เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมตำรวจนิวยอร์ก (NYPD) ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ VentureBeat ว่า ทางกรมได้สั่งซื้อ Google Glass มาทดสอบว่าจะเป็นประโยชน์ในการบังคับใช้กฎหมายหรือไม่ โดยเฉพาะกับงานตำรวจสายตรวจ
โฆษกของกูเกิลชี้แจงกับ VentureBeat ว่า กูเกิลไม่ได้ดำเนินการทดสอบแว่นตาร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายแต่อย่างใด ดังนั้นจึงดูเหมือนทางกรมได้สั่งซื้อแว่นตาผ่าน Glass Explorer Program มาทดสอบกันเอง
ที่มา: The Telegraph
เวอร์จิน แอตแลนติก สายการบินสัญชาติอังกฤษ เริ่มทดสอบให้พนักงานบริการลูกค้าที่ต้องให้บริการแก่ลูกค้าชั้น Upper Class ขึ้นไปที่เข้ามาท่าอากาศยานลอนดอนฮีทโธรว์ ใช้ Google Glass ของกูเกิลหรือ SmartWatch 2 ของโซนี่ ให้ข้อมูลแก่ลูกค้า
สายการบินอธิบายว่า เมื่อลูกค้าลงจากรถลีมูซีนแล้ว พนักงานที่สวมใส่อุปกรณ์นั้นจะเริ่มกระบวนการเช็คอินโดยทันที ในเวลาเดียวกันพนักงานนั้นก็สามารถให้ข้อมูลล่าสุดของเที่ยวบินที่ลูกค้าจะเดินทาง สภาพอากาศ และอีเวนต์ในท้องถิ่นที่ลูกค้าจะเดินทางไป รวมถึงสามารถแปลข้อมูลภาษาต่างประเทศผ่านอุปกรณ์สวมใส่นั้นได้ นอกจากนั้นในอนาคตอุปกรณ์สวมใส่ได้นี้จะสามารถให้ข้อมูลอาหารและเครื่องดื่มที่ลูกค้าชื่นชอบแก่พนักงานได้
กูเกิลโชว์ตัวอย่างเกมแบบง่ายๆ (กูเกิลเรียก mini-game) บนแว่น Google Glass จำนวน 5 เกม เพื่อเป็นการสาธิตการสร้างแอพบน Glass โดยใช้แว่นร่วมกับเซ็นเซอร์ต่างๆ ของตัวเครื่อง
เป้าหมายของกูเกิลคือแสดงให้นักพัฒนาเห็นศักยภาพของ Glass และเป็นแอพตัวอย่างสำหรับการพัฒนาเกมอื่นๆ ในอนาคต
แน่นอนว่าเวลาต้องการเล่นเกม ต้องใช้คำสั่ง OK Glass, play games
ใครที่คิดว่าหน้าตาของ Google Glass นั้นเชยเกินไป ตอนนี้กูเกิลก็ออกกรอบแว่นสำหรับใช้งานร่วมกับ Google Glass มาแล้วทั้งหมดสี่ลาย ตามที่สัญญาไว้เมื่อปลายปี
แน่นอนว่ากรอบแว่นเองก็มีค่าตัวเช่นกัน กูเกิลตั้งราคาไว้ที่ 225 เหรียญต่อชิ้น แยกกับราคาของ Google Glass ที่ 1,500 อีกด้วย
The Verge ได้ไปลองใช้งานกรอบแว่นของกูเกิลมาบอกว่ากรอบแว่นตัวนี้ถูกออกแบบโดยทีมงานของกูเกิลเอง คุณภาพดีเกินคาด แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่บริเวณด้านขวาที่ทำให้ใส่ไม่ถนัดอยู่ดี
ที่มา - The Verge
มีชายอเมริกันไม่ระบุชื่อคนหนึ่งสวมแว่น Google Glass ไปดูหนังเรื่อง Jack Ryan: Shadow Recruit กับภรรยาในรัฐโอไฮโอ
