ก่อนที่ใครจะขายอุปกรณ์ที่มีการรับส่งคลื่นวิทยุในสหรัฐอเมริกา อุปกรณ์นั้นจำเป็นจะต้องผ่านการตรวจสอบจาก FCC (คล้ายๆ กสทช.
ช่วงนี้ตลาดแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว เริ่มจะร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ หลัง Google ปล่อย Nexus 7 มาและ Amazon เพิ่งเปิดตัว Kindle Fire HD ไปหมาดๆ คราวนี้ฝั่งจีนโดย Ainovo ผู้ผลิตแท็บเล็ตราคาประหยัดที่รู้จักกันดีในบ้านเรา เปิดตัว Ainol Novo 7 Crystal รุ่นอัพเกรดจาก Elf II สเปคดังนี้ครับ
ปัญหาการไม่รองรับภาษาไทยของ WP7 เป็นสิ่งที่รบกวนผู้ใช้งานในประเทศไทยมาโดยตลอด แม้ว่าภาษาไทยบน WP8 จะมีให้เห็นใน SDK ที่หลุดออกมาบ้างแล้วแต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าอัพเดต WP7.8 จะรองรับภาษาไทยด้วยหรือไม่ ยังไงผมอยากชวนให้ผู้ใช้งานในไทยทุกคนมาช่วยกันส่งเสียงเรียกร้องนี้ให้ทางไมโครซอฟท์ได้รู้ครับ
นอกจากข่าวลือวินโดวส์โฟนโค้ดเนม Zeal แล้ว The Verge ยังได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวอีกว่า โนเกียมีแผนพัฒนามือถือรัน Windows Phone 8 อีกรุ่นที่มีโค้ดเนมว่า Flame สเปกเป็นดังนี้
จากสเปกที่กล่าวมา ดูเหมือนโนเกียจะขาย Flame ให้กับตลาดระดับล่างที่กำลังซื้อไม่สูงนัก และราคาจะอยู่ที่ประมาณราคาของ Lumia 610 และ 710 สำหรับช่วงวางจำหน่ายนั้น แหล่งข่าวระบุว่าภายในไตรมาสแรกของปีหน้า
"We're the People with the Smile on the Box" คือประโยคแรกใน คลิปวิดีโอ เปิดตัวของงานแถลงสินค้าตัวใหม่จาก Amazon.com ในวันที่ 6 กันยายน 2555 ณ เมือง Santa Monica รัฐ California หลังจากโฆษณาตัวนี้จบ, Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง และ CEO ของ Amazon.com ก็ออกมาพร้อมคำพูดที่ทักทายผู้ชมอย่างเป็นกันเองว่า "Thank you for joining us in Santa Monica this morning, Beautiful day."
สำหรับใครที่สนใจดูงานเปิดตัวแบบเต็มๆ สามารถดูได้ที่ http://bit.ly/OfCfkK ครับ (สามารถกด CC ใต้วิดีโอ เพื่อเปิดคำบรรยายใต้ภาพได้นะครับ)
Firefox for Android ขยายสถาปัตยกรรมซีพียูที่รองรับ จากเดิมที่ใช้ได้เฉพาะซีพียูใหม่หน่อยอย่าง ARMv7 ขึ้นไป ก็เพิ่ม ARMv6 รุ่นก่อนหน้าเข้ามาแล้ว
ตัวอย่างมือถือที่ใช้ ARMv6 ได้แก่ HTC Status, Samsung Galaxy Pro, Motorola XT531, Motorola Fire XT เป็นต้น ทางโครงการ Mozilla ระบุว่าปัจจุบันนี้มือถือ Android กว่า 55% ยังเป็นสถาปัตยกรรม ARMv6 เลยต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ใช้กลุ่มนี้เข้าถึงซอฟต์แวร์อย่าง Firefox มากขึ้น
ตอนนี้ Firefox ที่รองรับ ARMv6 ยังอยู่ในสถานะเบต้า ต้องการซีพียู ARMv6 800MHz ขึ้นไป พร้อมแรมขั้นต่ำ 512MB ถ้าใครมีมือถือเหล่านี้ใช้งานก็เข้าไปช่วย Mozilla ทดสอบกันได้ครับ
