CAT เปิดบริการเครือข่าย LoRa ตามที่ประกาศไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยตอนนี้พื้นที่ให้บริการครอบคลุม 12 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, น่าน, สระบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, สุราษฎร์ธานี, สงขลา, และภูเก็ต โดยระบุว่าจะขยายให้ทั่วประเทศภายในเวลา 2-3 ปี
สำหรับฮาร์ดแวร์ทาง CAT เตรียมไว้จำหน่ายสองแบบ คือแบบ Starter Kit ราคา 1,290 บาท และแบบโมดูลสื่อสาร 590 บาท ทั้งสองแบบมาพร้อมกับค่าบริการปีแรก ส่วนปีต่อๆ ไป 300 บาท
สำหรับหน่วยงานที่สนใจพัฒนาอุปกรณ์สามารถติดต่อรอรับบอร์ดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ด้วย
AIS ประกาศโครงการด้าน IoT เพิ่มเติมที่งาน Digital Intelligent Nation 2018 อีกหลายด้าน
Google Cloud IoT Core บริการคลาวด์สำหรับจัดการอุปกรณ์ IoT ที่กูเกิลเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม 2017 เข้าสถานะตัวจริง (generally available)
Cloud IoT Core เป็นแกนหลักของบริการที่เรียกว่า Cloud IoT Solution อีกทีหนึ่ง มันทำหน้าที่เป็นด่านหน้าในการพูดคุยกับอุปกรณ์ IoT แล้วส่งข้อมูลจาก IoT ขึ้นคลาวด์ เพื่อส่งต่อยังบริการตัวอื่นๆ ของ Google Cloud Platform อีกทอดหนึ่ง
The Verge รายงานว่า ARM ผู้ผลิตหน่วยประมวลผลสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนได้พัฒนา iSIM ซิมที่ฝังตัวมาในชิปประมวลผล โดย ARM บอกว่าขนาดของ iSIM มีไม่ถึงตารางมิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งทั้งช่วยประหยัดพื้นที่และประหยัดต้นทุนลงไปได้
กลุ่มเป้าหมายของ iSIM คืออุปกรณ์ IoT ขนาดเล็กที่ต้องเชื่อมต่อผ่านระบบเซลลูลาร์ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามตัว iSIM ของ ARM เป็นเพียงดีไซน์อ้างอิงเท่านั้นและ ARM ได้ส่งตัวอย่างไปให้กลุ่มผู้ผลิตชิปเซ็ตแล้ว ซึ่งก็คาดว่าน่าจะได้เห็นชิปเซ็ตที่มาพร้อม iSIM ภายในสิ้นปี โดย ARM มองในแง่ดีกว่ากลุ่มโอเปอเรเตอร์จะยอมรับเทคโนโลยีใหม่นี้ด้วยเช่นกัน
ที่มา - The Verge
AIS เปิดรับพรีออเดอร์บอร์ด NB-IoT ที่งาน Digital Intelligent Nation 2018 โดยจะเปิดรับพรีออเดอร์วันนี้วันเดียวเท่านั้น ในราคา 1,190 บาท (ต่างจากที่ผมรายงานตอนงาน MakerFaire) โดยสั่งได้ด้วยการกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนสั่งจองล่วงหน้า
ตัวบอร์ดเป็นบอร์ด Devio NB-Shield I ใช้โมดูล Quectel BC95 ทำงานที่คลื่น 900MHz มี eSIM ในตัว ความเร็วสูงสุด dl/up 24kbps/15.625kbps ค่าบริการฟรีปีแรก และปีต่อไป 350 บาท
ทาง AIS ระบุว่าจะเริ่มส่งมอบบอร์ดเดือนเมษายนนี้
กูเกิลประกาศซื้อกิจการ Xively หน่วยธุรกิจด้าน IoT ของบริษัท LogMeIn ในราคาที่ไม่เปิดเผย (สื่อรายงานว่า 50 ล้านดอลลาร์)
Xively เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับบริหารจัดการอุปกรณ์ IoT บริษัทมีพนักงานประมาณ 45 คน และขายกิจการให้ LogMeIn ในปี 2014 ก่อนถูกขายต่อมายังกูเกิล
กูเกิลระบุว่าซื้อ Xively มาเสริมทัพ Cloud IoT Core บริการสำหรับบริหารอุปกรณ์ IoT ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว โดยต้องการทั้งเทคโนโลยีและบุคคลากรของ Xively ที่เก่งเรื่องการทำงานกับอุปกรณ์ IoT ในขณะที่ Google Cloud เก่งเรื่องการจัดการกับข้อมูลและ AI
