นิตยสาร Macworld ได้คุยกับผู้บริหารแอปเปิล นาย Phil Schiller (รองประธานฝ่ายการตลาด), Craig Federighi (รองประธานฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์) และ Bud Tribble (รองประธานฝ่ายซอฟต์แวร์-เทคโนโลยี และหนึ่งในทีมริเริ่มออกแบบ Macintosh) เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีคอมพิวเตอร์ตระกูล Macintosh จากแอปเปิล โดยเนื้อหาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอนาคตของ Macintosh ในยุคที่สินค้าตระกูลของแอปเปิลอย่างไอโฟน และไอแพ็ด ถูกคนทั่วไปให้ความสำคัญมากกว่า

ใจความจากบทสัมภาษณ์พอสรุปได้ตามนี้ครับ

สำหรับวันที่ 24 มกราคม 1984 ในอดีตนั้นเป็นวันเปิดตัว Macintosh รุ่นแรกของ Steve Jobs ซึ่งเวลาล่วงเลยมา 30 ปีพอดีแล้ว ทางแอปเปิลจึงได้ทำหน้าเว็บแรกฉลองโอกาสการครบรอบการเปิดตัว Macintosh รุ่นแรกนี้ พร้อมข้อความว่า

สุขสันต์วันเกิด Mac

ในปี 1984 แอปเปิลได้เปิดตัว Macintosh

มันถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการใช้งาน และผู้ใช้สามารถใช้งานได้จริง

และมันมาพร้อมกับสัญญาที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ โดยนำเทคโนโลยีไปสู่มือของทุกคน

ซึ่งมันยังคงรักษาสัญญานั้นอยู่

วันนี้ เราได้สร้าง เชื่อมต่อ แบ่งปัน และเรียนรู้ในแบบที่เรานึกไม่ถึงเมื่อ 30 ปีที่ผ่านมา

ลองจินตนาการดู ว่าเราจะทำอะไรสำเร็จในอีก 30 ปีข้างหน้า

หลังจากที่ทีมงาน CyanogenMod เปิดให้ผู้ใช้งาน Windows ได้ใช้โปรแกรมช่วยติดตั้งรอม CyanogenMod อย่าง CyanogenMod Installer และปล่อยให้คนใช้ Mac และ Linux รอไปก่อน ล่าสุด ทีมงาน CyanogenMod เปิดให้ผู้ใช้ Mac สามารถใช้งาน CyanogenMod Installer ได้อย่างเป็นทางการแล้ว

ผู้ใช้ที่สนใจ สามารถดาวน์โหลด CyanogenMod Installer ได้แล้วที่นี่ แต่ก่อนที่จะดาวน์โหลด แนะนำให้ตรวจสอบอุปกรณ์ว่ารองรับ CyanogenMod Installer หรือไม่ครับ

แอปเปิลประกาศขาย Mac Pro รุ่นใหม่ของปี 2013 (ที่เปิดตัวในงาน WWDC 2013 และถูกเรียกกันว่ารุ่นกระติกน้ำ) ในวันนี้ 19 ธ.ค. ตามเวลาสหรัฐ

Mac Pro ดีไซน์ใหม่มีรุ่นพื้นฐานให้เลือก 2 รุ่นย่อยคือ

• Xeon E5 3.7GHz ควอดคอร์, แรม 12GB, PCIe flash 256GB, AMD FirePro D300 เริ่มต้นที่ 2,999 ดอลลาร์ (ประมาณ 1 แสนบาท)
• Xeon E5 3.9GHz หกคอร์, แรม 16GB, PCIe flash 256GB, AMD FirePro D500 เริ่มต้นที่ 3,999 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.3 แสนบาท)

นอกจากนี้ยังมีรุ่นสเปกสูงขึ้นคือ Xeon E5 แปดคอร์, แรมสูงสุด 64GB ให้เลือกสั่งซื้อเป็นพิเศษด้วย

Twitter ออก official client สำหรับแมคอินทอชเป็นเวอร์ชัน 3.0 โดยปรับฟีเจอร์ให้ทันกับ official client บนอุปกรณ์พกพา

