เว็บไซต์ Silicon Alley Insider สรุปรายการ gadget 15 อย่างที่สร้าง "การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่" ให้กับทศวรรษ 2000s ตลอด 10 ปีที่ผ่านมานี้ (นับ gadget ที่ออกขายตั้งแต่ปี 1999)

gadget ทั้ง 15 อย่าง (ไม่เรียงลำดับความสำคัญ) ได้แก่

เมื่อปี 2000 บริษัท AOL ซึ่งเป็นยักษ์อินเทอร์เน็ตในขณะนั้นได้ซื้อกิจการครั้งประวัติศาสตร์ ครอบครองธุรกิจสื่อขนาดยักษ์ Time Warner กลายเป็นบริษัทใหม่ AOL Time Warner คิดเป็นมูลค่า 164,747 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.5 ล้านล้านบาทถ้าคิดตามค่าเงินในปัจจุบัน) ถือเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ 2000s

แต่ผลการควบกิจการไม่เป็นไปตามฝัน ธุรกิจฝั่ง AOL เองตกต่ำ Steve Case ซีอีโอของ AOL ที่ได้รับการกล่าวขานว่าจะเป็น "บิล เกตส์ คนถัดไป" ลาออกในปี 2005 และบริษัทเปลี่ยนชื่อจาก AOL Time Warner กลับเป็น Time Warner เฉยๆ หลังจากนั้นเราก็ได้ยินข่าวในทางลบของ AOL ออกมาตลอด โดยเฉพาะข่าวว่า Time Warner ต้องการขาย AOL ออกไป

ผลการศึกษาจาก Chitika Research ดูว่าโฆษณาบน search engine เจ้าไหนมีอัตรา click-through-rate (CTR) สูงกว่ากัน พบว่าโฆษณาบน Bing มีโอกาสถูกคลิกสูงกว่ากูเกิลถึง 75%

ในบรรดา search engine ทั้งห้าตัวที่ทำการศึกษา กูเกิลมีอัตรา CTR ต่ำสุดคือ 0.98% ส่วนตัวเลขของ Bing อยู่ที่ 1.74% อย่างไรก็ตามแชมป์ด้าน CTR กลับเป็น AOL คือ 2.50% ที่เหลือได้แก่ Yahoo! 1.37% และ Ask 1.76%

อย่าลืมว่านี่เป็นการวัดผลเฉพาะ CTR เป็นเปอร์เซ็นต์ ถ้านับจำนวนครั้งของการคลิก ก็คงต้องยกให้กูเกิลเหมือนเดิม

ที่มา - Ars Technica

นิตยสาร Time ได้ประกาศ Top 10 Gadgets ประจำปี 2009 โดยมีอันดับดังต่อไปนี้ครับ

Piper Jaffray นักวิเคราะห์ตลาดได้ระบุว่าจากการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ แล้ว น่าจะมีโอกาสประมาณ 70% ที่แอปเปิลจะตัดสินใจขาย iPhone บนเครือข่าย Verizon ด้วยในกลางปีหน้า และจะทำให้จำนวนผู้ใช้ iPhone ในสหรัฐฯ เติบโตถึง 40% ในปีเดียว

ปัจจุบัน AT&T มีผู้ใช้งานประมาณ 82 ล้านเลขหมาย ซึ่งการขยาย iPhone ให้กับ Verizon ด้วยจะเป็นการขยายขนาดตลาดถึงเท่าตัว เพราะ Verizon เองก็มีฐานผู้ใช้ถึง 89 ล้านเลขหมาย นอกจากนี้ Piper ยังระบุด้วยว่า Verizon จะเป็นหนึ่งในจุดขายที่สำคัญของ iPhone รุ่นถัดไป

ที่มา - AppleInsider

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Ralph de la Vega หัวหน้าส่วนงานบริการลูกค้าบุคคลทั่วไป (Head of Consumer Services) ของ AT&T ได้ออกมาประกาศว่าในอนาคตทาง AT&T อาจมีการปรับเปลี่ยนการเก็บค่าบริการข้อมูลสำหรับผู้ใช้ที่ใช้งานมากเป็นพิเศษเพิ่มเติม จากที่เดิมโปรโมชันสำหรับสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iPhone จะให้ใช้ข้อมูลได้ไม่จำกัด

