Royal Society ของอังกฤษซึ่งเป็นองค์กรณ์ไม่แสวงหากำไรที่ดำเนินการวารสารวิชาการที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง Philosophical Transactions ซึ่งดำเนินการมากว่าสามร้อยปี ออกโรงต้านการตีพิมพ์เอกสารทางวิชาการออนไลน์ที่ได้รับการเสนอโดย สภาการวิจัยแห่งสหราชอาณาจักร (Research Council UK)การออกมาต่อต้านครั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลที่ว่าวารสารวิชาการที่มีอยู่นั้นอาจจะไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ หากเหล่านักวิจัยพากันแจกเอกสารวิชาการกันฟรีๆ บนโลกออนไลน์กันหมด
ฟังแล้วก็งงๆ ว่าแล้วทำไมวารสารเหล่านั้นไม่ยอมออนไลน์กันบ้าง หรือไม่คิดจะปรับตัวกันเลย
ข่าวจากค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง EMI ออกมาว่าแอปเปิลอาจจะเปลี่ยนระบบเก็บค่าเพลงของทางเว็บไอจูนส์ ให้เหมาะสมกับมูลค่าของเพลง โดยเพลงที่ดังๆ อาจจะแพงกว่า 99 เซนต์ และเพลงที่ไม่ได้รับความนิยมอาจจะถูกลงกว่านั้น
EMI ออกมาให้ข่าวอย่างนี้ผมเองยังสงสัยอยู่ว่ามันเชื่อได้แค่ไหน เพราะแอปเปิลเองก็เชื่อในระบบราคาเดียวของตนเองค่อนข้างมาก เพราะเรื่องสำคัญคือความสะดวกของคนซื้อที่ไม่ต้องสับสนอะไรมากมาย
แต่ถ้าให้ดี.....
ราคาเดียว 49 เซนต์ดีกว่า
ที่มา - Forbes
ฟังดูแล้วอาจคุ้นๆคล้ายๆ Google Print แต่งานนี้คาดว่าคงไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์อย่างที่กูเกิลกำลังเผชิญอยู่ เพราะงานนี้ขายครับไม่ได้เปิดให้เข้าไปดูได้ฟรีๆ
โดยทางอเมซอนก็เตรียมบริการไว้สองอย่างอันแรกคือ Amazon Pages ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อหนังสือเป็นส่วนๆได้ ซึ่งก็น่าจะเหมาะกับพวกรายงานของนักศึกษา งานวิจัยต่างๆ ที่อาจจะไม่ได้ต้องการทุกส่วนของเล่ม แต่ถ้าเป็นพวกนิยายต่างๆแบบนี้คงไม่เหมาะแน่
หลังจากแอปเปิลบุกไปเปิด iTunes Music Store ที่ญี่ปุ่น ทางสมาคมอุตสาหกรรมเพลงที่นู่น ก็เริ่มดำเนินการล็อบบี้ให้รัฐบาลญี่ปุ่นเก็บภาษีเพิ่มอีก 2% สำหรับเครื่องเล่นเพลงพกพาทุกเครื่องที่วางจำหนาย เงินที่ได้จะไปยังอุตสาหกรรมเพลง (ค่ายเพลง นักแต่งเพลง นักร้อง) เพื่อชดเชยกับยอดขายซีดีที่ตกลงเนื่องจากการขายเพลงออนไลน์
ญี่ปุ่นได้เก็บภาษีแบบนี้กับเครื่องบันทึกอื่นๆ มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น CD-RW หรือเครื่องบันทึก MD เลยดูไม่แปลกมากนักสำหรับบ้านเค้า ตอนนี้เรื่องภาษียังอยู่ในขั้นตอนของทางรัฐบาลอยู่
