หลังจากกูเกิลเริ่มปล่อยโมเดล Gemini Ultra ให้ใช้งานกันเมื่อคืนนี้ ก็เริ่มมีการเปรียบเทียบกับโมเดลอื่นในท้องตลาด โดยเฉพาะ GPT-4 ที่ยังเป็นผู้นำตลาดอยู่ในตอนนี้

Ethan Mollick อาจารย์ที่ Wharton School of the University of Pennsylvania ซึ่งมีโอกาสได้ลองใช้งาน Gemini Ultra ก่อนคนทั่วไปมาราวหนึ่งเดือน ได้โพสต์แสดงความเห็นในฐานะคนที่ลองใช้งานมาแล้วอย่างจริงจัง ระบุว่า โมเดล Gemini Ultra (ให้บริการภายใต้ชื่อ Gemini Advanced) ถือเป็นโมเดลระดับเดียวกับ GPT-4 อย่างชัดเจน ทำให้ตอนนี้วงการ AI มีโมเดลชั้นนำ 2 ตัว จากเดิมที่มีแค่ GPT-4 ตัวเดียว

OpenAI ประกาศฝัง metadata ลงในภาพที่สร้างด้วย Dall-E 3 เพื่อระบุว่าเป็นภาพที่สร้างด้วย AI

ข้อมูล metadata ที่ฝังลงในภาพเป็นมาตรฐานกลาง C2PA แบบเดียวกับที่ใช้ในวงการภาพถ่าย ผู้ใช้สามารถนำภาพไปเช็คกับเว็บ Content Credentials ย้อนกลับได้ว่าเป็นภาพที่สร้างด้วย Dall-E หรือไม่ ส่วนบริษัทอย่าง Meta ก็ประกาศว่าจะอ่านค่า metadata ชุดนี้แล้วนำไปแปะป้ายบอกว่าเป็นภาพจาก AI เช่นกัน

OpenAI ประกาศอัพเดตโมเดลทั้ง LLM และ embedding โดย LLM นั้นเป็นการปรับตามรอบเป็นเวอร์ชั่น 0125 พร้อมกับลดราคาบางส่วน

โมเดล embedding ของ OpenAI ที่ผ่านมาเป็นโมเดล Ada ที่ใช้งานมานาน และมีขนาดเวคเตอร์ขาออกถึง 1536 มิติ ในโมเดล text-embedding-3 จะมีขนาดเวคเตอร์ให้เลือกตั้งแต่ 256, 512, 1024, 1536, 3072 มิติ โดยเวคเตอร์ขนาดเล็กที่สุดก็ยังมีคะแนน ดีกว่า Ada ตัวเดิม

โมเดล GPT-3.5 Turbo ปรับเวอร์ชั่นเป็น 0125 แก้บั๊กการเรียกฟังก์ชั่นด้วยภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษ ขณะที่โมเดล GPT-4 แก้ปัญหาโมเดล "ขี้เกียจ" ไม่ยอมทำงานตามที่สั่ง และแก้ปัญหาการตอบภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษเช่นกัน

เว็บไซต์ WIRED ยื่นเรื่องไปยัง OpenAI เพื่อขอเอกสารการสั่งการภายใน, บัญชีการเงิน, และกฎการควบคุมการขัดกันของผลประโยชน์ (conflict of interest) แต่กลับถูกปฏิเสธทั้งที่ OpenAI เคยประกาศว่าจะเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้หากได้รับการร้องขอ

ทาง OpenAI ระบุว่าตอนนี้เหลือข้อมูลเปิดเผยเฉพาะข้อมูลทางการเงินตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น และเมื่อทาง WIRED ขอเอกสารไปก็ได้ข้อมูลเฉพาะส่วนองค์กรไม่หวังผลกำไรที่มีรายได้เพียง 44,000 ดอลลาร์และรายจ่าย 1.3 ล้านดอลลาร์ เพราะรายงานไม่ครอบคลุมบริษัทในเครือต่างๆ โดยเฉพาะบริษัทที่ให้บริการ ChatGPT

OpenAI ประกาศแนวทางด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม เพื่อรับมือกับการเลือกตั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในปี 2024 มีเป้าหมายให้เป็นพื้นที่ที่ให้ข้อมูลถูกต้อง เครื่องมือไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม และมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส

โดย OpenAI ได้ปรับปรุงกฎการใช้งานเพิ่มเติมจากที่ควบคุมอยู่แล้ว เช่น ห้ามใช้สร้างแอปเพื่อทำแคมเปญหาเสียง, ห้ามสร้างแชทบอตที่ปลอมเป็นบุคคลอื่น, ห้ามสร้างแอปที่ขัดขวางการเลือกตั้ง และเพิ่มเครื่องมือสำหรับรายงานปัญหาการละเมิดได้โดยตรง

