ถึงแม้จะได้รับเสียงค่อนแคะเมื่อตอนเปิดตัวในปี 2012 จนเป็นเหตุให้ผู้บริหารลาออกกันมาแล้ว แต่วันนี้ Apple ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่า Apple Maps กลับมาผงาดอีกครั้ง ด้วยจำนวนผู้ใช้บน iOS ที่สูงกว่า Google Maps ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

แม้ว่า Project Astoria จะถูกเลื่อนโดยไม่มีกำหนดไปแล้ว แต่ก็ยังมีข่าวดีอยู่บ้างที่เพื่อนร่วมโครงการ Windows Bridge ทางฝั่ง iOS อย่าง Project Islandwood ได้เปิดให้นักพัฒนาทั่วไปเข้าทดสอบกันได้แล้วครับ

เพิ่งมีข่าวลือว่าไมโครซอฟท์ประสบปัญหากับ Project Astoria (Windows Bridge for Android) จนอาจต้องเลื่อนหรือยกเลิกโครงการ

แต่ฝั่งของ Project Islandwood (Windows Bridge for iOS) ที่มีความซับซ้อนน้อยกว่ามาก เนื่องจากเป็นโค้ดแบบเนทีฟเหมือนกัน เพียงแค่แปลงโค้ดมาคอมไพล์บน Windows เท่านั้น ก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว

ไมโครซอฟท์ระบุว่าหลังเปิดซอร์สโค้ด Islandwood บน GitHub ก็ได้เสียงตอบรับอย่างดี มีนักพัฒนา fork repo ไปกว่า 500 คน และช่วยกันแจ้งบั๊กกว่า 200 จุด ซึ่งไมโครซอฟท์กำลังดำเนินการแก้ไขอยู่

ในแวดวงผู้สนใจวิชาการออกแบบและ usability คงไม่มีใครไม่รู้จัก Don Norman ผู้เขียนหนังสือคลาสสิค The Design of Everyday Things และ Bruce Tognazzini หรือ "Tog" ผู้เขียนหนังสือ Tog on Interface

ทั้งสองคนเคยเป็นพนักงานของแอปเปิลในยุคต้นๆ และมีบทบาทอย่างสูงเรื่องการบุกเบิกวิชาออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้แบบ GUI ที่เป็นของใหม่ในยุคนั้น ตัวของ Tog เข้ามาทันยุคสตีฟ จ็อบส์ช่วงแรก ผลงานสำคัญของเขาคือเขียนเอกสาร Apple Human Interface Guidelines ที่เป็นคำแนะนำด้านการออกแบบ GUI บนระบบปฏิบัติการแมคอินทอช ส่วน Don ตามเข้าแอปเปิลมาทีหลัง แต่ก็เป็นพนักงานแอปเปิลคนแรกที่มีคำว่า User Experience อยู่ในชื่อตำแหน่ง

Chrome for Android มีรุ่น Beta Channel มานานพอสมควร คราวนี้กูเกิลขยายระบบการทดสอบมายัง Chrome for iOS ด้วย

กูเกิลใช้ระบบทดสอบ TestFlight ของแอปเปิลเพื่อแจกจ่ายซอฟต์แวร์รุ่น Beta ผู้สนใจต้องลงทะเบียนอีเมลผ่านหน้า Chrome Beta (เลือกคำว่า iOS ตัวเล็กๆ) และติดตั้งแอพ TestFlight จาก App Store ก่อน

Chrome for iOS Beta ตอนนี้มีเลขเวอร์ชัน 47.0.2526.53 มีฟีเจอร์ใหม่คือรองรับ 3D Touch ของ iPhone 6s และรองรับปุ่มช็อตคัตเปิดปิดแท็บ บนคีย์บอร์ด Bluetooth

ที่มา - Google Operating System

ไมโครซอฟท์เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าร่วมทดสอบ Cortana บน iOS แล้ว แต่ผู้ที่สนใจจะต้องทำแบบสอบถามจากไมโครซอฟท์เสียก่อน และจำนวนที่รับก็มีจำกัด โดยฟีเจอร์บางส่วนและการเรียกใช้งานด้วยการพูดว่า "Hey, Cortana" จะยังไม่มีให้ใช้ในเวลานี้ ส่วนการทดสอบจะเริ่มต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนก่อน

