ถัดจากข่าว BlackBerry Bold รุ่นใหม่รหัส "Dakota" ก็มีข่าวของ BlackBerry รุ่นอื่นๆ ตามมาทันที
BlackBerry Torch 2 จะแก้ความผิดพลาดอย่างสูงของ Torch 1 ในเรื่อง "สเปกไม่แรงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง" โดยเพิ่มความเร็วซีพียูเป็น 1.2GHz, หน้าจอ 3.2" 640x480, กล้อง 5MP พร้อมแฟลช, RAM 512MB, หน่วยความจำภายใน 8GB, เซ็นเซอร์สารพัดรวมถึง NFC เหมือนกับ Dakota และระบบปฏิบัติการ BlackBerry OS 6.1, หน้าตาเกือบเหมือนเดิมทุกประการ - BGR
หนึ่งปีมีครั้งเดียวกับ Apple Online Store Red Friday โดยแอปเปิลจัดลดราคาสินค้าแทบทุกรายการ ยกเว้นเพียง iPhone ที่ต้องซื้อกับผู้ให้บริการทั้งสามรายตามปกติ
รายการที่น่าสนใจมีดังนี้
สำหรับการลดราคาครั้งนี้จะลดเฉพาะเมื่อซื้อผ่าน Online Store เท่านั้น ร้านตัวแทนจำหน้ายอย่าง iStudio ไม่ได้เข้าร่วมโปรแกรมนี้ และสินค้าทั้งหมดจะลดราคาจนถึงเที่ยงคืนของวันศุกร์ที่ 14 มกราคม นี้เท่านั้น
เว็บไซต์ Boy Genius Report เผยภาพและข้อมูลของ BlackBerry รุ่นใหม่ซึ่งมีรหัสว่า "Dakota" และใช้รูปทรงแบบเดียวกับตระกูล Bold
Dakota ใช้จอสัมผัสขนาด 2.8" ความละเอียด 640x480, RAM 768MB, เนื้อที่เก็บข้อมูล 4GB, กล้อง 5MP พร้อมแฟลชและ image stabilizer, ถ่ายวิดีโอ HD ได้ (ไม่ระบุความละเอียด)
ส่วนของเซ็นเซอร์ก็ขนกันมาเพียบ ทั้ง accelerometer, proximity sensor, magnetometer และรองรับ NFC ระบบปฏิบัติการใช้ BlackBerry OS 6.1 และทำตัวเป็น mobile hotspot ได้ ภาพดูกันเองตามลิงก์ครับ
ที่มา - BGR
บริษัทผลิตทีวีแต่ละค่ายต่างก็มียุทธศาสตร์ที่แตกต่างกันออกไป โซนี่ประกาศตัวชัดว่าสนับสนุน Google TV ส่วน LG ก็ชัดเจนว่าจะสร้างแพลตฟอร์ม SmartTV ของตัวเอง
ยักษ์อีกรายที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือซัมซุง ซึ่งในงาน CES 2011 ซัมซุงก็ประกาศยุทธศาสตร์ด้านทีวีของตัวเองชัดเจนดังนี้
ที่งาน CES 2011 ซัมซุงได้เปิดตัวมือถือสำหรับเครือข่ายของสหรัฐ 2 เครื่อง คือ Infuse 4G สำหรับค่าย AT&T (ข่าว Engadget) และมือถือ 4G ที่ยังไม่มีชื่อสำหรับเครือข่าย Verizon (ข่าว Engadget)
มือถือทั้งสองเครื่องใช้จอภาพตัวใหม่ Super AMOLED Plus ที่เพิ่ม contrast และช่วยให้อ่านกลางแจ้งได้ดีขึ้น รุ่น Infuse จอใหญ่ถึง 4.5" ส่วนรุ่นของ Verizon มีขนาด 4.3" อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข่าวของมือถือรุ่นหน้าสำหรับประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐ
ที่งาน CES 2011 ซัมซุงเปิดตัวตู้เย็น 2 รุ่นคือ Samsung RSG309 และ RF4289 ซึ่งเป็นตู้เย็นสองรุ่นแรกของโลกที่มีจอแอลซีดีขนาด 8" และ Wi-Fi ในตัว
แน่นอนว่าในยุคสมัยแห่งแอพแบบนี้ ตู้เย็นย่อมรันแอพสำหรับงานในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นการสูตรอาหาร, เช็คสภาพอากาศ, เขียนโน้ตบอกลูกๆ, อ่านข่าว, ดูตารางนัดหมายของครอบครัว ฯลฯ