เมื่อเดือนก่อน มีข่าวว่า HTC กำลังทำมือถือจอใหญ่ ความละเอียดที่ 1794x1080 พิกเซลอยู่ ล่าสุดเจ้าตัวนี้ก็มีความคืบหน้าแล้วครับ
ก็เพราะว่าเจ้า HTC6435LVW ได้ผ่านการรองรับมาตรฐานบลูทูธจาก Bluetooth SIG เป็นที่เรียบร้อยและ และงานนี้อาจจะตกใจเล็กน้อยเพราะรุ่นที่ผ่านการทดสอบนั้น เป็นรุ่นที่ใช้งานกับเครือข่าย Verizon อีกด้วยครับ (VW ย่อมาจาก Verizon Wireless) ดังนั้นอาจจะเป็นไปได้สูงที่ HTC จะเปิดตัวมือถือจอยักษ์รุ่นนี้ ในนาม Droid ตัวใหม่ก็เป็นได้ครับ
ทีนี้ใครที่อยากได้ก็คงได้แต่ภาวนาให้ HTC เปิดตัวรุ่นนี้ในแบบ GSM ด้วยเท่านั้นแหละครับ
ยิ่งใกล้งานแถลงข่าวในวันที่ 18 กันยายนนี้ มากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งมีข่าวหลุดของ HTC มากขึ้นเท่านั้น ทั้ง 8X, One X+ และก็ตัวนี้ HTC Flyer 2 ที่จะมาเป็นตัวต่อของ HTC Flyer แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วที่วางขายมานานแล้วนั่นเองครับ
โดยข้อมูลที่หลุดออกมาก็จะมีตามนี้ครับ
แอปเปิลยื่นคำร้องต่อหน่วยงานด้านการค้าอย่างเป็นธรรม (Fair Trade Commission ย่อว่า FTC) ของเกาหลีใต้ ว่าซัมซุงอาศัยส่วนแบ่งตลาดของตัวเอง ผูกขาดเทคโนโลยีไร้สาย 3G ผ่านระบบสิทธิบัตร
รายละเอียดของเรื่องนี้ยังมีน้อยมาก สื่อตะวันตกรายงานข่าวเพียงว่าตัวแทนของ FTC ระบุว่ากำลังตรวจสอบข้อมูลในคำร้องของแอปเปิล แต่ยังไม่ตัดสินใจว่าจะสอบสวนซัมซุงอย่างเป็นทางการหรือไม่ ทั้งสองบริษัทเองก็ปฏิเสธจะให้ข้อมูลในประเด็นนี้
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ศาลเกาหลีใต้ตัดสินลงโทษทั้งแอปเปิล-ซัมซุงในคดีละเมิดสิทธิบัตร โดยสิทธิบัตรที่แอปเปิลถูกตัดสินว่าละเมิดซัมซุงคือสิทธิบัตรด้าน 3G นั่นเอง
เรามีข่าวลือของ HTC One X+ หรือ HTC Endeavor C2 กันมาหลายรอบ
ข่าวรอบนี้มาจาก @Football4PDA สมาชิกของเว็บไซต์ XDA ซึ่งเคยให้ข่าวของ HTC 8X มาก่อนหน้านี้ไม่นาน
@Football4PDA ทวีตข้อมูลสเปกของ HTC One X+ ที่ยังไม่เปิดตัวไว้ดังนี้: ซีพียู NVIDIA AP37 1.6GHz ควอดคอร์ (บอกด้วยว่า 1.7GHz คอร์เดี่ยว อันนี้ผมไม่แน่ใจว่านับจากคอร์ที่ห้า หรือแปลว่าถ้าทำงานโหมดคอร์เดี่ยวจะทำสัญญาณนาฬิกาได้ 1.7GHz) รอมขนาด 32GB, แรม 1GB, Android 4.1 พร้อม Sense 4.5
หากตามข่าวเกมส์ใน Blognone เราอาจจะพอคุ้นชื่อของ Wikipad ในฐานะแท็บเล็ตที่ได้รับรอง PlayStation Certified วันนั้นเราได้ยินชื่อแล้วอาจจะมองข้าม (เพราะไม่รู้จัก) แต่วันนี้เห็นสเปคแล้วค่อนข้างน่าสนใจครับ
ที่ผ่านมาเราได้เห็นภาพหลุดของ iPhone ตัวใหม่หลายต่อหลายครั้ง ซึ่งก็ทำให้เราพอจะเห็นภาพได้ชัดว่า iPhone ตัวต่อไปที่จะเปิดตัวในวันที่ 12 กันยายนนี้จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
