ที่ผ่านมากูเกิลไม่เคยเผยตัวเลขรายได้จากธุรกิจ Android แยกเฉพาะ (รวมเป็นก้อนใหญ่ในงบการเงิน ไม่แยกย่อยรายหมวด) แต่ในเอกสารคำฟ้องระหว่างกูเกิลกับออราเคิล ฝั่งของออราเคิลก็เปิดเผยตัวเลขนี้ว่า กูเกิลมีรายได้จาก Android ทั้งหมด 31 พันล้านดอลลาร์ (1.1 ล้านล้านบาท) และมีกำไร 22 พันล้านดอลลาร์ (8 แสนล้านบาท)
ตัวเลขนี้มาจากการที่ทนายของออราเคิลเข้าถึงเอกสารของกูเกิลที่เปิดเผยในชั้นศาล และคำนวณรายได้ด้วยสูตรของออราเคิลเอง เหตุผลคือออราเคิลต้องการแสดงให้เห็นว่า Android สร้างรายได้มหาศาล และออราเคิลควรมีส่วนแบ่งด้วยจากกรณีสิทธิบัตร Java
Oracle ออกแพตช์ความปลอดภัยรอบเดือนมกราคม 2016 ชุดใหญ่ มากถึง 248 แพตช์ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลาย ตั้งแต่ Oracle Database, Java SE, Oracle E-Business Suite, Fusion Middleware, PeopleSoft (รายชื่อทั้งหมดอ่านตามลิงก์ที่มา)
แพตช์ชุดนี้เรียกว่า Critical Patch Update (CPU) ซึ่งบริษัทจะออกปีละ 4 ครั้งเป็นปกติตามระยะเวลาที่ประกาศล่วงหน้า
Oracle ยังแนะนำให้ลูกค้าอัพเดตแพตช์ล่าสุดทันที และขอให้ผู้ใช้ Java ดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุด (Java 8u71 ณ เวลาที่เขียนข่าว) เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้ใช้เองด้วย
คณะกรรมการการค้าสหรัฐฯ (FTC) ตกลงยอมความกับออราเคิลในคดีความปลอดภัยของจาวา เนื่องจากการเตือนความปลอดภัยขณะอัพเดตไม่เพียงพอ
FTC ระบุว่าตัวติดตั้งจาวาไม่เตือนผู้ใช้อย่างเพียงพอว่ามีจาวาเวอร์ชั่นเก่าอยู่ในเครื่องและยังเป็นช่องโหว่ความปลอดภัย แต่ถอนการติดตั้งเพียงเวอร์ชั่นล่าสุดเท่านั้น
ข้อเสนอของ FTC จะบังคับให้ออราเคิลต้องปรับกระบวนการอัพเดตโดยเตือนผู้ใช้อย่างชัดเจนถึงอันตรายของการติดตั้งเวอร์ชั่นเก่า และมีทางเลือกให้ผู้ใช้ถอนการติดตั้งได้โดยง่าย นอกจากนี้ยังบังคับให้ออราเคิลประกาศผลการตกลงนี้ทางช่องทางเครือข่ายสังคมออนไลน์ของบริษัท
ตอนนี้ข้อเสนอผ่านมติ FTC เรียบร้อยแล้ว และกำลังจะเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อไป
ออราเคิลออก NetBeans IDE 8.1 โดยทิ้งช่วงจากรุ่นก่อนหน้า NetBeans 8.0 ประมาณหนึ่งปีครึ่ง ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
Mark Hurd ซีอีโอร่วมของออราเคิล (ถ้าจำกันได้ เขาเคยเป็นซีอีโอของ HP) ออกมาพยากรณ์ว่าในปี 2025 หรืออีกสิบปีข้างหน้า 80% ของซอฟต์แวร์ด้านการงาน (productivity apps) จะย้ายมาอยู่บนคลาวด์ ในขณะที่ปัจจุบันมีเพียง 25% เท่านั้น
ส่วนการเก็บข้อมูลขององค์กรจะย้ายมาอยู่บนคลาวด์ทั้งหมด และกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์-ทดสอบจะเกิดขึ้นบนคลาวด์ด้วย ยุคสมัยของการมี OS หรือฐานข้อมูลแบบ on premise จะจบลงในอีกสิบปีข้างหน้า
เขายังพยากรณ์ว่าผู้เล่นตลาด Software as a Service (SaaS) สำหรับลูกค้าองค์กร จะเหลือรายใหญ่เพียงแค่ 2 รายที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน 80% ซึ่งเขามั่นใจว่าออราเคิลจะเป็นหนึ่งในสองรายนั้น
