แฟนๆ Marvel ที่ยังดูซีรีส์ Marvel บน Netflix ไม่ครบ อาจต้องเร่งมือหน่อย เพราะซีรีส์ที่ Marvel ทำร่วมกับ Netflix กำลังจะถูกถอดออกจาก Netflix หลังในวันที่ 1 มีนาคมนี้ แปลว่าวันสุดท้ายที่ดูได้ คือ 28 กุมภาพันธ์
สำหรับ Netflix ประเทศไทย เรื่องที่จะออกมีทั้ง Daredevil, The Punisher, Jessica Jones, Iron Fist, Luke Cage และ The Defenders ส่วนในสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร จะเพิ่มเรื่อง Agents of SHIELD ที่จะหลุดไปด้วย เรียกได้ว่าไปทั้งแผง (ของไทยหลุดไปนานแล้ว)
Disney+ ประกาศขยายพื้นที่ให้บริการอีกรวดเดียว 42 ประเทศ 11 ดินแดน (territory) ส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรปตะวันออก และหมู่เกาะต่างๆ ในมหาสมุทรแอตแลนติก แต่ยังไม่ประกาศกำหนดเวลาที่ชัดเจนของแต่ละประเทศ
การขยายประเทศล็อตใหญ่ของ Disney+ น่าจะช่วยให้ตัวเลขสมาชิกเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ข้อมูลล่าสุดที่ Disney เปิดเผยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 มีสมาชิก 118.1 ล้านรายใน 60 ประเทศ แต่ไตรมาสล่าสุดเติบโตเพิ่มเพียง 2 ล้านรายเท่านั้น
กูเกิลประกาศปิดแผนก YouTube Originals ที่ทำคอนเทนต์เอ็กซ์คลูซีฟ ซีรีส์ สารคดี ภาพยนตร์ ที่มีเฉพาะบน YouTube
YouTube Originals เริ่มต้นในปี 2016 เพื่อเป็นจุดขายให้คนมาสมัครบริการพรีเมียม YouTube Red (ชื่อในตอนนั้นก่อนเปลี่ยนมาเป็น YouTube Premium) ตัวอย่างรายการในยุคแรกๆ ได้แก่ เรียลลิตี้โชว์ของ PewDiePie ไปเจอเหตุการณ์น่ากลัว, ซีรีส์ตลก Sing It!, ซีรีส์โรแมนติก Single by 30 เป็นต้น
รายการที่ดังที่สุดของ YouTube Originals น่าจะเป็นซีรีส์ Cobra Kai (ภายหลังย้ายไปอยู่ Netflix) นอกจากนี้ยังมีรายการพิเศษของ Barack Obama และวง BTS ด้วย
การแข่งขันของบริการวิดีโอสตรีมมิ่งในอินเดียยังคงรุนแรง ล่าสุด Netflix ประกาศลดราคาทุกแพ็กเกจลง โดยแพ็คเกจราคาต่ำสุด ความละเอียด SD ดูได้ 1 เครื่องเฉพาะมือถือ อยู่ที่ 149 Rs ต่อเดือน หรือประมาณ 65 บาท จากราคาเดิมที่เปิดตัวเมื่อปี 2019 ที่ 199 Rs
ส่วนแพ็คเกจราคาสูงสุดความละเอียด 4K ดูได้พร้อมกัน 4 เครื่อง อยู่ที่ 649 Rs หรือประมาณ 285 บาท
ไมโครซอฟท์มีโครงการทำซีรีส์ Halo แบบคนแสดง (live action) มาตั้งแต่ปี 2013 แต่ก็ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด จนกระทั่งวันนี้ ความฝันของแฟนๆ ใกล้เป็นจริง เมื่อเทรลเลอร์ของ Halo the Series เปิดตัวเป็นครั้งแรก
เนื้อหาของ Halo ภาคซีรีส์เป็นเรื่องการสร้างทหารหน่วย Spartan ของ UNSC มีตัวเอกหลักคือ Master Chief เหมือนกับในเกม (รับบทโดย Pablo Schreiber จากเรื่อง American Gods) แต่ตอนนี้เราก็ยังไม่เห็นหน้าของ Master Chief ในเทรลเลอร์ และอาจไม่มีวันเห็นเลยก็เป็นไปได้สูง
ซีรีส์ Halo จะฉายผ่านสตรีมมิ่ง Paramount+ ในช่วงต้นปี 2022
เว็บไซต์ The Verge มีบทความเล่าถึงระบบ content distribution network (CDN) เบื้องหลังของ Netflix ที่ทำให้การดูวิดีโอสตรีมมิ่งของ Netflix ราบรื่น มีปัญหาน้อยมาก แทบไม่เคยล่มครั้งใหญ่ๆ เลย และสามารถรองรับโหลดหนักๆ อย่างการที่คนทั่วโลกแห่กันมาดู Squid Game พร้อมๆ กันได้สบาย (111 ล้านคนในสัปดาห์แรกๆ ที่เริ่มฉาย)
