Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 1 ปี 2018 รายได้รวม 31,146 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 26% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 9,401 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 5,426 ล้านดอลลาร์ มีปัจจัยสำคัญคือกูเกิลได้เปลี่ยนวิธีลงบัญชีตามมาตรฐานใหม่ ซึ่งกำหนดให้รับรู้ส่วนแบ่งกำไร/ขาดทุน จากบริษัทภายนอกที่กูเกิลไปร่วมลงทุน (OI&E) ทำให้รับรู้กำไรเพิ่มมา 3,542 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ไม่ต้องรับรู้กำไร/ขาดทุน ส่วนนี้
Alphabet ได้เปิดตัวโครงการวิจัยใหม่ที่จะใช้ AI เพื่อการพัฒนาความสามารถในการผลิตอาหาร รวมถึงการนำโดรนและหุ่นยนต์มาใช้งานในฟาร์มด้วย โดยโครงการนี้จะอยู่ภายใต้ X
องค์กรอาหารและการเกษตรของสหประชาชาติได้ประมาณการว่า ทุกวันนี้การผลผลิตจากการเพาะปลูกทั่วโลกได้สูญเสียไปเป็นสัดส่วนกว่า 20-40% ในแต่ละปีเนื่องมาจากโรคระบาดและสัตว์ ซึ่งการค้นหาหนทางการพัฒนาการทำการเกษตรแบบใหม่ ๆ จะเป็นประโยชน์แก่คนทั่วโลกอย่างมาก และ X ได้เริ่มวิจัยโครงการนี้แล้ว
LinkedIn จัดอันดับบริษัทที่คนสหรัฐฯ อยากทำงานด้วยมากที่สุดประจำปี 2018 จัดอันดับตามฐานผู้ใช้งาน 546 ล้านราย และเฉพาะสหรัฐฯ 146 ล้านราย การจัดอันดับยึดตามหลัก 4 ข้อคือ การแสดงความสนใจของผู้ใช้ต่อบริษัท, การมีส่วนร่วมกับพนักงานในบริษัท, ความต้องการงานและการเก็บรักษาพนักงาน
LinkedIn จัดอันดับมา 50 บริษัทในที่นี้จะกล่าวถึง 20 อันดับแรก โดยอันดับ 1 คือ Amazon ตามด้วย Alphabet และ Facebook
เมื่อคืนนี้หลังปิดตลาดหุ้นสหรัฐ Amazon ได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากิจการตามราคาหุ้น (Market Capitalization) สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว แซงหน้า Alphabet บริษัทแม่กูเกิล
มูลค่ากิจการของ Amazon อยู่ที่ 7.633 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ Alphabet มีมูลค่ากิจการ 7.630 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาหลังรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุด หุ้นของ Amazon ก็มีราคาเพิ่มขึ้นตลอด ขณะที่ Alphabet ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่า
ช่วงกลางปีที่แล้ว Alphabet ได้เปิดตัวบริษัทใหม่ Dandelion สตาร์ทอัพผู้พัฒนาระบบการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพมาใช้กับระบบทำความร้อนและระบบทำความเย็นในบ้านพักอาศัย เวลาผ่านมายังไม่ถึง 1 ปี หลังการทดลองติดตั้งใช้งานกับบ้านเรือนใน New York ก็เริ่มมีสัญญาณบวกทั้งผลการทดลองที่สะท้อนความคุ้มค่าด้านต้นทุนพลังงาน และแรงบวกจากนโยบายลดภาษีจากภาครัฐ
กล่าวถึง Dandelion สักหน่อยว่าเป็นสตาร์ทอัพที่เกิดจากการบ่มเพาะของทีม X ซึ่งหลังจากเห็นโอกาสทางธุรกิจอย่างจริงจังเรื่องการใช้พลังงานทางเลือก Dandelion จึงหลุดพ้นสถานะทีมพัฒนาภายในและแยกตัวออกมาเป็นบริษัท แบบเดียวกับที่ Waymo ทำมาก่อนหน้า
หลังจากทั้ง Uber และ Waymo ได้ขึ้นศาลซานฟรานซิสโกจากคดีที่ Waymo เป็นฝ่ายยื่นฟ้อง Uber ว่าได้ขโมยความลับทางการค้าผ่าน Otto บริษัทรถยนต์ไร้คนขับที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงาน Waymo และ Uber ได้ซื้อกิจการไป โดยหลังการพิจารณาคดีไปไม่กี่วัน Uber ก็เป็นฝ่ายประกาศขอยอมความในคดีนี้
