ซัมซุงประกาศลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน เดิมทีซัมซุงเคยประกาศในปี 2019 ว่าจะลงทุน 133 ล้านล้านวอน (ประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท) ในระยะเวลาอีก 10 ปีข้างหน้า (นับถึงปี 2030) แต่ล่าสุดปรับตัวเลขใหม่เป็น 171 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.7 ล้านล้านบาท) เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ซัมซุงยังประกาศเริ่มสร้างไลน์การผลิตใหม่ที่เมือง Pyeongtaek ในเกาหลี เพื่อผลิตแรม DRAM ขนาด 14nm และชิปขนาด 5nm ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ EUV ทั้งคู่ โรงงานใหม่จะเสร็จในครึ่งหลังของปี 2022
Nikkei Asia มีบทความประเมินสถานการณ์ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุง ที่ตามหลังคู่แข่ง TSMC และช่องว่างเริ่มถ่างออกเรื่อยๆ
ปัญหาของธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงเกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน เช่น ภัยธรรมชาติ (โรงงานในเท็กซัสต้องปิดเพราะปัญหาไฟดับเป็นวงกว้าง), การเปิดโรงงานใหม่ในเกาหลีใต้ล่าช้า ทำให้ซัมซุงตามหลัง TSMC ในเรื่องการผลิต 5nm ไปหลายเดือน
จากปัญหาชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดตลาด ส่งผลการผลิตรถยนต์นั้น Bloomberg รายงานว่า ผู้ผลิตบางราย ถึงขั้นต้องยอมตัดฟีเจอร์ด้านเทคโนโลยีออกบางรายการในการผลิต เพื่อให้สามารถผลิตออกมาได้ทันความต้องการ
Nissan ตัดระบบนำทางออกจากสินค้าหลายรายการ Ram แบรนด์รถกระบะ ตัดการมองกระจกหลังอัจฉริยะ กระทบรถ 1,500 คัน ด้าน Renault ก็ตัดหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่หลังพวงมาลัยใน Arkana SUV ออก แม้เทรนด์โลกจะมุ่งไปทางรถ EV ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นอัจฉริยะต่างๆ แต่ปัญหาชิปก็ทำให้ไม่สามารถผลิตได้ตามที่คาดหวังไว้
IBM ประกาศความสำเร็จในการผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี nanosheet ระดับ 2 นาโนเมตร นับเป็นเทคโนโลยีที่ดีทีสุดในอุตสาหกรรมตอนนี้ โดยหากใช้งานจริงได้ชิปจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น 45% แต่กินพลังงานลดลง 75% เทียบกับเทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตรที่ใช้งานเชิงการค้ากันทุกวันนี้
เทคโนโลยีการผลิต nanosheet เป็นเทคโนโลยีที่ไอบีเอ็มร่วมพัฒนากับผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น GLOBALFOUNDRIES และซัมซุง รวมถึงผู้ผลิตเครื่องจักรผลิตชิป โดยความก้าวหน้าครั้งล่าสุดคือการผลิตชิปที่เทคโนโลยี 5 นาโนเมตรเมื่อปี 2017
YouTube รายงานถึงการออกแบบชิปบีบอัดวิดีโอด้วยตัวเอง หลังจากกูเกิลพยายามผลักดันการบีบอัดวิดีโอแบบ VP9 มาเป็นเวลานานแต่พบว่าหากใช้ซีพียูบีบอัดแล้ว VP9 ใช้ซีพียูเปลืองกว่า H.264 ถึง 5 เท่าตัว แม้ว่า VP9 ภาพจะดีกว่าและประหยัดแบนวิดท์กว่า H.264 ก็ตาม
ชิปที่ทีม YouTube ออกแบบเป็น system-on-chip เรียกว่า VCU (video coding unit) มีซีพียูในตัวพร้อมหน่วยบีบอัดวิดีโอ 10 ชุดต่อชิป แต่ละหน่วยสามารถบีบอัดวิดีโอที่ความละเอียด 2160p 60fps ได้ตามเวลาจริง ต้องส่งข้อมูลเข้าออกไปยังแรมที่แบนวิดท์ 27-37 GB/s