ภาพอย่างเป็นทางการของซัมซุงไม่ค่อยชัด หน้าจอแบบชัดๆ ดูได้จาก Engadget ถ้าสังเกตไอคอนแล้วจะเห็นว่ามันเป็นชุดเดียวกับ Samsung Apps ที่รันได้บนอุปกรณ์เกือบทุกอย่างของซัมซุงครับ
กูเกิลออก Google Translate รุ่นใหม่บน Android ของใหม่ในรุ่นนี้ได้แก่ ปรับโฉมหน้าตาของโปรแกรม, รองรับ 53 ภาษา, ถ้าใช้งานด้วยเสียงรองรับ 15 ภาษา
แต่ของเด็ดอยู่ที่ฟีเจอร์ Conversation Mode ซึ่งเป็นการแปลเสียงสนทนาสดๆ ระหว่าง 2 ภาษากลับไปกลับมา (สถานการณ์ที่ใช้คือเจอชาวต่างชาติ แล้วต่างคนต่างพูดในภาษาของตัวเอง โดยมี Google Translate ช่วยแปลให้) กูเกิลเคยโชว์ฟีเจอร์นี้เมื่อเดือนกันยายน 2010 ตอนนี้มันเปิดให้ใช้จริงแล้วใน 2 ภาษาคืออังกฤษกับสเปน
ใครนึกภาพไม่ออกหรืออยากรู้ว่ามันเป็นอย่างไร ดูวิดีโอเดโมประกอบแล้วจะตื่นเต้นครับ
หลังจากเพิ่มฟีเจอร์ Places ลงใน Google Maps for Android เมื่อไม่กี่เดือนก่อน กูเกิลก็ออก Google Places รุ่น iPhone ตามมาแล้ว
Google Places เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้หาสถานที่ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม ร้านกาแฟ ฯลฯ ที่อยู่ใกล้ตัว ซึ่งเชื่อมกับฐานข้อมูลสถานที่บน Google Local Business Center ของพีซี นอกจากนี้กูเกิลยังได้เพิ่มฟีเจอร์ Hotpot สำหรับการแชร์ข้อมูลสถานที่ระหว่างเพื่อนๆ ด้วย เรียกง่ายๆ ว่ามันเป็น Foursquare หรือ Yelp เวอร์ชันของกูเกิลก็ได้
กูเกิลอาจมาช้าในเกม location-based service ถ้าเทียบกับคู่แข่งอื่นๆ แต่ด้วยกำลังความสามารถของกูเกิล คู่แข่งก็คงประมาทไม่ได้อยู่ดี
กูเกิลซื้อบริษัทอีกแล้ว รอบนี้เป็นบริษัท eBook Technologies (ETI) ซึ่งโฆษกของกูเกิลบอกว่าซื้อมาเพื่อเสริมทัพด้านการอ่านบนแท็บเล็ต เครื่องอ่านอีบุ๊ก และอุปกรณ์พกพาอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากกว่านี้
บริษัท ETI มีคนรู้จักน้อยมาก แต่เว็บไซต์ TechCrunch ก็ขุดประวัติของ ETI ว่ามีผลิตภัณฑ์ด้านอีบุ๊กหลายอย่าง ตั้งแต่เครื่องอ่าน ซอฟต์แวร์ ไปจนถึงระบบการจัดจำหน่าย (distribution) คาดว่าสิ่งที่กูเกิลต้องการจะเป็นอย่างสุดท้าย
ที่มา - TechCrunch
ข่าวลือสั้นๆ ต่อจาก iOS 4.3 สำหรับนักพัฒนา และ iPad รุ่นถัดไปจะไม่มีปุ่ม Home ก็มีคนขุดไปเจอฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างที่เรียกว่า "Find My Friends" คาดว่าจะเป็นบริการ location-based เพื่อค้นหาเพื่อนที่อยู่ใกล้คล้ายกับ Google Latitude และ Loopt โดยเชื่อมต่อกับบริการ MobileMe
จากที่มาอ้างถึงอีเมลของสตีฟ จ็อบส์ที่พูดถึงบริการ MobileMe ว่า "a lot better in 2011" หลังจากปล่อยให้เจ้าอื่นมีบริการคล้ายกันนี้ไป Apple จะมีตามบ้างก็คงไม่แปลก
ที่มา: macrumors
หลังจากปล่อย iOS 4.3 สำหรับนักพัฒนาออกมา ทาง BGR ก็รายงานต่อเนื่องว่ามีข้อมูลมาว่า iPad รุ่นถัดไปจะไม่มีปุ่ม Home อีกแล้วโดยผู้ใช้งานจะใช้วิธีการสัมผัสแบบ Gesture พร้อมกัน 4-5 นิ้วเพื่อกลับไปสู่หน้า Home (คาดเดาว่าให้ใช้วิธีขยุ้มนิ้วเข้าหาตรงกลาง) โดยรายงานยังเพิ่มเติมอีกว่าตอนนี้การทดสอบการใช้งานแบบไร้ปุ่ม Home นี้มีทั้งทดสอบบน iPad และ iPhone ที่สำนักงานของแอปเปิล
