เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2551 สายการบินมาเลเซีย (Malaysia Airlines) หรือ MAS ได้เปิดให้บริการใหม่อีกบริการหนึ่ง คือการอนุญาตให้ผู้โดยสารสามารถโทร.ออกและรับการเรียก(รับสาย)จากเครื่องโทรศัพท์ เคลื่อนที่ของผู้โดยสารเองได้แล้วขณะโดยสารเครื่องบินบางเส้นทาง นอกจากนี้ผู้โดยสารยังสามารถส่งและรับข้อความ (text message) และใช้เครื่องแบลคเบอรี (Blackberry-type devices) ในการรับ-ส่งอีเมล์ ได้อีกด้วย
MAS กล่าวว่า สายการบินกำลังร่วมมือกับบริษัท แอโรโมบายล์ (AeroMobile) ซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร เพื่อพัฒนาระบบสื่อสารซึ่งจะทำให้ MAS เป็นสายการบินแห่งแรกในภูมิภาคเอเซียที่สามารถให้บริการโทรศัพท์และสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมบนเครื่องบินแก่ผู้โดยสารโดยใช้เครื่องมือสื่อสารไร้สายของตนเองได้
บริษัท ควอลคอมม์ กำลังเปิดเจรจากับผู้ให้บริการโครงข่ายชั้นนำ รวมทั้งผู้ให้บริการรายใหม่ ของอินเดีย เกี่ยวกับลู่ทางในตลาดโทรคมนาคมของประเทศ ที่ยังมีช่องว่างอีกมากในการเปิดบริการสื่อสารไร้สายยุคที่ 3 (หรือ 3G) และบริการโทรคมนาคมไฮ-เอ็นด์อื่นๆ สำหรับปีหน้า
ควอลคอมม์เป็นผู้ทรงสิทธิความเป็นเจ้าของเทคโนโลยี 3G เป็นส่วนใหญ่ ทั้งแพลตฟอร์ม GSM และ CDMA
เออวิน จาคอบส์ (Irvin Jacobs) ประธานบริษัท ควอลคอมม์ กล่าวว่า “เราคาดว่า อินเดียคงจะได้รับผลกระทบต่อการเฉื่อยลงของตลาดต่างๆ ทั่วโลกพอสมควร แต่เราก็เชื่อว่า แม้จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแต่มั่นใจว่าการเติบโตยังคงเป็นไปได้ดีอย่างต่อเนื่องในอินเดีย”
รัฐมนตรีด้านโทรคมนาคมของอินเดียกล่าวเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2551 ว่า รัฐบาลคาดหมายที่จะจัดเก็บรายได้ประจำปีได้ประมาณ 40 – 50 พันล้านรูปี (ประมาณ 840 ล้านเหรียญ ถึง 1 พันล้านเหรียญ) จากค่าธรรมเนียมการใช้สเป็คตรัมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะเรียกเก็บจากบรรดาผู้ให้บริการสื่อสารไร้สาย
รัฐบาลอินเดียมีแผนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายที่ได้รับใบอนุญาตเพิ่มขึ้นอีก 1% - 2% สำหรับการใช้ airwaves ที่เพิ่มขึ้น และเรียกเก็บครั้งเดียวกรณีมีการใช้สเป็คตรัมเกินกว่า 6.2 MHz
อนึ่ง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ๆทุกราย รวมทั้งรายใหญ่อันดับ 1 ของประเทศคือ บริษัท Bharti Airtel ด้วย
(หมายเหตุ 1 เหรียญ = 47.8 รูปี)
คณะกรรมาธิการสื่อสารแห่งชาติ (FCC) ของสหรัฐอเมริกา อนุญาตให้บริษัท โกลบอลสตาร์ (Globalstar) ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ผ่านดาวเทียมบริษัทหนึ่งในขณะนี้ เปิดให้บริการไวแมกซ์ในสหรัฐอเมริกาได้หลังจากมีการปรับแก้รายละเอียดในใบอนุญาตแล้ว
การอนุญาตให้บริการไวแมกซ์ดังกล่าว มุ่งเน้นที่ชุมชนในชนบทของประเทศกว่า 500 แห่ง ซึ่งปัจจุบันยังมีบริการสื่อสารด้านเสียงและข้อมูลบรอดแบนด์ภาคพื้นดินไม่เพียงพอ
