OpenAI เปิดตัว ChatGPT Edu ซึ่งบอกว่าเป็นแชทบอต ChatGPT ที่ออกแบบสำหรับผู้ใช้งานกลุ่มสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ทั้งนักศึกษา, นักวิจัย, อาจารย์ และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีพื้นฐานการทำงานบนโมเดล GPT-4o
OpenAI บอกถึงเหตุผลที่สร้าง ChatGPT Edu สำหรับผู้ใช้งานกลุ่มมหาวิทยาลัย เนื่องจากเห็นกรณีศึกษาจากหลายสถาบัน ที่นำ ChatGPT Enterprise สำหรับลูกค้าองค์กรไปใช้งาน และได้ผลลัพธ์ที่ดี ทั้งใช้ช่วยจัดการเวิร์กโฟลว์ในมหาวิทยาลัย, ช่วยเขียนแอพพลิเคชันพื้นฐาน, ช่วยจัดการระบบประเมินการสอน จึงสร้าง ChatGPT ที่เป็นตัวเลือกให้ผู้ใช้งานกลุ่มสถาบันการศึกษาเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
มีรายงานมาหลายเดือนแล้วว่าแอปเปิลได้เจรจากับ OpenAI เพื่อนำฟีเจอร์ AI มาใส่ใน iOS 18 ซึ่งน่าจะเป็นจุดขายสำคัญในงานสัมมนาสำหรับนักพัฒนา WWDC ที่จะจัดในอีกสองสัปดาห์ โดยรายงานล่าสุดบอกว่าได้ทำข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อย
The Information มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับดีลนี้จากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความกังวลของไมโครซอฟท์ ที่มีสถานะเป็นผู้ลงทุนใน OpenAI แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคู่แข่งทางธุรกิจกับแอปเปิลด้วย
OpenAI ประกาศลงนามข้อตกลงกับอีกสองบริษัทสื่อรายใหญ่คือ The Atlantic และ Vox Media เพื่อเข้าถึงคอนเทนต์สำหรับใช้เทรน AI และนำมาเป็นข้อมูลใน ChatGPT
ก่อนหน้านี้ OpenAI ได้ทำข้อตกลงกับบริษัทสื่อหลายแห่ง เช่น News Corp, Axel Springer, DotDash Meredith, Financial Times และ The Associated Press
มูลค่าของดีลนี้ไม่มีการเปิดเผย แต่คาดว่าจะอยู่ในช่วงเดียวกับบริษัทสื่อที่เคยทำข้อตกลงก่อนหน้านี้ เช่น News Corp อยู่ที่ประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ ระยะเวลา 5 ปี เป็นต้น
หลังผู้บริหารและพนักงาน OpenAI ลาออกไปชุดหนึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ เพราะไม่พอใจแนวทางขององค์กร ก็มีคำถามตามมาว่าคนเหล่านี้ย้ายไปทำอะไรกัน เพราะชื่อชั้นและประสบการณ์น่าจะมีแต่คนอยากแย่งตัว
ล่าสุดมีข้อมูลแล้วว่า Jan Leike หัวหน้าทีม Superalignment ที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยของ AI ประกาศผ่านทวิตเตอร์แล้วว่าเขาย้ายมาอยู่กับ Anthropic บริษัทคู่แข่งของ OpenAI และยังมาทำงานด้าน Superalignment เช่นเดิม
Helen Toner อดีตกรรมการบอร์ดอิสระของ OpenAI ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ลงมติไล่ออก Sam Altman ซีอีโอ OpenAI จนเป็นเรื่องราวใหญ่โตเมื่อปลายปีที่แล้ว ให้สัมภาษณ์กับรายการพอดคาสต์ The TED AI Show เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมที่นำไปสู่การตัดสินใจไล่ Altman ออก