พนักงานของโรงหนังสงสัยว่าเขาอาจบันทึกวิดีโอ (ถ่ายหนังซูม) แบบละเมิดลิขสิทธิ์ ทางโรงหนังจึงแจ้งทีมงานของสมาคมภาพยนตร์อเมริกา (MPAA) ที่อยู่ในพื้นที่พอดี และตัวแทนของ MPAA ก็แจ้งกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ (Homeland Security) ที่รับผิดชอบเรื่องนี้
จากนั้นชายคนนี้ถูกเชิญออกจากโรงกลางคันเพื่อสอบสวน โดยมีตำรวจ 5-10 นายเข้าร่วม ชายคนนี้แจ้งว่าโดนค้นโทรศัพท์ และถูกพาไปยังห้องสำนักงานเพื่อ "ให้สัมภาษณ์" (สอบสวนอย่างไม่เป็นทางการโดย FBI) ซึ่งเขาปฏิเสธว่าไม่ได้เปิดใช้ Google Glass ขณะอยู่ในโรง แค่สวมไว้เฉยๆ และปิดโทรศัพท์ทุกเครื่องก่อนเข้าโรง
ประเด็นปัญหาเรื่องความปลอดภัยในการใช้ Google Glass ขณะขับขี่ยวดยานพาหนะนั้นเป็นที่ถกเถียงกันมาระยะหนึ่งแล้ว ก่อนหน้านี้มีกรณีตัวอย่างที่ตำรวจออกใบสั่งให้แก่ผู้สวม Google Glass ขณะขับขี่รถยนต์มาแล้วด้วย ทว่าล่าสุดศาลได้พิจารณายกฟ้องในคดีดังกล่าวแล้ว
เมื่อปีก่อน Cecilia Abadie ถูกตำรวจเรียกให้หยุดรถและได้รับใบสั่งด้วยความผิดฐานสวมใส่ Google Glass ขณะขับรถ หากแต่เธอคิดว่าการกระทำของเธอนั้นไม่ได้ขัดต่อกฎหมายจึงได้ตัดสินใจเข้าสู้คดีเพื่อให้ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดจริงหรือไม่
ในการใช้งาน Google Glass จะต้องใช้แอพในมือถือของเราประกอบด้วย ซึ่งแอพที่ว่าก็คือแอพ MyGlass โดยก่อนหน้านี้มีบนแอนดรอยด์เท่านั้น แต่ล่าสุดกูเกิลปล่อยแอพนี้ลง App Store แล้ว ผู้ใช้ไอโฟนที่มี Google Glass จะสามารถต่อ Wi-Fi, เลือกว่าจะให้ service ใดทำงาน, นำทาง และสตรีมหน้าจอของ Google Glass กลับลงมายังไอโฟน แต่ก็ยังไม่มีฟังก์ชั่นทั้งหมดเหมือนเวอร์ชั่นแอนดรอยด์อย่างเช่นการส่ง SMS
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อ Google Glass เข้ากับไอโฟนผ่านบลูทูธและโทรเข้าออก รวมถึงเข้าใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน hotspot จากมือถือได้อยู่แล้ว
ที่มา - The Verge
หลังจากกูเกิลประกาศทำ Google Glass รุ่นที่สอง โดยลูกค้าที่ซื้อ Glass รุ่นแรกสามารถแจ้งความจำนงขอเปลี่ยนเป็นแว่นรุ่นที่สองได้ ล่าสุดบริษัทได้อีเมลถึงเจ้าของ Glass รุ่นแรกว่า เปิดให้ส่งฮาร์ดแวร์เดิมที่ผู้ใช้ซื้อก่อน 28 ต.ค. ปีนี้ กลับมาที่บริษัทก่อน 5 ก.พ. ปีหน้า เพื่ออัพเกรดเป็นรุ่นที่สองได้ฟรี
ถึงแม้ผู้ใช้จะเลือกไม่อัพเกรดเป็นรุ่นใหม่ กูเกิลก็เตือนว่าอุปกรณ์เสริมหรือฟีเจอร์ใหม่อาจใช้กับรุ่นแรกไม่ได้ รายละเอียดเพิ่มเติมนั้นดูได้จากเว็บไซต์กูเกิลตามที่มาของข่าว