ใครที่สนใจก็ไปตอบแบบสอบถามได้ ที่นี่

ที่มา - Windows Central

เมื่อวันก่อน Trend Micro รายงานถึง Moplus SDK ที่เปิดช่องทางให้ควบคุมโทรศัพท์มือถือจากภายนอกได้ วันนี้ทาง FireEye ก็ออกรายงานคล้ายกันถึง mobiSage SDK ไลบรารีโฆษณาจาก adSage ในจีน ที่เปิดช่องทางลับให้เซิร์ฟเวอร์โฆษณาสามารถเข้าควบคุมเครื่องได้มากกว่าการโฆษณาตามปกติ

ตามที่ Zerodium บริษัทรับซื้อช่องโหว่ซอฟต์แวร์เคยประกาศซื้อช่องโห่วของ iOS 9 ไว้ตั้งแต่ช่วงปล่อยดาวน์โหลดโดยให้รางวัลสูงถึง 1 ล้านเหรียญแลกกับสิทธิ์การใช้งานแต่เพียงผู้เดียว ล่าสุดทาง Zerodium ออกมายุติการรับซื้อ พร้อมทั้งประกาศว่ามีผู้คว้ารางวัลที่ว่าไปแล้ว

ผู้ทำล้านแตกในครั้งนี้เป็นทีมนักวิจัยที่พบช่องโหว่ใน iOS 9.1 และ 9.2 beta โดยสามารถรีโมตผ่านเบราว์เซอร์เพื่อเจลเบรกอุปกรณ์ iOS ได้ตามข้อกำหนดที่ Zerodium วางไว้ตั้งแต่ต้น

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดต Outlook แอพเมลของตัวเองในเวอร์ชัน iOS ปรับปรุงหน้าตาของแอพใหม่ทำให้สามารถทำอะไรได้มากขึ้น ด้วยการแตะที่น้อยลง โดยผู้ใช้สามารถอัพเดตได้วันนี้

ส่วนทางด้านฝั่ง Android จะมีการปรับปรุงหน้าตาของแอพในช่วงเดือนหน้า ซึ่งจะออกแบบให้เป็นไปตามแนวทาง Material Design ของกูเกิลมากขึ้น

ส่วนทางด้านการรวมฟีเจอร์จาก Sunrise Calendar ที่ได้เข้าซื้อไปในช่วงต้นปี ทางไมโครซอฟท์เผยว่ากำลังนำความสามารถของแอพจาก Sunrise เดิม โยกมาสู่ Outlook และเมื่อทำเรียบร้อย ก็จะถอดแอพ Sunrise Calendar เดิมออกจากหน้าร้านค้าแอพ

Facebook ออกมายอมรับว่าแอพ Facebook for iOS มีปัญหาบางจุดส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วเกินไป โดยปัญหาที่พบได้แก่

• ปัญหา CPU spin จากโค้ดส่วนเชื่อมต่อเครือข่าย ส่งผลให้ซีพียูถูกใช้งานมากเกินไป และมีผลต่อแบตเตอรี่
• ปัญหาการทำงานของระบบเสียง โดยแอพจะเปิดการทำงานของเสียง (audio session) ค้างไว้แม้ไม่ได้ใช้งานแล้ว (เล่นเสียงเงียบ แต่ถือว่ายังทำงานอยู่) ทำให้เปลืองแบตเตอรี่

Facebook บอกว่าปล่อยอัพเดตบั๊กทั้งสองจุดแล้ว ซึ่งจะทำให้แอพประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น พร้อมอธิบายว่าปัญหาทั้งสองข้อไม่เกี่ยวกับการตั้งค่า Location History แบบที่บางเว็บคิดว่าเป็นต้นเหตุ ดังนั้นการเปลี่ยนค่า Location History ย่อมไม่มีผลอะไรกับแบตเตอรี่

Google Search มีฟีเจอร์ App Indexing ทำดัชนีเนื้อหาภายในแอพเพื่อให้ถูกค้นเจอจาก search มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว (ข่าวเก่า) ฟีเจอร์นี้เริ่มจากบน Android แต่กูเกิลก็เคยประกาศไว้ว่าจะรองรับแอพบน iOS ด้วย

