็อกของบริษัทว่าแอปเปิลจะเริ่มเสื่อมถอยลงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยเหตุผลว่าขาดผู้นำที่โดดเด่นอย่างสตีฟ จ็อบส์

Colony อ้างทฤษฎีการบริหารระดับองค์กรของ Max Weber ในหนังสือ The Theory of Social and Economic Organization ว่าองค์กรใดๆ สามารถจัดหมวดเป็นหนึ่งในสามประเภท ได้แก่ องค์กรที่มีกฎระเบียบและโครงสร้างเป็นแบบแผน (เช่น รัฐบาลหรือบริษัทแบบ IBM), องค์กรที่ยึดธรรมเนียมประเพณี (เช่น ศาสนจักร) และองค์กรที่ยิดอิงกับผู้นำที่โดดเด่น มีพรสวรรค์และคาริสมา (แอปเปิลอยู่ในหมวดนี้)

ในรายงานที่ส่งถึงคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา มีรายละเอียดที่บอกไว้ว่า Amazon จ่ายผลตอบแทนในรูปของเงินเดือนให้กับผู้บริหารสูงสุด (CEO) อย่าง Jeff Bezos แค่เพียงปีละ 81,840 ดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 2.5 ล้านบาทต่อปี) เท่ากับ Jeff Bezos ได้รับค่าจ้างเพียงเดือนละ 210,000 บาท ถือได้ว่าเป็น CEO ที่ได้รับผลตอบแทนต่ำที่สุดในกลุ่มของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่

หลายคนอาจจะมองว่า CEO ของหลายๆ บริษัท ก็ได้รับผลตอบแทนในลักษณะของเงินเดือนน้อย แต่ได้รับเป็นหุ้นของบริษัท ซึ่งมีมูลค่ามากมายมหาศาลแทน แต่ Jeff Bezos เองก็ไม่ได้รับผลตอบแทนเป็นหุ้นของบริษัทแต่อย่างใด

เว็บไซต์ Glassdoor.com เป็นเว็บที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตการทำงานของพนักงานในองค์กรใหญ่ๆ (มาแชร์ข้อมูลกันว่าแต่ละองค์กรเป็นอย่างไร เพื่อความโปร่งใสตามชื่อ "ประตูกระจก")

ล่าสุด Glassdoor เปิดให้พนักงานในองค์กรต่างๆ ให้คะแนนซีอีโอของตัวเองว่าเวิร์คไม่เวิร์คแค่ไหน ผลรอบล่าสุดออกมาปรากฏว่า Tim Cook ซีอีโอของแอปเปิลได้คะแนนโหวตจากพนักงานของตัวเองสูงสุดคือ 97% (คนลงคะแนนสามารถให้คะแนนได้ตั้งแต่ 1-5)

อันดับรองลงมาได้แก่

• Jim Turley (Ernst & Young) 95%
• Paul Jacobs (Qualcomm) 95%
• Ken Chenault (American Express) 94%
• Larry Page (Google) 94%

• Paul Otellini (Intel) 93%

Gianfranco Lanci คืออดีตซีอีโอของ Acer ที่มีความขัดแย้งกับบอร์ดจนต้องลาออก และ

มหากาพย์การตั้งซีอีโอคนใหม่ของโซนี่จบลงเป็นที่เรียบร้อย โดย Kazuo "Kaz" Hirai ผู้บริหารระดับสูงของโซนี่ จะรับตำแหน่งประธานบริษัท (President) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) พร้อมกันสองตำแหน่ง โดยมีผลวันที่ 1 เมษายนนี้

ส่วน Howard Stringer ซีอีโอคนปัจจุบันของโซนี่จะเขยิบขึ้นไปนั่งตำแหน่งประธานบอร์ด (Chairman of the Board) แทนประธานบอร์ดคนปัจจุบัน Yotaro Kobayashi ที่จะเกษียณอายุในเดือนมิถุนายน

การเปลี่ยนตัวซีอีโอรอบนี้ไม่เกินความคาดหมาย เพราะข่าวออกมาเรื่อยๆ และคราวนี้ทาง Stringer ก็ให้สัมภาษณ์ว่าเตรียมแผนการสืบตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2009 โดยกำหนดตัวผู้บริหารรุ่นใหม่ที่จะขึ้นมาแทน และ Kaz Hirai ก็เป็นหนึ่งในผู้บริหารเหล่านั้น

J.T. Wang CEO ของเอเซอร์บอกว่าจะเปลี่ยนยุทธศาสตร์ทางการตลาดใหม่เพื่อให้เอเซอร์กลับมามีกำไรดีอีกครั้ง หลังจากที่รายได้ของเอเซอร์ตกลงมาถึงสองไตรมาสติดกัน

เอเซอร์จะเปลี่ยนจากผลิตภัณฑ์ราคาถูกและไปมุ่งเน้นกับการผลิต ultrabook แทน เพราะว่าลูกค้านั้นต้องการแล็ปท็อปที่มีน้ำหนักเบา, บาง และมีอายุแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานกว่า และการขาย ultrabook จะทำให้กำไรของเอเซอร์ดีขึ้น เพราะ ultrabook นั้นมีราคาเริ่มต้นที่สูงกว่า

ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่ J.T Wang หวังไว้ ultrabook ของเอเซอร์จะทำกำไรจากการขายแล็ปท็อปให้บริษัทเพิ่มขึ้นกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้า

นี่จะเป็นจุดจบของแล็ปท็อปเสปคโหดราคาสองหมื่นแล้วเหรอเนี่ย