หุ้นของ Alphabet บริษัทแม่ของ Google พุ่งข้นสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐ โดยราคาหุ้นของ Alphabet เมื่อเปิดตลาด ณ ตลาดหุ้นนิวยอร์คอยู่ที่หุ้นละ 814.21 เหรียญสหรัฐ ก่อนจะพุ่งไปแตะที่ 828.81 เหรียญสหรัฐตอนบ่าย 2 ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ Google เข้าตลาดหุ้นเมื่อปี 2004 ก่อนที่จะปิดที่ 821.49 เหรียญสหรัฐ
มูลค่าของหุ้น Apple ที่วันจันทร์ผ่านมาได้เพิ่มขึ้นเกือบ 2% ไปแตะจุดสูงสุดของมูลค่าหุ้นในรอบปี 2016 หลังจากที่เปิดตัว iPhone 7 และ 7 Plus ได้ไม่นานนั้นประสบผลสำเร็จพอสมควร ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Samsung ยังคงต้องแบกรับภาระและได้รับผลกระทบจากการเรียกคืน Galaxy Note 7 อย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้นของ Apple ได้ขึ้นไปสูงกว่า 116 USD ต่อหุ้นเป็นครั้งแรกหลังจากเมื่อวันที่ 8 เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ถือว่าเพิ่มขึ้นถึง 28% สูงกว่าราคาหุ้นเมื่อตอนเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาที่ราคา 90.52 USD
ประเด็นปัญหาเรื่องซัมซุงหยุดขาย Galaxy Note 7 วันนี้ ส่งผลให้ราคาหุ้นของซัมซุงในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ ตกหนักลงจากเดิม 8% มูลค่าบริษัทลดลง 17 พันล้านดอลลาร์ (6 แสนล้านบาท) ภายในวันเดียว
ตอนนี้ซัมซุงยังไม่แถลงจำนวนของ Galaxy Note 7 ที่ได้รับผลกระทบ เดิมทีคาดกันว่ามูลค่าของสินค้าที่เรียกคืนจะอยู่ราว 1-2 พันล้านดอลลาร์ แต่ตอนนี้ค่าเสียหายน่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่านั้นแล้ว นอกจากนั้น การหยุดขาย Galaxy Note 7 ย่อมส่งผลกระทบต่อคู่ค้าและซัพพลายเออร์ของซัมซุงอีกเป็นจำนวนมากด้วย
เป็นการรวมข่าว Pokemon Go ประจำวันนี้ เอาไว้ในโพสต์เดียวกันครับ มีรายละเอียดดังนี้
ความร้อนแรงของ Pokemon Go (แม้เพิ่งเปิดให้บริการไม่กี่ประเทศ) ส่งผลสะเทือนในวงกว้าง ผลดีในทางบวกคือราคาหุ้นของนินเทนโดในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange) เพิ่มขึ้นทันที 10% หลัง Pokemon Go เปิดตัว
ถึงแม้ Pokemon Go ไม่ใช่ผลงานของนินเทนโดโดยตรง แต่เป็นความร่วมมือของ The Pokémon Company International ที่นินเทนโดถือหุ้นเพียง 1 ใน 3 (ที่เหลือถือโดย Game Freak และ Creatures บริษัทที่พัฒนาเกมในซีรีส์ Pokemon) และ Niantic Labs ผู้พัฒนาเกม Ingress ที่แยกตัวมาจากกูเกิล แต่คนส่วนใหญ่ก็จดจำได้ว่าแบรนด์ Pokemon เป็นของนินเทนโดนั่นเอง
บริษัท Berkshire Hathaway ของ Warren Buffett เศรษฐีหุ้นอันดับต้นๆ ของโลก เผยว่าเข้าไปซื้อหุ้นของแอปเปิลแบบเงียบๆ ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี โดย Berkshire ซื้อหุ้นแอปเปิลจำนวน 9.81 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 1.07 พันล้านดอลลาร์
ความน่าสนใจของการซื้อหุ้นครั้งนี้คือ Buffett เคยพูดเอาไว้ว่าไม่เข้าใจตลาดเทคโนโลยี และเลี่ยงการซื้อหุ้นของบริษัทไฮเทคมาตลอด แต่ในปี 2011 เขากลับทุ่มเงินถึง 1 หมื่นล้านดอลลารซื้อหุ้นของ IBM และตามด้วยการซื้อหุ้นของแอปเปิลในครั้งนี้ (ล่าสุดยังมีข่าวลือว่าเขาสนใจซื้อ Yahoo! ด้วย)
