ออราเคิลเปิดตัว Oracle Blockchain Cloud Service บริการบล็อคเชนที่เป็น Hyperledger Fabric ที่จัดการโดยออราเคิล ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้งานบล็อคเชนไม่ต้องเซ็ตอัพด้วยตัวเอง โดยเปิดเป็นบริการทั่วไป (general availability - GA) หลังจากเริ่มให้บริการแบบเบต้ามาตั้งแต่ปีที่แล้ว
ค่าบริการ อยู่ที่ 0.75 ดอลลาร์ต่อ 500 คำสั่งต่อชั่วโมง โดยคูณจำนวนทุกครั้งที่เพิ่มโหนดบนเชน ผู้ใช้เรียกใช้บล็อคเชนผ่าน REST API ขณะที่ออราเคิลรับผิดชอบการอัพเดตซอฟต์แวร์และการสำรองข้อมูลให้
Oracle ประกาศเปลี่ยนวิธีหาเงินกับ Java SE 8 สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ จากเดิมที่เป็นการซื้อไลเซนส์แบบจ่ายครั้งเดียว และพ่วงด้วยบริการซัพพอร์ตเป็นรายปี เปลี่ยนมาเป็นการจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายปี (subscription)
บริการนี้เรียกว่า Java SE Subscription จะเปิดให้ซื้อในเดือนกรกฎาคม 2018 ราคาอยู่ที่ 25 ดอลลาร์ต่อเดือนต่อซีพียู (เซิร์ฟเวอร์) และ 2.50 ดอลลาร์ต่อเครื่อง (พีซี) ต้องซื้อขั้นต่ำ 1 ปี และหากซื้อเยอะมีส่วนลดพิเศษให้ด้วย
องค์กรที่จ่ายเงินค่า Java SE Subscription จะได้บริการซัพพอร์ตและอัพเดตเวอร์ชันมาด้วย แต่หากหยุดจ่ายเงินเมื่อใด จะถือว่าไลเซนส์การใช้งานในเชิงพาณิชย์หมดลงในทันที ซึ่ง Oracle แนะนำให้ย้ายไปใช้ OpenJDK แทนหากไม่ต้องการจ่ายเงิน
Oracle ประกาศแผนการออก Java SE 11 (JDK 11) ที่มีกำหนดออกในเดือนกันยายน ตามรอบการออกแบบใหม่ทุก 6 เดือน
Java 11 จะเป็นรุ่นซัพพอร์ตระยะยาว (LTS) ที่จะออกทุกสามปี (รุ่นหน้าคือ Java 17 ที่จะออกในปี 2021) และมีระยะเวลาซัพพอร์ตนานไปจนถึงปี 2026 (ถือเป็น Java รุ่นแรกภายใต้รอบการออกแบบใหม่ที่มีสถานะเป็น LTS ถัดจาก Java 8 ที่ยังใช้รอบการออกแบบเก่า)
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของ Java 11 คือการถอดฟีเจอร์เก่าๆ หลายอย่างออกจากแพ็กเกจหลักของ JDK ได้แก่ JavaFX ที่เคยประกาศไปแล้ว และจะถอดโมดูลของ Java EE กับ COBRA ออกด้วย
Oracle ประกาศแผนการปล่อยอัพเดตของ Java 8 SE ในอนาคต หลังปรับนโยบายออกเวอร์ชันใหม่ทุก 6 เดือน (ล่าสุดคือ Java 10)
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ออราเคิลประเทศไทยจัดงาน Oracle Cloud Day 2018 และผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ Christopher Chelliah ตำแหน่ง Group Vice President and Chief Architect, Core Technology and Cloud ดูแลสินค้ากลุ่มคลาวด์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด
ก่อนการสัมภาษณ์ คุณ Chelliah ได้บรรยายในงานถึงคลาวด์ในยุคต่อไปของออราเคิลที่เน้นความสามารถห้าด้านหลัก ได้แก่ การทำงานเป็นอัตโนมัติ (Autonomous Platform Service), ควบคุมโครงสร้างพื้นฐานด้วยโค้ด (Infrastructure as Code), IoT, Blockchain, และ AI