ศึก codec ระหว่างค่าย WebM กับ H.264 กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จุดอ่อนสำคัญอย่างหนึ่งของฝ่าย WebM คือฮาร์ดแวร์จำนวนมากไม่ได้ปรับแต่งมาเพื่อ WebM ทำให้ประสิทธิภาพอาจจะแย่กว่า H.264 ที่ซีพียูหลายรุ่นสามารถเร่งความเร็วในการประมวลผลได้
แต่วันนี้ช่วงห่างอาจเริ่มแคบลง เพราะทีมงาน On2 เดิม (กูเกิลซื้อกิจการมา) ประกาศว่าพัฒนาสเปก (และพิมพ์เขียว) สำหรับทำ hardware decoder ของ VP8 เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์สามารถติดต่อไปยังกูเกิลเพื่อนำไปใช้ในฮาร์ดแวร์ของตัวเองได้เลย
ทีม On2 คาดว่าชิปจริงๆ จะเริ่มขายในไตรมาสแรกของปีนี้ และในงาน CES 2011 ก็มีบริษัทจีน Rockchip เริ่มโชว์ชิปต้นแบบแล้ว
Johannes Caspar หนึ่งในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลของเยอรมนี (Düsseldorfer Kreis) ให้สัมภาษณ์ว่าทางคณะกรรมการได้ข้อสรุปว่า Google Analytics ละเมิดกฎหมายด้านข้อมูลส่วนบุคคลของเยอรมนี โดยเก็บข้อมูลหมายเลขไอพีของผู้ใช้ แล้วส่งกลับไปประมวลผลที่สหรัฐอเมริกา
คณะกรรมการเปิดเผยว่าได้เจรจากับกูเกิลมาตั้งแต่เดือน พ.ย. 2009 โดยกูเกิลยอมเปลี่ยนมาเก็บไอพีแบบย่อ (เพื่อไม่ให้ระบุตัวบุคคลได้) และจะพัฒนาโมดูลสำหรับเบราว์เซอร์ต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้เลือกปิด Google Analytics ด้วยตัวเอง (opt-out)
งาน BlackHat DC 2011 กำลังจะเริ่มขึ้นในวันศุกร์นี้ หัวข้อหนึ่งที่อยู่ในรายการอาจจะสร้างความปวดหัวให้กับผู้ดูแลระบบทั่วโลกได้ในเร็ว เมื่อนักวิจัยด้านความปลอดภัยกำลังนำเสนอช่องโหว่ในการยืนยันบุคคล (authentication)
Mariano Nuñez Di Croce จากบริษัท Onapsys ซึ่งเป็นนักวิจัยที่จะนำเสนอช่องโหว่นี้ระบุว่า ช่องโหว่ของระบบเว็บของ SAP ที่เขาพบนั้นเกิดจากการระบบยืนยันตัวบุคคลแบบใช้การยืนยันสองชุด (two-factor authentication) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบได้เป็นอย่างดี แต่หากหน่วยงานใดอิมพลีเมนต์ระบบนี้โดยไม่ได้ทำตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยของ SAP ให้ดีก็จะทำให้เกิดช่องโหว่จนผู้โจมตีสามารถผ่านระบบยืนยันบุคคลนี้ไปได้
มีข่าวผลิตภัณฑ์หลายๆ ตัวในงาน CES 2011 ที่ผมไม่ได้เขียนเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ยังคิดว่ามันน่าสนใจสำหรับ Blognone ดังนั้นจะทยอยนำมาเขียนในหมวด [เก็บตก CES] แทนนะครับ
เริ่มจากข่าวแรก เว็บไซต์ Engadget ซึ่งเกาะติดงาน CES 2011 อย่างละเอียด ได้สรุปและมอบรางวัลให้กับผลิตภัณฑ์เด่นที่เปิดตัวในงาน CES ครั้งนี้ แยกเป็นหมวดต่างๆ และมอบรางวัลให้หมวดละ 3 อันดับ (ชนะเลิศ 1, รอง 2) ผมคัดมาเฉพาะรางวัลชนะเลิศในแต่ละหมวด
Anthony Laforge ผู้จัดการคนหนึ่งของโครงการ Chromium ทำสไลด์อธิบายเหตุผลการตัดสินใจของกูเกิล ที่เปลี่ยนวิธีการออกรุ่นของ Chrome จากตามฟีเจอร์มาเป็นตามระยะเวลาทุก 6 สัปดาห์