ทางอุตสาหกรรมเพลงได้มีการรายงานผลประกอบการครึ่งปีแรกของวงการเพลงครับ ตลาดเพลงออนไลน์โตขึ้นจนมีมูลค่า 790 ล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2004 อยู่ที่ 220 ล้านเหรียญ (3 เท่าตัวกว่า)
ส ่วนซีดีเพลงและดีวีดีที่เป็นมิวสิควิดีโอ ยอดขายร่วงลงมาจากปีที่แล้ว 3.4% ถ้าเทียบจำนวนแผ่น หรือ 6.7% ถ้าเทียบเป็นมูลค่า ถึงจะยอดตก แต่ว่าขนาดตลาดรวมยังอยู่ที่ 13.2 พันล้านเหรียญอยู่ดี
นี่เป็นสัญญาณบางอย่างรึเปล่า? สำหรับเมืองไทยแล้ว คีย์แมนมีคนเดียวเท่านั้น ใครออฟฟิศอยู่แถวอโศกก็ฝากถามด้วยนะครับ
หลังจากเห็นตลาดดนตรีเคลื่อนที่โตเอาๆ เดลล์ก็ทนไม่ไหว ส่งเครื่องเล่นเอ็มพีสามร่วมชิงส่วนแบ่งด้วย โดยเจ้า DJ Ditty นับว่าเป็นเครื่องเล่นเอ็มพีสามแบบแฟลชตัวแรกที่ผมเห็นว่ารองรับ Janus ของไมโครซอฟท์ ซึ่งทำให้เราสามารถใช้บริการโหลดเพลงแบบสมัครสมาชิกเอาได้ จากหลายๆ เว็บ เช่น Yahoo! หรือ Napster to Go
แต่หน้าตายังเหมือนอุปกรณ์สำนักงานอยู่เลย
โดยนอกจาก Princeton ก็มีอีก 9 มหาวิทยาลัย ได้ออกหนังสือเรียนแบบดิจิตอล โดยนักเรียนที่ซื้อจะได้ส่วนลด 33% จากราคาหนังสือจริง แต่จะใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว และเิปิดอ่านได้เป็นเวลา 5 เดือน ซึ่งก็น่าจะใช้เรียนได้จบเทอมพอดี อาจจะเหมาะกับบางวิชา หรือเหมาะกับนักเรียนที่ไม่ค่อยเก็บหนังสือก็ได้
ไม่รู้จะมีมหาวิทยาลัยในเมืองไทยจะสนใจทำมั่งรึเปล่า ผมก็ลุ้นๆอยู่ให้ขายได้เยอะๆ พวก e-book จะได้ออกมามากๆ เรื่องของเรื่องคือหนังสือมันหนักขนไปขนมาไม่สะดวก แต่ e-book ก็เิปิดอ่านลำบากอยู่้ดีแฮะ -_-"
ก็ไม่เกินความคาดหมายเท่าไรกับการบุกญี่ปุ่นของ iTunes Music Store ที่ญี่ปุ่นนี้แอปเปิลขายเพลงละ 150 เยน (มีบางเพลงที่ 200 เยน) และเซ็นสัญญากับค่ายเพลงต่างๆ มากมาย มีบริการญี่ปุ่นๆ ทั้ง Podcast และวิทยุออนไลน์ด้วย แต่ที่น่าสนใจคือ แอปเปิลยังไม่ได้ข้อสรุปกับ Sony Music ซึ่งเป็นค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุด และคู่แข่งสำคัญของแอปเปิลในตลาดเพลงออนไลน์ด้วย ทั้งนี้ Sony เตรียมออกบริการเพลงออนไลน์ของตัวเองที่ชื่อว่า Mora ซึ่งเลือกใช้ฟอร์แมตของตัวเอง (อีกแล้ว) ที่ชื่อ OpenMG งานนี้ต้องไม่ลืมว่าถึงแม้จะมีคู่แข่งเพลงออนไลน์อื่นๆ ทั้ง MSN, Real และ Napster แต่มี Sony เจ้าเดียวที่มีค
หลังจากไปช่วยแอปเปิลทำตลาดมาพักใหญ่ เอชพีก็ตัดสินใจเอาไอพอดออกจากแผนการตลาดของตัวเอง หลังจากเพิ่งถอดซีอีโอไปไม่นาน โดยทางโฆษกของเอชพีเองเป็นผู้ออกมาแถลงข่าวนี้ โดยไม่บอกถึงเหตุผลแต่อย่างใด