รวดเร็วปานจรวด เพียง 6 เดือนหลังจาก Java SE 9 ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ก็ได้เวลาของ Java SE 10 ครับ
การออก Java 10 อยู่ภายใต้นโยบายใหม่ของ Oracle ที่จะออก Java รุ่นใหม่ทุก 6 เดือน ลักษณะเดียวกับที่เราเห็นในซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สหลายโครงการ โดย Java 10 ถือเป็นรุ่นแรกที่ใช้ระบบออกรุ่นแบบใหม่นี้ และมีเลขเวอร์ชันอีกแบบคือ 18.3 (ปี.เดือน)
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) มีรายได้รวม 9,771 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน สุทธิแล้วขาดทุน 4,024 ล้านดอลลาร์ จากการบันทึกค่าใช้จ่ายครั้งเดียวของการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐ 6.9 พันล้านดอลลาร์ หากไม่มีรายการดังกล่าวจะมีกำไรสุทธิ 3.5 พันล้านดอลลาร์
รายได้จากบริการคลาวด์และไลเซนส์ซอฟต์แวร์เติบโต 8% เป็น 7,981 ล้านดอลลาร์ โดยส่วนของคลาวด์ SaaS เพิ่มขึ้น 33% เป็น 1,151 ล้านดอลลาร์, คลาวด์ PaaS รวมกับ IaaS เพิ่มขึ้น 28% เป็น 415 ล้านดอลลาร์
หลายคนอาจลืมชื่อ JavaFX เทคโนโลยีของฝั่ง Java ที่ออกแบบมาแข่งกับ Adobe Flash/AIR กันไปแล้ว (สุดท้ายก็แพ้ให้กับ HTML5 กันหมด)
ถึงแม้แทบไม่มีใครรู้จัก แต่ JavaFX ก็ยังไม่ตายและแฝงตัวอยู่ใน JDK อย่างเงียบๆ มานานเกือบสิบปี (เปิดตัวปี 2007 และเป็นส่วนหนึ่งของ Oracle JDK ในปี 2012)
ล่าสุด Oracle ประกาศถอด JavaFX ออกจากแพ็กเกจหลักของ JDK แล้ว โดยจะมีผลใน JDK 11 (หรือ 18.9 ออกเดือนกันยายนนี้) เป็นต้นไป ส่วน JavaFX ใน JDK 8 จะยังซัพพอร์ตไปจนถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อย
Oracle ประกาศเข้าซื้อ Zenedge บริษัทสตาร์ทอัพด้านความปลอดภัย มีชุดผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานกับศูนย์ข้อมูลส่วนตัว, คลาวด์สาธารณะ หรือว่าแบบผสมก็ได้
บริษัท Zenedge ให้บริการเกี่ยวกับความปลอดภัยที่หลากหลาย เช่น ไฟร์วอลสำหรับเว็บแอพพลิเคชั่น, การป้องกันการโจมตีแบบ DDoS, การจัดการบอท, การจัดการ API และการป้องกันมัลแวร์ และยังมี Security Operations Center (SOC) เพื่อช่วยลูกค้าในการมอนิเตอร์โครงสร้างพื้นฐานว่ามีการโจมตีเกิดขึ้นหรือไม่ ปัจจุบันซอฟต์แวร์และ SOC ของ Zenedge ให้บริการบนเว็บไซต์และเครือข่ายกว่า 8 หมื่นแห่งทั่วโลก
ออราเคิลปล่อยแพตช์ความปลอดภัยรอบไตรมาสแรกของปี 2018 รวม 237 รายการ โดยช่องโหว่ร้ายแรงที่สุดเป็นของ Sun ZFS Storage Appliance Kit (AK) ที่มีช่องโหว่ CVSS 10.0 หนึ่งรายการ ส่วนซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับคนวงกว้าง เช่น MySQL Server มีช่องโหว่ร้ายแรงสุด CVSS 7.5 (ตัว monitor ร้ายแรงกว่าแต่คนทั่วไปคงไม่ได้ใช้) หรือ Java SE ที่มีช่องโหว่ CVSS 8.3 เท่ากัน 3 รายการ กระทบตั้งแต่ Java 6 มาถึง 9
