GrabGas สตาร์ทอัพสัญชาติมาเลเซีย บริการส่งแก๊สหุงต้มผ่านแอพพลิเคชั่น ที่ได้รับรางวัลสตาร์ทอัพจาก Digi Accelerate (Digi เป็นบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายในมาเลเซีย ภายในเครือ Telenor) และได้รับเม็ดเงินลงทุนจาก Digi กว่า 62,000 ดอลลาร์

ล่าสุดทาง Digi ออกมาประกาศว่าจะไม่ลงทุนให้ GrabGas แล้ว ส่วนเหตุผลที่ Digi ขอหยุดไว้กลางทางนั้นไม่ใช่อะไรอื่น แต่เป็นปัญหาภายในของตัว GrabGas เอง

เว็บมาเลเซีย Amanz ระบุว่าพบเว็บโปรโมชั่นของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ Hotlink ที่เตรียมทำโปรโมชั่นในการเปิดตัว Pokemon Go ในเดือนหน้า โปรโมชั่นนี้จะร่วมกับ Grab ในการเดินทางอีกด้วย

โปรโมชั่น PokeMobile จะเปิดให้ผู้ใช้ผู้โชคดี (น่าจะสุ่มเลือกมา) สามารถเรียกรถ Grab ไปยัง PokeStop ที่ใกล้ที่สุดได้ฟรี และเทรนเนอร์ 20 คนแรกจะได้ PokeCoin เป็นมูลค่า 100 ดอลลาร์ ในระหว่างวันที่ 2-3 สิงหาคมนี้ (พรุ่งนี้แล้ว!)

เว็บเดิมแสดงอยู่ที่ https://www.hotlink.com.my/en/my-hotlink/do-more-with-hotlink/apps/hotlink-credit.html แต่ตอนนี้เข้าไม่ได้แล้ว และบน Google Cache ก็หายไปแล้วเช่นกัน

เมื่อวันจันทร์ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์คนขับรถแท็กซี่ในมาเลเซียกว่า 50 คน เข้าทำร้ายรถ Uber คันหนึ่ง ทันทีที่รับผู้โดยสารชาวอิหร่านสองคนจากสถานี KL Sentral โดยผู้โดยสารทั้งสองถูกลากลงจากรถ และหนึ่งในกลุ่มโจมตีนำหินทุ่มใส่กระจกรถแตก

ลูกค้าทั้งสองคนถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า เมื่อเหยื่อสามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยได้ ตำรวจจะสอบสวนทันที และไม่ปล่อยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลอยนวล อีกทั้งเตือนคนขับแทกซี่อื่นๆ ที่จะใช้ความรุนแรงว่าจะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายด้วยเช่นกัน

Grab เปิดตัว GrabHitch บริการคาร์พูลข้ามพรมแดนระหว่างสิงคโปร์และและเมือง Johor Bahru ของมาเลเซียไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ล่าสุดกรมการขนส่งทางบกสิงคโปร์ (Singapore Land Transport Authority - LTA) ออกมาระบุว่าบริการดังกล่าวผิดกฎหมาย

กรมการขนส่งฯระบุว่าเนื่องจากรถยนต์ที่จดทะเบียนในมาเลเซีย ไม่สามารถให้บริการแบบรับจ้างในสิงคโปร์โดยไม่มีใบอนุญาตได้ ผู้ที่ละเมิดอาจถูกปรับสูงถึง 3,000 เหรียญสิงคโปร์ (ราว 78,000 บาท) และจำคุกสูงสุด 6 เดือน เช่นเดียวกับทางฝั่งของมาเลเซียที่ไม่อนุญาตให้รถที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ไปวิ่งให้บริการในประเทศ

Grab ประกาศว่า GrabHitch ซึ่งเป็นบริการคาร์พูลที่เพิ่งเปิดทดลองใช้จะให้บริการขนส่งข้ามประเทศระหว่างสิงคโปร์และเมือง Johor Bahru ของมาเลเซีย และจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป

สำนักตรวจคนเข้าเมืองของทั้งสิงคโปร์และมาเลเซียประเมินตัวเลขผู้ที่เดินทางข้ามไปมาระหว่างสิงคโปร์และมาเลเซียผ่านทางถนน Woodlands Crossing อยู่ที่เฉลี่ยวันละ 400,000 คน โดยนอกจากจะทำให้รถติดแล้ว ผู้ที่เดินทางเข้าออกจะต้องเสียค่าผ่านทางด้วย

ผู้ใช้สามารถจอง GrabHitch ได้ล่วงหน้าตั้งแต่ 30 นาทีไปจนถึง 7 วัน โดยตัวแอพจะคำนวนราคาจากระยะทางและค่าผ่านทาง รวมถึงมีวิธีการชำระเงินเหมือนกับแอพอื่นๆ ของ Grab ครับ

เว็บไซต์ Tech in Asia รายงานว่ามีพ่อค้าออนไลน์บน Ensogo ของมาเลเซีย 2 รายมาร้องเรียนต่างกรรมต่างวาระกันว่า ไม่ได้รับเงินจาก Ensogo ทั้งที่เลยกำหนดชำระมาแล้ว อีกทั้งยังไม่มีการตอบกลับอีเมลจาก Ensogo และไม่สามารถติดต่อฝ่ายซัพพอร์ตผู้ขายได้

ขณะเดียวกันก็มีพ่อค้าอีกราย ที่ประสบปัญหานี้เช่นกัน แต่ทว่าได้รับการตอบกลับจาก Ensogo ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากบริษัทกำลังมีการปรับปรุงระบบ และยืนยันว่าปัญหาเรื่องการจ่ายเงินล่าช้านี้ ฝ่ายการเงินรับทราบแล้ว

ทั้งนี้โมเดล Ensogo คือลูกค้าจะจ่ายเงินผ่านทาง Ensogo ก่อนจะที่ไปถึงผู้ขาย ซึ่งแตกต่างจาก e-commerce เจ้าอื่นอย่าง ebay ที่ผู้ซื้อและผู้ขายทำธุรกรรมกันโดยตรง

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทางตำรวจของมาเลเซียได้บุกจับกุมตัวชายวัย 37 ปีคนหนึ่ง สืบเนื่องจากชายคนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความโจมตีราชวงศ์ของสุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ลงบน Facebook หลายข้อความ

ตำรวจได้ดำเนินการบุกจับกุมหลังได้รับรายงานว่าชายคนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความมุ่งร้ายต่อสุลต่านแห่งรัฐยะโฮร์ โดยข้อความดังกล่าวแสดงออกถึงความไม่พอใจการตัดสินใจของสุลต่านที่สั่งให้แบนบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่กำลังจะมาถึงนี้

ชายคนดังกล่าวจะถูกควบคุมตัวไว้ 4 วันในระหว่างถูกสอบสวน โดยทางตำรวจได้ตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเขาด้วย หากชายคนนี้ถูกดำเนินคดีและผิดจริง เขาอาจต้องติดคุกนานถึง 18 เดือน หรืออาจโดนโทษปรับเงินสูงสุด 20,000 ริงกิต (ประมาณ 167,000 บาท)

มีความเคลื่อนไหวเรื่องอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ของประเทศเพื่อนบ้านมาฝากกันครับ

ทางการมาเลเซียออกมาตรการใหม่เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนโดยจะให้มีการติดแท็ก RFID ไว้ที่รถยนต์ทุกคัน ประเดิมนำร่องกับรถยนต์ที่จะผ่านด่านยะโฮร์ (ข้ามไปสิงคโปร์) ในเดือนตุลาคมนี้

