กลุ่มมาตรฐาน Wireless Gigabit Alliance หรือ WiGig ที่มุ่งเป้าพัฒนาระบบสื่อสารไร้สายความเร็วสูง 7Gbps (ข่าวเก่า) ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัทใหญ่หลายราย เช่น Broadcom, Intel, AMD, Microsoft, Cisco, Samsung, Qualcomm ประกาศเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่ม Wi-Fi Alliance แล้ว
ข้อตกลงนี้จะทำให้มาตรฐาน WiGig กลายเป็นส่วนหนึ่งของ Wi-Fi (สเปกแบบเดิมแต่เปลี่ยนชื่อมาสังกัด Wi-Fi) โดยเน้นไปที่การสื่อสารผ่านความถี่ 60GHz เดิมของ WiGig เป็นหลัก
Blognone เสนอข่าวของ Wi-Fi มาตรฐานใหม่ 802.11ac มาหลายครั้งแล้ว ล่าสุดมีข่าวลือจากเว็บไซต์ The Next Web รายงานว่าแอปเปิลเซ็นสัญญากับ Broadcom หนึ่งในผู้ผลิตชิป 802.11ac เตรียมนำ Wi-Fi รุ่นใหม่มาใช้กับเครื่องแมคในเร็วๆ นี้
802.11ac ถูก Broadcom โฆษณาว่าเป็น "5G Wi-Fi" โดยมีความเร็วในทางทฤษฏีสูงสุดที่ 1.3Gbps (ต้องใช้เสาอากาศสามเสา ทั้งภาครับและส่ง) เร็วกว่า 802.11n ในปัจจุบันที่มีความเร็วสูงสุด 450Mbps
ที่มา - The Next Web
Facebook กำลังทดสอบบริการอินเทอร์เน็ตฟรีผ่าน Wi-Fi ในร้านกาแฟบางแห่งของสหรัฐ โดยลูกค้าจะใช้อินเทอร์เน็ตได้ก็ต่อเมื่อกด "เช็คอิน" ตำแหน่งร้านกาแฟนั้นบน Facebook
การทดสอบนี้ Facebook เป็นฝ่ายออกค่าเราเตอร์ให้ แต่เจ้าของร้านกาแฟต้องหาอินเทอร์เน็ตมาเอง ส่วนผู้ใช้ต้องกดเช็คอินเสียก่อนจึงจะใช้อินเทอร์เน็ตฟรีได้ แต่ก็ยังมีทางเลือกในการขอรหัสผ่านจากเจ้าหน้าที่ของร้านได้เช่นกัน
เจ้าของร้านกาแฟยังสามารถดูข้อมูลได้ว่ามีคนกดไลค์เพจของตัวเอง ที่มาจากการใช้อินเทอร์เน็ตฟรีภายในร้านมากน้อยแค่ไหน
ทาง Facebook ระบุว่าเป็นการทดสอบบริการใหม่ในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
Eyetease บริษัทหน้าใหม่สัญชาติอังกฤษ เปิดตัวบริการ CabWiFi ที่จะให้ผู้นั่งแท็กซี่สามารถเข้าถึง Wi-Fi ได้ฟรีเป็นเวลาสิบห้านาที แลกกับการดูโฆษณาสิบห้าวินาที
ส่วนการทำงานของ CabWiFi คือเมื่อผู้โดยสารขึ้นมาในรถจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้โดยเชื่อมต่อกับฮ็อตสปอตชื่อเดียวกับบริการ หลังจากนั้นระบบจะแสดงผลโฆษณาเป็นเวลา 15 วินาทีก่อนใช้งาน โดยรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่าน 3G/4G ใช้งานได้ทั้งลูกค้า และคนขับ
โดยบริการดังกล่าว Eyetease คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในช่วงต้นปี 2013 หลังจากที่เตรียมการมากว่าสองปี ตั้งแต่ที่เปิดบริษัทเมื่อเดือนมกราคม 2010 ปัจจุบันก็ใกล้ได้รับอนุญาตจากสำนักงานขนส่งเมืองลอนดอนแล้ว และอยู่ในระหว่างคุยกับสปอนเซอร์เพื่อมาลงโฆษณาด้วย