มีคนพบว่าผู้ขายสินค้าบน Amazon ไปสั่งให้ ChatGPT ช่วยเขียนชื่อและคำบรรยายสินค้าให้ แต่เมื่อ ChatGPT ปฏิเสธไม่ยอมทำงานให้ เพราะติดข้อจำกัดเรื่องเครื่องหมายการค้า ผู้ขายสินค้านั้นกลับไม่ได้ตรวจสอบคำตอบที่ได้รับจาก ChatGPT และนำข้อความนั้นไปใช้กับรายการสินค้าจำนวนมาก ผลคือเราได้สินค้าที่เขียนว่า "I apologize but I cannot complete this task" หรือข้อความลักษณะเดียวกัน

สินค้าเหล่านี้มีหลากหลายชนิด เช่น เฟอร์นิเจอร์ ภายหลังเมื่อสินค้าเหล่านี้ถูกตรวจพบ ก็โดน Amazon ลบออกไปอย่างรวดเร็ว (หน้าเว็บยังมีให้ดูผ่าน Internet Archive)

Microsoft for Startups เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพเข้าร่วมโครงการ Founders Hub ล่าสุดขยายการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เปิดให้ใช้คลัสเตอร์ VM และ GPU ที่ปรับแต่งสำหรับใช้ในการเทรนโมเดล LLM และ Deep Learning ฟรี

Founders Hub เป็นโครงการช่วยให้สตาร์ทอัพเร่งสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว ด้วยการให้สิทธิ์เข้าถึงบริการ AI ชั้นนำในอุตสาหกรรม คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น เครดิต Microsoft Azure มูลค่าสูงสุด 150,000 เหรียญ เครดิต OpenAI มูลค่า 2,500 เหรียญ รวมถึงสิทธิ์ในการใช้งาน Microsoft 365, GitHub Enterprise และ Visual Studio Enterprise

OpenAI เปิดตัวแพ็คเกจแบบสำหรับใช้งานแชทบอต ChatGPT เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดเล็กในชื่อ ChatGPT Team จากปัจจุบันที่มีแพ็คเกจองค์กรคือ ChatGPT Enterprise

ChatGPT Team เป็นแพ็คเกจที่สามารถใช้งานโมเดลทั้ง GPT-4 และ DALL·E 3, เครื่องมือ Advanced Data Analysis ตลอดจนเครื่องมือสำหรับองค์กรในการควบคุมข้อมูล

OpenAI เปิดตัว GPT Store สโตร์สำหรับ GPTs ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว เปิดทางให้ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ผู้ช่วยเฉพาะทางจากเดิมที่ ChatGPT จะมีความรู้กว้างๆ

GPT เด่นๆ ที่ทาง OpenAI คัดมาโชว์ เช่น AllTrails แนะนำทางเดินป่า, Consensus ผู้ช่วยวิเคราะห์รายงานวิจัย, Books แนะนำหนังสือ, CK-12 Flexi สอนคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์, Code Tutor สอนเขียนโปรแกรม, และ Canva สำหรับออกแบบงานนำเสนอ

ตอนนี้ GPT ต่างๆ ยังเปิดให้ผู้ใช้ ChatGPT Plus ใช้งานโดยไม่ได้แบ่งรายได้ แต่ภายในไตรมาสแรกจะเริ่มโครงการแบ่งรายได้ โดยนับตามปริมาณการใช้งาน และช่วงแรกจะเปิดโครงการแบ่งรายได้นี้เฉพาะในสหรัฐฯ

Walmart เปิดตัวนวัตกรรม AI ใหม่ที่งาน CES 2024 โดยใช้ Azure OpenAI Service พร้อมด้วยข้อมูลและโมเดลที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง เพื่อช่วยลูกค้าค้นหาและซื้อสินค้าออนไลน์