Toner ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการศูนย์ Security and Emerging Technology ที่ Georgetown University บอกว่าสิ่งที่ทำให้บอร์ดเริ่มขาดความเชื่อใจใน Altman มาจากการเปิดตัวแชทบอต ChatGPT เมื่อปลายปี 2022 โดยบอร์ดไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเลย จนกระทั่งไปเห็นโพสต์ใน Twitter พร้อมกับทุกคน
บอร์ด OpenAI ประกาศจัดตั้งคณะกรรมด้านความปลอดภัย (Safety and Security Committee) นำโดย Bret Taylor (ประธานบอร์ด OpenAI), Adam D’Angelo, Nicole Seligman และ Sam Altman (ซีอีโอ OpenAI) โดยคณะกรรมการนี้มีหน้าที่รับผิดชอบการให้คำแนะนำกับบอร์ดบริษัท ในเรื่องการตัดสินใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงการต่าง ๆ ใน OpenAI
OpenAI บอกว่าตอนนี้องค์กรได้เริ่มเทรนโมเดล AI ยุคถัดไป ซึ่งผลลัพธ์เบื้องต้นที่ได้ ทำให้เข้าใกล้การสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้งานได้ทั่วไปหรือ Artificial General Intelligence (AGI) อีกหนึ่งขั้น จึงต้องประเมินด้านความปลอดภัยมากขึ้นไปอีกเช่นกัน
จากประเด็นที่มีรายงานออกมาว่า OpenAI มีการทำสัญญาห้ามเปิดเผยความลับหรือ NDA (Non-disclosure Agreement) กับพนักงานที่ลาออกไปแล้ว แต่มีข้อกำหนดที่แปลกไปจากบริษัทอื่น ซึ่งระบุว่า OpenAI สามารถริบหุ้นที่จัดสรรให้พนักงานไปแล้วได้ (Vesting Stocks) แถมยังให้มีผลตลอดไปด้วย โดย Sam Altman ซีอีโอ OpenAI ก็ออกมายอมรับว่าเรื่องนี้ต้องถูกแก้ไข
OpenAI ประกาศทำข้อตกลงเป็นระยะเวลาหลายปีกับ News Corp กลุ่มบริษัทสื่อรายใหญ่ โดย OpenAI สามารถเข้าถึงเนื้อหาข่าวในเครือ News Corp เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลให้คำตอบในผลิตภัณฑ์ปัญญาประดิษฐ์
ดีลดังกล่าวไม่ได้เปิดเผยมูลค่าอย่างเป็นทางการ แต่ The Wall Street Journal (ซึ่งมี News Corp เป็นบริษัทแม่) อ้างแหล่งข่าวภายในระบุว่ามากกว่า 250 ล้านดอลลาร์ สำหรับระยะเวลา 5 ปี โดยมีการจ่ายเป็นเงินสดและเครดิตสำหรับใช้งานเทคโนโลยีของ OpenAI
ตัวอย่างสื่อในเครือของ News Corp ที่ OpenAI จะเข้าถึงได้เช่น The Wall Street Journal, Barron’s, MarketWatch, Investor’s Business Daily, FN, New York Post ฯลฯ ข้อตกลงนี้เป็นการเข้าถึงเฉพาะสื่อด้านข่าวเท่านั้น ไม่รวมสื่อประเภทอื่นในเครือของ News Corp
จากราวหนึ่งปีก่อน ที่แอพช่วยเหลือผู้มีปัญหาทางสายตาอย่าง Be My Eyes ได้ เพิ่มผู้ช่วยอัจฉริยะ พลัง A.I. เข้ามา แต่แอพพลิเคชันยังสามารถใช้งานได้จากบน mobile device เท่านั้น ล่าสุด Be My Eyes ได้เปิดตัวฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะที่เป็นแอพพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการวินโดส์แล้ว โดยสามารถติดตั้งได้จาก Microsoft store
เมื่อเปิดโปรแกรมและล็อกอินเรียบร้อยแล้ว หน้าต่างหลักของโปรแกรมจะมีฟีเจอร์ให้เราเลือกใช้งานอยู่ 4 เมนู ได้แก่
