VirusTotal เป็นบริษัทแอนตี้ไวรัสที่กูเกิลซื้อมาตั้งแต่ปี 2012 และเมื่อต้นปี 2018 ถูกโยกเข้ามาอยู่ภายใต้ Chronicle บริษัทความปลอดภัยใหม่ในเครือ Alphabet
ล่าสุด Chronicle เปิดตัวบริการใหม่ VirusTotal Enterprise เวอร์ชันอัพเกรดสำหรับขายลูกค้าองค์กร โดยเพิ่มความสามารถจากรุ่นปกติ (ที่เป็นของฟรี) ดังนี้
Eric Schmidt แห่ง Alphabet ไปออกอีเว้นท์ด้านการลงทุน Village Global VC โดย Tyler Cowen นักเศรษฐศาสตร์ตั้งคำถามต่อ Schmidt ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่อนาคตของอินเทอร์เน็ตในช่วง 10-15 ปีข้างหน้าจะถูกแยกออกเป็นหลายส่วนด้วยข้อกำหนดและข้อบังคับต่างๆ Schmidt บอกว่า อินเทอร์เน็ตว่าจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งมีจีนเป็นผู้กุมบังเหียน
หลังจากไมโครซอฟท์ซื้อ GitHub ไปแล้ว แสงไฟเลยเริ่มฉายมาฝั่งคู่แข่ง GitLab ที่ล่าสุดประกาศระดมทุน Series D มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้มูลค่าบริษัททะลุ 1.1 พันล้านดอลลาร์ เข้าสถานะยูนิคอร์นเรียบร้อย
การลงทุนรอบนี้นำโดยบริษัท ICONIQ Capital แต่ก็มีบริษัทอื่นคือ Khosla Ventures และ GV ในเครือ Alphabet ร่วมด้วย (ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวลือว่า กูเกิลเคยแย่งซื้อ GitHub กับไมโครซอฟท์ด้วย อย่างไรก็ตาม GV เคยลงทุนใน GitHub มารอบหนึ่งแล้วเมื่อปี 2017 และเป็นปกติที่อาจลงเงินเพิ่มในรอบถัดมา)
เดือนที่แล้ว รัฐสภาสหรัฐเรียกตัวแทนจาก Google, Facebook, Twitter มาหารือเรื่องปัญหาข่าวปลอม ซึ่ง Twitter ส่งซีอีโอ Jack Dorsey มาเอง ในขณะที่ Facebook ส่งซีโอโอ Sheryl Sandberg ที่เป็นบุคคลเบอร์สองขององค์กร รองจาก Mark Zuckerberg เท่านั้น
แต่ Google กลับเสนอชื่อ Kent Walker ผู้บริหารด้าน Global Affairs มาแทนผู้บริหารระดับท็อปๆ ที่เราคุ้นชื่อกัน โดยระบุว่าเลือกส่ง Kent Walker มาแทน เพื่อให้ผู้บริหารสูงสุดอย่าง Larry Page มีเวลาโฟกัสกับปัญหาเทคโนโลยีในระยะยาวของ Alphabet แทน
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2018 มีรายได้รวม 32,657 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 8,266 ล้านดอลลาร์ แต่หากรวมค่าปรับจาก EU เข้ามาด้วย กำไรสุทธิจะเหลือ 3,195 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตอนนี้สถานะคือกูเกิลยื่นอุทธรณ์อยู่
John Krafcik ซีอีโอของ Waymo บริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Alphabet ประกาศความสำเร็จรอบล่าสุดในงาน National Governors Association ว่า ตอนนี้รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของบริษัทสามารถวิ่งทดสอบบนถนนสาธารณะเป็นระยะทาง 8 ล้านไมล์แล้ว หรือคิดเป็นการเดินทางกว่า 25,000 ไมล์ต่อวัน
Waymo เพิ่งจะประกาศความสำเร็จ 4 ล้านไมล์ไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งก็เท่ากับว่าทางบริษัทสามารถวิ่งทดสอบรถยนต์ใน 4 ล้านไมล์หลังได้ในระยะเวลาเพียง 8 เดือนเท่านั้น