สำหรับการโจมตี Meltdown/Spectre ออราเคิลแจ้งลูกค้าในหน้าพอร์ทัลที่ต้องล็อกอินระบุว่าบริษัทเชื่อว่า SPARCv9 ได้รับผลกระทบจาก Spectre ด้วย แต่แพตช์จะออกต่อเมื่อทดสอบเสร็จแล้ว ระหว่างนี้แนะนำให้จำกัดผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ระดับสูงและตรวจสอบล็อกสม่ำเสมอ ส่วนผลกระทบในแง่ประสิทธิภาพจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง
Oracle เตรียมเข้าซื้อ Aconex บริษัททำโซลูชั่นจัดการโครงการก่อสร้างในรูปแบบของเว็บและคลาวด์ ด้วยมูลค่ากว่า 1.56 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคิดเป็น 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยทาง Oracle จะจ่ายเป็นเงินสดให้หุ้นละ 7.80 ดอลลาร์ออสเตรเลีย
Aconex นั้นเชี่ยวชาญในการทำซอฟต์แวร์เกี่ยวกับการจัดการโครงการก่อสร้าง โดยทางบริษัทมีซอฟต์แวร์ที่ให้แต่ละทีมงานสามารถใส่ข้อมูลเพื่อวางแผน, สร้าง และบริหารจัดการโครงการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีของ Aconex ถูกใช้ในโครงการหลากหลายรูปแบบ มีลูกค้า 7 หมื่นองค์กรใน 70 ประเทศทั่วโลก
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (กันยายน-พฤศจิกายน) มีรายได้เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนเป็น 9,621 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,233 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10%
ซีทีโอ Larry Ellison กล่าวว่าออราเคิลเตรียมเปิดตัวฐานข้อมูลแบบดูแลตัวเองเป็นครั้งแรกในโลกเร็วๆ นี้ ซึ่งไม่ต้องใช้คนดูแลจัดการใดๆ ทั้งยังรับประกันว่าค่าใช้จ่ายการรันฐานข้อมูลอัตโนมัตินี้บน Oracle Cloud จะถูกกว่ารันฐานข้อมูลบน Amazon Cloud มากกว่าครึ่ง
ออราเคิลยังคงเดินหน้าเปลี่ยนผ่านจากการขายไลเซนส์และการบำรุงรักษา มาเป็นรูปแบบขายระบบบนคลาวด์ โดยไตรมาสนี้รายได้ส่วนคลาวด์เติบโตถึง 44% และเป็นตัวผลักดันให้รายได้รวมเติบโต
ออราเคิลออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่บัญชีของ Oracle Identity Manager (OIM) ที่มีรหัสผ่านเป็นช่องว่างช่องเดียว เปิดทางให้แฮกเกอร์สามารถล็อกอินเข้าระบบได้ กระทบ OIM เวอร์ชั่น 11.1 เป็นต้นมา
ผู้ใช้ OIMINTERNAL เป็นผู้ใช้ที่สร้างขึ้นเป็นมาตรฐานตามเอกสารคู่มือของ OIM เอง และรหัสผ่านที่เป็นช่องว่างเพียงช่องเดียวควรทำให้ผู้ใช้นี้ล็อกอินไม่ได้ แต่จากการแพตช์รอบนี้ก็แสดงว่ามีบางช่องทางที่สามารถล็อกอินได้
ช่องโหว่ CVE-2017-10151 นี้ได้คะแนน CVSSv3 อยู่ที่ 10.0 ผู้ใช้ทุกคนควรแพตช์ทันที
ออกกันปีละรุ่นกับ VirtualBox ซอฟต์แวร์ virtualization โอเพนซอร์สใต้สังกัด Oracle โดยเวอร์ชัน 5.2 ประจำปี 2017 มีฟีเจอร์ใหม่ไม่เยอะนัก
การแก้ไขอื่นๆ เน้นการแก้บั๊กหรือปรับปรุงฟีเจอร์เดิมๆ ตามไปดาวน์โหลดกันได้ที่ VirtualBox
ที่มา - VirtualBox
ต่อเนื่องจากข่าว Oracle ยก Java EE ให้มูลนิธิ Eclipse Foundation ดูแลต่อ โดยตัวโครงการจะต้องเปลี่ยนไปใช้ชื่ออื่นแทน เนื่องจากชื่อ Java EE เป็นเครื่องหมายการค้าของ Oracle