ทาง AT&T ได้ระบุว่า ปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้สมาร์ทโฟนอยู่ 3% โดยในกลุ่มนี้กลับใช้แบนด์วิธสูงถึง 40% ของทั้งหมด โดยแบนด์วิธส่วนมากเกิดจากการสตรีมข้อมูลภาพและเสียงจากโปรแกรมบน iPhone

Dell Vostro V13 นั้นปรากฏตัวออกมาแบบสายฟ้าฟาดเมือเช้านี้ ข่าวดีคือรอบนี้มันมาโผล่ที่สิงคโปร์ครับ บ้านเราเลยเริ่มมีข้อมูลเข้ามาก่อนแล้ว โดยราคาเริ่มต้นประมาณ 22,000 บาท คาดว่าเป็นรุ่น Celeron 1.2GHz ULV (รุ่นเดียวกับ ThinkPad X200s) ควรระวังสักนิดว่าซีพียูรุ่นนี้แรงกว่า Atom ขึ้นมา "อีกหน่อย" เท่านั้น

ส่วนรุ่นสูงสุดนั้นคือ SU7300 + DDR3 4GB + SATA-500GB ราคาอยู่ที่สามหมื่นกว่าๆ ครับ

แก้ข่าวผิดจากรอบที่แล้วหน่อยคือตัวถังของรุ่นนี้เป็นอลูมิเนียม ที่สำคัญคือมี ExpressCard 34 และช่องอ่านการ์ดมาให้ในตัว

update: พอดีผมเพิ่งเห็น Press Release จากทางเดลล์ประเทศไทยนะครับ บทสรุปคือราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 14,990 บาท และรุ่นสูงสุดนั้นราคา 27,990 บาทไม่รวมภาษี

หลังจากที่งงๆ กันอยู่พักใหญ่ ที่ feedback ของ DTAC ก็หายงง และออกมายืนยันว่าใช้เครื่อง BlackBerry เป็นโมเด็มนั้นสามารถทำได้ในโปรโมชั่น 650 บาทต่อเดือน

ผมตะขิดตะขวงใจนิดหน่อยที่คำประกาศนี้ระบุว่า ทาง DTAC ให้ลูกค้าใช้งานได้เพื่อให้ลูกค้าสะดวก "มากยิ่งขึ้นอีก" อย่างไรก็ตามการที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้นับเป็นเรื่องที่ดี

จบเรื่องแล้ว บริษัทใดจะนำเข้า CradlePoint CTR350 ช่วยนำมาประกาศข่าวใน Press Release ด่วนครับ

ที่มา - Pantip.com

ไมโครซอฟท์ปรับผังองค์กรในสายเซิร์ฟเวอร์ใหม่อีกครั้ง โดยโยกกลุ่ม Windows Server & Solutions มารวมกับ Windows Azure แล้วตั้งชื่อใหม่เป็น Server & Cloud Division

ปัจจุบันไมโครซอฟท์มีหน่วยย่อยภายในบริษัททั้งหมด 5 สาย (รายชื่อ) สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เกิดขึ้นในสาย Server and Tools Business (STB) เท่านั้น ซึ่งภายในสายนี้แยกย่อยเป็น Tools (Visual Studio) และ Server & Cloud Division ที่เพิ่งตั้งใหม่ครั้งนี้

สำหรับ Server & Cloud Division ประกอบด้วยหน่วยงานเดิม 3 ส่วนคือ Azure Development, Azure Marketing และ Windows Server and Solutions

John Chambers ซีอีโอของ Cisco บริษัทด้านเครือข่ายอันดับหนึ่งของโลก ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า "ผมไม่สนใจทำสมาร์ทโฟน"

อย่างไรก็ตาม Chambers เสริมว่า Cisco รักทุกคนที่ส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย และสมาร์ทโฟนเป็นหนึ่งในอุปกรณ์เหล่านั้น แนวทางของ Cisco อยากเป็นพันธมิตรกับ RIM, Apple และ Palm ในการวางระบบเครือข่ายที่เติบโตขึ้นตามสมาร์ทโฟนมากกว่า