ทางแอปเปิลเองได้ออกมาแถลงถึงเหตุการณ์นี้ว่าเกิดขึ้น เพราะเอชพีคิดว่าการใช้ไอพอดไปเสริมทัพด้านเพลงดิจิตอล ไม่ตรงกับความต้องการของเอชพีอีกต่อไป
สถานีโทรทัศน์ PBS ประกาศการเปิดรายการใหม่ในชื่อว่า NerdTV ซึ่งเป็นรายการเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ และบุคคลในวงการ
ความพิเศษของรายการนี้คือมันจะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรี โดยนับว่าเป็นรายการทีวีจากสถานีโทรทัศน์รายใหญ่รายการแรกที่เปิดเช่นนี้ ถ้าไม่นับรายการที่มีบริษัทสนับสนุนเป็นหลักเช่น .NET Show ของไมโครซอฟท์
กระแสรายการแบบโหลดได้เริ่มเพิ่มขึ้นทุกที นับแต่มี RSS จนวันนี้มี Podcast ทำให้น่าเชื่อได้ทางเดินของสื่อกำลังไปในทางเดียวกัน คือสร้างรายการ และเปิดให้ดาวน์โหลด
วันหนึ่งอาจจะมี VideoCast ก็เป็นได้
การขายเพลงออนไลน์แบบถูกกฎหมาย ที่รู้จักกันดีก็อย่างเช่น iTunes Music Store, Real Rhapsody หรือ Napster (ยุคใหม่) กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และแชร์ตลาดเพลงออนไลน์ทั้งหมดไปแล้ว 35% (ที่เหลือก็คือผิดกฎหมายน่ะนะ) นักวิเคราะห์คาดว่าจะแซงปริมาณเพลงผิดกฏหมายได้ในเร็ววัน
ผมคิดว่าการที่เพลงออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น (หมายถึงเมืองนอกนะครับ) คงเป็นเพราะคุณภาพโดยรวมที่ดีกว่า (เช่น มีปกอัลบั้มมาให้ด้วย) ปลอดภัยจากภัยแอบแฝงที่มาตาม P2P และราคาก็อยู่ในระดับที่รับได้เมื่อเทียบกับความสะดวกในการซื้อ ใครอ่านบล็อกนี้จากตึก GMM ก็รบกวนส่งให้อากู๋ด้วยนะครับ
แม้จะเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีอย่าง Janus ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมเพลงออนไลน์กันอย่างกว้างขวาง ห้องวิจัยของไมโครซอฟท์ก็ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัย ในการพัฒนาระบบ P2P ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
Avalanche คือชื่อของระบบดังกล่าว ซึ่งมุ่งที่จะแก้ปัญหาระบบที่ช้าลงเมื่อมีผู้ใช้จำนวนมากๆ ในระบบไฟล์แชร์ริ่ง ที่ความเร็วจะตกลงเพราะศูนย์กลางไม่สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เชื่อว่าอนาคตไมโครซอฟท์อาจส่งแพทซ์ผ่านทางวิธีนี้หรือ พัฒนาการควบคุมลิขสิทธ์เพื่อนำมาใช้ในเทคโนโลยีเพลงของตนต่อไป
แต่หลายๆ คนคงอยากเอามาโหลด XViD กันมากกว่า