• แสดงรูปภาพใน timeline แล้ว
• เมื่อคลิกที่ข้อความทวีต จะแสดงรายละเอียดของข้อความมากขึ้น เช่น รูปภาพ, จำนวน retweet/favorite
• แสดงภาพพื้นหลังในหน้า profile ของผู้ใช้แต่ละคน พร้อมรายละเอียดที่มากขึ้น เช่น จำนวน follower/following
• ปรับหน้าตาให้ดูเรียบขึ้น และแบนกว่าเดิม

ดาวน์โหลดได้จาก Mac App Store

ที่มา - Twitter Blog

ก่อนหน้านี้ Chrome Apps แอพแบบออฟไลน์ที่สร้างด้วย HTML5 และรันบน Chrome (ข่าวเก่า) ยังใช้ได้เฉพาะบนวินโดวส์และ Chrome OS เท่านั้น

ล่าสุดกูเกิลประกาศว่า Chrome Apps สามารถใช้งานกับ Chrome บนแมคได้แล้ว โดยเมื่อเราติดตั้ง Chrome Apps ตัวแรกก็จะเห็นไอคอนของ Chrome App Launcher โผล่ขึ้นมาใน Dock ของ Mac OS X (ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Chrome เวอร์ชันลินุกซ์จะได้ฟีเจอร์นี้เมื่อไร)

ถึงแม้ในสมรภูมิอุปกรณ์พกพา กูเกิลจะแข่งขันกับแอปเปิลอย่างดุเดือด แต่ในแง่การใช้งานคอมพิวเตอร์แล้ว กูเกิลกลับส่งเสริมให้พนักงานของตัวเองใช้แมคมากกว่าระบบปฏิบัติการอื่นๆ (ซึ่งนับรวม Chrome OS ของตัวเองด้วย)

ข้อมูลนี้มาจาก Clay Caviness และ Edward Eigerman วิศวกรของกูเกิลที่ไปพูดในงานสัมมนาด้านการดูแลระบบคอมพิวเตอร์ LISA '13 (Large Installation System Administration) ในหัวข้อ Managing Macs at Google Scale (วิดีโอฉบับเต็ม)

หลังจากได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงเรื่องความหละหลวมในการเก็บรักษารหัสผ่านเว็บไซต์และบริการต่างๆ บนตัวเว็บเบราว์เซอร์ ดูเหมือน Chrome เตรียมจะเพิ่มระบบยืนยันตัวตนของผู้ใช้เพื่อป้องกันการเข้าถึงบรรดารหัสผ่านทั้งหลายโดยง่ายแล้ว

Francois Beaufort จอมขุดคุ้ยข้อมูลเชิงลึกของโครงการ Chromium ที่ปัจจุบันเป็นพนักงานของ Google ได้เปิดเผยว่า Chromium สำหรับ Mac เวอร์ชันล่าสุดมีการสอบถามผู้ใช้ให้กรอกชื่อบัญชีและรหัสผ่านของผู้ใช้ Mac เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเข้าสู่หน้าแสดงรายการรหัสผ่านของเว็บต่างๆ ที่ Chrome ได้เก็บบันทึกไว้ (เป็นฟีเจอร์แบบเดียวกับเว็บเบราว์เซอร์ของ Apple อย่าง Safari)

แอปเปิลอัพเดตคอมพิวเตอร์ iMac ชุดใหม่ที่หน้าตาแบบเดิม แต่ปรับสเปกให้แรงขึ้นด้วยซีพียู Intel Core รุ่นที่สี่ (Haswell), รองรับ Wi-Fi 802.11ac, Fusion Drive ที่ใช้ flash storage รุ่นใหม่ เร็วขึ้นกว่าของเดิมสูงสุด 50%

ซอฟต์แวร์เดสก์ท็อปเสมือน Parallels Desktop สำหรับแมค ออกเวอร์ชันใหม่ 9.0 แล้ว ของใหม่ได้แก่

ข่าวดีสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังรอคอย SimCity สำหรับเครี่อง Mac มานานแสนนาน ณ ตอนนี้ทาง Origin ก็เปิดให้ ดาวน์โหลดตัวเกมและเปิดให้เล่นแล้วครับ ตามที่ ประกาศไว้