บริษัทผลิตอุปกรณ์ไอทีต่างลดกำลังการผลิต ซึ่งเป็นผลกระทบจากปรากฏการณ์ชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดตลาด กระทบทั้งสายการผลิตตั้งแต่รถยนต์ ไปจนถึงเครื่องปิ้งขนมปัง ล่าสุด Chuck Robbin ซีอีโอ Cisco บอกว่า วิกฤตินี้จะอยู่กับเราไปอีก 6 เดือน แต่หลังจากนั้นจะดีขึ้นในช่วง 12-18 เดือน เพราะบริษัทเทคโนโลยีต่างเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนา
Financial Times รายงานว่าปัญหาชิปขาดตลาดที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและรถยนต์ กำลังลุกลามไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างทีวี เครื่องซักผ้าและเครื่องปิ้งขนมปัง เพราะเจอปัญหาไมโครคอนโทรลเลอร์ขาดตลาด
การที่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในภาพรวมมีปัญหาเรื่องซัพพลาย ส่งผลให้ชิปที่ราคาถูกๆ มีกำไรต่ำอย่างไมโครคอนโทรลเลอร์ ถูกจัดอันดับการผลิตไว้ท้ายๆ เพราะต้องเอาโรงงานไปผลิตชิปราคาแพงก่อน บวกกับการแบนบริษัทจีนของสหรัฐอเมริกา ยิ่งทำให้บริษัทจีนเร่งกว้านซื้อชิปล่วงหน้า ซัพพลายยิ่งน้อยลงไปอีก
อินเทลยืนยันข่าวว่าซีอีโอ Pat Gelsinger จะเดินสายไปยุโรปในสัปดาห์หน้า เพื่อเจรจาสร้างโรงงานผลิตชิปในยุโรป ตามแผน IDM 2.0 ที่เพิ่งประกาศไว้เมื่อเดือนมีนาคม แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่า Gelsinger จะไปประเทศใดบ้าง
ช่วงหลัง ยุโรปเองก็พยายามผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในภูมิภาค โดยมีเป้าหมายว่า 20% ของชิปที่ใช้งานในยุโรป ควรผลิตจากในยุโรปเอง (ปัจจุบันยุโรปมีสัดส่วนผลิตชิปประมาณ 10% ของโลก) ซึ่งอินเทลถือเป็นผู้ผลิตชิปรายสำคัญๆ ของโลกรายแรกที่ประกาศว่าจะไปตั้งโรงงานในยุโรปเพิ่มด้วย
TSMC เตรียมสู้ภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปีในไต้หวัน หลังรัฐสั่งลดการใช้น้ำเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยการสร้างโรงบำบัดน้ำเสียที่เมืองไถหนาน เมืองที่มีโรงงานผลิตชิปสถาปัตยกรรม 5nm สำหรับ iPhone และ Macbook ของบริษัท เพื่อนำน้ำเสียจากกระบวนการอุตสาหกรรมกลับมาใช้ซ้ำในกระบวนการผลิต
TSMC ระบุว่าโรงงานนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2021 และจะบำบัดน้ำกลับมาใช้ได้ถึง 67,000 ตัน ภายในปี 2024 หรือเกือบครึ่งของความต้องการใช้น้ำต่อวันในกระบวนการผลิตชิปของ TSMC ที่อยู่ที่ราวๆ 156,000 ตันเลยทีเดียว
วิกฤติชิปขาดตลาดกระทบหลายอุตสาหกรรม ที่ผู้อ่าน Blognone เห็นได้ชัดน่าจะเป็นชิปกราฟิกที่หาซื้อแทบไม่ได้ในช่วงหลัง ในงานแถลงข่าวกับนักวิเคราะห์ C.C. Wei ซีอีโอของ TSMC ก็คาดว่าความต้องการสินค้าจะสูงต่อไป และเขาหวังว่า TSMC จะเพิ่มกำลังผลิตให้ทันความต้องการได้ในปี 2023
Wei ระบุว่าตอนนี้โรงงานของ TSMC เดินหน้าผลิตเกิน 100% ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ก่อนหน้านี้ TSMC เคยประกาศลงทุนแสนล้านดอลลาร์เพื่อตั้งโรงงานเพิ่ม แม้จะยังไม่ระบุว่าจะตั้งโรงงานที่ใดบ้าง แต่ในการแถลงครั้งนี้ Wei ก็ระบุว่ากำลังผลิตหลักและส่วนวิจัยและพัฒนาจะยังคงอยู่ในไต้หวัน ส่วนโรงงานในสหรัฐฯ นั้นจะเริ่มก่อสร้างปีหน้า