การซื้อกล้องวิดีโอ Flip ทำให้ Cisco รุกเข้าตลาดผู้ใช้ตามบ้าน และนักวิเคราะห์มองว่าตลาดกล้องวิดีโอพกพาเริ่มจะซ้อนทับกับสมาร์ทโฟนแล้ว (ข่าวเก่า เปรียบคุณภาพวิดีโอ iPod nano vs Flip SD)

อันนี้เป็นข่าวต่อเนื่องจาก Dell ขายคอมเก่าผ่าน Twitter ยอดขายเกิน 2 ล้านดอลลาร์แล้ว สรุปว่าเวลาผ่านไปครึ่งปี ยอดขายคอมของ Dell ที่โฆษณาผ่าน Twitter เพิ่มขึ้นเป็น 6.5 ล้านดอลลาร์ (215 ล้านบาท)

เป็นข่าวที่น่าตกใจพอสมควรเพราะมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก เมื่อวานนี้ MySpace ยักษ์ใหญ่ด้าน social network ประกาศซื้อกิจการเพลงออนไลน์ imeem แต่ไม่ใช่ซื้ออย่างเดียว เพราะ MySpace ได้ประกาศปิดฉาก imeem ไปพร้อมกันด้วย

ถ้าเข้า imeem ในตอนนี้จะเห็นประกาศว่าทาง MySpace กำลังรีบย้าย profile ทั้งหมดของสมาชิก imeem ไปรวมกับระบบของ MySpace Music แต่ยังไม่บอกว่าจะเสร็จเมื่อไร ตอนนี้สรุปง่ายๆ ว่า imeem ใช้งานไม่ได้ในทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นผ่านหน้าเว็บหรือทาง API จนกว่า MySpace จะรวมระบบเสร็จสิ้น

ใกล้สิ้นปีกันอีกแล้วครับ กลับมาเจอกันเหมือนเดิมใน Blognone Readers' Choice Award ที่ให้สมาชิกเสนอชื่อผลิตภัณฑ์ที่คิดว่าโดดเด่นที่สุดในปีนี้ เสนอได้คนละหนึ่งชื่อ ถ้าซ้ำให้ +1 ในคอมเมนต์ เสร็จแล้วเราจะคัด 5 อันดับแรกไปโหวตกันในโพลอีกรอบ เพื่อหาผู้ชนะประจำปี (ของปีที่แล้ว 2008)

กติกาสั้นมากแถมใส่ตัวหนาให้แล้ว โปรดอ่านให้ละเอียดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ผิดระเบียบลบคอมเมนต์ครับ

หลายๆ คนคงรู้จัก Adamo กันมาก่อนแล้ว แม้ว่ามันจะสวยและน่าใช้แค่ไหน แต่ราคาค่าตัวเหยียบๆ แสนไม่ใช่ราคาที่คนทั่วไปจับต้องกันได้นัก ข่าวดีคือวันนี้ Adamo กลับชาติมาเกิดใหม่เป็น Dell Vostro V13 โน้ตบุ๊กตระกูลธุรกิจระดับล่าง ในราคาค่าตัวประมาณ 600 ดอลลาร์

ผมนั่งเพ่งรูปของ Vostro V13 ยังไงมันก็คือ Adamo ที่เปลี่ยนตัวถังเป็นพลาสติก และเปลี่ยนจาก DisplayPort เป็น VGA ซึ่งถือเป็นข้อดี สำหรับคนใช้งานอย่างผม

น้ำหนัก 1.6 กิโลกรัม ซีพียูเป็นแบบ ULV รองรับแรม DDR3 ได้สูงสุด 4GB

ไม่รู้เข้ามาเมื่อใหร่ แต่เว็บที่สิงคโปร์มีข้อมูลแล้ว เมืองไทยหวังว่าจะตามมาในไม่ช้า

ข่าวนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าสนใจสำหรับคนที่ใช้งานโทรศัพท์ตามปรกตินัก แต่หากใครที่ต้องการเข้าถึงความสามารถของโทรศัพท์ที่ปรกติไม่เปิดให้ใช้งานแล้ว การเข้าถึงสิทธิระดับ root นั้นเป็นเรื่องจำเป็นพอสมควร และวันนี้ก็มีการโพสไฟล์ที่ช่วยให้เข้าถึงสิทธิ์ root ของ Verizon Droid กันแล้ว