Stephen Lau วิศวกรซอฟต์แวร์ และหัวหน้าฝ่ายเทคนิคของโครงการ Google Glass โพสต์ลง Google+ ของเขาว่าตอนนี้แอพ Google Play Music สำหรับ Google Glass ออกมาแล้ว โดยผู้ที่ใช้ Google Glass รุ่น Explorer สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นนี้จากแอพ MyGlass ได้แล้วตอนนี้
ส่วนคนที่นำไฟล์ของ Google Play Music (ชื่อไฟล์ Music2.apk) ไปติดตั้งใน Google Glass ก่อนหน้านี้ Lau แนะนำให้ถอนการติดตั้งออกก่อน แล้วค่อยติดตั้งแอพนี้จากแอพ MyGlass อีกรอบหนึ่ง
เป็นเวลานานแล้วที่ Google Glass จำกัดอยู่ในกลุ่ม Google Glass Explorer จนล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้วกูเกิลเปิดให้คนทั่วไปลงชื่อแสดงความสนใจสั่งซื้อ ผมมีโอกาสสั่งซื้อและได้ Glass เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ขอแชร์ประสบการณ์ใช้งาน 5 วันครับ
ติดตั้ง
Glass มีแอพที่ช่วยในการใช้งาน MyGlass ที่สอนการใช้งานเบื้องต้นและช่วยในการติดตั้ง การติดตั้งค่อนข้างง่ายด้วยการทำตามขั้นตอน รวมเวลาติดตั้งและจับคู่มือถือกับ Glass ผ่าน Bluetooth ใช้เวลาไม่นาน
ข่าวนี้ต้องแยกแยะนิดนึงครับว่า การพัฒนาแอพบน Google Glass มีสองวิธี วิธีแรกคือใช้ Mirror API ที่มีความสามารถจำกัด (เป็นเว็บแอพที่รันบนเซิร์ฟเวอร์กูเกิลอีกที ไม่ได้รันบน Glass ตรงๆ) และวิธีที่สองคือ Glass SDK หรือ Glass Development Kit (GDK) ที่มีความสามารถสูงกว่า
ตัว Mirror API นั้นเปิดให้นักพัฒนาบางส่วนใช้มาสักระยะแล้ว ซึ่งนักพัฒนาจะต้องผ่านการอนุมัติจากกูเกิลก่อน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้กูเกิลเปิดให้นักพัฒนาทุกคนที่สนใจสามารถเข้าถึง Mirror API ได้โดยตรงแล้ว
ส่วนตัว GDK กูเกิลโชว์ในงาน hackathon เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังไม่เปิดให้คนทั่วไปใช้งานครับ
หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าววงในว่ากูเกิลกำลังเจรจากับ VPS Global ผู้ผลิตกรอบแว่นตาและเลนส์แว่นสายตา เพื่อนำเทคโนโลยีของ Google Glass มาสู่แว่นสายตา-แว่นแฟชั่นให้จงได้
ตามข่าวบอกว่าข้อตกลงทางธุรกิจจะมีทั้งการออกแว่นสายตา-กรอบแว่นแฟชั่น รวมถึงการเทรนพนักงานของร้านแว่น-จักษุแพทย์ให้เข้าใจถึง Google Glass
โฆษกของกูเกิลปฏิเสธจะแสดงความเห็นเรื่องข้อตกลงกับ VPS Global แต่ก็ระบุว่าบริษัทเคยประกาศเรื่องแว่นสายตามาก่อนแล้ว
ที่มา - CNET