แท็ก RFID ดังกล่าวจะผนึกมากับสติ๊กเกอร์ที่ผู้เสียภาษีรถยนต์จะได้เอาไว้ติดที่กระจกหน้ารถ โดยแท็กดังกล่าวสามารถตรวจพบได้ด้วยอุปกรณ์ตรวจหาแท็กของเจ้าหน้าที่รัฐ (ซึ่งในอนาคตทางการมาเลเซียจะมีการใช้สัญญาณจากดาวเทียมเข้ามาร่วมใช้งานเพื่อการระบุตำแหน่งรถยนต์ด้วย) และหากใครคิดจะแกะมันออกหรือทำลายมัน ตัวแท็กก็จะสามารถส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปให้อุปกรณ์ตรวจหาในบริเวณใกล้เคียงทราบได้ด้วย

ซัมซุงเริ่มปล่อยอัพเดต Android 5.0 Lollipop ของ Galaxy S5 ให้ลูกค้าในมาเลเซียและรัสเซียแล้ว โดยใช้รหัส build เป็น G900FDXU1BNL3 (มาเลเซีย) และ G900FDXXU1BNL9 (รัสเซีย)

ก่อนหน้านี้ ซัมซุงออกอัพเดต Galaxy S5 ในยุโรป มาก่อนแล้ว โดยเริ่มที่โปแลนด์เป็นประเทศแรก หวังว่าลูกค้าเมืองไทยก็คงได้อัพเดตหลังจากนี้ไม่นานนะครับ

นอกจากนี้ยังมีอีเมลหลุดของซัมซุง ระบุว่าซัมซุงจะทยอยอัพเดต Lollipop ตั้งแต่เดือนมกราคม 2015 เป็นต้นไป โดยเว็บไซต์ Android Community รายงานว่า Galaxy S5 จะได้อัพเดตเป็นชุดแรก ตามด้วย Note 4/Note Edge, Note 3/S4 หลังจากนั้นเป็นคิวของแท็บเล็ตครับ

ประกาศไปก่อนหน้าแล้วว่าจะขยายตลาดไปยังหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปีนี้ Xiaomi ก็ประเดิมแผนนี้ด้วยการเริ่มขายสมาร์ทโฟนของตัวเองในมาเลเซียอย่างเป็นทางการแล้ว

สินค้าล็อตแรกที่ขายในมาเลเซียจะยังมีแค่ MI 3 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวปัจจุบันของบริษัท ซึ่งวางขายในราคา 889 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 9,000 บาท) ซึ่งขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาเพียง 17 นาทีเท่านั้น

นอกจาก MI 3 แล้ว Xiaomi บอกว่าจะพยายามเอารุ่นอื่นมาขายอีก โดยที่อยู่ในแผนแล้วคือ Redmi 1S สมาร์ทโฟนคุ้มราคารุ่นอัพสเปค มาขายในเดือนหน้า แต่ยังไม่ได้ประกาศราคาออกมาครับ

GrabTaxi ผู้ให้บริการเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพ ซึ่งมีให้บริการในกลุ่มประเทศเขตอาเซียนรวมทั้งประเทศไทยมาระยะหนึ่งแล้ว ได้เพิ่มบริการ GrabCar ซึ่งจะให้บริการโดยสารรถลิมูซีนคล้ายกับที่ Uber กำลังให้บริการในกรุงเทพมหานครอยู่ในขณะนี้

แต่เดิมผู้ที่ใช้บริการ GrabTaxi จะสามารถเรียกรถแท็กซี่ (ซึ่งเป็นรถที่ให้บริการรับจ้างโดยสารสาธารณะอยู่แล้ว) ให้มารับเพื่อพาไปส่งยังที่หมายได้โดยการเรียกผ่านแอพ ทว่าในตอนนี้ GrabTaxi ได้เพิ่มการให้บริการด้วยรถลิมูซีนด้วยเช่นกัน โดยประเดิมที่แรกในประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นบ้านเกิดของ GrabTaxi