• ฟังก์ชันการค้นหา: ลูกค้าสามารถถามคำถาม เช่น "ช่วยวางแผนงานปาร์ตี้ดูฟุตบอลให้หน่อย" แทนที่จะค้นหาของว่างและเครื่องดื่มเองหลายครั้ง
• Shop with Friends: ลูกค้าสามารถจับคู่เสื้อผ้าเสมือนจริงบนโมเดลนางแบบที่มีขนาด ความสูง และรูปร่างใกล้เคียงกัน พร้อมแชร์แฟชั่นกับเพื่อน ๆ เพื่อขอคำติชมก่อนซื้อของได้อย่างง่ายดาย
• InHome Replenishment: ฟีเจอร์ที่ใช้ AI เรียนรู้ว่าลูกค้าซื้ออะไรเป็นประจำ จำนวนสินค้าที่ซื้อ และความถี่ในการซื้อ ช่วยคาดการณ์ความต้องการและสั่งซื้อของชำ ของใช้จำเป็นในครัวเรือน เครื่องดื่ม และของตกแต่ง โดยส่งตรงไปยังที่บ้านในเวลาที่เหมาะสม

คณะกรรมการยุโรป (European Commission) ประกาศว่าหน่วยงานจะเริ่มการสืบสวน ว่าตลาดด้านเทคโนโลยีสองอย่างได้แก่ Virtual Worlds หรือโลกเสมือน และ Generative AI หรือปัญญาประดิษฐ์สร้างเนื้อหา มีการแข่งขันในตลาดที่เป็นปกติหรือไม่ หรือต้องใช้กฎหมายเข้ามากำกับดูแลการแข่งขันเพิ่มเติม

ในแถลงการณ์นี้มีการระบุชื่อบริษัทเพียงกรณีเดียวคือ Microsoft และ OpenAI ซึ่งคณะกรรมการยุโรปจะสืบสวนเพิ่มเติมว่าความร่วมมือนี้ส่งผลให้ตลาดเป็นของผู้เล่นรายใหญ่หรือไม่ และอาจเข้าข่ายต้องใช้กฎหมายการควบรวมกิจการขนาดใหญ่ (ปัจจุบัน Microsoft ถือหุ้นหลักใน OpenAI ส่วนธุรกิจ For-Profit)

OpenAI ออกมาเขียนบล็อกชี้แจงกรณี The New York Times (NYT) ยื่นฟ้องละเมิดลิขสิทธิ์ โดยระบุว่าเป็นบั๊กที่เกิดได้ยากแล้ว และกำลังแก้ไขให้ไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีก พร้อมกับยืนยันว่าต้องการเป็นพันธมิตรกับสำนักข่าวต่างๆ

สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องระบุว่า ไมโครซอฟท์ได้ตกลงให้ Dee Templeton เป็นตัวแทนเข้าร่วมบอร์ดบริษัทของ OpenAI ในฐานะผู้สังเกตการณ์ และไม่มีสิทธิโหวต ตามแผนปรับโครงสร้างบอร์ด OpenAI ที่ให้ไมโครซอฟท์ ในฐานะผู้ถือหุ้นหลักส่วนธุรกิจ For-Profit ตั้งตัวแทนร่วมบอร์ดแบบสังเกตการณ์

Dee Templeton ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นรองประธานดูแลพาร์ตเนอร์ฝ่ายวิจัยและเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ ซึ่งรับผิดชอบด้านความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์กับ OpenAI อยู่แล้ว

ในรายงานบอกว่า Templeton ได้เริ่มเข้าร่วมประชุมบอร์ดของ OpenAI แล้ว แต่ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์และ OpenAI ไม่ได้ออกมายืนยันต่อรายงานดังกล่าว

The Information อ้างแหล่งข่าวไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่า OpenAI เริ่มเข้าไปเจรจากับสำนักข่าวต่างๆ เพื่อขอใช้เนื้อหาสำหรับฝึกปัญญาประดิษฐ์ โดยจะให้เงินค่าใช้งานปีละ 1-5 ล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ The New York Times (NYT) เพิ่งยื่นฟ้อง OpenAI ฐานนำบทความไปใช้ฝึกโดยไม่ได้ขออนุญาต และตัวโมเดลสามารถตอบบทความของ NYT ได้แทบทั้งชุดทำให้มองได้ว่า OpenAI เผยแพร่งานมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต

ราคา 1-5 ล้านดอลลาร์ต่อสำนักข่าวนั้นอยู่ในช่วงเดียวกับที่บริษัทขนาดใหญ่เคยจ่ายเงินให้สำนักข่าวนำคอนเทนต์มาลงแพลตฟอร์ม แต่ข้อตกลงอาจจะต่างกันเนื่องจาก OpenAI ต้องการข้อมูลขนาดใหญ่มากซึ่งอาจจะรวมถึงข้อมูลข่าวเก่าด้วย

