ไมโครซอฟท์ปรับหน้าตาของ Copilot เวอร์ชันเว็บ และมือถือ Android/iOS เล็กน้อย โดยเพิ่ม carousel หรือแถบเลื่อนแสดงภาพด้วย AI เพื่อเป็นไอเดียในการคุยกับบ็อท นอกจากนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์การสั่งปรับแต่งภาพที่สร้างได้จากหน้าแชท Copilot โดยตรง
อัพเดตนี้ถือเป็นโอกาสครบรอบ 1 ปีของ Copilot (นับจากตอนแรกที่ใช้ชื่อ Bing Chat ก่อนรีแบรนด์มาเป็น Copilot เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023) ไมโครซอฟท์เปิดเผยสถิติว่ารอบปีที่ผ่านมา มีการแชทคุยกัน 5 พันล้านครั้ง และการสร้างภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ 5 พันล้านภาพ อีกทั้งยังช่วยให้ส่วนแบ่งตลาดของ Edge/Bing เพื่อขึ้นอย่างยั่งยืนด้วย
San Francisco Chronicle รายงานรายละเอียดของการปลดพนักงานฝ่ายเกมมิ่งไมโครซอฟท์ 1,900 คน โดยไมโครซอฟท์ยื่นเอกสารต่อหน่วยงานภาครัฐในแคลิฟอร์เนีย
กรณีของเมือง Foster City คือสำนักงานของ Sledgehammer Games หนึ่งในสตูดิโอผู้รับผิดชอบ Call of Duty ภาคหลัก ซึ่งเคยมีข่าวมาก่อนหน้านี้แล้วว่าโดนปลดพนักงาน
ไมโครซอฟท์เปิดตัวโฆษณาที่จะฉายในงาน Super Bowl 2024 สัปดาห์หน้า ปีนี้คงเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก Copilot
โฆษณาชิ้นนี้ใช้ชื่อตรงไปตรงมาว่า Copilot: Your everyday AI companion เป็นเรื่องของกลุ่มคนที่มีความฝันแตกต่างกันไป เช่น อยากทำหนัง อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ที่ผ่านมาติดข้อจำกัดต่างๆ ที่ไม่สามารถทำตามความฝันได้ เมื่อเข้าสู่ยุคแห่ง Copilot กลายเป็นว่าคนเหล่านี้สามารถใช้ AI ช่วยทำสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำได้ด้วยตัวเองมาก่อน เช่น วาดสตอรี่บอร์ดของหนัง, เขียนโค้ดทำเกม, สร้างโลโก้สำหรับธุรกิจของตัวเอง ก่อนปิดท้ายชวนให้ดาวน์โหลด Copilot เวอร์ชัน iOS และ Android (ไม่มีคำว่า Windows สักคำ 😂)
Shilpa Ranganathan รองประธานฝ่าย Windows ของไมโครซอฟท์ โพสต์ภาพ Copilot for Windows เวอร์ชันใหม่ที่ขนาดของ sidebar กว้างกว่าเดิม มีพื้นที่ให้กับช่องแชทมากขึ้น เธอยังบอกว่าตอนนี้เราสามารถยืดหดขนาดของ Copilot ได้แล้วด้วย
ไมโครซอฟท์ยังไม่ประกาศข่าวนี้ใน Windows Insider เวอร์ชันใด คาดว่ายังมีเฉพาะ Build ภายในบริษัทเท่านั้น และอีกไม่นานถึงจะปล่อยให้ผู้ใช้กลุ่ม Insider กัน
ที่มา - Thurrott
Cristiano Amon ซีอีโอ Qualcomm ยืนยันข้อมูลในงานแถลงผลประกอบการไตรมาส 4/2023 ว่า Windows เวอร์ชันใหม่จะออกพร้อมกับพีซีที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite ช่วงกลางปีนี้ (mid-2024)
ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือจาก Windows Central ระบุว่าปีนี้ไมโครซอฟท์จะเปิดตัว AI PC พร้อม Windows เวอร์ชันใหม่ โดยเราจะเห็น Surface รุ่นใหม่ใช้ชิป Snapdragon X Elite พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows ที่แยกอัพเดต 2 รอบคือ ส่วนแกนระบบปฏิบัติการ โค้ดเนม Germanium และส่วนฟีเจอร์ โค้ดเนม Hudson Valley