ออราเคิลหันมาลุยตลาดคลาวด์แบบ Infrastructure as a Service (IaaS) สู้กับ Amazon Web Services ตรงๆ โดยเปิดตัวบริการย่อยใหม่ 5 ตัว
Oracle เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Solaris 11.3 ที่พัฒนาควบคู่มากับซีพียู SPARC M7 ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
ตอนนี้ Solaris 11.3 เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว
งาน Oracle OpenWorld จัดควบคู่กับงาน JavaOne โดยส่วนของ JavaOne 2015 มีเนื้อหาเกี่ยวกับแผนการออกรุ่นของ Java ดังนี้
ช่วงนี้ ออราเคิลจัดงานประจำปี Oracle OpenWorld เลยมีข่าวผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทเยอะหน่อยนะครับ ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตัวที่น่าสนใจคือ Oracle Cloud Platform for Big Data แพลตฟอร์มคลาวด์สำหรับการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่
Oracle Cloud Platform for Big Data เป็นการจับผลิตภัณฑ์สาย Big Data ของออราเคิลมารวมเป็นชุดเดียวกัน โดยมีของเดิมอยู่แล้ว 2 ตัวคือ Big Data Cloud Service กับ Big Data SQL Cloud Service และเพิ่มของใหม่อีก 4 ตัว
ออราเคิลประกาศแผนการออกซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล Oracle Database 12c Release 2 (หรือเรียกเป็นเลขเวอร์ชันว่า 12.2) โดยเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการทดสอบรุ่นเบต้าแล้ว
ของใหม่ใน Oracle Database 12c Release 2 ได้แก่
ซีพียูตระกูล SPARC เป็นสินค้าที่ออราเคิลได้มาจากการเข้าซื้อซัน สองปีหลังเปิดตัวรุ่น M6 ตอนนี้ทางออราเคิลก็เปิดตัว SPARC M7 พร้อมให้สั่งได้แล้ว
ออราเคิลชูชุดเด่นเรื่องความปลอดภัยของ SPARC M7 โดยเพิ่มฟีเจอร์สองชุดได้แก่ Silicon Secure Memory ป้องกันการเข้าถึงหน่วยความจำในส่วนที่ไม่ได้รับอนุญาต และ Hardware-Assisted Encryption ชุดคำสั่งเร่งความเร็วในการเข้ารหัส 15 อัลกอริธึมหลัก ได้แก่ AES, Camellia, CRC32c, DES, 3DES, DH, DSA, ECC, MD5, RSA, SHA-1, SHA-224, SHA-256, SHA-384, SHA-512
ออราเคิลเขียนบล็อกพูดถึงยอดขายของ Oracle ZFS Storage Appliance ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2009 สมัยยังเป็นบริษัท Sun ระบุว่ายอดขายรวมตอนนี้เกิน 15,000 ชุดสร้างรายได้รวมกว่าพันล้านดอลลาร์ รวมเป็นลูกค้ากว่า 5,000 ราย
ในบล็อกยังรายงานกลุ่มลูกค้า เช่น ผู้ให้บริการคลาวด์รายหนึ่งใช้ Oracle ZFS Storage Appliance นี้เก็บข้อมูลถึง 200PB, บริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในโลก, บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ 5 บริษัท, สถาบันการเงิน 300 แห่ง, ธนาคาร 4 ใน 5 ของธนาคารที่ใหญ่ที่สุด
แม้ว่าตัวเลขจะน่าประทับใจกับความเร็วในการเติบโตของธุรกิจนี้ แต่เมื่อเทียบกับเจ้าตลาดสตอเรจอย่าง EMC แล้วดูจะเล็กกว่ามาก สินค้าตระกูล XtremIO ของ EMC ทำยอดขายรวมพันล้านในเวลาเพียงปีครึ่ง (80% เป็นลูกค้าเดิมของ EMC อยู่แล้ว)