เอไอเอส และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาเครือข่ายแถบความถี่แคบ (Narrow Band) สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ Internet of Things (NB-IoT) เพื่อพัฒนานวัตกรรมสร้างแนวคิดเมืองอัจฉริยะในมหาวิทยาลัย
ในความร่วมมือนี้ เอไอเอสจะสนับสนุนการติดตั้งอุปกรณ์สถานีฐาน สำหรับกระจายสัญญาณ NB-IoT เพื่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ในพื้นที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ทำให้นักศึกษาและนักพัฒนาได้เข้าถึงเทคโนโลยีเครือข่าย ฝึกใช้งานกับอุปกรณ์จริง และทดสอบการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์และเซ็นเซอร์ต่างๆ
เมื่อเช้านี้ เว็บไซต์ ZDNet ออกมารายงานว่า Injong Rhee ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) และหัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Samsung จะย้ายไปร่วมงานกับ Google ในตำแหน่ง Enterpreneur-in-residence โดยจะเน้นไปที่โปรเจคด้าน Internet of Things (IoT)
Injong Rhee เข้ามาทำงานที่ Samsung ตั้งแต่ปี 2011 เขาเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายตัวของ Samsung ทั้ง KNOX, Samsung Pay และ Bixby แต่ภายหลังจากรับตำแหน่ง CTO ไม่นาน เขาก็ลาออกจากบริษัทด้วยเหตุผลส่วนตัวเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
ที่มา: ZDNet
Mozilla เปิดตัว Project Things โครงการพัฒนาเฟรมเวิร์คของซอฟต์แวร์และเซอร์วิสสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ Internet of Things เข้าด้วยกัน และเป็นมาตรฐานแบบเสรีที่ทุกคนสามารถใช้กับอุปกรณ์ IoT ของตัวเองได้โดยไม่ต้องพึ่งระบบจากบริษัทใหญ่ ๆ
ในโครงการ Project Things จะมี Things Gateway (ลักษณะเหมือน Amazon Echo, Apple TV หรือ Google Home ที่ใช้เป็นฮับของอุปกรณ์ IoT) สามารถติดตั้งเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ยอดนิยมอย่าง Raspberry Pi ได้ด้วย ซึ่งเมื่อตั้งค่าระบบแล้ว Things Gateway จะสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายและเพิ่มอุปกรณ์ได้ทันที โดยจะมี URL ที่ปลอดภัยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานและควบคุมอุปกรณ์จากที่ไหนก็ได้
สำหรับฟีเจอร์ที่น่าสนใจสำหรับ Things Gateway มีดังนี้
หลัง Acer ประเทศประเทศเริ่มแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ ขยับมาเล่นตลาด IoT ตั้งแต่ปีที่แล้ว ปีนี้ Acer เดินหน้าลุย IoT มากยิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของผลิตภัณฑ์และโซลูชัน ภายใต้ชื่อ Smart Solution ซึ่งมีทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ คลาวด์ บิ๊กดาต้า IoT และ AI
Smart Solution ของ Acer ครอบคลุมในหลายๆ มิติ ตั้งแต่ไลฟ์สไตล์ภายในบ้านอย่าง Air Monitor โซลูชันควบคุมและติดตามข้อมูลเครื่องกรองและปรับอากาศภายในบ้าน, Smart Plug อุปกรณ์ติดตามการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมสามารถสั่งงานสวิตช์ไฟ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำหรับคนรักสัตว์อย่าง Pawbo กล้องไอพีสำหรับดูสัตว์เลี้ยงจากนอกบ้าน