สไลด์ของเขาบอกว่าการออกรุ่นแบบเดิมจะเกิดคอขวดของแพตช์ ทำให้ทีมงานเครียด และคาดการณ์ระยะเวลาที่ออกรุ่นไม่ได้ การเปลี่ยนมาออกรุ่นตามระยะเวลา ทำให้จำนวนแพตช์ที่ต้องดูแลลดลง ทีมทำงานสบายขึ้น และจำกัดกรอบการทำงานได้ง่าย
เขายังเล่าว่าเสนอไอเดียนี้กับทีม Chrome และผู้บริหารของกูเกิลได้อย่างไร แต่ก็ยอมรับว่าการออกรุ่นตามเวลาก็มีข้อเสียในมุมกลับเช่นกัน เช่น ทำให้ทีมทำงานเฉื่อยลง เป็นต้น
จากข่าวใหญ่สะเทือนวงการเว็บวันก่อน Chrome ยกเลิกการรองรับ H.264 แล้ว ฝั่งไมโครซอฟท์ออกมาตอบโต้แล้วครับ
พนักงานของไมโครซอฟท์ชื่อ Tim Sneath ได้เขียนบล็อกบน MSDN ตอบโต้กูเกิลอย่างเจ็บแสบ โดยใช้ชื่อบล็อกว่า "จดหมายเปิดผนึกจากประธานาธิบดีแห่งสหรัฐกูเกิล" เขาเทียบสถานการณ์ของ WebM ว่าเหมือนกับภาษา Esperanto ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อเป็นภาษากลางของโลก แต่สุดท้ายแล้วไม่มีใครใช้
แต่เดิมนั้น YouTube บนมือถือจะไม่สามารถดูมิวสิควิดีโอ (อย่างเป็นทางการ) ของนักร้องค่ายใหญ่ทั้งสี่คือ Universal Music Group, Sony BMG, Universal, EMI ได้ เพราะทั้งสี่ค่ายร่วมกันกำหนดสิทธิ์ผ่านแบรนด์ VEVO บน YouTube นั่นเอง
สถานการณ์ล่าสุดตอนนี้ กูเกิลสามารถเจรจากับค่ายเพลงทั้งหลายได้แล้ว ทำให้ VEVO เปิดให้เราใช้มือถือดูมิวสิควิดีโอของตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังทำได้เฉพาะ YouTube รุ่น Android เท่านั้น
ผมลองดูแล้วพบว่า ประเทศไทยดูได้เป็นบางเพลงครับ เพลงที่ดูไม่ได้จะบอกว่า Not available in your country ตามมาตรฐาน
ที่มา - Wired
Damon Sicore หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ Mozilla ประเมินว่า Firefox 4 ที่เลื่อนมาหลายรอบ จะออกตัวจริงได้ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้
ตอนนี้ Firefox 4 มีบั๊กระดับ blocker อยู่ราวๆ 160 ตัว ซึ่งจะต้องแก้ให้หมดเพื่อเข้าสู่สถานะ Release Candidate และทาง Mozilla คาดว่าจะออกรุ่น RC ได้ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
Sicore บอกว่าเราน่าจะได้เห็น Firefox 4 Beta 9 กันก่อน RC และตอนนี้กำลังต้องการคนช่วยทดสอบฟีเจอร์ hardware acceleration เป็นอย่างมาก
ที่มา - The Register
หลังจากที่แอปเปิลประกาศเลิกทำ Java for Mac ของตัวเองไปเมื่อปีก่อน และหันมาสนับสนุนโครงการ OpenJDK ของออราเคิลแทน ล่าสุด OpenJDK ได้ออกโค้ดชุดแรกของ Java 7 for Mac แล้ว
โค้ดชุดนี้เป็นรุ่นแรกสุดจริงๆ ยังมีงานที่ต้องทำอีกมาก ติดตามสถานะได้จาก Mac OS X Port Project Status
ที่มา - The Register
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แอปเปิลได้ปล่อย iOS 4.3 รุ่นเบต้าให้กับนักพัฒนาแล้ว