วันนี้กูเกิลประกาศว่าหลังจาก iOS 9 มีฟีเจอร์ HTTP deep link standard แบบเดียวกับฝั่ง Android ทำให้นักพัฒนาสามารถรองรับฟีเจอร์ App Indexing ของกูเกิลได้ง่ายขึ้น ขั้นตอนคือพัฒนาแอพโดยใส่ Universal Links ตามแนวทางของแอปเปิล และเชื่อมกับ SDK ของกูเกิล

Apple ได้ปล่อย iOS 9.0.2 ออกมาแล้ว ซึ่งรอบนี้ยังคงเน้นแก้บั๊กเช่นเดิม โดยมีการแจ้งรายละเอียดไว้ดังนี้

• แก้บั๊กการเปิดหรือปิดการใช้งานข้อมูลเครือข่ายสำหรับแอพ
• แก้บั๊กที่ทำให้ไม่สามารถเปิดใช้งาน iMessage สำหรับผู้ใช้บางคน
• แก้บั๊ก iCloud backup ขาดตอนเมื่อใช้งาน backup ด้วยตัวเอง
• แก้บั๊กหน้าจอหมุนผิดแบบตอนได้รับการแจ้งเตือน
• ปรับปรุงความเสถียรของ Podcasts

นอกจากนี้ Apple ยังปล่อย iOS 9.1 beta 3 สำหรับนักพัฒนาด้วย

ผู้ใช้ Apple Watch กำลังมีทางเลือกที่มากกว่าแค่ Apple Maps หากต้องการใช้แผนที่หรือตัวช่วยนำทางบนข้อมือตัวเอง เมื่อ Google ได้อัพเดต Google Maps บน iOS ให้รองรับ Apple Watch แล้ว

Google Maps บนข้อมือนั้นไม่ได้มีความสามารถมากเท่า Apple Maps ในการแสดงแผนที่ทั้งหมด เพราะ Google Maps นั้นมีให้แค่ 3 ตัวเลือกคือเส้นทางกลับบ้าน เส้นทางไปที่ทำงาน และเส้นทางล่าสุด ขณะเดียวกันหากผู้ใช้เลือกระบบนำทางจากแอพบน iPhone บนข้อมือก็ยังคงแสดงเส้นทางไปยังเป้าหมายเช่นกันเดียว

Google Keep แอพจดบันทึกของกูเกิล ลงแพลตฟอร์ม iOS เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้งานได้ทั้งกับ iPhone และ iPad (App Store)

หน้าตาและความสามารถก็เหมือนกับเวอร์ชัน Android ทุกประการ จดโน้ตได้ ตั้งเวลาเตือนได้ แชร์โน้ตให้เพื่อ

มัลแวร์ XcodeGhost ถูกค้นพบมาไม่กี่วัน แม้แอปเปิลจะเร่งถอนแอปเหล่านี้ออกจาก App Store ไปแล้วหลายร้อยตัว ทาง FireEye ก็ออกมาระบุว่าตอนนี้พบแอปที่ติดมัลแวร์เฉพาะใน App Store แล้วมากกว่า 4,000 รายการ

ทาง FireEye เตือนว่า แม้ว่าตอนนี้เซิร์ฟเวอร์สั่งการของ XcodeGhost จะถูกปิดไปแล้ว แต่ตัวมัลแวร์ก็ยังยิง HTTP ออกอินเทอร์เน็ตเพื่อรับคำสั่ง จึงมีความเสี่ยงที่การเชื่อมต่อถูกดักโดยแฮกเกอร์แล้วยิงคำสั่งเข้าสวมรอยแทน ตอนนี้องค์กรควรอัพเดตไฟร์วอลให้แจ้งเตือนเมื่อมีเครื่องในองค์กรติดมัลแวร์และพยายามติดต่อกลับ ในกรณีของ FireEye คือ FireEye NX สามารถตรวจสอบการเชื่อมต่อได้แล้ว

แอปเปิลออกมาเผยข้อมูลว่าอัตราการอัพเกรด iOS 9 รวดเร็วเป็นประวัติการณ์ (fastest iOS adoption ever) แซงหน้า iOS รุ่นพี่ๆ และผ่านมาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ ตอนนี้อุปกรณ์ iOS จำนวน 50% จากทั้งหมดอัพเกรดมาเป็น iOS 9 เรียบร้อยแล้ว