AIS เปิดตัวเครือข่าย NB-IoT มาตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ยังจำกัดเฉพาะโครงการทดลองอยู่ ที่งาน Maker Faire Bangkok วันนี้ก็มีการสาธิตโมดูล NB-IoT พร้อมกับระบุว่าจะเริ่มวางขายเร็วๆ นี้แล้ว โดยจะเริ่มส่งมอบบอร์ดได้ภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์
ตัวบอร์ด NB-IoT อยู่ที่ราคา 1,990 บาท มาพร้อมกับบริการอินเทอร์เน็ต 1 ปี (ตามข้อจำกัดของ NB-IoT ทำความเร็วได้สูงสุดเพียง 150kbps) และหลังจากนั้นค่าบริการจะคิดรายปีปีละ 350 บาท
ในงาน CES 2018 คอลเกตได้เปิดตัวแปรงสีฟันไฟฟ้ารุ่นใหม่ชื่อ Colgate Smart Electronic Toothbrush E1 with Artificial Intelligence ซึ่งมีเซ็นเซอร์แบบเรียลไทม์ และอัลกอริทึม AI ที่พัฒนาร่วมกับทันตแพทย์ เพื่อตรวจจับรูปแบบการแปรงฟัน ใน 16 จุดของช่องปาก แล้วไปเชื่อมต่อข้อมูลกับแอพผ่านบลูธูท นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยฝึกการแปรงฟันที่ถูกวิธี โดยวิเคราะห์จากรูปแบบการแปรงฟันปัจจุบัน
แอพของคอลเกตยังมีคุณสมบัติเชื่อมต่อกับ ResearchKit ของแอปเปิลบน iOS เพื่อเก็บข้อมูลพฤติกรรมการแปรงฟัน ซึ่งคอลเกตระบุว่าสามารถนำข้อมูลนี้ไปพัฒนาหาโซลูชั่นใหม่สำหรับการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันในอนาคต
CAT แถลงแนวทางธุรกิจปี 2561 ภายใต้กลยุทธ์ปั้นธุรกิจ New S-Curve เน้นบริการดิจิทัลมากขึ้น โดยสานต่อโครงการขยายเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศวงเงิน 2,000 ล้านบาท และ โครงการพัฒนาโครงข่ายไร้สาย LoRaWAN (Long-Range Wide Area Network) รองรับ IoT และ Smart City
LoRaWAN หรือ LPWAN (Low-Power WAN) จะเป็นชื่อที่เราได้ยินบ่อยขึ้นเรื่อยๆ มันคือการวางโครงข่ายไร้สายความเร็วต่ำ แต่กินพลังงานต่ำ มีพื้นที่ครอบคลุมเป็นวงกว้าง ใช้สำหรับอุปกรณ์ IoT ที่ต้องสื่อสารตลอดเวลา แต่ส่งข้อมูลไม่เยอะในแต่ละครั้ง การใช้ LoRaWAN จึงเหมาะกว่าเครือข่าย 3G/4G ของโทรศัพท์มือถือในแง่การประหยัดพลังงานของตัวอุปกรณ์
ไมโครซอฟท์มีระบบปฏิบัติการ Windows 10 IoT Core สำหรับอุปกรณ์ฝังตัวหลากหลายประเภท ล่าสุดไมโครซอฟท์สาธิตการใช้งานของ Windows 10 IoT Core ที่น่าสนใจ นั่นคือใช้ "แยกแยะใบหน้าแมว"
โครงการนี้เป็นตัวอย่างการพัฒนาอุปกรณ์ฝังตัว โดยไมโครซอฟท์นำบอร์ด MinnowBoard MAX ร่วมกับกล้องเว็บแคมและเซ็นเซอร์อีกจำนวนหนึ่ง มาทำเป็นประตูกั้นแมว ที่มีฟีเจอร์อนุญาตให้แมวที่รู้จักเท่านั้นผ่านเข้ามาในประตูได้
ฝั่งของซอฟต์แวร์ใช้ OpenCV ประมวลผลภาพจากกล้องเว็บแคม เทียบกับภาพแมวในระบบว่าตรงกันหรือไม่ ถ้าหากเป็นแมวที่ถูกต้อง ประตูก็จะเปิดให้แมวเข้าได้นั่นเอง
บริการอีกกลุ่มที่ AWS พยายามบุกตลาดมาตั้งแต่ปีที่แล้วคือตลาด IoT ที่มีการเปิดตัว AWS IoT Device SDK ตอนนี้ก็หันมาพัฒนาระบบปฎิบัติการทั้งชุดของตัวเอง เป็น Amazon FreeRTOS ที่พัฒนาต่อมาจาก FreeRTOS ตัวเดิม พร้อมก้บขยายบริการด้าน IoT ออกไปจนถึงการจัดการอุปกรณ์และการประมวลผลข้อมูลจาก IoT
Xiaomi ประกาศเปิดตัวบอร์ด ESP32 ของตัวเองในงาน Xiaomi IoT Developer Conference พร้อมกับ SDK โอเพนซอร์สตัวใหม่ โดยตัวบอร์ดมีราคา 15 หยวนหรือประมาณ 80 บาทเท่านั้น