ไม่นานหลัง Alphabet แยก Loon มาเป็นบริษัทต่างหาก ไม่อยู่ใต้สังกัด X (และใช้ชื่อ Loon เฉยๆ ไม่มีคำว่า Project พร้อมเปลี่ยนโลโก้ด้วย) บริษัท Loon ก็ประกาศให้บริการเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในเคนยา
Loon ร่วมมือกับ Telkom Kenya ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของเคนยา นำบอลลูนไปใช้กระจายสัญญาณเน็ตในภาคกลางของประเทศ และจะเริ่มให้บริการในปี 2019
Loon ระบุว่าตัวเองเป็นผู้ให้บริการ "โครงสร้างพื้นฐาน" (infrastructure) ที่อยู่บนฟ้า 60,000 ฟุต และสามารถไปในสถานที่ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานบนพื้นดินไปไม่ถึง
ที่มา - Loon
Nest บริษัทพัฒนาอุปกรณ์สมาร์ทโฮมภายใต้ Alphabet ประกาศว่า Marwan Fawaz ได้ลงจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัทแล้ว และทีมของ Nest จะรวมเข้ากับทีมพัฒนาฮาร์ดแวร์ของ Google และทีมนี้จะขึ้นตรงกับ Rishi Chandra รองประธานฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์บ้านและห้องนั่งเล่นของ Google
Fawaz นั้นรับตำแหน่งซีอีโอ Nest ต่อจาก Tony Fadell ผู้ก่อตั้งที่ลาออกจาก Nest ไปเมื่อสองปีก่อน (อ่านเพิ่ม: เบื้องหลังปัญหาของ Nest) ซึ่งการลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Fawaz ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายเพราะ Nest ถูกรวมเข้ากับทีมฮาร์ดแวร์ของ Google แล้ว
วันนี้ Alphabet ประกาศแยก Project Loon และ Project Wing ซึ่งเป็นโครงการทดลองภายใต้ X ออกมาเป็นอิสระในชื่อบริษัทว่า Loon และ Wing ตามลำดับ โดยทั้งสองบริษัทนี้จะขึ้นกับ Alphabet
โดยปกติแล้ว Alphabet มักจะแยกโครงการที่ประสบความสำเร็จแล้วออกจากสังกัด X เพื่อให้การดำเนินงานของบริษัทคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองบริษัทก็จะยังคงดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายของโครงการต่อไป โดย Loon มีเป้าหมายทำงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อขยายการให้บริการอินเทอร์เน็ตกับผู้คนทั่วโลก ส่วน Wing เน้นพัฒนาระบบโดรนส่งของที่รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย และปลอดภัย
มูลค่าบริษัทตามราคาหุ้น (market cap) ของไมโครซอฟท์เพิ่มสูงขึ้นจนแซงหน้า Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิลแล้ว
คิดตามราคาปิดตลาดของวันอังคารที่ 29 พฤษภาคม ไมโครซอฟท์มีมูลค่า 749 พันล้านดอลลาร์ ส่วน Alphabet อยู่ที่ 739 พันล้านดอลลาร์
หุ้นของไมโครซอฟท์มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่หุ้นของ Alphabet เคยมีมูลค่าสูงสุดราว 808 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2018 ก่อนตกลงมาอยู่ราว 750 พันล้านดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านี้ และลดลงมาอีกในรอบสัปดาห์ล่าสุด จนเป็นเหตุให้ไมโครซอฟท์แซงได้
ทั้งไมโครซอฟท์และ Alphabet ยังมีมูลค่าเป็นรองแอปเปิล (924 พันล้านดอลลาร์) และอเมซอน (783 พันล้านดอลลาร์)
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2018 รายได้รวม 31,146 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 9,401 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 5,426 ล้านดอลลาร์ มีปัจจัยสำคัญคือกูเกิลได้เปลี่ยนวิธีลงบัญชีตามมาตรฐานใหม่ ซึ่งกำหนดให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุน จากบริษัทภายนอกที่กูเกิลไปร่วมลงทุน (OI&E) ทำให้รับรู้กำไรเพิ่มมา 3,542 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ไม่ต้องรับรู้กำไร/ขาดทุน ส่วนนี้
Alphabet ได้เปิดตัวโครงการวิจัยใหม่ที่จะใช้ AI เพื่อการพัฒนาความสามารถในการผลิตอาหาร รวมถึงการนำโดรนและหุ่นยนต์มาใช้งานในฟาร์มด้วย โดยโครงการนี้จะอยู่ภายใต้ X
องค์กรอาหารและการเกษตรของสหประชาชาติได้ประมาณการว่า ทุกวันนี้การผลผลิตจากการเพาะปลูกทั่วโลกได้สูญเสียไปเป็นสัดส่วนกว่า 20-40% ในแต่ละปีเนื่องมาจากโรคระบาดและสัตว์ ซึ่งการค้นหาหนทางการพัฒนาการทำการเกษตรแบบใหม่ ๆ จะเป็นประโยชน์แก่คนทั่วโลกอย่างมาก และ X ได้เริ่มวิจัยโครงการนี้แล้ว
LinkedIn จัดอันดับบริษัทที่คนสหรัฐฯ อยากทำงานด้วยมากที่สุดประจำปี 2018 จัดอันดับตามฐานผู้ใช้งาน 546 ล้านราย และเฉพาะสหรัฐฯ 146 ล้านราย การจัดอันดับยึดตามหลัก 4 ข้อคือ การแสดงความสนใจของผู้ใช้ต่อบริษัท, การมีส่วนร่วมกับพนักงานในบริษัท, ความต้องการงานและการเก็บรักษาพนักงาน
LinkedIn จัดอันดับมา 50 บริษัทในที่นี้จะกล่าวถึง 20 อันดับแรก โดยอันดับ 1 คือ Amazon ตามด้วย Alphabet และ Facebook
เมื่อคืนนี้หลังปิดตลาดหุ้นสหรัฐ Amazon ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (Market Capitalization) สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว แซงหน้า Alphabet บริษัทแม่กูเกิล
มูลค่ากิจการของ Amazon อยู่ที่ 7.633 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ Alphabet มีมูลค่ากิจการ 7.630 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาหลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด หุ้นของ Amazon ก็มีราคาเพิ่มขึ้นตลอด ขณะที่ Alphabet ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่า
ช่วงกลางปีที่แล้ว Alphabet ได้เปิดตัวบริษัทใหม่ Dandelion สตาร์ทอัพผู้พัฒนาระบบการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้กับระบบทำความร้อนและระบบทำความเย็นในบ้านพักอาศัย เวลาผ่านมายังไม่ถึง 1 ปี หลังการทดลองติดตั้งใช้งานกับบ้านเรือนใน New York ก็เริ่มมีสัญญาณบวกทั้งผลการทดลองที่สะท้อนความคุ้มค่าด้านต้นทุนพลังงาน และแรงบวกจากนโยบายลดภาษีจากภาครัฐ
กล่าวถึง Dandelion สักหน่อยว่าเป็นสตาร์ทอัพที่เกิดจากการบ่มเพาะของทีม X ซึ่งหลังจากเห็นโอกาสทางธุรกิจอย่างจริงจังเรื่องการใช้พลังงานทางเลือก Dandelion จึงหลุดพ้นสถานะทีมพัฒนาภายในและแยกตัวออกมาเป็นบริษัท แบบเดียวกับที่ Waymo ทำมาก่อนหน้า
หลังจากทั้ง Uber และ Waymo ได้ขึ้นศาลซานฟรานซิสโกจากคดีที่ Waymo เป็นฝ่ายยื่นฟ้อง Uber ว่าได้ขโมยความลับทางการค้าผ่าน Otto บริษัทรถยนต์ไร้คนขับที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงาน Waymo และ Uber ได้ซื้อกิจการไป โดยหลังการพิจารณาคดีไปไม่กี่วัน Uber ก็เป็นฝ่ายประกาศขอยอมความในคดีนี้
เมื่อวานนี้มีข่าวว่า Alphabet โยกทีมฮาร์ดแวร์ Nest ไปอยู่ภายใต้ Google ล่าสุด Matt Rogers ผู้ร่วมก่อตั้ง Nest ก็ได้ประกาศเตรียมการลาออกจากบริษัททันที
Rogers กล่าวว่า เขาลาออกจากบริษัท Nest ซึ่งเขาทำงานมา 9 ปีเพื่อให้เวลากับ Incite.org บริษัท VC และแล็บพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่งเขาร่วมก่อตั้งด้วย รวมถึงเพื่อเป็นการคิดเกี่ยวกับการผจญภัยครั้งถัดไปในชีวิตของเขา โดยในเดือนหน้าเขาจะทำงานร่วมกับหัวหน้าทีมฮาร์ดแวร์ Google เพื่อกำหนดโร้ดแมปในปี 2019 และทำให้ทีมงาน Nest สามารถเข้าร่วมกับทีมงานฮาร์ดแวร์ของ Google ได้อย่างราบรื่น ซึ่งเขากล่าวไว้ใน Twitter ว่าเขาภูมิใจในสิ่งที่ Nest ทำสำเร็จ และอยากเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ Nest แล้ว
Nest บริษัทอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในเครือ Alphabet ถูกลดสถานะจากบริษัทลูกของ Alphabet มารวมกับฝ่ายฮาร์ดแวร์ของกูเกิล เพื่อให้เหลือทีมฮาร์ดแวร์ทีมเดียว ซึ่งตรงตามข่าวลือที่เคยออกมาเมื่อปลายปี 2017
กูเกิลซื้อ Nest มาตั้งแต่ปี 2014 ในราคา 3.2 พันล้านดอลลาร์ โดยวางตัว Nest ไว้เป็นทีมฮาร์ดแวร์หลักของบริษัท และให้อิสระในการบริหารงาน แยกเป็นอีกบริษัทลูกในเครือ Alphabet
Alphabet ประกาศตั้งซีอีโอคนใหม่ของ Access หน่วยธุรกิจด้านการสื่อสาร ที่เรารู้จักกันในชื่อแบรนด์ Google Fiber
Access ถือเป็นหนึ่งใน 13 องค์กรลูกของ Alphabet และอยู่ในกลุ่ม Other Bets ที่ไม่นับรวมเป็นธุรกิจของกูเกิล โดยมีบริการในสังกัด 2 ตัวคือ Google Fiber และ Webpass ที่ซื้อมาในปี 2016
Eric Schmidt อดีตประธานบอร์ดของ Alphabet ที่เพิ่งลงจากตำแหน่ง เข้าไปรับตำแหน่งด้านส่งเสริมนวัตกรรม (visiting innovation fellow) ที่สถาบัน MIT เป็นเวลาหนึ่งปี เขาจะรับหน้าที่ทำงานร่วมกับอาจารย์ใน MIT เผื่อผลักดันนวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ ที่ไปไกลกว่าการประดิษฐ์ (invention) เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่
Schmidt จะเข้าเป็นที่ปรึกษาให้โครงการ MIT Intelligence Quest ที่หน่วยงานของทั้งมหาวิทยาลัยจะร่วมกันค้นคว้าเรื่องปัญญาประดิษฐ์ และการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรด้วย
Sidewalk Labs โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเมืองภายใต้ Alphabet เปิดตัว Coord แพลตฟอร์มเพื่อสมาร์ทซิตี้ เจาะตลาดการขนส่งเดินทางเป็นหลัก ในแพลตฟอร์มรวมข้อมูลการเดินทางในเมืองจากแหล่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นปริมาณข้อมูลมหาศาลที่ต้องใช้เวลาและกระบวนการในการรวบรวมมาก
ข้อมูลที่ Coord มีได้แก่ ค่าธรรมเนียมการใช้ถนน ข้อมูลทางเท้า ตำแหน่งที่สามารถจอดรถได้ จากที่ปกติแล้วข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในหน่วยงานของเมืองเพื่อกำกับดูแลการจราจรของเมืองเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูล real time เพื่อจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของข้อมูล เช่น ขอบถนนตรงตำแหน่งใดจอดรถรับ-ส่งคนได้ ตรงไหนไม่ได้
ในรายงานผลประกอบการของ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลไตรมาสล่าสุด มีเนื้อหาตอนหนึ่งพูดถึงการซื้อหุ้นบริษัทคืน โดยมีการใส่ลูกเล่นเกี่ยวกับตัวเลขอยู่ด้วย
โดย Alphabet บอกว่าบริษัทจะซื้อหุ้นคลาสซีคืนจากผู้ถือหุ้นปัจจุบัน ภายในวงเงินที่ไม่เกิน 8,589,869,056 ดอลลาร์ ซึ่งเหตุผลที่ต้องระบุตัวเลขกันละเอียดขนาดนี้เพราะว่า 8,589,869,056 เป็นจำนวนสมบูรณ์ (Perfect Number) ซึ่งหมายถึงจำนวนที่มีผลบวกจำนวนเต็มทั้งหมดที่เป็นตัวประกอบแท้ เท่ากับตัวมันเอง (เช่น 6 มีตัวประกอบแท้คือ 1, 2, 3 ซึ่งทั้งหมดบวกกันเท่ากับ 6)
8,589,869,056 มีตัวประกอบแท้ทั้งหมด 33 ตัว ซึ่งก็รวมกันได้เท่ากับค่านี้
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 รายได้รวม 32,323 เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่จากผลกระทบของการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐทำให้ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ ขาดทุน 3,020 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากไม่มีรายการดังกล่าว จะมีกำไร 6,837 ล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจโฆษณาของกูเกิลซึ่งยังเป็นธุรกิจหลักอยู่ที่ 27,227 ล้านดอลลาร์, ธุรกิจกูเกิลอื่นๆ (รวมฮาร์ดแวร์, Google Play) 4,687 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Other Bets รายได้ 409 ล้านดอลลาร์ แต่เฉพาะกลุ่มนี้ยังคงขาดทุน 916 ล้านดอลลาร์
Alphabet เปิดตัวหน่วยธุรกิจใหม่ Chronicle ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์โดยเฉพาะ แยกตัวออกมาจาก X
ตัวบริษัท Chronicle นั้นจะมีอยู่สองส่วน ส่วนแรกคือแพลตฟอร์มสืบและวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเองได้ และ VirusTotal บริการตรวจสอบมัลแวร์ที่ Google เข้าซื้อในปี 2012
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Google กำลังหาหนทางการขายบริษัท Zagat บริการรีวิวและแนะนำร้านอาหารซึ่ง Google ซื้อมา 151 ล้านดอลลาร์ในปี 2011 เนื่องจากช่วงหลัง Google ไม่ได้ให้ความสำคัญกับบริการนี้มากนัก และเน้นการให้ทราฟฟิกไปลงกับ Google+ แทน
แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ Google ได้หารือกับหลายบริษัทในการขาย Zagat ออกไป ซึ่ง Google จะขายออกทั้งแบรนด์ Zagat และเว็บไซต์ด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า Google จะขายออกจริงหรือไม่ (เพราะยังอยู่ในขั้นหารือ) และจะกำหนดราคาไว้เท่าไร