เข้ามาเล่นในตลาดสตอเรจแฟลชอย่างจริงจังสำหรับ Oracle หลังจากเมื่อต้นปีเพิ่งเปิดตัว FS1 รุ่นไฮบริดไปก่อน ก็ถึงคิวเปิดตัวเวอร์ชันแฟลชล้วนมาบ้างเมื่อปลายเดือนสิงหาคม พร้อมกับเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สเปคตัวคอนโทรลเลอร์ของ FS1 รุ่นแฟลชล้วนจะเท่ากับรุ่นไฮบริดแทบทุกอย่าง ซีพียูเป็น Xeon E5-2620 หกคอร์ความถี่ 2GHz (รวมเป็น 24 คอร์) ใส่แรมได้สูงสุด 384GB รองรับ SSD ความจุสูงสุด 912TB แต่ถ้าใช้ SSD แบบเน้นประสิทธิภาพสูงจะอยู่ที่ 156TB
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรก ของปีการเงินบริษัท 2016 สิ้นสุดเดือนสิงหาคม มีรายได้รวม 8,448 ล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้ก็ยังเพิ่มขึ้น 7% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,747 ล้านดอลลาร์ ลดลง 20% แต่ถ้าไม่รวมอัตราแลกเปลี่ยนก็ลดลง 8%
กลุ่มธุรกิจที่ยังเติบโตดีอย่างคลาวด์ซอฟต์แวร์ (SaaS และ PaaS) มีรายได้เพิ่มขึ้น 34% ขณะที่ยอดขายไลเซนส์ลดลง 16%
นักวิเคราะห์จาก FBR Capital Markets ให้ความเห็นว่าธุรกิจดั้งเดิมของออราเคิลนั้นอนาคตยังไม่ชัดเจนนัก แต่คลาวด์ซอฟต์แวร์ยังสดใส ซึ่งออราเคิลสามารถเสริมทัพได้ด้วยการซื้อกิจการที่น่าสนใจ อย่างเช่น Splunk, Tableau, NetSuite หรือ Workday
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ Oracle ก่อนหน้านี้เพิ่งมีข่าวการปลดพนักงานสาย Java Evangelist ยกทีม ล่าสุด Cameron Purdy ผู้บริหารตำแหน่ง Senior Vice President for Development ที่อยู่กับบริษัทมานาน 8 ปี (และถือเป็น Java Evangelist คนสำคัญอีกคนหนึ่ง) ก็ออกจากบริษัทแล้ว โดยเขาทวีตบอกว่าไม่ได้ลาออกเอง แต่เป็นการตัดสินใจของบริษัท
พนักงานสาย Java คนอื่นๆ ที่ออกจากบริษัทในช่วงเดียวกันได้แก่ Mark Heckler (Developer Evangelist), James Weaver (JavaFX และ IoT), John Clingan (Glassfish คนนี้ย้ายไป Red Hat)
Oracle ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นในเรื่องนี้ครับ
ตามปกติแล้ว บริษัทซอฟต์แวร์สำหรับนักพัฒนา มักมีพนักงานตำแหน่ง evangelist (คำแปลตามพจนานุกรมคือ "ผู้เผยแผ่ศาสนา") ทำหน้าที่เป็นตัวแทนเพื่อกระตุ้นให้นักพัฒนาหันมาใช้เทคโนโลยีของบริษัทกันมากขึ้น พนักงานตำแหน่งนี้มักต้องติดต่อกับชุมชนนักพัฒนาภายนอก เป็นตัวกลางระหว่างชุมชนกับบริษัท
ล่าสุดมีข่าวว่า Oracle ปลดพนักงานตำแหน่ง Java evangelist ออกทั้งหมดโดยยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด
Simon Ritter หนึ่งในทีม Java evangelist โพสต์ข้อมูลผ่าน Facebook เกี่ยวกับการตกงานของเขา โดยเขาบอกว่าไม่คิดว่าทีมงานของเขาจะตกงานกันยกทีมแบบนี้ ส่วนโฆษกของ Oracle ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อข่าวการปลดพนักงานครั้งนี้