Cisco ประกาศข่าวเข้าซื้อกิจการบริษัท Meraki ซึ่งเป็นบริษัทที่พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับควบคุม Wi-Fi access point ผ่านกลุ่มเมฆ
Meraki เป็นบริษัทที่เคยได้รับเงินลงทุนจากกูเกิลในปี 2006 โดยช่วงแรกเน้นพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับให้เจ้าของ Wi-Fi แชร์อินเทอร์เน็ตให้คนที่ผ่านมาได้ ภายหลังผลิตภัณฑ์ของบริษัทพัฒนาขึ้นมาเป็นซอฟต์แวร์สำหรับบริหารจัดการระบบเครือข่ายจากระยะไกล เน้นกลุ่มลูกค้าองค์กร และมีฐานลูกค้ากว่า 20,000 ราย
ระยะหลัง Cisco สนใจเรื่องการบริหารระบบเครือข่ายผ่านกลุ่มเมฆ ดังจะเห็นได้จากยุทธศาสตร์ Connect Cloud ของบริษัท (ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก) การซื้อ Meraki ครั้งนี้ถือเป็นการซื้อคู่แข่งมาเสริมทัพนั่นเอง
ประสิทธิภาพของการรับส่งข้อมูลของ Wi-Fi จะแย่ลงเมื่อมีผู้ใช้ access point ตัวเดียวกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากช่องความถี่ที่ใช้มีอยู่ช่องเดียว หากผู้ใช้จำนวนมากร้องขอข้อมูลพร้อมกัน ตัว access point จะส่งข้อมูลที่ร้องขอกลับไปลำบาก ในทางกลับกัน ถ้าตั้งความสำคัญให้ access point ส่งข้อมูลออกไปได้ก่อน ผู้ใช้จะมีปัญหาในการร้องขอข้อมูลแทน
นักวิจัยจาก North Carolina State University จึงสร้าง WiFox ซึ่งทำหน้าที่เหมือนตำรวจจราจร คอยมอนิเตอร์ปริมาณข้อมูลที่ค้างอยู่ในตัว access point หากข้อมูลค้างอยู่มาก ก็จะปรับระดับความสำคัญในการส่งข้อมูลออกไปจากตัว access point ให้สูงขึ้น การไหลของข้อมูลก็จะคล่องตัวทั้งสองทาง
นักวิจัยจากบริษัทที่ให้บริการโซลูชันด้านความปลอดภัย Core Security ได้เปิดเผยว่าพบช่องโหว่ "out-of-bounds read error condition" ในเฟิร์มแวร์ของชิป Broadcom รุ่น BCM4325 และ BCM4329 ที่อาจถูกใช้โจมตีแบบ DoS จนไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่าย Wi-Fi ได้ โดยที่ฟังก์ชันอื่นไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด แต่นักวิจัยก็กล่าวว่ากำลังตรวจสอบอยู่ว่าช่องโหว่นี้จะทำให้สามารถดึงข้อมูลส่วนตัวออกมาได้หรือไม่
อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วย iPhone 4, iPad, iPad 2, Droid Incredible 2, Droid X2 และรถยนต์ฟอร์ดรุ่น Edge สำหรับรายชื่ออุปกรณ์ทั้งหมดสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ Core Security
เพิ่งมีคนถามเรื่องกองทุน USO ก็มีข่าวมาจากทาง กสทช. พอดี ก็เอามาลงไว้เพื่อประกาศให้ทราบโดยทั่วกันครับ
เกริ่นก่อนว่า กสทช. มีกองทุนอยู่หนึ่งกองชื่อ "กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ" (เรียกกันสั้นๆ ว่า กองทุน กสทช. หรือ กองทุน USO ก็ได้) ซึ่งมีรายได้มาจากค่าธรรมเนียม-ส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทโทรคมนาคม-วิทยุ-โทรทัศน์ต่างๆ แล้ว กสทช. จะนำเงินในกองทุนนี้ไปจัดบริการโทรคมนาคม-วิทยุ-โทรทัศน์ในพื้นที่ขาดแคลน หรือนำไปพัฒนาวงการในด้านต่างๆ
Miracast มาตรฐานของการส่งข้อมูลออกจอภาพแบบไร้สาย ที่สร้างขึ้นโดย Wi-Fi Alliance และได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตชิปหลายราย อาทิ Broadcom, NVIDIA และ TI ล่าสุดประกาศกลุ่มสินค้าชุดแรกที่ได้รับรอง Miracast โดยจะมีสัญลักษณ์ "WiFi Certified" เพื่อยืนยันด้วย (ดูภาพสัญลักษณ์ได้จากทัมป์เนล)
สินค้าชุดแรกที่รองรับ Miracast ที่ประกาศมาล่าสุด มีชื่อของ Intel WiDi ซึ่งเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ก่อนรวมอยู่ด้วย รวมถึงจากค่ายอื่นๆ เช่น Broadcom, Marvell, MediaTek, Ralink และ Realtek (แต่ไม่มี Apple ที่ใช้เทคโนโลยีใกล้เคียงกันอย่าง AirPlay)
ที่งาน IDF 2012 อินเทลโชว์ต้นแบบของระบบส่งสัญญาณวิทยุ (transceiver) สำหรับ Wi-Fi ที่สร้างด้วยระบบดิจิทัลล้วนๆ ไม่มีแอนะล็อกแม้แต่น้อย
ถึงแม้ว่าการส่งสัญญาณวิทยุในปัจจุบันมีส่วนที่เป็นดิจิทัลอยู่มากแล้ว แต่ชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความถี่ของสัญญาณ (เช่น phase modulation, frequency synthesis, RF power amplification) ยังเป็นแอนะล็อกอยู่ และเป็นปัญหาต่อการผลิตอุปกรณ์ขนาดเล็ก เพราะชิ้นส่วนพวกนี้ไม่สามารถเล็กลงได้กว่านี้อีกแล้ว
การแจกสิทธิใช้งาน Wi-Fi hotspot ในที่สาธารณะไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยรูปแบบคือจ่ายเงินให้บริษัทที่ให้บริการ Wi-Fi แลกกับโฆษณาในหน้าล็อกอิน (อ่านข่าว บริษัทเว็บแห่แจก Wi-Fi ฟรีตามสนามบิน กูเกิล-ไมโครซอฟท์-ยาฮูร่วมวง และ ปีนี้กูเกิลแจก Wi-Fi ฟรีบนเครื่องบิน)
เมื่อไม่นานมานี้เราเห็นข่าว Cisco เปิดตัวเราเตอร์แบรนด์ Linksys รุ่นใหม่ที่มีฟีเจอร์ Cisco Connect Cloud ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของโลก home wireless router พอสมควร
ตอนนี้อุปกรณ์เหล่านี้เริ่มวางขายในไทยแล้ว และทาง Cisco ก็ส่งมาให้ผมลองทดสอบหนึ่งตัวคือ Linksys EA4500 ซึ่งเป็นรุ่นรองท็อปที่สุดในขณะนี้ (รุ่นท็อปสุดคือ Linksys EA6500 ใช้ Wi-Fi 802.11ac ด้วย ไม่รู้จะเอาฝั่งรับที่ไหนมาทดสอบ)
แม้ว่าจะเปิดตัวไปซักพักแล้ว แต่ iOS 6 ก็ยังมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเป็นฟีเจอร์ที่ชื่อว่า "Wi-Fi Plus Cellular"
Wi-Fi Plus Cellular จะทำงานเมื่อเครื่องเชื่อมต่อกับ Wi-Fi อยู่ และเมื่อสัญญาณ Wi-Fi อ่อน จะสลับไปใช้ 3G ทันที โดยสามารถเลือกแอพที่สามารถใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวได้ด้วย (จากรายละเอียดฟีเจอร์ น่าจะเน้นใช้กับแอพที่ต้องซิงก์บ่อยๆ)
ใครที่ใช้ iOS 6 beta 4 แล้วสามารถไปเปิดใช้งานฟีเจอร์ที่ว่าได้จาก Settings > Cellular ครับ
ที่มา - Apple Insider
มาตรฐาน Miracast หรือการส่งข้อมูลออกจอภาพด้วย Wi-Fi เริ่มได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ในตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง Qualcomm และ TI ประกาศเข้าร่วมมาก่อนหน้าแล้ว
ผู้ผลิตชิปรายล่าสุดคือ NVIDIA ที่บอกว่ายินดีสนับสนุน Miracast อย่างเต็มที่ โดยจะรอตัวมาตรฐานอย่างเป็นทางการออกเสียก่อน แล้วจะเผยข้อมูลต่อไปว่าผลิตภัณฑ์รุ่นไหนอย่างไรบ้างที่จะใช้งาน Miracast ได้ (โดยหลักแล้วมันเป็นการส่งข้อมูลผ่าน Wi-Fi ดังนั้นในฝั่งของมือถือ ขอแค่ซอฟต์แวร์อัพเดตก็น่าจะเพียงพอ)
ระหว่างนี้ก็ดูวิดีโอสาธิต Tegra 3 กับ Miracast ไปก่อนครับ
General Motors (GM) เผยเทคโนโลยีตัวใหม่จากนักวิจัยภายในที่จะใช้เทคโนโลยี Wi-Fi Direct ร่วมกับรถยนต์ เพื่อตรวจจับผู้คนเดินเท้า หรือคนปั่นจักรยานที่ใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งทาง GM อ้างว่าสามารถตรวจจับคนกลุ่มดังกล่าวได้ภายในเวลาประมาณ 1 วินาที (เทียบกับระบบไร้สายอื่นๆ ที่ใช้เวลาประมาณ 7-8 วินาที)
จากงานวิจัยครั้งนี้ GM ตั้งใจว่าจะพัฒนาแอพลงบนสมาร์ทโฟนสำหรับกลุ่มคนที่สัญจรบนท้องถนน และมีเป้าหมายเพื่อรวมระบบนี้เข้าไปกับระบบแจ้งเตือนในรถยนต์อีกด้วย
ระยะทำการของ Wi-Fi Direct จากข้อมูลของ Wi-Fi Alliance อยู่ที่ราวๆ 200 เมตร อาจไม่กว้างมาก แต่มีข้อดีคือสามารถใช้งานได้แม้ว่าทัศนวิสัยจะไม่ค่อยดีก็ตาม
เมืองเซี่ยงไฺฮ้ประกาศแผนการสู่การก้าวเป็นเมืองไร้สายภายในปี 2015 ด้วยการจัดโครงการ Wi-Fi ฟรีสำหรับประชากรในเมืองเซี่ยงไฮ้ในชื่อ "i-Shanghai" (ตัว i เล่นคำกับภาษาจีนที่แปลว่าความรัก 爱)
โครงการ i-Shanghai ที่ว่านี้ถูกประกาศโดยเทศบาลเมืองเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจะเริ่มต้นวาง Wi-Fi hotspot ฟรีใน 30 ตำแหน่งของเมืองเช่น สถานีรถไฟเซี่ยงไฮ้, ย่านค้าขายซินเทียนตี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคมเป็นต้นไป และจะเพิ่มเป็น 300 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ในปีถัดไปตั้งเป้าไว้ที่ 450 แห่ง ท้ายที่สุดแล้วในปี 2013 จะมี Wi-Fi hotspot ให้ใช้ฟรีๆ ในเมืองเซี่ยงไฮ้มากถึง 22,000 จุด
การใช้งาน Wi-Fi hotspot ดังกล่าวต้องการหมายเลขโทรศัพท์สำหรับขอรหัสผ่าน SMS ซึ่งจะใช้ได้ 2 ชั่วโมงต่อวัน
ช่วงหลังมานี้เราเริ่มเห็นผู้ผลิตเราท์เตอร์หลายรายออกรุ่นใหม่ๆ ที่รองรับมาตรฐาน 802.11ac กันมาพอสมควรแล้ว แต่ผู้ผลิตชิปไร้สายรายใหญ่ Marvell อาจมองไปไกลกว่านั้น ด้วยการจับมือกับบริษัทหน้าใหม่ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับใช้งานชิปร่วมกับคลื่นย่าน 60GHz อย่าง Wilocity เพื่อทำชิปไร้สายตามมาตรฐาน 802.11ad แบบไตรแบนด์ที่รองรับทั้งคลื่นย่าน 2.4GHz, 5GHz และย่าน 60GHz ที่สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 7Gbps
หลังจากเราเห็นเราเตอร์รุ่นใหม่ที่รองรับ 802.11ac กันมาพอสมควรแล้ว ล่าสุดทาง Broadcom ประกาศเปิดตัวชิปไร้สายรุ่นใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตที่รองรับ 802.11ac แล้วเช่นกัน
ชิปรุ่นนี้ใช้เลขรุ่นว่า BCM4335 ของใหม่ที่สำคัญคือเพิ่ม 802.11ac (ซึ่ง Broadcom ใช้ชื่อทางการตลาดว่า 5G WiFI) ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ คือปรับปรุงการส่งข้อมูลของ 802.11n ในโหมด 256-QAM ให้ส่งข้อมูลได้ดีขึ้น, ปรับปรุงการบริโภคพลังงาน, รองรับ Wi-Fi Direct, Miracast
นอกจาก Wi-Fi แล้วมันยังรวม Bluetooth 4.0, วิทยุ FM เข้ามาด้วย เราจะเห็นชิปตัวนี้เริ่มถูกใช้งานจริงช่วงต้นปี 2013 ครับ
ในยุคที่ใครก็พกโทรศัพท์มือถือกันหมด จนแทบไม่มีใครใช้งานตู้โทรศัพท์สาธารณะกันแล้ว แต่ตู้ที่ว่าก็ยังมีอยู่เต็มเมือง มากพอที่ทำให้เมืองนิวยอร์กตัดสินใจเปลี่ยนตู้โทรศัพท์ให้กลายเป็นจุดให้บริการ Wi-Fi ฟรีแทน
โครงการ Wi-Fi ฟรีจากตู้โทรศัพท์เพิ่งประกาศมาวันนี้ โดยทดลองให้บริการทั้งสิ้น 10 จุดในเขตบรูคลิน ควีนส์ และแมนฮัตตัน จากข้อมูลของ gigaOM ระบุว่าอุปกรณ์ที่ใช้นั้นเป็นเสาสัญญาณเกรดเดียวกับที่ใช้ในการทหาร มีค่าติดตั้งสูงถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ครอบคลุมระยะ 300 ฟุต และมีแผนติดตั้งเพิ่มเติมในเดือนต่อๆ ไป
เราเห็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารหลายเจ้าส่งเราเตอร์ไร้สาย 802.11ac มาทำตลาดกันพอสมควรแล้ว คราวนี้ยักษ์ใหญ่อย่าง Cisco ก็เริ่มขยับตัว โดยส่งเราเตอร์ Linksys EA6500 ซึ่งรองรับทั้ง 802.11n และ 802.11ac (ความเร็วสูงสุดทางทฤษฎี 1300Mbps) มาทำตลาด
EA6500 มีเสาอากาศภายในถึง 6 เสา และมีพอร์ต Gigabit Ethernet มาให้ตามมาตรฐาน 4 พอร์ต ราคาขาย 219.99 ดอลลาร์ วางจำหน่ายเดือนสิงหาคมนี้
จากที่มีผู้ใช้ HTC One X บางส่วนพบปัญหาเรื่องสัญญาณ Wi-Fi กันมาได้สักระยะ ทางบริษัท HTC ก็ออกมายอมรับแล้วว่า One X บางเครื่องมีปัญหาจริงๆ (เฉพาะ One X ที่ใช้ Tegra 3 เท่านั้น)
HTC ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปริมาณเครื่องที่มีปัญหาคิดเป็นสัดส่วนเท่าไร บอกเพียงแค่ว่าถ้าคิดว่าเครื่องของตัวเองมีปัญหา ให้ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าของแต่ละประเทศ ซึ่งมีนโยบายการเปลี่ยนเครื่องที่แตกต่างกันออกไปครับ
ที่มา - Android Central (1), Android Central (2)
Western Digital หนึ่งในผู้นำทางด้านฮาร์ดดิสก์และ set-top TV (หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Western Digital ทำธุรกิจนี้) ได้ก้าวเข้าสู่สมรภูมิเราเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ถึงมาช้าก็ตามเหอะ) โดยส่งรุ่นบุกเบิก 3 ตระกูลแรก ได้แก่ N900, N750, N600 ซึ่งทั้ง 3 ตระกูลชูจุดเด่นของเทคโนโลยี FasTrack ที่สามารถเร่งความเร็วอินเทอร์เน็ตให้เร็วขึ้นได้ เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ Western Digital
เราเริ่มเห็นผู้ผลิตฮาร์ดแวร์เครือข่ายออกผลิตภัณฑ์ Wi-Fi 802.11ac กันบ้างแล้ว (ข่าวเก่า Buffalo, NETGEAR)
ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายล่าสุดที่บุกเข้ามายังตลาดนี้คือ ASUS ที่มาเป็นคอมโบคือเราเตอร์ + โน้ตบุ๊กที่ใช้ชิป 802.11ac
เราเตอร์ของ ASUS ใช้ชื่อรุ่นว่า RT-AC66U ใช้ชิป 5G Wi-Fi ของ Broadcom, มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือส่งข้อมูลผ่านช่วงคลื่น 2.4GHz ร่วมกับ 5GHz ทำให้มี throughput ได้สูงถึง 1.75 Gbps สูงกว่า Gigabit Ethernet ด้วยซ้ำในทางทฤษฎี
มาตรฐาน Miracast ที่กำลังออกมาแข่งกับ WiDi และ AirPlay ได้รับพันธมิตรรายใหญ่แล้วคือ Texas Instrument ที่ประกาศสนับสนุน Miracast บนแอนดรอยด์อย่างเต็มตัว โดยในงาน Computex ปีนี้ก็มีการสาธิต Miracast บน OMAP 4470 ร่วมกับ WiLink 7.0 ในงานแล้ว ส่วน OMAP 5 และ WiLink 8.0 ที่จะออกปลายปีนี้จะรองรับ Miracast มาตั้งแต่ต้น
จุดสำคัญอย่างหนึ่งของ Miracast คือการรองรับ DRM ที่เข้ารหัสคอนเทนต์ที่จะส่งออกจอภาพได้ โดยเรียกมาตรฐานส่วนนี้ว่า M-Shield เมื่อจอภาพได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ เครื่องส่งจะสามารถส่งข้อมูลที่ใช้ DRM แบบ HDCP ไปยังจอภาพได้
ทิศทางของฮาร์ดแวร์พกพาที่ต้องเชื่อมต่อแบบไร้สายหลายประเภทพร้อมๆ กัน เห็นชัดว่าไปในทาง "ชิปคอมโบ" ตัวเดียวเชื่อมต่อไร้สายได้หลายแบบ
ก่อนหน้านี้เรามีข่าวชิปคอมโบจาก MediaTek ที่รองรับ Wi-Fi 802.11ac กับ Bluetooth 4.0 มาแล้ว คราวนี้บริษัท Marvell เอาบ้างโดยรวม 3 มาตรฐานไร้สายคือ 802.11ac, Bluetooth และ NFC มาไว้รวมกัน ฟีเจอร์อื่นคือรองรับ Miracast และมี location engine สำหรับค้นหาพิกัดด้วย Wi-Fi ด้วย (ไม่มี GPS มาให้นะครับ)