Google Glass เปิดตัวมาระยะหนึ่ง แม้จะบอกว่าเปิดให้นักพัฒนา แต่ในความเป็นจริง API ที่ใช้ได้ยังจำกัดมาก สามารถพัฒนาได้เพียงแอพพลิเคชั่นให้ข้อมูลง่ายๆ เท่านั้น แต่ตอนนี้กูเกิลเปิดชุดพัฒนาออกมาในชื่อ Glass Development Kit (GDK)
แกนกลางของ Google Glass เป็น Android 4.0.4 ที่ปรับแต่งหน้าจอใหม่ และ GDK เองก็จะต้องดาวน์โหลดผ่าน Android SDK Manager
GDK จะเปิดให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึง 3 ความสามารถหลัก ได้แก่ แอพพลิเคชั่นสามารถทำงานออฟไลน์, ทำงานตามเวลาจริงอยู่เบื้องหลัง, และสามารถเข้าถึงกล้องและเซ็นเซอร์อื่นๆ ในเครื่องได้ เช่น สามารถใช้ Google Glass นับก้าวที่วิ่งไปได้แล้ว กูเกิลสาธิตการทำงานของ API ใหม่ นักพัฒนาสามารถพัฒนาแอพพลิเคชั่นแปลภาษาป้ายที่ผู้ใช้มองอยู่จริงๆ
ผลิตภัณฑ์ Google Glass นั้นเป็นหัวข้อถกเถียงถึงความเหมาะสมในการใช้งานในสถานการณ์หลายๆ แบบ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการใช้งานขณะควบคุมยานพาหนะ ล่าสุด ได้มีผู้ได้รับใบสั่งเนื่องจากสวมใส่ Glass ในขณะขับรถแล้ว
Cecilia Abadie ชาวแคลิฟอร์เนีย ถูกตำรวจจราจรเรียกเนื่องจากขับรถเร็วเกินกำหนด โดยนอกจากตำรวจจะเขียนใบสั่งในข้อหาใช้ความเร็วเกินแล้ว ยังระบุถึงการสวมใส่ Glass ในขณะที่ขับรถด้วย (ใช้ข้อความว่า ขับรถยนต์โดยมีหน้าจอที่ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้)
หลังจากที่กูเกิลเปิดเผยหน้าตาของ Google Glass รุ่นที่สอง ไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน เว็บไซต์ Engadget ก็ได้รับรายงานจากผู้อ่านชื่อ Nick ว่า กูเกิลเริ่มวางจำหน่ายอุปกรณ์เสริมของ Google Glass รุ่นแรกสำหรับเจ้าของ Google Glass รุ่น Explorer Edition เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพิ่งประกาศว่าจะทำ Google Glass รุ่นที่สองไปได้วันเดียว กูเกิลก็ปล่อยภาพของ Google Glass รุ่นใหม่ผ่านทาง Google+ มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รูปทรงโดยรวมของ Google Glass ยังใช้การออกแบบเดิมอยู่ แต่มีการปรับเปลี่ยนนิดหน่อยอย่างเพิ่มพอร์ตหูฟังคู่ตัวเข้ามา ซึ่งสามารถเสียบได้ผ่านพอร์ต micro USB บริเวณแกนตัวเครื่องใกล้กับหูได้ด้วย อีกส่วนจะเป็นหมอนรองหูบริเวณด้านท้ายของขาแว่น น่าจะทำให้ใส่ได้สะดวกขึ้นครับ
รายละเอียดภายนอกของ Google Glass ก็มีเพียงเท่านี้ คงต้องรอให้กูเกิลเผยความเปลี่ยนแปลงภายในต่อไปครับ
ที่มา - +Google Glass
กูเกิลประกาศว่าหลังจากออก Google Glass รุ่นแรก (ที่เรียกว่า Explorers) และรับฟังความเห็นจากผู้ใช้งานไปพอสมควร ก็ได้เวลานำไปปรับปรุงเป็น Google Glass รุ่นที่สองแล้ว