เมื่อวานนี้ บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ JAS แจ้งผู้ถือหุ้นและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอซื้อหุ้นคืนจำนวน 1,426 ล้านหุ้น (ราว 20% ของหุ้นทั้งหมด) ด้วยมูลค่าหุ้นละ 5 บาท คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด 6,000 ล้านบาท
กระบวนการต่อไปคือ JAS จะเรียกประชุมสามัญประจำปี แล้วขออนุมัติแผนการซื้อหุ้นคืนต่อไป
การเสนอซื้อหุ้นคืนครั้งนี้เป็นการเสนอทั่วไป (tender offer ใครที่มีหุ้น JAS ก็สามารถขายคืนบริษัทได้หมด) ซึ่งหลายคนมองว่านี่คือสัญญาณว่า JAS ถอดใจกับการหาเงินไปจ่ายค่าใบอนุญาตคลื่น 900MHz แล้ว และนำเงินสดที่มีอยู่ในมือไปซื้อหุ้นคืนแทน
Jeff Weiner ซีอีโอของ LinkedIn สละสิทธิในหุ้นที่ผู้บริหารจะได้รับในปี 2016 (ถือเป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทนผู้บริหาร นอกเหนือจากเงินเดือน) โดยเขายกโควต้าหุ้นส่วนนี้ให้เป็นหุ้นส่วนกลางสำหรับพนักงาน (stock pool) แทน
เว็บไซต์ Re/code ได้ข้อมูลวงในว่าหุ้นก้อนนี้มีมูลค่าประมาณ 14 ล้านดอลลาร์ หรือราว 500 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับหุ้นที่ Weiner ได้ในปีที่แล้ว 13 ล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้เราเคยเห็นข่าว ซีอีโอ Twitter ยกหุ้น 1/3 ให้กับพนักงานของบริษัท และ ซีอีโอเลอโนโวใจป้ำ ยกโบนัสให้พนักงานระดับล่าง
StockRadars แอพค้นหาหุ้นเด่นของไทย ประกาศข่าวระดมทุนรอบใหม่ โดยได้รับเงินทุนเพิ่มเติมจาก CyberAgent Ventures ที่เคยลงทุนมาก่อนแล้ว และได้นักลงทุนใหม่เป็น "เซียนหุ้น" ชื่อดังหลายคน เช่น เสี่ยป๋อง คุณวัชระ แก้วสว่าง เสี่ยยักษ์ คุณวิชัย วชิรพงศ์
StockRadars ยังเปิดตัวแอพเวอร์ชันใหม่, ขยายข้อมูลหุ้นเพิ่มเติมอีก 12 ตลาดใน 8 ประเทศทั่วเอเชีย (ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง ไต้หวัน เกาหลี นิวซีแลนด์ อินเดีย และสิงคโปร์) และจับมือกับ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็กซ์ จำกัด เปิดให้สามารถส่งคำสั่งซื้อหลักทรัพย์จากแอพ StockRadars ได้โดยตรง ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้แอพที่ค้นพบหุ้นเด่นแล้วต้องการซื้อทันที
ที่มา - อีเมลประชาสัมพันธ์
วาณิชธนกิจรายใหญ่ของโลก Goldman Sachs ออกรายงานถึงลูกค้านักลงทุน โดยปรับการประเมินหุ้นไมโครซอฟท์จาก "ขาย" (sell) มาเป็น "กลาง" (neutral) พร้อมยอมรับว่าประเมินหุ้นไมโครซอฟท์ผิดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา (Goldman ใช้คำว่า "We were wrong")
Goldman ปรับสถานะหุ้นไมโครซอฟท์จาก neutral เป็น sell เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2013 แต่นับจากนั้นเป็นต้นมา หุ้นไมโครซอฟท์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 84% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของดัชนี S&P ที่ 29% แล้วสูงกว่ากันมาก เหตุผลของ Goldman ระบุว่ามองพลาดไปเรื่องการเปลี่ยนผ่านสู่โลกของคลาวด์ ที่ไมโครซอฟท์ทำได้ดีกว่าที่คาด (Office 365 และ Azure)
ที่มา - Bloomberg
Jack Dorsey ซีอีโอคนใหม่ของ Twitter ยังเดินหน้าสร้างขวัญกำลังใจให้พนักงานต่อไป โดยประกาศยกหุ้นของบริษัทจำนวน 1/3 ที่เขาถือครองอยู่ (คิดเป็น 1% ของหุ้นทั้งหมด) ให้เป็นหุ้นกองกลางที่จะปันส่วนให้พนักงาน (employee equity pool)