ต่อเนื่องจากข่าว อินเทลยุคใหม่ IDM 2.0 เปิดโรงงานรับจ้างผลิตชิปจากบริษัทข้างนอก ล่าสุด Pat Gelsinger ซีอีโออินเทลให้สัมภาษณ์ว่ากำลังเจรจากับบริษัทออกแบบชิปสำหรับรถยนต์หลายราย เพื่อนำชิปเหล่านี้มาผลิตที่โรงงานของอินเทลแล้ว
ตอนนี้ชิปสำหรับรถยนต์กำลังขาดตลาดอย่างหนัก แต่ตัวชิปเองไม่ได้ต้องการเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยสุดๆ จึงสามารถนำโรงงานเดิมมาปรับใช้ได้เร็ว โดย Gelsinger ไม่ได้ระบุว่าคุยกับบริษัทใดบ้าง แต่ตั้งเป้าว่าจะผลิตชิปสำหรับรถยนต์ให้ได้ภายใน 6-9 เดือน
รัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยื่นของบประมาณปี 2022 ต่อรัฐสภา โดยส่วนหนึ่งในแผนมีงบประมาณเพื่อศึกษาการผลิตชิปในสหรัฐอเมริกา แก้ปัญหาชิปขาดตลาดและปัญหาเรื่องความมั่นคงด้วย
งบประมาณส่วนนี้ 150 ล้านดอลลาร์ อยู่ภายใต้กระทรวงพาณิชย์ (Department of Commerce) เพื่อย้ายฐานการผลิตกลับอเมริกา (a Future Made in America) โดยจะตั้งสถาบันนวัตกรรมการผลิต (Manufacturing Innovation Institutes หรือ MII) ขึ้นมาใหม่ 2 แห่ง ในแผนระบุว่า MII หนึ่งแห่งจะโฟกัสที่เรื่องการทำให้สหรัฐกลับมาเป็นผู้นำด้านการออกแบบและผลิตเซมิคอนดักเตอร์อีกครั้ง
ตอนนี้ยังไม่มีรายละเอียดว่าสถาบัน MII แห่งนี้จะทำอะไรบ้าง และต้องรอรัฐสภาเห็นชอบแผนงบประมาณนี้ก่อนด้วย
Nikkei Asia รายงานว่าการผลิต MacBook และ iPad บางรุ่นถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนอุปกรณ์ รวมถึงชิป แสดงให้เห็นว่าแม้แอปเปิลจะมีพลังในการจัดซื้อมหาศาล ก็หนีวิกฤตขาดแคลนชิปไม่พ้น
แหล่งข่าวระบุกับ Nikkei Asia ว่าขั้นตอนการผลิตที่กำลังล่าช้าในขณะนี้คือ การติดตั้งส่วนประกอบบนแผงวงจร ก่อนจะประกอบขั้นสุดท้าย ส่วนการประกอบ iPad บางส่วนถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนจอแสดงผล ด้านการผลิต iPhone จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลน
SK Hynix บริษัทผู้ผลิตชิปสัญชาติเกาหลีใต้ เพิ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ตั้งศูนย์รวมโรงงานผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี extreme ultraviolet lithography (EUV) มูลค่ากว่า 120 ล้านล้านวอน หรือ 106.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
ศูนย์โรงงานนี้จะประกอบไปด้วยโรงงานย่อย 4 โรงงาน ในพื้นที่ 4.15 ล้านตารางเมตร ในเมืองยงอิน ห่างไป 50 กิโลเมตรทางใต้ของกรุงโซล โรงงานแรกจะเริ่มผลิตชิปได้ภายในปี 2025 และมีอัตราการผลิตทั้งหมดเมื่อแล้วเสร็จทั้ง 4 โรงงานอยู่ที่ 800,000 เวเฟอร์ต่อเดือน (wafer starts per month)