บริษัท สวิสคอม (Swisscom AG) รายงานว่า รายได้สุทธิของบริษัทลดลง 32% ในไตรมาส 3 ปี 2551 โดยส่วนหนึ่งเป็นผลกระทบจากการเปิดตัวของไอโฟน (iPhone) และการเข้าควบรวมกิจการกับบริษัท อิตาเลียน เทเลคอม ฟาสต์เว็บ (Italian Telecom Fastweb SpA)
บริษัทโทรศัพท์ยักษ์ใหญ่ที่สุดของประเทศกล่าวว่า รายได้สุทธิของไตรมาสมีมูลค่า 470 ล้านฟรังก์สวิส ลดลงเมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้วซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 689 ล้านฟรังก์สวิส
ทั้งนี้ กำไรก่อนภาษีของไตรมาสตกลง 3.6% หรือราว 1.188 พันล้านฟรังก์ จากเดิม 1.233 พันล้านฟรังก์ เนื่องจากต้องจ่ายเงินอุดหนุนและค่าคอมมิชชั่นให้กับยอดขายเครื่องไอโฟนกว่า 1 แสนเครื่อง
บริษัท ฟิลิปปินส์ ลองก์ ดิสแทนซ์ เทเลโฟน จำกัด (Philippines Long Distance Telephone) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทโทรคมนาคมใหญ่ที่สุดของประเทศฟิลิปปินส์รายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า รายได้สุทธิในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ตกลง 2% จากปีที่แล้วในระยะเดียวกันเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเปโซที่อ่อนค่าลง
เงินเปโซ (peso) ของฟิลิปปินส์อ่อนค่าลงกว่า 17.7% ตั้งแต่ต้นปีนี้แล้ว โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนต่อเหรียญสหรัฐอยู่ที่ 48.49 เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน 2551
PLDT กล่าวเพิ่มเติมว่า กำไรสุทธิในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายน ลดลงเหลือเพียง 26.2 พันล้านเปโซ (ราว 541 เหรียญสหรัฐ)
มีแรงกดดันเกิดขึ้นกับบริการไวแมกซ์ในไต้หวันพอสมควร เมื่อปรากฏว่าบริษัท จงหวา เทเลคอม (Chunghwa Telecom) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายเดิมและรายใหญ่ของไต้หวัน ซึ่งเคยพลาดจากการได้รับใบอนุญาตให้บริการไวแมกซ์จำนวน 6 รายเมื่อปี 2550 นั้น สามารถหวนกลับสู่วงการไวแมกซ์ในไต้หวันอีกครั้งเมื่อบริษัทได้รับไฟเขียวให้ลงทุนในบริษัท โกลบอล โมบายล์ (Global Mobile) ซึ่งเป็นบริษัทหนึ่งที่ได้รับใบอนุญาตไวแมกซ์
คณะกรรมการกิจการสื่อสารแห่งชาติ (NCC) ของประเทศได้เคยห้ามมิให้จงหวา ลงทุนในบริษัท โกลบอล โมบายล์ เนื่องจากจงหวามิได้กล่าวถึงเรื่องนี้ในครั้งที่บริษัท โกลบอล โมบายล์ ยื่นขอใบอนุญาตไวแมกซ์ ต่อมาคณะกรรมการฯจึงกลับมติใหม่ในครั้งนี้
คณะกรรมาธิการมัลติมีเดียและการสื่อสารแห่งชาติมาเลเซีย หรือ MCMC (The Malaysian Communications and Multimedia Commission) ได้ออกมาประกาศว่า อาจจะมีบทลงโทษแก่บรรดาผู้ได้รับใบอนุญาตไวแมกซ์ หากไม่สามารถเปิดให้บริการได้ครอบคลุมประชากรอย่างน้อย 25% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในปีนี้
อย่างไรก็ดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า บทลงโทษอาจจะเป็นการปรับหรือเรียกคืนใบอนุญาต ทั้งนี้เป็นความต้องการของหน่วยงานกำกับดูแลฯ ที่ไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้าในการให้บริการไวแมกซ์ของประเทศ