เมื่อวานนี้มีข่าวว่า Alphabet โยกทีมฮาร์ดแวร์ Nest ไปอยู่ภายใต้ Google ล่าสุด Matt Rogers ผู้ร่วมก่อตั้ง Nest ก็ได้ประกาศเตรียมการลาออกจากบริษัททันที
Rogers กล่าวว่า เขาลาออกจากบริษัท Nest ซึ่งเขาทำงานมา 9 ปีเพื่อให้เวลากับ Incite.org บริษัท VC และแล็บพัฒนาผลิตภัณฑ์ซึ่งเขาร่วมก่อตั้งด้วย รวมถึงเพื่อเป็นการคิดเกี่ยวกับการผจญภัยครั้งถัดไปในชีวิตของเขา โดยในเดือนหน้าเขาจะทำงานร่วมกับหัวหน้าทีมฮาร์ดแวร์ Google เพื่อกำหนดโร้ดแมปในปี 2019 และทำให้ทีมงาน Nest สามารถเข้าร่วมกับทีมงานฮาร์ดแวร์ของ Google ได้อย่างราบรื่น ซึ่งเขากล่าวไว้ใน Twitter ว่าเขาภูมิใจในสิ่งที่ Nest ทำสำเร็จ และอยากเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ Nest แล้ว
Nest บริษัทอุปกรณ์สมาร์ทโฮมในเครือ Alphabet ถูกลดสถานะจากบริษัทลูกของ Alphabet มารวมกับฝ่ายฮาร์ดแวร์ของกูเกิล เพื่อให้เหลือทีมฮาร์ดแวร์ทีมเดียว ซึ่งตรงตามข่าวลือที่เคยออกมาเมื่อปลายปี 2017
กูเกิลซื้อ Nest มาตั้งแต่ปี 2014 ในราคา 3.2 พันล้านดอลลาร์ โดยวางตัว Nest ไว้เป็นทีมฮาร์ดแวร์หลักของบริษัท และให้อิสระในการบริหารงาน แยกเป็นอีกบริษัทลูกในเครือ Alphabet
Alphabet ประกาศตั้งซีอีโอคนใหม่ของ Access หน่วยธุรกิจด้านการสื่อสาร ที่เรารู้จักกันในชื่อแบรนด์ Google Fiber
Access ถือเป็นหนึ่งใน 13 องค์กรลูกของ Alphabet และอยู่ในกลุ่ม Other Bets ที่ไม่นับรวมเป็นธุรกิจของกูเกิล โดยมีบริการในสังกัด 2 ตัวคือ Google Fiber และ Webpass ที่ซื้อมาในปี 2016
Eric Schmidt อดีตประธานบอร์ดของ Alphabet ที่เพิ่งลงจากตำแหน่ง เข้าไปรับตำแหน่งด้านส่งเสริมนวัตกรรม (visiting innovation fellow) ที่สถาบัน MIT เป็นเวลาหนึ่งปี เขาจะรับหน้าที่ทำงานร่วมกับอาจารย์ใน MIT เผื่อผลักดันนวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ ที่ไปไกลกว่าการประดิษฐ์ (invention) เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่
Schmidt จะเข้าเป็นที่ปรึกษาให้โครงการ MIT Intelligence Quest ที่หน่วยงานของทั้งมหาวิทยาลัยจะร่วมกันค้นคว้าเรื่องปัญญาประดิษฐ์ และการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรด้วย
Sidewalk Labs โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเมืองภายใต้ Alphabet เปิดตัว Coord แพลตฟอร์มเพื่อสมาร์ทซิตี้ เจาะตลาดการขนส่งเดินทางเป็นหลัก ในแพลตฟอร์มรวมข้อมูลการเดินทางในเมืองจากแหล่งต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเป็นปริมาณข้อมูลมหาศาลที่ต้องใช้เวลาและกระบวนการในการรวบรวมมาก
ข้อมูลที่ Coord มีได้แก่ ค่าธรรมเนียมการใช้ถนน ข้อมูลทางเท้า ตำแหน่งที่สามารถจอดรถได้ จากที่ปกติแล้วข้อมูลเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในหน่วยงานของเมืองเพื่อกำกับดูแลการจราจรของเมืองเท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นข้อมูล real time เพื่อจะได้รู้ความเคลื่อนไหวของข้อมูล เช่น ขอบถนนตรงตำแหน่งใดจอดรถรับ-ส่งคนได้ ตรงไหนไม่ได้
ในรายงานผลประกอบการของ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิลไตรมาสล่าสุด มีเนื้อหาตอนหนึ่งพูดถึงการซื้อหุ้นบริษัทคืน โดยมีการใส่ลูกเล่นเกี่ยวกับตัวเลขอยู่ด้วย
โดย Alphabet บอกว่าบริษัทจะซื้อหุ้นคลาสซีคืนจากผู้ถือหุ้นปัจจุบัน ภายในวงเงินที่ไม่เกิน 8,589,869,056 ดอลลาร์ ซึ่งเหตุผลที่ต้องระบุตัวเลขกันละเอียดขนาดนี้เพราะว่า 8,589,869,056 เป็นจำนวนสมบูรณ์ (Perfect Number) ซึ่งหมายถึงจำนวนที่มีผลบวกจำนวนเต็มทั้งหมดที่เป็นตัวประกอบแท้ เท่ากับตัวมันเอง (เช่น 6 มีตัวประกอบแท้คือ 1, 2, 3 ซึ่งทั้งหมดบวกกันเท่ากับ 6)
8,589,869,056 มีตัวประกอบแท้ทั้งหมด 33 ตัว ซึ่งก็รวมกันได้เท่ากับค่านี้
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 4 ของปี 2017 รายได้รวม 32,323 เพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน แต่จากผลกระทบของการปรับโครงสร้างภาษีสหรัฐทำให้ต้องบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ ขาดทุน 3,020 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากไม่มีรายการดังกล่าว จะมีกำไร 6,837 ล้านดอลลาร์
รายได้จากธุรกิจโฆษณาของกูเกิลซึ่งยังเป็นธุรกิจหลักอยู่ที่ 27,227 ล้านดอลลาร์, ธุรกิจกูเกิลอื่นๆ (รวมฮาร์ดแวร์, Google Play) 4,687 ล้านดอลลาร์ ส่วนกลุ่ม Other Bets รายได้ 409 ล้านดอลลาร์ แต่เฉพาะกลุ่มนี้ยังคงขาดทุน 916 ล้านดอลลาร์
Alphabet เปิดตัวหน่วยธุรกิจใหม่ Chronicle ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์โดยเฉพาะ แยกตัวออกมาจาก X
ตัวบริษัท Chronicle นั้นจะมีอยู่สองส่วน ส่วนแรกคือแพลตฟอร์มสืบและวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถจัดการและเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตนเองได้ และ VirusTotal บริการตรวจสอบมัลแวร์ที่ Google เข้าซื้อในปี 2012
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า Google กำลังหาหนทางการขายบริษัท Zagat บริการรีวิวและแนะนำร้านอาหารซึ่ง Google ซื้อมา 151 ล้านดอลลาร์ในปี 2011 เนื่องจากช่วงหลัง Google ไม่ได้ให้ความสำคัญกับบริการนี้มากนัก และเน้นการให้ทราฟฟิกไปลงกับ Google+ แทน
แหล่งข่าวให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ Google ได้หารือกับหลายบริษัทในการขาย Zagat ออกไป ซึ่ง Google จะขายออกทั้งแบรนด์ Zagat และเว็บไซต์ด้วย แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า Google จะขายออกจริงหรือไม่ (เพราะยังอยู่ในขั้นหารือ) และจะกำหนดราคาไว้เท่าไร
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล ประกาศว่า Eric Schmidt ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการบอร์ดบริหาร และจะรับตำแหน่งใหม่เป็นที่ปรึกษาด้านเทคนิค และยังคงมีตำแหน่งในบอร์ดต่อไป
Larry Page ซีอีโอ Alphabet กล่าวว่า Schmidt ได้เข้าร่วมงานกับกูเกิลตั้งแต่ปี 2001 ที่ยังมีสถานะเป็นสตาร์ทอัพ โดยนำประสบการณ์ผสมผสานทั้งธุรกิจและวิศวกรรม พัฒนาให้กูเกิลมาได้ไกลอย่างปัจจุบัน ส่วน Schmidt กล่าวว่าโครงสร้างองค์กรปัจจุบันของ Alphabet นั้นลงตัวดีแล้ว จากนี้เขาจะไปโฟกัสที่หัวข้อใหม่ในวิทยาศาสตร์ และประเด็นทางสังคมมากขึ้น
X ส่วนงานวิจัยของ Alphabet เผยว่า รัฐอานธรประเทศของอินเดียเตรียมจะเข้าซื้อเทคโนโลยีไร้สายใหม่ที่กำลังพัฒนา เพื่อใช้ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับประชาชนนับล้านภายในรัฐโดยไม่ต้องลากสายเคเบิล