TSMC บริษัทผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลกจากไต้หวัน ออกข่าวว่าจะลงทุนจำนวนมากถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ (3 ล้านล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปในอีก 3 ปีข้างหน้า ตอบสนองปัญหาชิปขาดตลาดที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้ TSMC เคยลงทุนโรงงานมูลค่า 12 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐอเมริกาไปแล้ว และระบุว่าจะลงทุนเป็นเงิน 25-28 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 นี้ แต่ดูยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องโรงงานผลิตชิปในระยะยาวได้ จึงต้องเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ TSMC ยังไม่ประกาศแผนว่าจะตั้งโรงงานใหม่ที่ไหนบ้าง
ฝั่งของอินเทลเองเพิ่งออกมาประกาศลงทุน 20 พันล้านดอลลาร์ตั้งโรงงานใหม่ในสหรัฐอเมริกา
Wang Xiang ประธาน Xiaomi ระบุกับผู้ถือหุ้นว่าสถานการณ์ชิปขาดตลาด อาจทำให้บริษัทต้องขึ้นราคาสินค้าในอนาคต ทำให้ผลกระทบตกไปถึงผู้บริโภคได้ในบางกรณี แต่บริษัทจะพยายามบริหารจัดการต้นทุนให้ดีที่สุด พร้อมทิ้งท้ายว่า “เรารู้สึกกดดันบ้าง แต่ยังดูโอเคอยู่” (“We are feeling pressure, but we are looking okay,”)
Samsung ประกาศว่าบริษัทพัฒนาโมดูลหน่วยความจำแบบ DDR5 ขนาด 512GB โดยใช้เทคโนโลยี HKMG (High-K Metal Gate) หรือใช้วัสดุที่มีค่าคงที่ไดอิเล็กตริกสูง (high-k dielectrics) มาเป็นตัวฉนวน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลของแรม
โมดูลใหม่ถูกออกแบบมาใช้คู่กับซีพียูเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับแรม DDR5 เช่น ตระกูล Epyc 'Genoa' ของ AMD หรือ Xeon Scalable 'Sapphire Rapids' ของ Intel เมื่อใช้กับซีพียูที่มี 8 แชนแนลหน่วยความจำ และรองรับ DIMM สองชิ้นต่อแชนแนล จะทำให้ใส่หน่วยความจำ DDR5 ได้สูงสุดถึง 8TB
นอกจากประเด็น IDM 2.0 อินเทลเตรียมเปิดรับงานผลิตชิปจากลูกค้าภายนอก Pat Gelsinger ซีอีโอของอินเทล ยังอัพเดตความคืบหน้าของการผลิตระดับ 7 นาโนเมตรด้วย
Gelsinger ยอมรับว่าปัญหา 10 นาโนเมตรที่เรื้อรังมานาน ทำให้แผน 7 นาโนเมตรโดนผลกระทบไปด้วย สิ่งที่เขาทำคือปรับปรุงแผน 7 นาโนเมตรใหม่ให้เรียบง่ายขึ้น, ร่วมมือกับ ASML ผู้ผลิตเครื่องยิงแสงแบบ EUV เพื่อใช้เทคโนโลยี EUV เพิ่มมากขึ้นอีก
กูเกิลประกาศแต่งตั้ง Uri Frank อดีตรองประธานอินเทลที่รับผิดชอบทีมวิศวกรออกแบบซีพียู เข้ามารับตำแหน่งรองประธานฝ่ายวิศวกรรมรับผิดชอบทีมออกแบบชิปสำหรับใช้งานในกูเกิลเอง
Uri จะสร้างทีมใหม่ในอิสราเอลเพื่อออกแบบชิปแบบ system-on-chip (SoC) ให้เหมาะกับงานของกูเกิลโดยเฉพาะ ตัว Uri เองเมื่อประกาศรับตำแหน่งแล้วก็โพสรับสมัครวิศวกร SoC ไปเลยทีเดียว
เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯไม่น้อย ทำให้จีนต้องลุกขึ้นมาพึ่งพิงตัวเองโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ล่าสุด Wall Street Journal รายงานว่ารัฐบาลจีนประชุมประจำปี ร่างแผนการใหญ่ 5 ปี ตั้งเป้าเป็นผู้นำเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาชาติและความมั่นคงโดยรวม เตรียมสร้างแล็บและลงทุนงานวิจัย AI, ผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์, ควอนตัมคอมพิวติ้ง
Cristiano Amon วาที่ซีอีโอคนใหม่ของ Qualcomm ที่จะรับตำแหน่งแทน Steve Mollenkopf ซีอีโอคนปัจจุบัน ช่วงกลางปีนี้ ให้สัมภาษณ์กับ CNET ในหลายประเด็น