ล่าสุดบริษัทในจีนแห่งหนึ่งได้เปิดตัวโทรศัพท์ที่มีรูปลักษณ์เหมือนกันแทบทุกประการในชื่อ Goophone I5 พร้อมทั้งอ้างว่าได้จดสิทธิบัตรการออกแบบในประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อย และยังเตรียมที่จะฟ้องร้องหากแอปเปิลนำ iPhone รุ่นใหม่มาขายในประเทศจีน ซึ่งหากมีผลจริงอาจส่งผลกระทบถึงการเจาะตลาดสมาร์ทโฟนในจีนของแอปเปิล รวมทั้งยังอาจส่งผลต่อการส่งออกสินค้าจากโรงงานในประเทศจีนอีกด้วย
เก็บตกประเด็นที่น่าสนใจในงานเปิดตัว Kindle Fire HD ที่ยังไม่ได้ลงเป็นข่าวใน Blognone ครับ
กูเกิลประกาศการซื้อกิจการบริษัทความปลอดภัย VirusTotal โดยไม่เปิดเผยมูลค่า
VirusTotal ให้บริการตรวจสอบไฟล์และ URL ที่อาจเป็นอันตราย โดยก่อนหน้านี้กูเกิลก็เคยใช้บริการของ VirusTotal ในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง (แต่ไม่ได้เปิดเผยทั่วไป) อยู่บ้างแล้ว
ในการซื้อกิจการครั้งนี้ VirusTotal ระบุว่าระบบตรวจสอบมัลแวร์ของตัวเองเมื่อไปอยู่บนโครงสร้างพื้นฐานอันแข็งแกร่งของกูเกิล ย่อมทำงานได้รวดเร็วและรองรับผู้ใช้งานได้มากขึ้น ส่วนโครงสร้างการบริหารจะยังเป็นอิสระจากตัวบริษัทหลักของกูเกิล
หลายแหล่งข่าวเชื่อว่า iPhone ต่อไปจะต้องมาพร้อมกับการรองรับ 4G LTE อยู่แล้ว แต่ล่าสุด The Wall Street Journal ได้ออกมารายงานว่าแอปเปิลต้องการที่จะให้ iPhone ตัวใหม่นี้รองรับระบบ LTE ต่าง ๆ รอบโลกได้ ซึ่งจะต่างจาก The New iPad ที่รองรับเฉพาะเครือข่าย LTE ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น
ในรายงานยังไม่ได้บอกว่า iPhone จะรองรับเครือข่าย LTE แบบไหนที่ย่านความถี่ใด แต่ได้บอกเพียงแค่ว่า มันจะรองรับเครือข่าย LTE ในยุโรปและเอเชีย แต่มันจะไม่รองรับเครือข่าย LTE ของผู้ให้บริการหลายรายในหลายประเทศ
หลังจากมีภาพหลุดวินโดวส์โฟนโค้ดเนม Accord จากเอชทีซีออกมาระลอกแรก (ดูภาพแรกที่ท้ายข่าว) และต่อมามีหลุดชื่ออย่างเป็นทางการ ว่า Windows Phone 8X ล่าสุดก็มีผู้เผยภาพส่วนหนึ่งของตัวเครื่องและหน้าจอ พร้อมระบุว่าเป็นรุ่น HTC 8X (ดูภาพที่สอง) นอกจากนั้นเขายังเปิดเผยสเปกของรุ่นที่มีเลขรหัสโมเดล C620e ดังนี้
หลังจากที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายจากกรณีที่โนเกียไม่ได้ใช้ Lumia 920 ในการถ่ายวิดีโอโปรโมท ล่าสุดทางโนเกียก็ได้เชิญทีมงานจากเว็บไซต์ The Verge เข้าร่วมทดสอบการถ่ายภาพด้วย Lumia 920 ที่ Central Park ในกรุง New York ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพโปรโมทด้วยเช่นกัน โดยทางทีมวิศวกรโนเกียได้จัดสถานที่ให้เหมือนกับในภาพโปรโมทที่ออกมา พร้อมอนุญาตให้ The Verge ใช้ Lumia 920 ถ่ายภาพเทียบกับ iPhone 4S, HTC One X, Samsung Galaxy S III, Nokia Lumia 900 และ Nokia 808 PureView
