วันนี้ Facebook ได้เปิดตัวแอพใหม่นามว่า Rooms ผลงานจาก Facebook Creative Labs เป็นลักษณะแอพที่สร้างเป็นห้องและเชิญชวนคนอื่นเข้ามาคุยกันภายในห้องในหัวข้อเดียวกัน
ภายในห้องของแอพ Rooms เป็น feed ที่มีทั้งภาพ, วิดีโอ หรือข้อความลักษณะไม่ต่างจาก Instagram หรือ Facebook โดยผู้อยู่ในแต่ละห้องควรจะโพสต์ให้เป็นไปตามชื่อห้องนั้นๆ
Mark Zuckerberg เผยความลับใหม่ต่อโลกว่าเขาพูดภาษาจีนกลาง (แมนดาริน) ได้ โดยเขาไปพูดเรื่อง Internet.org ที่มหาวิทยาลัย Tsinghua ในปักกิ่งเป็นเวลาประมาณ 30 นาที เมื่อพิธีกรแนะนำเขาด้วยภาษาอังกฤษเสร็จเรียบร้อย เขาก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาและพูดภาษาจีนทันที ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากคนจีนที่เข้าฟัง
เขาบอกว่าหัดเรียนภาษาจีนด้วยตนเองมาตั้งแต่ปี 2010 โดยได้แรงบันดาลใจจากภรรยาเชื้อสายจีน Priscilla Chan โดยย่าของเธอพูดแต่ภาษาจีนเท่านั้น ซึ่งเมื่อทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานกันในปี 2012 ตัวของ Zuckerberg ก็เดินเข้าไปพูดกับย่าเป็นภาษาจีน ผลคือเธออึ้งไปเลย
ถึงแม้สำเนียงจีนของ Zuckerberg ยังไม่ดีเท่าไรนัก แต่ความมั่นใจที่จะพูดภาษาจีนของเขาก็ทำให้คนจีนจำนวนมากประทับใจ และคลิปการพูดจีนของ Zuckerberg ก็แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหมู่คนจีนทั่วโลก
เมื่อวานนี้ (21 ตุลาคม) ดีแทคประกาศจับมือกับ Facebook ร่วมส่งความสุขในฐานะ "ตัวแทนที่สนับสนุนความรักอย่างเป็นทางการ" ด้วยการใช้แบรนด์ "แฮปปี้" เป็นแบรนด์หลักในการทำตลาดใหม่ในครั้งนี้
โดยหนึ่งในความร่วมมือในครั้งนี้ก็คือการประกาศเปลี่ยนโลโก้ของสถานะ "Feeling Happy" จากเดิมที่เป็นรูปอิโมติคอนให้กลายเป็นโลโก้ของ "แฮปปี้" ให้กับผู้ใช้ Facebook ในประเทศไทยทุกคน โดยดีแทคกล่าวว่า เพราะสัญลักษณ์แฮปปี้หรือสัญลักษณ์รอยยิ้มสีแดงที่เป็นสากลโลกและผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเข้าใจความหมายของโลโก้นั้นได้ทั้งหมด Facebook จึงตัดสินใจร่วมมือกับดีแทค เพื่อนำโลโก้นี้มาใช้งานใน Facebook อย่างเป็นทางการ และให้ผู้ใช้ได้ร่วมแสดงความรู้สึกว่า ผู้ใช้คนนั้นกำลังมีความสุขมากขนาดไหน
แอดมินเพจคงคุ้นเคยกับฟีเจอร์ตั้งเวลาโพสต์ล่วงหน้าของเพจกันแล้ว แต่พบเจอมาว่า Facebook ก็เตรียมให้ตั้งเวลาโพสต์ย้อนหลังได้เช่นกัน และสามารถดราฟต์โพสต์ได้ โดยโพสต์ที่ถูกดราฟต์จะไปอยู่ในหน้าดราฟต์และสามารถกดแก้ไขโพสต์ได้ตามสะดวก
อย่างไรก็ดี ก็ยังเป็นฟีเจอร์ทดสอบ ก็มารอดูกันต่อไปว่า Facebook จะปล่อยให้ใช้กันถ้วนทั่วในภายหน้าหรือไม่
ที่มา - Faceblog.in.th
ช่วงหลังเราเห็นข่าวบัญชีผู้ใช้/รหัสผ่านถูกแฮ็กจากหน่วยงานต่างๆ มาปล่อยในชุมชนแฮ็กเกอร์กันเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือคนส่วนใหญ่มักใช้รหัสผ่านชุดเดียวกันกับหลายเว็บ ส่งผลให้เสี่ยงต่อการที่รหัสหลุดจากเว็บแห่งหนึ่งแล้วถูกนำไปเจาะบัญชีเว็บอื่นๆ ได้มาก