หุ้นที่ Dorsey ยกให้คิดเป็นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ เขาระบุว่ายินดีถือหุ้นน้อยลง ถ้ามันช่วยให้หุ้นของบริษัทมีราคาสูงขึ้น ดีกว่าจะถือหุ้นไว้เยอะๆ แต่มีมูลค่าไม่มากนัก
ที่มา - Re/code
คล้อยหลังเหตุฉาวที่ Volkswagen โกงผลทดสอบมลพิษมาเพียงวันเดียว ความเสียหายต่อบริษัทเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างมากแล้ว
เริ่มด้วยราคาหุ้นของ Volkswagen ที่ตลาดหุ้นเยอรมนีกันก่อน (Deutsche Börse) เมื่อเปิดตลาดในวันจันทร์ ราคาหุ้นของ Volkswagen AG ร่วงลงกว่า 20% (Bloomberg รายงานว่ามากถึง 23%) เหลือต่ำสุดที่ 125.40 ยูโรต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าบริษัทหายไปราว 15,600,000,000 ยูโรเลยทีเดียว (ประมาณ 628,205,760,000 บาท) โดยในรอบปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Volkswagen AG เคยขึ้นสูงสุดถึง 250 ยูโรต่อหุ้นเมื่อเดือนมีนาคม
การแยกส่วน PayPal ออกจาก eBay เสร็จสิ้นเรียบร้อยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยบริษัทจะเข้าไปขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ อีกครั้งในวันนี้ (20 ก.ค. ตามเวลาสหรัฐ) และใช้ตัวย่อว่า PYPL
PayPal เคยขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2002 แต่ในปีเดียวกัน eBay ก็ประกาศซื้อหุ้นทั้งหมดของ PayPal ทำให้บริษัทออกจากตลาด ก่อนจะกลับมาอีกครั้งใน 13 ปีให้หลัง ซึ่งก็คือวันนี้ (ใช้ตัวย่อหุ้น PYPL เหมือนกันทั้งสองครั้ง)
ข่าวดีสำหรับนักลงทุนในสหรัฐ โดยเฉพาะผู้ที่ลงทุนในหุ้นเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิล ที่วานนี้ (17 ก.ค.) ทะลุทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 700 ดอลลาร์ ก่อนจะปิดตลาดไปด้วยมูลค่า 699.62 ดอลลาร์ต่อหุ้น
การที่กูเกิลบันทึกมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) เพิ่มขึ้น 65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในวันเดียว ถือเป็นสถิติใหม่ในการเพิ่มมูลค่าขึ้นสำหรับบริษัทในสหรัฐ ล้มสถิติเก่าของแอปเปิลที่เคยเพิ่มมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้นในวันเดียว 46.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2555
สาเหตุในการเพิ่มขึ้นในวันเดียวมากขนาดนี้ เป็นไปตามการรับรู้รายได้จากรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสของกูเกิล ที่พึ่งรายงานออกมา
ปัจจุบันมีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กันมากขึ้น ผมจึงพัฒนา Thai Stock Watch ขึ้นมา ซึ่งแอพนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักลงทุนเพราะ Thai Stock Watch ได้รวบรวมข้อมูลวิดีโอจากงาน Oppday ไว้ที่เดียว ช่วยให้นักลงทุนประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลบริษัทจดทะเบียน และช่วยให้นักลงทุนได้ฟังข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากฝ่ายผู้บริหารของบริษัท ช่วยให้เห็นแนวโน้มบริษัท และความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น ทำให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์แนวโน้มของกิจการล่วงหน้า
มูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) ของแอปเปิลทำลายสถิติอีกครั้ง เมื่อราคาหุ้นพุ่งไปที่ 122 ดอลลาร์ต่อหุ้น ทำให้มูลค่าบริษัทเพิ่มสูงถึง 710 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (23 ล้านล้านบาท)