โดยในเวอร์ชั่นนี้ แอปเปิลได้เพิ่มการใช้งานมัลติทัชใหม่ ๆ สำหรับ iPad เช่นการใช้งาน Gesture แบบ 4-5 นิ้วพร้อม ๆ กัน เช่นการใช้หลาย ๆ นิ้วปัดขึ้นบนหน้าจอเพื่อเรียก Multitask Tray ขึ้นมา หรือการใช้สี่นิ้วปัดไปทางซ้ายขวาเพื่อสลับไปใช้ App ก่อนหน้าหรือถัดไปที่กำลังรันอยู่
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความสามารถให้กับ AirPlay โดย App อื่น ๆ ที่ไม่ใช่ของแอปเปิลที่สามารถเล่นไฟล์วีดีโอได้จะสามารถใช้งาน AirPlay ได้แล้ว มีฟังก์ชั่น Personal Hotspot เพิ่มตามคาด และอาจมีการเปลี่ยนแปลงไอคอนของ FaceTime บนหน้า Home Screen อีกด้วย
น่าเสียดาย ที่ผู้ใช้ iPhone 3G และ iPod touch 2G จะไม่สามารถติดตั้ง iOS 4.3 ได้
นักพัฒนาคนหนึ่งชื่อ Steven Troughton-Smith สามารถนำระบบปฏิบัติการ MeeGo และ Ubuntu ไปรันบน Nexus S ได้แล้ว
ตอนนี้ทั้ง MeeGo และ Ubuntu ยังรันได้ไม่สมบูรณ์นัก มีปัญหาเรื่องไดรเวอร์ของทัชสกรีน, ความสว่างของจอ Super AMOLED, Wi-Fi ฯลฯ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดีว่าสามารถนำระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่ Android ไปรันบน Nexus S ได้แล้ว
กระบวนการติดตั้งยุ่งยากพอสมควร อ่านรายละเอียดกันเองตามลิงก์ครับ
ที่มา - High Caffeine Content, xda-developers
ที่งาน CES 2011 เว็บไซต์ Engadget ได้สัมภาษณ์ Matias Duarte ซึ่งปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่าย user experience ของ Android
บทสัมภาษณ์นี้ยาว 25 นาที อาจจะยาวไปนิดแต่ผมแนะนำให้ดูเป็นอย่างมาก ตัวคุณ Matias เองเป็นนักออกแบบที่มีส่วนกับบริษัทมือถือดังๆ ทั้ง Sidekick และ webOS มาแล้ว ล่าสุดเขาย้ายมาอยู่กูเกิล และมีบทบาทสำคัญต่อการออกแบบ Honeycomb (ซึ่งทุกคนดูวิดีโอกันไปแล้ว) เป็นอย่างมาก
Steve Chang ประธานของบริษัท Trend Micro พูดที่ไต้หวันว่า Android มีโอกาสจะโดนไวรัสและถูกแฮ็กมากกว่า iPhone เนื่องจากเป็นระบบเปิด ทำให้แฮ็กเกอร์สามารถอ่านโค้ดเพื่อหาช่องโหว่ได้ และทาง Trend Micro ให้เครดิตกับแอปเปิลว่าระมัดระวังด้านความปลอดภัยดีกว่า
อย่างไรก็ตาม Chang บอกว่า Android มีระบบ sandbox ที่ป้องกันไม่ให้ไวรัส "ปลอมตัว" จากซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส และ iPhone ไม่ได้ปลอดภัยจากภัยคุกคามทั้งหมดแต่อย่างใด
Chang เชื่อว่าผู้ใช้ Android จะซื้อซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยมาใช้มากขึ้น ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน Trend Micro เพิ่งออกซอฟต์แวร์ Mobile Security for Android ขายในราคา 3.99 ดอลลาร์
เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เรารู้ว่า Android รุ่นต่อไปรหัส "I" จะใช้ชื่อรุ่นว่า "Ice Cream" ตามความคาดหมายของหลายๆ คน แต่ข่าวล่าสุดไม่ใช่เช่นนั้นแล้ว
เว็บไซต์ TechCrunch อ้างคำพูดของ Andy Rubin ที่พูดกับทีมงานของ TechCrunch ว่า Android รุ่นถัดไปจะใช้ชื่อ "Ice Cream Sandwich" แทน "Ice Cream" ส่วนเหตุผลไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าทำไม
ที่มา - TechCrunch