ระบบ CDN ของ Netflix ที่ชื่อ Open Connect ไม่ใช่ความลับอะไร เพราะทำมานาน 10 ปีแล้ว (เริ่มทำปี 2012) และมีข้อมูลทางเทคนิคบนเว็บไซต์ Netflix เองค่อนข้างละเอียด
Associated Press โพสต์คลิปสัมภาษณ์ Hwang Dong-hyuk ผู้กำกับ Squid Game ซีรีส์เอาตัวรอดของเกาหลีที่โด่งดังมากเป็นประวัติการณ์บน Netflix โดยเขายืนยันว่า Squid Game มีซีซั่นสองอย่างแน่นอน และข้างตัวเขามี Lee Jung-jae นักแสดงนำยืนอยู่ด้วยกัน
Squid Game ใน Netflix ดังมากจนสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ล่าสุดมีรายงานจาก Bloomberg ไปเจาะงบลงทุนในซีรีส์เรื่องนี้ ได้รับรายงานมาว่า Netflix ลงทุน 21.4 ล้านเหรียญ ซึ่งถือว่ายังน้อยเมื่อเทียบกับซีรีส์เรื่องอื่นที่ประสบความสำเร็จเช่นกันบน Netflix อย่าง Stranger Things และ The Crown
ก่อนหน้านี้ซีอีโอร่วมของ Netflix บอกว่าว่า Squid Game ซึ่งเป็นซีรีส์จากเกาหลีนั้น อาจเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ล่าสุด Netflix เปิดเผยสถิติตัวเลขอย่างเป็นทางการแล้ว
โดยบัญชี Twitter ของ Netflix บอกว่าจำนวนผู้ชมซีรี่ส์แนวแข่งขันเอาชีวิตรอดนี้ มีจำนวนผู้ชม 111 ล้านคนแล้ว ซึ่งเป็นตัวเลขสูงที่สุดในช่วงซีรี่ส์เพิ่งเปิดตัวที่เคยมีมาของ Netflix ทั้งนี้ Netflix จะวัดตัวเลขดังกล่าว โดยดูจากจำนวนผู้ชมใน 28 วันแรก และรับชมอย่างน้อย 2 นาที
สถิติสูงสุดที่ Netflix เคยรายงานก่อนหน้านี้คือ Bridgerton ซีซั่น 1 จำนวนผู้ชม 82 ล้านคน
SK Broadband ผู้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในเกาหลีใต้ ได้ฟ้องร้อง Netflix เพื่อให้บริษัทช่วยจ่ายเงินต้นทุนทราฟิกอินเทอร์เน็ต และต้นทุนการดูแลรักษาที่เพิ่มสูงขึ้นมาก เนื่องจากมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตสำหรับดู Netflix มากขึ้น โดยศาลกรุงโซลให้ความเห็นที่รับการฟ้องร้องนี้ ว่ามีเหตุผลพอที่ Netflix ควรจ่ายเงินให้บริษัทบรอดแบนด์
บริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 อย่างไรก็ตามแอปเปิลไม่เคยพูดถึงจำนวนสมาชิกที่สมัครรับชมเลยว่ามีมากน้อยแค่ไหน ล่าสุดได้มีข้อมูลส่วนนี้ออกมา
โดย International Alliance of Theatrical Stage Employees (IATSE) ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานฝ่ายงานผลิตด้านกล้องและฉาก ของรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ เปิดเผยข้อมูลหลังการเจรจาปรับค่าแรงที่มีขึ้นทุกปี ว่าแอปเปิลได้ระบุว่ามีสมาชิก Apple TV+ ในอเมริกาและแคนาดา น้อยกว่า 20 ล้านคน ทำให้สามารถเจรจาขอจ่ายค่าแรง ในอัตราที่ต่ำกว่าสตรีมมิ่งรายอื่นที่มีจำนวนสมาชิกมากกว่านั้น โดยข้อมูลนี้แจ้งในวันที่ 1 กรกฎาคม 2021
ดิสนีย์ประกาศแผนการฉายภาพยนตร์ตามกำหนดที่เหลือในปี 2021 ว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องจะฉายในโรงภาพยนตร์ก่อน เพื่อให้ผู้ชมกลับเข้าสู่โรงหนัง จากนั้นภาพยนตร์จึงลงสตรีมมิ่ง Disney+ ในเวลาต่อมา