ตอนนี้ตัว SDK ยังมีแค่ repository ใน GitHub แต่ยังไม่มีโค้ดอะไรออกมา ระบุเพียงสัญญาอนุญาตเป็น Apache 2.0 เท่านั้น ขณะที่ตัวบอร์ดใช้โมดูล ESP-WROOM-320
เอกสารของ Xiaomi ระบุว่าการสั่งซื้อมีสองแบบคือแบบนักพัฒนาที่ซื้อปลีกไม่กี่บอร์ด และแบบซื้อเพื่อผลิตสินค้า จะเป็นการซื้อ 500 บอร์ดขึ้นไป
Baidu และ Xiaomi ประกาศความร่วมมือกันพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และ Internet of Things อย่างเป็นทางการในงานประชุมนักพัฒนาที่จัดโดย Xiaomi ณ กรุงปักกิ่ง
ทั้งสองระบุว่าเป็นการร่วมมือโดยเน้นเรื่อง voice recognition, deep learning และ computer vision ที่ซึ่ง
Baidu อาจนำไปต่อยอดใน หุ่นยนต์ AR, VR และรถยนต์
ทั้งสองบริษัทมีการร่วมกันทำงานมาก่อนหน้านี้แล้วคือ Baidu มีแพลตฟอร์ม AI ของตัวเองในชื่อ DuerOS ซึ่งปรากฎในผลิตภัณฑ์ของ Xiaomi บางรุ่นด้วย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ออกมาประกาศความร่วมมือกันอย่างเป็นทางการ
Dell Technology ประกาศตั้งแผนกใหม่ควบคุมงานและการลงทุนด้าน IoT ทั้งหมด เพิ่มเงินลงทุนอีก 1 พันล้านดอลลาร์ในรอบ 3 ปีในผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น ห้องปฏิบัติการ ระบบนิเวศน์และโปรแกรมคู่ค้าใหม่สำหรับ IoT พร้อมทั้งประกาศยุทธศาสตร์ Distributed Core โมเดลใหม่ในการประมวลผลเพื่อรุกตลาด IoT
เมื่อเร็วๆ นี้เราเพิ่งเห็น GE ประกาศความร่วมมือกับแอปเปิล ทำแอพที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรม ล่าสุด GE ประกาศความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ในด้าน IoT ตามมา
GE มีซอฟต์แวร์สำหรับวิเคราะห์ข้อมูล IoT ชื่อว่า Predix ทำตลาดมาได้สักระยะแล้ว ความร่วมมือกับไมโครซอฟท์จะเป็นการสร้างแอพ Predix บนคลาวด์ Azure เพื่อขยายบริการไปยังลูกค้าทั่วโลกได้ง่ายขึ้น เพราะ Azure มีศูนย์ข้อมูลกระจายอยู่ทั่วโลกแล้ว
GE บอกว่าโลกของ IoT มีขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์หลักพันล้านชิ้น จึงต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยให้ดีตั้งแต่ต้นทางไปยังคลาวด์ โดยไมโครซอฟท์จะเป็นฝ่ายอยู่บนคลาวด์คอยรับข้อมูล แต่ระหว่างทางก็เป็นงานของ GE ที่ต้องออกแบบเรื่องนี้ให้ดีด้วย
ปัญหาเรื่องความปลอดภัยของอุปกรณ์ IoT ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีประเด็นปลีกย่อยตั้งแต่การอัพเดตซอฟต์แวร์ ไปจนถึงส่วนประกอบจากผู้ผลิตหลายรายที่มีความซับซ้อนสูง
บริษัท ARM ในฐานะผู้ผลิตหน่วยประมวลผลรายสำคัญของโลก IoT จึงเสนอกรอบการทำงานด้านความปลอดภัย (common industry framework) เพื่อให้ผู้ผลิตรายต่างๆ ในแวดวง IoT ร่วมมือกันได้ง่ายขึ้น
ARM เรียกกรอบการทำงานนี้ว่า Platform Security Architecture (PSA) โดยครอบคลุมการทำงานหลายส่วน ตั้งแต่ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริษัทด้านความปลอดภัย ระบบเครือข่าย ไปจนถึงผู้ให้บริการคลาวด์ และมีบริษัทที่เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก เช่น NXP, Renesas, Symantec, Google, Microsoft, AWS, Baidu, Alibaba
ในขณะที่ Walmart กำลังทดลองระบบนี้ Amazon ก็เปิดตัวก่อน โดยเปิดบริการใหม่ Amazon Key แก่สมาชิก Prime ส่งของถึงบ้านลูกค้าถึงในบ้านแม้ลูกค้าไม่อยู่บ้าน มีข้อแม้ว่าลูกค้าต้องติดตั้งระบบ Amazon Cloud Cam กล้องวงจรปิดความละเอียดสูง และสมาร์ทล็อกเพื่อให้ลูกค้าดูความเคลื่อนไหวของสินค้าที่มาส่งในบ้าน ในราคาเริ่มต้น 250 ดอลลาร์