Financial Times รายงานว่าบริษัทไอทียักษ์ใหญ่หลายราย เริ่มเข้ามาสนับสนุนซอฟต์แวร์เทรน AI ที่ไม่ต้องพึ่งพา CUDA ของ NVIDIA เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
CUDA ถือเป็นอาวุธลับของ NVIDIA ที่ช่วยให้ครองความยิ่งใหญ่ในโลกชิป AI มายาวนาน เพราะซอฟต์แวร์ยอดนิยมส่วนใหญ่จำเป็นต้องรันบน CUDA อีกที ส่งผลให้ NVIDIA ผูกขาดตลาดชิป AI ไปกลายๆ และกลายเป็นต้นทุนก้อนมหึมาของบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการใช้ชิปลักษณะนี้
ประเด็นที่ OpenAI ประกาศหยุดให้บริการเสียงพูด Sky ใน ChatGPT ชั่วคราว เนื่องจากถูกตั้งข้อสงสัยว่าเสียงเหมือนกับนักแสดง Scarlett Johansson แม้ทาง OpenAI ยืนยันว่าใช้เสียงนักพากย์มืออาชีพ ที่อาจจะออกมาเหมือน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจเลียนแบบ ดูเหมือนจะมีอะไรที่ซับซ้อนมากกว่านั้น
OpenAI มีฟังก์ชัน Voice Mode ใน ChatGPT ให้ใช้งานตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว ซึ่ง ChatGPT สามารถโต้ตอบเป็นเสียงพูดได้ โดยระบุว่าเสียงที่ออกมานั้นใช้นักพากย์มืออาชีพ
อย่างไรก็ตามในตัวเลือก 5 เสียงที่มีให้ใช้งานได้แก่ Breeze, Cove, Ember, Juniper และ Sky ตัวเลือกเสียงอันหลังสุด Sky กลายเป็นประเด็นเมื่อมีคนตั้งข้อสงสัยว่าน้ำเสียงนั้นคล้ายกับนักแสดง Scarlett Johansson (Natasha Romanoff ใน Black Widow)
OpenAI ยืนยันว่าเสียงของ Sky เป็นของนักพากย์มืออาชีพหญิงคนหนึ่ง ที่พูดแบบธรรมชาติ และไม่ใช่ Scarlett Johansson แต่จะไม่เปิดเผยตัวตนเพื่อความเป็นส่วนตัว โดย OpenAI จะเริ่มปิดการใช้งานเสียง Sky ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้เพิ่มเติม
Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Greg Brockman ประธาน OpenAI ออกมาโพสต์ชี้แจงใน X เกี่ยวกับประเด็นฝ่าย Superalignment ที่มีภารกิจดูแลรับมือความปลอดภัยของ AI ที่อาจมีความสามารถมากขึ้น หลังจาก Ilya Sutskever หัวหน้าทีมได้ลาออก และ Jan Leike หัวหน้าทีมร่วมที่ลาออกเช่นกัน ออกมาเปิดเผยว่า OpenAI ลดความสำคัญของการทำงานฝ่ายนี้ ทั้งที่ AI มีแนวโน้มอันตรายมากขึ้น
ดูเหมือนจะเป็นสัปดาห์ที่มีเรื่องราวมากมายอีกครั้งของ OpenAI ตั้งแต่การเปิดตัวโมเดลใหม่ GPT-4o, ผู้ร่วมก่อตั้งลาออก, ตามด้วยพนักงานในฝ่ายเดียวกันอีกหลายคนลาออก ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว Vox ได้รายงานข้อมูลภายในบริษัท ซึ่งบ่งบอกว่าอดีตพนักงาน OpenAI อาจไม่สามารถเปิดเผยเรื่องราวอะไรได้มาก เพราะรูปแบบสัญญาที่แปลกไปจากบริษัทอื่น
เมื่อกรกฎาคมปีที่แล้ว OpenAI ประกาศตั้งทีมวิจัยใหม่ชื่อ Superalignment เพื่อเตรียมการรับมือปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ที่มีความฉลาดมากเหนือกว่ามนุษย์ กำกับดูแลว่ามนุษย์ยังรู้เท่าทันและสามารถควบคุมได้ ไม่ให้ทำงานผิดปกติไปนอกคำสั่งจนมุ่งร้ายต่อมนุษย์เสียเอง