Phil Spencer ซีอีโอ Microsoft Gaming ประกาศผ่านบัญชี X ว่า เราได้ยินและรับฟังความเห็นจากทุกคน โดยเตรียมจัดงานแถลงข่าวถึงแผนธุรกิจในสัปดาห์หน้า ว่าด้วยวิสัยทัศน์และทิศทางในอนาคตของ Xbox รายละเอียดจะตามมาในภายหลัง
ประกาศของ Spencer นี้ คาดว่ามาจากข่าวลือก่อนหน้าเกี่ยวกับการนำเกมจาก Xbox พอร์ตไปลงแพลตฟอร์มอื่นด้วย ซึ่งในรายงานมีทั้ง Indiana Jones and the Great Circle และ Starfield ที่จะนำไปลง PS5
อย่างไรก็ตามโพสต์ของ Spencer ก็ไม่ได้บอกว่าแถลงข่าวนี้จะเกี่ยวกับเรื่องพอร์ตเกมลง PS5 แต่อย่างใด ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป
หลังจากลือกันมาสักระยะหนึ่ง ล่าสุดมีข่าวจากเว็บไซต์ The Verge ว่าไมโครซอฟท์กำลังพิจารณานำเกม Indiana Jones and the Great Circle พอร์ตลง PS5 ซึ่งสอดคล้องกับอีกข่าวจาก XboxEra ว่า Starfield ก็อาจมาลง PS5 ด้วยเช่นกัน โดยกำหนดการจะอยู่หลังการออกภาคเสริม Shattered Space ที่ประกาศข่าวไว้ก่อนแล้ว
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเกม Hi-Fi Rush จะลงทั้ง PS5 และ Switch (ดังที่เห็นได้จากป้าย badge ในไฟล์เกมอัพเดตใหม่ที่ใช้สีฟ้าและแดง) รวมถึง Sea of Thieves ด้วย
มีรายงานพบการทดสอบรองรับคำสั่ง Sudo ใน Windows 11 ซึ่งพบใน Windows Server รุ่นพรีวิวล่าสุด โดยอยู่ในส่วนการตั้งค่า Developer ที่ต้องเปิดใช้งานก่อน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงสิทธิระดับผู้ดูแลได้
อย่างไรก็ตามการพบตัวเลือกคำสั่ง sudo นี้ มาจากพรีวิวที่อัพเดตเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และไมโครซอฟท์ยังไม่ประกาศฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ จึงต้องรอดูกันว่าจะเปิดใช้งานทั่วไปตอนไหน โดยการทดสอบพบว่าเมื่อสั่งเปิดใช้งาน Sudo จะมีกล่องข้อความเตือนซ้ำอีกครั้งว่าผู้ใช้งานเข้าใจความเสี่ยงของการเปิดใช้ sudo ด้วย
ข่าวน่าสนใจในแวดวงฮาร์ดแวร์คอนโซลคือ ช่อง Moore’s Law Is Dead อ้างแหล่งข่าวว่าไมโครซอฟท์ยังไม่ยอมเซ็นสัญญากับ AMD พัฒนาชิปสำหรับ Xbox รุ่นหน้าสักที (ตามรอบฮาร์ดแวร์คอนโซล 7 ปี ก็ควรออกราวปี 2027) ในขณะที่ฝั่งโซนี่ มีข่าวว่าเซ็นสัญญากับ AMD ทำชิปสำหรับ PS6 ไปเรียบร้อยแล้ว
ความล่าช้าผิดปกติของไมโครซอฟท์ ทำให้เกิดการวิเคราะห์ว่าน่าจะเป็นเพราะอินเทลเองก็พยายามเจรจากับไมโครซอฟท์ ให้ Xbox รุ่นหน้าเปลี่ยนมาใช้ซีพียูอินเทลและจีพียู Arc แทน ซึ่งจะตอบโจทย์ของอินเทลทั้งเรื่องการผลักดันจีพียู Arc ให้แพร่หลายขึ้นในวงการเกม และการผลักดันธุรกิจรับจ้างผลิตชิป (foundry) ของตัวเองมาสู้กับ TSMC (ที่ AMD ต้องรอคิวสั่งผลิต) ด้วย
