คำถามที่เกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดตัว Silverlight ก็คือบนลินุกซ์จะทำอย่างไร ซึ่งทุกคนมองไปที่โครงการ Mono เหมือนกันหมด

Miguel De Icaza ได้รับโจทย์จากไมโครซอฟท์ฝรั่งเศสให้ไปโชว์ Silverlight เวอร์ชัน Mono (หรือที่เรียกกันว่า Moonlight) ในงาน Remix โดยที่เขามีเวลาเตรียมตัว 21 วันแบบแทบจะไม่มีอะไรเลย เขาตัดสินใจระดมทีมนักพัฒนาหลัก Mono จากทั่วโลกมาสร้างของที่สามารถโชว์ได้ ผลสุดท้ายก็คือ Moonlight ที่สามารถรันเดโม Silverlight Airlines ที่ไมโครซอฟท์ใช้โชว์ใน Mix 07 ได้เกือบสมบูรณ์ รายละเอียดแบบวันต่อวันอ่านได้จากลิงก์ เห็นแว๊บๆ ว่าเรียกใช้ Cairo กับ Pango ด้วย

Ubuntu เผยแผนการพัฒนา Gutsy Gibbon (7.10) ว่าจะออกตัวจริงวันที่ 18 ตุลาคม

Ubuntu 7.10 จะใช้เคอร์เนล 2.6.22, XOrg 7.3 และ GNOME 2.20 ส่วน Kubuntu เลือกใช้ KDE 3.5.7 และเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เลือกลง KDE 4.0 RC2 ไปพร้อมกันได้ ทาง Ubuntu พยายามจะเปิดใช้ Compiz Fusion มาให้เป็นดีฟอลต์

ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือโปรแกรมในการคอนฟิกจอภาพสำหรับต่อออกจอนอก ซึ่งเป็นปัญหาของลินุกซ์มานาน และแต่เดิมต้องแก้ไฟล์คอนฟิกด้วยมือเท่านั้น (รายละเอียด)

Ubuntu 7.10 ยังจะเป็นเวอร์ชันแรกที่มี mobile and embedded edition ซึ่งคาดกันว่าจะถูกนำไปใช้ในโครงการคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กของอินเทล

และแล้ว ข่าวที่ 5,000 ก็ถูกสอยไปโดยคุณ infernohellion เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2550 เวลา 12:30

มาดูผู้ชนะการทายผล Blognone 5,000th Sweepstakes กัน

• ชนะเลิศ กั๊ตจัง [20 June, 2007 - 16:00] ห่าง 20.5 ชม.
• ที่ 2 moccaMania [22 June ,2007 - 09:30] ห่าง 21 ชม.
• ที่ 3 Amorn [20 June, 2007 - 10:01] ห่าง 26.5 ชม.

ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะด้วยนะครับ รบกวนทั้ง 3 คน (และคุณ infernohellion) ติดต่อรับของรางวัลที่ผมได้โดยตรงทางอีเมลครับ

หลังจาก Compiz/Beryl ประกาศรวมโครงการกัน (ข่าวเก่า) โดย Beryl จะกลายร่างมาอยู่ในรูปปลั๊กอินของ Compiz แต่อย่างไรก็ตามต้องมีชื่อโครงการใหม่เพื่อแสดงถึงการรวมตัวกัน

หลังจากใช้ชื่อชั่วคราวว่า CompComm และใช้โดเมน OpenCompositing.org มาซักระยะ ทางโครงการก็ได้เลือกชื่อใหม่ว่า Compiz Fusion

ฝั่ง Ubuntu ได้ประกาศว่าจะพยายามเป็นดิสโทรแรกที่ใช้ Compiz Fusion ใน 7.10 Gutsy Gibbon ที่จะออกในเดือนตุลาคม

ที่เจ๋งคือมีคนทำวอลล์เปเปอร์ของ Compiz Fusion ออกมาได้อย่างรวดเร็ว

หลายคนอาจเคยได้ยินตัวเลขว่าทราฟฟิกของ P2P กินแบนด์วิธไปเกินครึ่งของอินเทอร์เน็ต ผลสำรวจล่าสุดในสหรัฐบอกว่า HTTP พลิกกลับมาแซงได้แล้ว ด้วยอิทธิพลของ YouTube

