The Verge อ้างแหล่งข้อมูลวงในว่าซอฟต์แวร์ Android Wear รุ่นหน้าจะปรับปรุงให้นาฬิกาสามารถต่อเน็ตผ่าน Wi-Fi ได้โดยตรง (ทุกวันนี้นาฬิกาส่วนใหญ่มีชิป Wi-Fi มา แต่ยังต้องต่อเน็ตผ่าน Bluetooth จากมือถืออยู่) ซึ่งจะช่วยให้การอัพเดตซอฟต์แวร์ทำได้ง่ายขึ้น
นอกจากเรื่อง Wi-Fi แล้ว Android Wear ยังจะได้ฟีเจอร์ gesture control โดยพลิกข้อมือเพื่อเลื่อน notification โดยไม่ต้องแตะจอ, ปรับปรุง UI อีกเล็กน้อยเพื่อให้เข้าถึงแอพและรายชื่อเพื่อนได้ง่ายขึ้น
ที่มา - The Verge
ข่าวอาจจะเก่าไปสักหน่อย แต่เห็นว่ายังไม่เคยมีใครเขียนเลยเขียนถึงครับ
เมื่อปลายปีที่ผ่านมา สายการบิน Emirates ของรัฐดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประกาศเปิดให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านไวไฟบนเครื่องบินฟรีเป็นจำนวน 10 MB ต่อผู้โดยสารหนึ่งคน จากแต่เดิมที่คิดค่าใช้จ่ายทั้งหมด และถ้าต้องการปริมาณข้อมูลเพิ่ม ก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มได้ในราคาที่ถูกมาก โดย 500 MB จ่ายเงินเพียง 1 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 32 บาท) เท่านั้น ซึ่งอายุการใช้งานคือตลอดเที่ยวบิน
Sir Time Clark ซีอีโอของสายการบินระบุว่า ข้อมูลจำนวน 10 MB เพียงพอสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการเช็คอีเมลหรือข้อความต่างๆ โดยระบุถึงตัวเลขเฉลี่ยว่า ผู้โดยสารแต่ละคนใช้ข้อมูลอยู่ที่ประมาณ 28 MB ต่อหนึ่งเที่ยวบิน
ทุกวันนี้ผู้ใช้ส่วนใหญ่น่าจะพบปัญหาการใช้งาน Wi-Fi กันเกือบหมด ตั้งแต่แกะกล่องมาแล้วเซ็ทอัพไม่เป็น, สัญญาณ Wi-Fi อ่อน, มีจุดอับสัญญาณ, พอสัญญาณอ่อนแล้วทำให้ความเร็วตกลงมาก, อยู่ๆ ก็เข้าเว็บไม่ได้ ต้องไปดึงปลั๊กเสียบใหม่ ฯลฯ แต่ตอนนี้มีบริษัทหน้าใหม่เปิดตัวไวร์เลสเราเตอร์ในชื่อ eero (อีโร) ที่สัญญาว่าทุกปัญหาในการใช้งาน Wi-Fi จะหมดไป!
จากกรณีเครือกิจการโรงแรม Marriott บล็อคสัญญาณ Wi-Fi จนถูกฟ้องร้องและยอมถอยในภายหลังนั้น ตอนนี้มีประกาศในเรื่องนี้ออกมาจากทาง FCC แล้วครับ
จากกรณีเครือกิจการโรงแรม Marriott บล็อค Wi-Fi ส่วนบุคคลในพื้นที่ประชุม ตอนนี้ทาง Marriott ยอมถอยแล้วครับ
แถลงการณ์จากทาง Marriott ได้กล่าวว่า "Marriott รับฟังเสียงของลูกค้า และเราจะไม่บล็อคลูกค้าจากการใช้งานอุปกรณ์ Wi-Fi ส่วนบุคคลในโรงแรมที่เราดูแล" โดยในแถลงการณ์ยังบอกว่า Marriott จะหาทางปกป้องความปลอดภัยในการเข้าใช้งาน Wi-Fi ในพื้นที่ประชุมและสัมมนาโดยไม่เกี่ยวข้องกับการบล็อคอุปกรณ์ Wi-Fi ต่อไป
D-Link เปิดตัวเราเตอร์ไร้สาย Wi-Fi ตระกูล ULTRA ชุดใหม่ที่ใครเห็นหน้าตาก็คงนึกถึง "ปูยักษ์" หรือ "ยานอวกาศจากต่างดาว" แต่อัดแน่นมาด้วยสมรรถนะเต็มเปี่ยม
จากกรณีเครือกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกามีแผนบล็อค Wi-Fi ส่วนบุคคลในโรงแรมจนไมโครซอฟท์ต้องจับมือกูเกิลเพื่อสกัดแผนการนี้ ล่าสุด Marriott เครือกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ที่อยู่ในแผนการนี้ได้ออกแถลงการณ์มาแล้วครับ
ทาง Marriott ได้กล่าวว่า "ทาง Marriott นั้นไม่เคยมี และจะไม่มีวันมีนโยบายในการจำกัดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของแขกด้วยช่องทางต่างๆ รวมถึง Mi-Fi ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ Wi-Fi ในเขตห้องพักและห้องโถง" โดยเป้าหมายในการบล็อคสัญญาณในครั้งนี้มีเพื่อ "ป้องกันการโจมตีและการกวนสัญญาณของผู้เข้าร่วมการประชุมหรือสัมมนาเท่านั้น"
ไมโครซอฟท์กับกูเกิลถึงคราวต้องร่วมมือกัน เพื่อคัดค้านการกระทำของเครือข่ายกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ที่พยายามขอสิทธิ์เพื่อบล็อคเครือข่าย Wi-Fi ส่วนบุคคลอย่างถูกกฎหมายในเขตพื้นที่ของโรงแรม
ในฤดูร้อนที่ผ่านมา เครือกิจการ American Hospitality & Lodging Association และ Marriott International ได้ยื่นถามความเห็นจาก FCC (เทียบเท่ากสทช. ในสหรัฐฯ) ต่อกรณีผู้ให้บริการโรงแรมสามารถใช้อุปกรณ์เพื่อจัดการเครือข่าย แม้ว่ามันอาจรบกวนการทำงานต่ออุปกรณ์ไร้สายของแขกที่ใช้งานในพื้นที่ของผู้ให้บริการ โดยพวกเขากล่าวว่าผู้ให้บริการเครือข่าย Wi-Fi ควรจะสามารถจัดการเครือข่ายของพวกเขาได้ เพื่อที่จะสามารถให้บริการ Wi-Fi ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ตามที่ประกาศไว้
เว็บไซต์ Android Central มีบทความชวนสนทนาว่า "การปิด Wi-Fi" อาจไม่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของโทรศัพท์มือถือได้เยอะอย่างที่เชื่อกัน (ไม่ได้แปลว่าไม่ประหยัดแบต แต่ประหยัดได้ไม่เยอะ)
ห้องสมุดนิวยอร์ค (New York Public Library) เปิดให้บริการใหม่โดยให้ยืม pocket Wi-Fi สำหรับผู้ที่บ้านไม่มีอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์, เป็นสมาชิกห้องสมุด, หรือกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาผู้ใหญ่
ทางห้องสมุดเตรียม pocket Wi-Fi ไว้ให้บริการทั้งหมด 10,000 ตัว และทางกูเกิลยังสนับสนุน Chromebook เพิ่มเติมอีก 500 เครื่องสำหรับเด็กและวัยรุ่น
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มองค์กรการกุศล 500,000 ดอลลาร์ และกูเกิลอีก 1,000,000 ดอลลาร์ โดยก่อนหน้านี้ทางห้องสมุดได้เปิดโครงการทดสอบมาก่อนแล้วและพบว่า 55% ของผู้เข้าร่วมไม่มีอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในบ้าน และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในห้องสมุดส่วนใหญ่ยังเป็นผู้มีรายได้น้อย
แม้ว่า Wi-Fi ตามสถานีรถไฟฟ้าหรือสถานีขนส่งจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีการรวมตัวกันของนักดนตรีเพื่อที่จะจัดแสดงการดนตรีขึ้นจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินของนครนิวยอร์ก แต่แทนที่จะเป็นการรวมตัวกันตามสถานีใดสถานีหนึ่ง นักดนตรีแต่ละคนหรือแต่ละกลุ่มจะกระจายตัวไปตามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินต่างๆ แล้วใช้บริการ Wi-Fi ของแต่ละสถานี เพื่อเล่นดนตรีสดแบบ streaming แล้วนำมารวมกัน โดยระหว่างเล่นจะรอรับคำสั่งผู้ควบคุมวง (conductor) ไปด้วย (ลองดูวิดีโอท้ายข่าว เพื่อเข้าใจได้มากขึ้น)
ฟีเจอร์ใหม่ของ Android 5.0 Lollipop ที่ดูจะเล็กๆ น้อยๆ แต่ช่วยลดความน่ารำคาญของผู้ใช้ Android ไปได้มาก
