นับวันนี้อุปกรณ์ขนาดเล็กดูเหมือนจะทรงพลังขึ้นทุกวัน แต่ทั้งนี้บางชนิดก็ต้องการพลังงานที่มากขึ้นด้วย และดูเหมือนจะเป็นปัญหาเรื่องระยะเวลาการใช้งานจะเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ใช้ทุกคนจริงๆ
แต่ปัญหานี้เริ่มได้รับการเยียวยาแล้ว เพราะมีนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยวอเทอร์ลู ประเทศแคนาดาได้ออกแบบแบตเตอรี่รุ่นใหม่โดยใช้ชื่อว่า ลิเธียมซัลเฟอร์ ที่ใช้ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีระดับนาโนทำให้สามารถประจุพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนถึง 3 เท่าในขนาดเดียวกัน
แม้ว่าในตอนนี้ตลาดของเครื่องเล่นอินเทอร์เน็ตพกพา (MID) ยังไม่แน่ชัดนักเพราะความเหลื่อมล้ำของโทรศัพท์ในปัจจุบันที่สามารถทำหน้าที่ทดแทนได้ และเน็ตบุ๊คที่ทำหน้าที่ได้ค่อนข้างดีกว่าซะอีก
จึงเกิดแนวคิดใหม่ที่เป็นการผสมผสานความเป็นโทรศัพท์และเครื่องเล่นอินเทอร์เน็ตพกพาเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ชื่อแนวคิดว่า CrossFold (X-Fold) โดยแนวคิดนี้มาจากสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแคมบริดจ์
หลังจากที่ทิ้งประเด็นเรื่องซีพียูและแรมที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าไว้พักหนึ่ง ก็มีข้อมูลจากเว็บไซต์ T-Mobile Netherlands โดยมีการระบุข้อมูลของสองสิ่งที่ไม่มีการบอกก่อนหน้านี้ลงไปด้วย
ในส่วนของซีพียูนั้นมีความเร็วอยู่ที่ 600MHz ซึ่งมากกว่ารุ่น Classic และ 3G ที่มีความเร็ว 412MHz (แต่ก็ไม่ใช่สองเท่าอย่างที่เคลมไว้) แต่ในส่วนของแรมนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 256MB ซึ่งมากกว่าทั้งสองรุ่นก่อนหน้าที่ใช้แรม 128MB ถึงสองเท่าอย่างที่เคลมไว้
เป็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับโรคอัลไซเมอร์นี้ ซึ่งปกติมักเป็นในกลุ่มผู้สูงอายุมักมีอาการหลงลืมเล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงระดับความจำเสื่อม และผู้ป่วยส่วนมากที่เป็นโรคนี้มักจะมีอาการเดินเตรดเตร่ไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้ผู้ป่วยหลงทางอยู่บ่อยครั้ง
ในตอนนี้มีการผลิตรองเท้าตัวหนึ่งขึ้นมาโดยใส่ชิพ GPS เข้าไปในรองเท้าซึ่งสามารถส่งข้อมูลไปยัง Google Maps ว่าผู้ป่วยนั้นอยู่ที่บริเวณใด ทำให้สามารถตามหาผู้ป่วยได้ง่ายขึ้น
โดยเจ้ารองเท้า GPS เป็นความร่วมมือของ Aetrex และ GTX ซึ่งคาดว่าจะวางขายในช่วงปลายปีนี้
อาจจะเป็นนวัตกรรมของเอเซอร์จริงๆ ในคราวนี้ หลังจากที่มีข่าวลือว่าทางเอเซอร์กำลังเตรียมวางขายโน้ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15 นิ้ว ที่มีความพิเศษสามารถแสดงผลภาพยนตร์ 2 มิติ ให้กลายเป็น 3มิติ ได้
โดยน่าจะมีหลักการทำงานคล้ายกับซ้อนภาพอย่างต่อเนื่องทำให้มองเห็นเป็นสามมิติ (คล้ายกับกรณี 3D Chrome) แต่ทว่าไม่มีรายงานการใช้อุปกรณ์เสริมจำพวกแว่นตา แต่อย่างใด
โดยโน้ตบุ๊คพันธุ์ใหม่นี้อาจมาพร้อมกับวินโดวส์ตัวใหม่ที่ออกในช่วงนั้นพอดี
ว่าแต่ว่า ดูหนังสามมิติผ่านโน้ตบุ๊คเนี่ย มันจำเป็นจริงรึเนี่ย!