โดยอนิเมชัน Encanto จะฉายในโรงภาพยนตร์ก่อน 30 วัน จึงลงสตรีมมิ่ง ส่วน The Last Duel, Eternals และ West Side Story จะฉายในโรงภาพยนตร์อย่างน้อย 45 วัน
ก่อนหน้านี้ผลกระทบจากโควิด 19 ทำให้ดิสนีย์เลือกฉายภาพยนตร์แบบพร้อมกันทั้งในโรงหนังและสตรีมมิ่ง เช่น Jungle Cruise, Cruella และ Black Widow ซึ่งเรื่องหลังทำให้นักแสดงนำ Scarlett Johansson ฟ้องดิสนีย์เนื่องจากทำให้ขาดรายได้
Sony Pictures Entertainment (SPE) ประกาศว่าการเข้าซื้อกิจการ Crunchyroll เว็บบริการสตรีมมิ่งอนิเมะ ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมดแล้ว โดยจากนี้ Crunchyroll จะเป็นบริการในเครือของ Funimation บริษัทที่มี SPE และ Aniplex ที่เป็นส่วนธุรกิจของ Sony Music (Japan) ถือหุ้นอยู่
Crunchyroll เป็นบริการสตรีมมิ่งอนิเมะ มีผู้ลงทะเบียนใช้งานมากกว่า 120 ล้านคนในกว่า 200 ประเทศ บริการมีทั้งแบบรับชมโดยติดโฆษณา และแบบเสียเงินรายเดือน ซึ่งตอนนี้มีผู้ใช้งานแบบจ่ายเงินประมาณ 5 ล้านคน
ดีลนี้โซนี่ประกาศเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยเป็นการซื้อกิจการจาก WarnerMedia บริษัทในเครือของ AT&T มีมูลค่าดีล 1,175 ล้านดอลลาร์
เครือข่าย StarHub ของสิงคโปร์ ออกแคมเปญนำกล่องทีวีเถื่อน มาแลกเป็นกล่อง StarHub TV+ ของแท้ ใช้ฟรีนาน 2 ปี มูลค่า 120 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 3 พันบาท)
ประเทศสิงคโปร์กำลังจะมีกฎหมายลิขสิทธิ์ฉบับใหม่ (Copyright Act) อยู่ในกระบวนการของสภา กฎหมายฉบับนี้ระบุว่าการขายกล่องเถื่อนมีความผิดอาญา มีทั้งโทษปรับและจำคุก ทำให้ StarHub ชิงจังหวะออกโปรโมชั่นให้นำกล่องเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์ มาแลกเป็นกล่อง TV+ แบบไม่ต้องเสียค่าเช่านาน 2 ปี ระหว่างที่กฎหมายยังไม่ผ่าน โปรโมชั่นนี้มีถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2021
StarHub ระบุว่าจะนำกล่องเถื่อนที่นำมาแลก ถือเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ากระบวนการรีไซเคิลอย่างเหมาะสม
The Wall Street Journal รายงานว่า Brian Roberts ผู้บริหาร Comcast ซึ่งเป็นเจ้าของ NBCUniversal ที่มีบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Peacock กำลังพิจารณาร่วมมือกับ ViacomCBS หรืออาจซื้อกิจการ Roku เพื่อเสริมบริการสตรีมมิ่งให้แข็งแกร่งมากขึ้น
บริการสตรีมมิ่ง Peacock เริ่มให้บริการในอเมริกาตั้งแต่กลางปีที่แล้ว มีจำนวนผู้สมัครใช้งาน 42 ล้านคน แต่มีผู้ใช้งานที่เสียเงินน้อยกว่า 10 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยเมื่อเทียบกับคู่แข่งสตรีมมิ่งรายใหญ่ในตลาดอย่าง Netflix หรือ Disney+ ทั้งนี้ตัวแทนของ Comcast, ViacomCBS และ Roku ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นต่อข่าวดังกล่าว
ในอเมริกาผู้ให้บริการสตรีมมิ่งหลายราย เริ่มเพิ่มตัวเลือกค่าสมาชิกรายเดือนที่ถูกลง แต่แลกกับการชมแบบมีโฆษณาคั่นอย่างเช่น HBO Max หรือ Hulu อย่างไรก็ตามคงไม่ใช่กับ Disney+ อย่างน้อยก็ตอนนี้