ทีมความปลอดภัยของ Facebook จึงพยายามป้องกันปัญหานี้ โดยหมั่นตรวจสอบข้อมูลบัญชี/รหัสผ่านที่หลุดมาบนอินเทอร์เน็ต แล้วนำมาเทียบกับฐานข้อมูลรหัสผ่านของ Facebook (ในทางเทคนิคคือเทียบ hash เพราะ Facebook ไม่เห็นรหัสผ่านของผู้ใช้) ถ้าหากว่าตรงกัน Facebook จะแจ้งเตือนผู้ใช้ให้เปลี่ยนรหัสผ่านทันที
สิ่งแรกที่เราจะทำหลังจากได้ยินข่าวเกี่ยวกับภัยพิบัติต่างๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นการหาข้อมูลว่าเพื่อนหรือญาติของเราที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นปลอดภัยดีหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เอง Facebook จึงออกบริการ Safety Check ที่อนุญาตให้ผู้ประสบภัยสามารถแจ้งข่าวยืนยันความปลอดภัยทั้งของตัวเองและคนอื่นๆ ในบริเวณนั้นให้กับเพื่อนๆ ได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติขึ้นในบริเวณที่ผู้ใช้อยู่ Facebook จะส่งข้อความไปที่ผู้ใช้ว่าปลอดภัยดีแล้วหรือยัง เมื่อผู้ใช้กดปุ่ม "I'm safe" แล้ว Facebook ก็จะส่งข้อความแจ้งไปที่เพื่อนของเราว่าเราปลอดภัยแล้วทันที นอกจากนี้เรายังสามารถรายงานสถานการณ์ของเพื่อนคนอื่นที่อยู่ในบริเวณนั้นได้อีกด้วย สามารถชมวิดีโอสาธิตการทำงานได้ในลิงก์หลังที่มา
เริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมของปีหน้าเป็นต้นไป Apple จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่บรรดาพนักงานสาวของบริษัท โดย Apple จะช่วยออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดจากการเก็บรักษาไข่ของพวกเธอไว้ด้วยการแช่แข็ง ทั้งนี้ Apple ไม่ใช่บริษัทแรกที่มีนโยบายเอาใจพนักงานหญิงขององค์กรแบบนี้ เพราะ Facebook ได้เริ่มทำมาก่อนตั้งแต่เดือนมกราคมของปีนี้
แรกเริ่มเดิมทีนั้นการเก็บรักษาไข่ของผู้หญิงนั้นมีขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งให้มีโอกาสได้มีทายาทสืบสกุล และช่วยเหลือผู้ที่มีบุตรยาก แต่ในปัจจุบันนี้สตรีทั่วไปที่มิใช่ผู้ป่วยก็สามารถเลือกเก็บรักษาไข่ของตนเองไว้เพื่อทำการปฏิสนธิในภายหลังเมื่อบุคคลผู้นั้นมีความพร้อมที่จะมีบุตร
ตอนนี้นอกจากเราจะสามารถบอกความรู้สึก หรือบอกกริยาอาการอื่นๆ เช่น กำลังกิน ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ เราก็ยังสามารถบอกให้เพื่อนๆ ใน Facebook รู้ว่าเรากำลังออกกำลังกายได้ด้วย โดยตัวเลือกของการออกกำลังกายนั้นมีตั้งแต่ ออกกำลังกาย, ต่อยมวย, ปีนเขา, เต้นรำ, โยคะ, วิ่ง, เดิน, ว่ายน้ำ, ยกน้ำหนัก และอื่นๆ (ลองไปดูในช่องสเตตัสเอาเอง)
ก็เป็นอีกตัวเลือกในการเซลฟี่ว่าฉันกำลังออกกำลังกายแทนการโพสต์รูปหน้าสดที่เต็มไปด้วยเหงื่อ และน่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกว่ากำลังเล่น T25
ที่มา - All Facebook
ทีมงาน Facebook ออกมาให้รายละเอียดเชิงเทคนิคของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อให้ Facebook Messenger ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
Facebook บอกว่าตอนแรกสุดนั้นสร้าง Messenger ขึ้นมาเป็นระบบส่งข้อความแบบเดียวกับอีเมล แต่สุดท้ายมันก็พัฒนาตัวเองกลายมาเป็นระบบส่งข้อความด่วนที่ใช้บนอุปกรณ์พกพา อย่างไรก็ตาม โครงสร้างพื้นฐานทางไอทีกลับไม่ต่างไปจากแพลตฟอร์มดั้งเดิมมากนัก ทำให้เกิดปัญหาคอขวดและใช้ปริมาณข้อมูลมากเกินจำเป็น