บริษัท ABI Research คาดการณ์ว่าปี 2552 คงจะได้เห็นการเกิดของ ชิพเซ็ท dual-mode WiMAX/LTE แน่นอน ซึ่งเป็นความต้องการจากบรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารไร้สายเพื่อเตรียมพัฒนาอุปกรณ์สนับสนุนมาตรฐานสื่อสารไร้สายยุคที่ 4 (หรือ 4G) ทั้งสองมาตรฐาน
รายงานระบุด้วยว่า ผู้ให้บริการสื่อสารไร้สายบางรายได้ให้ความสนใจการเกิดของชิพเซ็ทด้วยเช่นกัน เช่น บริษัท โวดาโฟน ยักษ์ใหญ่โทรศัพท์เคลื่อนที่รายหนึ่งซึ่งเตรียมเปิดให้บริการด้วยมาตรฐานและเทคโนโลยีทั้ง WiMAX และ LTE โดยใช้ LTE ในการพัฒนาอุตสาหกรรม ในขณะที่จะใช้ WiMAX กับการพัฒนาประเทศ สำหรับญี่ปุ่น บริษัท KDDI อาจเปิดให้บริการ LTE ด้วยตนเอง แต่มิได้ทิ้ง WiMAX เนื่องจากบริษัทให้ความสนใจกับมาตรฐานทั้งสองพร้อมๆกัน
หลังจากที่แอปเปิลไม่ได้เห็นหัวคนไทยมานานแสนนาน ตั้งแต่การไม่สนับสนุนภาษาไทยบน iPod จนไปถึงการบริการและสนับสนุนลูกค้าภายในประเทศที่แทบจะหาไม่ได้เลย มีแต่เพียงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตภายใต้เครือข่าย Apple Premium Reseller ที่ผูกขาดตลาดในเมืองไทยมาตลอด บัดนี้ คนไทยมีทางเลือกเพิ่มแล้วครับ ... Apple Official Online Store in Thailand
วันที่ 11 พฤษจิกายน 2551 SpringSource บริษัทที่อยู่เบื่องหลัง Spring ประกาศว่าได้ทำการซื้อกิจการของบริษัท G2One บริษัทที่อยู่เบื่องหลัง Groovy และ Grails เทคโนโลยี การซื้อกิจการในครั้งนี้จะทำให้ SpringSource ขยายฐานอำนาจออกไปอีก
การควบรวมในครั้งนี้มีการคาดการว่าจะทำให้ Spring, Groovy และ Grails จะกลายเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นบน JVM เนื่องจากถ้าเรามองจากสถิติแล้ว Groovy เป็นภาษาสคริปบน JVM ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดโดยตัวมันเองถูกดาว์นโหลดมากกว่า 30,000 ครั้งต่อเดือน ทางด้านสถิติของ Grails นั้นเพิ่มจาก 7,000 เป็น 70,000 ต่อเดือน สุดท้าย Spring นั้นเป็นที่ยอมรับกันอย่างไม่เป็นทางการอยู่แล้วว่าเป็นเฟรมเวิร์คทางเลือกที่ได้รับความนิยมที่สุด ในหมู่นักพัฒนาภาษาจาวา
ช่วงนี้กระแส Android มาแรง (ทั้งด้านบวกและด้านลบ) วันนี้ ABC News ได้สัมภาษณ์ Jay Sullivan เกี่ยวกับ Fennec หรือ Firefox ในรูปแบบ Mobile (คุณ lew เคยพรีวิวไว้ด้วยครับ)
เขาออกมาบอกว่าสำหรับ Android แล้ว Fennec ยังไม่สามารถลงได้ในขณะนี้เนื่องจากติดข้อบังคับของ Android Marketplace ที่จะรับเฉพาะโปรแกรมที่เขียนด้วยจาวาเท่านั้น (ในขณะที่ Fennec รันบนตัวระบบปฏิบัติการโดยตรง) เขาก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่ากูเกิลจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้
กูเกิลก็มีเบราเซอร์ที่อิงกับ WebKit แล้วนี่ครับ อาจจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ? สงสัย Mozilla ต้องปรับโค้ดเป็นจาวาซะแล้วมั้ง?