Bob Chapek ซีอีโอดิสนีย์ได้ไปร่วมงานสัมมนาของ Credit Suisse โดยเขาถูกถามว่า Disney+ มีแผนจะเพิ่มตัวเลือกค่าสมาชิกที่ถูกลงแต่มีโฆษณาหรือไม่ Bob บอกว่ายังไม่มีแผนดังกล่าวตอนนี้ ดิสนีย์ยังพอใจกับรูปแบบค่าสมาชิกที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ปิดกั้นโอกาสในอนาคต
ที่ผ่านมาบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง Apple TV+ ของแอปเปิล มีโปรโมชันสำหรับผู้ซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ของแอปเปิล ให้ใช้งานได้ฟรีเป็นเวลา 1 ปี (ปกติค่าบริการรายเดือน 99 บาท และสามารถซื้อรวมใน Apple One ได้) อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์แอปเปิลระบุว่าโปรโมชันดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
โปรโมชันใหม่จะเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป โดยผู้ซื้อฮาร์ดแวร์ใหม่ของแอปเปิล จะสามารถสมัครรับชม Apple TV+ ได้ฟรี เป็นเวลา 3 เดือน
ในงานประชุมออนไลน์ AWS Summit Online ASEAN Media Briefing: Next Generation Technologies เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา Dean Samuels, Chief Technologist ประจำ ASEAN และ Shweta Jain หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจฝั่งมีเดียและสื่อบันเทิงประจำ APAC ของ AWS ให้ข้อมูลถึงเทคโนโลยีสตรีมมิ่งในปัจจุบัน และอนาคตของวิดีโอสตรีมมิ่ง
AWS พูดถึงการที่ทั้ง Netflix และ Disney+ รวมถึง Disney+ Hotstar ที่เตรียมเปิดตัวในบ้านเรา ใช้ระบบ AWS เป็นระบบหลังบ้าน เพื่อจัดการข้อมูลไฟล์วิดีโอสตรีมมิ่ง ลดการดีเลย์ของการถ่ายทอดกีฬาสด วิเคราะห์คอนเทนต์ ระบบฐานข้อมูล รวมไปถึงการใช้ระบบ AI / machine learning ชื่อ Amazon Rekognition ของ AWS เพื่อช่วยในการตรวจสอบจัดการคอนเทนต์
Amazon เปิดตัว MiniTV บริการวิดีโอสตรีมมิ่งแบบดูฟรีมีโฆษณาในอินเดีย โดยเป็นการชมผ่านแอปช้อปปิ้ง Amazon India มีคอนเทนต์ทั้งเว็บซีรี่ส์ รายการตลก ข่าว รายการอาหาร บิวตี้ แฟชั่น ช่วงแรกมีเฉพาะในแอปบน Android ก่อน ส่วน iOS และ Mobile Web จะตามมาทีหลัง
ก่อนหน้านี้ IMDb ที่เป็นบริษัทลูกของ Amazon ก็เปิดให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งฟรีในอเมริกาภายใต้แบรนด์ IMDb TV
คู่แข่งของ Amazon ในอินเดียอย่าง Flipkart ที่มี Walmart เป็นผู้ถือหุ้นหลัก ก็มีบริการดูวิดีโอสตรีมมิ่งฟรีในแอป ซึ่งเปิดไปตั้งแต่เมื่อปี 2019 นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่รายอื่นอย่าง Zomato หรือ Paytm ก็มีรายงานข่าวว่าสนใจนำบริการชมวิดีโอไปใส่ในแอปเช่นกัน
Sony Interactive Entertainment เปิดบริการสตรีมมิ่ง PlayStation Plus Video Pass แต่ยังจำกัดเฉพาะในประเทศโปแลนด์เพียงประเทศเดียวก่อน
PlayStation Plus Video Pass เป็นบริการเสริมให้สมาชิก PlayStation Plus สามารถชมภาพยนตร์และซีรีส์ของค่าย Sony Pictures ประมาณ 20 เรื่อง
ตัวแทนของ SIE ระบุว่า Video Pass ยังเป็นแค่การทดสอบตลาดเท่านั้น และขอดูผลตอบรับในประเทศโปแลนด์ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะขยับขยายต่อหรือไม่