ไมโครซอฟท์เริ่มปล่อยอัพเดตแอพ OneDrive for Windows ให้ใช้หน้าตาแบบใหม่ OneDrive 3.0 ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคม 2023 แอพหน้าตาใหม่นี้เปิดให้ผู้ใช้ฝั่งองค์กรมาสักพักแล้ว ตอนนี้เปิดให้ผู้ใช้บัญชีส่วนตัวใช้งาน
แอพในข่าวนี้คือ OneDrive for Windows ที่หน้าตาเหมือนเวอร์ชันเว็บ ดาวน์โหลดได้จาก Microsoft Store แต่ไม่ใช่แอพ OneDrive ที่เป็นตัวซิงก์ไฟล์กับ File Explorer ของ Windows
ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2024 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม มีรายได้รวม 62,020 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 21,870 ล้านดอลลาร์ ตามบัญชี GAAP
การเปลี่ยนแปลงสำคัญในรายงานผลประกอบการไตรมาสนี้คือไมโครซอฟท์ ได้ซื้อกิจการ Activision Blizzard เสร็จสิ้นแล้ว โดยส่วนธุรกิจนี้จะอยู่ในหมวด More Personal Computing ของรายงาน
Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์กล่าวว่าตอนนี้เราย้ายจากการพูดคุยถึง AI มาเป็นการนำ AI ใช้กับทุกส่วนใน Tech Stack ของบริษัท ซึ่งช่วยสร้างประโยชน์มากมายให้กับลูกค้าในทุกธุรกิจ
รายได้แยกตามกลุ่มธุรกิจเป็นดังนี้
ไมโครซอฟท์แต่งตั้ง Johanna Faries ผู้จัดการทั่วไปของแฟรนไชส์ Call of Duty ขึ้นเป็นประธานของ Blizzard Entertainment คนใหม่ แทน Mike Ybarra ที่ลาออกเมื่อสัปดาห์ก่อน
Johanna Faries ถือเป็นผู้นำสูงสุดของ Blizzard คนที่สองที่เป็นผู้หญิง (คนก่อนหน้านี้คือ Jen Oneal ที่เคยเป็นประธานร่วมในช่วงสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน) แต่ Faries ถือเป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกที่เป็นผู้นำสตูดิโอ
Sarah Bond ประธานของ Xbox ออกมาร่วมแสดงความเห็นต่อนโยบายใหม่ของแอปเปิล ที่แก้ไขเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายของ DMA ของสหภาพยุโรป ซึ่งก่อนหน้านี้มี Spotify และ Epic Games ออกมาวิจารณ์ว่าเป็นการบีบให้นักพัฒนายังต้องอยู่กับโมเดล App Store เดิมต่อไป
โดย Bond โควทโพสต์ใน X ของ Daniel Ek ซีอีโอ Spotify ที่วิจารณ์นโยบายใหม่นี้ บอกว่า ระเบียบใหม่ของแอปเปิลนั้นเป็นการก้าวที่ผิดทิศทาง ซึ่งเราหวังว่าแอปเปิลจะรับฟังความเห็นจากนักพัฒนามากขึ้น
จากข่าว ไมโครซอฟท์ปลดพนักงานในธุรกิจเกม 1,900 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีข้อมูลอัพเดตออกมาเรื่อยๆ ว่าสตูดิโอฝั่ง Activision Blizzard โดนกันหนัก
ไมโครซอฟท์รายงานปัญหาของ Microsoft Teams ซึ่งผู้ใช้งานอาจพบปัญหาหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถล็อกอินได้, ไม่สามารถเชื่อมต่อระบบได้ และข้อความช้า เป็นต้น โดยอัพเดตสถานะปัญหานี้หมายเลข TM710344 ใน Admin Center
ปัญหานี้ไมโครซอฟท์บอกว่าเริ่มพบตั้งแต่เวลา 21:55น. วันที่ 26 มกราคม ตามเวลาในไทย โดยถึงตอนนี้สถานะการใช้งานส่วนใหญ่เริ่มเป็นปกติ แต่ผู้ใช้งานบางส่วนอาจยังพบปัญหาการใช้งานบางฟังก์ชัน เช่น การโหลดประวัติ Copilot, การรับ-ส่งข้อความ อาจช้า รวมทั้งการแจ้งเตือนก็ช้าด้วย, การกลับเข้าร่วมประชุมอาจพบปัญหา