ในสหรัฐ HTTP อยู่ที่ 46% ส่วน P2P มี 36% ถ้าคิดเฉพาะทราฟฟิกแบบ HTTP คนโหลดวิดีโอจาก YouTube มีถึง 20% (เมื่อเทียบกับเว็บแบบดั้งเดิม 45%)

ที่เยอะแบบไม่น่าเชื่อคือ Newsgroup 9% ส่วน VoIP มีแค่ 1% เท่านั้น

ที่มา - Ars Technica

ข่าวแถมมี 2 ข่าว

Jet Propulsion Laboratory แล็บดังของ NASA ได้โอเพนซอร์สเฟรมเวิร์กสำหรับการสร้างหุ่นยนต์ชื่อ CLARAty (ย่อมาจาก Coupled Layer Architecture for Robotic Autonomy) ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กเดียวกับที่ใช้สร้างหุ่นยนต์ไปดาวอังคารมาแล้ว

ในเวอร์ชันแรก 0.10-beta ทาง JPL ได้เปิดซอร์สของ CLARAty ออกมาจำนวน 44 โมดูล คิดเป็น 10% ของโมดูลทั้งหมด ซึ่ง JPL ตั้งใจเพิ่มตัวเลขนี้เป็น 30% ในอนาคต ตัวอย่างของโมดูลได้แก่ ส่วนประมวลผลคณิตศาสตร์, ส่วนควบคุมกลไกพวกล้อหรือกล้อง เป็นต้น

สัญญาอนุญาตที่ใช้คือ JPL Open Source License เท่าที่แอบดูมีเวอร์ชันบนลินุกซ์และ VxWorks ก่อนหน้านี้ NASA ก็เคยออกโปรแกรม World Wind ที่เป็นโอเพนซอร์สมาก่อนแล้ว

ต่อเนื่องจาก Red Hat ครับ (ข่าวเก่า) Mandriva ก็เป็นผู้พัฒนาลินุกซ์ดิสโทรอีกรายที่ออกมาประกาศจุดยืนเรื่องสิทธิบัตรซอฟต์แวร์

François Bancilhon ซีอีโอของ Mandriva เขียนลงในบล็อกของบริษัทมีใจความดังนี้

จากสงครามคารมคราวก่อนระหว่าง Linus Torvalds กับ Jonathan Schwartz ประธานของซํน (ข่าวเก่า) ก็ได้มีผู้ร่วมผสมโรงที่ไม่ธรรมดามาตอบคอมเมนต์ในบล็อกของ Jonathan และคอมเมนต์อันนั้นก็ถูกอ้างไปทั่วอินเทอร์เน็ต เขาคนนั้นก็คือ Theo de Raadt แห่ง OpenBSD

สืบเนื่องจากการออกมาประกาศของ Ubuntu ว่าจะไม่เซ็นสัญญาตกลงด้านสิทธิบัตร (ข่าวเก่า) ตอนนี้ Red Hat ก็ออกมาพูดชัดแล้วว่า "จุดยืนของเราไม่เคยเปลี่ยน"

Leigh Day หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรของ Red Hat ให้สัมภาษณ์กับ ZDNet ว่า "Red Hat ยังเชื่อมั่นว่าโอเพนซอร์สและนวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดจากโอเพนซอร์สนั้น ไม่ควรมีค่าใช้จ่าย (ต้นฉบับใช้คำว่า tax) ที่ไม่โปร่งใส"

ในข่าวยังได้อ้างคำพูดของ Shuttleworth ที่ยืนยันท่าทีของฝั่ง Ubuntu เช่นกัน

ที่มา - ZDNet

หลังจากที่ Yahoo! ภายใต้การนำของ Terry Semel ประสบปัญหาโดนคู่แข่งอย่างกูเกิลหนีไปไกลทั้งตลาดค้นหาและโฆษณา ราคาหุ้นร่วง และเกิดความล่าช้าในการออกแพลตฟอร์มใหม่อย่าง Panama ทำให้เกิดกระแสข่าวการเปลี่ยนตัว CEO มานาน

ในที่สุด Terry Semel ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO แล้ว ผู้มาดำรงตำแหน่งคนใหม่คือ Jerry Yang ผู้ร่วมก่อตั้ง Yahoo! นั่นเอง

