มุมสะท้อนผ่านสายตานักลงทุนของดีลประวัติศาสตร์ระหว่างโนเกียกับไมโครซอฟท์ ก็คือราคาหุ้นของโนเกียที่ร่วงลงมาอย่างมากถึง -14% ในวันเดียว โดยมีราคาปิดอยู่ที่ 7.000 ยูโร ขณะที่หุ้นของไมโครซอฟท์นั้นปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่ -0.91%
จึงเห็นได้ว่าความกังวลต่ออนาคตธุรกิจนั้นมีสูงมากสำหรับโนเกีย แต่ไม่ใช่กับไมโครซอฟท์ บรรดานักวิเคราะห์จากหลายสำนักต่างมองอนาคตโนเกียไปในแง่ลบกันทั้งสิ้น จึงขอรวบรวมบางส่วนมาให้อ่านกันครับ
อ่านไม่ผิดหรอกว่าเรากำลังพูดถึง iPad 3 เรื่องมันเริ่มจากนาย John Gruber ชายผู้ได้ชื่อว่าพยากรณ์สินค้าตัวใหม่ๆของแอปเปิลได้แม่นยำที่สุดตอนนี้ได้อัพเดทบล็อก Daring Fireball ของเขาและพูดถึงความเป็นไปได้ของ iPad 3 เอาไว้
Gruber มองว่ารอบการประกาศ iPad ที่ถูกตั้งไว้ต้นปีนั้นไม่เหมาะสมเนื่องจากคาบเกี่ยวกับ iPhone เกินไปและส่งผลต่อนักพัฒนา เขาจึงมองว่ากันยายนซึ่งเป็นรอบการเปิดตัวของ iPod นั้นเหมาะสมจะถูกแทนที่ด้วย iPad มากกว่า แต่ถ้าต้องไปเปิดตัว iPad 2 ถึงเดือนกันยายนมันก็จะทิ้งช่วงนานเกินไปถึง 1 ปีครึ่ง Gruber จึงคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นดังนี้
Cisco แถลงผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 1.9 พันล้านดอลลาร์ หากแต่เมื่อดูตัวเลขรายได้รวมนั้นอยู่ที่ 10.41 พันล้านดอลลาร์ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน อัตรากำไรเบื้องต้นลดลงจาก 64.5% มาอยู่ที่ 60.2%
ซีอีโอ John Chambers กล่าวว่าบริษัทพยายามขยายตลาดไปยังประเทศกำลังพัฒนาให้มากขึ้น เนื่องจากประเทศใหญ่อย่างในอเมริกา ยุโรป หรือญี่ปุ่นนั้นรัฐบาลต่างลดงบประมาณจัดซื้อลงไปมาก ส่วนบรรดานักวิเคราะห์มองว่า Cisco พยายามรักษาส่วนแบ่งการตลาดมากเกินไป ทำให้ต้องผลิตสินค้าจับกลุ่มระดับกลาง-ล่างมากขึ้น ซึ่งทำให้กำไรของบริษัทนั้นลดลง อีกทั้งสินค้ากลุ่มดังกล่าวยังต้องสู้กับคู่แข่งมาแรงอย่าง Huawei จากประเทศจีนด้วย
เป็นเรื่องปกติของคนดังที่เจอพวกผู้ติดตามแบบทุกฝีก้าวหรือที่เรียกว่า Stalker ซึ่ง Mark Zuckerberg ก็หนีไม่พ้นปัญหานี้แล้ว โดยเขาได้แจ้งความว่าถูกชายวัย 31 ชื่อ Pradeep Manukonda พยายามติดตามและติดต่อเขาทุกฝีก้าว รวมทั้งแสดงออกในลักษณะที่ทำให้รู้สึกถูกคุกคาม
ตัวอย่างข้อความที่ Manukonda ใช้ติดต่อกับ Mark ก็อ่านแล้วน่ากลัวดีทีเดียวเช่น "ช่วยด้วยช่วยผมที ผมพร้อมยอมตายเพื่อคุณ" นอกจากนี้เขาก็พยายามติดต่อ Randi Zuckerberg พี่สาวของ Mark ด้วยเนื้อหาข้อความที่ไม่ต่างกันมากเช่น "พี่สาวที่นับถือ โปรดช่วยผมที ทุกวินาทีมีค่ามากในตอนนี้"
ข่าวมาช้าไปหน่อย แต่ Instagram ซึ่งเป็นแอพยอดนิยมสำหรับการแชร์ภาพถ่ายบน iPhone ได้ประกาศเปิด API ให้แอพภายนอกเข้ามาใช้งานได้เช่นกัน ซึ่งเป็นการประกาศหลัง PicPlz เพียงไม่กี่ชั่วโมง โดย Instagram คาดหวังว่าการเปิด API นี้จะทำให้ Instagram เข้าถึงแพลตฟอร์มที่กว้างขึ้นมากกว่าเดิมที่มีแค่ iPhone