ไมโครซอฟท์ออกแคมเปญโฆษณาตัวใหม่ของ Bing ชื่อว่า Bing It On โดยอ้างงานวิจัยจากบริษัทอิสระชื่อ Answers Research ที่บอกว่าผู้บริโภคพอใจผลการค้นหาจาก Bing มากกว่ากูเกิลด้วยอัตรา 2:1 ถ้าทดสอบกันแบบ blind test ที่ไม่บอกว่ามาจากค่ายไหน
ไมโครซอฟท์เลยทำหน้าเว็บ Bing It On ขึ้นมา เว็บนี้มีกล่องค้นหาอันเดียว เมื่อกรอกคีย์เวิร์ดแล้วเราจะได้ผลลัพธ์แบบแบ่งหน้าจอโดยไม่ระบุว่ามาจากที่ไหน (แต่เอาจริงๆ ก็พอดูออกนะครับ) แล้วให้เราเลือกว่าชอบผลการค้นหาจากฝั่งไหนกันแน่ 5 รอบ ก่อนจะเฉลยว่าจริงๆ แล้วเราเลือก Bing หรือกูเกิล
Jay Marine ผู้บริหารของ Amazon ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ The Verge ในงานแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูล Kindle รุ่นใหม่ พูดถึงผลิตภัณฑ์ที่ถูกดองมานานอย่าง Kindle DX ว่า "เราคงไม่ทำอะไรกับมันต่อแล้ว" (we are pretty much done with it)
Marine บอกว่าในอนาคตอาจยังผลิต Kindle DX เพิ่มเติมและยังขายผ่านหน้าเว็บต่อไปอีกหน่อย อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ชี้ชัดว่า Kindle DX จะเลิกขายอย่างเป็นทางการเมื่อไรกันแน่
ปัจจุบัน Kindle DX ยังขายในราคาที่ถือว่าสูงมากคือ 379 ดอลลาร์ ในระยะยาวแล้ว เครื่องอ่านอีบุ๊กจอ E Ink ของ Amazon คงไม่มีขนาดใหญ่เท่ากับ Kindle DX อีกแล้ว ถ้าต้องการจอใหญ่หน่อยคงต้องไปเลือก Kindle Fire 8.9" แทน
โนเกียยังไม่บอกว่า Lumia 920 และ Lumia 820 จะวางขายเมื่อไร ล่าสุดเว็บไซต์ The Verge ได้ข้อมูลมาว่าโนเกียกำลังคุยกับ AT&T และตั้งเป้าวางขาย Lumia 920 ในสหรัฐวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ The Verge ยังบอกว่า Windows Phone 8 จะเข้าสถานะ RTM ในสัปดาห์หน้า ซึ่งข้อมูลนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากไมโครซอฟท์ครับ
ก่อนหน้านี้เราเพิ่งมีข่าวลือออกมาอีกสายว่า Lumia จะวางขายในยุโรปช่วงกลางเดือนตุลาคม
ช่วงนี้เราเริ่มเห็นโปรแกรมดังๆ หลายตัวออกรุ่นอัพเดตรอรับ Windows 8 กันบ้างแล้ว (เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าโลกของวินโดวส์ยังกว้างใหญ่มาก) ในฝั่งของซอฟต์แวร์ความปลอดภัยมีข่าวของ AVG 2013 ไปแล้ว ฝั่งบริษัทใหญ่อย่าง Symantec ก็ไม่ช้าไปกว่ากัน
Symantec ประกาศอัพเดตซอฟต์แวร์ตระกูล Norton ของตัวเองทั้ง 3 ระดับคือ Norton Antivirus, Norton Internet Security, Norton 360 ให้ทำงานร่วมกับ Windows 8 ฝั่งเดสก์ท็อปได้เต็มที่ ของใหม่ในรุ่นนี้คือปรับแต่งความเร็วการเปิด-ปิดเครื่อง รองรับจอสัมผัส ระบบตรวจสอบ scam และป้องกันอันตรายจากเครือข่ายสังคมต่างๆ ทั้งหมดวางขายแล้วในราคา 39.99, 79.99, 89.99 ดอลลาร์ตามลำดับ