หลังจากรอจนเหงือกแห้งว่าเมื่อใหร่บ้านเราจะมีเพลงออนไลน์ให้ใช้กันจริงๆ สักที วันนี้ Erricson ก็ประกาศร่วมมือกับ Napster เพื่อขยายบริการของ Naster ไปทั่วโลกแล้ว โดยการขยายบริการนี้จะรวมทั้งบริการบทนมือถือ และบริการดาว์นโหลดเพลงบนคอมพิวเตอร์
เดาได้ไม่ยากว่าการประกาศร่วมมือกันเช่นนี้ก็เพื่อตอบโต้การร่วมมือกันของ โนเกียและแอปเปิล อย่างไรก็ตาม หลายคนวิเคราะห์ว่านี่คือการร่วมมือกันของมือชั้นรอง ขณะที่โนเกียและแอปเิปิลนั้นต่างก็เป็นสุดยอดในตลาดของตนทั้งคู่
ธุรกิจการพิมพ์เริ่มเลียนแบบวงการซอฟท์แวร์แล้วครับ เมื่อหนังสือ Agile Web Development with Rails ออกรุ่นเบต้า หรือรุ่นทดสอบมาให้ผู้อ่านลองอ่านก่อน แล้วติชมแนะนำทิศทางที่หนังสือฉบับเต็มจะมุ่งไป เวอร์ชันเบต้านี้ขายนะครับ แต่เมื่อตัวจริงออกแล้วก็จะส่งตัวจริงให้ลูกค้าอีกทีหนึ่ง
บิลล์ เกตต์ให้สัมภาษย์กับหนังสือพิมพ์ในเยอรมันแห่งหนึ่ง ระบุว่าเขาเชื่อว่าความสำเร็จของไอพอดนั้นจะอยู่ได้ไม่นานและจะถูกกลบไปด้วยมือถือ MP3
พร้อมกันนั้นเลตต์ยังปรามาทแอปเปิลอีกด้วยว่า ความสำเร็จในตลาดเพลงของแอปเปิลจะเป็นเหมือนครั้งตลาดพีซี ที่แอปเปิลครองตลาดส่วนใหญ่ไว้ด้วยหน้าจอ GUI แต่สุดท้ายก็สูญเสียตลาดไป
ถ้าคาดผิดงานนี้คงเป็นแถลงการแห่งยุค....
ที่มา Mobile Pipeline | Cell Phone-MP3 Combo Will Silence iPods, Gates Predicts
หลังจากที่แอปเปิลครองตลาดไปนาน จนกระทั่ง Napster และค่าย Real ชูธงเอาเทคโนโลยี Janus ของไมโครซอฟท์มาแข่งด้วยกลยุทธ์การตัดราคา ตอนนี้ Yahoo! ก็ข้ามาร่วมวงแ้ล้วครับ ด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์เช่นเดียวกัน
โดยบริการ Yahoo! Music เปิดให้สมาชิกเข้าไปดาว์นโหลดเพลงได้ไม่จำกัดจนกว่าจะเต็มเครื่องเล่นได้ในราคา 4.99 ดอลล่าห์ต่อเดือน หรือประมาณเดือนละ 200 บาท เท่านั้น!!!! แต่มีข้อบังคับว่าต้องฟังจากเครื่องเล่นที่ใช้สมัคร และต้องสมัครสมาชิกหนึ่งปีเท่านั้น
นับว่าเป็นการตััดราคาทีบ้าเลือดพอดูเมื่อทางค่าย Real และ Napster นั้นราคาอยู่ที่ 14-15 ดอลล่าห์ นับว่าแพงกว่าถึงสามเท่า
เทคโนโลยี Janus ของไมโครซอฟท์เริ่มได้รับความนิยมอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่ Napster เปิดตัวบริการ Napster to Go ไปก่อนหน้านี้ ทางเรียลเน็ตเวิร์คผู้พัฒนาโปรแกรมเรียลเพลย์เยอร์ก็เปิดบริการแบบเดียวกันแล้ว
นอกจากจะใช้เทคโนโลยีเดียวกันแล้ว ราคาค่าบริการยังอยู่ที่ 15 ดอลล่าห์เท่ากันอีกด้วย
ไว้มีบัตรเครดิตจะลองสมัครมาเล่นดูมั่ง...