ปัจจุบัน Instagram มีรูปถ่ายอัพโหลดเข้ามาเฉลี่ยวันละ 300,000 ภาพและมีผู้ใช้งานกว่า 2 ล้านคน
หลังเกมภาคปกติเพิ่งออกอัพเดตไป ล่าสุด Angry Birds Seasons ซึ่งเป็นภาคเสริมก็ออกอัพเดตเวอร์ชัน 1.2.0 ด้วยบรรยากาศรับวันแห่งความรักที่จะมาถึง (ข่าวเก่า)
ผู้ใช้งานที่มีเกมนี้อยู่แล้วสามารถอัพเดทเป็นเวอร์ชันใหม่นี้ได้เลยทั้งบน iPod Touch, iPhone, iPad และ Android โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามามีดังนี้
* 15 ด่านใหม่ในบรรยากาศความรัก
* ส่งการ์ดวาเลนไทน์สไตล์ Angry Birds บน Facebook
* กด Like หน้าของ Angry Birds บน Facebook เพื่อรับเพิ่มอีก 3 ด่าน
โทนสีที่เล่นในด่านเสริมชุดใหม่นี้จะเน้นสีชมพูเพื่อเพิ่มความหวานตามบรรยากาศนั่นเอง
จะขายดีไปไหนนักหนาสำหรับ iPhone 4 โดยล่าสุดแม้จะขอร้องไม่ให้พนักงานจอง แต่ iPhone 4 บนเครือข่าย CDMA ของ Verizon ในอเมริกาซึ่งคาดการณ์ว่าจะขายดีมากก็ได้ประกาศปิดการจองล่วงหน้าแบบออนไลน์ไปแล้ว
Verizon เปิดให้จอง iPhone 4 ล่วงหน้าตั้งแต่เวลาตี 3 ของคืนวันพุธที่ผ่านมาและปิดการจองโดยแจ้งว่าสินค้าหมดในเวลา 2 ทุ่ม ลูกค้าที่ต้องการสินค้าสามารถมาทำการจองซื้อได้อีกครั้งตั้งแต่เวลาตี 3 ของวันที่ 9 กุมภาพันธ์
ที่มา: BGR
ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 ในอเมริกา Verizon เริ่มเปิดให้ลูกค้าสามารถจอง iPhone 4 แล้ววันนี้โดยจะได้รับสินค้าตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป ปัญหาของ iPhone 4 กับ Verizon ที่หลายคนกังวลก็คือความต้องการสินค้านั้นอาจจะสูงมากจนใครก็คาดไม่ถึง และอาจกระทบต่อการส่งมอบ iPhone 4 ไปยังที่อื่นด้วย (Tim Cook ซีโอโอของแอปเปิลเคยบอกไว้ในงานแถลงผลประกอบการ)
หลังจากมีข่าวมาก่อนหน้านี้ The Daily หนังสือพิมพ์ดิจิทัลเต็มตัวบน iPad ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวเมื่อคืนนี้ตามเวลาในไทย โดยงานนี้ Rupert Murdoch เจ้าพ่อวงการสื่อแห่ง News Corporation มาร่วมแถลงด้วยตนเอง โดย The Daily จะเน้นการผสมผสานระหว่างเนื้อหาข่าว ภาพ และวิดีโอเข้าด้วยกันและ The Daily จะเป็นโอกาสที่ดีในการปฏิรูปแนวทางธุรกิจของวงการสื่อครั้งใหญ่
The Daily เป็นหนังสือพิมพ์รายวันโดยส่งฉบับใหม่เข้ามาใน iPad ทุกเช้า คิดค่าบริการเพียง 99 เซนต์ต่อสัปดาห์หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยก็เพียง 4 บาทกว่าต่อวันเท่านั้น
แม้เราจะทราบกันดีว่าในวงการ Smartphone นาทีนี้แทบจะพูดถึงกันแต่ Android และ iOS แต่ด้วยขนาดและตลาดที่อยู่มายาวนานกว่าทำให้แพลตฟอร์ม Symbian ของโนเกียยังครองส่วนแบ่งอันดับ 1 มาโดยตลอด แต่ไตรมาสล่าสุดแชมป์ถูกโค่นเสียแล้ว