OpenAI อีเมลแจ้งนักพัฒนาว่า GPT Store ที่ให้นักพัฒนาเผยแพร่แชทบอตที่สร้างจาก GPTs ชุดเครื่องมือทำแชทบอตคัสตอมแบบ no-code ซึ่งตามแผนเดิมตัวสโตร์จะเปิดให้ใช้งานเดือนธันวาคมแต่เลื่อนออกไป ตอนนี้ได้กำหนดการเปิดตัวใหม่แล้วคือสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ OpenAI ยังบอกนักพัฒนาให้ตรวจสอบข้อกำหนดและแนวทางการใช้งานที่ปรับปรุงใหม่ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่า GPT ที่สร้างขึ้นมาจะถูกต้องตามระเบียบการเผยแพร่ในสโตร์

ในตอนเปิดตัว GPT Store นั้น OpenAI บอกว่าผู้สร้างแชทบอตสามารถทำเงินได้ หากมีคนมาใช้งาน GPT ของตน อย่างไรก็ตาม OpenAI ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดวิธีการแบ่งรายได้แต่อย่างใด

หนังสือพิมพ์ The New York Times (NYT) ยื่นฟ้องไมโครซอฟท์และ OpenAI ฐานใช้งานบทความของหนังสือพิมพ์โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งการใช้งานไปในชุดข้อมูลสำหรับฝึก LLM และตัว ChatGPT/Copilot เองก็ตอบบทความแทบทั้งบทความของ NYT ออกมาให้ผู้ใช้ได้

ข้อมูลนี้จาก Mark Gurman แห่ง Bloomberg คนเดิม หลังจากที่มีข่าวว่า Tang Tan รองประธานฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล จะลาออกจากบริษัทในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อมูลล่าสุดคือเขาจะไปทำงานที่ LoveFrom บริษัทด้านการออกแบบของ Jony Ive อดีตหัวหน้าฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลนั่นเอง

รายงานบอกว่า Tan จะรับผิดชอบการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้าน AI ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่า LoveFrom กำลังทำร่วมกับ OpenAI ผ่านซีอีโอ Sam Altman โดย OpenAI จะดูแลส่วนซอฟต์แวร์ให้

สำนักข่าว Bloomberg อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า OpenAI ได้เริ่มหารือเพื่อเพิ่มทุนรอบใหม่ ที่มูลค่ากิจการอย่างน้อย 100,000 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตามการหารือนี้เป็นช่วงเริ่มต้น รายละเอียด ตัวเลขมูลค่ากิจการ และช่วงเวลาจึงยังไม่มีข้อสรุป และอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่หากได้มูลค่าระดับแสนล้านจริง OpenAI จะเป็นสตาร์ทอัพของอเมริกาที่มูลค่ากิจการสูงสุดอันดับ 2 รองจาก SpaceX

นอกจากนี้ OpenAI ยังมีการเจรจาเฉพาะส่วนธุรกิจใหม่ที่เน้นการพัฒนาชิปโค้ดเนม Tigris กับกองทุน G42 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย โดยตัวเลขลงทุนอยู่ที่ประมาณ 8,000-10,000 ล้านดอลลาร์

OpenAI ประกาศเฟรมเวิร์กสำหรับการเตรียมความพร้อม เพื่อใช้ในการประเมินว่าโมเดล AI นั้น มีความปลอดภัยแค่ไหน ซึ่งคาดว่าจัดทำเพื่อให้การตรวจสอบ AI ว่าปลอดภัยหรือไม่เป็นขั้นเป็นตอนที่ชัดเจนขึ้น

โดย OpenAI มีทีมที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของ AI อยู่แล้ว ซึ่งมีหน้าที่ดูแลตรวจสอบโมเดล AI ต่าง ๆ แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ โมเดลที่ดีพลอยแล้ว เป็นระบบที่ปลอดภัย, โมเดลที่อยู่ในขั้นตอนเตรียมความพร้อม (Preparedness) ซึ่งต้องประเมินความปลอดภัยตามเฟรมเวิร์กก่อนดีพลอย และโมเดลความสามารถสูงในอนาคต (Superalignment)

OpenAI แบนบัญชีของบริษัท ByteDance หลังมีรายงานว่าทาง ByteDance เอาเอาท์พุตของ OpenAI ไปฝึกปัญญาประดิษฐ์ของตัวเอง

เหตุการณ์ครั้งนี้รายงานโดย Alex Heath จาก The Verge ชี้ว่า ByteDance ฝึก LLM ของตัวเองที่ชื่อ Project Seed ด้วยเอาท์พุตของ OpenAI แม้ภายหลังจะเลิกใช้เอาท์พุตไปฝึกโมเดลโดยตรง แต่ก็ยังใช้สำหรับการวัดคุณภาพของโมเดลตัวเองอยู่