Mary Ann Davidson หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย (Chief Security Officer) ของออราเคิลเขียนบล็อกลงเว็บบริษัท ขอให้ลูกค้าเลิกตรวจสอบความปลอดภัยซอฟต์แวร์ของออราเคิลด้วยเครื่องมือสแกนความปลอดภัย เพราะเป็นการละเมิดข้อตกลงการใช้งาน
เธอระบุว่าการที่ออราเคิลจะยอมรับรายงานช่องโหว่ จะต้องให้ลูกค้าเข้ามาเปิดการขอซัพพอร์ตด้วยตัวเองที่ละจุด และแสดงตัวอย่างการเจาะระบบที่ได้ผล อย่างไรก็ตามหากทีมงานของเธอพบว่าลูกค้าใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่เป็นการวิเคราะห์โค้ด (static analysis) ทางออราเคิลจะส่งจดหมายกลับไปบอกให้หยุดวิเคราะห์และทำลายผลการวิเคราะห์เหล่านั้นเสีย
ซีพียูตระกูล SPARC มีข่าวน้อยลงเรื่อยๆ หลังออราเคิลซื้อซันไป ตอนนี้ทางโครงการเดเบียนก็ออกมาประกาศถอด SPARC ออกจากโค้ดของโครงการ ทั้ง unstable, experimental, jesse-updates, และโค้ดภายในอื่นๆ
ก่อนหน้านี้เดเบียนรองรับสถาปัตยกรรม SPARC 64 บิตเฉพาะเคอร์เนลเท่านั้นแต่แอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่จะรันที่ 32 บิต
ดิสโทรอื่นๆ หยุดซัพพอร์ต SPARC กันไปเป็นก่อนหน้าเดเบียนเป็นเวลานาน Red Hat หยุดออกรุ่น SPARC ตั้งแต่ปี 2000, SUSE ออกรุ่นสุดท้ายปี 2002, และ Ubuntu ออกรุ่นสุดท้ายปี 2010
ที่มา - The Register
Trend Micro ออกมาประกาศช่องโหว่ใหม่ของ Java 8 ที่ยังไม่มีแพตช์แก้ไข ซึ่งถือเป็นช่องโหว่แบบ zero-day ตัวแรกในรอบ 2 ปีของ Java ด้วย
การค้นพบช่องโหว่ Java ครั้งนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเอกสารของ Hacking Team ที่เผยช่องโหว่ Flash แต่เกิดจากการจับตาปฏิบัติการเจาะระบบชื่อ Operation Pawn Storm ที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2015 และมุ่งเป้าเจาะระบบของหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอย่างทำเนียบขาว-นาโต้
ทีมเฝ้าระวังของ Trend Micro ตรวจพบว่า URL ที่ฝ่ายแฮ็กเกอร์ Pawn Storm เคยใช้งานมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาของเว็บเพจในภายหลัง และเนื้อหาในเพจเหล่านี้เตรียมไว้สำหรับเจาะระบบผ่านช่องโหว่ของ Java ที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน
Oracle VM VirtualBox ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สสำหรับทำ virtualization เดินทางมาถึงเวอร์ชัน 5.0 แล้ว ของใหม่ได้แก่
สถานะของคดีลิขสิทธิ์ Java ระหว่างกูเกิลกับออราเคิลคือ คดียังอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ แต่กูเกิลก็ส่งเรื่องเข้าศาลฎีกาเมื่อเดือนตุลาคม 2014 ด้วยอีกทางหนึ่ง
ความคืบหน้าล่าสุดคือศาลฎีกาไม่รับคำร้องจากกูเกิล ทำให้เรื่องกลับไปที่ชั้นศาลอุทธรณ์อีกครั้ง เดิมทีนั้นศาลอุทธรณ์ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้นว่า API ของ Java มีลิขสิทธิ์ (ซึ่งเป็นผลดีกับออราเคิล) แต่ศาลอุทธรณ์กลับมองว่าแม้ API มีลิขสิทธิ์ แต่กูเกิลมีสิทธิใช้ได้ตามหลัก fair use (ซึ่งเป็นผลดีกับกูเกิล) และส่งเรื่องกลับไปยังศาลชั้นต้นเพื่อพิจารณาประเด็นเรื่อง fair use อีกครั้ง