แอปเปิลจะเริ่มวางขาย iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ในสหรัฐอเมริกาวันศุกร์นี้ (25 กันยายน) ทั้งผ่านร้าน Apple Store, ตัวแทนจำหน่าย และร้านของโอเปอเรเตอร์ในสหรัฐ

ที่มา - Apple

ZERODIUM บริษัทรับซื้อช่องโหว่ซอฟต์แวร์ที่ก่อตั้งโดยผู้ก่อตั้ง VUPEN ประกาศรับซื้อช่องโหว่สำหรับ iOS 9 ที่เจาะผ่านเบราว์เซอร์หรือ SMS/MMS และทำให้เครื่องสามารถเข้าถึงจากระยะไกลได้โดยผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่าการเปิดเว็บหรือข้อความ เงินค่าช่องโหว่ชุดละล้านดอลลาร์ รวมเงินไม่เกินสามล้านดอลลาร์

ช่องโหว่จะต้องเป็นชุดพร้อมใช้ สามารถฝ่าระบบป้องกัน เช่น ASLR, sandbox, หรือกระบวนการตรวจสอบการบูตได้ และช่องโหว่ต้องรองรับทั้ง iOS รุ่น 32 บิตและ 64 บิต สามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ ได้แก่ iPhone 6/6s, iPhone 5/5s/5c, iPad Air 2, iPad Air, iPad 3, iPad 4, iPad mini 2, iPad mini 4

เวอร์ชัน iOS ด้วย

XcodeGhost อาศัยช่องว่างที่ว่าไฟล์ Xcode ของแอปเปิลมีขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาดาวน์โหลดนาน นักพัฒนาในประเทศจีนจึงใช้วิธีดาวน์โหลดจาก mirror ในประเทศแทน ซึ่งทำให้แฮ็กเกอร์แก้แพ็กเกจของ Xcode โดยฝังมัลแวร์ลงไปด้วย (อยู่ในส่วน CoreServices)

Xcode เวอร์ชันฝังพิษจะแอบฝังโค้ดของตัวเองลงในแอพ iOS ตอนคอมไพล์ แอพเหล่านี้จะแอบดึงข้อมูลในเครื่องผู้ใช้ แล้วส่งกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮ็กเกอร์

แอปเปิลได้ปล่อยแอพ Move to iOS ซึ่งถือเป็นแอพบน Android ตัวแรกของบริษัทลงใน Play Store ไปเรียบร้อยแล้วตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ พร้อมกับการออก iOS 9 โดย Move to iOS เป็นแอพอำนวยความสะดวกในการย้ายข้อมูลจากมือถือ Android ไปไว้บนอุปกรณ์ iOS นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแอพนี้ถือเป็นการเข้ามาเชื้อเชิญผู้ใช้ Android ให้ออกไปอยู่กับ iOS แบบถึงหน้าบ้าน ผลก็คือคะแนนรีวิวแอพนี้ใน Play Store จึงถูกรุมให้ 1 ดาว จำนวนมาก โดยล่าสุดคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.7 จากผู้รีวิวเกือบ 16,000 คน

ตามกำหนดการของแอปเปิลจะปล่อยอัพเดต iOS 9 และ watchOS 2 รุ่นสมบูรณ์คืนนี้ แต่ watchOS 2 มีเหตุต้องเลื่อนเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากพบบั๊กที่แก้ไขไม่ทัน ทำให้แอปเปิลประกาศว่าจะไม่ปล่อยอัพเดต watchOS 2 ในวันพรุ่งนี้แน่นอนแล้ว ใครที่ใช้อยู่ต้องรอต่อไปอีกสักพักหนึ่ง

ส่วน iOS 9 จะยังออกตามกำหนดเดิม โดยตรงกับเวลาช่วงเที่ยงคืนของบ้านเราครับ (คืนนี้) รายละเอียดของ iOS 9 ว่ามีอะไรใหม่บ้าง อ่านได้จาก ข่าวเก่า

ผู้พัฒนาแอพด้านการเล่นวิดีโอชื่อดัง 2 ราย ประกาศทำแอพลง Apple TV รุ่นใหม่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ tvOS แล้ว

รายแรกคือ VLC ออกมาประกาศว่าเริ่มพอร์ตโค้ดของ VLC for iOS ให้ทำงานกับ tvOS แล้ว ตอนนี้งานยังเพิ่งเริ่มต้นแต่แอพเวอร์ชันแรกสามารถเล่นวิดีโอบน tvOS ได้แล้ว

