Huawei ประเทศไทยเปิดตัว nova2i สมาร์ทโฟนระดับกลางแต่จัดเต็มด้วยบอดี้โลหะแบบยูนิบอดี้ หน้าจอ FullView ไร้ขอบขนาด 5.9 นิ้วแพแนล IPS ความละเอียด FHD+ (2160x1080) สัดส่วน 18:9 ชิปเซ็ต Kirin 659 แปดคอร์ (A53 2.36GHz+A53 1.7GHz) แรม 4GB
กล้องบน nova2i เป็นกล้อง 4 ตัวแบ่งเป็นหน้า 2 หลัง 2 โดยกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล พร้อมฟีเจอร์โบเก้ละลายพื้นหลังระดับฮาร์ดแวร์ กล้องหน้า 13 ล้าน + 2 ล้าน แฟลช Selfing Toning
หลังแอปเปิลเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในแต่ละปี ก็ย่อมหนีไม่พ้นจะถูกหยิบไปล้อไปแซวเปรียบเทียบต่างๆ นานา คราวนี้เป็นทีของ Huawei ที่ทำโฆษณาล้อเลียน Face ID ของแอปเปิล ซึ่งคาดว่าเป็นการโฆษณา Huawei Mate 10 ที่ใกล้จะเปิดตัวไปพร้อมๆ กัน
ตัวโฆษณาเป็นโฆษณาสั้นๆ โดยมีหัวตัวตลกกำลังถูกสแกนใบหน้าพร้อมข้อความ Unlocking... อยู่บนกรอบที่เหมือน iPhone X ก่อนที่ระบบขึ้นว่า Failed. Try Again. พร้อมปิดด้วยแฮชแทค #TheRealAIPhone และวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ซึ่งก็น่าจะเป็นวันเปิดตัว Mate 10
น่าติดตามครับว่า Mate 10 จะมีลูกเล่นอะไรใหม่ที่ล้ำไปกว่า Face ID ของแอปเปิลหรือไม่และแค่ไหน
ที่มา - Huawei Mobile
คุณเฉียง หัว กรรมการผู้จัดการของ Huawei ประเทศไทยประกาศเปิดศูนย์ Huawei OpenLab Bangkok ในไทย ซึ่งเป็นศูนย์พัฒนานวัตกรรมและโซลูชัน สำหรับการสร้าง ecosystem และผลักดัน Digital Transformation ใน 10 อุตสาหกรรมตามแนวคิด Enbrace Digital Life
10 อุตสาหกรรมแรกที่ Huawei จะผลักดันตามยุทธศาสตร์นี้ได้แก่ Smart Energy, Smart Airport, Digital Railway, Smart Government (ระบบบริการภาครัฐอัจฉริยะ), Smart Agriculture, Smart Education, Digital Banking, Smart Water Meter และ Smart Parking, Smart City โดยมีเทคโนโลยี Smart Home พ่วงมาด้วย
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในการประชุม Huawei Connect 2017 วันที่ 2 มีการพูดถึงกรณีตัวอย่างในการใช้งานจริงที่ใช้โซลูชั่นของบริษัท รวมถึงบริการและสินค้าใหม่ๆ ที่บริษัทได้เปิดตัวในงานนี้ด้วย
หมายเหตุ ผมเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยคำเชิญของทาง Huawei ครับ
หลัง Richard Yu ซีอีโอของ Huawei เคยลั่นเอาไว้ในปีที่แล้วว่าจะขึ้นเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนเบอร์ 2 แซงหน้าแอปเปิลให้ได้ภายใน 2 ปี ล่าสุดฝันดังกล่าวใกล้เป็นจริงมากขึ้น เมื่อ Counterpoint Research บริษัทวิจัยตลาดเผยว่า ยอดขายของ Huawei ในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมแซงหน้าแอปเปิลขึ้นเป็นเบอร์ 2 ของโลกได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม Peter Richardson ผู้อำนวยการของ Counterpoint มองว่าสาเหตุหนึ่งเกิดจากเป็นช่วงที่เข้าใกล้การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิล ที่ทำให้ยอดขายของแอปเปิลตกลง แต่ถึงกระนั้นก็สะท้อนการเติบโตของ Huawei ได้ระดับหนึ่ง ขณะที่การจะขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 จริงๆ ได้นั้น Huawei จะต้องแก้โจทย์อย่างการบุกตลาดเอเชียใต้และอเมริกาให้ได้เสียก่อน