ภาพประกอบที่น่าจะไม่ใช่ภาพจริง
ตั้งแต่ที่อินเทลผลิต Atom ขึ้นมาโดยคาดหวังว่าจะให้เป็นซีพียูสำหรับเน็ตบุ๊คนั้น ตอนนี้ดูท่าจะไม่ใช่แล้ว เพราะอินเทลกำลังวางแผนที่จะทำให้ Atom เข้าไปอยู่ในอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ขนาดเล็กจำนวนมาก
โดยทางผู้บริหารระดับสูงได้กล่าวถึงการซื้อ Wind River เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าเป็นการพยายามที่จะทำให้ซีพียูกินพลังงานน้อยได้เข้าไปอยู่ในอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์เช่น โทรศัพท์และ MIDs
ถ้าหากโทรศัพท์ใช้งาน Atom จริงๆ คงจะดีเป็นแน่แท้ แต่ทว่าเรื่องของการบริโภคพลังงานก็เป็นส่วนที่ทำให้ผู้ใช้ต้องตัดสินใจเช่นกัน ว่าแต่พวก ARMS นี่กินไฟเท่าไหร่กันหนอ ในเมื่อ Atom เองก็กินไฟแค่ 2-4 วัตต์
รายงานนี้มาจาก Wall Street Journal ที่มีเนื้อความว่า ทางรัฐบาลจีนต้องการให้คอมพิวเตอร์ที่ขายหลังจากวันที่ 1 กรกฎาคมจะต้องติดตั้งโปรแกรมพิเศษที่มีหน้าที่กรองเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมออกไป
โปรแกรมนี้มีชื่อว่า "Green Dam-Youth Escort" ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทจินหัวและได้รับความช่วยเหลือจาก สถาบันเทคโนโลยีภาษามนุษย์ปักกิ่ง-ต้าเซียง เป้าหมายหลักของโปรแกรมนี้คือกรองภาพเปลือยทั้งหลาย ซึ่งเป็นการปกป้องเด็กๆ จากเวปไซต์ที่มีเนื้อหาอันตราย โดยมีการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลที่มีรายการเว็บไซต์ที่ถูกห้ามเข้า
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของจีนได้วางแผนที่จะประกาศตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม แต่ในขณะนี้ก็ยังไม่มีการประกาศใดๆ เกิดขึ้น
แม้ว่าหลายคนจะออกมาบอกว่า iPod Shuffle ไม่เหมาะกับการฟังเพลงแบบจริงจังมากนัก ทำให้การต้องควบคุมเครื่องผ่านหูฟังของแอปเปิลดูไม่ใช่ปัญหาเท่าที่ควร แต่หลายคนก็ต้องการใช้หูฟังยี่ห้ออื่นกับเจ้าเครื่องเล่นนี้จริงๆ
ในตอนนี้ทางบริษัทโอซากิ ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์เสริมของผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลมาแล้วหลากหลายชนิด ได้วางจำหน่าย iCommand ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของ iPod Shuffle 3rd Gen โดยการเสียบเข้าไปที่ช่องต่อหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร และสามารถปรับเสียง เล่นหรือหยุดเล่นเพลงได้เหมือนกับใช้หูฟังที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง
แม้ว่างานเปิดตัวของโทรศัพท์ที่หลายคนรอคอยอย่าง Palm Pre จะมีขึ้นในอีกสองวันข้างหน้านี้ แต่ก็มีมือดีนำเอาเจ้า Palm Pre แบบที่เป็นตัวเครื่องจริงๆ ไม่ใช่การสั่งจอง ไปวางขายในอีเบย์ซะแล้ว โดยตั้งราคาขายอยู่ที่ $899 (ประมาณ 31,000 บาท) พร้อมจัดส่งฟรี
โดยใครที่สนใจจะไปบิดกับเค้าก็ลองไปดูได้ที่นี่ แต่อย่าลืมว่าเป็นรุ่น CDMA ที่ใช้ในไทยไม่ได้นะ :D
ในงาน E3 ทางไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวนวัตกรรมของระบบจับการเคลื่อนไหวที่มีชื่อว่า Project Natal ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
ในตอนนี้เองเครื่อง Wii ก็ใกล้จะมีระบบนี้ใช้บ้างแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้มาจากนินเทนโดเอง และมีเพียงเกมส์ออกกำลังกายเกมส์เดียวเท่านั้น
โดยทางยูบิซอฟท์ได้ออกมาเปิดตัวเกมส์ใหม่ที่มีชื่อว่า Your Shape ซึ่งเป็นเกมส์ออกกำลังกายที่ใช้ระบบจับการเคลื่อนไหวของร่างกายผ่านการเชื่อมต่อของกล้องที่เป็นอุปกรณ์เสริมของเกมส์นี้
แต่โดยรวมแล้วการจับการเคลื่อนไหวของทางยูบิซอฟท์นี้ ยังมีความละเอียดน้อยกว่า Project Natal เนื่องด้วยจำนวนเซนเซอร์ที่น้อยกว่า แต่เมื่อดูจากวิดีโอแล้ว ผมว่ามันค่อนข้างใช้ได้เลยล่ะ
แม้ว่า Segway จะมีรายชื่ออยู่ใน 10 ผลิตภัณฑ์ไอทีล้มเหลวในรอบทศวรรษ แต่ก็มีผู้ให้ความสนใจอยู่เหมือนกัน ติดอยู่เพียงที่ว่าราคาแพงเกินไปนั่นเอง
และในวันนี้ความหวังที่จะได้ลองขับเจ้า Segway นี้ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วเมื่อห้างหุ้นส่วนที่ผลิต Segway ได้พัฒนามินิเกมส์ Segway ที่ใช้ระบบการควบคุมผ่าน Wii Balance Board และ Wii Mote เพื่อจำลองการขับ Segway
และคาดว่าในอนาคตน่าจะมีเกมส์ Segway Polo ออกตามมา
หลังจากที่ปล่อยตัว RC ให้ใช้งานฟรีเป็นเวลา 1 ปี และวางแผนที่จะปล่อยตัวจริงออกมาภายในปีนี้ ในตอนนี้ทางไมโครซอฟท์ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอนสำหรับการวางจำหน่าย Windows 7 คือในวันที่ 22 ตุลาคม
นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะอัพเกรดระบบปฏิบัติการให้กับผู้ที่ซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Vista ในช่วงที่ใกล้กับการวางจำหน่ายของ Windows 7 อีกด้วย โดยอาจจะอัพเกรดให้ฟรี หรือมีส่วนลดให้แทนแล้วแต่กรณีไป
อนึ่งในวันที่ 22 นี้อาจจะเป็นเพียงการส่งมอบให้กับทางคู่ค้าของไมโครซอฟท์เท่านั้น และจะนำมาวางขายทั่วไปในภายหลัง
แม้ว่าไฮไลท์หลักของนินเทนโดในปีนี้จะเป็น Wii Fit Plus แต่ทางนินเทนโดได้มีการเปิดตัวส่วนเสริมใหม่ของ Wii อีกอย่างนั่นคือ Wii Vitality Sensor
โดยเจ้า Wii Vitality Sersor นี้จะถูกนำไปต่อพ่วงที่ส่วนท้ายของ Wiimote และทำงานโดยการใช้นิ้วมือสอดเข้าไปใน Sensor เพื่อวัดชีพจรของเรา ซึ่งทำให้สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจในระหว่างที่ทำการออกกำลังกายผ่านเครื่องเล่นได้ นอกจากนี้ยังสามารถแสดงข้อมูลของร่างกายซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ในหลายๆ ด้าน เช่นช่วยควบคุมการออกกำลังกาย วัดระดับความเครียด หรือแม้กระทั่งทำให้หลับด้วยเกมส์ที่สนับสนุน Wii Vitality Sensor
แต่ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานของราคาออกมา และยังไม่ทราบว่าจะวางจำหน่ายในช่วงใดเช่นกัน
แม้ว่าในตอนนี้เบราว์เซอร์ IE6 ยังคงมีผู้ใช้งานอย่างมากมาย ซึ่งส่งผลให้ผู้พัฒนาเว็บไซต์ส่วนใหญ่ต้องประสบปัญหาในการแก้ CSS เพื่อให้ IE6 สามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้อง และในบางเว็บไซต์เจ้าของเว็บไซต์ถึงกับไม่ให้บริการเมื่อใช้งานผ่าน IE6
ในช่วงที่ตลาดเน็ตบุ๊คกำลังเติบโตขึ้นในขณะนี้ ผู้ผลิตที่ต้องการลดรายจ่ายในส่วนของระบบปฎิบัติการ มักจะเลือกใช้ลินุกซ์ที่เป็นระบบปฏิบัติการฟรี ทางไมโครซอฟท์จึงได้ออกโฆษณาที่เน้นถึงความสามารถที่เหนือกว่าของวินโดวส์ เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับลินุกซ์
โดยเป้าหมายของโฆษณานี้มุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้ Eee PC ซึ่งเป็นเน็ตบุ๊คของอัสซุส โดยเนื้อหาของโฆษณาคือการเน้นย้ำในความสามารถของวินโดวส์ในเรื่องของความง่ายต่อการใช้งาน และสามารถเชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์หลากหลายชนิด ในขณะเดียวกันก็แอบกัดลินุกซ์ในเรื่องของการความไม่เคยชินในการใช้งาน และการรองรับอุปกรณ์ที่อาจไม่สมบูรณ์
โดยสามารถเข้าไปชมโฆษณาตัวนี้ได้ผ่านทาง It's Better with Windows Website
หลังจากที่มีการถกเถียงกันและได้ใจความส่วนหนึ่งมาว่าเครื่องอ่านหนังสืออิเล็กโทรนิกส์ควรมีหน้าจอสี แต่ทว่า Jeff Bezos ซีอีโอของอเมซอนได้ออกมากล่าวว่า
"Kindle รุ่นหน้าจอสีจะไม่มีการดำเนินการในเร็วๆ นี้ คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี แต่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลายปีนี่คือกี่ปี"
แต่ถึงแม้ว่าจะมีการออกมาพูดแบบนี้ แต่อาจจะมีอะไรให้ประหลาดใจอีกก็ได้ ดีไม่ดี ปีหน้าอเมซอนอาจจะออกรุ่นหน้าจอสีก็ได้ ว่าแต่ จำเป็นไหมที่จะต้องมีการแสดงผลนอกเหนือจากสีขาวดำ?
เพิ่มเติม : หน้าจอแบบ E-Ink ที่แสดงผลเป็นสีได้มีการผลิตแล้วโดย Phillips
ปกติแล้วหน้าจอทั่วไปจะมีเพียงคุณสมบัติเดียว แต่นั่นเป็นอดีตไปซะแล้วเพราะไม่นานมานี้ก็มีรูปถ่ายของหน้าจอที่สามารถสลับการใช้งานระหว่างจอสีธรรมดา กับจอแบบ E-Ink หลังจากนั้น แมรี่ ลู เจปเซ่นผู้ก่อตั้งบริษัท PQi ได้ออกมาประกาศเตรียมวางขายหน้าจอพิเศษที่มีชื่อว่า 3Qi นี้ในช่วงปลายปีนี้
โดยความพิเศษของหน้าจอ 3Qi นี้คือ สามารถเปลี่ยนการใช้งานได้ 3 รูปแบบ คือ
หลังจากที่ปล่อยให้รุ่นพี่อย่าง i7 ตีตลาดบนมาช่วงหนึ่งแล้ว ทางอินเทลได้เตรียมส่งแพลตฟอร์ม i5 ออกสู่ตลาดหลักในช่วงไตรมาสที่สามแล้ว
โดยแพลตฟอร์ม i5 นั้นประกอบด้วยชิพประมวลผลในรหัส "Lynfield" และชิพเซต P55 โดยมีทั้งหมดสามรุ่นแต่ยังไม่มีการระบุชื่อในแต่ละโมเดล มีแต่เพียงความเร็วที่ระบุไว้ที่ 2.93GHz, 2.8GHz, 2.66GHz และทุกตัวมี FSB อยู่ที่ 2.0 Ghz และมีเทคโนโลยี HT (Hyper-threading) เหมือน i7 ทุกประการจึงทำให้สามารถทำงานเสมือนมีคอร์ทั้งหมด 8 คอร์
น่าสงสัยว่าในปีนี้ชาร์ปจะเป็นตัวตั้งตัวตีในการผลิตมือถือที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ซะแล้ว เพราะหลังจากที่ผลิตโทรศัพท์ที่ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์และสามารถกันน้ำได้เมื่อเดือนที่แล้ว เดือนนี้ทางชาร์ปได้ผลิตแผงโซลาร์เซลที่มีขนาดบางเพียง 0.8 มิลลิเมตรเท่านั้นเอง
โดยทางชาร์ปได้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์นี้เพื่อใช้กับโทรศัพท์ ทำให้โทรศัพท์นั้นมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากขึ้น และสามารถใช้ติดต่อเมื่อยามคับขันได้ (ยกเว้นตอนกลางคืน)
จากข่าว ดีวีดีสมัยหน้ามันต้อง 1.6 เทราไบต์ ซึ่งกล่าวถึงการใช้เทคโนโลยีใหม่ที่ทำให้สามารถบรรจุข้อมูลลงไปในแผ่น DVD ได้มากขึ้นนั้น ตอนนี้ดูท่าทางจะมืดหม่นเสียแล้ว เพราะว่าการจะทำให้เจ้า 5D DVD นี้เข้าสู่ตลาดได้นั้น จำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนา 5-10 ปี
เวลา 5-10 ปีนี้ เมื่อเทียบกับปริมาณความจุที่จะได้รับก็อาจจะดูไม่นานนัก แต่ถ้าหากเอาไปเปรียบเทียบกับการขยายตัวของสื่อประเภทนี้แล้ว พบว่ามีการขยายตัวที่ค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นในเวลา 5-10 ปีนี้ เราอาจจะได้ใช้สื่อที่มีความจุถึงหลักเทราไบต์/เพตาไบต์ แต่อาจจะไม่ใช่ 5D DVD ก็เป็นได้
ในขณะที่ทั่วทั้งโลกกำลังให้ความสนใจกับการมาของ Windows 7 และ MS Office 2010 แต่ทว่ากลับมีรายงานของกองทัพสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่ในกองทัพไปเป็น Windows Vista
นอกจากการเปลี่ยนไปใช้ Windows Vista แล้วยังเปลี่ยน MS Office 2003 เป็น MS 2007 อีกด้วยและคาดว่าการเปลี่ยนแปลงระบบจะเริ่มต้นตั้งแต่สิ้นปีนี้เป็นต้นไป
โดยเหตุผลที่เปลี่ยนมาใช้ Windows Vista เนื่องจากมีการทดสอบว่าระบบปฏิบัติการนี้สามารถทำงานร่วมกับโปรแกรม Army Golden Master ซึ่งเป็นโปรแกรมเฉพาะทางที่ใช้ภายในกองทัพสหรัฐฯ ได้เช่นเดียวกับ Windows XP
หลังจากที่ปล่อยให้ทางอินเทลปล่อยชิพประมวลผลรหัส "Nehalem" ซึ่งเป็นการผลิตในขนาด 45 นาโนเมตรมานาน วันนี้ทางเอเอ็มดีได้ประกาศเรื่องการเปลี่ยนไปใช้การผลิตชิพประมวลผลที่ขนาด 45 นาโนเมตรอย่างเต็มตัวพร้อมทั้งวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสที่สามนี้ หลังจากที่ได้วางขายไปบ้างแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา
โดยชิพประมวลผลที่เตรียมวางจำหน่ายแบ่งออกเป็นสามรุ่นคือ
ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มีความต้องการจากทุกสารทิศ ทำให้แรงผลิตเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ก่อให้เกิดปัญหาขยะตามมา ทางเดลล์จึงได้ตามเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า
ซึ่งผลการสำรวจพบว่าประเทศในกลุ่มสหราชอาณาจักรฯมีอัตราของผู้ที่ไม่นำอุปกรณ์ไปรีไซเคิลเกือบร้อยละ 50 ซึ่งหากนำไปเปรียบเทียบกับชาวเยอรมันแล้ว จะมากกว่าถึงร้อยละ 80
โดยในประเทศของกลุ่มสหราชอาณาจักรฯนั้น ประเทศที่มีอัตราสูงที่สุดคือแคว้นเวลส์ที่มีอัตราการไม่รีไซเคิลสูงถึงเกือบร้อยละ 20 และถ้าหากว่านำปริมาณขยะอิเล็กโทรนิกส์เหล่านี้มารวมกันจะพบว่ามีขนาดถึง 6 เท่าของสนามฟุตบอลเวมบลีย์
นอกจากที่เดลล์ทำการสำรวจแล้ว ทาง O2 ก็ได้สำรวจอุปกรณ์ที่ใช้ตามครัวเรือนโดยเฉลี่ยซึ่งมีรายงานดังนี้
โดยเจ้าเทคโนโลยีที่ว่านี้ ใช้การอ่านรูปแบบการแสดงออกใบหน้าเพื่อสับเปลี่ยนเพลงตามอารมณ์ที่แสดงออกทางใบหน้า และทางโซนี่อีริคสันได้จดสิทธิบัตรนี้ในชื่อ
Generating music playlist based on facial expression,,
โดยหลักการทำงานคือ ระบบนี้จะทำการจดจำอารมณ์ต่างๆ ที่ปรากฏบนใบหน้าซึ่งมีลักษณะพิเศษต่างกันออกไป หรือใช้วิธีการเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานจากในเครื่อง และทำการสร้างรายการเพลงที่เหมาะสมกับอารมณ์นั้นของผู้ฟัง
โดยคุณสมบัตินี้จะถูกบรรจุลงในโทรศัพท์ของโซนี่อีริคสัน และเครื่องเล่นพกพาของโซนี่
เรียกได้ว่างานนี้เอพริลฟูลของ Opera ถูกตัดหน้าซะแล้วสิ มารอดูกันดีกว่า ว่าจะมีเจ้าไหนเตรียมทำตามบ้างรึเปล่า :D
Gene Munster ได้ออกมาวิเคราะห์ว่าทางแอปเปิลน่าจะเปิดตัวเครื่อง Media Pad ในช่วงต้นปี 2010 โดยเครื่องนี้น่าจะใช้ระบบปฏิบัติการที่เป็นลูกผสมระหว่าง iPhone OS กับ Mac OS X
โดยขนาดของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 7 - 10 นิ้ว โดยตั้งราคาไว้ที่ $500 - $700 (ประมาณ 17,500 - 24,500 บาท) ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่าง iPod ($399 ประมาณ 14,000 บาท) และ MacBook ($999 ประมาณ 35,000 บาท)
และแน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่การวิเคราะห์ ซึ่งอาจไม่เกิดขึ้นจริงก็เป็นได้ แล้วคุณล่ะอยากให้เป็นเรื่องจริงไหม ?