ประเด็นแรกคือปัญหาขาดแคลนชิปที่เป็นวาระใหญ่ของโลกตอนนี้ Amon บอกว่าเกิดจากโรงงานต้องปิดในช่วง COVID ระบาดใหม่ๆ และความต้องการชิปกลับมาสูงเกินคาดเพราะกระแส work from home บวกกับอุปกรณ์ชนิดใหม่ๆ เช่น รถยนต์ยุคใหม่ที่ต้องใช้งานชิปมากขึ้น
ต่อเนื่องจากตอนที่แล้ว ปัญหาที่ทุกคนสงสัยคงเป็นว่าทำไมอินเทลติดหล่ม 14 นาโนเมตรอยู่หลายปี มาถึงวันนี้ (ต้นปี 2021) ยังก้าวไม่ถึง 10 นาโนเมตรได้สมบูรณ์ 100% เลยด้วยซ้ำ แถมแผนการผลิตชิป 7 นาโนเมตรก็ล่าช้ากว่ากำหนด
ในทางกลับกัน คู่แข่งสายโรงงานผลิตชิปทั้ง TSMC และซัมซุง สามารถผลิตชิประดับ 7 นาโนเมตรได้ก่อนแล้วหลายปี (Radeon VII ที่ผลิตโดย TSMC 7nm ออกต้นปี 2019) ตอนนี้ยังเริ่มผลิตชิปที่ 5 นาโนเมตรได้แล้ว
อะไรคือความแตกต่างระหว่างอินเทลกับคู่แข่ง คำตอบของคำถามนี้ต้องย้อนไปดูพัฒนาการของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์กันก่อน
ตอนนี้ไต้หวันกำลังประสบปัญหาระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำลดลงต่ำเข้าขั้นวิกฤติ ทำให้รัฐบาลเริ่มสั่งลดปริมาณการใช้น้ำในหลายเมือง ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตชิปของทั้ง TSMC และ UMC ที่กำลังประสบปัญหาผลิตชิปให้อุตสาหกรรมไอทีและรถยนต์ไม่ทัน
TSMC เคยเปิดเผยว่าใช้น้ำวันละ 156,000 ตันต่อวันในกระบวนการผลิตชิป โดยถึงแม้ TSMC จะมีการนำน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอยู่แล้วในกระบวนการ อย่างในปี 2019 บริษัทเผยว่าได้รียูสน้ำในกระบวนการผลิตราว 86.7% ของน้ำที่ใช้ทั้งหมด แต่บริษัทก็เกรงว่าหากสถานการณ์ฝนยังไม่ดีขึ้นภายในเดือนพฤษภาคม ปัญหาใหญ่จะตามมาแน่นอน
กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้วสำหรับภาวะชิปเซมิคอนดักเตอร์ขาดแคลน กระทบอุตสาหกรรมเทคโนโลยี, รถยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า จนรัฐบาลโจ ไบเดน ต้องวางแผนแก้ไขปัญหานี้ ล่าสุดทำเนียบขาวออกมาประกาศว่าจะมีการลงนามคำสั่งบริหารแก้ปัญหาอย่างเป็นทางการ
ในคำสั่งระบุต้องมีการตรวจสอบทันที 100 วันในหน่วยงานของรัฐบาลกลาง เพื่อแก้ไขช่องโหว่ห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์หลัก 4 รายการ คือ Active pharmaceutical ingredients หรือ APIs ส่วนประกอบสำคัญในการผลิตยา, แร่ธาตุที่ใช้ในการผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้า, แบตเตอรี่ความจุสูง และชิปเซมิคอนดักเตอร์
โรงงานชิปของ Samsung Electronics ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัสต้องหยุดสายการผลิตหลังจากบริษัทไฟฟ้า Austin Energy แจ้งให้ซัมซุงหยุดการผลิตเนื่องจากไฟฟ้าไม่เพียงพอ และยังไม่มีกำหนดว่าจะกลับมาเดินสายการผลิตได้เมื่อใด
รัฐเท็กซัสมีปัญหากระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอจากเหตุพายุลมหนาวและเกิดเหตุไฟดับเป็นวงกว้าง
ปีนี้ปัญหาชิปขาดแคลนกระทบอุตสาหกรรมจำนวนมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ก่อนหน้านี้โรงงาน Renesas ในญี่ปุ่นก็เพิ่งต้องหยุดสายการผลิตไป จากเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น แม้ว่ากำลังผลิตชิปส่วนมากในโลกจะมาจากไต้หวันก็ตาม