ส่วนสเปคขั้นต่ำจะต้อง

• ใช้ Mac OS X 10.7.5 ขึ้นไป (สำหรับคนที่ใช้ Intel HD Graphic 3000 ให้ใช้ 10.8.4 ขึ้นไป)
• แรม 2 GB ขึ้นไป
• ใช้ Intel Core 2 Duo ขึ้นไป
• ใช้ Intel HD Graphic 3000, Nvidia Geforce 9600M หรือ AMD Radeon HD 2600 Pro ขึ้นไป

ที่มา - EA Answer HQ

Parallels Desktop ซอฟต์แวร์จำลองสภาพการทำงานวินโดวส์บนแมค ออกรุ่นอัพเดต 8.0.18494 ซึ่งรองรับ OS X 10.9 Mavericks แล้ว

อย่างไรก็ตาม Parallels ยังไม่รองรับการติดตั้ง Mavericks ไว้บน VM ตัวใหม่ตรงๆ ผู้ใช้ต้องใช้วิธีสร้าง VM ที่ติดตั้ง OS X รุ่นก่อนหน้านั้นก่อน แล้วค่อยอัพเป็น Mavericks อีกทีหนึ่ง (สามารถใช้ฟีเจอร์อย่าง Snapshot ช่วยรักษาสถานะของ VM ก่อนอัพได้)

ที่มา - Apple Insider

แอปเปิลไม่ได้ประกาศข้อมูลในงาน WWDC ว่าฮาร์ดแวร์รุ่นใดบ้างที่สามารถใช้งาน OS X 10.9 Mavericks ได้ ซึ่งทางเว็บไซต์ AppleInsider รวบรวมข้อมูลมาได้ดังนี้

• iMac (Mid-2007 or later)
• MacBook (13-inch Aluminum, Late 2008), (13-inch, Early 2009 or later)
• MacBook Pro (13-inch, Mid-2009 or later), (15-inch, Mid/Late 2007 or later), (17-inch, Late 2007 or later)
• MacBook Air (Late 2008 or later)
• Mac Mini (Early 2009 or later)
• Mac Pro (Early 2008 or later)
• Xserve (Early 2009)

ในภาพรวมแล้ว สเปกขั้นต่ำที่ Mavericks ต้องการนั้นใกล้เคียงกับ OS X 10.8 Mountain Lion มาก โดยต้องใช้ซีพียูอินเทล 64 บิต, พื้นที่ว่าง 8GB ขึ้นไป

Camino เว็บเบราว์เซอร์โอเพนซอร์สบนแมค ประกาศสิ้นสุดโครงการแล้ว

โครงการ Camino เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 2002 ในสมัยที่เว็บเบราว์เซอร์หลักบนแมคคือ IE ตอนนั้นแม้ Firefox จะเริ่มรุ่งขึ้นมาในฐานะเบราว์เซอร์ทางเลือก แต่ก็ยังทำงานบนแมคได้ไม่ดีนัก ทีมงาน Camino จึงหยิบเฉพาะเอนจิน Gecko มาพัฒนาต่อโดยเขียน UI แบบ native เอง (เพื่อความเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการที่ดีขึ้น)

อย่างไรก็ตาม Camino ขาดทรัพยากรด้านนักพัฒนา อีกทั้งเบราว์เซอร์ตัวอื่นๆ ของแมคทั้ง Safari, Firefox, Chrome ก็พัฒนาเยอะกว่าเดิมมาก ทำให้ความจำเป็นของ Camino หมดลงไป และประกาศสิ้นสุดโครงการในที่สุด

ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวชุด Windows 8 QuickStart kit สำหรับนักพัฒนา iOS โดยเฉพาะ ทั้งนี้จุดประสงค์หลักก็คือ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักพัฒนาแอพพลิเคชันของฝั่ง iOS หันมาพัฒนาแอพพลิเคชันของฝั่ง Windows บ้าง เพื่อให้ตัว Windows Store มีแอพฯ ที่มีคุณภาพพอที่จะให้ผู้ใช้งานพอใจขึ้นมากก็เป็นได้

Computerworld ได้สังเกตว่า ราคาของ Office 2011 for Mac ใน Apple Online Store เพิ่มขึ้น 17% และเลิกขายไลเซนส์แบบกลุ่ม (multi-license) โดยราคาที่ปรับใหม่ มีดังนี้