ต่อจากข่าว Xiaomi บุกสิงคโปร์ด้วยมือถือ Redmi ทำตลาดระดับกลาง

ทางผู้บริหารของบริษัทนำโดยผู้ก่อตั้ง Lin Bin และ Hugo Barra ก็มาแถลงข่าวว่า จะวางขายมือถือระดับเรือธงรุ่นปัจจุบัน Xiaomi Mi-3 ในสิงคโปร์ด้วย ตั้งราคาที่ 419 สิงคโปร์ดอลลาร์ (11,000 บาท) เริ่มขาย 7 มีนาคมนี้ โดย Mi-3 รุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวกับในฮ่องกงและไต้หวันที่ไม่มี LTE ในตัว ซึ่ง Xiaomi กำลังทำมือถือใหม่ที่มี LTE และจะเปิดเผยในภายหลัง

โนเกียประกาศผ่านบล็อกอย่างเป็นทางการของโนเกีย (Nokia Conversations) ว่าตอนนี้ผู้ใช้โนเกียในประเทศมาเลเซีย, เวียดนาม และประเทศไทย (ข่าวเก่า) สามารถใช้บริการ Nokia Music ได้อย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผู้ใช้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่ซื้อเพลง, ฟัง Mix Radio รวมถึงสามารถสมัครบริการ Nokia Music+ ได้อีกด้วย (ค่าบริการในไทย 30 บาทต่อเดือน)

เมื่อสองวันที่ผ่านมาหน้าแรกของเว็บไซต์ google.com.my ซึ่งเป็นหน้าแรกของกูเกิลประเทศมาเลเซียถูกแฮกเปลี่ยนหน้าแรก (ปัจจุบันปกติแล้ว) โดยการแฮกผ่าน DNS ซึ่งกลุ่ม MadLEETS ยอมรับผ่านทางหน้าแฟนเพจใน Facebook เป็นคนลงมือแฮกเพื่อแจ้งเตือนความปลอดภัยเท่านั้น

ช่วงวันที่ถูกแฮก หน้าแรกของเว็บไซต์ google.com.my จะมีพื้นสีดำทั้งหมด มีความข้อความ "[!] Struck by 1337′" และ "Google Malaysia STAMPED by PAKISTANI LEETS", "Team MadLEETS" ส่วนด้านล่างของหน้าพบข้อความ "Pakistan Zindabad," ซึ่งมีความหมายถึงการเชิดชูปากีสถาน

Huawei เตรียมตั้งศูนย์ข้อมูลและขนถ่ายสินค้าในประเทศมาเลเซีย เพื่อให้บริการลูกค้าในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Huawei ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ร่วมกับ Khazanah Nasional นักลงทุนชาวมาเลย์ เตรียมเปิดศูนย์ข้อมูลและศูนย์กลางขนส่งสินค้าในเมือง Iskandar ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐ Johor ทางตอนใต้ของประเทศมาเลเซีย ไม่ห่างจากประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้จะมีทั้งส่วนสำนักงานและคลังสินค้าขนาด 90,000 ตารางฟุต

การตกลงเซ็นสัญญาได้ทำไปในช่วงที่ประธานาธิบดีของจีนเดินทางเยือนประเทศมาเลเซีย ทั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดเผยมูลค่าของการลงทุน แต่มีการระบุว่าผลพลอยได้ที่มาเลเซียจะได้รับคือจะก่อให้เกิดการจ้างงานกว่า 600 คน

มีการเปิดเผยรายงานจากเว็บไซต์ CommSec ในเครือธนาคารคอมมอนเวลธ์ ประเทศออสเตรเลีย ถึงราคา iPad ที่จำหน่ายทั่วโลก ผลปรากฏว่ามาเลเซียเป็นประเทศที่ซื้อได้ถูกสุดที่ $473.77 ส่วนประเทศที่ขายแพงที่สุดคืออาร์เจนตินา ราคาแพงถึง $1,094.11 มากกว่ามาเลเซียถึง 2 เท่า (ภาพเปรียบเทียบท้ายข่าว)

โดยที่มาเลเซีย iPad with Retina Display รุ่น Wi-Fi ความจุ 16GB เป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุด สำหรับประเทศไทยราคาของ iPad จะถูกเป็นอันดับ 10 ของโลก (ภาพประกอบขาดประเทศสหรัฐอเมริกา) แต่ยังแพงกว่า ฮ่องกง, ญี่ปุ่น หรือสิงคโปร์