หลังจากที่ได้สิทธิ root แล้วในเร็วๆ นี้เราคงได้เห็นเฟิร์มแวร์แปลกๆ เช่น CyanogenMod ที่สามารถติดตั้งลงบน T-Mobile G1 ได้

ที่มา - AllDroid

ทางทีม Wikipedia Usability Initiative ได้เริ่มการพัฒนาหน้าตาของเว็บ Wikipedia ใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้ง่ายได้มากขึ้นนั้นเอง ตัวโครงการมีระยะเวลาตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2009 ถึง มีนาคม 2010 ซึ่งแบ่งโครงการเป็น 3 เฟส แต่ละเฟสมีชื่อดังนี้ Acai, Babaco และ Citron โดยปัจจุปันได้พัฒนาถึงเฟสที่ 2 แล้ว และเราสามารถทดลองใช้เว็บได้แล้ว

ส่วนที่มีการออกแบบใหม่ มีดังนี้

* ปรับสีสันให้ดูสะอาดตาขึ้น
* ปรับตำแหน่งและชื่อปุ่มของเมนูใหม่ เพื่อง่ายต่อการจำ
* ตำแหน่งช่องคันหา ปรับจากด้านข้างซ้ายไปอยู่ด้านบนสุด
* แถบเครื่องมือแก้ไข (Edit toolbar) ออกแบบไอคอนและหน้าตาใหม่เพื่อให้เข้ากับเว็บใหม่และมีปุ่ม help เพื่อช่วยในการเขียน syntex ของ Wikipedia

Thunderbird 3 ได้ปล่อยเวอร์ชั่นเต็มให้ชาวโอเพนซอร์สมาใช้งานกันแล้ววันนี้ หลังจากมีปัญหาทางทีมพัฒนา และเวลาการพัฒนาก็รวมแล้วประมาณ 2 ปี โดยฟีเจอร์เด่นๆ มีดังนี้ครับ

หลังจากที่ปล่อยให้ผู้ใช้แมครอคอยกันมานาน ในที่สุดทางกูเกิลก็ได้ออกเบต้าของ Google Chrome for Mac ให้ดาวน์โหลดกันได้แล้ว โดยมีขนาดดาวน์โหลดประมาณ 17 MB และทำงานบน Mac OS X 10.5 ขึ้นไป ที่ใช้ซีพียูอินเทลเท่านั้น

แม้ว่าการออกแบบหลายๆ อย่างจะเทียบเคียงได้กับ Chrome บนวินโดวส์ แต่เวอร์ชันบนแมคจะไม่มีฟีเจอร์บางอย่างที่ Chrome บนวินโดวส์มี เช่น Gears และในทางกลับกันก็จะมีฟีเจอร์บางอย่างที่บนวินโดวส์ไม่มี เช่นอนิเมชันต่างๆ ที่ใช้ Core Animation, การตรวจการสะกด หรือการเก็บพาสเวิร์ดและเข้ารหัสโดยใช้ Keychain API ของ Mac OS X

ฟีเจอร์หลักๆ ที่ทางกูเกิลนำเสนอ (ซึ่งก็มีบนวินโดวส์หมด) ได้แก่

Alicia Keys นักร้องสาวเสียงดีได้เปิดตัวอัลบั้มใหม่ของเธอชื่อ The Element of Freedom พิเศษเฉพาะบน Facebook เท่านั้น โดยแฟนๆ สามารถเข้าไปฟังเพลงใหม่ของเธอได้บน fan page ซึ่งฟังได้เต็มอัลบั้ม ทุกเพลงไม่มีกั๊ก ขอเพียงแค่กดปุ่ม Become a fan เท่านั้น

ความน่าสนใจของข่าวนี้คือ เป็นครั้งแรกที่ศิลปินนักร้องชื่อดังเลือกใช้ Facebook เป็นจุดเปิดตัวอัลบั้ม ซึ่งในอดีตจ้าวแห่งเพลงออนไลน์บน social network คือ MySpace

รายละเอียดทางเทคนิคคือ Alicia Keys ใช้แอพพลิเคชัน Music for Pages จากบริษัท Involver ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์บน Facebook

ในที่สุด Chandra Rathakrishnan ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Fusion Garage ก็พูดคุยเปิดอกกับผู้ติดตามข่าวของ CrunchPad ผ่านวิดีโอ [รายละเอียดคำต่อคำใน Engadget (ไม่แปล)]