ภายใต้สัญญานี้ จะมีการติดตั้งกล่องส่งสัญญาณจำนวนกว่า 2,000 กล่องห่างกันทุก 20 กิโลเมตร ตามเสาหรือหลังคาเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับพื้นที่ที่มีประชากรพำนักอยู่ โดยไอเดียของโครงการนี้คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือและ Wi-Fi
The Wall Street Journal รายงานว่า Alphabet กำลังพิจารณานำบริษัทลูก Nest Labs กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจในเครือกูเกิล แผนกฮาร์ดแวร์ จากที่ก่อนหน้านี้ตัดสินใจแยกออกไป
Alphabet ที่เป็นบริษัทแม่นั้นแบ่งธุรกิจในเครือออกเป็นสองกลุ่มคือ กูเกิล และธุรกิจใหม่ๆ เรียกรวมว่า Other Bets ซึ่ง Nest Labs คือหนึ่งในนั้น
รายงานบอกว่าการนำสินค้าของ Nest เข้ามารวมกับกูเกิล จะช่วยให้กลุ่มสินค้าอุปกรณ์สำหรับบ้านอัจฉริยะของกูเกิลเพิ่มขีดความสามารถ และแข่งขันกับ Amazon ได้ดีมากขึ้น เพราะมีหลายส่วนงานที่กูเกิลทับซ้อนกับ Nest อาทิ ส่วนของการผลิตและการจัดจำหน่าย อีกทั้งหากมองในยุทธศาสตร์ของกูเกิลระยะหลัง ฮาร์ดแวร์ก็เป็นสิ่งที่กูเกิลเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
Waymo บริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติภายใต้ Alphabet ประกาศความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติว่า ตอนนี้กลุ่มรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Waymo สามารถวิ่งออกบนถนนสาธารณะได้ครบถึง 4 ล้านไมล์แล้ว โดยสามารถเก็บข้อมูลเพื่อการนำมาพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติได้เป็นอย่างดี
ในโอกาสนี้ Waymo ได้เผยสถิติของรถยนต์ไร้คนขับของตนเองดังนี้ คือ
UnitedMasters สตาร์ทอัพก่อตั้งโดย Steve Stoute อดีตประธานบริษัท Interscope Records ระดมทุนได้ 70 ล้านดอลลาร์จาก Alphabet และบริษัทลงทุน Andreessen Horowitz ที่ลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิงมามาก
UnitedMasters คือสตาร์ทอัพทำเทคโนโลยี analytic ให้ศิลปินได้รู้ว่า เพลงของตนดังในกลุ่มผู้ฟังกลุ่มใด พื้นที่ใด โดยดึงข้อมูลจากเพลงที่สตรีมผ่านช่องทาง YouTube, Spotify และSoundCloud รวมทั้งนำเสนอเครื่องมือ CRM เพื่อจะได้ทำโฆษณาตรงเป้าหมายผู้ฟัง ตัวระบบเอื้อต่อศิลปินอิสระไม่มีค่าย ศิลปินทำการตลาดไปสู่ผู้ฟังได้ด้วยตัวเองผ่านเครื่องมือของ UnitedMasters และมีรายได้ผ่านโฆษณา
Waymo บริษัทลูกในเครือ Alphabet ที่พัฒนารถยนต์ไร้คนขับตอนนี้ปักหลักทดสอบตัวรถอยู่ในเมือง Phoenix รัฐแอริโซนา ได้เริ่มนำรถไร้คนขับมาทดสอบวิ่งบนถนนโดยไม่มีคนนั่งหลังพวงมาลัยเป็นครั้งแรกแล้ว
ก่อนหน้านี้ทั้ง Waymo และเจ้าอื่นๆ ที่นำรถมาทดสอบวิ่งจะต้องมีวิศวกรอย่างน้อย 1 คนนั่งอยู่หลังพวงมาลัย แต่ล่าสุด Waymo มั่นใจในเทคโนโลยีตัวเองเพียงพอที่จะประกาศว่ารถไร้คนขับที่ออกไปทดสอบวิ่งบนท้องถนนตอนนี้ไม่มีคนนั่งอยู่หลังพวงมาลัยแล้ว (เบื้องต้นย้ายไปนั่งเบาะหลังแทน) โดยการทดสอบวิ่งครั้งนี้จำกัดเฉพาะในพื้นที่ย่าน Chandler ชานเมืองของ Phoenix
Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 3 ปี 2017 รายได้รวมเพิ่มขึ้น 24% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนอยู่ที่ 27,772 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิ 6,732 ล้านดอลลาร์
รายได้หลักกูเกิลยังอยู่ที่ธุรกิจโฆษณา ส่วนรายได้จากการขายฮาร์ดแวร์และ Play Store นั้นอยู่ในหมวด Others ซึ่งเฉพาะส่วนนี้รายได้เพิ่ม 40% เป็น 3,405 ล้านดอลลาร์ โดยไม่ได้มีการแจกแจงรายละเอียด ส่วนกลุ่มธุรกิจใหม่ Other Bets มีรายได้รวม 302 ล้านดอลลาร์
ซีอีโอ Sundar Pichai กล่าวในช่วงแถลงผลประกอบการว่า ยอดพรีออเดอร์ Pixel 2 ในวันแรกนั้นสูงกว่าปีที่แล้วถึงเท่าตัว และกูเกิลจะลงทุนด้านการตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าให้มากประเทศขึ้น รวมทั้งเพิ่มช่องทางจำหน่ายมากขึ้นด้วย
Lyft ประกาศรับเงินลงทุนรอบใหม่จำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ นำโดย CapitalG (Google Capital เดิม) กองทุนของ Alphabet ซึ่งทำให้ Lyft มีมูลค่าสูงถึง 11,000 ล้านดอลลาร์ และ David Lawee จาก CapitalG จะเข้ามานั่งในบอร์ดบริหารของ Lyft ด้วย
ในปี 2017 นี้ Lyft ได้เติบโตไวขึ้นมาก โดยเมื่อต้นเดือน Lyft มียอดการนั่งรถยนต์ครบ 500 ล้านครั้ง และตอนนี้บริการของ Lyft สามารถครอบคลุมประชากรสหรัฐฯ กว่า 95% แล้ว เพิ่มจาก 54% ในต้นปี
Uber คู่แข่งของ Lyft ก่อนหน้านี้ก็เคยรับเงินลงทุนจาก GV มาแล้ว แต่ว่าช่วงหลังความสัมพันธ์ของ Uber กับ Alphabet นั้นไม่ค่อยสู้ดีนักเนื่องจากคดีความด้านรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Waymo กับ Uber ที่ยังคงอยู่ในขั้นตอนการต่อสู้ทางกฎหมาย
Sidewalk Labs โครงการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับเมืองภายใต้ Alphabet ได้สร้างโครงการ mixed-use บนชายฝั่งตะวันออกของเมือง Toronto ประเทศแคนาดา เพื่อสร้างที่อยู่และพัฒนาเมืองให้เป็นสมาร์ทซิตี้ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้าง, รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ, ระบบพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไปจนถึงการสร้างชุมชนที่เข้าถึงได้โดยเน้นไปที่เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ
โครงการใหม่ของ Sidewalk Labs นี้จะเรียกว่า Quayside โดยจะลงทุนเป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านดอลลาร์เพื่อเริ่มทดสอบและวางแผนกับเมือง Toronto โดยการพัฒนาของ Sidewalk Labs กับเมือง Toronto นี้อยู่บนพื้นที่กว่า 800 เอเคอร์ ซึ่งพื้นที่นี้ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ไม่พัฒนาขนาดใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ
Project Wing โครงการโดรนของ Alphabet ภายใต้ X ได้เริ่มทดลองในพื้นที่ชนบท ชายแดนของ Australian Capital Territorhy และ New South Wales ซึ่งจะต้องพบกับความท้าทายใหม่ของการดำเนินงาน คือการส่งสินค้าไปยังลานบ้านของผู้รับโดยตรง
ผู้ร่วมทดสอบกับโครงการ Project Wing ในออสเตรเลียนั้น มี Guzman y Gomez เชนร้านอาหารเม็กซิกัน และ Chemist Warehouse เชนร้านยา จะรับออร์เดอร์จากผู้ร่วมทดสอบที่ซื้อผ่านแอพ Project Wing ผ่านสมาร์ทโฟน เมื่อสั่งซื้อสินค้าแล้ว โดรนจะไปรับสินค้าที่จุดส่งสินค้าของร้าน และส่งสินค้าไปยังที่อยู่ของผู้ทดสอบ