OpenAI แต่งตั้งให้ Ilya Sutskever หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI และเป็นหัวหน้าฝ่ายนักวิทยาศาสตร์ เป็นหัวหน้าทีม Superalignment นี้ ร่วมกับ Jan Leike พร้อมตกลงว่าจะกันพลังการประมวลผล 20% ของบริษัทให้กับทีมนี้
OpenAI ประกาศเพิ่มปรับปรุงเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลใน ChatGPT โดยรองรับการเพิ่มไฟล์โดยตรงจาก Google Drive และ Microsoft OneDrive แล้ว (ได้ทั้งคู่นะ ไม่เหมือนแอปเดสก์ท็อป)
ฟังก์ชันเพิ่มไฟล์โดยตรงจาก Google Drive หรือ Microsoft OneDrive รองรับไฟล์ในหลายฟอร์แมตทั้งเอกสาร, สเปรดซีต หรือสไลด์นำเสนอข้อมูล สามารถขยายพื้นที่ของไฟล์ในหน้า ChatGPT เพื่อดูข้อมูลประกอบได้ รองรับข้อมูลที่ถูกปรับปรุงเรียลไทม์ในระหว่างการสนทนาวิเคราะห์ข้อมูล
OpenAI ประกาศลงนามข้อตกลงกับ Reddit แพลตฟอร์มชุมชนออนไลน์ โดย OpenAI จะได้เข้าถึงข้อมูลที่โพสต์ใน Reddit ผ่าน API แบบเรียลไทม์ ทำให้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ของ OpenAI เรียนรู้เรื่องราวที่เป็นหัวข้อปัจจุบันมากขึ้น
ในขณะเดียวกันความร่วมมือนี้ทำให้ Reddit ได้เข้าถึงเครื่องมือ AI ใหม่ ๆ ทั้งสำหรับสมาชิกชุมชุนหรือ Redditor และผู้ดูแลแต่ละกลุ่ม รวมทั้ง OpenAI จะเป็นพาร์ตเนอร์ด้านโฆษณาบน Reddit ด้วย
รายการ Cloudnone วิเคราะห์ประเด็นร้อนวงการ AI รอบกลางปี 2024 ที่สองยักษ์ยังฟัดกันต่อ โดย OpenAI เลือกเปิดตัว GPT-4o โมเดลตัวใหม่ล่าสุดตัดหน้างาน Google I/O เวทีใหญ่ประจำปีของกูเกิลเพียงแค่วันเดียว เล่นเอางานของกูเกิลจืดไปมาก
ตกลงแล้วใครชนะกันแน่ในสงคราม AI รอบนี้ รายการตอนนี้มาวิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละฝั่งให้ฟังกัน
ดูเหมือนการลาออกของ Ilya Sutskever หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI อาจจะเป็นประเด็นครั้งใหม่ภายใน OpenAI เมื่อมีการเปิดเผยจากพนักงาน OpenAI อีกหลายคน ว่าพวกเขาก็เพิ่งลาออกจาก OpenAI ด้วยเช่นกัน โดยไม่ได้ให้เหตุผลว่าเกี่ยวข้องกับการลาออกของ Sutskever หรือไม่
คนที่ประกาศไม่กี่ชั่วโมงหลัง OpenAI ประกาศการลาออกของ Sutskever อย่างเป็นทางการคือ Jan Leike หัวหน้าทีม Superalignment ที่มีหน้าที่ดูแลรับมือหากพบว่าปัญญาประดิษฐ์ยังสามารถควบคุมได้ โดยโพสต์ข้อความใน X ว่าลาออกแล้ว (I resigned)
Ilya Sutskever ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI ประกาศลาออกจากบริษัท โดยไม่ได้ระบุเหตุผล และไม่ได้บอกว่าจะไปทำอะไรต่อ
Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI บอกว่าการลาออกของ Ilya เป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะเขาเป็นแกนหลักของ OpenAI มาตลอด ส่วนคนที่จะมารับตำแหน่งหัวหน้านักวิทยาศาสตร์แทนคือ Jakub Pachocki ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัยของ OpenAI