บริษัทวิจัย Canalys รายงานตัวเลขว่าโทรศัพท์ที่ใช้ระบบ Android มียอดขายรวม 32.9 ล้านเครื่องขณะที่ Symbian มียอดขายรวม 31 ล้านเครื่อง ส่งผลให้ไตรมาสที่ผ่านมาแพลตฟอร์มที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 กลายเป็นของ Android ไปแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Android มีส่วนแบ่งสูงมากขึ้นคือการมีบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือมากรายมาเข้าร่วมทั้งซัมซุง HTC หรือ LG ขณะที่ Symbian เหลือแค่โนเกียและตัวแพลตฟอร์มก็อยู่ในภาวะถดถอย
ซัมซุงเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ด้วยตัวเลขกำไรสุทธิ 3.01 ล้านล้านวอน (ประมาณ 8.3 หมื่นล้านบาท) จากยอดขาย 41.9 ล้านล้านวอน ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดในรอบ 6 ไตรมาส เนื่องจากธุรกิจหลักของบริษัทอย่างการผลิตชิ้นส่วนซึ่งมีสินค้าหลักอย่างชิบหน่วยความจำและจอ LCD มีกำไรลดลงต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ และอื่นๆยังคงมีผลประกอบการขาดทุนต่อจากไตรมาสที่แล้ว ตัวเลขกำไรสุทธิปี 2010 ของบริษัทอยู่ที่ 16.15 ล้านล้านวอน
บริษัทวิจัยตลาด IDC เปิดเผยตัวเลขส่วนแบ่งการตลาดของโทรศัพท์มือถือ พบว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2010 มีการส่งมอบโทรศัพท์มือถือ 401.4 ล้านเครื่อง คิดเป็นตัวเลขสุทธิของปี 2010 1.39 พันล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 18.5% จาก 1.17 ล้านเครื่องในปี 2009 ถือเป็นการเติบโตที่สูงมากนับจากปี 2006
Kevin Restivo นักวิจัยจาก IDC กล่าวว่า Smartphone เป็นตัวเร่งสำคัญให้ผู้ใช้งานเกิดการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้ยอดขายนั้นเติบโตสูงขึ้นมาอย่างมาก
ไมโครซอฟท์แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2 (นับตามปฏิทินบริษัท) มีตัวเลขรายได้ 1.99 หมื่นล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 4.9% จากปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 6.63 พันล้านเหรียญฯ ลดลงจากปีก่อนเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์มีมุมมองกับผลประกอบการนี้แตกต่างกันไป โดยรายละเอียดเพิ่มเติมมีดังนี้
สิ่งที่น่าจะเป็นกระแสในปีนี้คือบรรดาเว็บไซต์ทั้งหลายจะจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หรือที่เรียกว่าทำ IPO ซึ่งล่าสุด Reuters ได้รายงานว่า LinkedIn ได้แจ้งขอทำ IPO แล้ว โดยปริมาณหลักทรัพย์และราคาเริ่มต้นยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มีการประเมินว่าทุนที่จะเพิ่มในการเข้าตลาดหลักทรัพย์นี้จะอยู่ที่ 151 ล้านเหรียญฯ
LinkedIn มีรายได้ในช่วง 9 เดือนของปี 2010 ที่ผ่านมา 161.4 ล้านเหรียญฯ โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ 1.85 ล้านเหรียญฯ ปัจจุบันมีผู้ใช้งานอยู่ 90 ล้านคน ตัวเลขนี้ค่อนข้างน้อยมากเมื่อเทียบกับ Facebook จึงน่าสนใจว่านักลงทุนจะสนใจในบริษัทนี้มากน้อยแค่ไหน
IDC เผยผลสำรวจล่าสุดพบว่านักพัฒนาให้ความสนใจแพลตฟอร์ม Android เพิ่มมากขึ้นถึง 5% จากการสำรวจเมื่อสามเดือนที่แล้ว ทำให้ตัวเลขเบียด iOS มากขึ้น โดยให้คะแนนว่ามีความสนใจมากที่จะพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน Android 87% ขณะที่ iOS ได้คะแนน 92%