ทาง OpenAI ออกมายืนยันว่าได้แบนบัญชีของ ByteDance ไว้ชั่วคราวระหว่างสอบสวน แต่ที่จริงแล้ว ByteDance เรียก API ของ OpenAI ผ่านทาง Microsoft Azure และยังไม่แน่ชัดว่าไมโครซอฟท์แบนบัญชีของ ByteDance ไปหรือยัง

Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่องราวภายใน ที่เขาถูกบอร์ดไล่ออก และกลับมาเป็นซีอีโออีกครั้ง โดยเข้าร่วมงานสัมมนาที่จัดโดยองค์กร Operation HOPE ซึ่งเป็นการพูดคุยถึงอนาคตของ AI

Sam ยืนยันว่า AI จะทำให้โลกก้าวหน้าขึ้นไปอีก โดยเฉพาะการพัฒนาด้านสุขภาพและการศึกษา ที่ผ่านมาคนมักนึกถึง AI ในหน้าตาแบบภาพยนตร์ Terminator แต่ภารกิจของ OpenAI คือก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้น และแสดงให้โลกเห็นถึงโอกาสใหม่ ๆ จาก AI

เรื่องราวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน OpenAI หนึ่งในตัวละครสำคัญที่ถูกระบุถึงบ่อยครั้งก็คือ Ilya Sutskever หัวหน้าฝ่าย Scientist ผู้ร่วมก่อตั้ง และเป็นหนึ่งในสี่บอร์ด OpenAI ที่ไล่ Sam Altman ออก แต่เขากลับมาสนับสนุนให้ Sam กลับมาเป็นซีอีโอในเวลาไม่กี่วัน และได้ลาออกจากตำแหน่งบอร์ดเมื่อ Sam กลับมา

The New York Times รวบรวมข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ สรุปลำดับเหตุการณ์เซอร์ไพรส์วงการ Tech เมื่อเดือนที่แล้ว ที่ Sam Altman ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI ถูกบอร์ดลงมติไล่ออกจากบริษัท และจากนั้นไม่กี่วันหลังความวุ่นวายที่เกิดขึ้น เขาก็กลับมาเป็นซีอีโออีกครั้ง พร้อมการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบอร์ดใหม่

บางเรื่องอาจจะทราบอยู่แล้ว แต่บางเรื่องก็เป็นเรื่องใหม่

17 พฤศจิกายน ช่วงกลางวัน Sam Altman อยู่ที่โรงแรมในลาสเวกัส เพื่อรอชมการแข่งขัน Formula 1 ในสุดสัปดาห์ เขาล็อกอินเข้า Zoom เพื่อคุยประจำวันกับ Ilya Sutskever หัวหน้าฝ่าย Scientist และหนึ่งในบอร์ดบริษัท แต่ Sam ก็พบว่าวันนี้มีบอร์ดอิสระอีก 3 คน อยู่ในห้องประชุมด้วย

CMA หน่วยงานกำกับดูแลการแข่งขันของสหราชอาณาจักร ประกาศรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไมโครซอฟท์ และ OpenAI ทั้งการลงทุนในธุรกิจ ความร่วมมือในการพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดจนการได้สิทธิประโยชน์บริการบนคลาวด์ ว่าเข้าข่ายมีอำนาจควบคุม OpenAI หรือไม่

ทาง CMA ตั้งข้อสังเกตว่าความร่วมมือของสองบริษัทนี้ อาจส่งผลกระทบ เกิดความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือผู้พัฒนา AI รายอื่น และอาจนำไปสู่การผูกขาดได้ในอนาคต ทั้งนี้ CMA ยังไม่ได้ระบุว่าความร่วมมือนี้เข้าข่ายผูกขาด แต่จะรับฟังความคิดเห็นก่อน

ไมโครซอฟท์ประกาศความสามารถใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาใน Copilot เร็ว ๆ นี้ มีรายละเอียดดังนี้

• GPT-4 Turbo นำโมเดลล่าสุดของ OpenAI มาใช้กับ Copilot เริ่มทดสอบแล้วกับผู้ใช้งานจำนวนน้อย และจะขยายเพิ่มเติมในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
• DALL-E 3 โมเดลใหม่ Copilot สามารถสร้างรูปภาพด้วยโมเดล DALL-E 3 ที่ปรับปรุงใหม่ ได้ภาพที่มีคุณภาพดีขึ้น
• Inline Compose ให้ Copilot ช่วยแก้ไขข้อความในเขียนอยู่ใน Microsoft Edge