VMware เตรียมลงทุนเพิ่มเติมในเอเชียแปซิฟิก เพื่อแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนในภูมิภาคนี้ แม้ทั้งสามตลาดนี้กำลังเติบโตในระดับ "สามหลัก" หรือนับเท่าตัว

ก่อนหน้านี้ VMware อาศัยการสอนออนไลน์ผ่าน Webex แม้จะได้ผลที่ดีแต่ผู้เข้าร่วมไม่สามารถรู้ได้ว่ามีใครร่วมเรียนอยู่บ้าง

ภายในสองเดือนข้างหน้า VMware จะสร้างบทเรียนที่เข้าถึงได้จากสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตเป็นภาษาท้องถิ่น

VMware ยังแชร์ข้อมูลว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เวียดนามและกัมพูชากำลังเป็นศูนย์สำหรับบริษัทญี่ปุ่น เช่น ที่พนมเปญนั้นกำลังสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ของบริษัทฮิตาชิอยู่

ใครกำลังเทรน VMware ก็ขอแสดงความยินดีที่จะได้อ่านภาษาไทยครับ

บ้านเรามีโครงการแท็บเล็ตนักเรียน ในมาเลเซียก็มีโครงการคล้ายๆ กันแต่เป็นโครงการโน้ตบุ๊กสำหรับนักเรียน โดยตัดสินใจใช้ Samsung Chromebook ล่าสุดมีการเปิดเผยข้อมูลความไม่ชอบมาพากลของโครงการนี้จาก Zairil Khir Johari ส.ส. ฝ่ายค้านของมาเลเซีย

ความไม่ชอบมาพากลสามประการที่ Johari ระบุคือการที่บริษัท YTL Corporation และบริษัทลูกในเครือได้รับงานทั้งหมดไป ได้แก่ เครือข่าย 4G สำหรับโรงเรียน มูลค่า 663 ล้านริงกิตสำหรับการบริการสองปีครึ่ง, ซอฟต์แวร์ระบบการเรียนการสอนแบบเสมือน ทั้งนักเรียนและครู 250.0 ล้านริงกิตสำหรับค่าพัฒนา และ 262.8 ล้านริงกิตสำหรับค่าบำรุงรักษา, และค่า Chromebook ราคา 1,200 ริงกิตต่อชุด

กูเกิลเริ่มวางขาย Chromebook ในเอเชียแล้ว โดยมาเลเซียและสิงคโปร์เป็น 2 ประเทศแรกที่มี Chromebook วางขายอย่างเป็นทางการ

มาเลเซียจะมีเฉพาะ Chromebook ที่ผลิตโดยซัมซุงเท่านั้น ขายในราคา 988 ริงกิต (ประมาณ 9,800 บาท) ส่วนสิงคโปร์มีขาย Chromebook จาก 3 บริษัทคือ เอเซอร์ (369 สิงคโปร์ดอลลาร์ ราว 8,800 บาท) เอชพี และซัมซุง (449 สิงคโปร์ดอลลาร์ ราว 10,700 บาท)

ที่มา - Tech in Asia

แพลตฟอร์มสิ่งพิมพ์ในรูปแบบดิจิตอลของไทย Ookbee ได้เปิดตัวในประเทศมาเลเซียเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว (iOS, Android) ซึ่งก็เริ่มต้นได้สวยงาม โดยคุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งได้เปิดเผยกับ Tech In Asia ว่า ตอนนี้มีผู้ใช้งานในประเทศมาเลเซียแล้วกว่า 100,000 คน โดยมีนิตยสารให้เลือก 40 ฉบับ และมีหนังสือของมาเลเซียอยู่ 5,000 เล่ม ซึ่งตัวเลขนี้มีการเติบโตทุกวัน