ชื่อใหม่ของโครงการ Java EE คือ EE4J (Eclipse Enterprise for Java) ซึ่งจะใช้เป็นชื่อโครงการระดับบนสุด (Top-level Project) ของมูลนิธิ Eclipse ที่ตัวมันเองจะมีโครงการย่อยๆ อย่าง Glassfish, EclipseLink อยู่ในสังกัดด้วย
Mike Milinkovich ผู้บริหารของ Oracle อธิบายว่า EE4J เป็นชื่อโครงการ ไม่ใช่ชื่อแบรนด์ที่มาแทน Java EE และในอนาคตเมื่อโครงการเริ่มเดินหน้าไปได้ ก็หวังว่าจะมีชื่อแบรนด์ใหม่ที่มาแทน Java EE ในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์
บริการคลาวด์ใหม่อีกตัวของ Oracle ที่เปิดตัวในงานปีนี้ (นอกจาก Blockchain, Container, Serverless) ก็มีบริการ AI Cloud สำหรับให้บริการด้านประมวลผล AI
ธีมสำคัญอย่างหนึ่งในงาน Oracle OpenWorld 2017 ปีนี้คือการที่ Oracle บุกตลาดคลาวด์เต็มตัว (สักที) สิ่งที่เกิดขึ้นคือเปิดบริการคลาวด์ใหม่ๆ ให้ทัดเทียมคู่แข่งรายอื่น เช่น Oracle Blockchain Cloud Service หรือ Fn สำหรับงาน Serverless
บริการใหม่อีกตัวที่น่าสนใจคือ Oracle Container Native Application Development Platform (ชื่อยาวมาก) มันคือบริการพัฒนาแอพพลิเคชันในยุคคอนเทนเนอร์ครองเมือง
เทร็นด์อีกอย่างหนึ่งของโลกเซิร์ฟเวอร์ในช่วงหลัง คือการประมวลผลแบบ serverless ที่ไม่ต้องรันเซิร์ฟเวอร์ค้างไว้ตลอดเวลา แต่เซิร์ฟเวอร์จะเริ่มทำงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามที่ระบุไว้ (event-based หรือบ้างก็เรียกว่า functions-as-a-service)
ผู้นำของแนวทางนี้คือ AWS Lambda ที่เปิดตัวในปี 2014 จากนั้นคู่แข่งคลาวด์รายอื่นก็ทำตามกันหมด ทั้ง Google Cloud Function และ Microsoft Azure Functions
ของใหม่อีกอย่างในงาน Oracle OpenWorld 2017 คู่มากับฐานข้อมูล Oracle Database 18c (เลขเวอร์ชันก้าวกระโดดอย่างลึกลับ) คือเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล Oracle Exadata รุ่นใหม่ X7
Exadata คือเซิร์ฟเวอร์กลุ่มที่เรียกว่า Engineered System ปรับแต่งมาอย่างดีโดยวิศวกรของ Oracle ว่ารีดประสิทธิภาพของฐานข้อมูล Oracle Database ได้ดีที่สุด
Oracle เปิดตัวบริการใหม่ท่ีงาน Oracle OpenWorld 2017 หลายอย่าง ตัวหนึ่งที่น่าสนใจคือ Oracle Blockchain Cloud Service บริการบล็อคเชนผ่านคลาวด์
บริการของ Oracle ใช้ซอฟต์แวร์ Hyperledger Fabric ที่เป็นโอเพนซอร์ส ในแง่ฟีเจอร์คงไม่ใช่ของใหม่ เพราะ IBM ที่เป็นคนสร้าง Fabric ก็เปิดบริการ Blockchain Cloud มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ข่าวนี้แสดงให้เห็นว่าตลาด Blockchain ภาคองค์กรเริ่มขยายใหญ่จน Oracle ต้องลงมาเล่นด้วยอีกราย ก่อนหน้านี้ Oracle เพิ่งสมัครเป็นสมาชิกของโครงการ Hyperledger เมื่อต้นเดือนสิงหาคม
Larry Ellison ซีทีโอของ Oracle เปิดเผยรายละเอียดของฐานข้อมูลใหม่เวอร์ชัน 18c โดยจะใช้ machine learning เรียนรู้จากข้อมูลบันทึกที่เก็บไว้ และสามารถทำงานด้านการป้องกันข้อมูลผู้ใช้ รวมถึงการจัดการฐานข้อมูลได้อัตโนมัติ มีจุดประสงค์หลักเพื่อลดงานของผู้ดูแลระบบฐานข้อมูล เพื่อให้ไปทำงานในด้านอื่นแทนอย่างเช่นการวางแผนและความปลอดภัย