ทีมงานวิศวกรของ Facebook จึงต้องปรับปรุงระบบเบื้องหลังของ Facebook Messenger ใหม่ โดยใช้เวลาประมาณหนึ่งปี การปรับปรุง Messenger แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
ผู้ใช้สามารถเพิ่มอรรถรสในการสนทนาผ่านคอมเมนต์ได้ด้วยการกดไอคอนหน้ายิ้ม (หลักการเดียวกับใน Messenger) จากนั้นก็กดส่งสติกเกอร์ได้ตามใจชอบ ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับทั้งในหน้าไทม์ไลน์, กรุ๊ป และอีเวนต์
ฟีเจอร์นี้เกิดขึ้นในงาน hackathon ที่นิวยอร์ก โดยมีทีม Facebook ริเริ่มทำ จากนั้นก็ให้คนในองค์กรลองใช้ฟีเจอร์นี้กัน ซึ่งแต่ละคนก็ชอบมาก ก็เลยพัฒนาออกมาเป็นฟีเจอร์ให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ใช้กันสำเร็จ
อนึ่ง ส่วนตัวทดลองแล้วยังพบว่าส่งสติกเกอร์ได้แค่ในกรุ๊ปเท่านั้น แต่เข้าใจว่าน่าจะปล่อยให้ผู้ใช้ได้ใช้งานในส่วนที่เหลือเร็วๆ นี้
ที่มา - Bob Baldwin
เมื่อช่วงเริ่มวันใหม่ที่ผ่านมา (ประมาณ 1:00 ตามเวลาในประเทศไทย) Facebook เพิ่ม sticker ในช่อง comment ของกลุ่มและกิจกรรมแล้ว
Facebook ปรับดีไซน์การแสดงผลหน้ารูปภาพในแอพทั้ง iOS และ Android ให้แสดงแบบ collage และภาพไหนที่มีจำนวนไลก์มากก็จะถูกแสดงผลให้เป็นภาพใหญ่ และถ้าหากเลือกดูในแท็บอัลบั้ม ก็จะพบว่ารูปปกอัลบั้มนั้นถูกแสดงผลในขนาดใหญ่ขึ้นเช่นเดียวกัน
Facebook กล่าวว่าดีไซน์ใหม่นี่จะทำให้ผู้คนเข้ามาดูและกดไลก์รูปภาพมากกว่าเดิม
ที่มา - TechCrunch
เมื่อพูดถึง "เครือข่ายโฆษณา" (advertising network) เรามักนึกถึง Google AdSense หรือถ้าเป็นโลกของอุปกรณ์พกพาก็มี AdMob, TapJoy, Flurry, MoPub และค่ายอื่นๆ อีกมาก
เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Facebook เคยประกาาศไว้ว่าจะบุกตลาดโฆษณาในแอพในชื่อ Facebook Audience Network วันนี้มันเปิดบริการอย่างเป็นทางการแล้ว
นักพัฒนาแอพสามารถนำโค้ดของ Facebook Audience Network ไปฝังในแอพ และเลือกรูปแบบของโฆษณาได้ตามต้องการ (มีแบบแบนเนอร์, เต็มหน้าจอ, แสดงเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหา)
New York Times รายงานข่าววงในว่า Facebook เตรียมปล่อยแอพตัวใหม่ที่สามารถคุยได้โดยไม่ต้องแสดงตัวตน แอพตัวนี้จะแยกจากแอพ Facebook ปกติ (และน่าจะใช้ชื่ออื่นที่ไม่เกี่ยวกับ Facebook เลย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่าชื่ออะไร) และจะเปิดตัวในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
นโยบายเรื่องตัวตนของ Facebook คือผลักดันให้เปิดเผย "ตัวตนที่แท้จริง" ชื่อจริง รูปจริง และสายสัมพันธ์กับคนรู้จักในโลกจริง อย่างไรก็ตาม นโยบายนี้ก็มีข้อจำกัดว่าผู้ใช้อาจไม่กล้าแสดงความเห็นในเรื่องที่ไม่สะดวกใจมากนัก การสร้างแอพทางเลือกที่แสดงความเห็นได้แบบปิดบังตัวตนหรือใช้นามแฝง อาจถือเป็นการทดลองฉีกแนวของ Facebook อีกครั้งหนึ่ง