แอปเปิลขาย iPod แล้วหันมาทำ iPhone แล้วทำไม iriver จะทำแบบเดียวกันไม่ได้
iriver บริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นเพลงพกพาจากเกาหลี ได้เปิดตัว iriver wave (ต้นฉบับสะกดด้วยตัวพิมพ์เล็กทั้งหมด) โทรศัพท์มือถือจอสัมผัสตัวแรกจากค่ายนี้ ซึ่งทางบริษัทใช้สโลแกนในการทำตลาดว่าเป็น Internet Phone สเปกมีดังนี้
เมื่ออดีตอันไม่ไกลนัก Dell เคยขายเครื่องเล่นเพลงพกพาใต้แบรนด์ Digital Jukebox (หรือ DJ) ก่อนจะเลิกผลิตไปในปี 2006 แต่พอมาถึงปี 2007 Dell กลับเข้าซื้อกิจการบริษัท Zing ซึ่งทำเกี่ยวกับซอฟต์แวร์การขายเพลงออนไลน์ ทำให้ข่าวลือว่า Dell จะกลับสู่ยุทธจักรด้วยเครื่องเล่นเพลงตัวใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีของ Zing กระหึ่มอยู่พักหนึ่ง
ถ้าใครคิดว่าเทคโนโลยี Virtualization นั้นมีไว้สำหรับเซิร์ฟเวอร์เพื่อแบ่งเครื่องแรงๆ ใช้กัน หรือใช้กับเดสก์ทอปเพื่อรันหลายๆ ระบบปฏิบัติการพร้อมๆ กันเท่านั้น ความเชื่อนี้กำลังกลายเป็นความเชื่อที่ไม่จริงอีกต่อไปเมื่อ VMWare แสดงท่าที่อย่างชัดเจนว่าสนใจในเทคโนโลยี Virtualization บนโทรศัพท์
โน้ตบุ๊กแบรนด์ Qosmio ของโตชิบานั้นถือเป็นรุ่นท็อปที่อัดฟีเจอร์แรงๆ สู้ตลาดเสมอ (ดูข่าวเก่าในหมวด Qosmio) ล่าสุดโตชิบาเปิดตัวโน้ตบุ๊ก Qosmio สองตัวในชื่อรุ่น X305 ซึ่งไม่ธรรมดาตรงที่มันมีการ์ดจอจาก NVIDIA ถึง 3 ตัว
Qosmio X305 ประกอบด้วยการ์ดจอออนบอร์ด 9400M หนึ่งตัวและ GeForce 9800M GTS อีกสองตัว ทั้งสามตัวต่อกันแบบ SLI แน่นอนว่าเพื่อเอาไว้เล่นเกม แต่ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะปิดการ์ดจอแยก 2 ตัวเพื่อประหยัดแบตเตอรี และใช้เพียง 9400M ตัวเดียวได้
ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับ HP แถม Live Search และ Silverlight ลงในคอมพิวเตอร์ของ HP ไปแล้ว (เริ่มต้นปี 2009 - ข่าวเก่า) รอบนี้ไมโครซอฟท์จับมืออดีตคู่กัดอย่างซัน แถม MSN Toolbar และ Live Search ไปกับ Java Runtime Environment
สำหรับผู้ที่ดาวน์โหลด JRE ใหม่ด้วย IE ในขั้นตอนติดตั้งจะมีคำถามว่าต้องการติดตั้ง MSN Toolbar และตั้งค่า Live Search เป็น default search engine หรือไม่ ส่วนคนที่มี JRE ติดตั้งอยู่แล้ว เมื่อ JRE มีการอัพเดตจะเห็นตัวเลือกแบบเดียวกัน ทั้งหมดนี่ไม่มีการติดตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ใช้แต่อย่างใด