พบกันทุกสามปี ไมโครซอฟท์ประกาศว่า Windows Server เวอร์ชันหน้าจะเรียกว่า Windows Server 2025 ถือเป็นการนับเลขต่อจาก Windows Server 2022 ที่ออกในปี 2021
ช่วงหลังไมโครซอฟท์ใช้วิธีออก Windows Server Insider รุ่นทดสอบอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อกลางๆ ว่า Windows Server vNext ไม่ได้ระบุเลขปีชัดเจน ตอนนี้ไมโครซอฟท์เปลี่ยนชื่อ Insider ตัวล่าสุดเป็น 2025 เรียบร้อยแล้ว
Microsoft Edge ออกเวอร์ชัน 121 รุ่นเสถียร ของใหม่ที่สำคัญคือ รองรับฟอร์แมตวิดีโอ AV1 และฟอร์แมตรูปภาพ AVIF ที่บีบอัดแบบ AV1 ทำให้การใช้ Edge กับเว็บวิดีโอออนไลน์หลายๆ ตัว เช่น YouTube หรือ Twitch มีประสบการณ์ใช้งานดีขึ้น
ฟีเจอร์อื่นที่น่าสนใจเป็นฝั่งการใช้งานในองค์กร
หลังจากเมื่อวันก่อน ไมโครซอฟท์มีมูลค่าบริษัท (market cap) แตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้ชั่วระยะหนึ่ง แต่ปิดตลาดด้วยมูลค่า 2.99 ล้านดอลลาร์
เมื่อคืนนี้มูลค่าบริษัทไมโครซอฟท์พุ่งเกิน 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้เสร็จ ปิดตลาดด้วยมูลค่า 3.009 ล้านล้านดอลลาร์ แถมยังเป็นมูลค่าที่สูงกว่าแอปเปิลที่ราคาหุ้นลดลง มูลค่าตอนปิดตลาด 3.002 ล้านล้านดอลลาร์
แต่ชัยชนะของไมโครซอฟท์ในแง่มูลค่าบริษัท ก็มาพร้อมข่าวปลดพนักงานฝั่งเกมมิ่ง 1,900 คนในวันเดียวกัน ในแง่ความรู้สึกของคนที่โดนปลดในวันเดียวกับที่มูลค่าบริษัทแม่พุ่งสูงสุด คงบรรยายออกมาได้ยากจริงๆ
ผู้บริหารระดับสูงของ Blizzard อย่างน้อยสองคน ได้แก่ Mike Ybarra ประธานบริษัทและผู้บริหารสูงสุดของ Blizzard กับ Allen Adham ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบ (chief design officer) และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Blizzard ด้วย ลาออกจากบริษัทไปพร้อมกับการปลดพนักงานสายเกมมิ่งชุดใหญ่ 1,900 คนของไมโครซอฟท์
Ybarra โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ว่าขอบคุณพนักงาน Blizzard ทุกคน และขอบคุณผู้เล่นที่ให้การสนับสนุน แต่หลังจากนี้เขาจะมีสถานะเป็นแฟนเกมของ Blizzard ที่เฝ้ามองอยู่ข้างนอกแทน
ไมโครซอฟท์ปลดพนักงานด้านเกมมิ่งออกจำนวน 1,900 คนจากทั้งหมด 22,000 คน โดยกระทบทุกบริษัทย่อยในเครือทั้ง Xbox, ZeniMax/Bethesda, Activision Blizzard
ในอีเมลของ Phil Spencer ซีอีโอของ Microsoft Gaming บอกว่าจำเป็นต้องปลดพนักงานที่ซ้ำซ้อนกันออกไป โดยทีมบริหารจะพยายามให้กระบวนการปลดพนักงานราบรื่นที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ผ่านแพ็กเกจชดเชยต่างๆ
ไมโครซอฟท์เปิดตัว Mesh for Teams บริการประชุมโลกเสมือนด้วยร่างอวตาร ตั้งแต่ปลายปี 2021 และเปิดทดสอบจริงๆ แบบ public preview เมื่อเดือนตุลาคม 2023