การใช้ machine learning ในฐานข้อมูลนั้น เพื่อเป็นการช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของฐานข้อมูลในงานที่ใช้บ่อย ๆ ผ่านการ caching, indexing และเทคนิคอื่น ๆ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ใครที่ขโมย credential ไปเข้าถึงข้อมูลธุรกิจได้ และยังสามารถลดหรือเพิ่มการคำนวณหรือปริมาณข้อมูลที่ใช้ได้อัตโนมัติ
สัปดาห์ที่ผ่านมา ออราเคิลเปิดตัวซีพียู SPARC M8 ซึ่งเป็นรุ่นต่อของ SPARC M7 ที่ออกในปี 2015
ออราเคิลคุยว่า SPARC M8 มีประสิทธิภาพดีว่า SPARC M7 ถึง 2 เท่า, มีประสิทธิภาพด้านการประมวลผล Java และการเข้ารหัสดีกว่าซีพียูสถาปัตยกรรม x86 (ไม่ระบุว่ารุ่นไหน) 2 เท่า, มีประสิทธิภาพด้านฐานข้อมูลดีกว่า x86 ถึง 7 เท่า
ฟีเจอร์อีกอย่างของ SPARC M8 ที่ต่อเนื่องมาจาก M7 คือ Software in Silicon v2 หรือการป้องกันมัลแวร์ในหน่วยความจำ และ Data Analytics Accelerator (DAX) ที่ช่วยเร่งความเร็วในงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูล
นอกจาก Java SE 9 แล้ว ออราเคิลยังออก Java EE 8 มาพร้อมกัน (ทิ้งช่วงจาก Java EE 7 ที่ออกในปี 2013 นาน 4 ปีกว่า) ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่
หลังจาก เลื่อนแล้ว เลื่อนอีกมานาน ในที่สุด Oracle ก็ได้ฤกษ์ออก Java 9 ตัวจริง ซึ่งทิ้งช่วงห่างจาก Java 8 นานถึง 3 ปีครึ่ง
ตอนนี้ยังมีเฉพาะ Java Development Kit (JDK) 9 ให้ดาวน์โหลดบนลินุกซ์เพียงแพลตฟอร์มเดียว ฟีเจอร์ใหม่ของ Java 9 คือ Project Jigsaw หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ Java Platform Module System ซึ่งเป็นการแยกส่วน Java ออกเป็นโมดูลย่อยๆ เพื่อใช้งานเท่าที่จำเป็น ลดขนาดไฟล์และนำ Java ไปใช้กับอุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัดได้ง่ายขึ้น
ออราเคิลรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ตามปีการเงินบริษัท 2018 (มิถุนายน-สิงหาคม) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน เป็น 9,187 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 2,210 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 21%
ซีอีโอ Safra Catz กล่าวว่าธุรกิจคลาวด์ยังคงมีการเติบโตสูงต่อเนื่อง และทำให้รายได้กับกำไรของออราเคิลเพิ่มมากขึ้นและมากขึ้นไปได้อีก (higher and higher) โดยรายได้จาก SaaS เพิ่มขึนถึง 62% และออราเคิลก็บอกว่าเติบโตมากกว่า Salesforce.com ถึงสองเท่า
ซีทีโอ Larry Ellison ยังกล่าวว่าในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ออราเคิลจะเปิดตัวบริการ database แบบอัตโนมัติบนคลาวด์ ซึ่งสามารถจัดการตัวเองได้ด้วย machine learning ทำให้ไม่ต้องใช้คนมาจัดการหรือปรับจูนฐานข้อมูล ส่งผลให้ SLA สูงถึง 99.995%