หลังจากพบบั๊กที่ว่า ทุกอย่างที่พิมพ์จากคีย์บอร์ดของ T-Mobile G1 จะถูกใช้เป็นคำสั่งในฐานะ root ของ Android ไปพร้อมๆ กัน เหล่าแฮกเกอร์ก็ไม่ปล่อยโอกาสทองนี้ให้ลอยนวล
เริ่มจากการลง Debian ARMEL ลงในโทรศัพท์ทำให้เราสามารถใช้งานได้เท่าเทียมกับพีซีที่ลงลินุกซ์แทบทุกอย่าง ที่ชัดๆ คือ OpenSSH คล้ายกับใน iPod Touch
ตามมาด้วยการคอมไพล์ Android รุ่น RC30 ใหม่ทั้งชุด เพื่อให้ซอฟต์แวร์ได้รับการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ไป แต่ยังคงสิทธิในการเข้าถึง root accesss ได้เหมือนเดิม พร้อมกับเพิ่มความสามารถในการปฎิเสธแพตซ์ใหม่ๆ จากทางกูเกิลได้
ส่วนตัวผม ผมว่ารอ OpenMoko Android ดีกว่าแฮะ
แม้จะยังไม่มีคำยืนยันว่านี่คือการ์ดจอที่แรงที่สุดในโลก แต่ NVIDIA Quadro FX 5800 ก็อัดทุกอย่างเท่าที่เราจะนึกออกเอาไว้ในการ์ดใบเดียว รวมถึงหน่วยความจำขนาด 4 กิกะไบต์ พลังประมวลผลขนานที่ใช้งานผ่าน CUDA ได้ถึง 240 คอร์ และเผื่อว่านี่ยังไม่แรงพอ การ์ดใบนี้รองรับ SLI อีกต่างหาก
ตัวการ์ดอย่างเดียวกินไฟ 189 วัตต์ และกินเงิน 3,499 ดอลลาร์ (ประมาณใบละแสน)
ซื้อการ์ดจอแล้วต้องมาหาเครื่องให้สมศักดิ์ศรีกับมันอีก
ที่มา - ArsTechnica
มีข่าวดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลในประเทศไทย เนื่องจากว่าตอนนี้ทางแอปเปิลได้ทำการเปิดตัว Apple Online Store สำหรับประเทศไทยแล้ว โดยสามารถเข้าไปชมได้ที่ http://store.apple.com/th/
ภายในร้านค้าจะมีสินค้าต่างๆ ของแอปเปิลมาวางขายเช่นเดียวกับ Apple Online Store ในหลายๆ ประเทศ โดยที่ราคานั้นจะเท่ากับราคาที่วางขายอยู่ในร้าน iStudio ในประเทศไทย แต่ว่าข้อมูลทั้งหมดของหน้านั้นยังเป็นภาษาอังกฤษอยู่ ซึ่งคาดว่าทางทีมงานของแอปเปิลประเทศไทยจะทำการปรับเปลี่ยนข้อมูลเป็นภาษาไทยหลังจากนี้
C|net ได้ออกมาเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเจ็ดอย่างเกี่ยวกับ "เจ็ด" ระบบปฏิบัติการใหม่จากไมโครซอฟท์ โดยสิ่งที่ตัววินโดวส์ได้เพิ่มเติมเข้ามาที่ C|net ได้นำมาเปิดเผยในครั้งนี้ได้แก่:
บริษัท Lineo ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ทำให้สามารถทำการให้สามารถใช้งาน Embedded Linux ได้ภายใน 2.97 วินาที โดยให้ชื่อเทคโนโลยีนี้ว่า Warp 2