• Home and Student Edition จากเดิม 119.95 ดอลลาร์ ขึ้นเป็น 139.95 ดอลลาร์
• Home and Business Edition จากเดิม 199.95 ดอลลาร์ ขึ้นเป็น 219.95 ดอลลาร์

การขึ้นราคา Office for Mac นั้น คงเป็นไปในแนวทางเดียวกับ Office บน Windows คือไมโครซอฟท์ตั้งใจที่จะผลักให้ลูกค้าไปใช้ Office 365 แทน ซึ่งมีค่าบริการ 99 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับใช้ในครอบครัว (ข่าวเก่า)

ข่าวสั้น 2 ข่าวครับ ผมขออนุญาตรวมข่าวเลยนะครับ

ข่าวแรก หลังจากที่ EA ได้เปิดทดสอบ Origin for Mac รุ่น Alpha ไปแล้วเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมาตามข่าวเก่า และวันนี้ (8 ก.พ.) เป็นวันที่เกมเมอร์ชาวแมคตั้งหน้าตั้งตารอคอย ทาง EA ได้ประกาศปล่อย Origin for Mac อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเกมเมอร์สามารถเข้าไปดาวน์โหลด Origin ได้จากที่มาเลยครับ

ที่มา: Origin

ข่าวที่สอง วันนี้ EA ได้ลดราคา The Sims 3 ภาคปกติ จากราคา 799 บาท เหลือเพียง 300 บาท เฉพาะวันนี้เท่านั้นถึงเวลา 23.59 น. ตามเวลา ICT ครับ

Valve ได้อัพเดตหน้า Hardware & Software Survey สำหรับเดือนมกราคม 2013 แสดงสถิติต่าง ๆ ของเครื่องที่ใช้ Steam ที่น่าสนใจคือส่วนแบ่งของระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน Steam และการเพิ่มลดในรอบ 1 เดือน มีดังนี้

ไมโครซอฟท์เพิ่งเปิดตัว Office 365 for Home Premium ไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ฝั่ง Windows คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก เพราะ Office เป็น Office 2013 มาให้ตั้งแต่ต้น แต่สำหรับฝั่ง Mac เนื่องจากปัจจุบันยังเป็น Office for Mac 2011 อยู่ และยังไม่มีข่าวของ Office for Mac 2013 อีก จึงทำให้ปัจจุบันเป็นเพียงแค่การอัพเดตไปเท่านั้น

ล่าสุดไมโครซอฟท์ได้ปล่อยอัพเดตเวอร์ชันใหม่ของ Office for Mac 2011 มาแล้ว คือเวอร์ชัน 14.3 ซึ่งมีการแก้ไขบั๊กพอสมควร และได้ปรับให้รองรับ Office 365 เต็มตัวเรียบร้อย โดยผู้ใช้ที่ซื้อสิทธิ์ Office 365 มาแล้ว สามารถติดตั้งโปรแกรมโดยใช้สิทธิ์ของ Office 365 ได้โดยตรงครับ

Blognone เสนอข่าวของ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11ac มาหลายครั้งแล้ว ล่าสุดมีข่าวลือจากเว็บไซต์ The Next Web รายงานว่าแอปเปิลเซ็นสัญญากับ Broadcom หนึ่งในผู้ผลิตชิป 802.11ac เตรียมนำ Wi-Fi รุ่นใหม่มาใช้กับเครื่องแมคในเร็วๆ นี้

802.11ac ถูก Broadcom โฆษณาว่าเป็น "5G Wi-Fi" โดยมีความเร็วในทางทฤษฏีสูงสุดที่ 1.3Gbps (ต้องใช้เสาอากาศสามเสา ทั้งภาครับและส่ง) เร็วกว่า 802.11n ในปัจจุบันที่มีความเร็วสูงสุด 450Mbps

ที่มา - The Next Web

ผู้อ่านหลายท่านคงจะเคยได้ยินชื่อ BlueStacks กันมาบ้างแล้วนะครับ โดย BlueStacks นั้นเป็นโปรแกรมบนแมคและพีซีที่จะทำให้คอมพิวเตอร์เราใช้แอพของแอนดรอยด์ได้ ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ มีแอพเพียง 17 แอพเท่านั้นที่รองรับ แต่วันนี้ทุกแอพบน Google Play นั้นสามารถใช้กับ BlueStacks ได้แล้วครับ