สถิตินี้ทำให้แอปเปิลกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่สหรัฐอเมริกาเคยมีมา ส่วนบริษัทที่ใหญ่เป็นอันดับสองในปัจจุบันคือ Exxon Mobil มูลค่าบริษัทวันนี้ 382 พันล้านดอลลาร์ น้อยกว่าแอปเปิลเกือบครึ่ง
เหตุที่ราคาของแอปเปิลพุ่งสูงในวันนี้ เป็นเพราะแอปเปิลประกาศข่าวเป็นพันธมิตรกับบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์ First Solar เพื่อลงทุนพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับสำนักงานของแอปเปิลในแคลิฟอร์เนีย
บริษัท สยามสแควร์ เทคโนโลยี จำกัด ผู้พัฒนาแอพดูหุ้นชื่อดัง StockRadars ถือเป็นบริษัทไอทีไทยรายล่าสุดที่สามารถระดมทุนจาก venture capital เพื่อขยายกิจการสู่ตลาดโลก
StockRadars เป็นแอพช่วยดูข้อมูลหุ้นบนแพลตฟอร์ม Android และ iOS โดยมีแนวคิดเรื่องการสร้าง "เรดาร์" หรือฟิลเตอร์ช่วยกรองหุ้นตามเงื่อนไขหรือสูตรที่กำหนด เพื่อช่วยคัดเลือกหุ้นที่ต้องการจับตาได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันแอพตัวนี้มียอดดาวน์โหลดมากกว่า 150,000 ครั้ง มีข้อมูลหุ้น 1,500 ตัวจากตลาดหลักทรัพย์ไทยและตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โมเดลการหารายได้คือขายเรดาร์สารพัดชนิดผ่าน in-app purchase
Samsung ประกาศเตรียมซื้อหุ้นคืนเป็นมูลค่าราว 2 พันล้านดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุนเรียกร้องผลตอบแทนที่มากขึ้นภายหลังจากสถานการณ์ที่ยอดขายสมาร์ทโฟนเริ่มแผ่วลง
ผลจากยอดขายสมาร์ทโฟนที่ไม่เป็นดังหวัง ทำให้มูลค่าหุ้นของ Samsung ในปี 2014 นี้ลดลงมากกว่า 12% ส่งผลให้นักลงทุนและนักวิเคราะห์หลายรายให้ความเห็นว่า Samsung ควรดำเนินการบางอย่างเพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้แก่นักลงทุน จึงเกิดเป็นการตัดสินใจซื้อหุ้นคืนเพื่อรักษาราคาหุ้นและเพิ่มมูลค่าให้แก่หุ้นที่นักลงทุนถือครองอยู่ โดยการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่อันดับที่ 2 ในประวัติของบริษัท
เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) มูลค่าหุ้นของไมโครซอฟท์เพิ่มขึ้นอีก 1.5% เป็น 49.51 ดอลลาร์ต่อหุ้น อันเป็นผลมาจากข่าวการซื้อ Aorato บริษัทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยบนกลุ่มเมฆจากอิสราเอล
ผลคือมูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market capitalization) ของไมโครซอฟท์รวมแล้วแซงหน้าบริษัทน้ำมัน ExxonMobil ขึ้นมาเป็นบริษัทขนาดใหญ่อันดับสองของตลาดหลักทรัพย์อเมริกา เป็นรองแค่แอปเปิลเท่านั้น (ราคาหุ้นไมโครซอฟท์วันนี้เพิ่มมาเป็น 49.99 ดอลลาร์ต่อหุ้น มูลค่าบริษัท 411.9 พันล้านดอลลาร์ ส่วนมูลค่าบริษัทแอปเปิลอยู่ที่ 664.78 พันล้านดอลลาร์)
จากข่าว China Mobile จะเข้าถือหุ้น ทรู คอร์ปอเรชั่น 18% วันนี้ทั้งสองบริษัทจัดงานแถลงข่าว-พิธีลงนามอย่างเป็นทางการแล้ว โดย มร.หลี่ เยว่ (Li Yue) ซีอีโอ China Mobile บินมาเมืองไทยเพื่อแถลงข่าวด้วยตัวเอง
China Mobile มองว่ากลุ่ม True มีธุรกิจในเมืองไทยครบเครื่องทั้งบรอดแบนด์ เคเบิ้ลทีวี และโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีกทั้งมีฐานลูกค้า ช่องทางการจำหน่ายและแบรนดิ้งพร้อมสรรพ จึงถือเป็นพันธมิตรในอุดมคติของ China Mobile