ดีลประวัติศาสตร์ Facebook ซื้อ WhatsApp เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดย Facebook ยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) แจ้งข่าวการซื้อกิจการเสร็จเรียบร้อย
ตอนแรก Facebook เสนอซื้อ WhatsApp ด้วยการจ่ายเป็นหุ้น มูลค่ารวม 19 พันล้านดอลลาร์ แต่เวลาผ่านมาเกือบปี หุ้น Facebook ขึ้นราคา ดีลนี้เลยมีมูลค่ารวม 21.8 พันล้านดอลลาร์แล้ว
เกือบทศวรรษที่ผ่านมา เราเห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะเฟซบุ๊ก ที่ทุกวันนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราๆ ท่านๆ ไปเสียแล้ว โดยเว็บไซต์ The Next Web ได้นำเอามุมมองและทฤษฎีทางจิตวิทยามาอธิบายการเสพติดของผู้ใช้นี้ ผมเห็นว่าน่าสนใจจึงเอามาแบ่งปันกันครับ
The Next Web อธิบายว่าเฟซบุ๊กได้กลายเป็น "ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์" ในลักษณะเดียวกับที่ร้านสะดวกซื้อเป็น เพียงแต่ไม่ใช่ในเชิงกายภาพ แต่เป็นความต้องการทางด้านจิตใจหรือจิตใต้สำนึกของเรา โดยความต้องการเหล่านี้ถูกแบ่งเป็นข้อๆ ดังนี้
- การสร้าง"ความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจในตัวเอง (Self-esteem)"
ไม่ได้มีแต่แอปเปิลและกูเกิลที่หันมาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ แต่ Facebook เองก็เล็งว่าจะทำเช่นกัน โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า ในเดือนที่ผ่านมานั้น Facebook ได้จัดการประชุมและมีผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมทางการแพทย์และนักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อรวบรวมงานวิจัยและพัฒนาให้กลายเป็นแอพเพื่อสุขภาพ โดย Facebook หวังเอาไว้ว่า แอพตัวนี้จะเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ในเว็บมากขึ้น
เมื่อเดือนกรกฎาคม Facebook ได้ปล่อยงานวิจัยหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่อง "สิ่งที่เราเห็นใน Social Network มีผลกระทบกับอารมณ์ของเราหรือไม่" (ดูงานวิจัยได้ที่นี่) งานวิจัยนี้ถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องของจริยธรรมในการทดลองกับความคิดความรู้สึกของคน (ถึงแม้ว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะในการสมัคร Facebook ตอนแรกผู้ใช้ต้องยินยอมให้ Facebook นำข้อมูลเราไปทำการวิจัยหรือทดลองได้ก็ตาม)
Facebook เคยประกาศเอาไว้เมื่อต้นปีนี้ในงานสัมมนา f8 ว่าจะออกปุ่ม Like สำหรับแอพมือถือ วันนี้มันเปิดตัวให้ใช้งานแล้วครับ
ปุ่ม Like บนมือถือ (Mobile Like Button) มีหน้าตาเหมือนปุ่ม Like แบบปกติทุกประการ เพียงแต่มันสามารถนำไปฝังในแอพได้โดยตรง (รองรับ iOS/Android) มันยังเชื่อมโยงกับบัญชีของผู้ใช้ Facebook ในเครื่องนั้นด้วย ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินใหม่ซ้ำซ้อน
คนที่ได้ประโยชน์ที่สุดคือเจ้าของแอพที่มีเพจด้วย สามารถเพิ่มปุ่ม Like ภายในแอพเพื่อให้ผู้ใช้กดแล้วติดตามเพจของเราได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากแอพเลย
ที่มา - Facebook Developers