วานนี้ที่การประชุม Huawei Connect 2017 อันเป็นการประชุมประจำปีฝั่งองค์กร (enterprise) ของ Huawei ระดับนานาชาติ จัดขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจอยู่หลายประการ แต่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นปาฐกถา (keynote) ช่วงเช้าที่มี Guo Ping รองประธานและซีอีโอหมุนเวียนของ Huawei ขึ้นมาเป็นผู้กล่าวนำครับ
หมายเหตุ ผมเดินทางมาเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว โดยคำเชิญของทาง Huawei ครับ
Huawei ใช้เวทีงาน IFA 2017 เปิดตัวหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Kirin 970 ที่จะใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง Mate 10 ที่จะเปิดตัวในวันที่ 16 ตุลาคมนี้
Kirin 970 เป็น SoC ที่ประกอบด้วยซีพียู 8 คอร์, จีพียู 12 คอร์, ผลิตที่ระดับ 10 นาโนเมตร และมีหน่วยประมวลผลพิเศษ Neural Processing Unit (NPU) สำหรับงานประมวลผล AI ด้วย จากสถิติของ Huawei เองระบุว่ามันสามารถรัน image recognition ได้ 2,000 ภาพต่อนาที เร็วกว่าชิปอื่นใดในโลกนี้
Huawei ระบุว่างานประมวลผล AI ภายในอุปกรณ์เอง (On-Device) จะสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นส่วนช่วยเติมเต็มการประมวลผล AI บนคลาวด์ บริษัทจึงพัฒนา NPU เพื่อให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
บริษัทวิจัยตลาด Canalys รายงานส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนประจำไตรมาส 2/2017 อันดับหนึ่งยังเป็นซัมซุงที่ยอดขาย 79 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน ตามมาด้วยแอปเปิลที่ 41 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน
ความน่าสนใจอยู่ที่อันดับสาม Huawei ที่ขายได้ 38 ล้านเครื่อง เกือบเทียบเท่ายอดขายของแอปเปิลแล้ว ถ้าเทียบกับยอดขายปีก่อนเพิ่มมาถึง 20%
อันดับสี่ Oppo ก็ทำผลงานได้ดี ยอดขายเพิ่มขึ้น 44% และอันดับห้า Xiaomi ก็มียอดขายเพิ่มขึ้น 52%
ภาพรวมของตลาดมีสมาร์ทโฟนขายได้ทั้งหมด 340 ล้านเครื่องในไตรมาสล่าสุด เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
Huawei ประเทศไทยเปิดเผยยอดขายสมาร์ทโฟนในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มียอดเติบโตจากปีที่แล้วกว่า 8 เท่าในแง่ของจำนวนเครื่อง (Unit Base) และเพิ่มขึ้น 5 เท่าในเชิงมูลค่า (Value Base) โดยในเดือนพฤษภาคมครองส่วนแบ่งตลาด 10.7% เพิ่มขึ้นจาก 1.2% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ในส่วนตลาดสมาร์ทโฟนของไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตที่ราว 2-4% ขณะที่ Huawei ตั้งเป้าว่าในครึ่งปีหลังจะโตอีก 3 เท่าและครองส่วนแบ่งตลาดในแง่ของจำนวนเครื่องที่อันดับ 2
Richard Yu ซีอีโอของ Huawei Consumer Business Group ให้ข้อมูลของสมาร์ทโฟนตัวถัดไป Mate 10 ในงานแถลงผลประกอบการครึ่งปีแรก ว่า Mate 10 จะเปิดตัวในช่วงเดียวกับ iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิล แต่จะดีกว่าในหลายด้าน โดย Mate 10 จะมีหน้าจอแบบฟูลสกรีน (คาดว่าเป็นแนวเดียวกับ Galaxy S8) แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น ชาร์จเร็วขึ้น คุณภาพของกล้องดีขึ้น
ส่วนผลประกอบการครึ่งปีแรกของ Huawei Consumer Business Group (ไม่รวมธุรกิจฝั่งอุปกรณ์เครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์) มีดังนี้
ในบรรดาปัญหาที่น่าหงุดหงิดของ Nexus 6P นอกจากเครื่องปิดตัวเองทั้งๆที่แบตยังเหลือเยอะแล้วยังมีกรณีที่เครื่องติด boot loop ได้เอง ซึ่งถ้าโชคร้ายเกิดขึ้นกับเครื่องเราแล้ว ก็เรียกได้ว่าแทบจะอับจนหนทาง ทำอะไรไม่ได้ มือถือเราจะกลายเป็นที่ทับกระดาษราคาแพงในลิ้นชักทันที
ปรากฏว่าวันนี้มีผู้ใช้งาน XDA Developers นาม XCnathan32 หาทางแก้ boot loop ของ Nexus 6P และเผยแพร่วิธีที่จะกู้ชีวิต Nexus 6P ที่ติด boot loop ให้กลับมาทำงานได้อีกครั้งหนึ่ง
Huawei เปิดตัว Honor 9 สมาร์ทโฟนระดับกลางแต่ได้สเปคใกล้เคียงเรือธง ด้วยบชิปเซ็ต Kirin 960 แปดแกนความถี่ 2.4GHz จีพียู Mali-G71 บนหน้าจอ 5.15 นิ้ว ความละเอียด FHD ครอบด้วยกระจก 3D Aurora Glass
แรมให้มา 4GB และ 6GB ความจุ 64GB และ 128GB กล้องหลังเป็นกล้องคู่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลสำหรับภาพสี และ 20 ล้านพิกเซล สำหรับภาพโมโนโครม พร้อม PDAF, Touch Focus, HDR และแฟลชคู่ กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือมาให้ด้วย
แบตเตอรี่ 3,200 mAh พร้อมชาร์จเร็ว พอร์ท USB-C และ 3.5 มม. Bluetooth 4.2, รองรับ VoLTE มีสามสีคือดำ น้ำเงินและทอง
หัวเหว่ยเปิดศูนย์ Huawei OpenLab Bangkok ในไทย ถือเป็นศูนย์วิจัยลำดับที่ 7 ของหัวเหว่ยจากทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อต้องการให้เป็นแพลตฟอร์ม ICT เพื่อองค์กรและสตาร์ทอัพ รวมถึงสถาบันการศึกษาด้วย
Huawei Thailand แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยคนใหม่ คุณเฉียง หัว (Mr. Qiang Hua) ที่ทำงานกับ Huawei มาตั้งแต่ พ.ศ. 2541 และเคยมีประสบการณ์ทั้งในจีนและในต่างประเทศ โดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาคือ แอฟริกาใต้ เคนยา คองโก
คุณเฉียง หัว จะรับผิดชอบงานทั้งหมดของ Huawei ในประเทศไทย ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจคือ Consumer (สมาร์ทโฟน), Enterprise (อุปกรณ์เครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์) และ Carrier (อุปกรณ์โทรคมนาคม)
ที่มา - หัวเว่ยประเทศไทย
Huawei ประกาศเปิดตัว MateBook แล็ปท็อปแบรนด์ Huawei จำนวน 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ MateBook X รุ่นท็อป, MateBook E และ MateBook D
MateBook X เป็นรุ่นท็อปในไลน์ ถือเป็นการบุกตลาดแล็ปท็อปอย่างเต็มตัวครั้งแรกของ Huawei โดยตัวเครื่องเป็นแล็ปท็อปบางและเบา หน้าจอ 13 นิ้ว รัน Windows 10 ตัวถังเป็นอะลูมิเนียม มีตัวเลือก Intel Core i5 หรือ i7 สามารถใช้งานดูวิดีโอ 1080p ได้นาน 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง, หน้าจอเป็น 2K อัตราส่วน 3:2 มีขอบ 4.4 มิลลิเมตร แต่ไม่สามารถสัมผัสได้, พื้นที่เก็บข้อมูล SSD มีให้เลือก 256GB และ 512GB, แรมมีให้เลือก 4GB หรือ 8GB, ปุ่มเปิดเครื่องสามารถสแกนลายนิ้วมือได้ในตัว พร้อมรองรับ Windows Hello
ใกล้เข้ามาแล้วกับงาน Thailand Mobile Expo 2017 ที่จะจัดขึ้นวันที่ 18-21 พฤษภาคมนี้ ทาง Huawei ได้เตรียมโปรโมชันเอาไว้เพียบทั้งส่วนลด ของสมนาคุณ และประกันพิเศษเฉพาะเครื่องที่ซื้อภายในงาน ไปจนถึงคลาสเทรนนิ่งที่จัดเอาไว้ให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมกันแบบฟรีๆ บทความนี้ได้รวบรวมไฮไลท์ทั้ง 10 ภายในบูธ Huawei สำหรับ TME ครั้งนี้ไว้แล้ว จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
เมื่อวานนี้ (1 พฤษภาคม 2560) ตัวแทนผู้บริโภคที่ใช้สมาร์ทโฟน Huawei รุ่น Mate 9 ที่ระบุว่าได้รับผลกระทบกรณีสงสัยว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นดังกล่าวใช้ชิ้นส่วนหน่วยความจำไม่ตรงสเปกที่โฆษณาไว้หรือไม่ ได้เดินทางไปที่สำนักงานของ สคบ. เพื่อทดสอบสมาร์ทโฟนร่วมกับพยานหลายฝ่าย
ผู้ที่เข้าร่วมการทดสอบประกอบไปด้วยตัวแทนผู้บริโภค, เจ้าหน้าที่ของ สคบ. รวมถึงกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจาก NECTEC, กสทช., คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยในการทดสอบ ผู้บริโภคได้นำโทรศัพท์ Huawei Mate 9 มาด้วยจำนวน 7 เครื่อง และ Mate 9 Pro จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้สุ่มออกมาทดสอบรุ่นละ 3 เครื่อง
ผลการทดสอบออกมาว่าโทรศัพท์ทุกเครื่องผ่านเกณฑ์มาตรฐานของหน่วยความจำ UFS 2.1 ซึ่งบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) ได้ยึดมาตรฐานความเร็วที่ 500 MB/s อย่างไรก็ตาม สคบ. ไม่ได้เปิดเผยวิธีทดสอบความเร็วแต่อย่างใด
จากกรณี Huawei P10/P10 Plus ที่โด่งดังทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด Richard Yu ประธานฝ่ายอุปกรณ์พกพาของ Huawei ได้ยอมรับผิดด้วยการส่งจดหมายถึงพนักงาน และโพสต์จดหมายนั้นขึ้นบัญชี Weibo ของเขา
Yu ระบุว่าเหตุการณ์ใช้ชิ้นส่วนหน่วยความจำหลายสเปกใน P10/P10 Plus ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของบริษัท โดยเขายอมรับว่าตอนที่เขาออกมาแถลงตอบโต้ครั้งแรกนั้น "ไม่เหมาะสม" และท่าทีในตอนแรกของ Huawei ก็ถือว่า "หยิ่งยโส"
นอกจากนี้ Yu ยังประกาศว่าเขาได้ตั้งหน่วยงานสำหรับฟังเสียงผู้ใช้ขึ้นมาโดยเฉพาะ และจะให้เหล่าผู้บริหารที่ดูแลด้านผู้บริโภคไปลงพื้นที่ร้านค้าและศูนย์บริการเพื่อใช้เวลากับลูกค้าโดยตรง อีกทั้งยังบอกว่าบริษัทจะพยายามเข้าใจความรู้สึกของลูกค้ามากขึ้น โดย Yu ถึงกับไตร่ตรองว่าที่ผ่านมา Huawei เติบโตเร็วเกินไป หรือลืมวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของบริษัทไปหรือไม่
จากกรณี Huawei P10/P10 Plus ทาง กสทช. โดยนายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กสทช. ด้านการคุ้มครองผู้บริโภคและส่งเสริมสิทธิเสรีภาพของประชาชน เปิดเผยว่าตัวแทนของ Huawei ประเทศไทยได้เข้ามาชี้แจงกับ กสทช. แล้ว โดยมีประเด็นดังนี้
จากเหตุการณ์ Huawei P10/P10 Plus ใช้แรมและหน่วยความจำหลายชนิด รวมถึงเกิดความสงสัยว่า Mate 9 มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วยหรือไม่ ล่าสุด Huawei ประเทศไทยได้แถลงผ่านหน้าเฟซบุ๊กของบริษัทแล้ว
Huawei ประเทศไทยระบุว่ามาตรฐาน UFS 2.1 และ 2.0 มีความเร็วเท่าเทียมกัน ระหว่าง 249.6 - 583.04 MB/s และใน Huawei Mate 9 เป็นไปตามมาตรฐาน UFS 2.1
ส่วนในรุ่น P10/P10 Plus ได้บอกเหมือนกับที่ Huawei ต่างประเทศได้แถลงมาก่อนหน้านี้ คือบริษัทฯ มีมาตรฐานในการเลือกใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือทั่วโลก เพื่อให้มีปริมาณการผลิตที่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค พร้อมยืนยันว่าทั้ง P10/P10 Plus และ Mate 9 ใช้แรม LPDDR4 (โพสต์ต้นทางใช้คำว่า DDR4)
นอกจากนี้หากลูกค้ามีข้อสงสัย สามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าที่ MBK Center ได้ระหว่างเวลา 10.30 - 19.30 น.
ที่มา - Facebook: Huawei Mobile
หลังจากที่ Huawei ถูกวิจารย์อย่างหนักจากกรณีทีP10/P10 Plus มีสเปกแรมและหน่วยความจำหลายชนิด ผู้ใช้ไม่มีโอกาสทราบก่อนซื้อเลยนั้น ล่าสุด Huawei ประเทศไทยออกคำแถลงการณ์ผ่าน Facebook page ของบริษัทฯ แล้ว
โดยสรุป Huawei ชี้แจงว่า interface หน่วยความจำมาตรฐาน UFS 2.1 (JEDEC Standard No.220C) และ UFS 2.0 (JEDEC Standard No.220 B) มีอัตราความเร็วเท่าเทียมกัน ระหว่าง 249.6 - 583.04 MB/วินาที หรือ 2496 - 5830.4 Mb/วินาที และใช้ ram DDR4 ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าหัวเว่ย สาขา เอ็มบีเค เซ็นเตอร์
อย่างไรก็ตาม จากคำแถลงการณ์ดังกล่าวไม่มีการกล่าวถึงหน่วยความจำ eMMC 5.1 และ ram DDR3 ที่เป็นประเด็นแต่อย่างใด
ที่มา: Huawei Mobile ผ่าน TechXcite
จากข่าว Google อาจโดนฟ้องแบบกลุ่ม จากปัญหา Nexus 6P ปิดตัวเอง
ล่าสุดสำนักงานกฎหมาย Chimicles & Tikellis ทำหน้าที่เป็นตัวแทนลูกค้า ยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่ม (class action) ต่อศาลเขต Eastern District of Texas ต่อผู้ผลิตทั้งสองราย Google และ Huawei แล้ว ข้อหาที่ฟ้องคือปัญหา defect จากอาการ boot loop และแบตเตอรี่หมดเร็วเกินควร
ในคำฟ้องบอกว่า Google โยนภาระด้านการรับประกันสินค้าให้ Huawei ในขณะที่ Huawei ก็บอกลูกค้าว่าเป็นปัญหาที่ซอฟต์แวร์ ไม่ใช่ปัญหาจากฮาร์ดแวร์
นาทีนี้เรื่องฉาวสุดในวงการโทรศัพท์มือถือคงเป็นกรณีที่ Huawei P10/P10 Plus ใช้แรมและหน่วยความจำหลายชนิด ซึ่ง Huawei อ้างว่าไม่ได้หลอกลวงเพราะไม่ได้บอกตั้งแต่แรกแล้ว ต่างกับรุ่น Mate 9 สมาร์ทโฟนเรือธงของปลายปี 2016 ที่หน้าเว็บบอกชัดว่าใช้หน่วยความจำแบบ UFS 2.1
ล่าสุด มีคนตาดีไปเจอว่า Huawei ได้นำคำว่า UFS 2.1 ออกจากหน้าเว็บของ Mate 9 แล้วอย่างเงียบๆ คงเหลือไว้เฉพาะแรมที่ยังบอกว่าเป็น LPDDR4 จึงทำให้น่าสงสัยว่า Mate 9 ถูก "เนียน" ใช้ชิปหน่วยความจำแบบอื่นด้วยหรือไม่ และขณะนี้ Huawei ยังไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลใดๆ
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ของ P10/P10 Plus ทาง Huawei ระบุว่าตัวเลขการทดสอบไม่สามารถบอกอะไรได้ในการใช้งานจริง เพราะมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่กระทบกับความเร็วของหน่วยความจำ
ดูภาพเปรียบเทียบหน้าเว็บ Huawei Mate 9 ได้ท้ายข่าว
ที่มา - Android Authority
หนึ่งในสมาร์ทโฟนยอดฮิตในขณะนี้ย่อมหนีไม่พ้น Huawei P10 และ P10 Plus ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายไปไม่นาน และก็มีข่าวว่าผู้ใช้พบว่าการทดสอบเบนช์มาร์กด้านความเร็วหน่วยความจำในหลายๆ เครื่องได้ผลต่างกันมาก ล่าสุด Huawei ออกมายอมรับแล้วว่า P10 และ P10 Plus ที่วางจำหน่ายอยู่จะมาพร้อมสเปกแรมและหน่วยความจำที่แตกต่างกันไป
Huawei ระบุว่าแรมของ P10 และ P10 Plus จะมีทั้งแบบ LPDDR3 และ LPDDR4 และหน่วยความจำจะมีทั้ง UFS 2.0, UFS 2.1 และ eMMC 5.1 เลยทีเดียว โดยแรม LPDDR3 และ LPDDR4 ตามสเปกแล้วมีแบนด์วิดท์ต่างกันถึงเท่าตัว คือ 12.8GB/s และ 25.6GB/s และใช้ไฟที่ 1.2 และ 1.1 โวลต์ตามลำดับ ส่วนหน่วยความจำ UFS 2.0 กับ 2.1 ไม่ค่อยต่างกัน แต่ทั้งสองแบบนั้นเร็วกว่า eMMC 5.1 อย่างมาก ตามตารางด้านล่าง
อนาคตของนาฬิกาอัจฉริยะแบรนด์ Huawei ต่อจากนี้อาจจะยังไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร หลังออกมาแล้ว 2 รุ่น แต่ที่แน่ๆ ไม่น่าจะอยู่ในวิสัยทัศน์ของ Eric Xu Zhijun ซีอีโอเท่าไหร่นัก หลังเจ้าตัวเปิดเผยในงาน Global Analyst Summit 2017 ที่ผ่านมาว่าไม่เห็นประโยชน์ของอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะบนข้อมือเท่าไหร่นัก
ซีอีโอ Huawei ระบุว่าตัวเขาคิดไม่ออกว่าสมาร์ทวอทช์จะมีเอาไว้ทำไม ในเมื่อสมาร์ทโฟนสามารถทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว พร้อมบอกว่าเขาไม่คิดที่จะใส่สมาร์ทวอทช์นี้ด้วย ขณะเดียวกันเขาก็มักจะตั้งคำถามกลับไปยังทีมพัฒนาสมาร์ทวอทช์ของ Huawei ตอนเสนอไอเดียว่า อุปกรณ์แบบนี้มันตอบสนองความต้องการของตลาดจริงๆ น่ะหรือ