ข้อมูลของ Glass รุ่นที่สองคือตัวฮาร์ดแวร์จะใช้งานร่วมกับแว่นกันแดดและแว่นสายตาได้ แถมยังมีหูฟังแบบโมโนแถมให้ด้วย
ลูกค้าที่ซื้อ Glass รุ่นแรกไปแล้วสามารถแจ้งความจำนงของเปลี่ยนเป็นแว่นรุ่นที่สองได้ (กูเกิลจะประกาศในภายหลัง) และลูกค้ากลุ่ม Explorers จะได้โควต้าชวนเพื่อนมาเข้าโครงการได้อีก 3 คนในเร็วๆ นี้
ที่มา - +Google Glass
แถมท้ายด้วยวิดีโอนำเที่ยวสหรัฐอเมริกาทั้ง 50 รัฐด้วย Google Glass ครับ
Google จดสิทธิบัตรที่เรียกได้ว่าสร้างแนวทางใหม่ในการสั่งการ Google Glass จากวิธีเดิมๆ อย่างการส่งคำสั่งเสียงหรือการแตะ โดยจดสิทธิบัตรการทำมือเป็นรูปหัวใจเป็นท่าทางที่สั่งการได้ (gesture) ซึ่งตัวอย่างในรายละเอียดของสิทธิบัตรยกการทำมือรูปหัวใจเป็นการกดไลค์สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นวัตถุหรือสถานที่
นอกจากนี้ กูเกิลยังเสนอการสั่งการในท่าทางอื่นๆ เพิ่มเติมอย่างการทำมือเป็นมุมฉากรูปตัว L แล้วลากในลักษณะเดียวกับการคลุมดำในวินโดว์ หรือการวาดมือเป็นวง หรือการสร้างรูปสี่เหลี่ยมโดยทำมือเป็นมุมฉากทั้งสองมือเป็นท่าสั่งถ่ายรูปอีกด้วย
กูเกิลเริ่มเปิดรับแอพบน Google Glass (ที่เรียกกันว่า "Glassware") จากนักพัฒนาภายนอกบริษัทแล้ว โดยแอพเหล่านี้จะเข้าไปอยู่ในรายการบน MyGlass (ร้านขายแอพของ Google Glass)
เบื้องต้นแอพที่กูเกิลอนุมัติแล้วได้แก่ SportsYapper (ผลกีฬา), Fancy (ซื้อสินค้า), Mashable (ข่าว), KitchMe (ทำอาหาร), Thuuz (เบสบอล) โดยแอพทั้งหมดจะเขียนผ่าน Mirror API เพราะ Glass SDK ตัวเต็มยังไม่ออกนั่นเองครับ
ที่มา - +Timothy Jordan via Engadget
Metaio ผู้พัฒนาแอพบนเทคโนโลยี augmented reality (AR) อย่าง eKurzinfo แอพแนะนำการใช้งานฟังก์ชันในรถยนต์ Audi เผยต้นแบบแอพคู่มือการใช้งานรถบน Google Glass
ในการทำงานนั้น แอพนี้ใช้เทคโนโลยีติดตามวัตถุโดยอ้างอิงโมเดล CAD เพื่อระบุว่าผู้ใช้กำลังมองอะไรอยู่และแสดงผล (overlay) ทิศทางในสามมิติ ไม่ได้ใช้ marker ในการระบุตำแหน่งวัตถุต่างๆ แต่อย่างไร
จากข่าว Sergey Brin แยกกันอยู่กับภรรยาและมีแฟนใหม่เป็นพนักงานกูเกิล ทำให้หลายๆ ท่านสงสัยว่าพนักงานคนนั้นคือใคร
เมื่อเร็วๆ นี้แหล่งข่าวจาก ValleyWag ได้ไปสืบทราบมาว่าเธอคือสาวน้อยชาวอังกฤษวัย 26 ปี ที่มีชื่อว่า Amanda Rosenberg ครับ ปัจจุบันเธอทำงานอยู่ที่กูเกิลมา 5 ปี (ตั้งแต่เธอเรียนจบ) ตอนนี้ดำรงตำแหน่ง marketing manager สำหรับผลิตภัณฑ์ Google Glass ในกูเกิลอยู่ และที่สำคัญเธอยังเป็นผู้คิดค้นวลีเด็ดที่ใช้สำหรับเริ่มต้นการป้อนคำสั่งให้ Google Glass นั่นก็คือ "OK Glass," นั่นเอง