การเปลี่ยนตำแหน่งครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ประจำปี โดย Terry Semel จะยังมีตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารอยู่ นอกจากการเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว Yahoo! ยังได้ยกเลิกการปรับผังโครงสร้างองค์กรที่เพิ่งเริ่มดำเนินการมาก่อนหน้าอีกด้วย

สถานะล่าสุดของพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ คือผ่านการลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาเรียบร้อยแล้ว

เนื้อหาของ พ.ร.บ. จะเหมือนกับฉบับที่ผ่านสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ข่าวเก่า) และมีผลบังคับใช้ใน 30 วัน (นับจากวันที่ 10 มิถุนายน 2550) อย่างไรก็ตามยังต้องมีกฎหมายประกอบ พ.ร.บ. นี้ในส่วนของชนิดข้อมูล traffic log ที่ต้องเก็บ และวิธีการแต่งตั้งเจ้าพนักงาน ซึ่งจะอยู่ในรูปของกฎกระทรวง ICT

กฎกระทรวงฉบับร่างสามารถอ่านได้จาก เอกสารชี้แจง พรบ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ต่อ สนช. ของทาง NECTEC

เว็บไซต์ของบริษัท Legendary Pictures ได้อัพเดตข้อมูลว่า Diablo กำลังเป็นภาพยนตร์ที่ "อยู่ระหว่างการพัฒนา" เช่นเดียวกับ World of WarCraft ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้

ถึงแม้ตอนนี้ Legendary จะเอาลิงก์นั้นออกไปจากเว็บไซต์แล้ว แต่บรรดาแฟนๆ ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้า Legendary ได้ลิขสิทธิ์ไปจริง ผลงานก็น่าจะมีคุณภาพดีกว่าหนังจากเกมเรื่องอื่นๆ เพราะงานเก่าๆ ของ Legendary Pictures ได้รับการยอมรับพอสมควร เช่น Batman Begins, Superman Returns, Lady in the Water และ 300 เป็นต้น

หนังทำจากเกมที่จะออกมาในเร็วๆ นี้เรื่องอื่นได้แก่ Metal Gear Solid, The Sims และ Prince of Persia

ที่มา - Joystiq

Blockbuster เครือร้านเช่าวิดีโอรายใหญ่ในสหรัฐตัดสินใจเลือก Blu-ray เป็นฟอร์แมตหลัก โดยจะสต็อกแผ่น Blu-ray ในทุกสาขาทั่วประเทศ ส่วน HD DVD นั้นจะมีแค่ 250 สาขาจากทั้งหมด 1,450 สาขา หรือถ้าอยากได้จริงๆ ต้องสั่งออนไลน์

Matthew Smith รองประธานของ Blockbuster เปิดเผยว่าการตัดสินใจนี้มาจากการทดลองตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว และพบว่า 70% ของลูกค้าเลือกเช่า Blu-ray ด้วยเหตุผลว่าหนังฝั่ง Blu-ray น่าสนใจกว่า ไม่ใช่ปัจจัยด้านเทคนิคหรือราคาแต่อย่างใด

ที่มา - Engadget

สัมภาษณ์กล้า-ออย แห่ง duocore.tv

ไม่ต้องอธิบายขั้นตอนแล้วมั้ง ตามนั้น!

Gigabyte ผู้ผลิตเมนบอร์ดชื่อดังได้เปิดโรงงานเชิญนักข่าวไปสำรวจ นักข่าวจาก ExtremeTech เลยถ่ายรูปกรรมวิธีการผลิตเมนบอร์ดอย่างละเอียดมาเป็น slideshow ลองเข้าไปดูรูปกันสนุกๆ จะได้รู้ว่าเมนบอร์ดเนี่ยเค้าสร้างกันอย่างไร

ขั้นตอนจะเริ่มตั้งแต่เครื่องตัดแผ่น PCB, เครื่องเสียบส่วนประกอบเล็กๆ อย่างตัวเก็บประจุ, นำเข้าไปอบที่ 200 องศาให้ติดแน่นกับบอร์ด, ผ่านการตรวจสอบหลายชั้นก่อนจะประกอบด้วยมือในไลน์ อุปกรณ์ชิ้นสุดท้ายที่จะประกอบคือฮีตซิงก์ ก่อนจะใส่ถุงใส่กล่องส่งออกไปขายให้เราๆ ได้ใช้กัน