คุณสามารถดาวน์โหลด BlueStacks ได้ที่ http://bluestacks.com/

ที่มา: 9to5mac

ปล่อยรุ่น Alpha มาได้ราวครึ่งปี ตอนนี้ BlueStacks ออกแอพรุ่น Beta สำหรับ Mac ออกมาแล้ว

BlueStacks รุ่น Beta สำหรับ Mac เพิ่มการรองรับแอพเข้ามาอีกหลายตัว จากการทำงานร่วมกับนักพัฒนาอื่น อาทิ HalfBrick, Pulse หรือ Handygames เป็นต้น ตัวแอพดาวน์โหลดได้จากหน้าเว็บ BlueStacks ครับ

ส่วนเป้าหมายหลักของ BlueStacks ก็ยังคงเป็นการทำให้แพลตฟอร์มแอนดรอยด์นั้นถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกของนักพัฒนานั่นเอง

ที่มา - Android Central

จากข่าว iMac รุ่นใหม่กลับมาประกอบในสหรัฐอเมริกา? ล่าสุดข่าวนี้ได้รับการยืนยันแล้วจากทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล

ทิม คุก ให้สัมภาษณ์รายการ Rock Center ของสถานี NBC ในสหรัฐ ระบุว่าปีหน้า 2013 แอปเปิลจะนำแมคบางรุ่นกลับมาผลิตในอเมริกาเพียงประเทศเดียว อย่างไรก็ตามเขายังไม่บอกว่าแมครุ่นใดบ้างจะถูกนำมาผลิตในสหรัฐ

คุกบอกว่าเตรียมการเรื่องนี้มาหลายปี และการนำแมคกลับมาผลิตในสหรัฐช่วยให้เกิดการจ้างงานมากขึ้น ที่ผ่านมาแอปเปิลมีส่วนช่วยในการสร้างงานมากกว่า 600,000 ตำแหน่งแล้ว (ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่ลูกจ้างของแอปเปิล แต่รวมถึงงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และนับรวมนักพัฒนาแอพด้วย)

แอปเปิลปล่อยอัพเดต iWork ยกชุด ทั้งบนแมคและ iOS โดย iWork บนแมค จะเป็นการอัพเดตเล็กน้อย หลัก ๆ คือการปรับความเข้ากันได้กับ iWork บน iOS โดยอัพเดตนี้เป็นเวอร์ชัน 9.3 ซึ่ง Pages เป็นเวอร์ชัน 4.3, Numbers เป็นเวอร์ชัน 2.3 และ Keynote เป็นเวอร์ชัน 5.3 ซึ่ง iWork เวอร์ชันนี้รันได้บน OS X 10.7.4 ขึ้นไปเท่านั้น

ส่วนเวอร์ชัน iOS มีการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์หลายรายการ ทุกแอพได้เลขเวอร์ชัน 1.7

Pages for iOS

หลังจากแอปเปิลปล่อย OS X 10.8.2 ออกมาพร้อมกับ iOS 6 (ข่าวเก่า) ผู้ใช้ Mac mini รุ่นปี 2012 ที่เพิ่งเปิดตัวในงานเดียวกับ iPad mini โวยว่า ไม่สามารถอัพเดต OS X 10.8.2 ได้ (เข้าใจว่าติดเครื่องมาเป็น OS X 10.8.1) ตอนเช็คผ่านเมนู Updates ใน App Store ก็ไม่มีอะไรขึ้น เพราะแอปเปิลลบตัวอัพเดตออกไปอย่างไม่ทราบสาเหตุเมื่อวันศุกร์ หากดาวน์โหลดตัวอัพเดตมาลงเอง ก็จะขึ้นข้อความเตือนว่า "Error: OS X Update can’t be installed on this disk. This volume does not meet the requirements for this update."

ข้อผิดพลาดนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยคำแนะนำสำหรับผู้ใช้ Mac mini คืออยู่กับ OS X 10.8.1 ไปก่อน ไม่แน่ว่า แอปเปิลอาจข้ามไป OS X 10.8.3 เลยก็เป็นได้