แนวทางการจ่ายเงินรางวัลเพื่อเรียกให้แฮกเกอร์มาช่วยกันหาบั๊กความปลอดภัยของ Chrome เป็นแนวทางที่กูเกิลใช้ในวงกว้างเป็นรายแรกๆ และประสบความสำเร็จอย่างสูง ในงาน Hack In The Box ที่มาเลเซียปีนี้กูเกิลจึงทำแนวเดิมอีกครั้งในการแข่ง Pwnium 2 โดยแบ่งการบุกรุกเป็นสามระดับ คือ บั๊กของ Chrome อย่างเดียวจ่าย 60,000 ดอลลาร์, บั๊กจาก Chrome ประกอบกับบั๊กของวินโดวส์จ่าย 50,000 ดอลลาร์, และบั๊กจากผู้ผลิตรายอื่นเช่น Flash จ่าย 40,000 ดออลาร์ แต่ทั้งหมดในงานจะจ่ายไม่เกินสองล้านดอลลาร์ ซึ่งคงไม่มีปัญหาอะไร เพราะงานเมื่อต้นปีที่ผ่านมา กูเกิลจ่ายไปเพียง 120,000 ดอลลาร์เท่านั้น

ปัญหากฎหมายอินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องที่ยังหาจุดสมดุลไม่ได้ในหลายๆ ประเทศ เช่นประเทศไทยเอง และเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียก็กำลังเจอกับปัญหานี้ เมื่อเว็บไซต์จำนวนมากนัดกัน "จอดำ" เหมือนเมื่อครั้งที่เว็บทั่วโลกทำเพื่อประท้วงกฎหมาย SOPA

ที่จริงแล้วมาตรา 114A ไม่ใช่กฎหมายคอมพิวเตอร์โดยตรงแต่เป็นกฎหมายว่าด้วย "หลักฐาน" ของการเผยแพร่ข้อมูล โดยกฎหมายนี้เป็นกฎหมายเดิมที่กำหนดมาตรฐานการใช้หลักฐานในคดีต่างๆ แต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมารัฐสภาของมาเลเซียได้แก้กฎหมายนี้จนเกิดเป็นมาตรา 114A ในปัจจุบัน ใจความของมันแบ่งออกเป็นสามส่วน และส่วนที่สี่คือนิยามคำตามกฎหมาย ได้แก่

ไม่ใช่ประเทศไทยเท่านั้นที่อยากให้นักเรียนในประเทศตัวเองมีแท็บเล็ตใช้กัน ล่าสุดบริษัท MalTechPro ได้ปล่อยแท็บเล็ตแบรนด์ประเทศตัวเอง 1MalaysiaPad (ตามนโยบาย 1Malaysia ของประเทศ) ออกมาวางขายที่ราคาเครื่องละ 999 ริงกิตมาเลเซีย หรือประมาณหนึ่งหมื่นบาทไทย สำหรับเครื่อง 5,000 เครื่องแรกที่จัดจำหน่าย โดยแท็บเล็ตดังกล่าวจะมาพร้อมกับหน้าจอ 7 นิ้วและรันระบบปฏิบัติการ Gingerbread

นอกจากนี้แท็บเล็ตดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G ได้ และมาพร้อมกับระบบ IM ของตัวเอง ที่ผู้ใช้สามารถจะใช้ส่งข้อความหาแท็บเล็ต 1MalaysiaPad เครื่องอื่น ๆ ได้ โดยจากในรายงานเชื่อว่าแท็บเล็ตดังกล่าวนี้จะถูกนำไปขายให้กับนักเรียนภายในประเทศภายหลังในราคาที่อาจจะต่ำกว่านี้

บริษัท Clarion Malaysia ผู้ผลิตระบบเสียง-วิดีโอภายในรถยนต์ เปิดตัว Clarion Mirage ระบบความบันเทิงภายในรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เป็นรุ่นแรกของโลก

Clarion Malaysia มีสำนักงานอยู่ที่ปีนัง และระบบ Mirage นี้พัฒนาโดยวิศวกรมาเลเซียในปีนัง โดยร่วมมือกับ Clarion สำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่นด้วย งบประมาณลงทุนครั้งนี้ 30 ล้านริงกิต (ประมาณ 300 ล้านบาท)