นอกจากนี้ผลสำรวจยังพบว่าความสนใจใน Android สำหรับแท็บเล็ตอยู่ที่ 74% ส่วน iPad อยู่ที่ 87% โดยในรายละเอียดนั้นพบว่านักพัฒนามองว่าราคาอุปกรณ์ที่ไม่แพงจะเป็นตัวทำให้ Android ประสบความสำเร็จได้มากที่สุด ส่วนคะแนนของแพลตฟอร์มอื่น Playbook 28% ส่วน Windows Phone 7 อยู่ที่ 36%
ที่มา: International Business Times
มีผู้อ้างแหล่งข่าวที่เป็นต้นฉบับภาษาจีนของ Commercial Times ว่า iPad รุ่นที่สองจะเริ่มดำเนินการผลิตนำร่อง "ในจำนวนเล็กน้อย" เดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะเริ่มผลิตในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นในไตรมาสที่สอง ข้อมูลดังกล่าวทำให้คาดได้ว่า iPad รุ่นที่สองน่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสหนึ่งนี้แน่นอน ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลว่า iPhone รุ่นที่ห้าจะเริ่มดำเนินการผลิตพฤษภาคมนี้ ซึ่งถ้าเป็นจริงก็จะทำให้เชื่อได้ว่า iPhone รุ่นหน้าก็จะยังคงเปิดตัวกลางปีตามรอบเหมือนเดิม
Foxconn จะยังคงเป็นบริษัทหลักในการประกอบทั้ง iPad และ iPhone รุ่นถัดไปนี้
ที่มา: Electronista
ถึงแม้ซีอีโอจะขอลาป่วยจนน่าจะเป็นข่าวลบต่อบริษัท แต่ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ผ่านมาของแอปเปิล ช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2010 ซึ่งนับเป็นไตรมาสที่ 1 ปี 2011 ของบริษัทก็ออกมาให้เป็นข่าวดีอีกครั้ง (ดูผลประกอบการไตรมาสที่แล้ว)
หลังจาก Groupon ปฏิเสธข้อเสนอเพิ่มทุนจาก Google หรือแม้ก่อนหน้าจะปฏิเสธแผนเข้าตลาดหุ้นก็ตาม แต่ดูเหมือน Groupon เตรียมเข้าตลาดหุ้นแล้วจริงๆ
เข้าสู่ช่วงการแจ้งผลประกอบการประจำไตรมาสของบริษัทต่างๆอีกครั้ง โดยในกลุ่มเทคโนโลยีก็เริ่มที่อินเทลเช่นเคย โดยบริษัทถูกประเมินว่าตัวเลขที่จะออกมาไม่น่าจะดีนักเพราะตลาดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตซึ่งอินเทลไม่มีส่วนแบ่งด้วย กำลังเข้ามาครองส่วนแบ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่อินเทลแจ้งรายได้ในไตรมาส 4 ที่ดีมากๆต่อเนื่องโดยอยู่ที่ 11.46 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.4% จากปีก่อน คิดเป็นกำไรสุทธิ 3.39 พันล้านดอลลาร์ซึ่งสูงกว่าปีก่อนที่ 2.28 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาสูงถึง 67.5% (ข่าวเก่า: ไตรมาส 3)
หลังจากปล่อย iOS 4.3 สำหรับนักพัฒนาออกมา ทาง BGR ก็รายงานต่อเนื่องว่ามีข้อมูลมาว่า iPad รุ่นถัดไปจะไม่มีปุ่ม Home อีกแล้วโดยผู้ใช้งานจะใช้วิธีการสัมผัสแบบ Gesture พร้อมกัน 4-5 นิ้วเพื่อกลับไปสู่หน้า Home (คาดเดาว่าให้ใช้วิธีขยุ้มนิ้วเข้าหาตรงกลาง) โดยรายงานยังเพิ่มเติมอีกว่าตอนนี้การทดสอบการใช้งานแบบไร้ปุ่ม Home นี้มีทั้งทดสอบบน iPad และ iPhone ที่สำนักงานของแอปเปิล