สามารถเข้ามาดูรูปของเธอชัดๆ ได้จากในข่าวครับ ในความคิดผมเธอสวยมาก
Siri ผู้ช่วยส่วนตัวบน iOS ที่หลายคนคงจะทราบดีว่าเธอนั้นก็มีการตอบสนองที่สร้างความฮาจนเป็นข่าวได้ไม่น้อยเช่นกัน (1, 2) โดยคราวนี้ มีผู้ไปค้นพบว่า Siri นั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคำว่า "OK Glass" ซึ่งเป็นคำสั่งเสียงของ Google Glass ดังนี้
Google Field Trip แอพสำรวจสถานที่ต่างๆ รอบตัว (ข่าวเก่า) แปลงกายมาอยู่บนแว่น Google Glass แล้ว
Field Trip เวอร์ชัน Glass จะตัดทอนความสามารถลงจากรุ่นมือถือ แต่ก็จะยังแสดงข้อมูลสถานที่จาก Field Trip ในรูปแบบ card ที่ Google Glass ใช้เป็นปกติ, สามารถอ่านข้อมูลสถานที่ให้ฟังได้ และถ้าเราเดินทางไปยังจุดที่มีสถานที่น่าสนใจ Field Trip จะแสดงไอคอนเตือนขึ้นมาที่มุมบนแว่นให้ด้วย
John Hanke จากทีม Niatic (ทีมเดียวกับที่พัฒนา Ingress) บอกว่าการใช้งาน Field Trip บน Glass ถือเป็น augmented reality ที่ควรจะเป็น เพราะมันสามารถบอกข้อมูลรอบตัวเราได้โดยที่เราไม่ต้องออกแรงทำอะไรเลย
Vogue นิตยสารผู้หญิงชื่อดังของโลก มีเซ็ตภาพถ่ายแฟชั่นที่ใช้ Google Glass เป็นอุปกรณ์เข้าฉาก
แฟชั่น Google Glass จะลงพิมพ์ในนิตยสาร Vogue ฉบับเดือนกันยายนของทุกปี (เรียกกันว่า The September Issue ที่จะหนาเป็นพิเศษ ถือเป็นนิตยสารฉบับสำคัญของโลกแฟชั่น) แฟชั่นเซ็ตนี้มีทั้งหมด 12 หน้า ใช้ชื่อว่า The Final Frontier เน้นธีมแฟชั่นจากโลกอนาคต
ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าแฟชั่นเซ็ตนี้เกิดจากการผลักดันของกูเกิลหรือมาจากความต้องการของ Vogue เอง แต่ในอดีตกูเกิลก็พยายามดันให้ Google Glass เป็นสินค้าแฟชั่นมากกว่าไอทีมาบ้างแล้ว
Vogue ฉบับเดือนกันยายนวางขายแล้ว ส่วนเวอร์ชันออนไลน์จะเปิดให้อ่านในวันที่ 27 สิงหาคมนี้
ไม่ได้มีแค่ใช้เล่นๆ สนองกิเลสตัณหากันเท่านั้น เมื่อ Dapper Vision ได้เปิดเผยว่ากำลังช่วยพัฒนาระบบช่วยเหลือผู้บกพร่องทางการมองเห็นที่ทำงานบน Google Glass ในชื่อโครงการว่า Open Glass และได้ทดสอบกับผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นไปแล้วสองรายด้วย
โครงการดังกล่าวเบื้องต้นถูกแบ่งออกเป็นสองโปรแกรม โปรแกรมแรกเป็นโปรแกรมถาม-ตอบ โดยการให้ผู้ใช้สั่งให้ Google Glass ถ่ายรูป แล้วทวีตพร้อมคำถามออกไป และเมื่อมีคนตอบกลับมาตัวโปรแกรมจะอ่านคำตอบให้ฟังอีกครั้ง