สรุปคือ

Eric Schmidt ซีอีโอของกูเกิ้ลเริ่มใช้ Twitter ด้วยชื่อ @ericschmidt -- ซึ่งแรกทีเดียว เขาใช้ @eschmidt0 แต่ในปัจจุบัน เลิกใช้ไปแล้ว

Schmidth เคยพูดถึง Twitter ว่าเป็นอีเมลของคนจน ซึ่งได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์พอสมควร

ที่มา TechCrunch

CEO ของ FusionGarage ใด้ออกมาเปิดตัว Product ที่มีปัญหากับ Michael Arrington ในชื่อ JooJoo

ส่วนเสปคคือ
- 12.1" capacitive touchscreen
- 4GB SSD
- accelerometer
- Boot 9 วินาทีตรงไปที่ browser
- Battery life 5 ชั้วโมง

โดยจะขายในราคา $499 ให้จองที่ thejoojoo.com ในวันที่ 11 ธันวาคมนี้

ที่มา - engadget

Business Software Alliance (BSA) ในสหราชอาณาจักรได้เปิดตัวโครงการรณรงค์การใช้ซอฟท์แวร์ลิขสิทธิ์ใหม่ซึ่งส่งเสริมลูกจ้างให้ฟ้องนายจ้างของตนใช้ซอฟท์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยมีเงินรางวัลจูงใจเป็นจำนวนเงินสูงถึง 20,000 ปอนด์

วิธีการดังกล่าวซึ่งเรียกว่า "Nail your Boss" มีมานานแล้ว แต่สิ่งใหม่ก็คือ BSA ใช้โอกาสยามเศรษฐกิจไม่ดีเพิ่มเงินรางวัลเป็นสองเท่า กล่าวคือให้เงินรางวัลร้อยละ 10 ของมูลค่าซอฟท์แวร์ที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์โดยมีเพดานเงินรางวัลสูงสุดที่ 20,000 ปอนด์ ทั้งนี้ ตามการสำรวจความคิดเห็น ลูกจ้างกว่าร้อยละ 40 พร้อมที่จะโดนไล่ออกแลกกับเงินรางวัลที่มีจำนวนเงินน่าสนใจ

ที่มา เว็บไซต์ BSA Health Check

มีงานวิจัยล่าสุดจากบริษัทวิจัยทางการตลาด Flurry โดยได้ทำการรวบรวมปริมาณการใช้งานอุปกรณ์พกพาต่างๆ และพบว่าเพียงเวลาจากเดือนมิถุนายน มายังเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มียอดการใช้งานจากน้อยกว่า 150 ล้านครั้งเพิ่มขึ้นเป็น 400 ล้านครั้ง โดยส่วนแบ่งของ iPod touch โตขึ้นจาก 31% มาเป็น 35% และ iPhone น้อยลงจาก 57% มาเป็น 50% โดยยอดอัตราส่วนที่ลดลงของ iPhone คงตอบได้อย่างชัดเจนว่ามาจาก Android ที่มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 14% จาก 10% เดิม

ผลวิจัยนี้มาจากการเฝ้าดูพฤติกรรมการใช้งานแอพพลิเคชันกว่า 3,000 รายการโดยผู้ใช้กว่า 45 ล้านคนบน 4 แพลตฟอร์มใหญ่ ได้แก่ iPhone OS, Android, BlackBerry และ Java ME

ก่อนหน้านี้สักพักถ้าใครจำได้ ที่ทางไมโครซอฟท์ได้เสนอหน้าจอที่ให้ผู้ใช้เลือกติดตั้งเบราว์เซอร์ตามคำสั่งของ EU (ดูข่าวเก่า) และทาง Mozilla ได้ออกมาโต้แย้งเพราะการเรียงตามลำดับตัวอักษรภาษาอังกฤษที่ไมโครซอฟท์ใช้จะทำให้ Apple Safari อยู่อันแรก (ดูข่าวเก่า)

ล่าสุดทางไมโครซอฟท์ได้เสนอหน้าจอนี้แบบแก้ไขให้กับ EU ใหม่ โดยได้ปรับให้ลำดับการแสดงเบราว์เซอร์แต่ละครั้งเป็นแบบสุ่มแทน

ที่มา - AppleInsider