Warp 2 ซึ่งมีหลักการทำงานคล้ายๆกับ "suspend-to-disk" แต่ทำงานได้เร็วกว่า ซึ่ง Warp 2 ประกอบด้วย bootloader, linux kernel และ "hibernation driver" หลักการทำงานคือเมื่อต้องการปิดเครื่อง ระบบจะทำการจดจำค่าใน RAM ณ เวลานั้น (snapshot) ให้อยู่ในรูปแบบไฟล์ RAM image แล้วทำการเก็บไฟล์ RAM images ไว้ในแฟลช โดยอาจจะเลือกให้มีการบีบอัดข้อมูลด้วย เมื่อเวลาทำการเปิดเครื่อง ก็นำข้อมูลในแฟลชคลายออกแล้วย้ายข้อมูลไปสู่ RAM แล้วก็สามารถใช้งานต่อจากครั้งที่แล้วได้
ปัญหายังไม่จบสำหรับแอปเปิล หลังจากที่นาย Tony Fadell ได้ลาออกจากแอปเปิลเพื่อจะได้มีเวลาดูแลครอบครัวได้มากขึ้น โดยตำแหน่งนี้ถูกนาย Mark Papermaster อดีตบุคคลสำคัญจาก IBM มาทำงานแทน
Papermaster นั้นได้มีทำการเซ็นสัญญากับ IBM ก่อนหน้านี้ว่าจะไม่ทำงานกับบริษัทคู่แข่งหลังจากการออกจาก IBM เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม โดยศาลเขตชั้นต้นนั้นได้มีคำสั่งคุ้มครอง IBM ไม่ให้นาย Papermaster ทำงานกับแอปเปิล (และบริษัทคู่แข่งอื่น ๆ) เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นการละเมิดข้อตกลงในสัญญา
หลังจากที่มีข่าวว่าโทรศัพท์ T-Mobile G1 ซึ่งเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกของโลกที่ติดตั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ของกูเกิลถูกมือดีปลดล็อกได้ รวมถึงมีการทำ Jailbreak เพื่อจุดประสงค์บางประการ (คล้ายๆ ไอโฟนของแอปเปิล)
บัดนี้กูเกิลได้ออกตัวปรับปรุงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่น RC30 ซึ่งมีการระบุไว้ว่าออกมาเพื่อแก้ปัญหา Jailbreak โดยเฉพาะและกำลังทำงานร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อผลักดันการแก้ไขนี้เข้าไปสู่ซอสโค้ดหลักของแอนดรอยด์
ทางกูเกิลเชื่อว่าจะผลักดันตัวปรับปรุงนี้เข้าสู่เครื่องของผู้ใช้งานได้ภายใน 3 ถึง 4 วันนี้
ว้า ไหนว่ามันเปิดเผยไง? ทำไมทำอย่างนี้ล่ะ พี่น้อง!
ในงานสัมมนานักพัฒนาที่ซิดนีย์ Steve Ballmer (CEO ของ Microsoft) ถูกนักเรียนคนนึงถามไว้ว่า
คุ้มหรือเปล่าที่ลงทุนพัฒนา Engine ของ IE ทั้งๆ ที่มี Engine แบบ Open source ให้เลือกใช้มากมายที่จะตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของมาตราฐานได้เร็วกว่า
Ballmer ก็ตอบไปครับว่าใน IE มีส่วนขยายของตัวเองมากมาย แต่ WebKit ของ Apple ก็น่าสนใจเหมือนกัน
ไม่แน่นะครับ เดี๋ยวซักพัก Mozilla จะไปทำ xulrunner บน WebKit บ้างไหมครับเนี่ย
ที่มา: AppleInsider