ที่ผมชอบก็คือแก้วน้ำของสาวโรงงานแยกเก็บใส่ชั้นไว้อย่างดี (มีโลโก้ Gigabyte ซะด้วย)

หลังจากดิสโทรจำนวน 3 รายคือ Novell, Xandros (ข่าวเก่า) และ Linspire (ข่าวเก่า) ได้เซ็นสัญญาคุ้มครองด้านสิทธิบัตรกับไมโครซอฟท์ เพื่อป้องกันการถูกฟ้องข้อหาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สหลายๆ ตัวละเมิดสิทธิบัตรตามที่ไมโครซอฟท์กล่าวอ้าง (ข่าวเก่า) ทำให้เกิดความกังวลในบรรดาผู้ใช้ลินุกซ์ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไรกันแน่

หมายเหตุ: สำหรับการวิเคราะห์ ผมแนะนำให้อ่านความเห็นของคุณเทพพิทักษ์ ในข่าว Linspire ข้างบน

ฝั่ง Ubuntu ได้ออกมาประกาศชัดแล้ว โดย Mark Shuttleworth ตอบในคอมเมนต์ของบล็อกตัวเองว่า

เว็บไซต์ DonationCoder ได้รีวิวเวิร์ดโพรเซสเซอร์จำนวน 14 ตัวอย่างละเอียด (ละเอียดจริงๆ แยกข้อดีข้อเสียพร้อม screenshot) โดยแยกเป็น 3 ประเภท ดังนี้

• โปรแกรมกระแสหลัก: OpenOffice.org, Microsoft Word 2007, WordPerfect X3
• โปรแกรมนอกกระแส: TextMaker, Atlantis, Papyrus WORD, AbiWord, Ability Write, EIOffice, PolyEdit, 602 Text
• เว็บ: Google Docs, ThinkFree Office Write, Zoho Writer

ผู้ชนะในแต่ละสายได้แก่ OOo, TextMaker และ Zoho ชนะกันอย่างไรคงต้องไปอ่านเอาเอง

ที่มา - Donation Coder

ผู้บริหารของทั้งไมโครซอฟท์และ Mozilla Corporation ออกมาให้ความเห็นที่ "เป็นทางการ" เกี่ยวกับการออก Safari บนวินโดวส์

Mike Schroepfer รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Mozilla บอกว่าการออก Safari บนวินโดวส์แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเบราว์เซอร์ และ Mozilla หวังว่าแอปเปิลจะช่วยผลักดันเรื่องมาตรฐานเว็บ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้ในระยะยาว

ส่วน Kevin Kutz จากไมโครซอฟท์บอกว่าด้วยจำนวนผู้ใช้มหาศาลของวินโดวส์ ไม่น่าแปลกใจที่ใครก็อยากลงมาเล่นตลาดนี้ เรายินดีที่ลูกค้าของเรามีเบราว์เซอร์ให้เลือกมากขึ้น แต่เราก็ยังคิดว่า IE7 เป็นเบราว์เซอร์ที่ดีที่สุดในขณะนี้

ต่อจาก Novell และ Xandros (ข่าวเก่า) ดิสโทรรายที่สามที่เซ็นสัญญาความคุ้มครองสิทธิบัตรกับไมโครซอฟท์ก็คือ Linspire

ในสัญญานี้ ลูกค้าของ Linspire จะได้รับความคุ้มครองกรณีไมโครซอฟท์ฟ้องลินุกซ์และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สอื่นๆ ว่าละเมิดสิทธิบัตรของตัวเอง ส่วนข้อตกลงนอกจากนี้คือ Linspire จะสามารถใช้ฟอนต์ TrueType ของไมโครซอฟท์, codec ของ Windows Media และคุย Voice Chat ข้ามกับ Windows Live Messenger ได้

ในทางกลับกัน Linspire จะต้องใช้ Windows Live Search เป็นเสิร์ชเอนจินหลัก

Linus Torvalds เปิดศึกวิวาทะกับซัน โดยเขาเขียนลงในเมลลิ่งลิสต์ของเคอร์เนลเกี่ยวกับ GPLv3 และอ้างถึงซัน (ซึ่งมีท่าทีสนับสนุน GPLv3) ว่า