ยุคสมัยของเน็ตบุ๊กคงใกล้สิ้นสุดลงในเร็วๆ นี้ เมื่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการไอทีไต้หวันมีทีท่าชัดเจนว่า "ไม่เอาแล้ว"
ASUS บิดาแห่งเน็ตบุ๊กให้ข้อมูลว่าหยุดผลิตเน็ตบุ๊กตระกูล Eee PC ล็อตใหม่แล้ว และจะถอนตัวจากตลาดนี้อย่างเป็นทางการเมื่อเคลียร์ของหมดสต๊อก โดยซีอีโอ Jerry Shen ให้ข้อมูลว่าตลาดมีความต้องการลดลงมาก บวกกับเน็ตบุ๊กต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างหนักจากทั้งแท็บเล็ตและโน้ตบุ๊ก บริษัทตั้งเป้าใช้แท็บเล็ตตระกูล Transformer ขนาด 10" มาอุดตลาดนี้แทน
ส่วน Acer ไม่ประกาศตัวชัดเท่า ASUS แต่ก็บอกว่าไม่มีแผนพัฒนาเน็ตบุ๊กรุ่นใหม่อีก ส่งสัญญาณว่าบริษัทก็เตรียมออกจากตลาดเน็ตบุ๊กในเร็ววันนี้ และผู้ผลิตอีกรายคือ MSI ก็ระบุว่าไม่มีแผนวางขายเน็ตบุ๊กรุ่นใหม่เช่นกัน
พวกเราส่วนใหญ่น่าจะรู้ว่าช่วงปีที่ผ่านมา แอปเปิลนั้นเป็นลูกค้ารายใหญ่ของซัมซุงมาโดยตลอด เมื่อปีที่แล้วซัมซุงมียอดสั่งซื้อชิ้นส่วนจากแอปเปิลเป็นมูลค่ากว่า 10 ล้านล้านวอน (ประมาณ 276,000 ล้านบาท) แต่ดูเหมือนว่าปีนี้แอปเปิลจะเริ่มปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานของบริษัทแล้ว โดยจะไม่สั่งชิ้นส่วนหน้าจอและชิปหน่วยความจำจากซัมซุงเป็นหลักเหมือนเมื่อก่อนแต่จะหันไปหา โตชิบา, SK Hynix และ Elpida Memory สำหรับการผลิตชิปหน่วยความจำและจะให้แอลจีผลิตหน้าจอเป็นหลักแทน อย่างไรก็ตาม ซัมซุงจะยังเป็นผู้จัดส่งชิปให้กับแอปเปิลก่อนในช่วงแรกแต่ก็มีแนวโน้มว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ
บริษัทซอฟต์แวร์ความปลอดภัย AVG อัพเดตผลิตภัณฑ์ใหม่ของตัวเองครบทั้งชุด สำหรับ AVG 2013 เวอร์ชันบนพีซีแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย ได้แก่
คดีสิทธิบัตรจาวามูลค่า 6 พันล้านดอลลาร์ของออราเคิลกลายเป็นค่าใช้จ่ายของออราเคิลเองเมื่อมาถึงช่วงเคลียร์ค่าใช้จ่ายในคดี โดยกูเกิลเรียกค่าใช้จ่ายในคดีเป็นเงิน 4.03 ล้านดอลลาร์ แต่ผู้พิพากษาตัดสินให้ออราเคิลจ่ายให้กูเกิล 1.13 ล้านดอลลาร์
ผู้พิพากษา Alsup ให้เหตุผลที่ออราเคิลต้องรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายของกูเกิลว่าออราเคิลตั้งค่าเสียหายเริ่มต้นไว้ไกลจากความเป็นจริงเกินไป แม้จะชนะคดีในส่วนของลิขสิทธิ์ (ซึ่งออราเคิลไม่เรียกค่าเสียหาย) แต่ความเสียหายเหล่านั้นก็ไม่ใช่ความเสียหายที่ออราเคิลเรียกร้องเป็นหลักแต่แรก ทำให้สุดท้ายออราเคิลต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในคดีนี้