เว็บไซต์ Droid Life มีข่าวล่าสุดจากคนที่ได้จับ Droid 2 มาแล้ว สรุปว่า Droid 2 ที่จะวางขายในสหรัฐเดือนสิงหาคม จะใช้ Android 2.2 Froyo ค่อนข้างแน่ โดยมันจะใช้ MOTOBLUR รุ่นเดียวกับ Droid X (มือถือสองตัวนี้ไส้ในเกือบเหมือนกันทุกประการ ยกเว้นรูปลักษณ์ภายนอก) ถ้าข่าวนี้เป็นจริงแปลว่า Droid 2 จะเป็นมือถือตัวแรกที่ออกขายพร้อมกับ Android 2.2 ในตัว

ประเด็นอื่นๆ ของ Droid 2 คือมันตอบสนองเร็วกว่า Droid 1, คีย์บอร์ดใช้งานได้ดี, รูปลักษณ์และน้ำหนักคล้ายกับ Droid 1 มาก

ที่มา - Droid Life

ข่าวที่สองคือ Droid 2 จะมีรุ่นพิเศษที่ด้านหลังจะสลักลาย R2-D2 สีขาว สำหรับแฟนๆ Star Wars อีกด้วย

จากข่าวเดิมเมื่อต้นปี พบช่องโหว่ใน Chrome? กูเกิลแจกเงินรางวัลไปเลย โดยให้เงิน 500 ดอลลาร์สำหรับช่องโหว่ระดับธรรมดา และ 1337 ดอลลาร์สำหรับช่องโหว่ร้ายแรง

ตอนนี้กูเกิลมั่นใจในความปลอดภัยของ Chrome มากขึ้นกว่าเดิม โดยให้เหตุผลว่าระบบ sandbox ของตัวเองทำให้เกิดช่องโหว่ระดับร้ายแรงได้ยากกว่าเดิมมาก ดังนั้นจึงเพิ่มราคาจาก 1337 ดอลลาร์ เป็น 3133.70 ดอลลาร์ ส่วนบั๊กระดับ 500 ดอลลาร์ยังจ่ายเท่าเดิม

ผมว่าไม่ต้องอธิบายความหมายของตัวเลข มันเท่กว่านะ

หลังจากมหากาพย์ข้ามปีระหว่างยาฮูกับไมโครซอฟท์ จบลงด้วยข้อตกลงว่ายาฮูจะดึงผลการค้นหาจาก Bing ไปใช้แทน และยาฮูจะยุบทีม search engine แล้วโอนพนักงานให้ไมโครซอฟท์ (อ่านรายละเอียดใน สรุปความ: เกิดอะไรขึ้นระหว่างไมโครซอฟท์กับยาฮู) ซึ่งกระบวนการทั้งหมดต้องใช้เวลาพอสมควร ที่ผ่านมาเราค่อยๆ เห็นข่าวอย่าง ข้อตกลงยาฮู-ไมโครซอฟท์ ผ่านการอนุมัติจากรัฐบาลแล้ว และ ยาฮูเริ่มโอนพนักงานบางส่วนให้ไมโครซอฟท์ แสดงให้เห็นความคืบหน้าเรื่อยๆ

และแล้ว Adobe ก็เล่นบทโหดด้วยการสวนหมัดใส่ Apple อย่างจัง หลังจากที่ไปได้สวยบน Android ซึ่งก้าวต่อไปของ Adobe ก็คือ การพัฒนาฟีเจอร์ Video Calling ให้ตัว Android นั่นเองครับ

ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Microsoft Security Essentials (MSE) 2.0 เบต้า รายละเอียดมีดังนี้

ถ้าจำกันได้ใน Press Conference ครั้งล่าสุด แอปเปิลได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่จะวางจำหน่าย iPhone 4 กลุ่มถัดไปช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งประเทศเกาหลีใต้ได้หลุดหายไปจากรายชื่อประเทศที่ประกาศว่าจะมีการจำหน่ายกลุ่มสองอย่างน่าประหลาดใจ

ภายหลังจากที่แอปเปิลได้ออกมาแถลงข่าวรอบเฉพาะกิจ ว่าด้วยเรื่องของปัญหาสัญญาณที่ตกลงเมื่อสัมผัสโดนบริเวณเสารับสัญญาณของเครื่อง โดยให้เหตุผลว่าไม่ใช่แค่แอปเปิลเท่านั้นที่พบกับปัญหาเหล่านี้ แต่ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับโทรศัพท์รุ่นอื่นๆ ของบริษัทอื่นๆ เช่นกัน โดยยกเอาโทรศัพท์สามรุ่นมาทดสอบเพื่อแสดงถึงปัญหาเรื่องสัญญาณ โดยเหยื่อที่ถูกหยิบมาแฉต่อหน้าธารกำนัลในครั้งนั้นคือ Blackberry, Samsung และ HTC

โดยหลังจากการแถลงไม่นาน ทางโนเกียก็ได้ออกมาแถลงว่า "เราให้ความสำคัญกับเสาอากาศมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก" ซึ่งดูมีเหตุผล เพราะว่าขนาดแอปเปิลยังไม่กล้าเอามาเป็นตัวอย่าง

คุณ naseler จากเว็บ Thai Android Phone ได้รายงานในเว็บบอร์ดว่าทาง WellcoM จะเปิดตัว WellcoM A800 ในวันเสาร์นี้ที่ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต หลังจากมีการเปิดตัวที่เวียดนามไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

จากรายงานระบุว่าทาง WellcoM จะเปิดให้จอง เจ้า A800 ในงานได้เลยดังนั้นในงานนี้คงมีตัวจริงและราคาออกมาโชว์ แต่ถือกลับบ้านกันไม่ได้ครับ

ราคาที่เวียดนามคือ 13,500 บาท หวังว่าราคาในไทยจะถูกกว่านั้ัน

ที่มา - Thai Android Phone

เรื่องหนึ่งที่ต้องยอมรับว่า Bing ทำได้ดีคือการค้นหารูป แต่กูเกิลก็เริ่มปรับตัวเพื่อเอาชนะกันอีกครั้งแล้วด้วยการปรับหน้า Image Search ใหม่

• แสดงภาพแน่นขึ้น ไม่เป็นตารางเหมือนเดิม และเว้นช่องว่างระหว่างรูปน้อยลง
• สามารถ scroll ลงด้านล่างเพื่อโหลดรูปเพิ่มได้สูงสุด 1,000 รูปในหน้าจอเดียว
• เมื่อวางเมาส์เหนือรูป จะเป็นการแสดงภาพขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อคลิกจะพบหน้าแสดงภาพขนาดเต็ม ก่อน ต้องคลิกอีกครั้งจึงแสดงหน้าเว็บที่มีรูปนั้นๆ
• รองรับคีย์ลัด

การอัพเดตนี้จะค่อยๆ ปล่อยไปทีละประเทศจนครบ เช่นเดิม

ที่มา - Google Blog

ขณะที่คนร้อยละ 80 ใช้ซองหุ้มขณะใช้งาน iPhone 4 ผมเองเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยเป็นเหมือนผมคือไม่ชอบใช้โทรศัพท์ที่มีอะไรหุ้มอยู่ขณะใช้งาน ล่าสุดก็มีบริษัท Etsy Inc. ผลิต "พลาสเตอร์" เพื่อรักษาอาการสัญญาณหายของ iPhone 4 โดยไม่ต้องใส่ซองหุ้มแล้ว

ราคา 4.99 ดอลลาร์ต่อหกชิ้น และ 90 ดอลลาร์ต่อ 180 ชิ้น ใครมีตู้อยู่มาบุญครองแนะนำให้ซื้อหามาติดไว้

ที่มา - Antenna-aid

กระแสกล้องแบบไร้กระจกสะท้อนภาพอย่าง Panasonic GF, Sony NEX, และ Olympus PEN คงทำให้รายใหญ่ๆ ในตลาดอย่างแคนนอนอยู่เฉยไม่ได้ ล่าสุดก็เริ่มมีข่าวออกมาว่าแคนนอนกำลังพัฒนากล้องขนาดเล็กออกมาสู้ในตลาดนี้แล้ว

การให้ข่าวนี้เป็นการให้ข่าวในการแถลงผลประกอบการประจำไตรมาส และแคนนอนไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใดๆ แม้แต่ว่ากล้องรุ่นนี้จะมีกระจกสะท้อนภาพหรือไม่ โดยระบุว่าการมีกระจกหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สำคัญคือผู้ใช้ต้องการกล้องคุณภาพสูงในขนาดเล็กต่างหาก

นิคอนเองก็มีข่าวว่ากำลังพัฒนากล้องในรูปแบบเดียวกัน

หวังว่ามันจะใส่เลนส์ EF ได้ ไม่งั้นอาจจะมีรายการย้ายค่ายกันขนานใหญ่

ที่มา - Reuters

ไฟล์อย่าง PDF ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน แต่ด้วยความสามารถในไฟล์ที่ค่อนข้างมากกว่าที่หลายๆ คนคิด เช่นสามารถรันสคริปต์ได้ ก็ทำให้มันเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยช่องใหญ่อีกอันหนึ่ง แต่ล่าสุดไมโครซอฟท์ก็ร่วมมือกับอโดบีสร้าง Adobe Reader Protected Mode ซึ่งก็คือการย้ายตัว Reader เข้าไปทำงานใน sandbox นั่นเอง

การสร้าง sandbox ของ Reader นั้นทำผ่าน API มาตรฐานของไมโครซอฟท์เอง ทำให้สามารถจำกัดการทำงานของ Reader ได้เช่นไม่สามารถเขียนข้อมูลใดๆ ลงในระบบ หรือสามารถอ่านไฟล์ได้อย่างจำกัดตามการอนุญาตของผู้ใช้เท่านัั้น

รุ่นอัพเดตความสามารถนี้รุ่นแรกจะมีแค่ความสามารถในการจำกัดการเขียนเพียงอย่างเดียว ส่วนการจำกัดการอ่านจะเพิ่มเข้ามาในภายหลัง

ข่าวในแง่ร้ายของ iPhone 4 ไม่ได้ลดความต้องการของมันลงเท่าใดนัก โดยในงานแถลงข่าวผลประกอบการประจำไตรมาส Tim Cook ได้ตอบคำถามนักข่าวถึงผลกระทบของข่าวร้ายทั้งหลายต่อยอดขาย iPhone 4 และเขาตอบว่า "เรากำลังขาย [iPhone 4] ทุกเครื่องที่เราผลิตได้ในตอนนี้"

ในแง่ของการคืนเครื่องแล้ว Tim ตอบนักข่าวว่าการคืนเครื่องด้วยสาเหตุจากการรับสัญญาณโดยเฉพาะนั้นต่ำมาก ส่วนตัวเลขการคืนเครื่องโดยรวมนั้นเราได้เห็นจากการแถลงข่าวของจ๊อปส์ไปแล้วเมื่อวันศุกร์ว่ายังต่ำกว่า 3GS เสียอีก

ที่มา - TechCrunch

ในงานแถลงข่าวเฉลิมฉลองการดำเนินธุรกิจโน้ตบุ๊กครบรอบ 25 ปีที่ประเทศออสเตรเลีย กรรมการผู้จัดการประจำออสเตรเลียได้โชว์ต้นแบบแท็บเล็ตที่ชื่อ "SmartPad" (ดูภาพได้ท้ายข่าว) และกล่าวว่าจะเปิดตัวราวเดือนตุลาคมนี้ ถึงแม้เขาจะไม่ลงรายละเอียดเกี่ยวกับ SmartPad นี้แต่ก็ยืนยันว่าโตชิบาจะปล่อยทั้งแท็บเล็ตที่ใช้ Windows 7 และ Android

ในงานดังกล่าว โตชิบายังได้นำเสนอเน็ตบุ๊ก AC100 Cloud Companion ที่ใช้ชิป ARM9 และ Nvidia Tegra และรันระบบปฏิบัติการ Android ด้วย (ดูภาพได้ท้ายข่าว)

จากที่คาดการณ์กันไว้ว่าตัวเลขรายได้ของแอปเปิลจะเพิ่มขึ้นสองเท่า ผลที่ออกมาก็ไม่ทำให้กองเชียร์ผิดหวังเพราะมันดียิ่งกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้นอีก! โดยแอปเปิลแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 3 (ตามวิธีการนับไตรมาสของบริษัท) มีรายละเอียดทางการเงินดังนี้

หลังจากที่เปิดตัว และวางขายกล้องคอมแพคไฮเอนด์อย่าง Panasonic LX3 ที่ถือได้ว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ Leica D-Lux4 ก็ได้ทิ้งช่วงจากไลน์นี้ไปนาน จนมีแฟนๆ พานาโซนิกหลายคนคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าจะไม่มีรุ่นต่อไปออกมาอีกแล้ว เนื่องด้วยจากความร้อนแรงของฟอร์แมต m4/3 ที่ราคากำลังไต่ระดับลงมาสู้กับกล้องคอมแพคคุณภาพสูงไปทุกวันๆ อีกทั้งเลข 4 ของ Panasonic LX4 ยังมีความหมายที่ไม่ค่อยดีนัก (ไปพ้องกับคำว่าตายในหลายๆ ภาษา)

แต่ทว่าเมื่อไม่นานมานี้ เว็บไซต์ทางการของพานาโซนิกได้ทำข้อมูลรั่ว (จงใจ?) ของ Panasonic LX5 หลุดออกมา ซึ่งเป็นที่ฮือฮากันมาก ก่อนที่ข้อมูลดังกล่าวนั้นจะถูกยกลงไป โดยสเปคเด่นๆ ของ Panasonic LX5 มีดังนี้

เพิ่งมีข่าวดีของชาว Droid Incredible ไปไม่นาน ว่าสามารถอัพเกรดเป็น Android 2.2 Froyo ที่นี้มาถึงข่าวดีของชาว HTC Desire, Legend และ Wildfire บ้าง โดยทางเว็บไซต์ Android Guys ได้อ้างแหล่งข้อมูลจาก HTC ว่าจะได้รับการอัพเกรดเป็น Android 2.2 Froyo ในช่วงต้นไตรมาสที่ 3

จากข่าวเก่าตอนที่ เปิดตัว Android 2.2 Froyo ทำให้มิตรรักแฟนๆ ของ Legend ใจตุ๊บๆ ต่อมๆ กลัวว่าจะอัพเกรดไม่ได้ เพราะไม่มีอยู่ในรายชื่อ แต่ในตอนนี้ได้ฟังคำยืนยันจริงๆ จากปากคนใน HTC แล้วก็คงอุ่นใจขึ้นมาบ้าง

วันนี้ RIM ได้ประกาศว่าได้อัพเดท Locate Service โดยเพิ่มฟีเจอร์บริการ Geolocation ที่สามารถระบุตำแหน่งที่ตั้งที่ไม่ต้องอาศัย GPS (เช่น เมื่อโทรศัพท์อยู่ในอาคาร) แต่จะใช้ข้อมูลจาก cell tower ที่อยู่ใกล้เคียงแทน นอกจากนั้นยังอนุญาตให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ฟรีอีกด้วย

วันที่ 30 กรกฏาคมนี้ บริษัทชาร์ป (ญี่ปุ่น) จะเปิดตัวแผ่น Blu-ray ขนาดความจุ 100GB ซึ่งตามข่าว แผ่น Blu-ray นี้จะมีชั้นบันทึกข้อมูลถึง 3 ชั้น (triple-layer)

แผ่นดิสก์ซึ่งมีรหัสว่า VR-100BR1 นี้เป็นแผ่นรุ่นแรกที่รองรับมาตรฐานแผ่น Blu-ray ใหม่ที่เรียกว่า BDXL ซึ่งประมาณราคาของตัวแผ่นไว้ที่ 5,000 เยน (ประมาณ 1,900 บาท)

คนที่เคยเห็น Samsung Wave หรือ Galaxy S คงรู้ซึ้งถึงความสดใสและคมชัดของจอ Super AMOLED เป็นอย่างดี ในขั้นถัดไปซัมซุงกำลังพัฒนามันขึ้นไปอีกในด้านความอึด

อึดแค่ไหนอันนี้ดูวิดีโอง่ายกว่าครับ

จอ AMOLED ตัวนี้เปลี่ยนมาใช้แผ่น plastic panel เป็นอุปกรณ์รองรับตัวคริสตัลเหลวที่ใช้แสดงผล คาดว่าจะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์จริงได้ภายใน 2 ปี

ที่มา - Talk Android

อาจไม่ใช่แค่ iPhone 4 ที่ต้องประสบปัญหาด้านฮาร์ดแวร์หลังวางขาย เพราะเริ่มมีเจ้าของ Droid X มือถือตัวล่าสุดจาก Motorola ได้โพสต์ปัญหาเกี่ยวกับหน้าจอลงในเว็บบอร์ดต่างๆ หลายแห่ง

ปัญหามีตั้งแต่จอกระพริบ-สั่น ไปจนถึงจอพังไปบางส่วน (แสดงเป็นแถบสีแทนที่จะเป็นภาพ) จากข้อมูลในบอร์ดของ Motorola ผู้ใช้คนหนึ่งนำเครื่องไปให้ร้านของ Verizon ดู และได้รับการเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ให้

ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าปัญหานี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้ Droid X มากน้อยแค่ไหน และมีผู้ใช้รายงานมากกว่า 0.55% หรือเปล่า

ที่มา - Engadget

เทคโนโลยี WebM ดูจะได้รับการสนับสนุนจากซอฟต์แวร์มากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่นับเว็บเบราว์เซอร์ 3 ยี่ห้อดัง Chrome/Firefox/Opera ที่เปิดตัวไปตั้งแต่แรกแล้ว ก็มี FFmpeg และ VLC 1.1.0 จากฝั่งโปรแกรมมัลติมีเดียที่รองรับ เป็นต้น

ล่าสุด Winamp โปรแกรมฟังเพลงขวัญใจมหาชน ก็ออกรุ่น 5.58 ที่รองรับ WebM แล้วเช่นกัน

ผมคาดว่ากูเกิลอาจจะรอ Android 3.0 ที่น่าจะใช้ WebM ได้ออกมาก่อน แล้วค่อยผลักดันให้ YouTube เข้าสู่ WebM อย่างเต็มรูปแบบ

แม้จะผจญปัญหามากมายกับเรื่องสัญญาณหายใน iPhone 4 แต่สำหรับนักลงทุนแล้ว Apple กำลังจะส่งสัญญาณแรงเต็มหลอดมาว่ากำไรของบริษัทอาจจะเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวทีเดียว

มีรายงานว่า Apple อาจจะประกาศรายได้สุทธิในไตรมาสที่สามของปีงบประมาณที่ขยายตัวอย่างมโหฬาร 2.87 พันล้านดอลลาร์หรือ 3.09 ดออลาร์ต่อหุ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่อยู่ที่ 1.28 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งผลประกอบการอันงดงามนี้ได้แรงหนุนจากความนิยมของ iPad ที่สามารถขายได้ถึง 3 ล้านเครื่องในเวลาแค่ 80 วัน รวมไปถึงการที่ iPhone 4 สามารถทำยอดขายได้ถึง 1.7 ล้านเครื่องก่อนปิดไตรมาส

Baidu ยักษ์อินเทอร์เน็ตของจีนแผ่นดินใหญ่ เล็งจะพัฒนาระบบปฏิบัติการสำหรับมือถือของตัวเอง

โครงการนี้ริเริ่มโดยอดีตวิศวกรจากกูเกิลประเทศจีน ซึ่งย้ายมาซบ Baidu หลังกูเกิลมีปัญหากับรัฐบาลจีน โดย Baidu มีเป้าหมายคล้ายๆ กับกูเกิลคือต้องการใช้ระบบปฏิบัติการบนมือถือมาช่วยคุมตลาด mobile search ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นจริงก็จะมาชนกับ Android ในจีนแผ่นดินใหญ่อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ Baidu ยังมีแผนจะทำโปรแกรมแผนที่ในลักษณะเดียวกับ Google Maps ด้วย

ที่มา - Informationweek

นี่อาจเป็นข่าวประวัติศาสตร์ของทั้งวงการสิ่งพิมพ์ และวงการ e-book

Amazon ผู้ขายหนังสือรายใหญ่ของโลก ประกาศว่ายอดขายหนังสือในรอบ 3 เดือนล่าสุด พบว่าสามารถขายหนังสือเวอร์ชัน Kindle เทียบกับหนังสือปกแข็ง (hardcover) ได้ในอัตราส่วน 143:100 เล่ม และอัตราส่วนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยรอบ 4 สัปดาห์ล่าสุดกลายเป็น 180:100 เรียบร้อยแล้ว ตัวเลขนี้ไม่รวมหนังสือฟรีบน Kindle นะครับ

ปัจจุบัน Amazon มีหนังสือขายบน Kindle ประมาณ 630,000 เรื่อง ส่วนหนังสือฉบับกระดาษมีมากกว่าเยอะ (เป็นหลักล้าน)