เมื่อคนส่งสินค้านำสินค้ามาส่ง ระบบจะแจ้งเตือนไปยังโทรศัพท์ของลูกค้า และสามารถจับตาดูกระบวนการส่งสินค้าผ่านแอพแบบเรียลไทม์
งานสัมมนาสำหรับนักพัฒนา Samsung Developer Conference 2017 จบลงไปแล้ว โดยตัวงานตั้งแต่ธีม Connected Thinking ไปจนคีย์โน้ตและการจัดแสดงบูธภายในงานล้วนโคจรอยู่รอบแนวคิด Connected Device, IoT และ Bixby
ถึงแม้ก่อนหน้านี้เราจะเห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันด้าน IoT และ Connected Device ของซัมซุงไปเนืองๆ ไม่ว่าจะ Smart Thing Hub, ARTIK ฯลฯ แต่ SDC 2017 ครั้งนี้ได้สะท้อนความพยายามของซัมซุง ไปจนถึงนับเป็นหลักไมล์ในการเริ่มสร้าง ecosystem สำหรับสมาร์ทโฮมและ Connected Devices ขึ้นมาแข่งกับ Google, Amazon ไปจนถึง Apple (ที่เริ่มก่อนชาวบ้านแต่ ecosystem โตช้าสุด) อย่างเต็มตัว
บทความนี้จะพยายามสะท้อนความพยายามดังกล่าวของซัมซุงจากงาน SDC 2017 ครั้งนี้ให้ออกมาเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
งาน Samsung Developer Conference 2017 วันนี้ ซัมซุงประกาศรวมแพลตฟอร์มและโซลูชัน IoT ที่มีทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นฝั่งฮาร์ดแวร์ Samsung Connect, คลาวด์ Artik Cloud และโซลูชัน SmartThing เอาไว้ภายใต้แบรนด์ SmartThings Cloud
SmartThings Cloud เป็นแพลตฟอร์ม IoT แบบเปิด ทำให้รองรับอุปกรณ์และโซลูยี่ห้ออื่นๆ ด้วย ไม่เฉพาะแต่ของซัมซุงอย่างเดียว ซึ่งการรวมโซลูชัน IoT ของซัมซุงให้มาอยู่ภายใต้แพลตฟอร์มเดียวกันทั้งหมดครั้งนี้ ดูจะทำให้ซัมซุงได้เปรียบแพลตฟอร์มอื่นๆ เล็กน้อย โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาในแง่ที่ว่าซัมซุงมีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เป็นของตัวเอง
ทั้งนี้ซัมซุงยังไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เกี่ยวกับ SmartThings Cloud มากนัก นอกจากว่าน่าจะได้เห็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่รองรับในช่วงปีหน้า
Jack Ma ประธานบริหารกลุ่ม Alibaba ประกาศในคีย์โน้ตงานสัมมนา The Computing Conference 2017 เปิดตัวโครงการ Alibaba DAMO Academy ซึ่ง Alibaba จะลงทุนในการวิจัยและพัฒนา 1 แสนล้านหยวน หรือกว่า 5 แสนล้านบาท ภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า กับเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อค้นหาบุคลากรดาวรุ่ง และจัดตั้งสำนักงานวิจัยใน 7 เมืองทั่วโลก
Kakao Mobility บริษัทลูกในเครือของ Kakao ต้นสังกัดของแอปแชทจากเกาหลี ประกาศความร่วมมือกับสนามบินนานาชาติ Incheon ของเกาหลีใต้ ในการนำข้อมูลต่างๆ ของสนามบินมาพัฒนาระบบการเดินทางไปยังสนามบิน
โปรเจ็คแรกภายใต้ความร่วมมือนี้คือโซลูชันที่จอดรถอัจฉริยะ โดยสนามบินจะแสดงข้อมูลที่จอดรถและสภาพการจราจรรอบๆ แบบเรียลไทม์ ก่อนจะแสดงผลบนแอปที่ยังไม่ประกาศชื่อของ Kakao ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวภายในปีนี้ และหากที่จอดรถของสนามบินเต็ม ตัวแอปจะนำทางไปยังอาคารจอดรถใกล้ๆ รวมถึงจัดการเรื่องค่าจอดให้ด้วย
ที่มา - ZDNet