คำว่า App Store ถูกจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าโดยแอปเปิลไว้ตั้งแต่ปี 2008 โดยให้รายละเอียดไว้ว่าใช้สำหรับการให้บริการจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดย App Store เปิดให้บริการครั้งแรกพร้อมๆกับการจำหน่าย iPhone 3G ซึ่งก็เป็นที่รับทราบกันดีว่าประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ให้แอปเปิลมากแค่ไหน
ล่าสุดไมโครซอฟท์ยื่นข้อเรียกร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรแห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อขอให้ยกเลิกการให้สิทธิ์เครื่องหมายการค้า "App Store" กับแอปเปิล โดยมีรายละเอียดในเอกสารยื่นฟ้อง (อ่านฉบับเต็ม) ว่า App เป็นคำที่ระบุถึงลักษณะสินค้าที่ขาย ส่วนคำว่า Store ก็เป็นคำสามัญของร้านค้าอยู่แล้ว
แม้การเปิดตัว iPhone 4 บนเครือข่าย Verizon ในสหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่เรื่องผิดคาด แต่ iPhone 4 สำหรับ Verizon ก็มีสิ่งเล็กๆที่เพิ่มเติมเข้ามานั่นคือคุณสมบัติ Personal Hotspots
TechCrunch รายงานว่าใน iPhone 4 ของ Verizon นี้ผู้ใช้งานสามารถปิดเปิดคุณสมบัติ Personal Hotspot ได้ใน Setting และสามารถแบ่งการเชื่อมต่อได้สูงสุด 5 อุปกรณ์ (ดูภาพประกอบที่นี่) คุณสมบัติดังกล่าวจะมาพร้อมกับ iOS เวอร์ชัน 4.2.5
ดูเหมือนว่า RIM จะต้องให้บริการ Blackberry แบบถูกรัฐบาลแต่ละประเทศควบคุมหนักขึ้นเรื่อยๆ (ก่อนหน้านี้มีทั้ง UAE ซาอุดีอาระเบีย อินเดีย) โดยล่าสุดกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารประเทศอินโดนีเซีย ได้สั่งให้ RIM ระงับการเข้าถึงข้อมูลที่มีเนื้อหาอนาจารกับผู้ใช้งานในอินโดนีเซีย เนื่องจากขัดต่อกฎหมายของประเทศ โดยการควบคุมนี้จะมีผลกับผู้ใช้ Blackberry ในประเทศอินโดนีเซียซึ่งตัวเลขล่าสุดมีจำนวนสูงถึง 2 ล้านคน
RIM ตอบรับกับข้อเสนอดังกล่าวของทางรัฐบาลและเตรียมติดตั้งระบบควบคุมเนื้อหาอนาจารนี้ โดยจะติดตั้งอยู่ภายในประเทศอินโดนีเซียเป็นการเฉพาะ
หลังจากที่โครงการ VideoLAN ได้ยื่นหนังสือต่อแอปเปิลให้ถอด VLC for iPad/iPhone ออกจาก App Store เนื่องจากผิดเงื่อนไข GPL เมื่อราวสองเดือนที่แล้ว (ข่าวเก่า) วันนี้ข้อเรียกร้องก็เป็นผลเมื่อ VLC ได้หายไปจาก App Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามการการถอด VLC ออกนี้ไม่มีผลต่อผู้ที่ดาวน์โหลดไปแล้วก่อนหน้า ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลดในจุดนี้ก็คงต้องพึ่งบริการจาก Cydia ด้วยความจำยอมต่อไป
ที่มา: macstories
ข่าวสั้นทันโลกครับ
เว็บ Mashable อ้างแถลงการณ์ของแอปเปิลว่ายอดดาวน์โหลดในวันแรกของ Mac App Store ทะลุ 1 ล้านครั้งไปเรียบร้อยแล้ว แม้จะมีจำนวน apps เพียงแค่ 1,000 ต้นๆเท่านั้น อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้คิดรวม apps ฟรีและเสียเงินเข้าด้วยกัน
ก็ไม่รู้ว่ามากหรือน้อย