หลังจากไล่ฟ้องนักโหลดมาเป็นจำนวนมาก RIAA หรือสมาคมอุตสาหกรรมเพลงของสหรัฐก็เริ่มเบนเข็มสู่ Internet2 ที่กำลังพัฒนากันอยู่ในขณะนี้ โดยแม้ว่า Internet2 จะไม่ได้เป็นที่แพร่หลายก็ตาม แต่ความเร็วของมันนั้นทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงทั้งหลายต้องสยองกันทีเดียว เพราะมันสามารถทำให้ผู้โหลดสามารถโหลดเพลงทั้งอัลบัมได้ในเวลาไม่ถึงห้านาที (ฟังสดๆ ได้สบายๆ)
โดยนักเรียนกลุ่มแรกที่โดนฟ้องจาก RIAA ไปนี้มีจำนวน 405 คนด้วยกัน โดยกระจายตัวอยู่ตามสถาบันต่างๆ อยู่ถึง 18 สถาบัน
Google ช่างสรรหาอะไรมาให้เล่นกันเรื่อยๆ นะครับ หลังจาก Google Video เปิดให้บริการหารายการทีวีที่มีเรื่องที่เราสนใจ (คือเอา keyword ไปเทียบกับสคริปต์ของรายการ) ตอนนี้ก็เปิดโอกาสให้คนทั่วไปอัพโหลดวิดีโออะไรก็ได้ไปยัง Google Video ซึ่งจะทำให้คนทั่วไปสามารถค้นเจอวิดีโอของเราได้ คลิปวิดีโอนั้นไม่จำกัดความยาว และขนาดกว้างยาว (แค่เนื้อที่บนดิสก์ของ Gmail ก็คงว่างเหลือเฟือ) แต่ต้องสมัครสมาชิก และวิดีโอจะต้องผ่านการตรวจสอบจากทีมงาน Google ก่อนครับ
iTunes บริการเพลงคู่ขวัญของไอพอด จากแอปเปิล โดนดีเสียแล้วโดยการออกโปรแกรม PyMusique ที่สามารถโหลดเพลงจากแอปเปิลในแบบไม่มีลิขสิทธิ์ได้ นั่นหมายถึงถ้าเราใช้โปรแกรมนี้โหลดเพลง เราจะได้เพลงที่สามารถจำหน่ายจ่ายแจกไปให้เพื่อนที่ไหนก็ได้
คนเขียนโปรแกรมนี้คือโปรแกรมเมอร์ชาวนอร์เวย์มือเก๋า ชื่อว่า จอน โจฮานเซน ผู้เขียนโปรแกรมถอดรหัส DVD ไปก่อนหน้านี้ โดยโปรแกรมก่อนนี้ทำให้เขาถูกฟ้องจาก MPAA แต่ศาลยกฟ้องเนื่องจากนายจอนให้เหตุผลว่าเขาไม่ได้ต้องการก๊อปหนังไปขายแต่อย่างใด แต่เขาต้องการแค่เอาหนังไปดูในลินุกซ์เท่านั้นเอง บังเอิญแกะแล้วมีคนอื่นเอาไปก๊อปหนังขายได้ :p
บริษัท iSuppli แถลงรายงานการสำรวจของบริษัทว่ายอดขายเครื่องเล่น MP3 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึง 132 ล้านหน่วยในปี 2009 แม้การแถลงนี้จะอ้างอิงไม่ได้มากเนื่องจากเป็นการคาดการระยะยาวก็ตาม แต่การที่บริษัทวิจัยออกรายงานมาอย่างนี้ก็น่าจะทำให้หุ้นของแอปเปิลโดดขึ้นไปอีกไกลทีเดียว
ในรายงานยังมีการแนะนำผู้ผลิตอีกด้วยว่าไม่ควรใส่ความสามารถให้กับสินค้ามากเกินไป เนื่องจากสิ่งที่ผุ้ซื้อต้องการมักเป็นความเรียบง่าย และหรูหรามากกว่า