ช่วงหลัง Sony หันมาสนใจธุรกิจวิดีโอสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นมาก เมื่อปลายปีที่แล้วเพิ่งซื้อกิจการ Cruncyroll เข้ามาเพิ่มจากที่มี Funimation อยู่ก่อนแล้ว
เว็บไซต์ The Wrap เผยผลวิจัยตลาดบริการสตรีมมิ่งในสหรัฐอเมริกาช่วงต้นปีนี้ เทียบกับต้นปี 2020 จาก Ampere Analysis พบว่า Netflix ยังมีส่วนแบ่งตลาดมาเป็นอันดับ 1 อยู่ แต่ลดลงจาก 29% ในช่วงต้นปี 2020 เหลือ 20% ในช่วงต้นปีนี้
Amazon Prime Video มาเป็นอันดับสอง ครองส่วนแบ่ง 16% ลดลงจากช่วงต้นปี 2020 ที่มีส่วนแบ่ง 21% ส่วนอันดับสามคือ Hulu มีส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 16% เหลือ 13%
ก่อนหน้านี้ แม้ในข้อตกลงการใช้งานของ Netflix เอง จะระบุว่า บัญชี Netflix นั้นห้ามใช้เพื่อการซื้อขาย และสามารถแชร์ได้แค่ภายในบ้านเดียวกันเท่านั้น แต่ Netflix ก็ยังไม่เคยบังคับใช้อะไรมากนัก
แต่วันนี้ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @DOP3Sweet พบว่าหน้าจอทีวีมีขึ้นข้อความ เตือนว่าหากไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับเจ้าของบัญชี ต้องใช้บัญชีของตัวเอง และต้องยืนยันผ่านทางอีเมลหรือ sms หรือสมัครบัญชีใหม่เพื่อดูต่อ
Bob Chapek ซีอีโอดิสนีย์ เปิดเผยในแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่า Disney+ บริการสตรีมมิ่งจากดิสนีย์ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 100 ล้านคนทั่วโลกแล้ว ทะลุเป้าหมายสมาชิก 60 ถึง 90 ล้านคนภายในปี 2024 ที่ดิสนีย์เคยตั้งไว้ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และทะลุ 100 ล้านคนได้ภายในเพียง 16 เดือน พร้อมกันนี้ดิสนีย์เปลี่ยนเป้าหมายใหม่เป็นการทำยอดสมาชิก 230 ถึง 240 ล้านคน ภายในปี 2024 แทน
Marc Randolph ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีตซีอีโอ Netflix ให้สัมภาษณ์กับ Yahoo Finance โดยมีช่วงหนึ่งเขาได้ให้มุมมองเกี่ยวกับบริการสตรีมมิ่งที่เป็นคู่แข่งของ Netflix อย่าง Disney+ และ Apple TV+
Randolph พูดถึง Apple TV+ ว่าแอปเปิลไม่จริงจังมากพอในการสร้างคอนเทนต์ บริษัทกลับเน้นให้ข้อเสนอรับชมได้ฟรี ทำให้ตัวเลขผู้สมัครใช้งานตอนนี้มีแต่คนที่ยังไม่จ่ายเงิน เขายังบอกว่าเมื่อเทียบกันแล้ว Apple TV+ เป็นสตรีมมิ่งที่มีคนยกเลิกมากที่สุดด้วย ซึ่งคอนเทนต์ที่มีมาต่อเนื่องจะทำให้คนอยู่ต่อ
ดิสนีย์รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสิ้นสุด 2 มกราคม 2021 โดยมีประเด็นสำคัญคือจำนวนผู้สมัครใช้งาน Disney+ ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 94.9 ล้านคน สูงกว่าตัวเลขที่บริษัทเคยประเมินไว้ช่วงเปิดตัว ว่าจะทำได้ 60-90 ล้านคนในปี 2024 ทำให้ดิสนีย์ปรับตัวเลขเป้าหมายในปี 2024 เป็นจำนวนสมาชิก 230-260 ล้านคน
อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มสูงนั้น สาเหตุหนึ่งมาจากการขายแบบรวมแพ็คเกจกับบริการอื่น หรือเป็นส่วนลดจากผู้ให้บริการเครือข่ายที่ร่วมมือกับดิสนีย์ ซึ่งดิสนีย์ไม่ได้แยกว่ามีอัตราส่วนเท่าใด รวมทั้งปัจจัยการระบาดของโควิด-19 ก็ทำให้คนสมัครบริการสตรีมมิ่งมากขึ้นด้วย