ใน Android เวอร์ชันก่อน ถ้าหากเราเปิด mobile data ควบคู่กับ Wi-Fi ระบบจะให้ความสำคัญกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ก่อนเสมอ ปัญหาจะเกิดเมื่อเราเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ได้แต่เน็ตยังไม่วิ่ง (เช่น ยังไม่ล็อกอิน) เราจะไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ เพราะระบบจะพยายามต่อผ่าน Wi-Fi ที่ใช้งานไม่ได้ ทั้งที่เปิดใช้ mobile data อยู่ (ทางแก้คือปิด Wi-Fi)
พอมาถึงยุคของ Android 5.0 ถ้าเราเชื่อมต่อ Wi-Fi แต่ยังต่อเน็ตไม่ได้ ระบบจะแสดงเครื่องหมาย ! ทับไอคอน Wi-Fi ให้เห็นชัดเจน และจะเลือกต่อเน็ตผ่าน mobile data อย่างที่ควรจะเป็น
เทคโนโลยี Wi-Fi หลังยุค 802.11ac เริ่มหันมาโฟกัสที่ความถี่ย่าน 60GHz ซึ่งเป็นย่านที่ใช้งานโดยไม่ต้องขออนุญาต (unlicensed band) เช่นเดียวกับย่าน 2.4GHz และ 5GHz ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน มาตรฐานที่กำลังพัฒนาอยู่ใช้ชื่อรวมๆ ว่า 802.11ad
ตอนนี้มีองค์กรหลายแห่งกำลังพัฒนาเทคโนโลยี Wi-Fi 60GHz เช่น กลุ่ม WiGig เดิมที่รวมเป็นส่วนหนึ่งของ Wi-Fi Alliance, Intel, Qualcomm เป็นต้น
Coca-Cola ร่วมกับ BT (ชื่อเดิมคือ British Telecom) ประกาศแผนโครงการกระจายอินเทอร์เน็ตให้ผู้คนในแอฟริกาใต้ โดยใช้ตู้ขาย Coke อัตโนมัติทำหน้าที่เป็นตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi ให้ใช้ฟรี
แผนงานนำร่องของโครงการนี้จะเริ่มติดตั้งตู้ขาย Coke รุ่นพิเศษนี้ 2 แห่ง ในเขตชานเมือง Eastern Cape และชานเมือง Mpumalanga โดยเลือกตำแหน่งในบริเวณย่านร้านค้าและโรงเรียน ซึ่งคาดว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนสัญจรผ่านไปมาบ่อยครั้ง และน่าจะทำให้อินเทอร์เน็ตจากตู้ Coke นี้ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยงานนี้เป็นการกระจายอินเทอร์เน็ตให้ผู้คนได้ใช้งานกันฟรีไม่ว่าคนผู้นั้นจะซื้อ Coke จากตู้ขายหรือไม่ (แต่จำกัดระยะเวลาใช้งาน)
นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดของโครงการ Wi-Fi ฟรีบนรถเมล์ ซึ่งจะเริ่มทดสอบในวันที่ 1 ตุลาคม-ธันวาคม 57 และเปิดบริการจริงเดือนมกราคม 58
Wi-Fi ฟรีบนรถเมล์ดำเนินการโดยบริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด ซึ่งได้รับสัมปทานโฆษณาบนรถเมล์ ขสมก. อยู่แล้ว ในเฟสแรกจะทดสอบบนรถเมล์ปรับอากาศยูโร 2(สีส้ม) จำนวน 200 คัน จนกว่าจะครบ 1,500 คัน และหากระหว่างนั้น ขสมก. ได้รับรถเมล์ NGV รุ่นใหม่ 3,183 คัน ก็พร้อมย้ายระบบได้ทันที
ที่มา - ผู้จัดการออนไลน์
Broadcom ออกชิป Wi-Fi รุ่นใหม่สำหรับอุปกรณ์พกพา BCM4358 จุดเด่นของมันคือรองรับการส่งข้อมูลด้วยอัตราเร็วสูงสุด 650 Mbps (ใกล้เคียง Gigabit เข้าไปเรื่อยๆ)
เทคนิคสำคัญที่ชิปตัวนี้ใช้งานคือเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi 802.11ac ด้วยเสาอากาศ 2x2 MIMO (Multiple Input Multiple Output) และใช้สัญญาณ Wi-Fi สองช่อง (รวมแบนด์วิธ 80MHz) เพื่อให้ส่งข้อมูลได้เยอะระดับนี้ (ฝั่งเราเตอร์ต้องรองรับด้วยนะครับ) ส่วนฟีเจอร์อย่างอื่นคือออกแบบมาให้ใช้ความถี่ร่วมกับ Bluetooth โดยไม่รบกวนกัน ช่วยให้การส่งสัญญาณ Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้น
BCM4358 รองรับอุปกรณ์ Android, Windows, Chrome OS โดย Broadcom บอกว่าเราจะได้เห็นสินค้าที่ใช้ชิปตัวนี้วางขายจริงภายในไตรมาสสามของปีนี้