ตัวเลขข่าวของ Blognone วิ่งเข้าไปใกล้เลข 5,000 ทุกที (ต้้องขอบคุณผู้เขียนข่าวทุกท่าน) เรามาทายผลกันดีกว่าว่าจะครบ 5,000 เมื่อไรกันแน่

กติกา

แอปเปิลอ้างในเว็บไซต์ว่า Safari เร็วกว่า Firefox และ IE7 เกือบเท่าตัว บล็อกของนิตยสาร Wired จึงได้ทดสอบและพบว่าสำหรับ AJAX แล้ว Safari ยังช้ากว่า Firefox และ IE7 เสียอีก

วิธีทดสอบของเค้าคือเปิด Gmail และ Google Calendar แล้วจับเวลา ผลลัพธ์ที่ได้คือในการทดลอง 3 อย่าง Safari เป็นที่โหล่ไปซะ 2 ส่วน Firefox ชนะหมดทุกการทดสอบ (ดูกราฟผลการทดสอบได้ตามลิงก์) อย่างไรก็ตามเราต้องหมายเหตุไว้นิดว่า Safari ยังเป็น Beta อยู่

คนของฝั่ง Mozilla หลายคนเลยใช้ผลทดสอบนี้มาบลัฟกลับกันสนุก

แคปคอมประกาศขายเกมของตัวเองผ่านระบบซื้อเกมออนไลน์ Steam ของ Valve เกมที่ประกาศได้แก่ Devil May Cry 3, Onimusha 3 และ Lost Planet (ทั้งหมดนี่เป็นเวอร์ชันพีซี)

Steam เป็นบริการของ Valve ที่ออกครั้งแรกพร้อม Half-Life 2 ซึ่งมันมีความสามารถตั้งแต่ซื้อ-ดาวน์โหลด-อัพเดตเกม หลังจากออก Half-Life 2 ตัวเต็มแล้ว Valve ได้ทยอยออกภาคต่อในรูป Episode ผ่าน Steam ด้วย

นอกจาก Valve และแคปคอมแล้ว ค่ายอื่นๆ ที่ขายเกมผ่าน Steam ก็มี 2K Games (Civilization III และ IV, Pirates!), Activision (Call of Duty), Eidos (เยอะมาก) และ PopCap ที่เรารู้จักกันดีใน Zuma, BookWorm และ Bejeweled เป็นต้น

ช่วงนี้ iPhone ใกล้ออก มีข่าวเยอะหน่อย

ผู้ร่วมงาน WWDC หลายคนรายงานว่าถึงแม้ iPhone จะใส่ Safari ตัวเต็มมาให้ แต่มันกลับไม่สามารถเล่น Adobe Flash ได้ด้วยเหตุผลด้านสัญญาระหว่างทั้งสองบริษัท นักวิเคราะห์คาดเดาว่าแอปเปิลคงปล่อยเฟิร์มแวร์ตามมาในตอนหลัง แต่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่แบบไม่มี Flash ก็ดูแย่ไปนิดเหมือนกัน

อีกข่าวคือ iPhone นั้นไม่มีโปรแกรม iTunes มาให้ (ใช้ระบบเล่นเพลงของ iPod) นั่นแปลว่าถ้าต้องการซื้อเพลงจาก iTunes Store เราก็จะต้องซื้อผ่านคอมพิวเตอร์ก่อนจะโอนมาลง iPhone (แบบเดียวกับ iPod) อย่างไรก็ตามผู้ใช้ iPhone จำเป็นต้องมีบัญชีผู้ใช้ของ iTunes Store ก่อนจึงจะใช้งานได้ กรณีนี้มองได้ว่าแอปเปิลต้องการคุยกับลูกค้าโดยตรง ไม่ผ่านตัวกลางอย่าง AT&T

ไมโครซอฟท์ออกรุ่น RC1 ของ Windows Home Server (มันคืออะไร? ดูข่าวเก่า, Beta 2) โดยเปิดให้สมาชิกของ CTP สามารถดาวน์โหลดได้แล้ว

ไมโครซอฟท์ยังออกกิจกรรมเสริมให้กับ WHS อีกด้วย โดยจัดแข่ง Windows Home Server Code2Fame Challenge มีเป้าหมายในการสร้าง Add-ins ชิงรางวัล 50,000 ดอลลาร์ รายละเอียดดูได้จาก Microsoft Connect

ที่มา - Ars Technica