รายที่สอง Plex ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเราจะได้เห็น Plex บน tvOS อย่างแน่นอน โดยก่อนหน้านี้ Plex เคยใช้งานได้กับ Apple TV รุ่นก่อนๆ แต่ต้อง jailbreak เครื่องก่อนเท่านั้น

ที่มา - VLC, MacRumors

ผู้ใช้ Twitter for iPad คงทราบกันดีว่าประสบการณ์การใช้งานและความสามารถเป็นรองเวอร์ชัน iPhone มาโดยตลอด (เพราะในความเป็นจริงถือเป็นแอพคนละตัว คนละทีมกัน) แต่วันนี้ Twitter ประกาศปรับปรุงแอพครั้งใหญ่ หลอมรวมแอพทั้งสองตัวเป็นเวอร์ชันเดียวกันคือ Twitter for iOS

Twitter for iOS จะใช้ UI แบบ responsive ปรับตัวเองตามขนาดหน้าจอ รองรับทั้งจอใหญ่เล็ก แนวตั้ง-นอน (บริษัทเรียกว่า Adaptive UI) และรองรับฟีเจอร์ multitasking แบ่งจอรันแอพของ iOS 9 ด้วย ทางบริษัทบอกว่าต้องปรับตัวเองใหม่หมดตั้งแต่หลักคิดไปจนถึงสถาปัตยกรรมโค้ด โครงการนี้เริ่มมาได้สักระยะแล้ว และจะเริ่มปล่อยอัพเดตให้แล้ว (คาดว่าน่าจะแถลงหรือนำมาโชว์ในงานแอปเปิลคืนนี้ด้วย)

Firefox ได้เปิดตัวเวอร์ชัน public preview สำหรับ iOS โดยตอนนี้ยังเปิดให้ทดสอบเฉพาะผู้ใช้ในนิวซีแลนด์ก่อน และจะค่อยๆ ขยายพื้นที่ทดสอบไปเรื่อยๆ เพื่อเก็บผลตอบรับจากผู้ใช้มาปรับปรุงความฟีเจอร์และความเสถียรของเบราว์เซอร์ก่อนเปิดตัวเวอร์ชันจริง โดย Firefox บน iOS มีฟีเจอร์สำคัญหลายอย่าง เช่น

เว็บไซต์นิตยสาร Forbes รายงานข่าวโดยระบุว่า Palo Alto Networks บริษัทวิจัยด้านความปลอดภัย ได้ออกประกาศเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ระบุว่ามีการตรวจพบมัลแวร์ที่ชื่อ "KeyRider" แพร่ระบาดบนแพลตฟอร์มของ iOS โดยผู้ใช้งานที่จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ คือคนที่ทำการเจลเบรคอุปกรณ์สาย iOS นั่นเอง

รายงานข่าวระบุว่า มัลแวร์ตัวนี้ซึ่งสงสัยว่าอาจจะมีต้นทางมาจากจีน จะทำการดักเอา Apple ID ของผู้ใช้งาน แล้วส่งกลับไปยังแฮกเกอร์ หลังจากนั้นแฮกเกอร์จะนำเอา Apple ID ไปใช้งาน มากกว่านั้นคือมีความเป็นไปได้ที่จะแฮกเอาทั้งรหัสประจำตัวของโทรศัพท์และใบรับรองความปลอดภัยไป เพื่อเข้าถึงบริการอย่าง Apple Pay ด้วย โดยระบุว่ามีผู้ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 2 แสนราย

หลังจากที่มีข่าวว่ากูเกิลจะทำให้ Android Wear สามารถใช้งานร่วมกับ iOS ได้นั้น ล่าสุดกูเกิลได้ทำเสร็จตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว

โดยในวันนี้กูเกิลได้ปล่อยตัวเชื่อมต่อ Android Wear กับ iPhone ลงใน App Store อย่างเป็นทางการ โดยเงื่อนไขการใช้งานคือต้องใช้งานร่วมกับ iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 5c, iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่ใช้งาน iOS 8.2 ขึ้นไปเท่านั้น และเมื่อเชื่อมต่อเสร็จ ก็จะสามารถใช้งาน Android Wear ที่มีอยู่คู่กับ iPhone ได้ในทันที