นายนเรศ บุญเปี่ยม รักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ให้สัมภาษณ์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ขสมก. เตรียมหาทางเพิ่มรายได้เข้าหน่วยงาน โดยจะนำอู่รถเมล์ที่มีพื้นที่เหลือ เช่นอู่บางเขน, มีนบุรี, สวนสยาม และแสมดำ มาให้เอกชนเช่าสร้างศูนย์การค้า
นอกจากนี้ นายนเรศยังกล่าวอีกว่า ขสมก. กำลังจะพัฒนาบริการเดินรถ ซึ่งจะเปิดใช้รถเมล์ NGV ใหม่กว่า 3,000 คันในต้นปีหน้า และจะปรับปรุงรถเมล์เดิมโดยการเพิ่มผังการเดินรถใหม่ให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น, ทาสีตัวรถใหม่, เปลี่ยนโลโก้ ขสมก. รวมถึงจะมีบริการ Wi-Fi ฟรีบนรถเมล์ปรับอากาศยูโร 2 สีส้ม จำนวน 1,500 คัน (ไม่ได้ระบุว่าสายใดบ้าง) โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันพุธที่ 1 ตุลาคมนี้
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีอุปกรณ์ไอทีแบบสวมใส่ได้ออกสู่ตลาดมากมาย แต่ปัญหาฉกาจของอุปกรณ์กลุ่มนี้ยังคงเป็นเรื่องของระยะเวลาการใช้งานที่สั้นเหลือหลาย ด้วยขนาดของอุปกรณ์ที่เล็ก ทำให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กตามไปด้วย
FCC ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหรัฐอเมริกาที่ทำหน้าที่คล้าย กสทช. ในบ้านเรา ได้เสนอของบประมาณเพื่อใช้ลงทุนติดตั้งระบบ Wi-Fi ให้กับทุกโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนเงินมากกว่า 2 พันล้านดอลลาร์
ตามคำร้องของ FCC ปัจจุบันนี้ 3 ใน 5 ของโรงเรียนในสหรัฐอเมริกายังไม่มี Wi-Fi ให้บริการ ดังนั้น FCC จึงเสนอแผนการติดตั้งอุปกรณ์และวางระบบ Wi-Fi ให้กลุ่มโรงเรียนดังกล่าว โดยจะใช้เงินราว 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2015 และอีก 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2016
หากแผนการนี้ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย เด็กนักเรียนอีกกว่า 10 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาก็จะได้มีโอกาสใช้งาน Wi-Fi ในโรงเรียนของตนได้เสียที ยังไม่นับครูบาอาจารย์และบุคลากรอื่นๆ ที่จะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้สะดวกยิ่งขึ้น
กสทช. ได้ออกใบอนุญาตให้กับสายการบินนกแอร์ (Nok Air) ในการเปิดให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินแล้ว โดยนอกจากนกแอร์ ปัจจุบันมีเพียงแค่การบินไทยที่ได้รับอนุญาตเปิดให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินในประเทศไทย
สำหรับรายละเอียดใบอนุญาตนี้ นกแอร์จะต้องเปิดให้บริการภายใน 1 ปีหลังจากได้รับอนุญาต และใบอนุญาตมีอายุเพียงแค่ 5 ปี
บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินของนกแอร์ เกิดจากความร่วมมือกันของตัวสายการบิน กับบริษัทไทยคม และ Global Eagle Entertainment บริษัทสัญชาติอเมริกันที่เป็นผู้ให้บริการ Wi-Fi บนเครื่องบินอยู่แล้ว
Huawei ทดสอบเทคโนโลยีไร้สายด้วยการจัดการเข้าใช้คลื่นความถี่แบบ MIMO-OFDA เพื่อสาธิตการใช้งาน Wi-Fi ในยุคต่อไป โดย Huawei สามารถเชื่อมต่อได้ความเร็วถึง 10.53 Gbps บนคลื่นย่าน 5 GHz
ความเร็วระดับ 10 Gbps อาจจะไม่มีความจำเป็นสำหรับการใช้งานตามบ้านนัก แต่ประโยชน์ที่แท้จริงของเทคโนโลยีนี้คือการใช้งานในบริเวณที่มีการใช้งานหนาแน่น เช่นห้างสรรพสินค้า, สนามกีฬา, และสำนักงานขนาดใหญ่ ที่ทุกวันนี้จะมีปัญหาหากใช้งานพร้อมกันจำนวนมาก การทำแบนด์วิดท์รวมได้สูงจะทำให้สามารถแบ่งแบนด์วิดท์ให้กับผู้ใช้ได้อย่างทั่วถึง
Huawei คาดว่าจะทำตลาด Wi-Fi ที่ระดับ 10 Gbps ได้ในปี 2018 โดยตอนนี้วิศวกรของ Huawei เข้าร่วมกับทาง IEEE เพื่อทำงานในกลุ่ม 802.11ax ในการกำหนดมาตรฐาน Wi-Fi ในยุคต่อไป
ทางการญี่ปุ่นเตรียมจัดระเบียบการให้บริการ Wi-Fi ฟรีแก่นักท่องเที่ยว เล็งผนวกบริการจากหลายฝ่ายให้มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น โดยตั้งเป้าเริ่มให้บริการได้จริงในปี 2016
บริการ Wi-Fi ที่ว่าจะเน้นให้บริการแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีทั้งในบริเวณสถานีรถไฟและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถดาวน์โหลดแอพเพื่อขอรับหมายเลขประจำตัวสำหรับเข้าใช้บริการ หรือแสดงพาสปอร์ตต่อเจ้าหน้าที่บริเวณสนามบินหรือจุดท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อขอรับหมายเลขประจำตัวได้เช่นกัน
Google ยังคงตั้งหน้าตั้งตาหาหนทางให้ประชาชนชาวโลกได้อยู่กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทุกวัน และหนึ่งในความพยายามนั้นคือแผนการธุรกิจขายเราท์เตอร์ Wi-Fi ราคาประหยัดให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้ารายย่อย
แนวทางของ Google คือการขายอุปกรณ์ที่เป็นเกรดสำหรับใช้งานในภาคธุรกิจ (ซึ่งต้องการประสิทธิภาพและคุณภาพที่เหนือกว่าเกรดสำหรับใช้งานในภาคที่อยู่อาศัยทั่วไป) ซึ่งจะเน้นขายในราคาถูก โดยกลุ่มเป้าหมายที่ Google ต้องการจะขายเราท์เตอร์ให้นั้นก็คือร้านค้าผู้ประกอบการรายย่อย เป็นต้นว่าร้านอาหาร หรือคลินิกแพทย์
Apple ได้สิทธิบัตรฉบับใหม่เกี่ยวกับเทคนิคการระบุตำแหน่งของผู้ใช้โดยอาศัยข้อมูลจากอุปกรณ์พกพาของผู้ใช้ว่าเชื่อมต่ออยู่กับเครือข่าย Wi-Fi ใดในพื้นที่ โดยสิทธิบัตรฉบับนี้ถูกยื่นจดตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2012 และเพิ่งได้รับอนุมัติเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
การระบุตำแหน่งของผู้ใช้โดยอ้างอิงจากตำแหน่งของเสาส่งสัญญาณ Wi-Fi ที่อุปกรณ์พกพาของผู้ใช้เชื่อมต่ออยู่นี้เป็นเทคนิคที่มีการใช้งานกันแพร่หลายมานานแล้ว (สมาร์ทโฟนสารพัดยี่ห้อล้วนแล้วแต่มีฟีเจอร์นี้) โดยอาศัยความสามารถของอุปกรณ์พกพาที่จะตรวจหาเครือข่าย W-Fi ที่อยู่ใกล้เคียงในขณะนั้นตลอดเวลา จากนั้นเซิร์ฟเวอร์ก็จะอาศัยข้อมูลพิกัดทางภูมิศาสตร์ของจุดส่งสัญญาณเครือข่าย Wi-Fi เหล่านั้น ทำให้ประเมินตำแหน่งของผู้ใช้ได้
เทคโนโลยี 5G Wi-Fi เก่าไปเสียแล้ว ล่าสุด Quantenna Communication ประกาศว่ากำลังพัฒนาชิปเซ็ตที่เรียกว่า 10G Wi-Fi และจะออกมาให้ใช้จริงปีหน้า
ชิปเซ็ต 10G Wi-Fi นี้อยู่บนมาตรฐาน 802.11n และ 802.11ac มีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสูงสุดถึง 10Gbps บนเทคโนโลยี MU-MIMO รวมไปถึงครอบคลุมพื้นที่การใช้งานมากกว่า Wi-Fi ที่ใช้ในปัจจุบันอีกด้วยครับ
ที่มา - BGR, Quantenna Press Release