หลังจากมีการเข้าใจผิดกันว่ามือถือรุ่น E1060 ของโมโตโรล่าจะใช้กับบริการไอจูนส์ของแอปเปิลไ้ด้ ทางโมโตโรล่าก็ออกมาประกาศแล้วว่ามือถือรุ่นดังกล่าวเพียงมีการนำมาเดโมการใช้งานไอจูนส์บนมือถือเท่านั้น แต่ยังไม่มีการใช้ไอจูนส์ จริงๆ บนมือถือรุ่นนี้แต่อย่างใด
แต่โมโตโรล่าก็ให้คำมั่นว่ามือถือของโมโตโรล่าจะรองรับไอจูนส์ในเร็วๆ นี้ โดยใช้ไอจูนส์เวอร์ชั่นจาวา พร้อมทั้งระบุว่า โปรแกรมไอจูนส์นั้นจะเป็นเพียงโปรแกรมโดยปริยายของโมโตโรล่าเท่านั้น โดยโปรแกรมอื่นๆ เช่น เรียลเพลย์เยอร์ ก็มีสิทธิ์มาใช้งานบนมือถือของโมโตโรล่าได้เช่นกัน
เคยเบื่อกับการซื้อซีดีราคาแพง แล้วพบว่าเพลงข้างในไม่ได้เรื่อง หรือเพลงโปรดสุดหวงดันเจ๊งไปทั้งแผ่นรึเปล่าครับ การลองฟังที่ร้านก็ดีหรอก แต่บางทีก็ไม่พอเอาเหมือนกัน หลายครั้งที่ฟังไปสองเพลงแล้วพบว่านั่นแหละเพลงที่ดีของอัลบั้มนี้ -_-''
เทคโนโลยียุคใหม่ๆ เช่น Janus ของไมโครซอฟท์ที่เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสามารถกำหนดได้ว่า เพลงที่ให้โหลดไปนั้นสามารถฟังได้จากที่ใด กำลังเปิดโลกใหม่แห่งดนตรี
......โลกที่เพลงจะกลายเป็นสินค้าเช่าไป.........
ลองนึกถึงโลกที่คุณเสียบเครื่องเล่น MP3 เข้ากับคอมพิวเตอร์ แล้วโหลดเพลงอยู่ทั้งคืนจนเต็มเครื่อง จำนวนนับร้อยเพลง
กูเกิลเปิดตัวบริการใหม่ๆ ต่อเนื่องครับ ตอนนี้เราสามารถค้นข้อมูล (ที่เป็นตัวหนังสือ) จากรายการทีวี (ซึ่งเป็นวิดีโอ) ได้แล้ว โดยเป้าหมายคือ เนื้อหาที่มีมากมายและมีประโยชน์ในรายการทีวีต่างๆ นั้นไม่สามารถค้นหาได้สะดวกนั้น แถมยังหาเวลาที่ออกอากาศได้ยากอีกด้วย Google Video จะค้นหาจากสคริปต์ของรายการแต่ละรายการว่ามีเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง ทำให้เราสามารถตามไปหาดูได้ง่าย
ลองเล่นได้เลยที่ Google Video อ่านรายละเอียดได้จาก Google Blog
เรื่องใหญ่ๆ สองเรื่องของโซนี่วันนี้ครับ อย่างแรกคือการที่ผู้บริการโซนี่ออกมายอมรับว่าการที่เครื่องเล่นเพลงยุคแรกๆ ของโซนี่ไม่ยอมรับไฟล์ MP3 นั้นทำให้โซนี่ต้องเสียส่วนแบ่งให้แด่แอปเปิลไปอย่างน่าเสียดาย และนับเป็นความผิดพลาดของทางโซนี่
ปรากฎการณ์อย่างนี้ไม่มีให้เห็นบ่อยนัก เพราะโซนี่เองมักคิดว่า "กูแน่" อยู่เป็นทุน การใช้มาตรฐานส่วนตัวอย่าง ATRAC3 ก็ไม่น่าต่างไปจากการใช้ MemoryStick แต่ครั้งนี้ไม่ใช่ครับ