Ilya เป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของอภิมหาดราม่าปลด Sam Altman เมื่อปลายปี 2023 เพราะเขาเป็นหนึ่งในบอร์ดของบริษัท และอยู่ในฝ่ายที่ออกเสียงปลด Sam ออกจากซีอีโอ แต่ภายหลังก็เปลี่ยนใจกลับมาสนับสนุน Sam (แบบงงกันทั้งโลก)
ประเด็นน่าสนใจอันหนึ่งในงานเปิดตัว GPT-4o ของ OpenAI เมื่อวานนี้ คือ การออกแอพเดสก์ท็อป ChatGPT เป็นครั้งแรก และเลือกออกบน... macOS
ประเด็นนี้ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า ไมโครซอฟท์ลงทุนใน OpenAI ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่ทำไม OpenAI ถึงเลือกออกแอพบนแพลตฟอร์มของแอปเปิลก่อน
เรื่องนี้มีคำตอบในบทสัมภาษณ์ Mira Murati ซีทีโอของ OpenAI บนเว็บไซต์ Axios บอกว่าเราเลือกทำบนแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้ของเราอยู่เยอะ (we’re just prioritizing where our users are) โดย OpenAI ยังไม่ประกาศว่าจะออกแอพ ChatGPT บนวินโดวส์ด้วยหรือไม่
เมื่อคืนที่ผ่านมา OpenAI เปิดตัว GPT-4o พร้อมกับประกาศเปลี่ยน tokenizer ใหม่โดยอาศัย 20 ภาษาต้นแบบในการบีบอัดข้อมูล ทำให้ภาษาต่างๆ ประหยัดโทเค็นยิ่งขึ้น แม้ภาษาไทยจะไม่อยู่ในรายชื่อ 20 ภาษา แต่ผลการทดลองก็พบว่าภาษาไทยนั้นประหยัดโทเค็นลงเท่าตัว
tokenizer ของ GPT-4o สามารถจับคำหรือส่วนของคำในภาษาไทยได้ชัดเจน คำสามัญเช่น "ของ" หรือ "จำนวน" ก็สามารถมองเป็นโทเค็นเดียวได้ทันที เทียบกับ tokenizer ของ GPT-4 ที่ไม่สามารถรวบตัวอักษรหลายตัวในภาษาไทยเข้าด้วยกันได้เลย ทำให้จำนวนโทเค็นกับจำนวนตัวอักษรใกล้เคียงกัน
ในงานแถลงข่าวเปิดตัว GPT-4o เมื่อคืนนี้ OpenAI ยังประกาศว่าฟีเจอร์หลายอย่างที่เคยจำกัดให้เฉพาะลูกค้าเสียเงินเท่านั้น ตอนนี้ขยายมารองรับผู้ใช้งานแบบฟรีทุกคนด้วย มีรายละเอียดดังนี้
update: เวอร์ชั่นแรกขอข่าวนี้พาดหัวว่ายังไม่รองรับภาษาไทย แต่เมื่อทดสอบแล้วจำนวนโทเค็นในภาษาไทยลดลงกว่าเท่าตัว
ในงานเปิดตัว GPT-4o ของ OpenAI นอกจากประเด็นโมเดลมีประสิทธิภาพสูงขึ้นแล้ว ยังมีประเด็นการออปติไมซ์ tokenizer เพื่อให้ใช้งานภาษาอื่นๆ นอกจากภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น โดยทีมงาน OpenAI เลือกมา 20 ภาษารวมถึงภาษาอังกฤษแต่ยังไม่มีภาษาไทย ทำให้ภาษาเหล่านี้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะคำในภาษาเหล่านี้มีจำนวนโทเค็นน้อยลง
OpenAI เปิดตัว GPT-4 รุ่นใหม่ในชื่อ GPT-4o (โฟร์-โอ) ความสามารถใกล้เคียง GPT-4 แต่ความเร็วสูงกว่า ขณะที่ยังมีความสามารถรองรับอินพุตหลายแบบ (multimodal) สามารถฟังเสียงและอ่านภาพได้โดยไม่ต้องการโมเดลปัญญาประดิษฐ์ speech-to-text แยก
เนื่องจากประสิทธิภาพ GPT-4o สูงกว่าทำให้ OpenAI สามารถเปิดให้ผู้ใช้ทุกคนใช้งานได้ฟรีโดยมีโควต้ามากขึ้น สำหรับการใช้งานฝั่ง API ราคาของ GPT-4o จะถูกกว่า GPT-4 Turbo ลงครึ่งหนึ่ง ความเร็วโดยรวมเพิ่มขึ้นเท่าตัว และโควต้าการใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า