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า คณะกรรมการมีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท โดย China Mobile International Holdings Limited จะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ราคาหุ้นละ 6.45 บาท โดยจะมีสัดส่วนการถือครองหุ้น 18% ภายหลังการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น
สำหรับผู้ถือหุ้นเดิมนั้น ทรูก็จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเช่นกัน ในอัตราส่วน 2.5725 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นใหม่ในราคา 6.45 บาทต่อหุ้นเช่นเดียวกับ China Mobile เพื่อลดปัญหา Dilution
ดีลเพิ่มทุนนี้จะทำให้ทรูได้เงินสดจากการเพิ่มทุนอีกมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท โดยจะต้องผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในเดือนหน้าก่อน
บิล เกตส์ เพิ่งประกาศขายหุ้นของไมโครซอฟท์ออกมา 4.6 ล้านหุ้น ผลคือตอนนี้เขามีหุ้นไมโครซอฟท์เหลือ 330.1 ล้านหุ้น กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสองของไมโครซอฟท์ น้อยกว่าอดีตซีอีโอสตีฟ บัลเมอร์ ที่มีอยู่ 333 ล้านหุ้น (ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์บริษัทไมโครซอฟท์ที่บิล เกตส์ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง)
การขายหุ้นของบิล เกตส์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเขาค่อยๆ ทยอยขายหุ้นไมโครซอฟท์ทุกปีเพื่อนำเงินมาใช้กับมูลนิธิ Bill & Melinda Gates Foundation ของเขาและภรรยา
ดูเหมือนยุทธศาสตร์ที่ HTC จะกลับมาเน้นสมาร์ทโฟนพรีเมี่ยม สำหรับตลาดกลาง-บน ด้วย HTC Desire 816 นั้น น่าจะได้ผลพอสมควรแล้ว เพราะล่าสุดมีรายงานว่าหุ้นของ HTC ดีดตัวขึ้นกะทันหันถึง 4% หลังเปิดจองในจีนเพียงแค่ไม่กี่วัน ก็สามารถทำยอดจองได้สูงถึง 450,000 เครื่องแล้ว
เมื่อวานนี้บริษัท อินิทรี ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือกาแล็กซี่กรุ๊ป ได้จัดงานแถลงข่าวพิเศษถึงความร่วมมือทางธุรกิจกับ SoftBank Ventures Korea ในเครือ SoftBank ประเทศญี่ปุ่น ส่งผลให้อินิทรี ดิจิตอลมีการเปลี่ยนแปลงถึงระดับบอร์ดผู้บริหารโดยสมบูรณ์
โดยการลงทุนดังกล่าว SoftBank Ventures Korea จะเข้าถือหุ้นในอินิทรี ดิจิตอล 23% ทำให้สัดส่วนผู้ถือจากเดิมที่เป็นกาแล็กซี่กรุ๊ป 100% เต็ม เหลืออยู่เพียง 77% เท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี อำนาจส่วนใหญ่ยังอยู่ในมืออินิทรี ดิจิตอล ซึ่งเป็นบริษัทคนไทยล้วนนั่นเองครับ และนอกจากนี้ทาง SoftBank Ventures Korea จะส่งผู้บริหารจำนวนหนึ่ง-สองคน (ยังไม่ยืนยัน) มานั่งประจำบอร์ดบริหารของอินิทรี ดิจิตอลด้วย
หลังจากจบดีลเลอโนโว-โมโตโรลาไปได้ไม่นาน ล่าสุดมีรายงานว่าขณะนี้กูเกิลได้หุ้นของเลอโนโวมาครอบครองไว้แล้ว 6% หรือคิดเป็นจำนวน 618.3 ล้านหุ้น โดยมูลค่าในการซื้อขายครั้งนี้อยู่ที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 24,000 ล้านบาท คิดแล้วจะตกอยู่หุ้นละ 1.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 39.38 บาท ต่อหุ้นครับ โดยมีมูลค่ารวมของหุ้นที่ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามเงื่อนไขการซื้อขายกิจการโมโตโรลาที่ทำไว้ครับ