วันนี้ Microsoft Mesh ปรับสถานะเป็นรุ่นเสถียร เปิดใช้งานทั่วไป (general availability) เรียบร้อยแล้ว รองรับการใช้งานบนพีซี (แอพ Microsoft Mesh) และผ่านแว่น Oculus Quest (Quest Store)
ไมโครซอฟท์มีมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market capitalization) แตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์ได้เป็นครั้งแรก หลังหุ้นมีราคาพุ่งเกิน 405 ดอลลาร์ต่อหุ้น ก่อนมาปิดตลาดที่ราคา 402.56 ล้านดอลลาร์ (มูลค่าบริษัทตอนปิดตลาด 2.99 ล้านล้านดอลลาร์)
แอปเปิลเคยมีมูลค่าแตะ 3 ล้านล้านดอลลาร์มาได้ก่อนแล้วในปี 2023 และมูลค่าของแอปเปิลตอนปิดตลาดเมื่อคืนนี้คือ 3.007 ล้านล้านดอลลาร์ ยังมากกว่าไมโครซอฟท์อยู่เล็กน้อย ตอนนี้ทั้งสองบริษัทถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
ที่มา - The Verge
ไมโครซอฟท์ประกาศแผนการอัพเดตชุดใหญ่ให้ Microsoft Teams ประเด็นสำคัญที่สุดคงเป็นการแก้ปัญหาการประชุมข้ามกันระหว่าง Microsoft Teams (free) แบบใช้ส่วนตัว และ Microsoft Teams เวอร์ชันองค์กร ที่เป็นปัญหามายาวนานและสร้างความสับสนให้ผู้ใช้
ในอัพเดตรอบเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ใช้ Microsoft Teams ทั้งสองแบบจะสามารถประชุมร่วมกันในไคลเอนต์ Teams ที่ตัวเองใช้อยู่ได้แล้ว แก้ปัญหาการประชุมข้ามเวอร์ชันผ่านไคลเอนต์ไม่ได้ แล้วต้องไปเข้าผ่านเว็บเบราว์เซอร์เป็น guest แทน
ฟีเจอร์ใหม่อย่างอื่นที่ Teams จะได้อัพเดตคือ
เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวลือจาก Windows Central บอกว่าระบบปฏิบัติการ Windows ของปี 2024 จะเรียกว่า Windows 12 ชูฟีเจอร์ด้าน AI
แต่ล่าสุด Windows Central รายเดิมอ้างแหล่งข่าวว่า น่าจะยังเรียก Windows 11 ต่อไปก่อน โดยคงระบบเลขเวอร์ชันแบบเดิมคือ 24H2 ที่ออกช่วงครึ่งหลังของปีนี้
แหล่งข่าวของ Windows Central ให้เหตุผลที่ไมโครซอฟท์ยังเรียก Windows 11 ต่อไปเป็นเพราะ Panos Panay หัวหน้าทีม Windows ลาออกจากไมโครซอฟท์ ถึงแม้ไม่มีรายละเอียดมากกว่านั้น แต่ก็พอเดาได้ว่าเป็นเพราะทิศทางของทีม Windows ยังไม่นิ่ง ไมโครซอฟท์จึงอาจเลือกไม่เสี่ยงเปลี่ยนเลขเวอร์ชันใหญ่ก็เป็นได้
ไมโครซอฟท์รายงานถึงเหตุการณ์ความปลอดภัยไซเบอร์ที่บริษัทถูกกลุ่ม Midnight Blizzard หรือ Nobelium โจมตีด้วยการยิงรหัสผ่านอีเมล (password spray) ได้เป็นผลสำเร็จ ทำให้ข้อมูลของพนักงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์, พนักงานระดับอาวุโส, และฝ่ายกฎหมายบางส่วนถูกดึงออกไปได้ โดยดูเหมือนคนร้ายพยายามหาข้อมูลว่าไมโครซอฟท์รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับกลุ่ม Midnight Blizzard เองบ้าง
ปกติการยิงรหัสผ่านแบบนี้ไม่สามารถโจมตีบริษัทที่บังคับล็อกอินสองขั้นตอนได้ แต่กรณีนี้ไมโครซอฟท์มี test tenant แยกออกไปอยู่ และคนร้ายสามารถยึด tenant นั้นได้สำเร็จ หลังจากนั้นจึงอาศัยสิทธิ์ในนั้นเข้าถึงอีเมลของพนักงาน