เฟซบุ๊กเปิดตัวบริการ Atlas ให้บริการโฆษณานอกเว็บเฟซบุ๊กเอง โดยชูธงแนวทางการโฆษณาแบบเจาะจงบุคคล (people-based marketing) แบบเดียวกับที่เราเห็นโฆษณาหนังสือที่เพิ่งเข้าเว็บไปตามมาโฆษณาในเฟซบุ๊กทุกวันนี้ โดยแนวทางของ Atlas คือขยายความสามารถแบบเดียวกันนี้มาอยู่บนโทรศัพท์มือถือ
บริการ Atlas เป็นธุรกิจที่เฟซบุ๊กซื้อมาจากไมโครซอฟท์เมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้จะเปิดตัวบริการอีกครั้งจากโค้ดที่พัฒนาขึ้นใหม่ มีลูกค้ารายใหญ่ทดสอบระบบ เช่น เป็ปซี่ และอินเทล ส่วนบริการทางฝั่ง publisher นั้นมีรายใหญ่คืออินตาแกรม ของเฟซบุ๊กเอง ที่เหลือเป็นบริษัทแบนเนอร์อื่นๆ
TechCrunch รายงานข่าววงในว่า Facebook เตรียมออกแอพตัวใหม่ที่ใช้โค้ดเนมว่า "Moments" สำหรับการแชร์ข้อมูลเฉพาะครอบครัวหรือคนสนิทเท่านั้น
Moments น่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องเพื่อนของเราบน Facebook มีหลายกลุ่ม ทำให้เวลาแชร์ข้อมูลบางอย่างสำหรับคนสนิท อาจส่งผลกระทบต่อเพื่อนกลุ่มอื่นๆ ที่บังเอิญมาเห็นโพสต์นั้นเข้าพอดี ถึงแม้ว่า Facebook จะเปิดให้เราเลือกคนที่มองเห็นโพสต์นั้นได้ตั้งแต่ตอนกดแชร์ แต่กระบวนการเลือกกลุ่มเพื่อนตอนแชร์ของ Facebook กลับใช้ยากจนผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่สนใจฟีเจอร์นี้
Facebook ประกาศปรับอัลกอริทึมในการแสดงผลหน้า News Feed ใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคราวนี้จะปรับแสดงผลเพื่อให้ทันกับเหตุการณ์หรือตามความนิยมมากขึ้น แทนที่จะแสดงแบบเก่า ซึ่งอาจจะตรงหรือไม่ตรงความสนใจในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
Facebook Media เป็นแหล่งความรู้ (คล้ายๆ Facebook Developers) ที่ Facebook ทำขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ในเรื่องของการใช้สื่อใน Facebook ให้เป็นประโยชน์ อาทิเช่น การใช้วิดีโอให้เกิดประโยชน์สูงสุด, การเชื่อมต่อคอนเทนต์ระหว่างรายการโทรทัศน์และ Facebook รวมถึงกรณีศึกษาที่น่าสนใจ ผู้ที่ต้องทำการตลาดบน Facebook ก็สามารถเข้าไปศึกษาได้
ที่มา - Facebook Media
Facebook มีฟีเจอร์ให้เราเลือกตอบโพสต์หรือคอมเมนต์ในฐานะเพจได้นานแล้ว แต่เพิ่งมีปุ่มสลับสถานะโพสต์ (Post Attribution) ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยผู้ใช้สามารถเลือกตอบคอมเมนต์หรือโพสต์ข้อความในสถานะโปรไฟล์หรือหนึ่งในเพจที่เราดูแลจากดร็อปดาวน์มุมขวาเหนือช่องคอมเมนต์ได้ตามภาพประกอบ
อนึ่งพบว่าบางคนยังไม่ได้รับฟีเจอร์นี้ ก็อาจจะต้องรอกันนิด
Facebook ประกาศตั้งกลุ่ม TODO (ย่อมาจาก Talk Openly, Develop Openly) เพื่อช่วยผลักดันให้บริษัทต่างๆ เปิดซอร์สโค้ดซอฟต์แวร์ตัวเองมากขึ้น
Facebook บอกว่าแก้ปัญหาที่พบระหว่างกระบวนการเปิดซอร์สโค้ดมาเยอะ และอยากถ่ายทอดประสบการณ์นี้ให้กับบริษัทอื่นๆ ที่อยากทำบ้างแต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
บริษัทที่ร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้ง TODO ได้แก่ Box, Dropbox, GitHub, Google, Khan Academy, Square, Stripe, Twitter และ Walmart Labs
ที่มา - Facebook