ที่ผ่านมาเราเห็นข่าว Oracle Java แถม Ask Toolbar โดยแอบติดตั้งแบบไม่ให้ผู้ใช้รับรู้
ล่าสุด Oracle ได้พันธมิตรรายใหม่เป็น Yahoo โดยตัวติดตั้ง Java จะมีตัวเลือกให้เปลี่ยนเครื่องมือค้นหาหลักมาเป็น Yahoo อีกทั้งเปลี่ยนหน้า New Tab ของ Chrome เป็น Yahoo ด้วยเช่นกัน (ตัวเลือกนี้จะถูกเลือกมาเป็นดีฟอลต์ แต่ตัวแทนของ Yahoo บอกว่าเอาออกได้และไม่มีการแอบเนียนติดตั้งแน่นอน)
การที่ Yahoo จับมือกับ Oracle เป็นหนึ่งในแผนการของซีอีโอ Marissa Mayer ที่ต้องการให้บริษัทกลับมาเติบโตในตลาดการค้นหาอีกครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ Yahoo ก็เพิ่งประกาศข้อตกลงกับ Firefox ที่อยู่บนยุทธศาสตร์เดียวกัน
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปีการเงินบริษัท 2015 (มีนาคม-พฤษภาคม) มีรายได้รวม 10,706 ล้านดอลลาร์ ลดลง 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน โดยบริษัทบอกว่าถ้าไม่นับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน แท้จริงรายได้ยังเพิ่มขึ้นถึง 3% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,758 ล้านดอลลาร์ ลดลง 24%
รายได้คลาวด์ซอฟต์แวร์ (SaaS และ PaaS) ยังคงเพิ่มขึ้น 29% คิดเป็น 426 ล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้หลักจากการขายไลเซนส์ซอฟต์แวร์ใหม่ลดลง 17%
ที่มา: ออราเคิล
Bloomberg Business รายงานว่าสัดส่วนลูกค้าใหม่ของฐานข้อมูล Oracle Database เริ่มลดลง ถึงแม้ว่าฐานลูกค้าเก่าจะเพิ่มอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นสัญญาณว่าฐานข้อมูล Oracle Database เริ่มถูกชิงส่วนแบ่งตลาดโดยฐานข้อมูลโอเพนซอร์สที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่า
Bloomberg ลองสำรวจข้อมูลจากสตาร์ตอัพหน้าใหม่ที่มีมูลค่าบริษัทเกิน 1 พันล้านดอลลาร์ จำนวน 20 ราย (ในจำนวนนี้มี Cloudflare และ Pinterest) พบว่าบริษัทเกือบทั้งหมดใช้ฐานข้อมูลโอเพนซอร์ส มีหนึ่งรายที่ใช้ Microsoft SQL Server และไม่มีรายไหนใช้ Oracle Database เลย
ช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ถือเป็นเดือนครบรอบ 20 ปีของภาษาและแพลตฟอร์ม Java ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการคอมไพล์แล้วนำโปรแกรมมารันบน virtual machine
Oracle ในฐานะเจ้าของ Java ในปัจจุบันจึงฉลองด้วยการจัดทำ timeline เหตุการณ์สำคัญในแต่ละช่วงอายุของ Java ตั้งแต่ถือกำเนิดในปี 1995 โดยตั้งเป้าว่าจะเป็นภาษาสำหรับอุปกรณ์ฝังตัวและเซ็ตท็อปบ็อกซ์ และพัฒนาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
เอาเข้าจริงแล้ว Java เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 1991 โดยทีมของ James Gosling วิศวกรของ Sun (ตอนแรกใช้ชื่อว่า Oak เพราะตั้งชื่อตามต้นไม้ข้างสำนักงาน ภายหลังเปลี่ยนชื่อเพราะปัญหาเครื่องหมายการค้า) และใช้เวลานานถึง 5 ปีกว่าจะเปิดตัวในงาน SunWorld ปี 1995